เหนื่อยนะ เหอะๆๆๆ
*******************************************
ช่วงสอบของเทอมนี้ ผมกับเพื่อนๆหลายคนเริ่มเจอปัญหาความเครียดรุมเร้าครับ เพราะยากพอสมควร และไหนจะมีกิจกรรมเข้ามาทำให้วุ่นวายเข้าไปอีก แต่ก็ผ่านกันไปได้
“ ดิษ ไปไร่กันเหอะ พ่ออยากเจอ ”
“ แม่ของน้องเป็นยังไงบ้าง ” มันยังมีอารมณ์ถามถึงอีก
“ ปกติดี ไม่ป่วยไม่ไข้ ”
“ หมายถึงเรื่องของเราน่ะ ความรู้สึกแม่ของคิมดีขึ้นไหม ” เรื่องนี้ก็อยู่ในใจของผมทั้งสองคนตลอดเวลา
“ ไม่รู้ แล้วพ่อของแกล่ะ ” ช่วงหลังๆนี้แทนตัวเค้าเพราะหน่อยครับ
“ ไม่รู้เหมือนกัน พี่ไม่ค่อยได้คุย ที่จริงไม่เจอกันด้วย ” เหมือนแค่หลบปัญหาเฉยๆนะผมว่า
“ เรื่องไปไร่ล่ะว่าไง ”
“ ไปสิ น้องสอบเสร็จแล้วก็ไปกันเลย ” พอตกลงเรียบร้อยก็วางสาย ผมเดินลงไปหาพวกเพื่อนๆ ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่เลยครับ ส่วนมากกลับบ้านไปแล้ว เหลือแค่ไอเด็กวินกับไอเดย์
“ พี่จะไปไร่เหรอพี่ ไปด้วย ” ไอเดย์ตอบรับทันทีที่ผมบอกมันครับ
“ จะดีเหรอ คราวก่อนไม่ค่อยน่าไว้ใจนะ ” คราวที่ผมบอกทางบ้านว่า ผมเป็นแฟนท่านวากดิษนั่นแหละ พวกมันอยู่ด้วย อาจจะกลับแม่ผมอะครับ
“ ปอดไปได้ พี่คิมอยู่ทั้งคน ” ดีมากดิษน้อย
“ ก็พี่คิมอยู่ไง ถึงกลัว ” เออ
“ สรุปไปไหมวะ ”
“ นอกจากลุ้นเรื่องพี่สองคน บ้านพี่มีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ” ไอเดย์ถามมาอีกครับ
“ ช่วงนี้มีงานวัด มั้ง ” เดาเอานะครับ หุหุหุ
“ พี่ๆคนอื่นไม่ไปด้วยเหรอครับ ” ไอวินถามผมบ้าง
“ มันคงไม่ว่างกันหรอก เปิดเทอมหน้าก็ฝึกงานกันแล้ว ต่างคนต่างมีภาระ ”
“ แต่พวกผมไม่มีว่างั้นเถอะ ” ไอดิษน้อยนี่มันจะกวนผมอีกนานไหมเนี่ย
“ ไป หรือ ไม่ไป ” ยื่นคำขาดแม่มเลย
“ ไปก็ได้ครับ ” ไอเดย์น่ะคงไปอยู่แล้วครับ เพราะมันติดหนี้ผมเรื่องไอวิน ส่วนไอวินก็จะไปด้วย ผมบอกเวลาให้พวกมันเตรียมตัว พรุ่งนี้ผมจะออกเดินทางกันครับ
“ จะกลับบ้าน ทำไมต้องกลับล่ะ ” พี่โจตอนนี้ยังไม่ได้ออกไปไหนครับ ยังวนๆกลับมาหาน้องๆ ส่วนนึงเพราะเค้ามีธุรกิจของพ่ออยู่แล้ว ที่มาเรียนคงแค่ปูพื้นความรู้
“ พ่อบอกให้กลับอะพี่ ไม่ได้บอกตรงๆหรอก ” ผมมานั่งอยู่ใต้ถุนตึกครับ ลมเย็นดี
“ พี่ว่า ร้ายมากกว่าดีแหงๆเลย ”
“ ทำไมว่างั้นอะพี่ ” พี่โจกับพี่นากนี่คืบหน้าถึงขนาดใส่แหวนกันแล้วนะครับ กล้ากว่ากูอีก ฮ่าๆๆ
“ สอบกลางภาค หยุดแค่สิบวันนิดๆ คิมก็มีงานต้องตามอยู่ พ่อคิมน่าจะรู้ แต่เรียกกลับไปหาคงมีเรื่องด่วนมั้ง ” ถึงจะลงท้ายว่ามั้ง แต่พี่โจมั่นใจผิดปกตินะ
“ มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอพี่ ”
“ ไม่หรอก แต่เชื่อมั่นพี่ดิษหน่อยแล้วกัน ” พี่โจยิ้มๆให้ แล้วเดินไป เอาวะ สู้ๆ
คืนวันนั้น ก่อนนอน ก็มีคนโทรมาหาผมอีกคนนึงครับ
“ สวัสดีครับพี่หมอ ” พี่กริชเองครับ
“ เต็มยศเชียว เป็นยังไงบ้าง ไม่โทรหาพี่บ้างเลย ” ดูพูดดิ เดี๋ยวก็เคลิ้มซะหรอก
“ ช่วงนี้ยุ่งๆอะครับพี่ พี่สบายดีใช่ปะครับ ”
“ งานเยอะเหมือนกัน พอดีเห็นข้าวกล้องมาหาแม่ที่โรงพยาบาล บอกว่าจะไปบ้านคิม พี่อยากไปซักครั้ง ไปได้ไหม ”
“ หมองานยุ่งจะตายจะไปได้เหรอครับ ” แอบเป็นห่วงครับ
“ อันนั้นพี่หาทางเอง ไปกันพรุ่งนี้ใช่ไหม ”
“ ใช่ครับ ผมจะไปรถพี่ดิษ มีน้องไปด้วยสองคน ”
“ น้องสองคน เดย์กับวิน ใช่ไหม ให้สองคนนั้นไปกับพี่ก็ได้นะ พี่จะพาแบงค์ไปด้วย ” ชักจะออกหน้าออกตากันใหญ่ละคนพวกนี้
“ ครับ พรุ่งนี้เจอกันครับ ” ผมกดวางสาย เริ่มใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย ตรงที่มีคนไปด้วยหลายคน ไอเดย์คงไปนอนที่ห้องไอวิน ผมนอนคนเดียวครับ
เช้าวันต่อมา พวกเราเดินทางไปที่ไร่ของพ่อผม ตลอดทางไอดิษพูดเรื่องต่างๆนาๆ รวมเรื่องไร่ของมันด้วย แต่มันไม่ค่อยพูดถึงเรื่องทางบ้าน คงกลัวผมคิดมาก
ประมาณสองชั่วโมงนิดๆก็มาถึงที่หมาย เพราะท่านวากดิษกับคุณหมอกริชเล่นเหยียบคันเร่งไม่ค่อยผ่อนเลย
“ อ้าว มากันไวจังพวกนี้ ” พวกผมจอดรถที่หน้าไร่ตรงโรงอาหาร แต่ครั้งนี้เป็นพ่อของผมที่มารับ
“ สวัสดีครับ ” ไอพวกนั้นสวัสดีพ่อของผม
“ พวกเอ็งมาเป็นคู่ๆนี่ .......... ใช่มะ ” คงถามทำนองว่าแฟนกันใช่มะ เหอะๆๆ
“ ครับพ่อ ” ผมตอบเอง พ่อผมก็ยิ้มๆนิดหน่อย แล้วให้พวกผมไปพัก
“ ไหนว่าพ่อพี่อยากให้มาไง ไม่เห็นมีอะไรนี่ ” ไอวินถามผม
“ ไม่รู้ว่ะ ” ตอบตรงๆครับ
“ แม่ของคิมยังไม่มาเลย เราไม่รู้หรอกน่า ” ไอแบงค์พอรู้มานิดหน่อยครับ เลยบอกพวกนั้น
“ งั้นเราไปเที่ยวกัน ” ไอดิษพาพวกเราไปหาที่เที่ยวกัน ก็ไม่ได้ไปไหนไกลหรอกครับ อำเภอบ้านนอกแบบนี้
ผมผิดคาดนิดหน่อยครับ เพราะตอนแรกผมกลัวว่าไอเดย์กับไอวินอาจจะไม่ชอบเที่ยวแบบนี้ แต่กลายเป็นว่ามันชอบซะอีก พอได้ยิงปืน ปาลูกดอก มันสนุกสนานกันใหญ่เลยครับ ส่วนพี่หมอกริชกับไอแบงค์ก็แยกกันไปเดินอีกทาง จากนั้นเย็นๆเราก็กลับมาที่ไร่
“ อืมมมม รถคุ้นๆว่ะ ” ไอดิษอุทานออกมา
“ ไม่คุ้นได้ยังไง รถ ผ.อ. ”
“ แม่กูเหรอ มาทำไมล่ะ ” ผมเริ่มนึกไปถึงพ่อผมเลยครับ
“ เราเข้าไปกันเหอะ พวกเราอยู่ข้างนอกนี่ก็ได้นะ เดี๋ยวกูกับดิษกลับมา ” ผมบอกไอน้องสองคน
“ อย่างน้อยพี่มาแล้ว พี่ไปด้วยดีกว่า ” พี่หมอกริชอาสาไปด้วยกันครับ
“ ให้กริชไปด้วยเหอะ ” ตกลงกันได้ ผมสามคนก็เดินมาที่เรือนใหญ่
พอมาถึงเรือนใหญ่ ทำเอาผมทั้งอึ้งทั้งเสียวสันหลังเลยครับ เพราะคนที่อยู่ที่เรือน มีทั้งพ่อและแม่ของผม มีพ่อและแม่เลี้ยงไอดิษด้วย เค้านัดกันมาเหรอ แล้วจะมาคุยเรื่องของผมหรือปล่าว
“ คิมมาสิลูก ” แม่ของผมเรียก พี่หมอส่งสัญญาณให้ผมกับไอดิษไปกันแค่สองคน
“ มาก็ดี มาตกลงกัน ”
“ ตกลงอะไร ” ไอดิษพูดกับพ่อของมันครับ
“ ให้แกเลิกยุ่งกับลูกแม่เลี้ยง ” ไอดิษยืนกัดฟันกรอดๆเลยครับ
“ ที่ให้มา ไม่ได้มาบอกให้มึงสั่งลูกมึงนะ ” พ่อผมเริ่มอัดพ่อท่านวาก
“ พ่ออย่าไปขัดเค้าสิ ” แม่ผมคงจะเข้ากับพ่อไอดิษไปแล้ว
“ มึงถามลูกมึง เหมือนที่กูถามลูกกูซิ ” พ่อผมพูดต่อไป
“ พ่อถามของพ่อคนเดียว ” มันจะทะเลาะกันเองซะก่อนมั้งเนี่ย
“ ผมอยากให้ลูกมีความสุข ผมเลยให้เค้าเลือกชีวิตของเค้า ”
“ มึงแน่ใจได้ยังไง ให้สองคนไปตามทางดีกว่า ” พ่อท่านวากค้านพ่อผม ส่วนแม่เลี้ยงท่านวากดิษดูจะนิ่งๆ
“ ตามทาง ก็ทางของมันสองคน ”
“ ผมรู้ว่าที่ผมสองคนทำไม่ถูกต้อง เพราะมันไม่ใช่เรื่องปกติ แต่ผมต้องการแบบนี้จริงๆครับ ” ไอดิษขอพูดบ้าง
“ มึงไม่เคยถามความต้องการของลูกมึงเลย เอะอะมึงก็โทษมันสารพัด ไอห่า ” พ่อผมแรงขึ้นเรื่อยๆครับ
“ คุณเลิกเอาแต่ใจตัวเองบ้างเถอะนะ ” แม่ผมเถียงพ่อผมซะแล้ว ตอนนี้ผมอะโคตรอยากร้องไห้เลย
“ ผมไม่ได้เอาแต่ใจ ผมเห็นแก่ลูก ” ผมหลับตา ไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา แต่มันหยุดไม่ได้จริงๆ น้ำตาของผมค่อยๆไหลออกมาช้าๆ
“ พ่อ แม่ อย่าทะเลาะกันเลยครับ ผมทนเป็นลูกที่เนรคุณไม่ได้ ”
“ คิม ” ไอดิษพูดชื่อผมเบาๆ
“ ถ้าแม่ต้องการแบบนั้น ผมยอมรับก็ได้ครับ ” ผมพูดทั้งน้ำตา
“ บอกลูกดีๆ ลูกก็ทำตามแล้ว ” แม่ผมยังพูดต่อ
“ แต่ผมขอบอกทุกๆท่าน ว่าผมรักพี่ดิษมากจริงๆ ผมรู้ว่าพี่ดิษจะเข้าใจผม เพราะพี่ก็รักผมมากเหมือนกัน ในเมื่อพ่อกับแม่ของพวกเราไม่ยอม ผมก็ไม่อยากให้สองฝ่ายต้องทะเลาะกันครับ ” ไอที่พูดๆนี่ น้ำตาไหลพรากเลยครับ แม้แต่ไอดิษเองก็ปาดน้ำตา
“ พอใจกันหรือยังคะ เชิญทนดูน้ำตาลูกๆกันเถอะ ดิชั้นไม่เอาด้วย ” แม่เลี้ยงของท่านวากดิษโพล่งขึ้นมา ทำเอาทุกคนนิ่งไปเลยครับ
“ คุณจะทำอะไร ”
“ ผ่านๆมา ชั้นคิดว่าคุณจะปรับตัวเพื่อลูก แต่วันนี้คุณก็ยังเหมือนเดิม ทุกครั้งชั้นทนได้ แต่ครั้งนี้ คุณทำกับลูกเกินไป ชั้นจะไปอยู่ที่อื่นจนกว่าคุณจะคิดเพื่อลูกบ้าง ”
“ คุณ คุณ ” พ่อท่านวากรีบวิ่งตามแม่เลี้ยงไป ตอนนี้คนที่อึ้งคือแม่ผมครับ
“ คุณก็คงพอใจนะ ผมขอไปอยู่ไกลๆซักพัก ” พ่อของผมลุกไปอีกคน ตอนนี้เหลือแค่ผม ท่านวากดิษ และแม่ของผม
“ ทุกอย่างกำลังแย่ลงนะ ”
“ ผมทำตามที่แม่ต้องการแล้วนะครับ ” ผมพูด
“ ทำไมไม่ค่อยเป็นค่อยไป ทำไมจู่ๆถึงจะเลิกกัน ”
“ แม่เลี้ยงน่าจะค่อยๆดูพวกผมบ้างนะครับ เพราะจู่ๆแม่เลี้ยงก็สั่งให้ผมเลิกกัน ผมขอตัวนะครับ คิมไปกับพี่ไหม ”
“ แม่ ผมขอตัวก่อนครับ ” ผมกราบที่พื้น แล้วเดินออกมาจากที่ตรงนั้น
เรื่องที่เพิ่งผ่านมา เหมือนกับฝันไปเลย เลวร้ายกว่าที่ผมคิด แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะครับ ทำไมต้องกลายเป็นว่าเดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยก็ไม่ได้แบบนี้
“ อาการน่าเป็นห่วง ” พี่หมอกริชพูดหลังจากที่ผมมาที่เรือนแล้ว
“ แข็งใจหน่อยนะ ร้องไห้ก็ได้ถ้าต้องการ ” ไอแบงค์บอกผม เชื่อปะครับ ผมร้องไห้ทุบพื้นทุบไม้จนไอดิษต้องมาลากมากอด พอผมพอจะตั้งสติได้ ก็เห็นไอวินร้องไห้อิงไหล่ไอเดย์อยู่
“ เป็นเราคงร้องเหมือนคิม แต่เราไม่เหมือนคิมตรงที่ เราไม่มีใครที่เข้าใจเลย ” ไอแบงค์พูดขึ้นมา ทำให้ผมได้คิด
“ แบงค์ มึงอยู่ได้ยังไง ” เรื่องไอแบงค์คร่าวๆคือ พ่อกับแม่ รวมถึงทางบ้านไม่รับมันเลยครับ ไม่รับที่มันเป็นเกย์ และยังผลักไสออกไปไกลๆไม่อยากให้เสียถึงวงศ์ตระกูลมันครับ
“ เราเหรอ ก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่ทำไปวันๆ ”
“ คิม พี่ขอถามหน่อยนะ ” พี่กริชถามบ้างครับ
“ คิมจะเลิกกับดิษจริงๆเหรอ ”
“ จริงครับ ” ไอดิษมองผมตาละห้อยเลย
“ แล้วตอนนี้ล่ะ ”
“ ไม่แล้วครับ ” ผมกอดไอดิษตอบครับ
คืนนี้ ไม่แค่ท้องฟ้าไม่มีดาว แต่เรือนใหญ่ก็ไม่เปิดไฟ ไร่ของผมหมองลงไปพอสมควรเลยครับ
“ ดิษ เราเอาไงดี ” ผมหนีพวกนั้น มานั่งที่ระเบียงครับ
“ คบก็ยาก เลิกก็ยากมาก ”
“ เราทนกันต่อไปดีปะ ” ไอดิษยิ้มให้ เรากอดกันอยู่ที่ระเบียง
“ เฮ้ยพี่ๆๆๆ ” ไอเดย์มันวิ่งมาเขย่าบันไดที่ผมขึ้นมา
“ มีอะไรขึ้นมาเด้ ” ผมผละกับไอดิษครับ อายมัน เหอะๆๆ
“ ไม่เอา กลัวความสูง ” เจริญล่ะ
“ มีอะไรล่ะ ”
“ แม่ของพี่อยู่หน้าเรือน ลงมาเดี๋ยวนี้เลย ”
“ ดิษ คุยดีไหมวะ ” ผมหันไปถามท่านวาก
“ คุยสิ ลองดู พี่เอาใจช่วยนะ ” ผมหายใจลึกๆ ก่อนจะลงมาคุยกับแม่
***************************************************
จดหมาย ท่านวาก ฉบับสอง ใกล้เสร็จแล้วล่ะ อ่านไปยังงงเองครับ มันแอบตามผมมานานกว่าที่คิดนะ แฮะๆๆๆ
ขอโทษที่หายไปหลายวันมากมาย คิดถึงนะครับ จุ๊บๆ