มาต่อแล้วนะครับ
***************************************************
พอผมยื่นใบสมัครที่โต๊ะหน้าห้อง ผมก็กะว่าจะเดินไปบอกท่านวากดิษว่าจะกลับก่อน ค่อยมาทีหลัง แต่ดันมีคนเรียกชื่อจริงของผมซะก่อน
“ คุณ ......... คะ ”
“ ครับ ” ผู้หญิงคนที่เรียกผมยิ้มๆ
“ เชิญสัมภาษณ์ค่ะ ”
“ ห๊ะ .... ” ผู้หญิงคนนั้นดูจะสะใจเป็นพิเศษครับ ที่ได้เห็นหน้าเหวอสุดๆของผม
ผมเดินมาอยู่หน้าห้องของคนที่มีตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบุคคล พลางคิดไปว่า ทำไมกูต้องมาถูกสัมภาษณ์ตอนนี้ด้วยวะ กูไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเลยนะเนี่ย และเคยฟังจากพี่ๆพูดกันต่อๆมาว่า พวกฝ่ายบุคคลนี้เขี้ยวมาก ดุมากด้วย
“ ไม่ต้องเกร็งมากก็ได้นะคะ ” ยังมีหน้ามาปลอบกูอีก ฮึ่มมมม
“ คือ พี่ ..... ผมแต่งตัวไม่เรียบร้อย ทำไมถึงเรียกสัมภาษณ์เลยล่ะครับ ”
“ ที่นี่ทำงานเกี่ยวกับเกษตร การแต่งกายไม่ใช่เรื่องต้องพิถีพิถันหรอกจ้ะ ” เหอะ พูดง่ายนิ
“ ครับ ” พักนึงเค้าก็ให้ผมเข้าห้องประหาร เหอะๆๆ
“ สวัสดีครับ ” พอเข้ามาก็ต้องตกใจนิดหน่อยครับ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่ว่า ยังดูสาวๆอยู่เลย น่าจะรุ่นๆผมนี่แหละ อาจจะอายุมากกว่าไม่กี่ปี
“ เชิญค่ะ ” ผมไม่รู้ต้องทำยังไงบ้าง ก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้
“ จบจากมหาลัย ........ ผลการเรียนดีมากนะคะ ”
“ ครับ ” เค้านั่งพลิกๆสองสามหน้าแล้วปิดแฟ้ม
“ เป็นรุ่นน้องของดิษเหรอจ้ะ ” เอ้า
“ อ๋อๆ ครับ เป็นรุ่นน้องสองรุ่น ”
“ จำพี่ได้ปะ ” ทีแรกผมนั่งก้มหน้า หลบตานิดหน่อย พอเค้าพูดออกมาแบบนี้ ผมเลยต้องเงยหน้ามองครับ
“ เอ่อ ขอโทษครับ ไม่คุ้นเลย ”
“ เดี๋ยวนะ ........ อ่อใช่ พี่จบปีที่เราเพิ่งเข้านี่นะ ” แสดงว่าเป็นรุ่นพี่ผมสิ
“ ครับ ”
“ พี่คบกับดิษช่วงที่เรียนด้วยกันน่ะ ”
“ ครับ ” แล้วมาบอกกูทำไมวะ
“ ความจริงดิษเค้าบอกพี่มาหลายครั้งแล้วว่า อยากให้น้องมาทำงานด้วย จะได้ช่วยกัน พี่เลยอยากเห็นหน้าเรา ” เริ่มจะไม่ค่อยถูกชะตากับเจ๊คนนี้แล้วสิครับ
“ เอาเป็นว่า เดี๋ยวพี่จะคุยกับดิษอีกทีว่าจะให้ทำงานตรงไหน ...... เที่ยงนี้ดิษเค้านัดกินข้าวน่ะ พี่จะคุยกับเค้าอีกที ” พอได้ยินประโยคนี้ อารมณ์เริ่มจะไม่ดีแล้วครับ เสร็จการสนทนา ผมยกมือสวัสดีแล้วออกจากห้อง
ทำไมดิษไม่เห็นเล่าให้ผมฟังเลยว่า มีผู้จัดการสาวสวย อดีตแฟนมาทำงานด้วยกัน ไหนจะท่าทางอายๆตอนพูดถึงดิษอีก ตกลงเค้าสองคนมีอะไรกันหรือปล่าว พอออกจากห้อง ผมลองโทรไปหาดิษ
“ ดิษอยู่ไหน ”
“ ทำไมเสียงดุแบบนั้นเล่า โมโหใครมาหรือปล่าว ” โมโหมึงนั่นแหละ
“ ถามว่าอยู่ไหน ”
“ ก็อยู่ที่ทำงานไง จะไปไหนได้ ..... หรืออยากได้ยินว่าอยู่ในใจน้องล่ะ ” ยังมีอารมณ์ล้อเล่น หึหึหึ
“ ไปกินข้าวกับปะ เที่ยงแล้ว ”
“ ......... ” เงียบครับ
“ ไม่หิวเหรอหรือนัดใครไว้ ” ผมถามจี้เลยครับ
“ ไม่มีนี่ พี่นัดลูกค้าไว้ต้องออกไปกินกับเค้า ” เหอะๆๆ ดูมันดิครับ
“ โอเค งั้นค่อยเจอกันนะ ” ผมกดวางสาย จากนั้นมันโทรกลับมาเหมือนกัน แต่ผมไม่รับครับ
ผมกลับมาถึงห้องพัก เริ่มคิดมากเรื่องของพี่คนนั้นกับวากดิษ เคยเป็นแฟนกันมาก่อนจริงๆเหรอ ทำไมดิษไม่เคยพูดถึงมาก่อน และผมก็ไม่เคยได้ยินคนอื่นๆเล่าให้ฟังเลย สงสัยต้องสืบซะแล้วครับ
ผมโทรไปหาพี่โจ เพราะคิดว่าพี่โจน่าจะสนิทกับวากดิษมากกว่าใครๆ
“ ว่าไงคิม ”
“ พี่โจอยู่ไหนครับ ”
“ พี่มาอยู่แถวมหาลัยนี่แหละ มีอะไรเหรอ ” พอดีเลย
“ ผมอยากคุยกับพี่หน่อยครับ ”
“ ได้สิ เจอที่ ....... นะ ” ผมรีบออกไปตามที่นัดหมายทันทีครับ หึ ป่านนี้สองคนนั้นคงนัดกินข้าวรื้อฟื้นความหลังกันอยู่สิ โว้ยๆ เซ็งโว้ย
“ หืม พูดถึงใครนะ ” พี่โจมากับพี่นากครับ สองคนนี้พักนี้ตัวติดกันตลอดเลยอะ
“ ดิษเคยคบกับรุ่นพี่ไหมครับ ” ผมถามพี่สองคน
“ รุ่นพี่ ไม่เคยได้ยินนะ ” พี่โจบอก
“ เดี๋ยวนะ ...... เหมือนมันเคยพูดถึง มีอยู่คนนึง ”
“ มีด้วยเหรอนาก พี่ดิษจะคบคนแก่เหรอ ” พี่โจพูดซะเห็นภาพเลย
“ ไม่ใช่นะ ดิษมันเคยแอบชอบน่ะ ”
“ จริงอะพี่ ” ผมใจหายนิดหน่อยครับ เพราะเท่าที่ผมรู้ ดิษไม่เคยแอบมองใครเลยนอกจากผม
“ คิมอย่าคิดมากเลย ดิษไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ” พี่นากคงเห็นหน้าของผมอะครับ
“ แล้วพี่ดิษกับคนที่ว่านี่เป็นมายังไงนาก ”
“ คือแบบนี้นะ ......... ”
พี่นากเล่าให้ผมฟังว่า ตอนที่ดิษเข้ามาใหม่ๆ ก็เริ่มรู้จักกับพี่นาก ช่วงนั้นสองคนสนิทกันมาก อาจจะเป็นเพราะสองคนนี้มีรสนิยมเหมือนกันด้วย พี่นากบอกว่า ดิษมีคนมาชอบพอสมควรแต่ดิษไม่สนใจแม้แต่จะคุยด้วยซ้ำ พี่นากถึงรู้ตอนนั้นว่า ดิษมีคนที่ชอบอยู่แล้ว คงหมายถึงผม เหอะๆ เขินว่ะ
ช่วงนั้นมีกิจกรรมรับน้องมหาลัย ปีสองปีสามจะเป็นคนมาดูแลกิจกรรม ตอนนั้นเองที่ดิษได้เจอกับพี่คนนั้น พี่นากบอกว่าจำชื่อไม่ได้ แต่รู้ว่าดิษหน้าแดงทุกครั้งที่อยู่ใกล้เลยทีเดียว นอกนั้นดิษมันเก็บเงียบไม่มีใครรู้อีกว่า สองคนนั้นได้คบกับหรือปล่าว
“ พี่ว่าสองคนนั้นไม่ได้คบกับหรอกคิม ”
“ ทำไมล่ะพี่ ”
“ คนจะคบกับทั้งที จะปิดคนอื่นได้ยังไง นากก็บอกแล้วว่าตอนนั้นสนิทกับพี่ดิษมากนี่ ” จริงด้วย
“ แต่ดิษเป็นคนเก็บความลับเก่งมากนะ ” อ้าววว
“ นาก !!!! ” ดูพี่โจขู่พี่นากดิครับ
“ อ้าว ก็น้องถามอะ ”
“ เอาเถอะครับ เอาไว้ผมจะถามมันอีกที ” ผมบอกพี่ๆทั้งสองคน พอคล้อยหลังพี่สองคนก็ซุบซิบๆแล้วอมยิ้มให้ผม ไม่รู้เค้าอารมณ์ดีเรื่องอะไร
“ พี่สองคนยิ้มอะไรกัน ”
“ ปล่าว คุยกันดีๆล่ะ ” จากนั้นผมก็เดินกลับมาที่หอพักอีก
ช่วงค่ำดิษกลับมาที่หอพัก วันนี้มันดูหงอยๆไม่ค่อยกล้าคุยครับ ผมก็เอาแต่เงียบไม่คุยกับมันเหมือนกัน
“ ทำไมตอนกลับไม่ไปหาพี่ที่ห้องทำงานก่อนล่ะ ...... โทรหาก็ไม่รับ ”
“ เห็นว่าต้องไปกินข้าวกับลูกค้า ไม่กล้ารบกวนท่านครับ ” วากดิษรีบเดินมาหาผมอย่างรวดเร็ว
“ พี่เป็นห่วงนะ ” ชิชะ
“ อืม ”
“ ทำไมดูอารมณ์ไม่ค่อยดีล่ะ ใครทำให้โกรธเหรอ ” มึงอะ เหอะๆๆ
“ ไม่มีหรอก ”
“ พี่คุยกับฝ่ายบุคคลแล้วนะ เค้าจะให้คิมไปช่วยเค้าก่อน ”
“ ใครเหรอ ชื่ออะไร ” พอได้ยินผมถาม ดิษขมวดคิ้ว
“ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลไง ” เหอะ ท่าทางมันอยากปิดผมนะ
“ คงจะแก่น่าดูเลยสิ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลน่ะ ”
“ .... ก็ไม่แก่หรอก ” ยิ่งเห็นมันทำแบบนี้ ผมรู้สึกเครียดบอกไม่ถูกเลยครับ ไม่เคยเป็นมาก่อนจริงๆ
“ เราไปกินข้าวกันเถอะ ” ผมพยายามไม่คิดเรื่องนั้นนะครับ แต่ก็อดไม่ได้ ดิษทำงานที่นั่นมาร่วมปีแล้ว หลังจากทำงานที่นั่น ดิษก็ดูสบายใจขึ้น เฮ้อ คงไม่มีเรื่องอะไรเกิดลับหลังผมหรอกนะ
รุ่งเช้า ผมยังไม่ได้เข้าทำงานนะครับ จะเริ่มทำงานในสัปดาห์หน้า ช่วงนี้เลยไปหาพบปะน้องๆที่ยังเรียนกันอยู่ ผมเลือกไปหาไอวินกับไอเดย์
“ พี่นี่แปลกคนเนอะ ” พอเจอหน้ากัน ไอเดย์มันก็พูดจาแปลกๆครับ
“ แปลกยังไง ”
“ ตอนพี่อยู่หอใน พี่ไม่ค่อยมาเจอพวกผม พอออกนอกมหาลัยดันอยากคุย ” ไอนี่ก็ยังคงความกวนทรีนไม่ลดลงเลยครับ
“ พี่มีอะไรหรือปล่าวครับ เห็นท่าทางเครียดๆ ” ไอวินน้องรักถามผม
“ นิดหน่อยน่ะ ”
“ ไม่นิดหรอก เห็นหน้าก็เดาได้ ” ไอเดย์นี่รู้ดีจริงๆ
“ คืองี้ ............ ” ผมก็นั่งเล่าเรื่องคร่าวๆให้ฟัง เพราะรู้ว่ามันสองคนเชื่อใจได้ครับ หลังจากฟังจบ มันสองคนก็เอาแต่นั่งเงียบ
“ มึงทำอะไรไอเดย์ ” ไอเดย์มันเอามือมาโบกๆตรงหน้าผม
“ จะดูว่าพี่เบลอหรือปล่าว สมองโอเคไหมไง ”
“ อะไรของมึงวะ ”
“ พี่ไม่รู้ตัวเองเหรอครับพี่ ” ไอวินพูดขึ้นมาอีก
“ หมายความว่าไง ”
“ พี่หึงพี่ดิษอะ ”
“ ไม่ใช่ละ พี่จะหึงมันทำไม พี่แค่คิดว่า ........ ” พอจะพูดประโยคนี้ ดันอายขึ้นมาซะงั้นกู
“ ไม่น่าเชื่อนะเนี่ย พี่หึงพี่ดิษด้วย พี่แกรู้คงจุดพลุฉลองแน่ ”
“ เว่อร์ละเดย์ ใครก็หึงกันได้ ”
“ ตะเองก็เคยหึงเค้าใช่ปะ ” ดูมันสองคนคุยกัน น่ารักตายห่ะ เหอะๆๆ
“ พี่คุยกับพี่ดิษสิครับ อาจจะไม่เป็นอย่างที่พี่คิดก็ได้ ”
“ ใช่พี่ วินพูดถูก ถ้าผมรู้ว่าแฟนผมทำงานกับคนที่แฟนผมเคยชอบมากๆ ผมก็หวั่นไหว คงจะหึงแบบพี่ ”
“ หยุดพูดคำว่าหึงซะทีดิวะ ” ผมตวาดใส่ไอเดย์
“ อะไรเนี่ย ตัวเองหึงเอง มาดุคนอื่น ” ผมลุกขึ้นไล่เตะไอเดย์เลยครับ จังหวะที่ผมกำลังไล่กวดมันอยู่ ก็มีข้อความมาถึงผม ผมเลยหยุดแล้วเปิดดูโทรศัพท์
“ ใครส่งมาพี่ เปิดดิๆ ” ไอเดย์รีบเดินมา
“ ....... รู้แล้วว่ารัก ขอบคุณนะคนดี ”
“ ฮิ้ววววววว ” ไอสองคนนั้นพากันหัวเราะชอบใจ ผมเดาว่าพี่โจกับพี่นากคงเอาไปเล่าให้ดิษฟัง ดิษถึงส่งข้อความมาให้ผม ไอบ้าๆๆ
“ พี่ส่งข้อความกลับไปดิ ”
“ ส่งว่าอะไร ”
“ มาเดี๋ยวผมพิมพ์ให้ ” ผมยื่นให้ไอเดย์
“ ส่งว่าอะไรดีน้า ....... รู้แล้วว่ารัก คืนนี้จัดหนักๆนะคนดี ดีไหมพี่ ”
“ ไอเชี้ยยยยยย !!!!!!!!! อย่านะเว้ย เอาคืนมาๆ ” วันนี้ผมรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย ที่ยังเชื่อใจว่า ดิษยังเหมือนเดิม แต่ลึกๆผมยังกลัวว่า ความที่สองคนนั้นใกล้ชิดกัน จะทำให้มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดกับผม เอาวะ กูจะเกาะให้ติดตัวมึงเลยท่านวากดิษ
*********************************************************
มีงานนิดหน่อยครับ อยากไปทำงานช่วงวันหยุด เก็บตังครับ เหอะๆๆ ขอโทษที่ต้องรอนานนะครับ