เน็ตพังง่ะ เลยมาบอกไม่ได้ เหอะๆ พอเน็ตใช้ได้ รีบมาต่อเลยนะเนี่ย
*********************************************************
ผมกับคณะพักอยู่ที่วัดอีกคืน โดยที่เย็นของวันนั้นพ่อท่านวากเรียกไอดิษไปคุยด้วยประมาณยี่สิบกว่านาที แล้วก็กลับไป ผมหลอกถามมัน แต่มันไม่ยอมพูด เอาแต่บอกว่าเรื่องดีแล้วกัน
วันต่อมาผมโดนปลุกตั้งแต่ตีสาม เพื่อมาพบหลวงตา ท่านบอกผมว่าวันนี้ต้องเดินทางไปรับนิมนต์ไกล คงไม่ได้ลากันตอนเช้า ฝากผมบอกเพื่อนๆ และมอบพระให้ผมกล่องนึง ท่านว่าให้ผมเอาไปแจกเพื่อนๆ และว่างๆก็ให้มากันอีก ท่านจะสอนทางพุทธศาสนาสำหรับผม ผมก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่าสำหรับผมคืออะไร
จากนั้นเราเดินทางต่อมาที่ไร่ของพ่อผม พ่อกับแม่เตรียมรอรับผมอยู่แล้ว แต่บังเอิญสุดๆ งานนี้มีน้องพิณลูกของน้าเพิ่มที่เป็นปศุสัตว์ (ที่เคยฝากให้ผมแนะนำเรื่องสอบเข้าสอบมหาลัย) รอด้วยอีกคน
“ สวัสดีค่ะพี่คิม ” พอพวกผมสวัสดีพ่อกับแม่แล้ว สองคนก็ไปทำงานเลย ให้พิณอยู่กับพวกผม
“ โหพี่ คนนี้เมียเก่าพี่ไหมอะ สวยมาก ” ไอวินรีบปากมอมเป็นคนแรก
“ กูว่าใช่ ” มันแอบกวนผมนะครับ ทำท่าซุบซิบกับไอเดย์สองคน
“ คนนี้ใครน้อง ” ไอดิษถามเสียงเย็นยะเยือกทีเดียว
“ เรื่องมันยาว ” ผมตอบ
“ งั้นก็เตรียมย่อให้สั้นๆ จะรอฟัง ” มันพูดจบก็เดินนำดุ่ยๆไป
“ กินขี้กันอีกละกูว่า ” ไอหนิงพูดขึ้น
“ เข้าไปเหอะ น้องผู้หญิงส่งสายตาหวานเยิ้มให้แล้ว ” พี่นากยุส่ง ผมเดินไปหาอย่างเสียไม่ได้
“ เป็นไงบ้าง ”
“ หนูสอบได้แล้วค่ะพี่คิม ”
“ หืม ” น้องพิณรีบมาประกบผมข้างๆ เล่าให้ฟังทำนองว่ามีโควตาอะไรไม่รู้ แต่คือน้องเค้าได้เข้าสอบสัมภาษณ์แน่นอน ที่ผมเข้าใจก็คือสอบสัมภาษณ์น่ะ คณะคงจะรับหมดไม่ได้คัดออก
“ งั้นเราก็ได้เป็นรุ่นน้องกันสิ ” พอนั่งคุยกันได้พักใหญ่ๆ ทั้งไอวินและไอเดย์ถึงขนาดติดหนึบกับน้องพิณเลยล่ะ
“ หัวสูงไปไหมมึง น้องเค้าเรียนเภสัช ” พี่โจแซวครับ
“ ไม่หรอกค่ะ เภสัชเป็นแฟนกับเกษตรก็ได้ ”
“ พรวดดดดดด แค่กกกๆๆๆๆ ” อันนี้ผมเองแหละ ฮ่าๆๆ สำลักน้ำเลยกู
“ กับเกษตร หรือกับคิมจ้ะ ”
“ พี่ดิษ ” พี่โจรีบหันไอเอ็ดไอวากบ้าทันที มึงนี่ก็ไม่รู้กาลเทศะเลย น้องเค้าคิดจริงนะกูว่า
“ ไม่กล้าหรอกค่ะ พี่คิมดังจะตายยยยย ” ตายคำหลังนี่ น่าจะใช้กับพี่คืนนี้แหละ
“ คิมไม่ดังหรอก แต่เจ้าชู้มากกกก ” อ้าวๆๆ มึงนี่ไม่หยุดเลยนะ
“ เกษตรมันแบบนี้ทุกคนนะน้อง เล่นๆกับมันก็พอ อย่าจริงจัง ” พี่นากพูดซะหมองเลยครับ ผมว่าแกอาจจะเหน็บพี่โจด้วย
“ ว่าไป เค้าพร้อมจะจริงจังกับคนที่ใช่ ” พี่โจรีบแก้ พี่นากก็เบ้ปากใส่นิดนึง
“ แต่คนไหนใช่ ว่าอีกที ”
“ ฮ่าๆๆๆ ” ไอดิษก็เล่นมุกไปครับ คุยกันได้ไม่นานก็เที่ยงพอดี เราเลยมารอกินข้าวเที่ยงกันที่เรือนใหญ่กับพ่อและแม่ของผม
“ พิณมารอเองตั้งแต่เมื่อวาน ” พ่อผมบอก
“ บอกพี่เค้าเรื่องสอบได้หรือยังจ้ะ ” แม่ของผมดูจะแปลกๆนะ
“ บอกแล้วค่ะ พี่ๆทุกคนด้วย ” คือ พิณเนี่ย เวลาพูดดูจะใส่ใจความรู้สึกคนอื่นๆ ไอพวกที่มาน่ะไม่มีใครคิดอกุศลกับน้องเค้าหรอกนะครับ ออกแนวเอ็นดูมากกว่า
“ นี่มหาลัยเดียวกันหมดเลยเหรอ หนูสองคนเกษตรเหรอ หน้าดูไม่ใช่เลยนะ ” แม่ผมพูดถึงไอวินกับไอเดย์ครับ
“ ปล่าวครับ ผมสองคนคณะมนุษย์ครับ ”
“ มิน่าล่ะ ”
“ พูดงี้หมายความว่าไงแม่ เกษตรนี่ยังไง ” ผมแกล้งถาม
“ ก็บ้าๆบอๆ นักเลงโตแบบมึงอะ ” พ่อผมแนบมาตอบเฉยเลย เรียกเสียงหัวเราะจากไอพวกนั้นเป็นแถวๆ ชอบจังด่าลูกให้คนอื่นฟังเนี่ย
“ เฮ้ย คิม ” หลังจากกินข้าวเสร็จ พ่อของผมเรียกผมไปหา
“ ครับพ่อเลี้ยง โอ้ยยย ” โดนเขกกะโหลกครับ
“ แซวนะ เอาเงินไปซื้อกับข้าว กับแกล้ม เหล้า น้ำแข็งมา ”
“ ไม่ใช้คนงานล่ะพ่อ พักเที่ยงพอดีนี่ ” ผมของผมดึงหัวผมเข้าไปหา
“ พ่อรู้ว่าเองแอบชอบพิณใช่ไหมล่ะ ไป ........ ใช้โอกาสอย่าเปลือง ”
“ ไม่ใช่ละๆ ” ผมรีบแย้ง
“ ฮึ่ย แม่เองบอกข้ามาหยกๆ คราวก่อนส่งสายตายิบยับๆ ไปเลยๆ ” ผมพยายามอธิบายนะ แต่พ่อหาว่าผมอาย สุดท้ายผมต้องไปตลาดกับพิณสองคน แน่นอนว่าคนที่ไม่พอใจน่ะ มองตาเขียวอยู่ห่างๆ ผมส่งสายตาให้ไอวากว่า พ่อผมบังคับ คิดว่ามันคงเข้าใจนะ
“ ว่ายังไงคุณคิม ไม่เจอกันนานมากเล้ย ” แม่ค้าในตลาดทักผมครับ สมัยก่อน ผมมาช่วยแม่จ่ายตลอดประจำ ถ้าไม่นับเรื่องที่ผมเกเร ผมก็เป็นที่รักของคนในตลาดนะเอา แฮะๆๆๆๆๆ
“ ครับผม ขอนี่ๆๆๆ ......... คัดให้ผมด้วยนะ ” น้องพิณท่าทางเก้ๆกังๆ เดาว่าคงไม่ค่อยได้ทำแบบนี้ครับ
“ พี่คิมเลือกผัก เป็นด้วยเหรอคะ ”
“ เป็นสิ พี่ทำอาหารเก่งนะ ”
“ จริงอะ ...... สอบหนูทำทีสิ ” ผมกำลังจะอ้าปากตอบน้องพิณ แม่ค้ากวักมือไปหา
“ อะไรป้า ”
“ นั่นแฟนเหรอคะ สวย น่ารักนะ ” นั่นไงกู
“ ไม่ใช่ป้า ลูกสาวของเพื่อนพ่อ ”
“ อุ้ยยย ยิ่งดีใหญ่เลย ผู้ใหญ่เป็นพ่อสื่อให้อีก ” ไปกันใหญ่ละ
“ ว่าไปโน่นแล้วป้า ผักผมอะ มาๆ ” แม่ค้าหัวเราะชอบใจ ผมส่งเงินให้แล้วรีบถือถุงออกมา
ผมเดินไปหาซื้อของเพิ่มอีกหลายอย่าง แต่ละร้านที่เข้าไปก็พูดคล้ายๆกับป้าขายผักนั่นแหละ เพราะปกติผมไม่เคยพาใครแม้แต่เพื่อนๆมาจ่ายตลาด ผมเริ่มนึกออกละ ที่พ่อให้ผมมากับพิณ เพราะอยากให้ผมรู้ว่า มีหลายคนมองว่าผมกับพิณน่าจะเหมาะสมกัน
พอกลับถึง ผมบอกให้พิณช่วยแม่ของผมล้างผัก เตรียมทำอาหาร
“ พี่คิมไม่อยู่สอนพิณทำกับข้าวเหรอคะ ” เฮ้อ
“ ให้แม่พี่สอนดีกว่า ” พิณทำหน้าหงอยลงทันตา ผมแพ้สายตากับท่าทางแบบนี้ซะด้วยสิ
“ ค่ะ ”
“ เอ่อ เอาไว้พี่จะสอนคราวหลัง ดีปะ ” พอผมพูดจบ พิณยิ้มร่าเลย แล้วรีบหันหลัง วิ่งไป ผมทำเหมือนกับให้ความหลังหรือปล่าวนะ ไม่รู้ล่ะ ตอนนี้มีคนต้องเคลียร์โดยด่วน
ผมรีบวิ่งมาที่เรือนของผม พวกพี่ๆเพื่อนๆและน้องๆ นั่งเล่นเกมส์กันอยู่ แต่ไม่เห็นไอวากบ้านะ
“ พี่โจ ไอดิษล่ะ ”
“ เรียกพี่ได้ไหม แล้วพี่จะให้กินขนมหมื่นห้า ” ไอเด็กวินเริ่มจะกวนบาทาเข้าทุกวันละครับ มันล้อที่ผมไม่ยอมเรียกไอดิษว่าพี่
“ ตกลงอยู่ไหนนิ ”
“ ข้างบน ” ไอหนิงชี้ขึ้นไปที่หลังคา ผมรีบปีนบันไดขึ้นมาหาไอวากบ้า
ไอดิษมันนั่งมองไปที่ไร่ ออกอาการเหม่อๆ
“ พี่ดิษคร้าบ ”
“ เล่ามา ” ผมนั่งลงข้างๆ และเล่าเรื่องอย่างย่อให้ฟัง ผมเล่าว่า น้องพิณเป็นลูกของเพื่อนพ่อคือน้าเพิ่ม น้าเพิ่มมาหาพ่อพร้อมกับพาน้องพิณมา เพราะอยากให้ผมแนะนำเรื่องการเรียน
“ แล้วรู้ใช่ไหม ว่าเค้าชื่นชมน้อง ” ไอดิษถาม
“ พอรู้อยู่ ”
“ ฉลาดขึ้นนะ พี่แสดงให้น้องเห็นตั้งเป็นร้อยครั้ง ดันมองไม่ออก ”
“ ครับ รู้ว่าโง่ครับ ” ไอดิษยิ้ม กดหัวผมลงพื้น หยอกๆอะ
“ ที่หนิงว่า อยากให้แม่คิมช่วยพูดกับลุง คงยากแล้ว ท่านชอบน้องพิณน่าดู เราทนรอต่อไปอีกเถอะ ”
“ อืม ควรจะเป็นแบบนั้น ” เราตกลงกันแค่นี้ครับ แต่มันคงไม่รู้หรอกว่าผมไม่คิดจะทำตามที่มันบอก
จากนั้นก็พากันไปเดินดูไร่ และมาที่เรือนใหญ่ เพื่อกินเลี้ยงสังสรรค์ย่อยๆกัน
“ คิม มาหาแม่ทีลูก ” ผมยิ้มให้ไอวาก มันทำท่าจุ๊ปาก ประมาณว่าอย่าพูดเรื่องของเรา
“ ครับแม่ ”
“ แม่ว่าพิณเค้าน่ารักดีนะ วันนั้นคิมก็ดูจะสนใจ แม่ไม่ได้อยากให้ลูกคิดมากไปนะ แต่ ...... ”
“ แม่ครับ ผมมีเรื่องจะสารภาพ ”
“ ว่าไงจ้ะ ” แม่ของผมยังยิ้ม หัวใจของผมเต้นแรงมาก เหงื่อที่มือเริ่มเปียกชุ่ม
“ ผม ........ ผม ”
“ พูดมาสิลูก ” แม่ของผมเป็นห่วงผมมาก ท่านลูบหน้า และตบไหล่ของผม
“ ผมคบกับข้าวกล้องได้เกือบสองปีแล้ว ผมไม่เคยอยากทำให้แม่ผิดหวัง ผมขอโทษครับแม่ ” ผมพูดจบ ผมรีบกราบที่เท้าของแม่ และรีบเดินออกมา
ผมวิ่งออกมาที่หลังไร่ ซึ่งปกติต้องใช้มอเตอไซค์ พอมาถึงบ้านหลังไร่ ผมรีบเปิดประตูและเข้าไปซุกอยู่ในบ้าน ปิดไฟมืด เหงื่อของผมไหลโทรมกาย ผมไม่กล้ามองตาของแม่ ในตอนนั้น ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ผมไม่รู้เลยว่า เหตุการณ์ในบ้านต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร และผมยังจะเป็นลูกของแม่ต่อไปอีกหรือไม่
ผมเริ่มร้องไห้ สะอึกสะอื้นอยู่คนเดียว คงไม่มีใครรู้ว่านะว่าผมอยู่ตรงนี้ ผมอยากจะอยู่แบบนี้ คนเดียว นานเท่าที่อยากอยู่ อยากให้ความรู้สึกที่อัดแน่นมันค่อยๆหายไปเอง
“ คิม คิม พี่รู้นะว่าอยู่ในนั้น ออกมาคุยกับพี่เลยนะ ” ผมคิดว่าน่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านมาแล้ว ที่ผมเก็บตัวอยู่คนเดียว ไอดิษถึงออกมาตามหาผม
“ ดิษ ขอกูอยู่คนเดียว ” ผมเดินมาบอกมันผ่านหน้าต่าง
“ แม่ของคิมขอตัวเข้าไปนอน คิมก็หายไป นี่คิมบอกเรื่องนี้กับท่านใช่ไหม ”
“ อืม กูไม่อยากให้แม่กูจินตนาการว่ากูจะคู่กับพิณ หรือกับคนอื่น ” ไอดิษน่าจะมองไม่เห็นผม เพราะในบ้านมืดมาก แต่ผมน่ะเห็นหน้าของมันชัดเจน มันตกใจมากทีเดียวครับ
“ ทำไมต้องรีบขนาดนั้น ”
“ กูบอกแล้วไง กูเบื่อไอความไม่ชัดเจนเต็มที กูอยากบอกคนอื่นว่ากูรักมึง กูไม่คนที่ชอบเก็บซ่อนความรู้สึกนักมึงก็รู้ แต่กูอดทนมาสองปีแล้ว กูไม่ไหวแล้ว ” ไอดิษหลับตา มันคงกำลังถอนหายใจ
“ อืมๆ พี่เข้าใจแล้ว พี่คาดผิดมาตลอด ว่าน้องคงไม่กล้า ขอบคุณนะ ”
“ ข้างนอก ยุงชุม มึงกลับไปเรือนก่อน เดี๋ยวกูจะกลับไปหา ” ไอดิษล้วงที่คอเสื้อ แล้วชูแหวนที่ทำให้ผม มันจุ๊บเบาๆ แล้วยิ้มให้ ก่อนจะเดินกลับไป
วันนี้ ผมทำสิ่งที่ขัดกับความรู้ตัวเองพอสมควร คนที่ผมห่วงใยความรู้สึกมากที่สุดคือแม่ และไอวาก สิ่งที่ผมเลี่ยงมาตลอดคือไม่ต้องการให้สองคนนี้ เสียความรู้สึกดีๆที่มีให้ผม แต่วันนี้ผมคงทำลงไปแล้ว
พักนึงก็มีเสียงเคาะประตู ดังสะท้านบ้าน หรือว่าไอดิษมันทนไม่ไหว อยากเข้ามาจริงๆ ผมรีบเดินเข้ามาเปิด แล้วก็ต้องช็อคจนเข่าอ่วนยวบยาบ
“ พ่อ ”
“ ไอตัวดี ไอนอกคอก ” หืม
“ พ่อไม่ตบผมเหรอ แม่คงบอกแล้วใช่ปะครับ ” ผมเปิดไฟหน้าบ้าน ให้เห็นหน้ากันชัดๆ ผมหลับตาลง พ่อคงจะซ้อมผมหนักแน่ ที่ทำร้ายความรู้สึกของแม่
“ ทำน่ะทำแน่ ” ผมกัดฟันรอการลงโทษของพ่อ แต่พ่อกลับทำเพียงแค่ตบหน้าผม
“ ผมขอโทษที่ไม่รักดี ผมขอโทษที่ ....... ”
“ พอ ” เฮ้อ นาทีนั้น ผมกลัวพ่อของผมตัดพ่อตัดลูกเหลือเกิน เพราะพ่อรักแม่ผมมาก
“ ครับ ”
“ ในบ้านนี้ .... ”
“ ผมเข้าใจว่า แม่คือคนสำคัญที่สุด ” ผมรีบพูด
“ เองฟังให้จบ ....... ในบ้านนี้ ทำไมถึงคิดว่าแม่คือคนที่ห่วงเองมากที่สุด ” ยังไงอะ ผมค่อยๆเลื่อนหน้ามาสบตาของพ่อ พ่อของผมน้ำตาซึมครับ ผมตกใจเป็นทวีคูณ ผมเข่าอ่อนลงทรุดกับพื้นจริงๆครับ ผมเกาะขาของพ่อไว้ และร้องไห้ พ่อของผมค่อยๆก้มลงมากอด
“ ถ้าเอ็งชอบพอใครถึงขนาดนั้น เองต้องบอกข้าเป็นคนแรก ไม่ใช่แม่ของเอง ”
“ ฮือออ ผมรู้ว่า ไม่มีทางรับผมได้ ฮือออออ ผมขอโทษ ” พ่อทุบหลังผม ยอมรับว่าแรงอะครับ
“ ข้าเป็นใคร ถึงจะไม่ยอมรับ ความสุขของเอง ก็คือความสุขของข้า ”
“ ห๊ะ อะไรนะพ่อ ” หูของผมฟังไม่ผิดใช่ไหมอะ
***********************************************************