คัดจมูก ไอไม่หายเลยอ่า
************************************
พี่หมอนำผมมาที่ห้องตรวจ น้าที่เป็นคุณหมอเจ้าของไข้ผมรีบเรียกให้มานั่งใกล้ๆ พี่หมอก็ตามมานั่งด้วย
“ อาจารย์ครับ คนไข้ที่มีคิวล่ะครับ ”
“ ไม่ใช่คิวผม คิวท่านอื่น ” ไม่รู้เค้าคุยอะไรกันหรอกครับ
“ ที่ผมเล่าให้อาจารย์ฟังเมื่อหลายวันก่อน ว่าเจอเคสใกล้เคียงกันที่อาจารย์วิจัย ไม่นึกว่าจะเป็นน้องคนนี้ ”
“ อ้าวเหรอ คิมปวดเข่าเหรอ ทำไมไม่มาที่นี่ล่ะ ”
“ ผมไม่ได้ปวดอะไรมากครับ แต่เพื่อนมันอยากให้ไปตรวจ ” เพิ่งรู้ว่าหมอเจ้าของไข้ของผมนี่ ระดับอาจารย์เชียว
“ งั้นน้าขอเล่าคร่าวๆ !@@!!@@!!!!@#$$$ ” ฟังๆไปมันไม่ค่อยคร่าวหรอกครับ ออกจะยาวซะอีก ผมก็ฟังไปมองหน้าพี่หมอไป พี่หมอไม่ค่อยสนใจผมเท่าไรครับ อาจจะเพราะต้องตั้งใจฟังที่อาจารย์บอก
“ คิมรู้จักกับข้าวกล้องได้ยังไง ” ระหว่างที่ท่านต้องตรวจคนไข้ต่อ ผมกับพี่หมอต้องมานั่งรอข้างนอก คือเข้าๆออกๆห้องตรวจ ตอนนี้พี่หมอรู้ชื่อผมละครับ
“ ก็ พ่อแม่พวกเรารู้จักกัน และข้าวกล้องมันเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กกับผม ”
“ อ๋อ งี้เอง งั้นข้าวกล้องก็รู้จักพี่ทีหลังสิ ” หืม
“ คือพี่ ชื่ออะไรครับ ” พี่หมอยิ้ม ใจสั่นว่ะๆ ฮ่าๆๆ
“ ข้ามไปขอเบอร์เลยดีไหม ”
“ วนมาเรื่องงี้เรื่อยเลยนะครับ ” ผมพูดแก้เขินไปงั้นแหละครับ จริงๆอะชอบนะ หึหึหึหึหึ
“ นึกว่าจะเอาจริง ....... พี่ชื่อกริชครับ ” ขี้เล่นจริงๆอะ
“ กริช นั่งทำไมตรงนี้วะ ” อ้าว ท่านวากดิษตามมาละครับ
“ เมื่อยไง ” ดูเค้าพูดกันดิครับ นี่ถ้าพูดกับพ่อผมอย่างงี้นะ โดนถีบอะ
“ พี่เค้าอายุมากกว่ามึงตั้งหลายปี พูดดีๆดิวะ ” ผมบอกไอดิษ มันหรี่ตาลงนิดหน่อย ตายห่ะ หรือว่ามันจะจับได้
“ แล้วพี่อายุมากกว่าคิมกี่ปี ถึงไม่ยอมเรียกพี่เพราะๆบ้าง ” โดนซะบ้างไอคิมเอ้ย
“ สงสัยเวรกรรมจะตามทันน่ะ แกก็ไม่เคยเรียกพี่เพราะๆเหมือนกัน ” พี่หมอกริชแซวคืนครับ
“ เออว่ะ ฮ่าๆๆ ” ดูเหมือนไอวากดิษจะยังจับไม่ได้ครับ ดีแล้วล่ะ ผมยังไม่พร้อมจะบอกมัน
ในงานวิจัยนี้ ผมอาจจะต้องมาให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาการปวด และการดำเนินชีวิต ว่าผมเป็นอยู่อย่างไรก่อนและหลังผ่าตัด รวมๆแล้วไม่ยากเท่าไรครับ ได้ยินว่าเค้ามีค่าเสียเวลาให้ด้วย จะได้ซักแสนไหมวะ ฮ่าๆๆ
หลังจากพูดคุยเสร็จ พี่กริช (รู้สึกจะต้องเป็นคนบันทึกข้อมูล) ขอเบอร์โทรศัพท์ของผม และจะติดต่อไป ก่อนออกจากโรงพยาบาล พี่กริชแอบมากระซิบผมด้วยว่า
“ เราคงได้สนิทกันมากขึ้นนะ ” เล่นเอาผมคิดไปไกลเลยครับ
ท่านวากดิษ ขับรถพาผมกลับมาที่มหาลัย มันพาผมมาที่ห้องฟิตเนสของมหาลัย
“ ดีเพื่อน ” ไอดิษทักทาย ผมเดาว่าเป็นครูฝึกนะ แต่ไอดิษเนียกว่าเพื่อนครับ
“ ไงวะ จบแล้วหายหัวเลยนะมึง ทำไมไม่มาสอบทำงานที่มหาลัย ” จะว่าไป ครูฝึกนี่ หน้าตาใช้ได้แฮะ ...... แล้วกูจะไปชมเค้าทำไมนิ
“ ที่บ้านให้ช่วยงาน เออนี่ คุ้นหน้าไหม ” ไอดิษคว้าคอผม มายืนใกล้ๆ ชี้ที่หัวของผม ทำอย่างกับกูเป็นเด็กน้อยเลยนะ
“ คุ้นๆว่ะ แต่งตัวแบบเนี่ย รุ่นน้องมึง ........ เคยมาจีบรุ่นน้องกู ” อะไรวะ
“ เมื่อไร ” อ้าวเฮ้ยๆ กูไปจีบเมื่อไรเฮ้ย ไอดิษมันเอามือบีบก้นลีบๆของผมแน่นเลย ตอบดีๆนะเว้ยพี่
“ นานแล้วล่ะ ซักปีได้ละ ” โล่งงงงงง
“ แล้วไป ..... แต่เรื่องตั้งปีผ่านมา มึงจำได้ไง ” ไอพี่คนที่เกือบพาผมซวย กระซิบๆกับไอดิษ ไอดิษมันก็กระซิบๆกลับไป พวกมึงนี่เสียมารยาทว่ะ กูยิ่งสอดรู้อยู่
“ จริงดิ ”
“ เออ ” ไอพี่คนนั้นยิ้มกวนๆ หลังจากไอดิษตอบกลับไป
“ ดี จะได้ไม่วุ่นวาย แล้วพามาทำไม ”
“ น้องกูออกกำลังหนักไม่ได้ เข่ามีปัญหา มึงช่วยดูหน่อยแล้วกัน ถ้าว่างๆกูจะมาด้วย ” พาผมมาฝากซะงั้น
“ แหม กระแดะเรียกน้อง ” เอ้า งั้นจะให้เรียกอะไรดีล่ะพี่
“ เออน่า เค้าชอบออกกำลัง ”
“ พี่ชื่อเค มีอะไรให้รับใช้ โทรมาก่อนได้ ” ผมโค้งๆให้ จากนั้นเราถึงเดินออกมา
“ กูไม่ชอบเข้าฟิตเนสนะดิษ เกย์แม่งเยอะ ”
“ ว่าพวกพี่ หรือว่าตัวเอง ” อ้าว
“ กูหมายถึงพวกหื่นๆเว้ย ”
“ แสดงว่า ว่าตัวเอง ” ดูมันพูด
“ กูหื่นตรงไหน ”
“ โอเคๆ น้องต้องออกกำลังกายบ้าง แต่ออกหนักๆเหมือนคราวก่อน ไม่ดีต่อสุขภาพไง พี่ถามแม่แล้ว แม่พี่บอกว่า คิมออกกำลังกายในฟิตเนสน่าจะเหมาะกว่า ” เห็นมันเป็นห่วงแบบนี้แล้ว รู้สึกผิดที่ไขว้เขวชั่วขณะ
“ วันนี้ไปกิข้าวกันปะ ” ไอดิษตกลงครับ มันไม่ได้พาผมไปกินที่ไหนไกลหรอกครับ ก็โรงอาหารในมหาลัยนั่นแหละ จากนั้นก็แยกกัน
ผมกลับมาตึกพัก กะว่าจะนอนหลับสบายๆซักหน่อย แต่พอมาถึงในห้อง ดันมีคนนั่งหน้ามุ่ยเหมือนจะรอผมอยู่นานแล้ว
“ พี่คิม ” ไอวินครับ
“ มีอะไรวะ ไอเดย์ล่ะ ”
“ พี่คุยอะไรกับมันหรือปล่าว วันนี้มันทำผมเสียหน้ามาก ”
“ ปล๊าว ใครพูดอะไร ” เห็นมันทำหน้าจริงจังแล้วไม่กล้าพูดความจริงอะ
“ จู่ๆมันก็ทำมาสนิทกับผม นั่งชิดอย่างกับจะเข้าสิงผม วันนี้แฟนผมงอนเลยรู้ปะ ”
“ แฟนมึงงอน ทำไมไม่ไปง้อล่ะ กูนึกว่ามึงมาหาไอเดย์นะเนี่ย ” ไอวินสะดุ้งนิดนึง ร้อนตัวซะงั้น
“ ผม ...... ผมอยากมาเคลียร์กับมันนั่นแหละ ”
“ จะเคลียร์เรื่องอะไรวะ ”
“ พี่อย่าทำเป็นไม่รู้ได้ปะ ” มีเหวี่ยงๆ
“ คนมันจะชอบ มึงจะห้ามเค้าได้ไง ไม่ดีหรือไง มีคนชอบเยอะๆอะ ”
“ มันเหมือนกันที่ไหน ” ดูท่าจะได้เคลียร์ยาว เพราะไอเดย์ยังไม่กลับมาที่ห้องเลย ผมขอไปอาบน้ำก่อน แล้วถึงมานั่งคุยกับมันต่อ
“ วันนี้ ผมหนักใจจริงๆนะพี่ ไอเดย์มันน่ารำคาญกว่าทุกครั้ง แฟนผมก็รับไม่ค่อยได้ด้วย ”
“ เวลาผู้หญิงมาข้องแวะกับมึง แฟนมึงหึงมะ ” ไอวินทำท่าคิดแปบนึง
“ ไม่นะพี่ ”
“ แฟนที่ว่าเนี่ย คนในคณะมึงปะ ”
“ รุ่นน้องไงพี่ ” ผมนึกถึงวันที่มันไปทำกิจกรรมนอกสถานที่เมื่อนานมาแล้ว ที่ไอเดย์จูบปากไอวินโชว์ชาวบ้านอะครับ
“ กูว่าเค้าไม่ได้หึงไอเดย์หรอก แฟนมึงคงกลัวใจมึงมากกว่า ”
“ หมายความว่าไงพี่ ”
“ เค้าอาจจะมองออกว่า บางทีมึงแคร์ไอเดย์มากกว่าเค้า เหมือนตอนนี้อะ เวลาพูดถึงไอเดย์นะตามึงตกมากนะ ”
“ เกี่ยวอะไรกับตา ” มันคงไม่รู้สึกตัวครับ ผมอยากบอกมันมากกว่านี้ แต่ผมตั้งมั่นกับตัวเองไว้แล้ว ว่าจะไม่ไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน เท่าที่จะอดใจได้
“ หาคำตอบให้ตัวเองเหอะ พี่ไม่อยากพูดละ ”
“ จะบอกว่าผมชอบมันใช่ไหมพี่ ”
“ คือว่า ........ ”
“ มึงไม่ได้ชอบกู มึงไม่ใช่เกย์ บอกพี่เค้าไปซิ อ้ำอึ้งทำไม คิดว่ากูไม่อึดอัดหรือไง ” จู่ๆไอเดย์ก็โผล่เข้ามา
“ ไอเดย์ ......... ”
“ มึงอยากให้กูเลิกคิด มึงช่วยกูให้หยุดทีดิ เพื่อนกันน่ะ ” ทำไมคำนี้มันคุ้นๆจังวะ เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
“ กูให้มึงได้แค่คำว่าเพื่อน เกินนี้กูให้ไม่ได้ ”
“ ให้ไม่ได้มึงก็บอกเลยสิ พูดเลยว่าเกลียดกู ” ชักไปกันใหญ่แล้วนะผมว่า
“ เออ กูเกลียดมึง สะใจไหมไอเชี้ย ”
“ สะใจสิวะ กูขอต่อยแม่งหมัดนึงเหอะ ”
“ มาเลยเว้ย ” จากนั้นมันสองคนก็กระโดดสวนหมัดกัน ผมต้องรีบห้ามมันสองคนไว้ แรงของไอเด็กสองคนนี้น้อยนิดเดียวเองครับ ผมเลือกห้ามไอเดย์เพราะมันดูจะเอาจริงกว่าไอวิน
“ ต่อไป เพื่อนกูก็ไม่ให้มึง ไอสันดาน ” ไอวินด่าก่อนจะเดินกลับ
“ อย่างกับกูอยากได้นักแหละ ไอปากแข็ง ” ไอเดย์ด่าสวนอีก พอไอวินเดินออกไป ไอเดย์ก็เดินกลับมานั่งที่เตียง
“ มึงทำบ้าอะไรวะเดย์ ตกลงไม่เอาแล้วใช่ไหมวะ ยอมแพ้แล้ว ”
“ ไม่สั่งสอนแม่งไม่รู้ตัวหรอก มันโง่จะตาย ” ดูมันคิดดิ
“ กูว่าจะหนักขึ้นนะ มึงทำให้แย่ลงกว่าเดิมอีก ” ไอเดย์หันมาจ้องหน้าผม
“ แล้วพี่กับพี่ดิษคบกันได้ไง พี่ดิษไม่ได้ทำแบบนี้เหรอ ”
“ อย่าบอกนะว่ามึงปรึกษาไอดิษมา ”
“ ไม่อะ ผมมองว่าพี่บื้อพอๆกับไอวิน โอ้ยยยย ทำไมชอบถีบจังวะพี่ ” ว่ากูบื้อไม่ให้ถีบได้ไง
“ ขอให้คิดถูกแล้วกัน ”
“ ถูกไม่ถูก อย่างน้อย ผมก็ทำตามใจตัวเองไปแล้ว ..... ข้าวไหมพี่ กะซื้อมาให้ไอวิน มันคงไม่กลับมากินแล้วล่ะ ”
“ อิ่มแล้ว ” มันยักคิ้ว แล้วเอาข้าวออกไปนั่งกินข้างนอก
สองสามวันต่อมา พี่หมอกริชนัดผมไปนั่งประชุมกับทีมงาน โดยที่จะแวะมารับที่มหาลัย ผมไม่ได้โทรบอกไอดิษเพราะเห็นว่าไม่น่าจะมีเรื่องอะไร
“ ดีครับพี่กริช รถสวยนะพี่ ” พี่กริชขับรถมารอรับผมที่ถนนฝั่งตรงข้าม ใส่แว่นดำหล่อลากถนนมาเชียว
ผมน่าจะยังไม่เคยบรรยายลักษณะของพี่หมอกริช พี่กริชรูปร่างผอมมาก สูง แต่ก็ขาวมากด้วย ถ้าให้เปรียบเทียบ ก็ต่างจากไอดิษแบบตรงกันข้ามเลยทีเดียว ทีเหมือนกันนิดนึงตรงที่ หน้าเข้มๆ เป็นเจ๊กผ่าเหล่าอะครับ
“ กินข้าวกันก่อนไหม ” พี่กริชถาม
“ ไปประชุมก่อนก็ได้ครับ ”
“ ว้า งั้นต้องรอนานนะ ประชุมตั้งสองทุ่ม ”
“ งั้นทำไมพี่นัดผมเรียกจังครับ ”
“ เอาตามมารยาทหรือตามความจริง ” เอาอีกละ พี่กริชนี่ชอบทำหน้าชวนฝันอะครับ
“ ทั้งสองอย่างเลยครับ ”
“ พี่อยากต้อนรับ แต่ความจริงพี่อยากคุยกับคิมนานๆน่ะครับ ” ตรงมากนะเนี่ย
“ ......... ” พูดไม่ออกเลยกู
“ พี่ยังไม่มีแฟนนะ คิมมีหรือยัง ”
“ เอ่อ ..... ”
“ ความจริงพี่ไม่อยากรู้ มีหรือไม่ ไม่ได้สำคัญนี่เนอะ ” พี่กริชนี่ ไม่หยุดทำให้ใจของผมเต้นแรง ยิ่งเจอกัน ผมยิ่งรู้สึก ....... รู้สึก ...... รู้สึกแปลกขึ้นทุกที
*****************************************************