เผลอแวบเดียว ผ่านไปเป็นอาทิตย์ๆ พอดีมีตอนติ่งนิดหน่อยอะครับ เอามาให้อ่าน และจะมาต่อให้อีกนะคร้าบ
ผมนั่งเรียนจนหมดคาบ พอเดินออกจากห้องบรรยาย ยังไม่ทันได้เข้าห้องน้ำห้องท่า ไอพวกเพื่อนๆตัวดีโทรรีบตามกันยกใหญ่ ไม่รู้พวกมันจะรีบไปไหนกัน
“ เมื่อไหร่แกจะโผล่หน้ามาซะทีคะ ท่านวาก ” ยัยนัทนี่ปากดีไม่มีตก
“ เออๆ กำลังยืนฉี่อยู่ ”
“ ว้าย ไอบ้า อีทะลึ่ง ” อ้าวเวร มาทั้งไอ้ทั้งอี ยืนฉี่นี่ทะลึ่งตรงไหนวะ
“ จะให้ไปเจอตรงไหน ”
“ แกคุยเลย ......... มาที่ห้องชมรม กำลังเราฟังเสียงของไอเร ” ไอโต้งมาคุยแทน พวกนี้ว่างงานจริงๆ กูไม่น่าหลวมตัวอยากจบไวเลยโว้ย ผมทำธุระเสร็จก็เดินออกมา พวกปีหนึ่งที่น่ารักกำลังยืนรอเรียนคาบสุดท้ายกันอยู่ พอเจอหน้าผม น้องๆรีบยกมือไหว้ ผมพยักหน้าตอบ หลายๆคนน่าเอ็นดูมากๆ คำว่าน่าเอ็นดูในสายตาของผมคือแต่งตัวเรียบร้อยนะ ไม่รู้มันไปเพี้ยนกันตอนไหน
ผมเดินเอื่อยๆจนมาถึงห้องชมรมที่ว่า ตอนเดินเข้ามานี่ บรรยากาศไม่ค่อยดีแฮะ พวกนักบวชสังกัดคณะไหนไม่รู้ มายืนหัวเหม่งเต็มชั้นล่างเลย
“ ขอทางหน่อยครับ ” พวกนั้นยืนขวางทาง ผมต้องขอให้หลีกให้ ผมเลือกขอทางจากไอหัวเหม่งคิ้วเข้มๆคนนึงครับ
“ ขอฟรีๆเหรอ ” อ้าว กวนทรีน
“ ตกลงไม่หลีก ? ” ผมยักคิ้วให้ไอที่กวนๆนั่น มันยังไม่ยอมหลีกให้ ผมโยนย่ามไปทางอื่น เตรียมตัวมีเรื่องเรียบร้อย
“ เฮ้ยๆๆ ไอโน้ตอย่านะเว้ย เพื่อนรักกู ” ใครพูดเพื่อนรกเพื่อนรักแถวนี้อีกวะ ผมไม่ได้หันไปมองตามเสียงนะ กลัวไอตัวข้างหน้าจะฉวนโอกาสเล่นผมก่อน
“ เหอะๆ เนี่ยเหรอเพื่อนรักมึง ติ๋มสัด ...... อ๊ากกก !!!!! ”
“ ติ๋มเตี่ยมึงดิ สะใจไหม ” ผมเข่าใส่ท้องน้อยไอตัวข้างหน้า เล่นซะหมอบเลยล่ะ แต่หลังจากนี้ดิครับ พวกที่น่าจะเป็นพวกไอที่ลงไปนอนข้างล่าง เดินมาจับแขนจับไหล่
“ โอย ไอเชี้ยคิม มึงต่อยเพื่อนกูทำไมวะ ”
“ อ้าว เจี้ยโปร ” ไอโปร คนที่ทำงานกับผมช่วงนึง งานระหว่างคณะอะครับ พวกที่จะมาล็อคแขนล็อคขา พอเห็นไอโปรเดินมา เลยถอยๆกันออกไป ว่าแต่มึงมาสนทนาธรรมอะไรกับพวกเหม่งนี่
“ เป็นไงวะโน้ต ”
“ โดน ...... โดนลิ้นปี่เลย บ้าเอ้ย ” ทีแรกผมไม่ทันสังเกตนะครับ พอมองดีๆ มันหน้าตาไม่ได้ห่างไกลกับผมเลย ออกแนวขาวๆ ที่สำคัญ พวกนี้โกนหัวกันทำไม มากันอย่างกับแก็งค์พระนอกรีต
“ ด่ากูติ๋ม โดนทีเดียวแม่งนอนละ ”
“ มึงอะๆ พอเลยไอคิม ” ไอโปรทำปากขมุบขมิบว่าผม ผมได้แต่ยืนนิ่งๆ รอไอเหม่งลุกขึ้นยืน
“ ใครวะเนี่ย ” ไอเหม่งมันถามผม
“ กูไปนะเว้ย เพื่อนรอ ” ผมไม่อยากตอบหรอกครับ เบื่อ
“ เออๆๆ ไปซะ เดี๋ยวกุโทรหา ”
ผมเดินต่อมาจนถึงห้องของชมรมดนตรีสากล ไอเรกำลังยืนร้องเพลงบนเวทีพอดี มาถูกเวลาจริงกู ถ้าผมจำชื่อเพลงไม่ผิด ไอเรร้องเพลง เธอคือหัวใจของฉัน มันร้องเพราะอย่างที่น้องผู้หญิงชมซะด้วย
“ มึงไปไหนมาเนี่ย ” ไอโต้งเดินมาหาผม
“ ปล่าว เดินสะดุดหินเลยมาช้า ”
“ ไม่ใช่ไปมีเรื่องกับพวกศึกษานะ ” ผมเบิกตาโต ก็โตเท่าที่โตได้อะครับ
“ เฮ้ย ” พอนึกถึงหัวเหม่งๆ เริ่มนึกได้ คณะศึกษาเค้าให้ตัดผมหัวเหม่งตอนรับน้องนี่หว่า
“ สรุปไปมีเรื่องมาจริงๆใช่มะ ” ผมยิ้มให้ไอโต้ง
“ กูไม่รู้ดิ มันว่ากูติ๋ม ”
“ มึงนี่มีอะไรกับคำว่าติ๋มวะ ”
“ อ้าว ก็หน้าตามึงไม่เกาหลีเหมือนกูนี่สัด ” ผมแอบชมตัวเอง ฮ่าๆๆ ไอโต้งทำพยักหน้ากวนๆ
“ คร้าบ พ่อเกาหลี ......ไปฟังเพลงเหอะ ” ผมเดินตามมา ชมรมคงจะกำลังซ้อมไปออกงานของมหาลัย เพราะปกติไม่เห็นว่าจะมาซ้อมที่เวทีนี้ ผมเริ่มพยายามจะทำตัวเป็นกามเทพต่อด้วยการมองหาดา แต่ดูเหมือนว่ากามเทพคนอื่นอาจจะแผลงศรไปก่อนผมแล้ว เพราะดางี้นั่งมองไอเรตาเยิ้มเชียว
“ เฮ้อ ” จู่ๆยัยนัทก็ถอนหายใจ
“ เป็นไรตัว ” ผมเดินไปทัก นัททำท่าคอตก
“ ทำไมคนเสียงเพราะๆต้องหน้าตาไม่ค่อยดีด้วยนะ ทีอีพวกหน้าตาดีๆ เสียงแม่งเป็ดทุกคน ”
“ อ้าว เฮ้ย นี่ว่ากูเสียงเป็ดเหรอ ” ผมโต้ตอบครับ
“ เออ แกกล้าร้องเพลงอย่างเรไหมล่ะ ”
“ โถๆ คุณนาย ถึงเสียงกูไม่ดี แต่ก็น่าฟังอยู่นะเว้ย ” ผมพูดกับยัยนัทต่อ แต่สายตาก็มองไปที่ไอเร ดา และน้องผู้หญิงคนนั้นไปด้วย ดูน้องคนนั้นจะออกแนวปลื้มๆมากกว่า คงไม่ได้ชอบไอเรจริงจัง
“ เหรอจ้ะ เสียงให้ผ่าน แต่คำพูดนี่ให้ตกค่ะ พูดแต่ละที หมากระโดดออกทุกพยางค์ ”
“ เออ กูมันคนไม่ดี ” ยัยนัทชกไหล่เบาๆ เป็นการบอกว่าล้อเล่น ผมนั่งเล่นไปเรื่อยๆ พอไอเรร้องเพลงรักๆเพลงต่อมา ผมดันไปนึกถึงไอดิษอีกแล้ว มึงเข้ามาแล่นบนหัวกูตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
พอนั่งดูและนั่งฟังการซ้อมของชมรมจนจบ ผมพยายามเดินเกาะกลุ่มสาวๆไว้ ใครว่ากูตุ๊ดกูไม่รู้แหละ มีเรื่องแถวๆนี้ไม่สู้ดีครับ ไม่ใช่ถิ่นเรา
“ มึงหยุ๊ดเล้ย ” ผมสะดุ้งเฮือก
“ คนเรียกแกมั้งคิม ” ยัยนัทบอก
“ รู้ได้ไงวะ ” ผมถาม
“ ก็เค้าชี้นิ้วมาที่มึงอะค่ะ ”
“ ไอโปร มีไรวะ ” ตอนเรียกน่ะ ผมไม่ได้มองครับ ว่าใครเรียก พอดูดีๆ ถึงรู้ว่าคือไอบ้าโปร มันไว้ผมทรงรังนกอีกรอบแล้วครับ
“ มีธุระไปไหนกันปล่าว ถ้ามีไปก่อนก็ได้ ถ้าไม่มีอยู่ก่อน ” ไอโปรบอกผมกับเพื่อนๆ
“ มึงไปก่อเรื่องอะไรท่านวาก ” ไอเรแอบเดินมาถามผม
“ ไม่พ้นตีพ้นต่อยหร๊อก ” ไอโต้งมาทำเสียงสูง เดี๋ยวโดนบ้องๆ
“ เอางี้ กูขอไปคุยเล่นกับเพื่อน เจอกันที่หอ ” พวกเพื่อนๆไปกันโดยดีครับ ส่วนผมเดินตามไอโปรมา
“ หือ ” พอถึงตรงมุมใต้บันได ผมแปลกใจสุดๆ เพราะผมเห็นซันกำลังนั่งตัวชิดกับคนที่ผมต่อยร่วงลงที่พื้นเมื่อครู่ใหญ่ๆ
“ คนนี้อะทำ ” ไอโปรชี้มาที่ผม ซันคนที่เกือบจะได้คบกับผม หัวเราะร่า ไอเหม่งนั่นก็งง
“ โน้ต โดนคิมเตะเหรอ ฮ่าๆ ”
“ ไม่ได้เตะ เข่าเฉยๆ ” ผมพูดบ้าง
“ นี่ตกลง รู้จักกันหมดทุกคน ยกเว้นเรากับคิมสิ ” ไอเหม่งนี่ชื่อโน้ต มันชี้ๆไปที่ซันกับโปร แล้วชี้ที่ผมอีกที
“ อือ คนนี้คิม เป็นวากเกอร์ของเกษตร .... แล้วนี่โน้ต แฟนของซัน ”
“ ห๊ะ ! ” ผมร้องออกมา
“ ตกใจอะไร ” ไอโปรถาม ผมพูดไม่ออกครับ ไม่คิดว่าไอเหม่งนี่เป็นแฟนของซัน ตัวซันกับผมเราเคยชอบๆกันอยู่ ถ้าเทียบเวลาจากตอนนั้น นี่ยังไม่นานเท่าไหร่เลย ทำไมซันถึงตัดสินใจเร็วขนาดนั้น
“ เป็นอะไรอะคิม ” ตอนนี้เอง ที่ผมสังเกตเห็นแววตาของซัน ว่ากำลังรู้สึกสับสนเล็กน้อย นี่ผมทำท่าทางไม่ดีหรือปล่าว
“ อะ อ๋อ ปล่าว กูคิม ...... กูว่ากูไปก่อนดีกว่า ขอโทษเรื่องที่เข่าใส่ด้วย ” ผมเดินออกมาทันที ทั้งซันและไอโปร พยายามเดินมาเรียก แต่ผมไม่สนใจ ความรู้สึกตอนนี้อธิบายไม่ถูก เวลาเห็นซันกับไอเหม่งนั่นนั่งทำท่าสนิทสนม ผมรู้สึกอยากเดินไปแยกซะเดี๋ยวนั้น และผมยังคิดอีกว่า มันไม่เหมาะกับซัน เป็นอะไรของกูอีกวะเนี่ย