วันนี้ มาต่อแหละนะ แต่ขอดึกอีกนิดได้ปะ แฮ่ะๆๆๆ พอดีเพิ่งไปช่วยเตรียมงานให้ปู่รหัสมา ท่านปัน น่ะเอง แกจะแต่งงานละครับ อวยพรให้ท่านกันหน่อยๆ
*******************************************************
ผมตามหาไอดิษอยู่ทั้งคืน แต่ไม่พบครับ ผมไปทั้งโรงแรมที่มันเคยไป บ้านของเพื่อนๆ ทั้งเพื่อนแท้เพื่อนไม่แท้ ผมไปหมด ผมเดินเตร่อยู่ข้างทางจนพระอาทิตย์ขึ้น
“ มึงอยู่ไหนไอดิษ ” ผมลองโทรหามันอีกครั้งในตอนเช้า หลังจากที่โทรหามันทั้งคืนแต่ไม่ยอมรับสาย
“ แถวนี้แหละ ”
“ เมื่อวานมึงยังคุยกับกูดีๆอยู่ ทำไมวันนี้ทำงี่เง่าแบบนี้วะ ” ผมสวดใส่มันทันที
“ ดีตรงไหน ” ถ้าอยู่ตรงหน้านะ กูจะต่อยๆๆๆๆๆ
“ มาหากูทีเหอะนะ กูเดินหามึงทั้งคืน น้ำยังไม่ได้กินเลย ”
“ .......... ”
“ ดิษ นะๆ ” ผมลองขอร้องดูครับ มันเงียบไป
“ อย่ายอมนะแก ” เฮ้ย เสียงใครวะ
“ เรา ....... ต่อไปไม่ต้องตามหาพี่นะ ” มันกดวางไปทันทีที่มีเสียงแทรกเข้ามา ไออย่ายอมนะแกนี่หมายถึงอะไร แล้วใครพูด ผมโทรกลับไปอีกทีครับ
“ นี่ เค้าเบื่อเกย์อย่างเธอแล้ว จะมาวุ่นวายอะไรอีก ปล่อยให้ผู้ชายเค้าเป็นตามทางเค้าไม่ได้เหรอ ”
“ ว่าไงนะ ” ผมอึ้งอยู่ครับ
“ ข้าวกล้อง เบื่อเธอแล้ว ไสหัวไป ” พอกดวาง ผมได้แต่ยืนอึ้งอยู่อย่างนั้น ไม่เชิงหงุดหวิดนะครับ แค่สงสัยว่า ทำไมผู้หญิงที่ว่าถึงเรียกแทนไอดิษเป็นชื่อเล่นจริงๆ ชื่อเล่นของมันเนี่ย มันปกปิดกันคนที่ไม่รู้จักตลอด แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นคงเป็นคนที่น่าจะรู้จักกันดี
ผมสบายใจขึ้นมานิดหน่อย ตรงที่ไอดิษคงไม่คิดทำโง่ๆจริง เลยไปหาที่หลับที่นอน ซึ่งที่ๆใกล้คงเป็นบ้านของพี่โจ แต่ก็กลัวอีกว่าพ่อของพี่โจจะว่า เลยลองโทรหาก่อน
“ คิมอยู่ไหน ”
“ คิดว่าอยู่ไหนล่ะ ” พี่โจครับ ผมยังงอนเรื่องที่ไม่ยอมมาตามหาไอดิษกับผม ฮ่าๆๆ
“ เอาน่าๆ เมื่อคืนพี่ก็นอนไม่หลับนะ บอกมาเดี๋ยวไปรับ ” ผมบอกสถานที่พี่โจ ทีแรกแกตกใจใหญ่เลย หาว่าผมพูดไม่จริง ผมเลยได้แต่บอกให้มาดูเอาเอง
ประมาณครึ่งชั่วโมงพี่โจถึงขับรถมารับ พอขึ้นนั่ง ยังไม่ทันได้คุยอะไรกัน ผมก็ผล็อยหลับลงไปดื้อๆ มาสะดุ้งตอนที่พี่โจเรียกให้ไปนอนที่ห้อง
“ พี่โจ ”
“ ว่าไง ” พี่โจดูมีเสน่ห์เวลาเอาใจใส่คนอื่นอะ
“ ไอดิษมันอยู่กับผู้หญิง ”
“ รู้ว่าพี่แกมีแผน อย่าเสียใจให้มากเลย ” มีปลอบใจผมครับ
“ ปล่าว ผมแค่อยากรู้ มันมีเพื่อนผู้หญิงที่สนิทพอจะช่วยมันไหม ” พี่โจนั่งคิดอยู่นาน แต่คิดไม่ออก
“ เดี๋ยวพี่ไปถามให้ ”
“ ถามจากใคร ”
“ นอนไปเหอะ เที่ยงจะมาปลุกกินข้าว ” อ้าว มีตัดบทอีก ฮุ้ววว
ผมนอนหลับทันทีที่พี่โจออกไป ไม่รู้จะเรียกว่าฝันหรือปล่าว ผมเห็นภาพลางๆหลายภาพ เหมือนผมจะเป็นเด็กอยู่ ผมเห็นไอดิษตอนเด็กน้อยด้วย อันนี้ผมคงจินตนาการเอาเอง แต่อย่างน้อยผมก็มีความสุข ที่ได้เห็นมันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นตอนเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม
พอผมตื่นนอนขึ้นมาช่วงบ่ายๆ พี่โจกลับมาพร้อมกับพี่นาก พี่นากเล่าให้ฟังว่า มันเล่าจริง แต่ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ผมสงสัยเป็นใคร
“ ไม่คิดเลยว่า คนที่เคยสัญญาว่าจะไม่หนีกูไปไหน ดันเป็นตัวแรกที่โดดหนี ” ผมตัดพ้อ ยิ่งนึกภาพก่อนๆแล้วโมโห
“ แต่ละคนมีจุดเดือดไม่เท่ากันนะคิม บางทีเรื่องของแม่คิม อาจจะรุนแรงเกินกว่าที่มันรับได้ ” พี่นากบอก
“ พี่ดิษแกกำพร้าแม่แต่น้อย เป็นหนี้บุญคุณครอบครัวคิมด้วยนี่ ” พี่โจเสริมขึ้นมาอีก
“ มันเป็นหนี้ผม เป็นหนี้ผมคนเดียว ”
“ คิม ...... ” พี่นากกับพี่โจถึงกับอึ้ง
“ แล้วมันก็กำลังจะเบี้ยวหนี้ด้วย ” หลังจากวันนั้น ผมกับไอดิษไม่ได้ติดต่อกันอีก ในเมื่อมันใจหินกับผม ผมก็จะใจหินกับมันบ้าง
สองสัปดาห์ถัดมา มหาลัยของผมใกล้เปิด ผมกลับมาอยู่ที่หอพักได้ เพราะทางมหาลัยซ่อมแซมตึกพักเสร็จ เพื่อนๆของผมเริ่มกลับมารวมตัวกัน เตรียมกิจกรรมรับน้องต่อ
ต้องยอมรับว่าพอรู้ว่าจะเป็นปีสี่ ใจมันไม่ค่อยดีครับ ยิ่งคิดว่าอีกปีเดียวเราก็จะต้องจบออกไป และยิ่งต้องทำกิจกรรมส่งท้ายแล้วด้วย ยิ่งใจหาย
ไอหนิงเป็นประธานคณะ ไอโต้งเป็นประธานปีสี่ ผมเป็นประธานเชียร์ ซึ่งเป็นตำแหน่งใหม่ แบ่งไว้สำหรับกิจกรรมเชียร์โดยเฉพาะ ซึ่งถ้านับจริงๆผมก็คงมีอิทธิพลต่อกิจกรรมรับน้องที่สุด เพียงแต่ไม่ต้องตะเบงเสียงให้แสบคออีกต่อไป
“ คิม มึงดูแลเรื่องรับน้อง กับขั้นตอนปีหนึ่งให้หมดเลยนะ ” ไอหนิงเดินมาบอกผมที่ห้องกิจกรรม
“ งั้นมึงก็เอาตำแหน่งประธานคณะมาให้กูเลยดีมะ ”
“ สัดนี่ ยิ่งไม่มีเวลาอยู่ ปีนี้เราต้องร่วมกิจกรรม !!@#$%%$@!!! ” สรุปแล้วคือ คณะผมต้องไปทำงานร่วมกับมหาลัยอีก และยังต้องไปพัฒนาพื้นที่เกษตรตรงไหนซักที ซึ่งทำให้แต่ละคนต้องแยกกันทำงาน
ช่วงก่อนเปิดเรียน ห้าหกวัน ผมตัดสินใจไปหาแม่ของไอวากดิษที่โรงพยาบาล เพราะอยากได้ข่าวคราวของมันบ้าง ผมไม่ได้ยินเสียงของมันมาเกือบเดือนแล้ว ผมได้แต่มองดูแหวนที่มันให้ผมมา ไม่มีโอกาสเห็นหน้าเจ้าของแหวนเลย
“ สวัสดีครับ ”
“ เป็นไงบ้างลูก เข่าหายดีหรือยัง ”
“ ดีมากแล้วครับ แค่ไม่เจ็บ ผมก็ดีใจมากแล้ว ” คือเข่าของผม มันคล้ายๆมีกระดูกงอกมานิดหน่อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อันนี้แพทย์บอกมา
“ มาหาข้าวกล้องเหรอลูก ”
“ ครับน้า ผม ....... ผม ไม่เจอมันเลย ”
“ ช่วงนี้ น้าเห็นข้าวกล้องไปกับจ๋าบ่อยมาก กลับมาก็ดึกๆดื่นๆ พ่อเค้าถามก็ตอบประชดประชัน ”
“ ประชดยังไงครับ ”
“ ทำนองว่า อยากมีหลานนักไม่ใช่เหรอ กำลังทำให้ ว่าไปนู่นเลย ” ก็ตอบปกติดีนะ
“ ผมจะเจอมันได้ตรงไหนครับ เอาแบบดักเจอเลย ” น้าดูจะไม่ค่อยพอใจพ่อของไอวากดิษมาก เลยบอกผมหมดเลย ว่าไอดิษต้องไปทำงานที่ไหน เที่ยวที่ไหน จากนั้นผมก็กลับมาที่หอพัก
คืนนั้น ผมเตรียมตัวออกไปตามดูมันที่ๆแม่เลี้ยงมันบอกมา ไอโต้งกับยัยนัทจะไปด้วยครับ ดีเหมือนกันจะได้ไม่เหงา
“ เฮ้ยไปไหนวะ ” ไอหนิงอยู่ข้างล่างดูทีวีอยู่ครับ
“ ไปหาพี่ดิษ ”
“ กูไปด้วย ” สุดท้ายเลยไปกันสามคนครับ
พอถึงที่ ผมก็นั่งคอยไอวากดิษ เพื่อนๆของผมยกเว้นยัยนัท นั่งกินกันอย่างกับมาเที่ยวเอง แต่ผมไม่สนใจพวกมันหรอกครับ แค่มาเป็นเพื่อนก็ดีแค่ไหนแล้ว
ประมาณสามทุ่มกว่าๆ ไอตัวดีก็โผล่มา คนที่มากับมันทำเอาผมแอบโมโห แต่ก็ต้องทำใจร่มๆไว้ เพราะคนที่มาด้วยคือจ๋า ผู้หญิงที่เจอที่วัด ท่าทางสนิทสนมกันมาก เรียกว่าเกินงามอะ ไหนว่าจะไม่ทำบาป ไม่สนใจไอดิษไง
ผมรอเฉยๆ พยายามไม่ให้มันสังเกต จนมันเดินออกไป ผมต้องรีบให้พวกเพื่อนๆเช็คบิล แล้วตามออกมา เราขับรถตามมา จนมาหยุดตรงคอนโดใกล้ๆกับที่เที่ยว
“ นั่นไปกันสองคนไม่ใช่เหรอวะ ” ไอโต้งพูด และใช่อย่างที่มันพูดจริงๆครับ ไอดิษเดินขึ้นห้องไปกับจ๋าสองคน ผมแทบไม่อยากคิดต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้น เลยขอให้พวกมันออกมาจากตรงนั้น แล้วกลับมาที่ร้านเดิน คราวนี้เป็นผมที่ดื่นหนัก ไม่สนใจฟังใคร
“ แกๆ จะดื่มขนาดนี้ เพราะโมโหคนที่ไม่จริงใจเหรอ ” ยัยนัทพยายามห้ามครับ
“ ใครว่า กูแ-กให้ความโง่ของกูว้อย ”
“ พอละๆ ” ไอหนิงพยายามห้ามอีกคน ผมเลยผลักมันร่วงไปอีกฝั่ง
“ ยุ่ง ” จากนั้นผมก็บ้าๆบอๆไม่เป็นผู้เป็นคน ลุกไปหาจีบสาวๆ หนุ่มๆ มั่วไปหมด ผมเกือบโดนผู้ชายลากไปโทรมด้วย โชคดีที่เพื่อนๆมาช่วยทัน
กลับมาถึงหอ ต้องแอบพาผมขึ้นไปอีก กลัวน้องๆปีหนึ่งใหม่ๆที่เริ่มย้ายมาพักจะเห็น พอถึงห้องผมก็ร้องไห้อีก
“ เวลาเมาเนี่ย เอาไม่อยู่จริงๆ อีบ้า ”
“ ด่าโง่ด้วยดิ โง่ๆๆๆ ” ผมพูดสวนยัยนัท
“ พอเหอะคิม ทำใจหน่อย พี่ดิษไม่หักหลังมึงง่ายๆแบบนี้หรอก ” ไอโต้งพยายามปลอบ
“ แล้วที่ลากกันไปเอาที่คอนโดล่ะ ถึงขนาดเช่าคอนโดอยู่กัน แถมยังใช้อีอะไรไม่รู้ ลืมชื่อละ มาบอกว่ากูเป็นเกย์อีก บอกว่าหน้าด้าน ผู้ชายมันจะไปเอาผู้หญิง ห้ามทำไม จะให้กูทำไง ”
“ หนิง มึงพูดหน่อยสิวะ ”
“ เลิกกันดิ ”
“ ได้ไงแก ” ยัยนัทท้วงเลยครับ ผมก็งงนะ
“ ก็ไม่ไว้ใจพี่เค้าแล้ว มึงก็หาทางเป็นอิสระได้นี่ มึงมีข้ออ้างเยอะแยะไป ตอนนี้อะ ” ผมเด้งตัวขึ้นมา แต่หลักไม่ดี หัวทิ่มลงไปกองข้างเตียง เพื่อนๆต้องรีบมาประคอง
“ แล้วที่กูยังรักมันล่ะ ฮึกกกกก จะให้กูทำไง ” ผมร้องไห้โฮอีกรอบ ไอหนิงจ้องตาผมนิ่งๆแล้วเดินออกไป ผมแอบเห็นสายตาโหดๆของไอหนิงด้วย เดาอารมณ์มันไม่ถูก
ผมนอนสลบไป แล้วตื่นขึ้นมาตอนเช้า รีบมาช่วยเพื่อนๆเตรียมงาน รับน้องครั้งนี้ผมจัดให้ปีสองดูแลเป็นหลัก ปีสามกับปีสี่คุมห่างๆ เรื่องรุนแรงก็จะลดลงครับ พอแบ่งงานเรียบร้อย แต่ละคนก็มานั่งคุยกัน
“ ปีนี้ก็อยากเชิญพวกพี่ๆกลับมารับน้องด้วย ” ประธานหนิงเสนอ
“ ดีเหมือนกัน จะได้ลดความขัดแย้งของเพื่อนๆเรา ” นี่ประธานโต้งครับ ตอนนี้หายใจเข้าออก ประธานโต้งก็จะห่วงเพื่อนๆก่อนตลอด
“ มึงไปหาทางเชิญมา ” ไอหนิงโยนมาให้ผม
“ อ้าว พวกว่างงานเยอะแยะ ทำไมไม่ใช้พวกมันไปล่ะ ” ผมพูด
“ มึงรู้จักพี่มากสุด กวนตีนเค้าไว้มากสุด มึงไปจัดการ โอเคเลิกประชุม ” โห เดี๋ยวนี้แม่งบ้าอำนาจว่ะ พอเลิกประชุม ดาผู้นำหญิงคณะเดินมาหาผม พร้อมแฟนของมัน ไอเรนั่นเอง
“ หนิงมันเล่นอะไรไม่รู้นะเนี่ย ” ไอเรพูด
“ หมายความว่าไง ”
“ ก็ให้มึงไปเชิญพี่ๆมาช่วยกันรับน้อง ”
“ มันหมายถึงว่า มาเป็นพยานในวันรับรุ่นมั้ง ” ผมบอกมัน
“ มันจะให้มึงไปเชิญพี่ดิษมาอะ ” เออว่ะ
“ งั้นทำไงละ ได้ยินว่าคิมกับพี่ดิษ ........ ” ดาพูดอ้ำๆอึ้งๆ
“ ก็จะให้ทำไงล่ะ เชิญก็เชิญ ”
“ สมมติ พี่ดิษมาพร้อมกับพี่จ๋าล่ะ ” ผมมารู้เอาตอนหลังว่า จ๋าคนนี้ ก็เป็นนักศึกษาที่นี่ เคยชอบพอกับไอดิษช่วงสั้นๆ แต่ไม่รู้เพราะอะไรถึงแยกกัน ให้ผมเดาก็เพราะความงี่เง่าของไอตัวผู้นั่นแหละ
“ ให้เค้ามาดิ เมียเค้ากูจะห้ามอะไรได้ ”
“ เมียหลวงแม่งไม่เจ๋ง ” มันหมายถึงผมอะ
“ ไอสัด กูไม่ใช่เมียมัน ต่อหน้าแฟนนี่เอาใหญ่เลยนะ คิดว่ากูไม่กล้าต่อยมึงหรือไง ” ผมแซวไอเรเล่นครับ แต่มันดันกลัวจริงๆ ฮ่าๆๆ
เย็นวันนั้น ผมก็ให้น้องๆพิมพ์จดหมาย จ่อหน้าซองถึงพี่ๆ บางคนที่มีเบอร์ติดต่อก็อาศัยโทรบอกเอา ผมนัดไว้ว่าจะเชิญพี่ๆมาประชุมขอคำปรึกษา จากนั้นผมก็ได้รับโทรศัพท์จากคนๆนึง
“ สวัสดีค่ะพี่คิม ” ใครหว่า
“ ใครครับเนี่ย ”
“ พิณค่ะ ....... พี่ไม่ได้เมมเบอร์ไว้เหรอคะ ” ซะงั้น
“ พิณไม่เคยโทรหาพี่เลยนี่ครับ ”
“ ฮิๆๆ จริงด้วยอะ พี่คิม พิณต้องไปรายงานตัวที่คณะ พวกเพื่อนๆอยากให้พี่คิมมานำไปค่ะ ” แวบแรกอยากตอบไปว่า เพื่อนๆของพิณหรือพิณที่อยากให้ผมนำ แต่คิดอีกทีจะกลายเป็นเหมือนผมหยอดน้องเค้า
“ วันที่เท่าไร ”
“ วัน ...... ค่ะ ” ผมจำได้ว่าเป็นวันที่ พวกผมเชิญพี่ๆบางคนมาประชุมย่อยพอดี ผมเลยคิดแผนอะไรขึ้นมาได้พอดี
“ ถึงวันนั้น พี่โทรหาอีกทีแล้วกัน ” ไอดิษคงจะมาตามนัด และผมก็จะอยู่ในมหาลัยพร้อมกับพิณ หึหึหึ กูขอเอาคืนทีนึงแล้วกัน ไอวากนรก บางทีหลังจากผลัดกันเจ็บ ผมสองคนอาจจะกลับมาคุยกันได้
*************************************************************************