ออกแนววินหัวตึบๆ
********************************************
เมื่อคืน ผมนอนไม่หลับ น่าจะเพราะแปลกถิ่นแปลกที่ และบรรยากาศไม่น่านอนเสียเลย นอนหลับอยู่ดีๆก็มีเสียงตุบๆ พอส่องไฟไปถึงรู้ว่าไอต๊กโต (รู้ทีหลังว่ามันคือตุ๊กแก) มันกำลังทำสงครามกันอยู่ พอจะเคลิ้มหลับมันก็ร้องเสียงดัง ร้องรับกันอย่างกับวงดนตรี
ผมมองดูนาฬิกาแทบจะตลอดเวลา ช่วงประมาณตีสี่ ผู้ใหญ่จันทร์ตื่นเป็นคนแรก จากนั้นครอบครัวของเค้าก็เริ่มลุกตามกัน ผมเลยได้โอกาสลุกจากที่นอนด้วย
“ ผู้ใหญ่ ทำอะไรครับ ” ผู้ใหญ่ น้าผู้หญิง กับไอพง กำลังช่วยกันจัดตะกร้า กับปิ่นโต
“ ผู้ใหญ่จะไปทำบุญ คิมจะไปด้วยไหม ”
“ ทำบุญตอนนี้ ไม่เช้าไปเหรอครับ ” มันเพิ่งจะตีสี่นิดๆเอง
“ ไม่หรอก ต้องไปช่วยจัดแผงที่ตลาดด้วย พงเดี๋ยวมึงรออ้ายอยู่นี่เด้อ ตื่นแล้วกะหาข้าวหาน้ำให้กิน ”
“ ผมไปด้วยไม่ได้เหรอพ่อ ” ผมอาจจะรู้สึกไปเองว่า หลังจากผมมาที่นี่ ครอบครัวนี้จะคุยภาษากลางกันมากขึ้นครับ
“ ไปกันหมด ใครจะดูบ้าน ปะคิม ไปทำบุญ ”
“ งั้นผมขอล้างหน้าล้างตาเดี๋ยวเดียว ” ผมวิ่งไปใส่เสื้อกับกางเกง และรีบแปรงฟัน จากนั้นลงมาขึ้นรถกระบะเพื่อไปที่ตลาด
ตลาดแถบนั้นไม่ต่างจากตลาดสดในตัวเมือง ช่วงเช้าแม่บ้านทั้งหลายก็ต้องมารีบซื้อข้าวของ แต่ผมฟังจากผู้ใหญ่ว่า คนที่นี่จะซื้อของทีละมากหน่อย เพราะไม่อยากสิ้นเปลืองมาตลาดทุกวัน
“ อุ้ว ผู้ใหญ่ พาผู้บ่าวจากไหนมาน้อนี่น้อ ” ผมช่วยขนของมาวางๆไว้ที่แผง ของที่ว่าก็พวกของป่าที่ผมเห็นเมื่อคืนอะครับ
“ ลูกเจ้านายเก่า มาเฮ็ดการเป็นหมู่บักดิษ ” ผมยิ้มๆให้คนที่คุยด้วย
“ เอ้อๆ โชคดีเด้อ ” ระหว่างที่ช่วยกันจัด ผู้ใหญ่ก็จะทักคนนู้นคนนี้ไปเรื่อยๆ สังคมที่นี่ต่างจากในเมืองของเรามากทีเดียวครับ
ผมนั่งหาวฟอดๆ รอจนเวลาประมาณตีห้าเกือบหกโมงเช้า ผู้ใหญ่ถึงพามาที่วัดประจำอำเภอ เพิ่งรู้ว่าวันนี้เป็นวันพระ ผู้ใหญ่พาผมมาจุดที่ทำบุญเพื่อถวายวัด เป็นศาลาที่พ่อของไอดิษสร้างในนามแม่แท้ๆของมัน เราอยู่กันได้พักนึง ผู้ใหญ่ก็ชวนกลับ เพราะวันนี้มีธุระในเมือง
ผมกลับมาที่บ้าน โดยที่ผู้ใหญ่ไปธุระต่อ ไอพงกำลังนั่งกินข้าวกับไอวากบ้าอยู่พอดีครับ ผมตรงรี่ไปที่แคร่ทันที
“ อะไร ” ดูมันทักผม
“ หมายความว่าไง อะไร ”
“ ไปตั้งตลาด ไม่หาข้าวหาปลากิน มาแย่งข้าวคนอื่นกินเนี่ยนะ ” มันจะชวนผมทะเลาะเพื่อย่อยอาหารหรือไงเนี่ย
“ กูไม่ได้พกเงินไป ที่สำคัญกูกะจะมากินข้าวที่บ้าน ”
“ อ๋อ บ้านมึงเหรอ ” ไอพงมันหันไปหันมามองผมสองคนเถียงกัน มันคงไม่เคยเห็นอะครับ
“ พี่คิมนั่งก่อน เดี๋ยวผมเอาข้าวให้ ”
“ มีแต่พงคนเดียวที่รักพี่ หึหึ ” ผมแกล้งยิ้มกวนบาทาให้ไอดิษ มันโกรธจนเส้นเอ็นปูดเลย มันจะฆ่าผมไหมอะ
ไอพงเดินไปหยิบช้อนซ้อม และถือจานมาให้ แต่ไอดิษมันรีบตักเนื้อตักหมูไปกินจนเกือบหมด ผมงี้นั่งมองตาปริบๆ
“ แ-กอะไรนักหนา ไม่เหลือเผื่อแผ่คนอื่นบ้าง ”
“ มันทำให้กูกินนี่ ทำไมต้องเผื่อคนอื่น ” ผมหมั่นเขี้ยว ขนาดข้าวเช้ามึงจะระรานก็เลยเหรอวะ
“ อ้าว กับข้าวไปไหนหมดอะพี่ ” ไอพงที่เพิ่งเดินไปตักข้าวสวยให้ ถามไอดิษ
“ กูกินหมดแล้ว เฮ้อ น่าสงสารนะ ที่คนบางคนต้องกินน้ำปล่าวๆ ”
“ ผมก็ยังไม่ได้กินเลยนะพี่ กินโหดไปไหม ” มีแนวร่วมละกู
“ เหรอ งั้นน้ำแกงนี่ ก็แบ่งๆกันไปดิ ” ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยนะไอข้าวกล้องเน่า
“ ผมกะแล้วว่าพี่ต้องแกล้งพี่คิม .......... ผมเลยแอบเก็บไว้ถ้วยนึง ฮ่าๆๆ ”
“ ฮ่าๆๆๆๆ ” ผมสองคนนั่งหัวเราะไอวากดิษ มันทำหน้าเอ๋อไปเลย
“ รีบๆกิน วันนี้งานเยอะ ไปไม่ทันก็อยู่บ้าน ” ไอดิษลุกเดินเก็บจานไปวางที่หลังบ้าน แล้วก็อาบน้ำต่อ
“ พี่คิม พี่ดิษอารมณ์ร้ายขึ้นนะ ”
“ อืม กินข้าวเถอะ ” ผมอยากบอกความจริงกับไอพงจริงๆครับ แต่อย่างที่ผมคิดเอาไว้ตอนแรกนั่นแหละ ผมไม่อยากให้คนอื่นต้องมารับรู้ อยากแก้ปัญหากันสองคน
พอมันอาบน้ำอาบท่าเสร็จ มันเดินมารอผมสองคนที่หน้าบ้าน ดูท่ามันเตรียมจะหาเรื่องผมอีกล่ะ
“ อาบน้ำหรือทำอะไรถึงช้าขนาดนี้ ”
“ ห้องน้ำมีห้องเดียว ต้องแบ่งๆกันอาบ หรือจะให้กูอาบกับไอพง ” ผมแหย่มัน
“ หึ สำส่อนนะ ขนาดกับเด็กยังไม่เว้น ”
“ เว้นทำไมล่ะ ” ไอดิษเดินตรงมาหาผม ทำท่าจะบีบคอผม ผมฉวยโอกาสหลบและผลักมันติดกำแพง
“ มึงน่ะเกินไปนะ หึงได้กระทั่งเด็กสิบห้าสิบหก ” ไอดิษพยายามดิ้นสู้ครับ นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยนะ ที่ผมรุกมันบ้าง
“ คิดว่าแค่นี้จะชนะแรงกูเหรอ ” ไอดิษมันตัวควายอะ ถึงผมจะสูงพอๆกัน แต่หุ่นมันหนากว่ามาก สุดท้ายมันก็ดิ้นหลุด และจับแขนผมบีบจนผมรู้สึกปวด
“ มึงทำแบบนี้ มึงไม่เสียใจเหรอวะ ”
“ ....... อะไร ” หึหึหึ สุดท้ายสายตาก็ไม่เคยโกหกครับ สายตาที่มันมองผม ยังเหมือนกับเมื่อก่อนไม่มีผิด
“ เมื่อคืนกูขอมึงกับแม่ด้วย มึงเสร็จกูแน่ ” ไอดิษปล่อยมือ มันกระพริบตารัวๆ
“ แม่ ......... มึงเห็นแล้วเหรอ มึงไปดูทำไม ” ตายห่ะ เหมือนมันจะโกรธเลยครับ
“ กูไม่ได้ตั้งใจนะเว้ย น้าผู้หญิง เมียผู้ใหญ่พากูไปดู ”
“ คุยอะไรกันพี่ๆ ” ไอพงมาพอดีครับ ไอดิษเลยหันไปทางอื่น
“ ปะๆ พี่กกกับพี่น้อยไปรอแล้ว ”
“ อ่ะกุญแจรถ ” ไอพงยื่นกุญแจรถให้ไอดิษครับ
“ อะไร มึงขับสิ ”
“ ผมไปไม่ได้พี่ บ้านไม่มีคนเฝ้า พี่ไปกับพี่คิมแล้วกัน ” ไอดิษโวยวายนิดหน่อย แต่คงจะนึกได้ว่าวันนี้ผู้ใหญ่ไม่อยู่บ้าน มันกับผมเดินมาที่รถมอเตอร์ไซค์คันนั้น คันที่มันพาผมซ้อนเมื่อวานอะ
“ เอาไง ” มันถามผม
“ มึงขับดิ ถ้ากูขับแล้วมึงซ้อน จะเหมือนกูพากอริลล่าหนีเที่ยวนะ ” ไอดิษแสยะยิ้ม มันขึ้นคร่อมก่อน ผมก็ขึ้นซ้อนไป
มันขับรถไปทางเดิมเมื่อวานนี้ แต่ผมแกล้งสอดแขนไปโอบเอวมัน มันเริ่มโวยวายแต่ผมแกล้งไม่ได้ยินครับ ผมปล่อยจากเอวตอนที่ใกล้ถึงไร่ กลัวคนงานจะเห็นแล้วเอาไปนินทา
“ อีกสองวัน ไฟฟ้าจะมาดูพื้นที่ แล้วก็วันนี้ผู้ใหญ่ไปคุยกับเทศบาล ในอาทิตย์หน้าคงจะมีน้ำประปา วันนี้เต็มที่นะ ” ไอดิษสั่งงาน แล้วก็เดินไปช่วยแบกพวกไม้กับอิฐมาเก็บที่เพิง ส่วนผมไปช่วยขุดหลุมเพื่อวางเสาคอนกรีต เตรียมที่ไว้ทำแนวกำแพง คนงานวันนี้เพิ่มจากเมื่อวานอีกหกคน
ประมาณสายๆไอพงมาช่วยอีกแรง บอกว่าผู้ใหญ่ไปธุระกลับมาแล้ว ผมรู้ตอนนี้เองว่า ผู้ใหญ่ไปคุยเรื่องน้ำประปาเพื่อเอามาใช้ในที่ดินแปลงนี้ งานในวันนี้หนักอย่างที่มันบอกไว้จริงๆ มีการขุดบ่อเก็บน้ำที่หลังสวน
“ ไอดิษ มึงจะทำอะไรบ้างเนี่ย ” ผมถามตอนที่กำลังยืนพักเหนื่อย
“ สวนผัก สวนผลไม้ เลี้ยงวัว แล้วก็ดูๆไป ”
“ มึงทำมากขนาดนี้ ทำไว้ทำไม ” ไอดิษมองหน้าผม
“ กูทำให้หลายๆคน ไม่ได้เพื่อกูคนเดียว ใครจะไปรู้อนาคตครอบครัวของกูอาจจะหากินกับที่ดินแปลงนี้ต่อไปได้ ” ผมมองมันอย่างชื่นชม
“ ยิ้มทำไม ไปทำงาน ”
“ ครับหัวหน้า ” ผมรู้สึกว่ามันคงจะเริ่มใจอ่อนบ้างแล้ว ผมมีกำลังใจทำงานอีกเยอะทีเดียวครับ
วันนี้เสาคอนกรีตหลายสิบต้นมาส่ง เราเก็บไว้ที่เพิง วันนี้คาดว่าต้องมีคนเฝ้าที่นี่ ช่วงพักกลางวัน ไอพงเป็นคนไปซื้อ และเครื่องดื่มมาให้คนที่ทำงาน จากนั้นเราก็ทำงานกันต่อในช่วงบ่าย
พวกเราทำงานจนเริ่มเย็น ไอดิษให้เลิกก่อน เพราะกลัวจะหนักเกินไป มันนับเงินและจ่ายทีละคนๆ ผมได้ทีเลยเดินไปต่อแถวด้วย
“ ...... ให้ทำไมอะ ” ผมกะมาต่อแถวให้มันด่าเล่นๆ แต่ไอดิษดันจ่ายจริงๆ
“ มึงทำงานก็ต้องจ่ายสิ ” ผมรับมาแล้วเก็บใส่กระเป๋า ภูมิใจเล็กๆที่ได้ทำงานแลกเงิน
“ หัวหน้าไปผ่อนคลายในเมืองบ่ครับ ”
“ หืม อะไรนะ ” พี่กกเดินมาคุยด้วยหลังจากคนงานคนอื่นๆกลับไปแล้ว
“ ไปดูสาวๆ ไปร้องเพลงกัน ” ผมคิดในใจว่าไอดิษไม่ไปแน่ๆ มันชอบเรื่องแบบนี้ซะที่ไหน
“ งั้นเจอกันหกโมงนะ ” อ้าว มันตอบรับซะงั้น พอพูดจบมันก็เดินขี่รถกลับไปเฉยเลย ลำบากผมต้องกลับมาพร้อมๆกับพี่ๆ และไอพง
พวกเราล้างเนื้อล้างตัว ผมเริ่มปวดหัว และตัวร้อน เพราะเมื่อคืนไม่ได้นอน และวันนี้ยังมาทำงานหนักอีก แต่ผมจะไปกับไอดิษด้วย กลัวมันจะเถลไถล
“ พี่ ผมว่าอย่าไปดีกว่านะ หน้าพี่แดงๆ ” ไอพงไม่ได้ไปด้วยหรอกครับ เรื่องของผู้ใหญ่ มันหมดสิทธิ์
“ เออน่าๆ ไหวอยู่แล้ว ” ผู้ใหญ่จันทร์ให้รถกระบะออกไปครับ เผื่อว่ากลับดึกจะได้ไม่อันตราย พี่กกขับรถพาผม กับไอดิษ มาที่ร้านคาราโอเกะในตัวอำเภอ แต่พอผมมองไปดีๆมันคล้ายกับ ......
“ นี่มันเล้านี่หว่า ” ผมอุทานเบาๆ
“ เอาไงเจ้านาย ซักคนน่ะๆ ” พี่กกนี่ตัวดีเลย ผมมองไปที่ไอดิษ
“ พี่กก ไปเหอะ เดี๋ยวผมกับไอดิษหาข้าวกิน ” ผมรีบออกตัว
“ เอ้า คิมก็ ไหนๆมาแล้ว ลองหน่อยน่า ” ลองนี่คงไม่ต้องอธิบายลึกมากนะครับ
“ ผมไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวลุกทำงานไม่ไหว ” พี่กกหันไปรบเร้าไอดิษแทน ผมเข้าใจว่าพี่แกคงหาคนออกเงินให้อะครับ
“ เอาสิ ไหนๆก็มา มึงไม่เอาก็นั่งรอแล้วกัน ” ผมตกใจจริงๆแล้วครับ ไอดิษมันตกลงเหรอ
“ ไอดิษ มาคุยกันหน่อย ” ผมลากไอดิษออกมา
“ มึงทำแบบนี้ทำไม มึงรู้อยู่ว่ากูมาทำไม มาเพื่ออะไร กูรักมึงนะเว้ยดิษ ” ผมพูดออกไปตรงๆ ไอดิษกลับยิ้มออกมาเฉยๆ
“ กูไม่รักมึง ” แล้วมันก็เดินไป ผมรู้สึกเหมือนฝันไป นี่มันกำลังจะไปเที่ยวผู้หญิงขณะที่ผมอยู่ด้วย ที่สำคัญมันบอกว่าไม่รักผมงั้นเหรอ ผมจะทำยังไงดี ผมเอามือแตะที่หน้าผาก รู้สึกได้เลยว่าผมต้องป่วยแน่ๆ ไข้ที่กายรุมเร้าผมไม่กลัว แต่ไข้ใจที่ไอดิษมันทำไว้นี่สิ ผมจะจัดการกับตัวเองยังไงดี
*************************************************************
พูดถึงเรื่องนี้ ก็ขอพูดถึงคนๆนี้เอาไว้ด้วยนะครับ คนๆนั้นคือพี่กก ทุกวันนี้แกเสียชีวิตไปแล้ว เนื่องจากติดโรคร้ายมา ผมไม่ได้อยากให้ผู้อ่านคิดมากนะครับ แต่เป็นการเตือนเอาไว้ว่า การไปเที่ยวอย่างว่าหรือ ภาษาที่เขาว่ามาคือ สำล่อน อาจทำให้ต้องตกอยู่ในภวังค์เดียวกับพี่ชายคนนี้ของผมนะครับ ........ ตอนนี้ก็ขออุทิศให้พี่ด้วยแล้วกัน