เพิ่งเดินทางกลับมาอะครับ แฮะๆ
จะรีบเอาตอนใหม่มาลงให้ ถ้าเรียบร้อยแล้วนะครับ
ขออภัยที่ช่วงนี้ มาต่อช้า
******************************************************************
หน้าที่ 28 วรรค 3
พ่อผมให้ผมไปล้างหน้า และกลับมานั่งคุยกันต่อ
“ ข้าตงิดใจตั้งแต่ มันชอบมาพร้อมๆกับเองแล้ว ”
“ ทีแรกไม่ใช่แบบนั้นหรอกพ่อ ” พ่อของผมนั่งไขว่ห้าง ผมนั่งพื้นครับ ปกติเวลาผมทำผิดชอบทำแบบนี้
“ แม่เองคงไม่ยอมรับแน่เลย ”
“ ทำไมล่ะพ่อ ขนาดพ่อยังยอมรับได้เลย อ๊ะๆ อย่าๆๆ ” จังหวะผมพูด พ่อก็ง้างมือจะทุบหัวผมอีก
“ ไม่เหมือนกันนะ ”
“ ไม่เหมือนอะไร ”
“ ถ้าเป็นเรื่องเกเร นอกลู่นอกทาง ข้าไม่ชอบ ข้าเลยต้องด่าว่าเอง แต่พอเป็นเรื่องคนรักเนี่ย ........ แม่แกต้องตัดให้เอง ทีนี้อย่าว่าแต่คัดให้ เองเล่นทำนอกเหนือความคาดหมาย ยิ่งยาก ” ผมได้คิดอีกแล้ว
“ แย่จัง แต่ผมไม่ได้อยากเป็นแบบนี้หรอกนะพ่อ ” พ่อผมคงจะเข้าใจครับ ท่านพยักหน้า
“ รักกันจริง ก็แสดงออกให้แม่แกเห็นให้ได้ บางทีน่ะนะ ”
“ บางทีอะไรอีกพ่อ ” คราวนี้พ่อผมเตะจริงๆครับ แต่เตะเล่นๆ
“ หัดคิดเองมั่ง ” พ่อผมลุกขึ้น คงจะกลับเรือน ผมรีบดึงขากางเกงไว้
“ พ่อๆ ”
“ อะไรวะ ”
“ พ่อช่วยเกลี่ยกล่อมแม่ทีดิ ” พ่อผมหัวเราะ
“ ผู้หญิง ยังไงก็ผู้หญิง ถึงเป็นแม่ก็ผู้หญิงอยู่ดี นิสัยหวงข้าวของแก้ไม่ได้ง่ายๆ ..... ลองดู ถ้าข้าเอาเงินเอาทองไปใช้ไม่บอกแม่เอง ส่วนมากก็บ่นนิดหน่อย แต่ลองข้าไปมีเมียน้อย แม่เองเอาข้าตาย ” ฟังๆ พอจับใจความได้ว่า แม่เองก็มีนิสัยส่วนตัวที่แต่ละคนต้องรับมือเอง
“ ครับๆ ผมจะค่อยๆหาทาง ”
“ เออ แล้วความจริง ข้าไม่ได้รู้จากแม่เอง ” หืม
“ แล้วใครบอก ไอดิษเหรอ ”
“ พ่อมัน ”
“ ห๊า !!!!!!!!!! ”
เล่ามาถึงตรงนี้ เลยได้นั่งคุยกันต่ออีกรอบ พ่อผมเล่าให้ฟังว่า พ่อท่านวากโทรมาบอกความจริง และขอโทษที่ปล่อยไอวากดิษมาทำให้ผมต้องกลายเป็นแบบนี้ น่าจะหาทางแยกผมสองคน
“ ข้าเลยด่ามันไปว่า มึงเลี้ยงลูกต้องรู้สิ ว่าเลี้ยงได้แต่ตัว ใจมันเป็นของมันเอง ” อันนี้ซึ้งเลยครับ
“ ไม่ยักกะรู้ว่าเข้าใจลูกขนาดนี้ ” ผมแซว
“ ทำไม ถ้ารู้ จะไม่เกเรจะไม่ทำตัวเหมือนที่ผ่านมาหรือไง ”
“ ใช่ ที่ผ่านๆมา ผมไม่เคยรู้สึกแบบนั้นเลย ” พอพูดแบบนี้พ่อของผมก้มหน้าลงนิดหน่อย ยกมือมาตบไหล่ของผม
“ ข้ารู้หรอก ” พ่อผมเป็นคนพูดน้อยมาก เชื่อไหมว่า นับดีๆ วันนี้วันเดียว พ่อคุยกับผมเทียบได้นับถึงปีสองปีเลยนะครับ
“ พ่อไม่รังเกียจมันใช่ปะ ”
“ หมายถึงไอข้าวกล้องเหรอ ข้าไม่เกลียดมันหรอก ชีวิตมันน่าสงสาร มันมารักมาชอบเองคงมีเหตุผล ข้าไม่อยากให้มันต้องมาไล่เรียงเหตุผล วุ่นวาย รักกันก็รักกันไป แต่ต้องช่วยกันแก้ปัญหา ยิ่งพ่อมันไม่เห็นด้วย เองต้องเป็นที่พึ่งของกันและกัน ” ผมยกมือไหว้ พ่อของผมยกมือตอบ แล้วเดินออกไป ผมปิดไฟปิดบ้าน แล้วรีบเดินกลับมาเรือนของผม
พวกพี่ๆเพื่อนๆน้องๆ ตอนนี้นั่งเครียดอยู่ข้างใน แต่ละคนคงเพิ่งได้ยินจากไอดิษ ว่าผมพูดความจริงกับแม่ไปแล้ว
“ กูว่าอยู่ไม่ได้ละ พรุ่งนี้กลับมอเหอะ ” พี่นากเกิดอาการปอดครับ
“ ถ้าจะเป็นแบบนี้ ไม่น่าตามเค้ามาด้วย ” พี่โจกัดพี่นากเฉยเลย
“ เออสิ ใครจะหน้าหนาเท่ามึง ”
“ พอๆน่า เอาเรื่องนี้ก่อนดิ ” ไอวากดิษเบรกสองคนนั้น
“ บอกไปแล้ว ก็รอไปก่อนดีกว่า ให้เวลาคิมกับแม่หน่อย ” ไอหนิงเสนอ
“ ผมว่างี้ปะ เรากลับกันก่อน ให้พี่คิมอยู่บ้านไป ” ไอวินพูดบ้าง
“ จะให้พี่คิมถูกฆ่าหรือไง ” ไอเดย์รีบท้วงครับ
“ ไม่ดิ แต่ถ้าพี่ดิษอยู่ด้วย ไม่แน่นะ ” ไอวินมันพูดดีอยู่นะครับ
“ งั้นอีกวันสองวัน พวงมึงกลับกันไปก่อนดีปะ ไงจะโทรบอก ” พวกเราว่ากันตามนั้นครับ
คืนนั้นผมนอนไม่หลับเลย เดินวนไปวนมาทั้งคืน คิดหนักใจว่าแม่จะเป็นยังไง เมื่อก่อนผมไม่เคยคิดถึงความรึสึกของท่าน พอเริ่มรับรู้บ้าง ก็ดันทำสิ่งท่านต้องกลุ้มใจอีก ทางออกของเรื่องนี้จะเป็นแบบไหนนะ
“ นอนไม่หลับเหรอ ” พี่โจเดินมาคุยกับผมครับ
“ ใช่พี่ แล้ว ........ ” ผมมองไปข้างหลัง
“ พี่ดิษหลับแล้ว พี่เค้าเหนื่อยมาหลายวัน ช่วงที่เรานอนวัด พี่ดิษนอนไม่หลับ พี่ก็ลุกมาคุยด้วยแบบนี้แหละ ”
“ งั้นพี่ก็ไม่ได้นอนเลยซักวันดิ ” พี่โจยิ้มๆ
“ คิม พี่เล่าเรื่องของใครคนนึงให้ฟังปะ ”
“ เอาดิพี่ ”
“ ผู้ชายคนนึง เค้ามีเพื่อนสนิทมากๆ ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เค้าเกิดชอบเพื่อน ที่เป็นผู้ชายด้วยกัน แต่เพื่อนไม่เคยรู้ หลังจากนั้น เพื่อนก็แต่งงานกับผู้หญิง ผู้ชายคนนั้นพยายามไม่ติดต่อ และไม่ติดต่อกันอีก ไม่นานเพื่อนของเค้าประสบอุบัติเหตุตาย ด้วยความที่ผู้ชายและผู้หญิงเคยรักผู้ชายคนเดียวกัน คือเพื่อน ผู้ชายคนนั้นเลยตัดสินใจคบกันกับผู้หญิงที่เป็นแฟนเพื่อนแทน ” เรื่องมันวนๆเนอะ
“ มันสื่ออะไรพี่ ”
“ สื่อว่า ความรักเป็นเรื่องเข้าใจยากไง ” ผมเห็นด้วยนะ
“ มันเรื่องจริงไหมพี่ ถ้าจริงเนี่ย โคตรๆเลย ”
“ โคตรอะไร โคตรเน่า โคตรบ้า หรือโคตรอะไร ” มาแปลกแฮะ
“ ฮุ้ววว พูดอย่างกับเรื่องของตัวเอง ......... ” ผมพูดเองแล้วได้คิดเองครับ ผมจำได้ว่าเคยมีคนบอกผมว่า มีข่าวลือว่าพ่อของพี่โจเคยชอบผู้ชาย
“ ........ ” พี่โจยิ้มให้ผม แล้วลุกไป
“ โคตรบ้า ว่าปะ ” แกพูดกับผมก่อนเดินไป ถ้ามันเป็นเรื่องจริงของครอบครัวพี่โจ ก็น่าเห็นใจนะครับ โอ้ยๆๆ ปวดหัวโว้ย
เช้าวันต่อมา พวกคณะที่มาด้วย ขอกลับกันก่อน เพื่อให้ผมปรับความเข้าใจกับที่บ้าน วันนั้นแม่ของผมหายไปตั้งแต่เช้าไม่ได้มารอส่งพวกเพื่อนๆ ผมได้แต่แปลกใจครับ แต่ไม่กล้าถามพ่อ เพราะแกดูจะหงุดหงิดๆ
“ พี่เคนนี่ หวัดดี ” ผมเลยตัดสินใจโทรหาพี่ชายใหญ่ของผม พี่เคน
“ ไงน้อง ”
“ พี่ คืองี้ !@@@!##$@@!#$$ ” ผมเล่าให้พี่เคนฟังแบบรวดเดียวจบ พี่เคนก็ได้แต่ร้องอื้อๆ
“ คิดแล้ว ข้าวกล้องเจ๋งว่ะ ” อ้าว พี่ผมนี่ยังไงนิ
“ พี่จะว่าไงอะ บ้านเราเสียงแตกนะ ”
“ ใครเสียงแตก ” น้ำเสียงเหมือนพี่ผมจะไม่ว่านะ
“ แม่ ”
“ ซวย ” พี่ผมคนนี้ ใจกว้าง รักน้องทุกคนครับ ถึงไม่สนิทกันมาก แต่น้องๆพึ่งได้
“ ผมทำไงดีพี่ ”
“ ไหนๆก็บอกไปแล้ว รับได้น่ะคงรับได้ แต่ใจลึกๆแม่คงอยากเห็นแกได้กับผู้หญิง ตั้งโจทก์ดีๆ ไว้พี่กลับไปจะช่วยดูอีกที ”
“ ผมไม่รบกวนละพี่ ขอบคุณมาก ”
“ คืบหน้าโทรมาด้วย รอฟังอยู่ ” คุยกันสั้นๆแบบนี้แหละพวกผมอะ
จากนั้นก็คว้าโทรศัพท์มาคุยกับป้าแคท พี่สาวอีกคน
“ ชั้นไม่ค่อยแปลกใจหรอก ” พี่แคทตอนนี้กำลังจะจบแล้วครับ ผมรู้แต่ว่าพี่ผมเรียนหลักสูตรห้าปี รายละเอียดไม่ได้ถาม
“ แต่แม่รู้แล้ว ท่าทางไม่เข้าใจ ”
“ ชั้นก็ไม่เข้าใจ แต่ไม่แปลกใจไง ” เล่นศัพท์สูงอีก
“ งั้นยอมรับปะ ”
“ แฟนแกเป็นมนุษย์ต่างดาว ชั้นก็รับได้ แต่เสียดายข้าวกล้อง หล่ออะ ”
“ อ้าวๆๆ อย่าแม้แต่จะคิดนะป้า ”
“ จ้าๆ ใครจะกล้ากับคุณหนูคิม โทรมาเนี่ยนอกจากสารภาพอยากได้อะไรอีก ” พี่แคทคงอยู่ในสังคมที่เปิดพอสมควรครับ เลยไม่ติดใจเรื่องของผมกับไอวากดิษ
“ ขอโทษที่ไม่ได้บอก เรื่องตั้งสองปีมาแล้ว ”
“ ต๊าย น่ารักมาก ชั้นมีน้องชายน่ารัก ไม่ดิบไม่เถื่อนตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ” มากัดกูอีก หึหึหึหึ
“ ขอบคุณป้า ” ผมกดวางสาย
ส่วนอีกคน คือน้องคิง ผมไม่โทรหาครับ เพราะผมไม่อยากให้น้องต้องคิดมาก และไม่อยากให้น้องรู้ประสบการณ์แบบนี้ ซักวันเมื่อผมเห็นว่าพร้อม ผมจะบอกน้องของผม
เสร็จธุระ ผมก็เดินไปหาพวกคนงาน ช่วยเค้าแบกของมาที่โรงนา นั่งคุยกับเพื่อนเก่าสมัยเด็กๆ
“ เห็นข้าวกล้องมา ยังสนิทกันเหมือนเดิมเหรอ ” ลูกของคนงานสามสี่คน เพื่อนเก่าผม มาคุยด้วย
“ อืม ยิ่งกว่าเดิม ”
“ วาสนาไม่ดีเนอะ ไม่มีโอกาสได้เรียนสูงๆ ” ไอคนนึงบ่นขึ้นมา
“ พวกมึงน่ะเหรอไม่มีวาสนา พ่อแม่มึงส่งเรียน เสือกหาเมียหาลูกมาให้เค้า มึงไม่ได้เรื่องกันเอง ” ผมพูดบอกพวกมันตรงๆ
“ จริงด้วย แต่ยังไงก็ไม่มีโอกาสแล้วล่ะ ”
“ ถ้าพวกมึงคิดเรียนจริง การศึกษานอกโรงเรียน มึงเคยได้ยินกันไหม มหาลัยเปิด พวกมึงเคยได้ยินไหม ” พวกมันทำหน้าสงสัย ผมเลยอธิบายให้มันฟังว่า เดี๋ยวนี้คนขาดโอกาส ซึ่งพวกนี้ก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น สามารถเรียนรู้ได้ และจบปริญญาได้ ไม่จำเป็นต้องเข้ามหาลัยปิด
“ ตั้งใจกันจริง คราวหลังกูจะหารายละเอียดมาให้ ”
“ ฝากทีนะคิม อยากให้พ่อแม่ภูมิใจบ้าง ” พอมันพูดออกมา ผมคิดกลับมาเรื่องตัวเองอีกแล้ว ผมไม่เคยทำให้พ่อแม่ภูมิใจเลย และตอนนี้สร้างเรื่องปวดหัวขึ้นมาอีก
ช่วงบ่าย แม่ของผมกลับมา ผมรีบเดินไปหา แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นน้าเพิ่ม พ่อของน้องพิณมาด้วย
“ สวัสดีครับน้าเพิ่ม ”
“ สวัสดีๆ ” แม่ของผมให้ผมมานั่งคุยกับน้าเพิ่ม ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรหรือปล่าว
“ น้ามาธุระเหรอครับ ”
“ นี่ เราชอบกับลูกสาวน้าเหรอ ”
“ เอ่อ อะไรนะครับ ” ผมเริ่มจะเดาได้แล้วครับ ว่าแม่ของผมหายไปทำอะไรมา
“ พิณน่ะชื่นชมเรามากเลยนะ จะคบหากันน้าไม่ว่า รู้ว่าคิมเป็นลูกผู้ชาย ดูๆน้องหน่อยนะ ”
“ ครับ ขออนุญาตนะครับ ” ผมรีบขอตัวเดินออกมา ตรงรี่ไปหาแม่เลย
“ แม่ครับ เมื่อคืนน่ะ ”
“ ลองคบกับน้องดู คิมเป็นยังไงแม่ดูออก ผู้ชายชอบกันมันเป็นไปไม่ได้หรอกลูก ไม่อย่างนั้น .... แสดงว่าลูกสติไม่ดี แม่จะพาไปรักษา ” ผมอึ้งเลยครับ แม่ของผมดูไม่มีเลศนัยอะไร หรือแม่เข้าใจไปแบบนั้นจริงๆ
“ แม่ ”
“ แม่ถามจิตแพทย์เพื่อนของพ่อเค้าแล้ว ลูกอาจจะป่วย ”
“ แม่ ”
“ เชื่อแม่ลูก ” แล้วแม่ก็เดินไปหาน้าเพิ่ม ทำไมผมถึงไม่บอกปฏิเสธไปว่าแม่เข้าใจผิด เฮ้อ สงสัยเรื่องนี้ต้องใช้เวลามากกว่าที่ผมคิดไว้
*********************************************************
คิดถึงทุกคนนะครับผม