แวะมาส่งข่าวให้หายคิดถึงมั่ง แฮะๆๆ
ช่วงหลายวันที่ผ่านมา ผมไม่ได้บอกกับทุกคน เพราะมีหลายอย่างในชีวิตยุ่งเหยิงเหลือเกิน นอกจากจะมีคนใกล้ชิดที่เป็นญาติสูงอายุนะครับ เสียถึงสองคน (อีกคนกำลังจะเผา) ยังมีเรื่องสำคัญคือ
วากดิษป่วยครับ ครั้งนี้ไม่ได้หนักอะไร มันยังงงๆกันอยู่ เพราะอาการเรื้อรัง แน่นอนรักษาไม่หาย พอพี่วากได้ยินแบบนั้นก็ซึม ถึงขนาดเก็บไปฝันว่าผมจะทิ้ง อย่างกับกูจะไปไหนได้ หุหุหุหุ มันก็เลยวุ่นไปถึงเรื่องงานครับ เพราะพอป่วยก็มีคนไม่ต้องการให้ทำงาน คือไม่ได้หวังดีแหละ พี่วากก็เลยทำเข้มไปทำงานตามปกติ แต่เย็นมาก็ต้องไปโรงพยาบาล กลบเกลื่อนๆ ตอนนี้ก็ยังมีลักษณะนี้อยู่ ผมก็เลยอึนๆทำอะไรไม่ถูก เพราะบอกก็ฟังนะ แต่พอเค้าบอกเหตุผล ผมก็ไม่รู้จะแนะนำยังไง
พ่อวากดิษไปนั่งนอนเล่นที่ไร่ของพ่อผมแล้วครับ ผมแอบไปเยี่ยมมาเมื่อวันเสาร์ อาการทรุดลงชัดเลยครับ แต่อารมณ์แจ่มใส ก็เลยเดาไม่ถูกอีก ฝากผมมาแค่ว่า ถ้าวันไหนตายไปไม่ต้องกังวล เพราะพ่อไปอย่างมีความสุข ผมเลยอึนรอบสอง
รอบสุดท้าย โดนสอบครับ หาว่าผมเอาเรื่องรักๆใคร่ๆมาปนกับการทำงาน อันนี้อึนนานครับ เพราะมันกระทบหลายคนมาก ลองไล่ดูแล้วกันครับว่ามีกันกี่คน มันเลยพาลทำให้พวกพ้องกันไปมาหาสู่ไม่ได้ เพราะโดนเพ่งเล็ง ผมเลยต้องเหงาคนเดียวหลายวันเลยครับ วันอาทิตย์ทนไม่ไหว เลยร้องเรียนแม่มคืนมั่ง ว่าดูหมิ่น เกลียดชัง กีดกันทางเพศ แฮะๆๆ วันนี้เพิ่งมีการเรียกไปไกล่เกลี่ยครับ สุนัขหลายตัวหยุดเห่าแล้ว
ส่วนสุดท้ายจริงๆเลยคือ ผมกำลังจะสอบ ที่ว่ากำลังมันก็นานครับ ปลายเดือนหน้า แต่หนังสือมันเยอะ ผมอ่านไม่ทัน ก็เลยไม่มีโอกาสมาถ่ายทอดบันทึกเลยในช่วงหลัง รู้สึกติดค้างอะ ผมอยากมาพิมพ์มาเล่าจริงๆ แต่ก็ไม่รู้จะมาได้ยังไง ก่อนหน้านี้สองปี ผมไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ก็เลยพิมพ์บันทึกได้สบายใจ แอบเห็นความเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน
ผมยังไม่ได้หยุดพิมพ์นะครับ แต่อาจจะจำเป็นที่ต้องเว้นการเข้ามาเป็นเวลานานแน่นอน เพราะตราบใดที่เรื่องพวกนี้แก้ไขไม่จบ กับยังไปไม่ถึงฝัน คือเป็น ได้เป็นเนติบัณฑิตกับเค้า เวลามานั่งพิมพ์มันก็รู้สึกไม่สนุกเหมือนก่อนๆ เลยต้องมาขอโทษอย่างที่สุดเลยนะครับ ที่จำเป็นต้องมาขอเว้นการพิมพ์ชั่วคราว แต่ทั้งนี้ ก็คงจะแวะเวียนมากับถ้าประจบเหมาะจริงๆ ก็จะมาพิมพ์ใบแทรกที่มีนับสิบๆใบที่มันค้างคาอยู่
ความจริงก่อนจะเข้ามาวันนี้ ก็นั่งคิดตั้งแต่เช้าแล้ว ว่าจะมาบอกดีไหม เพราะก่อนจะพิมพ์ไม่รู้ว่าจะมีคนติดตามหรือปล่าว พอมีคนเข้ามาอ่านหรือหลงมาอ่านก็ตาม มันทำให้มีรู้สึกว่าผมมีหน้าที่ครับ พอเราไม่ได้มาทำหน้าที่แล้วมันรู้สึกผิดในใจ แต่วากดิษบอกผมว่า
"เราไม่ใช่นักเขียน งานเราก็ไม่ใช่งานปกติที่มีเวลาพอให้พักอย่างสบายๆได้ (มันเสริมว่าเป็นที่รัก ผจก. ด้วย -*-) บอกเค้าไปเถอะ ยังไงก็ทำไปแล้ว"
จึงเป็นที่มาของการแจ้งข่าวอย่างยาวเหยียดนี้ครับ ^^
สุดท้ายก่อนส่งเข้านอน มีเรื่องสั้นๆมาเล่า
***************************************************************
สารภาพตรงๆว่า ผมไม่ได้ดูหนัง ดูการ์ตูน ดูอะไรเลยมาเกือบสองปีแล้วตั้งแต่เข้าทำงานกับเรียกกฎหมาย บังเอิญวันนี้มันมีน้องที่ทำงานเข้ามาคุยกับผม แล้วมันพูดว่า
" พี่คิดไงตัดสกินเฮด "
" กูเบื่อ มีอะไร " ผมไปโกนหัวมา แต่ไม่เชิงครับ เป็นสกินเฮดนั่นแหละ ส่วนนึงไว้อาลัยให้ช่วงนี้ครับ มันเซ็งๆ
" พี่เคยดู ฮอร์โมนมะ " ผมก็มองหน้ามัน
" อะไรมึง ฮอร์โมนอะไร หนังหรือสารคดี " ไอพวกที่นั่งข้างๆก็หัวเราะก้ากเลย
" กูว่าแล้วไง วันๆนอกจากทำงานกับรักพี่ดิษ พี่ทำอะไรมั่งปะ "
" ส้น ... เหอะ ตกลงอะไร "
" มันเป็นซีรี่ย์ของไทยพี่ พี่ลองไปดูนะ มันมีร่างโคลนของพี่ แสดงด้วยคนนึง "
" จริงด้วยแก พี่คิมมีน้องหรือปล่าวคะ "
" มี หล่อเหมือนกูนี่แหละ "
" ไม่ใช่น้องพี่ไปแสดงเหรอ "
" เหอะๆ เอาออกจากห้องสมุดก่อนดีกว่า รายนั้นตั้งใจเรียนมาก " จากนั้นก็ทำงานกันไปครับ
คืนนั้นไม่เป็นอันนอนครับ เปิดหาว่าซีรี่ย์เนี่ยมันอะไร ก็เลยเปิดดู เพราะติดใจไอคำว่าร่างโคลนเนี่ยอะไร ผมดูมันมีหลายตอน ก็เลยเลือกตอนที่มันขึ้นมาเป็นอันแรก
ดูได้ซักพัก ไม่เห็นจะเจอเลยครับ พอใจร้อน ก็เลยพิมพ์หารูปนักแสดงแทน ปรากฎว่ามีคนนึง เห็นแล้วต้องอุทานเลยครับ
" เชี้ย เหมือนจริง " เหอะๆๆ คือคงไม่หล่อเท่าน้องเค้า แต่มีเค้าโครงอยู่นะ ใครที่กำลังนึกถึงใบหน้าหรือจินตนาการหน้าของผม ก็หาคำตอบเอานะครับ
*****************************************************************
ท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตาม ถามหากันอยู่นะครับ ขอเวลาผมคราวนี้หน่อย แล้วกลับมาพอกันนะครับ