อากาศหนาวจริง เที่ยวก็ไม่ค่อยสนุก วัยรุ่น(พวกวัยสิบปลายๆ) ก็โหดกันจริง ฮุ้ว มาต่อตอนใหม่มีกว่าเนอะ
งานประกวดในคณะจบลง ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาสุดหินของคนในคณะหลายคน พอขึ้นปีสองแล้ว วิชาที่ต้องสอบเก็บคะแนนมีมากขึ้น ผมกับไอดิษกลับมานอนร่วมห้องกันอีกครั้ง ส่วนเรื่องที่ผมโดนฉกจูบในวันนั้นเหมือนจะค่อยๆเงียบไป เพราะผมพยายามเลี่ยงจากดา และเพื่อนๆที่เห็นเหตุการณ์ก็ไม่พูดถึง
“ ไอสัดคิม ” ผมสะดุ้งโหยง ใครเรียกกูซะมีหางเลย
“ แรงเนอะ ” ไอเรเพื่อนซี้ผมเอง มันเดินมากับแฟนมัน แฟนมันเป็นปีหนึ่งของคณะอื่นครับ
“ นี่ มึงได้คุยกับดามั่งไหมวะ ” ผมหันมองไอบ้านี่แทบไม่ทัน
“ ถามทำไม ” ไอเรมันแอบๆแฟนมาคุยกับผมครับ
“ กูว่าช่วงนี้ ดาซึมเศร้าไปเยอะเลยว่ะ ไอโต้งกับนัทพยายามดูอยู่ห่างๆ ”
“ ก็แล้วไงเล่า ” ผมถามมันอีก
“ มึงไปหาหน่อยได้ไหมวะ ”
“ เจี้ย มึงรู้อยู่ว่าดาชอบกู เดี๋ยวจะได้เกิดเรื่องหนักกว่าเก่าหรอก ” ผมตอบมัน
“ เหอะน่า ไปกับกูก็ได้ ดาไม่กล้าพูดต่อหน้าคนอื่นชัว ”
“ มึงนี่สมองอะ เค้าไม่พูดกับกูตรงๆน่ะใช่ แต่ในใจเค้าล่ะ ” ภาพที่ดามองผมวันนั้นยังติดตาไม่หาย ขืนไปเจอกัน ผมได้ยืนนิ่งเป็นศพแน่ๆ
“ เหอะน่ะๆ ไม่มาก็ช่าง แต่วันนี้กูกับเพื่อนๆจะไปหาดากัน มึงจะมาก็มา ” แม่งบังคับกูด้วยไหมเนี่ย
ผมเดินกลับมาที่หอ ไอดิษกำลังนั่งปั่นงานที่ค้างอยู่ ผมก็มีนะ แต่ยังไม่ทำ
“ ดิษ วันนี้กูไปเยี่ยมดาหน่อยนะ ดาเหมือนจะป่วย ” ไอวากดิษหันมามอง
“ อืม ดาที่ประกวดดาวใช่ไหม ” ผมพยักหัวหงึกๆๆ
“ เห็นว่าป่วยมาตั้งแต่วันงาน คงไม่ค่อยได้กิน เลยเมาง่าย ” ผมบอกกับไอดิษ
“ ไปสิ จะให้ไปรับก็บอกนะ ” ผมถอดเสื้อนักศึกษาออก เดินไปล้างเนื้อล้างตัวแล้วหยิบเสื้อยืดมาใส่ แล้วออกจากมหาลัย
เดิมทีดาอยู่ในมหาลัยกับเพื่อนๆ แต่ช่วงนี้คงมีอะไรกวนใจ อาจจะเป็นตัวผมนี่แหละ เลยมาพักอยู่นอกมหาลัยชั่วคราว หอที่ว่าเป็นห้องของเพื่อนผมคนนึง
“ อ้าวแก ” เพื่อนๆของผมนั่งรออยู่แถวนั้นพอดีเลย
“ ไม่ขึ้นไปกันเหรอ ”
“ กำลังจะไปย่ะ ทำไมแกมาช้าจัง แอบทำอะไรพี่ดิษมาหรือปล่าว ” ยัยนัทนี่ เริ่มจะเก่งขึ้นทุกวัน
“ จะทำอะไรได้ ไม่เหมือนมึงกับไอโต้งนี่ ” ไอโต้งแยกเขี้ยวใส่ผม
“ คุยอะไรให้มันสร้างสรรค์หน่อยได้ปะ ”
“ เมียมึงอะสร้างสรรค์ตายล่ะ ไปๆๆ จะมาเยี่ยมเพื่อนกันไม่ใช่หรือไง ” ผมเร่งให้พวกมันขึ้นไปหาดา ที่นี่เป็นอพาร์ทเมนต์ เลยไม่ได้แยกชายหญิง พวกผมขึ้นไปรวมๆกันได้
ยัยนัทจัดการเคาะประตูห้อง คนที่เดินมาเปิดห้องคงเป็นเพื่อนของเค้า พอเปิดได้ก็เพ่งสายตามาทางผมทันที
“ คนนั้นชื่อคิมใช่ไหม ” ไอพวกเพื่อนหันมามองเป็นทางเดียว
“ อย่าบอกว่ามึงจัดเค้าไปแล้วนะไอสัด ” ไอเรแอบพูดกระซิบกับผม
“ ไม่ใช่เว้ย ” ผมรีบปฏิเสธ
“ มากันเยอะจัง เข้ามาสิ ” ผู้หญิงคนนั้นชวนพวกผมเข้าไป ห้องนี้คงเป็นห้องใหญ่ของที่นี่ เพราะเท่าที่สังเกตห้องอื่นๆดูจะเล็กกว่านี้
“ คิม ..... ” ดากำลังนั่งนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะตัวน้อย
“ ดา แกยังไม่หายอีกเหรอ นี่ ต้องกินบ่อยๆแล้วนะ ” ยัยนัทนี่ไม่ไหวจะเคลียร์ละครับ ผมรีบสะกิดให้ไอโต้งไปห้ามเมียมัน
“ ปล่าว พอดีเราต้องทำอะไรนิดหน่อย ขอบใจที่เป็นห่วงนะ ” คือ เรารู้อยู่ว่าเค้าหนักใจเรื่องอะไรอะครับ พอเป็นแบบนั้นเลยทำตัวไม่ถูก
“ เอ่อ ดาลงไปซื้อของให้กินกันนะ ”
“ เดี๋ยวเราไปด้วย ” ผมพูดขึ้นโดยอัตโนมัติ ความสุภาพบุรุษมันพาไป
“ ไอคิม ” ไอเรแอบมาพูดอีกแล้วครับ ผมสะบัดมือมันทิ้ง แล้วเดินนำหน้ามา คนที่ทำหน้าสงสัยที่สุดในห้องคือยัยนัท ยัยนี่ยังไม่รู้เรื่องี่เกิดวันนั้นแน่เลย
“ จะกินไรกันปะ สั่งมาๆ ” ผมจำๆที่พวกมันบอกมา แล้วเดินออกมากับดาสองคน
“ ดา ช่วงนี้เข้าเรียนหรือปล่าว ”
“ เข้าสิ ”
“ คือ ว่ากันตรงๆนะ คิมไม่ได้คิดอะไรมากกับเรื่องวันนั้น ดาไม่ต้องกังวลหรอกนะ ” ทีแรกกะจะชวนคุยถึงสายลมแสงแดดไปเรื่อยๆ แต่ไปๆมาๆ มันอึดอัดครับ
“ ดาขอโทษนะ วันนั้นดาเมา ” ผมคงจะพูดตรงไป ดาหน้าเสียเลย
“ อืม แต่ถ้าดารู้สึกไม่ดียังไง เล่าให้คิมฟังได้นะ ” พอคุยกันเข้าใจแล้ว ผมกับดาเดินกลับมาที่อพาร์ทเมนต์ ไม่นานนักพวกที่มาเยี่ยมก็ชวนกันกลับ
“ พรุ่งนี้เจอกันที่คณะ บายจ้ะๆ ” นัทโบกมือให้สองคนนั้น
“ จ้ะ ขอบใจนะ ” ดาขอบใจทุกๆคน ผมมองหน้าดาอีกครั้ง ดันไปสบตากันพอดี แววตาของดาไม่เปลี่ยนไป ยังเหมือนกับวันที่จูบกันไม่มีผิด เฮ้อ ช่างเหอะวะ กูไม่สนละ
“ คิม เงียบเชียวนะไอหน้าแมว ”
“ จะให้กูพูดอะไร ” ไอเรเห็นผมเงียบๆ เลยสงสัยล่ะมั้ง
“ งั้นแยกกันเลยนะ นัทจะไปกับโต้งต่อ ”
“ ไปไหน โรงแรม ?? ” ยัยนัทหวดแขนผมอย่างแรง
“ ใครจะพิเรนทร์อย่างแกยะ แค่แฟนเว้ย ” มีวะมีเว้ยแล้วอะ
“ ไม่มีอะไรก็ไม่ต้องตีกูก็ได้ เจอกันพรุ่งนี้ ” ผมแยกกับพวกนั้น ตรงกลับหอพักทันที ผมแวะซื้อของกินเล่นไปเผื่อไอวากดิษด้วย คิดว่าคืนนี้มันคงจะนั่งทำงานดึก
“ กลับมาแล้วเหรอ ” มันยังนั่งที่โต๊ะตัวเดิมอยู่
“ อือ นี่ ซื้อมาฝาก ” ไอดิษเลิกคิ้วขึ้นสูง
“ คิดยังไงถึงซื้อมาฝาก ”
“ อ้าว งั้นกูเอาลงไปทิ้งนะ ” ไอดิษวิ่งปรุ๊ดมาคว้าถุงจากมือของผม มันยิ้มให้ผม
“ พี่ดีใจไง นึกถึงพี่ด้วย ”
“ ไหน ทำอะไร ให้ดูบ้างดิ ”ผมกับไอดิษนั่งทำงานด้วยกัน ซักพักพี่โจก็มาร่วมด้วยอีกคน ช่วงนี้พี่โจไม่ค่อยว่างมาพบกัน เพราะต้องไปช่วยคณะเตรียมงาน งานนี้ไม่ใช่เรื่องรับน้องนะ เป็นงานประเพณีของมหาลัย
“ พี่ๆ เคยเห็นหน้าหลานรหัสกันยัง ” ผมถามทั้งสองคน
“ ใครล่ะ ใช่มิคกี้ไหม ” พี่โจคงเคยเห็นแล้วครับ แต่ไอดิษยังงงอยู่
“ ใครวะมิคกี้ ผู้หญิงเหรอ ” ไอดิษถามพวกผม
“ ปล่าวพี่ ผู้ชาย น้องรหัสของคิม ชื่อมิคหน้าตาน่ารักดีพี่ ”
“ เฮ้ยๆ พี่โจ อย่านะ ขอร้องน้องมันดูจะไม่ค่อยประสา ” ไอดิษนั่งมองผมกับไอโจด้วยความมึนงง
“ เออน่า พี่ไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้ว ..... ไม่อยากให้เป็นรักสายรหัส แบบใครแถวนี้ ” พอพี่โจพูดเท่านั้นแหละ ไอวากดิษลุกตบหัวพี่โจอย่างแรง
“ เชี้ย กูชอบของกูตั้งนานแล้วเว้ย เรื่องสายรหัสมันเรื่องบังเอิญ ”
“ โห่ ถึงขั้นนี้ยังจะปิดบัง คิมรู้ปะ ที่จริงพี่ไม่ใช่รูมเมทของคิมหรอก ” หืม ไอดิษนั่งถอนหายใจ
“ พี่ดิษเค้าไปโยกนู่นโยกนี่ จนคิมได้มาอยู่ห้องนี้ แล้วยังบังคับพี่หมีให้แดกคิมหนักๆ เพื่อให้พี่ไปช่วยพอดีอีก ”
“ อ๋อ นี่มึงวางแผนทุกอย่างเลยนะไอดิษ ” มันยิ้มแหยๆ ฮ่าๆ น่ารักดีนะเนี่ย
“ ก็ ..... กลัวคิมจะดิ้นไปที่อื่น ”
“ ดิ้นมากๆก็ต่อยท้องเลยพี่ จัดหนักๆ ” ผมนั่งหัวเราะกันอยู่สามคน ไม่ได้นั่งรวมกันแบบนี้นานแล้วครับ
ผมนั่งเล่นบวกกับทำงานไปด้วยอยู่ไม่นาน ไอวาฬก็เข้ามาในห้อง
“ สวัสดีครับพี่ๆ คิมดาเป็นไงบ้าง ”
“ เอ่อๆ เดี๋ยวมานะ มึงมานี่วาฬ ” ผมเดินเลี่ยงๆออกมาข้างนอก
“ มีไรวะ ” ผมรีบถามไอวาฬ
“ ทำเป็นมีลับลมคมในนะ ” ดูมันล้อผมดิ
“ ดาสบายดี ไม่มีไรให้ห่วงหรอก ”
“ แล้วมึงล่ะคิม ”
“ กูจะมีอะไรล่ะ สบายดีเว้ย ” มันยิ้มๆ
“ ดีแล้ว อย่าหวั่นไหวกับมันแล้วกัน ” พอมันพูดเรื่องหวั่นไหว ผมนึกขึ้นได้พอดี
“ วาฬ อย่าว่างั้นว่างี้นะเว้ย ..... มึงเคยบอกว่าชอบกู ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วเหรอวะ ”
“ ถ้าเวลาที่กูอ่อนแอจริงๆน่ะ มีบ้างที่อยากมองหน้ามึงนานๆ ...... ที่สำคัญนะ กูชอบผู้หญิงมากกว่า ” มันอธิบายพอฟังได้นะ
“ อืมๆ ขอบใจว่ะเพื่อน ” คืนนั้นทั้งคืน ผมยังคิดเรื่องนี้ไม่ตก ใจนึงผมกลัวว่าจะเผลอใจไปมากกว่านี้ ตอนนั้นเองผมหันไปมองหน้าไอดิษ อืม ผมรู้สึกดีแฮะ ใช่แล้ว ผมควรจะหยุดที่มันคนนี้ ตราบใดที่มันยังอยู่กับผม ผมคงจะไม่หวั่นไหวหรือเผลอใจไปหาใครแน่นอน
“ ว่าไงนะ มึงจะไปไหนนะ ” วันเวลาผ่านไป มาถึงสองสัปดาห์สุดท้ายก่อนสอบ ไอดิษมาบอกกับผมว่า ต้องเดินทางไปกับกลุ่มเพื่อเตรียมตัวฝึกงานที่ศูนย์ส่งเสริมการเกษตร ประมาณสองถึงสามเดือน
“ ฝึกงานไง พี่เล่าให้ฟังตั้งนานแล้วนี่ ” มันเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วด้วย
“ ทำไมต้องเร่งรีบขนาดนี้ล่ะ ”
“ พี่ต้องไปปัดกวาดเช็ดถูเรือนพักด้วยไง ..... คิดถึงเหรอ ” ดูมันดิ ผมชกที่ไหล่ของมันเบาๆ
“ แล้วจะได้กลับมาหากันมั่งไหม ”
“ หึหึ พี่ไปฝึกงานนะ ไม่ได้ไปรบ ถ้าคิมคิดถึงก็ไปหาพี่ได้ บอกไอโจก็ได้ให้มันขับไปส่ง ”
“ ใครคิดถึงมึง ไม่มีอะ ” ไอดิษยิ้ม มันแอบฉกหอมแก้มผมด้วย ผมรีบผลักมันออก
“ ...... คิม จำแหวนที่พี่ให้ได้ไหม ” มันจูงมือของผมมานั่งที่เตียง
“ แหวนคิมดิษมึงอะนะ ”
“ อืม พี่อยากให้คิมใส่มันนะ พี่ให้สลักชื่อไว้ด้านใน เวลาใส่จะได้รู้กันแค่สองคน คนอื่นเค้าก็จะคิดแค่ว่าคิมมีแฟน ” มันนี่ใส่ใจผมไปซะทุกเรื่อง
“ กูขอเวลาอีกหน่อยนะดิษ ” มันเองเข้าใจดีว่าเรื่องอะไรครับ เรื่องที่ผมขอเวลาคือเรื่องที่จะเปิดเผยให้คนทั่วๆไปรู้
“ อืม นานเท่าไหร่ก็รอได้ ...... คิม ” มันส่งสายตาซึ้งๆมาที่ผม มันค่อยๆเลื่อนใบหน้ามาใกล้ๆ และประกบริมฝีปากกับผม เราจูบกันตรงนั้น ผมกับมันไม่เคยจูบกันแบบนี้มาก่อนเลย แบบที่ต่างคนต่างก็ต้องการ
“ อื้อ เอ่อ คิมพอก่อนดีกว่านะ พี่ ..... ” ไอดิษก้มลงมองเป้ากางเกงของมัน ผมรีบขยับหนี ไอเชี้ยนี่คิดจะผสมพันธุ์อะ
“ เออๆ มึงไปดิ เดี๋ยวคนอื่นรอ ”
“ รอให้มันลงก่อนแล้วกัน ” มันยิ้มทะเล้นๆ
“ ทะลึ่ง ”
ไอดิษแบกกระเป๋าและของใช้ที่จำเป็น มันจะไปจัดสถานที่ตลอดช่วงก่อนสอบจนสอบเสร็จ พวกพี่ๆปีสี่ที่ผ่านเกณฑ์ได้ไปฝึกงานจะกลับมารับน้องอีกสามครั้ง จากนั้นก็จะจบกิจกรรม
ผมนั่งอยู่ในห้องคนเดียว ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอ้างว้างหรือความรู้สึกอื่นใด ที่ผมคิดตอนนี้คือ ..... เวลาที่ไอดิษไม่อยู่ ผมจะเป็นอย่างไร คำพูดของไอวาฬที่ว่าอย่าหวั่นไหวกับดา มันคืออะไร หรือว่าผมรู้สึกหวั่นไหวไปแล้วกันแน่