มาแล้วครับๆ แฮะๆๆ
************************************************************
ช่วงหลังมานี้ ตั้งแต่เราไปส่งไอเดย์เพื่อไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ พวกเราทุกคนต่างคนต่างก็ทำงานของตัวเองกันไปครับ ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นหรือต้องวิตกกังวลอะไร ว่ากันง่ายๆก็คือทุกอย่างมันดำเนินไปเรื่อยๆ แต่แล้วก็มีเรื่องบางอย่างที่ผมไม่เคยรับรู้มาก่อนเกิดขึ้นจนได้
“ คิมมี่ มานี่หน่อย ” ขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่ พี่ริชชี่ก็แง้มประตูออกมาหา
“ ทำไมเรียกแต่พี่คิมครับ ” ไอน้องคนนึงแซวซะเลย หุหุ
“ เรียกให้ทำงานก็ต้องเรียกคิมสิ ”
“ อ้าว หาว่าพวกผมไม่ทำงานเหรอพี่ โด่ ”
“ เดี๋ยวผมเข้าไปหาครับพี่ ” ผมวางงานที่โต๊ะ แล้วเดินเข้าไปหาพี่ริช
“ เนี่ย เค้ามีอบรมอะไรก็ไม่รู้ รัฐเค้าต้องการให้เอกชนของจังหวัดไปร่วม ต้องไปหลายวันละ พี่ว่าจะส่งคิมไป ”
“ ทำไมไม่ให้คนอื่นไปล่ะพี่ ” ผมแทบจะพูดคำนี้ก่อนทุกครั้งอะครับ เพราะเอะอะพี่แกเอาแต่จะให้ผมไป
“ โอกาสแบบนี้ไม่ได้หาง่ายๆ ลองไปพบปะผู้คนบ้าง ”
“ ปกติ ผมก็เจออยู่หลายคนแล้วนะพี่ ” พี่ริชมองแบบจับผิด
“ ไม่ยอมให้ห่างเลยสินะ ดิษน่ะ ”
“ ไม่ใช่พี่ ก็ ...... ไปที่ไหนกี่วันล่ะพี่ ” ผมรู้ว่าพี่แกจะแซวขำๆแหละครับ แต่คิดไปคิดมา เค้าอยากให้ไป คงมีเหตุผลของเค้า และช่วงนี้ผมก็ไม่มีอะไรให้กังวลอยู่แล้ว
“ จังหวัด ...... สามวัน ”
“ สามวันสองคืนใช่ปะครับ ” พี่ริชพยักหน้า
“ มีเบี้ยเลี้ยงไหมพี่ ”
“ โอ้โห เดี๋ยวนี้เขี้ยวว่ะ ไปคุยกับดิษไปเบี้ยเลี้ยงน่ะ ”
“ งั้นผมไปคุยกับดิษก่อนนะพี่ ” พี่ริชยิ้มๆครับ ผมเข้าไปหาดิษ แต่รายนั้นกำลังคุยธุระอยู่เลยไม่รบกวน ดิษบอกให้ผมไปบอกวินว่า ช่วงเที่ยงตอนกินข้าวไปนั่งคุยกันตอนนั้น
“ มันโทรมาคุยบ้างไหมล่ะ ไอเดย์อะ ” ผมถามไอวินครับ
“ มันโทรมาช่วงเช้าๆอะพี่ ผมง่วงอยู่เลย ” เวลามันไม่ตรงกันนี่เนอะ
“ หายคิดถึงมันยัง ” ผมแซวครับ
“ ของแบบนี้หายได้ก็ดีดิพี่ ” ตอบไปก็ยิ้มไป น่ารักจังมึงอะ เหอะๆ
“ เมื่อช่วงสายคิมเข้าไปหาพี่ จะคุยอะไรเหรอ ”
“ พี่ริชจะส่งเราไปต่างจังหวัดอะ ” วากดิษวางช้อนส้อมเลยครับ
“ ย้ายเหรอ หมายความว่าไง ” ดุเชียวๆ
“ ไม่ได้ย้าย คือจะให้เราไปอบรมหรืออะไรนี่แหละ ยังไม่ได้รายละเอียด ”
“ อ่อ อบรมของกระทรวงพาณิชย์ล่ะมั้ง อืม ไปก็ดีนะ กี่วันล่ะ ” แสดงว่ามันรู้เรื่องล่วงหน้าแล้วครับ แต่ไม่รู้ว่าจะให้ผมไป
“ สามวัน ”
“ ดีแล้วล่ะ ” ความจริงผมก็อยากจะถามนะครับ ว่าไม่ไปด้วยกันเหรอ แต่เห็นท่าทางท่านจะยุ่งๆครับ เลยไม่ถามดีกว่า
จากนั้นอีกประมาณหนึ่งอาทิตย์ ผมก็ได้กำหนดการแล้วก็เงินค่าเดินทางไปที่ประชุม โดยที่ทางนั้นนัดให้ไปกรุงเทพก่อน อบรมครึ่งวัน จากนั้นก็จะเดินทางไปที่ต่างจังหวัด ใกล้ๆกับกรุงเทพนั่นแหละครับ
ผมนั่งรถโดยสารมาที่กรุงเทพ แล้วไปรายงานตัวที่จัดประชุม พอเข้าไปก็ต้องแปลกใจนิดหน่อยครับ เพราะมีผู้หญิงซะเยอะเลย อีกส่วนนึงก็แนวๆชายครึ่ง แฮะๆๆ ทำให้ผมค่อนข้างดูดีเลยทีเดียว คิคิ
“ น้องคะ เบอร์โทรขอเมมได้ไหมคะ ” พี่ที่รับลงทะเบียนถามครับ
“ จะดีเหรอครับ ” ผมตอบกลับไปหยอกๆ
“ น้องเค้าให้ท่าแล้วน่ะเธอ ” เค้าแซวกันเองครับ
“ โถๆ ให้น้องเค้าไปดีเถอะย่ะ ” ผมก็ยิ้มๆให้ พอรับเอกสารแล้วผมก็เข้าไปนั่งรอประชุมช่วงเช้า
ประธานที่มาเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ครับ หน่วยงานก็สำนักงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการพัฒนา ที่ให้มาก็คือให้มาอบรมการเข้าไปจัดการเพื่อป้องกันองค์กรธุรกิจให้สามารถรับมือและแข่งขันกับการทุ่มเงินทุนของต่างชาติเข้ามาในระบบธุรกิจขนาดกลาง ฟังแล้วน่าขนลุกขนพองครับ
“ คุณคะ ” ผมหันไปหาคนที่น่าจะเรียกผม
“ ครับ ”
“ ขอนั่งด้วยนะคะ ” หน้าตาแบบว่า ...... หมวยอินเตอร์ม้ากมากครับ
“ เชิญครับ ” ทีแรกก็เฉยๆครับ แต่พอเธอนั่งแค่นั้นแหละ อะไรบางอย่างตรงบริเวณอกมันสะดุดตามาก แฮะๆๆ แต่ผมตั้งมั่นครับ พยายามไม่มอง
นั่งประชุมไปได้พักนึง คนสนใจกันมากครับ หยิบมือถือมากดมารูดกันให้ระวิงหมดเลย ถ้าประธานเห็นคงจะภูมิใจอะครับ แบบนี้มันคงจะสู้เงินทุนต่างชาติได้หรอกนะ
“ ตั้งใจจังนะคะ ” หมวย อกบู้ม ชวนผมคุยครับ
“ เดี๋ยวค่อยคุยนะครับ ”
“ เอ่อ .... ขอโทษนะคะ ” หน้าเจื่อนเลยอะ แต่ผมมีเหตุผลของผมครับ ส่วนนึงคือไม่อยากคุยมาก เดี๋ยวจะไม่รู้เรื่อง อีกอย่างก็คือ แอบกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี ไกลหูไกลตาวากดิษก็จริง แต่ไม่อยากไกลหัวใจครับ
หลังจากฟังบรรยายจบ เค้าก็แนะนำคณะวิทยากรอีกชุดนึง มีที่เราเคยเห็นทางโทรทัศน์ด้วย จากนั้นคณะจัดงานก็ต้อนพวกผมไปกินข้าวกลางวัน เพื่อเดินทางต่อไปสถานที่จัดอบรม
“ เมื่อกี้ขอโทษนะคะ ไม่ได้ตั้งใจรบกวน ” พอผมกำลังจะนั่งกินข้าว สาวเจ้าก็ตามมาอีกครับ
“ ครับ คือ ...... ไม่เป็นไรครับ ” จะบอกว่าไม่อยากให้มานั่งด้วยก็กระไรอยู่นะครับ เลยตอบส่งๆไป
“ มาคนเดียวเหรอคะ งั้นนั่งด้วยได้ไหม ” ผมมองซ้ายมองขวา ส่วนใหญ่คนที่มาไม่ค่อยสนใจกันเท่าไรครับ ผมคิดว่าเค้าคงเห็นผมน่าตาน่าคบมั้ง เหอะๆ
“ เชิญครับ ” ผมก็ให้เธอนั่งด้วย จากนั้นสาวเจ้าก็ชวนคุยต่อครับ
ผู้หญิงคนนี้บอกว่า ชื่อหลิน เหมาะกับหน้าของเธอครับ แล้วก็บอกต่อไปว่าแปลว่าหยกหรืออะไรซักอย่างที่ขาวๆอะครับ แต่พอคุยไปคุยมา ผมก็แอบจับคำพูดได้ว่า พูดเหมือนน้อยในอะไรอยู่ซักอย่างครับ
“ แล้วทำงานที่ไหนเหรอครับ ” ผมถามบ้าง
“ สำนักงานบัญชีค่ะ คิมล่ะ ”
“ ห้างหุ้นส่วนของ ...... ของพี่น่ะ ” เกือบแล้วไงกู
“ แล้ว ...... คิมมาแบบนี้ มีคนที่ห่วงไหม ” ผมมองเธอตาปริบๆ ถามแบบนี้มันหมายความว่าไงเนี่ย
“ ห่วงแบบไหนเหรอ ”
“ ก็ ..... ไม่มีเหรอ ”
“ ถามถึงแฟนเราเหรอเนี่ย ฮะๆๆๆ ” ถามจบหลินก็หน้าแดงๆครับ ผมเลยไม่คุยต่อ
ก่อนเดินทางอีกครั้ง ผมโทรไปคุยกับดิษ แต่ดิษคุยเสียงเบาครับ แล้วก็เหมือนจะกระซิบๆผม ผมคิดว่าคงยุ่งๆเลยไม่ได้คุยต่อครับ พอวางสายเราก็เดินทางกันต่อ ระหว่างทางหลินจองที่นั่งข้างผมเฉยเลย ผมให้หลินนั่งด้านในครับ
“ คิมไม่ง่วงเหรอ ”
“ ไม่หรอก ปกติไม่ชอบนอนบนรถน่ะ ยกเว้นตอนเมารถ ” หลินยิ้มๆ
“ คิมเมารถด้วยเหรอ น่ารักเนอะ ” มันเรื่องเดียวกันไหมเนี่ย ผมเห็นท่าทางแบบนี้ เริ่มรู้สึกว่าไม่น่าวางใจครับ เลยแกล้งนอนหลับดีกว่า แต่พอแกล้งเอนตัว ไม่นานหลินก็เอาหัวมาซุกที่ไหล่อีก
“ หลิน ..... หลินครับ ” ผมปลุกหลิน หลินลืมตาปรือๆ
“ อ๊ะ ขอโทษนะ คือเมื่อคืนไม่ได้นอน ขอโทษนะๆ ”
“ อืม ” แล้วหลินก็เอาหัวไปพิงอีกทางครับ แต่ผ่านไปพักใหญ่ๆพอรถตีโค้งไปมา หลินก็เอียงมาหาผมอีก ผมเลยปล่อยไปครับ สงสารคนง่วงนอน
มาถึงที่พักก็เย็นแล้วครับ เค้าแยกให้ชายนอนห้องเดียวกันสามคน ผู้หญิงห้องเดียวกันสองคน โดยที่เค้าให้ขับไม้สี เหมือนเล่นกีฬาสีเลยครับ เหอะๆ
“ นี่ นายน่ะ ” เพื่อนร่วมห้องผมคนนึงเดินมาหาผม
“ เราชื่อโน่ นายล่ะ ”
“ เราคิม ยินดีที่ได้รู้จักนะ ” ถามไถ่อายุถึงรู้ว่า พี่โน่อายุมากกว่าผมครับ ส่วนเพื่อนร่วมห้องอีกคนชื่อวี อายุไล่ๆกับผม ครับ
เราสามคนได้คุยกันหลายๆเรื่องครับ วี เป็นพนักงานราชการของสำนักงานที่จัดงานนี้ครับ ส่วนคนที่ชื่อโน่ เป็นเจ้าของสถานที่พักตากอากาศแถบภาคใต้ เราก็คุยกันไปเรื่อย รอเวลาค่ำครับ เพราะตอนค่ำเค้าจะให้กินอาหารแล้วก็ให้แนะนำตัวกัน สรุปแล้วเค้าแยกกลุ่มไปอบรมย่อยๆลงไปอีกสามกลุ่ม กลุ่มพวกผมมีกันประมาณยี่สิบคน
“ อ้าวคิม ” คงไม่ต้องบอกนะครับว่าใครเรียก
“ โห คิม ...... คนนี้แจ่มนะเว้ย ” พี่โน่แซวผม
“ บ้าเหอะพี่ เพิ่งคุยกัน ”
“ ตามสบายนะ คุยกันยาวๆ เจอกันที่ห้องกินข้าว ” พี่โน่กับวีไล่ผมไปหาหลินเฉยเลยครับ อะไรของเค้าเนี่ย
“ คิม ไม่ได้รำคาญเราใช่ไหมอะ ”
“ ไม่หรอก ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ ”
“ ใครๆ ก็คิดแบบนั้นไง ” ความจริง หลินพูดทำนองนี้มานานแล้วครับ
“ ถามตรงๆจะโกรธไหมหลิน ”
“ ไม่หรอก ทำไมเหรอ ”
“ หลินทะเลาะกับใครมาหรือปล่าว ” หลินยิ้มๆ แล้วก็ทำเม้มปากนิดหน่อย
“ หลินคิดว่า ...... หลินไม่คุยกับคิมดีกว่า ” อ้าวเฮ้ย อะไรวะ ผมมองหลินเดินหายไปเฉยๆ เค้าเป็นอะไรเนี่ย
ช่วงเย็นๆของวัน ผมโทรไปหาวากดิษอีกรอบ แต่รายนั้นไม่รับสายครับ ผมรู้สึกว่ามันแปลกๆนะ ปกติยังไงถ้าผมโทรไป หากเราไม่ได้คุยกัน อีกคนจะโทรกลับมาตลอด ผมเลยแกล้งโทรไปหาพี่ริช
“ สวัสดีครับพี่ ”
“ เป็นไงบ้างท่องเที่ยวสนุกไหม ”
“ ยังไม่ได้ทำอะไรเลยพี่ งานเป็นไงบ้างพี่ ” ต้องเนียนครับ หุหุ
“ ไม่มีอะไรหรอก คิมกลับมาก็รู้เองแหละ ” ตอบกวนตลอด
“ ดิษขยันทำงานดีไหมพี่ ”
“ อ้าว ไม่ได้โทรหาดิษเหรอ ..... ได้ยินว่าดิษจะไปคิมนี่ วันนี้ไม่ได้เข้าทำงานนะ ” มันชักจะแปลกจริงๆแล้วครับ
“ ยังไม่โทรมาเลยพี่ ”
“ อืมๆ งั้นเดี๋ยวพี่โทรถามเลขาเค้าให้แล้วกัน …. เป็นห่วงดิษใช่ไหมล่ะ หึหึ ” แม่ม รู้ทันตลอดอะ เซ็ง เหอะๆๆ
“ ครับพี่ ขอบคุณครับ ”
จากช่วงเย็นมาถึงค่ำ ผมเริ่มจะอยู่ไม่สุขครับ เพราะติดต่อดิษไม่ได้เลย โทรศัพท์เปิด แต่ไม่มีคนรับ ผมก็เข้าไปทานอาหารแล้วก็ร่วมอบรมกับเค้าอยู่ เค้าให้เราแนะนำตัวและพูดถึงสถานที่ทำงาน แล้วก็ให้เอกสารอีกชุด จากนั้นนัดหมายว่าตอนเช้าตื่นมาออกกำลังกายกันครับ
“ คิม ”
“ ไม่มีอะไรแน่นะคิม ” ผมเดินกันมาสามคนครับ ก็เพื่อนร่วมห้องนั่นแหละ แต่หลินก็เดินมาทักอีก
“ ไม่มีๆ ..... งั้นสองคนไปห้องก่อนนะ ” พี่โน่กับวียิ้มๆ แล้วก็เดินไปครับ
“ หลิน มีอะไรหรือปล่าว ” ผมเห็นท่าทางไม่ค่อยดีครับ
“ คิมนั่งคุยกับหลินหน่อยได้ไหม ” คือถ้าไม่คุย ก็ไม่รู้ซักทีอะครับ สาวเจ้าคุยคำสองคำแล้วไปตลอด
“ ได้สิ ”
หลินเดินไปซื้อเบียร์มานั่งกิน แล้วชวนผมนั่งคุยด้วยที่โต๊ะด้านหน้าที่พักของพวกเราครับ
“ หลินทะเลาะกับแฟน ”
“ เหรอ เรื่องอะไรล่ะ ” ส่วนนึง ผมก็ไม่มีอะไรทำครับ เพราะวากดิษไม่ยอมโทรกลับมาเลย
“ เค้าไปมีคนอื่น แล้วไล่หลินออกไปอยู่ที่อื่น ” โห แรงแฮะ
“ ....... ”
“ ถ้าคิมไม่อยากคุย เข้านอนก็ได้ ”
“ ....... หนีตอนเพื่อนมีปัญหา ไม่ใช่นิสัยคิมนะ ” ผมตอบหลิน
“ ฮึกกก ....... ฮือออออ ” ละแล้วก็ถึงตอนน้ำตาแตกครับ เหอะๆ ผมนั่งมองหลินร้องไห้อย่างหนัก แล้วก็ตัดสินใจลูบหลังของเค้า หลินก็เอนตัวมาใกล้กับผม ผมได้แต่ปล่อยไปครับ ถือว่าปลอบใจชาวโลก
“ แล้วหลินจะไปพักที่ไหนล่ะ หลังจากนี้น่ะ ”
“ หลินขอเช่าห้องกับเพื่อน ”
“ อย่าคิดมากไปนะ ถือว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้หาคนใหม่ ” ผมบอกหลิน
“ คิมล่ะ ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้เหรอ ” พอถามถึงผม ชักจะตอบยากครับ เพราะวันนี้ผมก็ยังติดต่อแฟนไม่ได้เลย
“ ไม่หรอก แฟนเรานิสัยดีน่ะ ”
“ เฮ้อ ..... บางครั้งเพราะเราอยู่ด้วยกันนานไป พอมีอะไรแปลกๆเราก็ไม่ค่อยสงสัย แฟนหลินนอกใจหลินมาเป็นปีแล้ว หลินก็ไม่ได้คิดสงสัยเลย ..... ” ไม่รู้ทำไมมันแน่นอกขึ้นมาเฉยๆครับ
“ นั่นสินะ ความเคยชินมั้ง ”
“ คิมเป็นคนดี คงไม่เจอเรื่องอย่างหลินหรอก ..... รบกวนคิมมากแล้ว เราพักผ่อนดีกว่า ”
“ ก่อนนอน แปรงฟันด้วยล่ะ เดี๋ยวเพื่อนรวมห้องว่าเอา ” ผมแซวตามหลังไป
“ จ้ะ ฮิๆ ขอบคุณนะ ” พอหลินลับตาไป ผมก็คิดได้ว่าผมน่าจะโทรหาดิษอีกรอบ แต่ก็ปรากฏว่าไม่มีคนรับสายอีกแล้วครับ ผมเลยโทรไปหาไอวินแทน
“ ดีพี่ เที่ยวสนุกไหม ”
“ เริ่มไม่สนุกละ นี่ วันนี้ดิษไปทำงานไหม ”
“ หืม พี่ดิษเหรอครับ ไม่นะครับ ลาสองวัน พี่ดิษไม่ได้บอกเหรอครับ ”
“ ไม่ ไม่ได้บอก แล้วมันไปไหนวินรู้ไหม ตอนนี้กลับหอหรือยัง ”
“ ไม่ครับ ผมไม่เห็นพี่ดิษเลย ”
“ อืม ขอบใจมากๆนะ ..... แล้วถ้าดิษกลับมา ช่วยโทรหาพี่หน่อยนะ กี่โมงก็โทรมา ”
“ ครับ ” ดิษ มึงหายไปไหนนะ ผมชักจะกลัวไปต่างๆนาๆ ทั้งอุบัติเหตุ หรือแม้แต่เรื่องที่ไม่ควรจะคิดเลย เช่น มันนอกใจผม
วันต่อมา ผมแทบไม่มีอารมณ์จะนั่งอบรมเลยครับ กระวนกระวายใจมากๆ หลังจากการอบรมวันนั้น ความจริงต้องมีการกินเลี้ยงกันต่อ แต่ผมตัดสินใจไม่กินเลี้ยงแล้วครับ ผมแลกเบอร์ติดต่อกับทำธุระทางนั้นเสร็จก็ตัดสินใจนั่งรถโดยสารกลับมาเอง
ผมมาก็เกือบตีหนึ่งแล้ว ยังติดต่อดิษไม่ได้ เลยตัดสินใจโทรให้พี่โจมารับที่ขนส่งแทน พี่โจกำลังอยู่กับพี่นากที่ร้านครับ เลยขับออกมารับได้
“ อะไรกันเนี่ยคิม ให้พี่มารับเดี๋ยวพี่ดิษก็ฆ่าพี่หรอก ”
“ ผมเนี่ยแหละจะฆ่ามัน ”
“ หือ ทำไมล่ะ ” ผมเล่าเรื่องที่ผมติดต่อดิษไม่ได้ให้พี่โจฟังครับ
“ แปลกจริงๆนะ ทำไมไม่ลองตามหาล่ะ ”
“ ดึกขนาดนี้แล้วจะตามหาได้ที่ไหนล่ะพี่ ” พี่โจเห็นด้วยครับ
“ งั้นกลับหอก่อนแล้วกันนะ พี่ต้องไปช่วยนากปิดร้านด้วย ”
“ ครับ ” ผมมาถึงที่หอพัก ใจนึงก็เหนื่อยมาก อีกใจก็อยากตามหาดิษจริงๆ ไม่รู้ว่าหายหัวไปไหน ติดต่อก็ไม่ได้ ผมเดินไปเคาะประตูเรียกไอวินครับ
“ อ้าวพี่ ไหนว่ากลับมาพรุ่งนี้ไง ”
“ เดี๋ยวกูลงมานอนด้วยนะ ” ไอวินมันก็พยักหน้าหงึกๆครับ ผมเดินขึ้นไปเก็บของ อาบน้ำอาบท่าแล้วลงมานั่งคุยกับไอวิน
“ ทำไมมันหายไปแบบนี้วะ ไม่มีใครรู้เลย ”
“ แต่ว่า ..... พี่เค้าส่งข้อความมาหาผมอะพี่ เนี่ยๆ ” ไอวินเดินไปหยิบมือถือแล้วส่งให้ผม
“ พี่มาทำธุระต่างจังหวัด ฝากบอกคิมด้วยนะ ”
“ แล้วทำไมมันไม่บอกพี่วะ ”
“ ใจเย็นๆหน่อยนะพี่ พักผ่อนๆ ” คืนนั้นก็ดึกมากแล้วครับ ผมเลยตัดสินใจนอนดีกว่า
คำพูดของหลินเพื่อนใหม่ของผมพูดว่า บางเรื่องมันปกติเกินไป เราเลยไม่รู้ว่ามีเรื่องแปลกๆเกิดกับเรา หวังว่าคงไม่มาเกิดขึ้นกับผมหรอกนะ ไอวากบ้า มึงไปอยู่ที่ไหนกัน
********************************************************************