" บันทึกของคิม " จบเล่ม 30/04/2559 รายงานตัว เปิดเล่มใหม่ 05/10/2559
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: " บันทึกของคิม " จบเล่ม 30/04/2559 รายงานตัว เปิดเล่มใหม่ 05/10/2559  (อ่าน 1213269 ครั้ง)

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
มารอท่านว๊ากคิมท่านว๊ากดิษครับ

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
เข้ามารอน้องคิม&พี่ดิษ
 :mew4:

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
คิดถึงน้องคิม มารอทุกวันเลยยยยย  :katai5:

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
ว๊าาาาาาาาาาา..สงสัยพี่เหนื่อยเพราะทำงานวันนี้คงไม่มาแล้วมั้ง หรือว่าพี่ลืมฮะ

MangoBlue

  • บุคคลทั่วไป
เห็นขึ้นหัวข้อกำลังต่อนี่รีบมารอเลยจ้าาา  :z2:

ออฟไลน์ Nano PL

  • ขอร้อง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 869
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-7

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
อ้าว...เฮ้ย...พี่มาแล้ว55555555นึกว่าลืม555555ดีใจๆๆๆ

ออฟไลน์ KimDit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-1
สดๆร้อนๆ ออกจากโรงงานเลยอะ อ่านไปด้วยกันเลย  :mew1:
**********************************************************
เสร็จจากภารกิจที่แดนไกล ผมกับวากดิษก็กลับมาหอพัก เรามาถึงที่พักไม่นาน ก็มีคนโทรมาหาวากดิษ มันยืนคุยงุ้งงิ้งๆเหมือนพยายามไม่ให้ผมได้ยิน แล้วก็มองมาที่ผมเป็นระยะ สงสัยผมจะเป็นคนที่ถูกพูดถึงอะ
“ เออ ไปแน่ ” วากดิษวางมือถือลงแล้วยิ้มให้
“ รายงานมา ไม่ใช่เอาแต่ยิ้ม ” ผมพูด
“ เหอะ อย่ามาขู่นะ ลืมแล้วเหรอว่าพี่ก็ไม่ค่อยพอใจที่คิมทำไปเมื่อวานน่ะ ” แหม มันพูดเต็มเสียงเชียว เรื่องก็ผ่านมาตั้งหลายชั่วโมง หึหึ
“ งั้นจะเอาไง จะพูดดีๆหรือพูดด้วยน้ำตา ” ผมลุกเดินไปหามัน รายนั้นนั่งมองตาปริบๆ
“ ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลย ใจร้าย ” วากดิษตั้งท่าพร้อม แล้วเล่าให้ฟัง

เรื่องก็คือ พี่โต้งได้รับเชิญไปงานแต่งงานของเพื่อน เข้าใจว่าฐานะร่ำรวยอะครับ ผมก็เพิ่งรู้ว่างานแต่งงานคนมีตังนี่ยุ่งยากมาก แขกที่จะไปงานก็ต้องแต่งตัวไปประชันกัน
“ มันก็เลย ...... ” ผมยกมือเบรก
“ อยากให้คิมพูดเพราะๆ แล้วทำไมเรียกพี่โต้งมัน ” วากดิษคิ้วขมวด
“ เอาน่า ไม่ต้องสนใจหรอก ” แกล้งมันครับ ฮ่าๆๆ
“ อยากให้พวกเราไปด้วยเหรอ ” ผมถามต่อ
“ พ่อบอกปฏิเสธไปเมื่อวาน มัน ...... เอ่อ โต้งเลยโทรไปหาพ่อของพี่ พ่อพี่โทรหาพี่พี่ก็ไม่รับ เมื่อกี้ไอกริชเลยโทรมาหาแทน ” เรียกไอกริชอีกละ เหอะๆๆ
“ แล้วทำไมถึงต้องเลี่ยงด้วยอะ แค่งานแต่งงาน ”
“ ก็งานนี้ แจงไปด้วย ” พอพูดถึงแจงๆนี่ มือไม้มันคันๆไงไม่รู้ดิ
“ กลัวอะไรกับเค้าล่ะ ” วากดิษเอามือมากุมไหล่ของผม
“ เรื่องมันแล้วไปแล้ว เราไม่ต้องไปใส่ใจอีกหรอกนะ ” ผมสลัดมือมันออก วากดิษจ้องตาโตเลยครับ จากนั้นผมก็กุมไหล่มันแทน
“ ดูจากที่ดิษห่วงเนี่ย ไม่ใช่เลยล่ะ ”
“ ยังไงเหรอ ”
“ ถ้าเรื่องของเรากับเค้าจบจริง ทำไมเราต้องทำเหมือนหลบหน้ากันล่ะ แบบนี้เท่ากับเราแค่หนีเค้าเฉยๆมั้ง ” วากดิษนั่งคิดอยู่พักนึง ก็ตอบตกลง ดิษโทรไปหาพี่โต้งบอกว่าจะไปด้วย
“ อีกชั่วโมงไป ” ผมหันไปหาแทบไม่ทันเลยครับ ทำไมต้องแค่อีกชั่วโมง ตอนนี้มันบ่ายสองเอง งานแต่งอะไรจะแต่งกันตอนบ่าย ร้อนตายเลย
“ ดิษๆ ” วากดิษทำท่าจะถอดเสื้อ
“ เค้าแต่งกันกี่โมง ”
“ ทุ่มครึ่งเริ่มงาน ”
“ อ้าวแล้วทำไมต้องบอกว่าอีกชั่วโมงไป ไปไหนอะ ”
“ ฮ่าๆๆๆๆ ” มันยืนหัวเราะจนตัวงอเลยครับ
“ หัวเราะหาอะไรวะ ” มันพยายามกลั้นหัวเราะแล้วบอกผม
“ เดี๋ยวไปเลือกชุดที่บ้านพี่ แล้วถามพ่อพี่เอาแล้วกัน ” มันเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาแล้วลากผมออกมาจากห้อง มันหัวเราะอะไรอะ

พอมาถึงบ้าน ดิษก็ให้ผมนั่งคุยกับพ่อของเค้า อาการป่วยของพ่อวากดิษดูจะแย่ลงเรื่อยๆครับ ตอนนี้ออกงานสังคมไม่ได้แล้ว ต้องอยู่ในห้องแทบจะตลอดเวลา ร่างกายซูบผอมลงจากวันก่อนอย่างเห็นได้ชัดเลย
“ จะไปงานแต่งของ ... (ชื่อคน) เหรอ ”
“ ครับอา ” เห็นอาการป่วยแบบนี้แล้ว ใจคอไม่ดีเลยครับ
“ รู้สึกต้องไปทำผมด้วยสิ ผมเรายุ่งเหยิงมาก ” ผมเอามือแตะๆที่ผม มันก็ทรงปกติของคนนะครับอา เหอะๆๆ
“ ทรงนี้ไม่ดีเหรอครับ ”
“ มันก็ดี แต่ไม่ดีพอ ถ้าจะไปงานอย่างนั้นน่ะนะ ...... เดี๋ยวนะ ” อาเอื้อมไปหยิบซองอะไรไม่รู้ให้ผม เป็นซองสีน้ำตาลครับ
“ เอาไปให้ไอข้าวกล้องนะ ” ผมรับมาแล้วลาท่านออกมา วากดิษรออยู่หน้าห้องอยู่แล้วครับ
“ อ่ะชุด ลองใส่ซิ ” ผมเอาเสื้อสูทสีเทามาใส่ หลวมๆนิดหน่อย สงสัยจะเป็นของดิษนั่นแหละครับ
“ ชุดนี้พี่ใส่ ....... น่าจะซักมอห้า ” โห มอห้ามึงก็ตัวใหญ่กว่ากูแล้วเหรอเนี่ย นับถือๆ
“ ไหนชุดดิษอะ ” มันชูสูทสีเทาเหมือนผม แต่คงจะขนาดใหญ่กว่านิดหน่อยครับ ผมยื่นซองน้ำตาลที่พ่อของวากดิษฝากให้ มันเปิดๆดูแล้วยื่นให้ผมดู
“ เงินนี่หว่า เยอะนะน่ะ ”
“ เค้าคงให้คิมไว้ใช้ด้วย เห็นบ่นกับพี่ว่า พี่เคยทำให้คิมต้องไปอยู่ที่ลำบาก ต่อไปพี่ต้องดูแลคิมมากกว่านี้ ” เฮ้อ เรื่องของเรื่องเป็นผมคนเดียว ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนสนใจผมขนาดนี้ แค่นี้ผมก็สุขใจแล้วล่ะ

จากนั้น ผมมาที่ร้านทำผมซึ่งพี่โต้งกับพี่หมอกริชก็อยู่ สองคนนั้นกำลังทำอะไรไม่รู้ครับ ผมบรรยายไม่ถูก เพราะพอมาถึงผมสองคนก็โดนลากไปนั่ง แล้วทั้งตัดทั้งซอยผม อะไรต่อมิอะไรงงไปหมดเลยครับ

เวลาผ่านไปประมาณสี่สิบนาที ผลงานก็ออกมา แต่ละคนอย่างกับคุณชายในหนังเลยครับ ไม่นึกว่าการมาทำผมนี่ก็ทำให้เราเปลี่ยนไปได้เหมือนกันแฮะ
“ แบงค์ล่ะพี่ ” ผมถามพี่หมอกริช
“ ทำงาน พี่จะไปรับตอนเย็นๆ ”
“ แบงค์ไม่ต้องมาทำผมด้วยเหรอครับ ” ผมถามต่อ
“ แบงค์มันหล่ออยู่แล้ว ไม่ต้องทำก็ได้ ” อ้าว วากดิษ มึงกัดกูใช่ปะเนี่ย
“ เออ งั้นเราสี่คนก็พอกันอะ ” พี่โต้งแซวพวกผม
“ ฮ่าๆๆ ”

เราสี่คนนั่งเล่นในร้าน เพราะเย็นดีครับ พอเวลาประมาณเกือบห้าโมงพี่กริชออกไปรับแบงค์ ผมสามคนก็เข้าไปแต่งตัวและเสริมหล่ออีกนิดหน่อย พอแบงค์มาสมทบด้วย แต่งตัวพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางมาที่โรงแรมกัน

โรงแรมที่ว่าก็ดีที่สุดในจังหวัดของผมอะครับ แต่วันนี้ดูไม่ปกติ เพราะแต่ละคนที่จะเข้าไป มีการตรวจสิ่งของกันด้วย พี่โต้งเล่าว่า ประธานเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเรา ผมก็เชื่ออะครับ

พอเข้ามาในงาน ผมยอมรับว่าอย่างกับอยู่คนละโลก เพราะในนี้มีแต่คนแต่งตัวสวยๆ ชุดราคาแพงกันทั้งนั้น ผมงี้ตัวลีบเลย เพราะบ้านผมไม่ได้รวยขนาดที่จะมาแต่งตัวแบบนี้ และถึงจะมีเงินขนาดนี้ผมก็ไม่เอามาซื้อชุดแบบนั้นใส่ คนที่มีอาการประหม่าแบบเดียวกับผมก็คือแบงค์ครับ ส่วนพี่โต้งและแฟน พี่กริช รวมทั้งวากดิษดูจะผ่อนคลาย เหมือนจะชินแล้ว
“ สวัสดีจ้ะคิม ” เสียงคุ้นๆ
“ พี่ .... แจง ” แม่ม เจอกันจนได้
“ คิม บริกรเค้าเอาเครื่องดื่มมาช้า ไปยกมาให้พวกพี่ที ” พี่โต้งพูดเหมือนใช้ผม แต่จริงๆคงไม่อยากให้ผมเจอหน้ายัยนี่มากกว่า ผมก็เลยเดินออกไป โดยไอแบงค์เดินตามมาด้วย แต่พอผมกลับมา ยัยนั่นก็ไม่อยู่แล้วครับ

งานค่อนข้างน่าเบื่อครับ ในสายตาผมนะ เพราะส่วนมากคนที่รู้จักก็จะไปคุยกัน และผมไม่รู้จักใคร ก็เลยน่าเบื่อครับ แต่ดีที่พี่ๆที่พามาไม่ยอมลุกไปไหน อยู่เป็นเพื่อนตลอด

แต่หลังจากเสร็จงานสิครับ เจ้าภาพบอกว่าเชิญแขกที่ต้องการร่วมงานที่บาร์ ไปเจอกันได้ ปรากฏว่าเจ้าสาวน่ะสนิทกับพี่โต้ง เลยโดนลากไป แฟนของพี่โต้งก็ไม่ไว้ใจเลยจะอยู่ด้วย พวกผมก็เลยต้องอยู่เป็นเพื่อนด้วยครับ

งานเลี้ยงหลังจากนั้น บอกตรงๆ อย่างกับปาร์ตี้ยาเลย พวกไฮโซทั้งหลาย เน้นที่หนุ่มๆสาวๆน่ะครับ ยืนเบียดยืนบดกันอย่างกับจะผสมพันธุ์ปลา วากดิษก็โดนดึงไป แต่ละคนหายไปคนละทิศละทาง ผมมีผู้หญิงมานั่งด้วยสองคน แต่วากดิษนี่เยอะหน่อยครับ อย่างว่าเค้าเข้มนี่เนอะ ชิชะ
“ .......... ” ผมนั่งๆอยู่ก็มีคนส่งข้อความมาหาผม พอผมเปิดอ่าน ผมก็รู้สึกตกใจครับ
“ (เห็นภาพนั้นไหม ถ้าดิษเค้าไม่มีแกฉุด ป่านนี้เค้าคงมีครอบครัวไปแล้ว จำไว้ว่าผู้ชายน่ะท้องไม่ได้ เค้าจะต้องจากแกไปซํกวัน) ” อ่านก็รู้ว่าใครส่งมาครับ ผมงี้หน้าชาเลย อยากเขวี้ยงมือถือทิ้งก็เสียดาย เลยเดินออกมาด้านนอก

ผมยังจำเสียงที่ชอบเหยียดหยามคนของยัยแจงได้ครับ ยิ่งพออ่านข้อความบวกกับมโนภาพที่ผมสร้างขึ้น ไอเสียงที่ว่าผู้ชายน่ะท้องไม่ได้ มันดังซ้ำๆกันจนผมเกือบจะร้องไห้
“ คิมมี่ ”
“ พี่กริช ” พี่หมอกริชเดินมาหาผมครับ
“ ทำไมมานั่งข้างนอก สูบบุหรี่เหรอ ไม่ดีน้า เดี๋ยวแก่ไวดิษไม่รักนะ ” พอพี่กริชพูดจบ ผมน้ำตาแตกเลยครับ พอดีจังหวะนั้นดิษกับพวกเราก็เดินออกมาพอดี เห็นผมร้องไห้ก็ตกใจ เลยตัดสินใจกลับบ้านกัน ผมนั่งเงียบมาตลอดทาง ดิษก็กอดผมอยู่ตลอด
“ คิดแล้ว ถ้าเจอกันต้องเป็นแบบนี้ ” วากดิษพูดขึ้น
“ อะไร ” พี่โต้งพูดขึ้น
“ แจงไงพี่ ”
“ ไม่เกี่ยวกับเค้าหรอก จริงๆ ….. คิมแค่รู้สึกว่า คิมต่างกับพวกพี่มากจริงๆ ” พอผมโยกมาทางนี้ ทุกคนก็หลงกลครับ พากันปลอบผมว่า งานนี้ก็แค่งานที่คนใส่หน้ากากหากัน อะไรไปโน่นครับ ดีแล้วล่ะ ผมขอเก็บเรื่องนี้ไว้ซักพักก่อน

คืนนั้น ผมกลับมานอนที่บ้านของวากดิษ ดิษมันเชิงจะเมาๆนิดหน่อยครับ พอมาถึงก็กอดจูบลูบคลำเป็นปลาหมึกเลย
“ คิม คืนนี้ ขอได้ไหม ” ขออะไรคงไม่ต้องบรรยายเนอะ
“ เอาดิ ” พอสิ้นสัญญาณ วากดิษก็เริ่มเลยครับ เรากำลังเคลิ้มๆกันอยู่ จู่ๆวากดิษก็หยุด
“ ตายห่า ....... ไม่น่าเลย ”
“ อะไรๆ ”
“ พี่ไม่มีถุง กลับมาก็ไม่ได้ซื้อ ” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราตกลงกันแล้วครับ ว่าต้องใส่ถุงทุกครั้ง
“ ............ ”  วากดิษมองแบบสองจิตสองใจ นั่งนิ่งเหมือนกำลังจะตาย เหอะๆๆ นาทีนั้น ไอคำว่า ผู้ชายน่ะท้องไม่ได้ก็วนกลับมากระทบประสาทผมอีกครั้ง ผมเลยจู่โจมเข้าไปหาแบบไม่คิดอะไรเลย วากดิษพยายามจะปัดหนีเหมือนกัน แต่ในที่สุดเราก็มีอะไรกันจนได้

หลังจากนั้น เราก็อาบน้ำให้กัน แล้วนอนครับ แต่ผมยังนอนไม่หลับ ดิษหันหลังให้ผมและหลับไปแล้ว ผมค่อยๆขยับตัวไปกอดดิษไว้ และผมก็ร้องไห้ออกมาครับ

ผมอยากถามดิษจริงๆว่า ดิษเคยคิดเรื่องที่ยัยแจงพูดไหม และผมกับดิษจะรักกันได้อีกนานแค่ไหน ก่อนนี้พ่อของดิษเคยพูดว่า ถ้าผมสองคนไม่มาเป็นแฟนกัน ผมก็จะก้าวไปข้างหน้า ดิษก็จะก้าวไปข้างหน้าด้วย แม้ว่าวันนี้ท่านจะยอมแพ้เรื่องแยกเราแล้ว แต่นั่นก็อาจจะเป็นเพราะท่านป่วยมาก เลยไม่อยากขัดขวางความสุขของลูก

ผมกอดมันจนรู้สึกดีขึ้น แล้วถึงหยิบมือถือมาลบข้อความนั้นออก ผมกลัวว่าถ้าดิษเห็นจะตำหนิผมที่ไม่ยอมบอกว่ายัยนั่นคุกคาม แต่ผมยืนยันกับตัวเองว่าผมจะสู้ปัญหานี้เอง

เรื่องราวก็ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนผ่านมาประมาณเดือนกว่าๆ ผมกำลังทำหน้าที่ใหม่ของผมในห้าง คือกลุ่มเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพ ชื่ออะตั้งให้ดูดี จริงๆก็คือผู้ตรวจนั่นเอง แต่ผมเป็นลูกน้องเค้านะครับ ไม่ได้รับอภิสิทธิ์อะไรหรอก
“ น้อง เตรียมตัวนะ เราจะไปโรงงาน ...... (ชื่อโรงงาน) กัน ไปดูกิจการเค้าหน่อย ” หัวหน้าผมบอก เท่าที่ผมได้ยินมา ดิษเองก็โดนลงโทษที่ปล่อยปละละเลยเรื่องยัยแจง รู้สึกจะไม่ได้รับโบนัสและถูกลดงานด้วยครับ ทำให้ตอนนี้ก็ต้องไปสู้ชีวิตเหมือนกัน
“ .......... พี่ครับ ผมขอพักแปบนะครับ ”
“ เฮ้ยคิม เลือดกำเดาออกนะน้อง นั่งๆๆ เงยหน้าๆ ” ผมเริ่มรู้สึกเวียนหัวครับ จากนั้นผมก็รู้สึกอยากอ้วก ผมเลยวิ่งไปอ้วกที่อ่างล้างหน้า มีทั้งเลือดทั้งอ้วกปนกันเลยครับ ผมนั่งหอบอยู่ที่หน้าห้อง ไม่นานวากดิษก็มา
“ คิม ...... คิม ได้ยินไหมน้อง ” ผมพยักหน้า
“ พอๆ วันนี้ไม่ต้องใช้น้องอีกแล้ว ” มันหันไปโวยใส่หัวหน้าผมครับ
“ พี่ไม่ได้ใช้เลยนา คิมขยันมากไปน่ะ พี่เตือนเค้าอยู่ว่าจะป่วยเอา ”
“ จริงดิษ พี่ไม่ได้ใช้คิมหรอก ”
“ งั้นไปโรงพยาบาล พี่พาไป ” พอวากดิษพยุงผมลุกขึ้น เลขาของมันก็เดินมา
“ หัวหน้าคะ วันนี้มีประชุมนะคะ ” โดนลดเหลือหัวหน้าแล้วแฟนผม เหอะๆ
“ ผมไม่เข้า ”
“ ดิษ ขอเหอะนะ ไปประชุม ” มันยืนขบกรามแง่มๆ แต่แล้วก็ยิ้ม เฮ้อ อารมณ์ดีแล้วค่อยยังชั่ว
“ พี่จะไปส่งที่โรงพยาบาลก่อน แล้วกลับมาประชุม โอเคมะ ” ผมตกลงครับ

พอมาถึงโรงพยาบาล มันจับผมนั่งรถเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน แม่ของเค้าก็ตกใจ แต่ท่านไม่ว่างครับ เลยเรียกพี่หมอกริชให้มาดูแทน
“ เป็นอะไรอีกเล่า คุณชายกระรอกตัวขาว ” เอาซะเต็มยศ
“ พี่ ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยพี่ ” พี่หมอกริชเลิกคิ้วสูง
“ อะไร มาๆขอดูหน่อย ” ผมจับมือพี่กริช รายนั้นก็ตกใจครับ
“ มีอะไรล่ะน้อง ” ผมนึกถึงวันที่เรา ..... สด กันอะครับ และผมก็มีตุ่มแดงๆขึ้นด้วย ผมรู้สึกไม่ดีมาหลายวันแล้วแต่ไม่กล้าบอกใคร แม้แต่วากดิษ
“ ผมกลัวพี่ …………… ” ผมเล่าสิ่งที่กังวลให้พี่กริชฟัง
“ เฮ้ย บ้าปล่าว ...... คิดว่าอาจจะติดจากไอข้าวกล้องเนี่ยนะ ไม่มีทางหรอก มันไม่ใช่คนมั่ว แล้วมันก็มาตรวจเลือดแทบทุกเดือน มันบริจาคเลือดบ่อยด้วย เออ แต่จะว่าไปเดือนที่แล้วกับเดือนนี้มันไม่มาตรวจ ” นั่นไงล่ะ ผมใจคอเสียเอามากๆ ผมคลื่นไส้ขึ้นมาอีกเลยวิ่งไปอ้วกอีกครับ พอกลับมานั่งที่เตียง พี่หมอกริชเริ่มหน้าเข้มขึ้น
“ ถ้าคิมคิดแบบนั้นจริง พี่พาไปตรวจก็ได้ ปลอดภัย จะไปไหนล่ะ ” ใจนึงผมก็ไม่อยากรับรู้เลยครับ
“ ไปพี่ ”

พี่หมอกริชขับรถพาผมมาตรวจที่สถานที่แห่งนึง ซึ่งพี่กริชบอกว่าค่อนข้างรับประกันผลการตรวจได้ ผมรอน่าจะประมาณชั่วโมงเศษๆ พนักงานก็เอาใบตรวจมาให้พี่กริช
“ ไม่ใช่ ” โฮ่ยยยยยยยยยย อยากจะร้องดังๆ เหอะๆๆ
“ งั้นผมเป็นอะไรล่ะพี่ ตุ่มๆนี่ด้วย ” ระหว่างทางกลับมาที่โรงพยาบาล พี่กริชก็ซํกไซร้
“ ลองให้หมอผิวหนังดูดีกว่า พี่ไม่กล้าพูด ”

กลับมาถึงโรงพยาบาล ผมก็ไปตรวจกับหมอผิวหนัง หมอท่านบอกว่าแพ้อากาศ เหอะๆๆ อายพี่กริชอิ๊บอ๋ายเลยครับ แต่พอผมถามเริ่มที่เลือดกำเดาไหลและอาเจียน ปรากฏว่าท่านไม่ทราบ จากนั้นผมก็ออกมานั่งที่ห้องพักแพทย์ วากดิษนั่งรออยู่แล้วครับ
“ เป็นไงกริช ”
“ ไม่ได้อะไรเลย เสียเวลาฟรีๆสองชั่วโมงครึ่ง ” อ้าว
“ งั้นหายไปไหนกัน อย่าบอกนะว่าไปเที่ยวมา ” มีอาการหวงๆ เหอะๆ
“ ไม่หรอก เออ แต่มีเรื่องน่ายินดีนะ .... ต่อไปจะสดก็สดเลยนะ โอ๊ยๆๆๆ คิม เจ็บ พี่เจ๊บบบบ ” ผมลุกบีบแขนน้อยๆของพี่กริชเลยครับ พูดอะไรไม่รู้ เหอะๆๆ
“ สรุปยังไง ไหนว่าจะคุยกับเราไง ” วากดิษหันไปหาพี่กริช สองคนจะคุยอะไรกัน
“ บอกตรงๆนะ พี่ว่าคิมมีอาการเครียด เครียดอย่างเด่นชัดมาก อาการที่ว่ามา เป็นลักษณะความดันสูง เมื่อกี้ตรวจแล้วก็ยังสูง ไม่ใช่เรื่องนะดิษ คนอายุเท่านี้จะความดันสูงขนาดนั้น ต้องเป็นเพราะเครียดมากเกินไป ........ วันนั้น วันที่ไปงานแต่ง คิมบอกพี่ว่า คิมกังวลเรื่องฐานะ พี่ไม่เชื่อหรอกนะ เพราะพี่จำได้ว่า พี่พูดขึ้นมาว่า ดิษจะไม่รัก จากนั้นคิมก็ร้องไห้ พี่คิดว่าคิมควรเล่าให้พี่ ไม่ก็กับดิษนะ ” โดนหมอแฉเป็นฉากๆ ผมพูดไม่ออกเลยครับ
“ ...... งั้น วันที่เรามีอะไรกันวันนั้น ที่กอดพี่แล้วร้องไห้ ......... เพราะอะไรคิม ” ผมคิดว่ามันนอนหลับแล้วแท้ๆ
“ รู้ด้วยเหรอ ” ผมถาม
“ พี่คิดว่าคิมเจ็บ เลยร้องไห้ ........ แต่ฟังจากที่กริชพูด คงไม่ใช่แล้วล่ะ คิม มีอะไรหนักใจเหรอ บอกพี่เถอะนะ ” ผมมองแววตาเศร้าๆของดิษแล้วรู้สึกดี เค้าแคร์ความรู้สึกผมจริงๆ เห็นทีเรื่องนี้ ผมคงต้องพูดกับดิษแล้ว

***************************************************************

ที่มาช้าก็มีเหตุอีกเช่นเคยครับ เมื่อสองสามวันก่อน รุ่นน้องที่เรียนโรงเรียนมัธยม เสียชีวิตครับ น้องคนนี้เคยติดสอยห้อยตามผมมา ก็คือแก็งค์อะแหละ แต่ผมพยายามแนะมันไปในทางดีๆ เป็นน้องผม สี่ปีครับ

วันนี้เลยไปเคารพร่างของน้องมัน ไปเจอหาพ่อของน้องมันด้วย แต่แม่น่ะป่วยอยู่ แม่ของน้องไม่กินข้าวเลยตั้งแต่เกิดเรื่อง ผมเลยไปเยี่ยมท่านและกินข้าวกับท่านมาครับ

ผมขอเตือนเรื่องสำคัญไว้ด้วยนะครับ คือรถจักรยานยนต์ ผมเสียน้องเสียพี่ เสียเพื่อน ที่รักมากๆ ไปเพราะรถจักรยานยนต์หลายคนแล้ว ถ้ารักหรือจำเป็นต้องใช้ ขอให้ระมัดระวังอย่างที่สุดนะครับ เพราะทุกวันนี้ผมไม่ขับแล้ว ยังไงก็ขอฝากแนบท้ายไว้นะครับ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2013 01:07:17 โดย KimDit »

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
สู้ๆน่ะค่ะพี่ทั้งสองคนนน  :mew1:

MangoBlue

  • บุคคลทั่วไป
ยัยแจงยัยบ้าาาา
พี่คิมมีอะไรต้องบอกพี่ดิษด้วยนะรู้ไหม
ปรึกษากันคุยกันดีกว่าเก็บเงียบคนเดียวนะ
แอบร้องไห้ตามคิมเลย  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Nano PL

  • ขอร้อง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 869
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-7
เป็นกำลังใจให้พี่คิมกับพี่ดิษเสมอ สู้ๆนะ

Sabaijai

  • บุคคลทั่วไป
มีเพื่อนผู้ชายที่มีแฟนผู้ชายคู่หนึ่ง เชาบอกว่า เขาไม่ได้สนใจเรื่องการมีลูก เพราะ ง่ายๆ เลยที่ใช่ว่า คู่ผู้ชาย ผู้หญิงทุกคนจะมีลูกด้วยกัน
ความสำคัญมันอยู่ที่ ได่ใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รักอย่างมีความสุขในทุกๆวัน ซึ่งอันนี้ยากเหมือนกันนะกว่าจะมี

หรือเพื่อนผู้ชายกับผู้หญิงอีกหลายคู่ที่เขาแต่งงานกัน แต่ไม่คิดจะลูก เพราะเขาบอกว่า โลกมันเปลี่ยนไปเยอะ กลัวว่าถ้ามีลูกแล้วจะกลายเป็นความลำบากมากกว่า เลยเลือกจะใช้ชีวิตกันไปสองคน

และอีกหลายคู่่ที่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก ต้องมาเสแสร้งแกล้งทำว่ารักกันต่อหน้าลูก ทั้งๆ ที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้มีความรู้สึกอยากจะทำจริงๆ  แต่ก็ต้องทำเพื่อเห็นแก่ลูก อันนี้หนักเลย

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะทั้งสองคน

ออฟไลน์ pudcha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-3
กังวลเรื่องโรคเนี่ยนะ ทั้งๆที่พี่ดิษเองก็ไม่มีพฤติกรรมน่าสงสัยเลย เค้าออกจะรักเดียวใจเดียว

ส่วนคิมเองก็เลิกใจง่ายแล้วนิ ไม่เห็นมีไรให้น่าเครียดเลยนอกจากเรื่องยัยพี่แจงไรนั่น เข้าใจนะ

เป็นใครก็ต้องคิดมากกับเรื่องแบบนี้อยูู่แล้ว อย่าลืมสิถ้าเค้าไม่รักเราจริงๆเค้าไม่มาคบเราถึงทุกวัน

นี้หรอกคงเลิกกันไปนานแล้วหรือไม่ก็แอบคบคนอื่นด้วย มาถึงขนาดนี้แล้วแสดงว่าพี่เค้าได้เลือก

คู่ชีวิตแล้วจริงๆว่าเค้าจะอยู่กับใครไปทั้งชีวิต ถ้าคิมเป็นผู้หญิงก็คงแต่งงานกันไปแล้วอาจท้องแล้วก็ได้

ถ้าแต่งได้พี่ดิษก็คงไปขอคิมแต่งแล้ว แต่ไม่แต่งก็เหมือนแต่งอยู่กินกันซะขนาดนี้แล้วผู้ใหญ่ก็รับรู้ยินดีด้วย

เชื่อใจพี่ดิษหน่อยถ้าไม่จริงจังหรืือไม่รักจริงเค้าคงไม่อยู่กับคิมถึงทุกวันนี้หรอก อย่าคิดมากไปปเลย  :mew1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ยัยแจงนี่กัดไม่ปล่อยจริง ๆ แต่พี่ว่าคิมบอกดิษอ่ะดีแล้ว
เดี๋ยวคิมคิดเองเออเอง แล้วตัดสินใจอะไรพลาดไป
จะมาเสียดายทีหลัง เพราะมันอาจจะแก้ไขไม่ทัน
ไม่ต้องกลัวหรอกเพราะความสุขของดิษก็คือคิม


ปล.ส่วนเรื่องการขับรถมอเตอร์ไซนี่น่ากลัวจริง ๆ ค่ะ คนขับรถยนต์ยังต้องหลีก
และอีกอย่างนะคะ พวกวัยรุ่น ทำไมไม่ชอบเปิดไฟขับรถตอนกลางคืน อันตรายมากเลยค่ะ

ออฟไลน์ ชางหลง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อย่าคิดมากนะ เรื่องลูกน่ะเราว่าไม่มีดีกว่านะในสังคมปัจจุบัญ มีเรื่องไม่เว้นวันทั้งผู้หญิงผู้ชาย เด็กเล็กก็ไม่เว้น
ใช่ว่า ครอบครัวที่มีลูกแล้วจะมีความสุขทุกคนนะ ถ้าลูกไม่แข็งแรง มีโรคภัยใข้เจ็บ หรือต่อให้ไม่มีแต่กลับดื้อด้าน
บางครอบครัวถึงกับมาทะเลาะกันเอง ว่าเลี้ยงลูกไม่ดีก็มีถมไป บางครอบครัวที่ต้องหย่าร้างแล้วเด็กกลายเป็นเด็กมีปัญหาก็มาก
ดิษรักคิมมาก ต่อให้ไปแต่งงานมีครอบครัว ก็ใช่ว่าจะทำให้มีความสุขได้นะ กับจะทำให้มีทุกข์ และก็ทุกข์กับทุกคน ทั้งผู้หญิงและเด็กที่จะเกิดมาด้วย อย่าคิดมากนะ สังคมก็คือการรวมกลุ่ม ใช่ว่าเราต้องทำตามสังคมทุกอย่างเราเป็นแค่ส่วนหนึ่งในสังคม
ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ก็ทำไปเถอะเวลาเราไม่สบายใจ ก็ใจของเราที่ทุกข์ไม่มีใครมาช่วยเราทุกข์ด้วยนะ
คำคนนะสารพัดจะพูดต่อให้ไม่มีเรื่องนี้ก็มีเรื่องนั้น

ฝากบอกดิษด้วยเรื่องพ่อนะ  เราเคยมีเรื่องแบบนี้ คือแม่เราเป็นมะเร็งปอด และตอนนั้นพ่อก็ตายไปก่อนเพราะเรือคว่ำ
กว่าจะตรวจเจอก็เป็นระยะสุดท้ายหมอบอกให้ทำใจ อยู่ได้ไม่เกิด 3 เดือน เรากับพี่ก็พากันลางานมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ที่ รพ.
โดยการผลั่ดกันเฝ้า ตอนนั้นเราทำทุกอย่างเพื่อให้แม่มีความสุขที่สุด
พาไปทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยปลา ทำสังค์ทาน
ให้แม่ใด้ฟังพระท่านสอน พาไปเที่ยว อ่านหนังสือให้ฟัง พี่พาหลานมาเล่นด้วย แม่เรามีกำลังใจดีมากยิ้มแย้มอารมณ์ดีตลอด
ถึงอาการจะทรุดลงมากเพราะโรคลามไปทั่วแล้ว แต่เราก็เชื่อว่าแม่มีความสุข จนวาระสุดท้ายแม่ยิ้มให้เราและบอกลาพวกลูก ๆ
ทุกคน 
 แม่จากไปด้วยเวลาผ่านไปเกือบปี จากที่หมอบอก  เราเชื่อว่าถ้าเราทำดีแล้วเราจะไม่เสียใจเพราะว่าตอนที่แม่เรามีชีวิต
เราใด้ทำอะไรที่คิดใว้ใด้ทุกอย่างแล้ว ผิดกลับตอนที่พ่อเสียเราไม่ได้ทำอะไรให้เลยเพราะมันเกิดเร็วมาก เราอยู่อีกที่กว่าจะรู้คือต้องไปหาศพพ่อที่จมน้ำแล้วตอนนั้นเราเสียใจมาก แต่ตอนแม่เสียเราไม่มีน้ำตานะใช่ว่าไม่รักแต่เราไม่อยากให้แม่ทรมานอีก

เราเป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนนะ ให้ผ่านเรื่องนี้ไปให้ใด้

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
อย่าคิดมากเลย. ใช่ว่าครอบครัวที่มีลูกด้วยกัน จะมีความสุข เลิกกันพร้อมกับปัญหาที่แย่กว่าเดิมก็เยอะ
ความสุขคือการอยู่กับคนที่รักและเข้าใจกันมากกว่านะ

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
เรื่องพ่อพี่ดิษ แนะนำเลยว่าหาเวลาอยู่กับเค้าบ้าง พาขึ้นรถเข็นเดินเล่นบ้างก็ยังดี.....

ส่วนเรื่องเด็ก ไม่ต้องไปคิดมาก เลี้ยงเด็กสมัยนี้มันยากนะ ที่จะโตมาให้ได้อย่างมีคุณภาพ เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ค่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
การแต่งงาน การมีลูก ไม่ได้เป็นเครื่องรับรองว่าเราจะมีความสุขเสมอไป
คิมคิดมากไป ต้องมีที่ปรึกษาแล้วนะ ระบายเรื่องเครียด ๆ ออกมาบ้าง
ส่วนการเตรียมอุปกรณ์ คิมเป็นฝ่ายจัดหาก็ได้นี่ เพื่อความปลอดภัยและสบายใจของเราเอง

ออฟไลน์ pilar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-14
ขนาดเรารับรู้แค่ผ่านตัวอักษร ยังรู้เลยค่ะว่าคุณดิษยกให้คุณคิมเป็นอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตแล้ว
และเชื่อว่าคุณคิมก็ไม่ต่างกัน อยากให้คุณคิมมั่นใจในตัวคุณดิษเอาไว้นะคะ
การยุแยงจากคนอื่นมันไม่มีผล เท่ากับการที่คนรักไม่เชื่อใจหรอกค่ะ
ร้อยทั้งร้อยของคู่รักที่หมางใจกันก็เพราะเกิดจากความไม่เชื่อใจในตัวกันและกัน ไม่ใช่จากคนอื่นหรอก
นี่เป็นเหตุการณ์ในอดีตใช่มั้ยคะ ตอนนี้รักกันดีเนอะ แต่เราเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของทั้งสองคนจังเลยค่ะ
อยากให้ดูแลกันดีๆ เรื่องปัญหาสุขภาพมันมาแบบไม่ให้เราตั้งตัวหรอก กว่าจะรู้ก็อาจจะสายเกินไป

ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
ผู้หญิงอย่างพี่แจง ให้ถุยน้ำลายใส่ยังเสียดายน้ำลายเลยเหอะ จะไปใส่ใจคำพูดเค้าทำไม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Angel

  • บุคคลทั่วไป
แจงนี่นิสัยแย่จริงๆ ไม่ชอบเลย  :m16:

อย่าคิดมากเลย. ใช่ว่าครอบครัวที่มีลูกด้วยกัน จะมีความสุข เลิกกันพร้อมกับปัญหาที่แย่กว่าเดิมก็เยอะ
ความสุขคือการอยู่กับคนที่รักและเข้าใจกันมากกว่านะ

เห็นด้วยกับคุณ Sar2288 มากๆ เลยค่ะ

พี่คิมอย่าคิดมากอีกนะคะ แค่ได้อยู่กับคนที่เรารักก็คงมีความสุขมากอยู่แล้วค่ะ  :mew1:

l6duh

  • บุคคลทั่วไป
พี่คิมอย่าคิดมากไปเลย เห็นด้วยกับหลาย ๆ คห.ข้างบน
และก็ส่วนตัวคิดว่า การได้อยู่กับคนที่เรารักแล้วมีความสุขสุด ๆ เรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ก็จะไม่เป็นเรื่องที่จะต้องมาบั่นทอนจิตใจอีกต่อไป เพราะบางทีหากเกิดมีลูก แต่มีลูกแย่ ๆ แล้วเติบโตมาเป็นแบบยัยแจง ก็ใช่ว่าจะมีความสุขเสมอไป

อ่านแบบนี้แล้วอยากจะ  :beat: :z6: :beat: :z6: ยัยแจงเหลือเกิน ยังไม่เลิกอีกนะ

รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ^^

ออฟไลน์ i.art

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ได้อยู่กับคนที่เรารัก และเขารักเรา
คอยช่วยเหลือดูแลกัน เอาใจใส่
เป็นที่ปรึกษา คอยให้กำลังใจ สุขทุกข์ไม่ทิ้งกัน
ถึงไม่มีลูก ก็นับเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์และมีความสุขแล้วนะ
คิมอย่าคิดมากเลย  :mew2:
 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
อย่าคิดมากค่ะ มีปัญหาคาใจถามไปเลยดีกว่า
เก็บมาคิดเองฝ่ายเดียวมันไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากจะเป็นการทำร้ายตัวเอง  :mew2:
(ในเมื่อมันเป็นปัญหาของชีวิตคู่ก็ต้องคุยกับคู่ของเราสิไม่ใช่ปัญหาชีวิตคี่นี่นาถึงจะได้มานั่งคิดมากอยู่คนเดียว)

เรามีความเชื่ออยู่อย่างนึงคือเราจะเก็บเอาแต่คำพูดของคนที่เราคิดว่าเค้ารักเรา
หวังดีกับเราจริงๆเท่านั้นมาใส่ใจ ส่วนคำพูดของคนที่ไม่หวังดีกับเรา
ไม่ว่าจะเป็นคำว่าร้ายหรืออะไรก็แล้วแต่เราจะไม่เอามาใส่ใจเก็บมาคิดให้เปลืองสมองเสียเวลา
เพราะรู้ว่าคนที่ไม่หวังดีกับเรา มันคงไม่พูดอะไรให้เรารู้สึกดีหรอก อย่าได้ใส่ใจอย่าได้แคร์
คิดจะว่าเป็นเสียน้องหมาน้องแมว o18

ส่วนเรื่องลูก หรือ กฎเกณฑ์ที่ว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงเท่านั้นถึงจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์
เราว่าความรักมันอยู่ที่หัวใจคนสองคนต่างหาก
เดี๋ยวนี้คู่ชายหญิงที่แต่งงานกันอยู่ไม่รอดเยอะแยะไป พอมีลูกพ่อแม่เลิกกันก็เป็นภาระสังคมอีก
ใช่ว่าพอมีลูกแล้วชีวิตครอบครัวจะสมบูรณ์เมื่อไหร่ มันอยู่ความรักความเข้าใจที่มีให้กัน
ระหว่างคนสองคนต่างหากที่จะทำให้มันสมบูรณ์ด้วยความสุขได้ ไม่ได้อยู่ที่เพศหรืออยู่ที่ใคร :L1:

รอตอนต่อไปเป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2: :กอด1: :L2:


ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
อย่าปล่อยให้คนอื่น
มาสั่นคลอน บั่นทอนความรักของเรา

อิแจงมันเป็นใคร
ทำไมต้องไปใส่ใจกับคนอย่างมันด้วย
ปล่อยมัน..เป็นเปรตร้องหาผัวไปจนตายเหอะ
 :angry2:


มั่นคงหน่อยนะ คิม สงสารวากดิษอ่ะ
จ๊วบบบบบบบบ  :mew1:

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
เป็นกำลังใจให้น้องคิม&พี่ดิษ
 :L2:
ปล.พี่ดิษ&น้องคิมต้องให้เวลาพ่อพี่ดิษเยอะนะคะ

ออฟไลน์ นิรนาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อีพี่แจงจะไม่ยอมจบจริงๆใช่ไหมมมมมม   :fire: :fire:

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
อย่าสนใจคำพูดแบบนี้เลยครับพี่คิม เพราะปกติพี่ดิษรักพี่มากนะครับ  พี่ดิษไม่ทิ้งพี่หรอกครับ :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ 9nawKIHAE

  • ♥BJYX~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พี่คิมนี่น้า ไม่น่ารักเลย มีอะไรชอบเก็บไว้คิดคนเดียว จัดการคนเดียว
ไม่ยอมบอกพี่ดิษ ไม่เอาแล้วน้า เป็นห่วงจังเลย
ไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์ที่ว่า กว่าจะเปลี่ยนใจบอกมันก็สายไป
พี่คิมหนักแน่นอีกหน่อยน้า พี่ดิษรักพี่คิมจะตาย รักคนเดียวมาตั้งกี่ปีกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้แทบตาย  :heaven
อย่าให้ชะนีแก่ๆมาปั่นหัวได้อีกนะ! #ส่งประวัติยัยเจ้แจงมาค่ะเดี๋ยวหนูจ้างคนดักตืบๆ  :z6:

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
พี่คิมนี่น้า ไม่น่ารักเลย มีอะไรชอบเก็บไว้คิดคนเดียว จัดการคนเดียว
ไม่ยอมบอกพี่ดิษ ไม่เอาแล้วน้า เป็นห่วงจังเลย
ไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์ที่ว่า กว่าจะเปลี่ยนใจบอกมันก็สายไป
พี่คิมหนักแน่นอีกหน่อยน้า พี่ดิษรักพี่คิมจะตาย รักคนเดียวมาตั้งกี่ปีกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้แทบตาย  :heaven
อย่าให้ชะนีแก่ๆมาปั่นหัวได้อีกนะ! #ส่งประวัติยัยเจ้แจงมาค่ะเดี๋ยวหนูจ้างคนดักตืบๆ  :z6:
5555555555เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ถ้าพี่คิมได้อ่านคอมเม้นนี้คงยิ้มออกนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด