สวัสดีครับทุกคน
ขอบคุณสำหรับกำลังที่มีให้อย่างมากครับ ช่วงที่ผ่านมา ผมได้เจออะไรที่หนักหนาจริงๆ และไม่คิดด้วยว่าจะสามารถผ่านไปได้เลย เรื่องนี้ วากบ้า ขอให้ผมเล่าด้วย แต่ต้องใช้เวลาเรียบเรียงหน่อย ดิษบอกอีกว่า อยากให้รู้ว่าเราเจอกับอะไร เพราะมันน่าจะเกี่ยวกับการที่ผมสองคนอยู่ด้วยกัน
เรื่องแรก ผมดิษโดนญาติฝั่งพ่อ ฟ้องให้ใช้หนี้ที่พ่อเค้าทำสัญญาไว้ เรื่องปรากฎว่า มันเป็นของเดิมๆครับ ที่พ่อวากดิษใช้ไปหมดแล้ว พูดไปเหมือนง่าย แต่ตามหาเอกสารนี่ไม่ง่ายนะครับ ผมใช้เวลาเป็นอาทิตย์เลย
ต่อมา หาเอกสารครบ ก็ต้องไปไกล่เกลี่ยที่ศาล ปรากฏว่าพวกญาติเค้าเล่นแรงอีก คือไปฟ้องตามที่ต่างๆ ไม่ใช่จังหวัดเดียว วากดิษกับผมต้องแบ่งกันไปขึ้นศาล จนตอนท้าย อาทนายคนที่อยู่กับเรามานาน คนเดิมที่เคยพูดถึงในเรื่องนี้ ฟ้องพวกเค้าบ้างที่ทำให้เราเดือดร้อนต้องไปแก้คดีตามที่ต่างๆ ก็เลยเบาลง
ทีเด็ดอยู่ที่ตอนไกล่เกลี่ยครับ ญาติฝั่งพ่อเค้าพูดออกมาประโยคนึง ทำเอาผมน้ำตาตกในเลย
" ข้าวกล้องก็เป็นเกย์ ไม่มีลูก จะหวงของพ่อไว้ทำไม เอาไปให้ญาติพี่น้องที่เค้าสืบสกุลสิ ..... หรือจะเอาไว้ให้คู่เกย์ใช้ " แม้กระทั่งศาลที่ท่านนั่งอยู่ยังอึ้งเลย
เดิมวากดิษคิดจะแบ่งให้อยู่บ้าง (คนที่เป็นทายาทพ่อท่านวากมีสามคนครับ คือ น้าแฟนของพ่อท่านวาก ข้าวกล้อง กับข้าวจ้าว) แต่พอโดนพูดแบบนี้ ทั้งสามคนบอกไม่ให้มันซักบาทแน่นอน ตอนนี้ไกล่เกลี่ยอยู่ยังไม่จบ เพราะทางนู้นกลัวข้อหาที่เราฟ้องละเมิดไปครับ
คิดว่าจะจบแค่นั้น ไม่เลยครับ เค้าไปหาเรื่องที่บริษัทด้วย บอกว่าข้าวกล้องเอื้อพวกพ้อง เอาผม เอาเพื่อนๆ มาทำงาน โดนทำให้บริษัทเสียหาย ทีนี้โดนยกทีมเลยครับ ไอโต้ง ยัยนัท ก็โดน นี่ก็กำลังเอาไปสอบในที่ประชุมใหญ่ แต่ได้ยินคร่าวๆว่า ผู้บริหารเค้าไม่เอาด้วยกับญาติฝั่งพ่อดิษเค้าครับ กำลังจะถอนเรื่อง
พอเรื่องเบา ผมหนีกลับไปบ้าน เพราะเหนื่อยใจมากๆ ไอคำที่ว่าเป็นเกย์ ไม่มีลูก จะหวงของไว้ทำไม หรือจะเอาไว้ให้คู่เกย์ใช้ ยังหลอนผมอยู่เลยครับ ปวดใจพูดออกมาไม่ได้เลย ลำบากพ่อแม่ผมต้องมาส่องที่หน้าต่าง กลัวผมฆ่าตัวตาย
วันต่อมา วากบ้ามันมาถงึที่เลยครับ ลืมเล่าไปว่า ที่ผมแอบโกรธมันคือ มันไม่ทำอะไรเลยสามวันตั้งแต่พ่อมันเสีย มาปรากฏตัววันที่สาม แต่เหมือนมันชาร์จพลังมาแล้วครับ มาวันเดียว ญาติพี่น้องกระเจิง ฉากนั้นคืองี้เลยครับ
" เฮ้ยคิม "
" อะไรโต้ง "
" พี่ดิษใส่สูทเดินมานั่นแล้วว่ะ " ผมเพิ่งเคยเห็นมันสวมสูทราคาแพงๆที่พ่อตัดให้ครับ หวีผมหล่อเลยแหละ มันค่อยๆสวัสดีแขก ก่อนตรงมาหาผม แล้วมันก็ .....
" พี่ขอโทษนะ พี่มาแล้ว " มันกอดผมแน่นเลยครับ ผมนึกว่ามันจะร้องไห้กับผมอีก แต่ไม่เลย มันยิ้มให้ พร้อมกับจูงพาผมไปสวัสดีผู้ใหญ่ในงาน โดนมันแนะนำด้วยว่า
" นี่แฟนผมครับ ๆ ๆ ๆ " สภาพผมตอนนั้น กางเกงยีนสีดำ เสื้อขาวอะครับ เทียบกับมันอย่างกับผมเป็นคนใช้ แต่เพราะหลังงานไม่มีใครดูแลไงครับ ผมต้องทำเกือบทุกอย่าง ดีที่ตอนทำงานคณะเราผ่านมาแล้ว ไม่งั้นได้วากใส่คนอื่นแน่
กลับมาตอนที่มันมาที่ไร่ ผมกับมันยืนมองหน้ากันไม่พูดเกือบสามสี่นาที่เห็นจะได้ครับ
" แอบหนีมาทำไม เมื่อคืนเจ็บนะ " เจ็บอะไรคิดเอาเอง โมโหมันมาหลายวันเลย .... แฮะๆๆๆ
" กู ..... เลิกกับมึงทันไหมข้าวกล้อง " ข้าวกล้องยืนยิ้มแฉ่งไม่สะท้านอะไรเลย
" อายุขนาดนี้แล้วนะ ยังอยากกลับไปซิ่งกับสาวๆอีกเหรอหัวหน้าคิม " แหมๆมีหยอด หึหึ
" ไม่ใช่ แต่มึงน่ะ ...... " มันเดินมามวฟปากผมเฉยเลยครับ ไม่อายวัวในคอกเลยมึง
" ตอนพ่อพี่ยังอยู่ คิมกล้าขนาดหนีไปทำงานล้างจาน ตอนนี้แค่ญาติพี่คิมก็จะหนีแล้วเหรอ "
" แน่ใจนะ " มันชูแหวนทองให้ผมดู
" แหวนนี่แพงออกนะ ทำให้ให้คนอื่นไม่คุ้มหรอก โอ้ยๆๆๆ " บีบคอแม่ม เหอะๆๆ
" เรื่องมันเยอะมากจริงๆ คิมขอโทษที่หนีออกมา " วากบ้ามันทำตาโต กระพริบตาปริบๆ
" เมื่อกี้ว่าไง "
" ก็บอกว่า คิมขอโทษที่หนีมา " มันตั้งท่านับนิ้วครับ มันทำอะไรวะ
" แทนตัวเองว่าคิมเหรอ หูวววว "
" ไอวากบ้า มึงๆ " มันหัวเราะใหญ่เลยครับ
" ย้ายจากหอ ไปอยู่บ้านพี่เถอะ " คือตอนนี้ ผมก็ยังอยู่หอพักครับ ไม่ได้ย้ายไปไหนเลย
" ทำไมล่ะ " วากดิษควักจดหมายฉบับนึงให้ผม
" อ่านเองนะ พี่จะนั่งแถวนี้แหละ "
จดหมายฉบับนั้นเขียนด้วยลายมือ เป็นของพ่อท่านวากครับ เนื่องจากมันไม่ยาว ผมขอลอกมาเลยแล้วกัน
" คิม พ่อขอโทษที่อยู่ได้แค่นี้ พ่ออยากให้คิมรักข้าวกล้องให้มาก พ่อรู้ว่าคิมเข้าใจพ่อกว่าเขา ขอให้คิมแสดงแทนพ่อด้วย
พ่อมีเวลาไม่นาน ชาติหน้าพ่อจะชดใช้ให้ข้าวกล้อง ถือว่าที่พ่อยอมรับเป็นของขวัญแต่งงาน
ผัวเมียควรมาอยู่ชายคาเดียวกัน อย่าทะเลาะเบาะแว้งกันในเรื่องที่ไม่เคยพูดจา ใครปกปิดอะไรขอให้ดูดีๆ เขาอาจจำเป็นก็ได้
ขอบคุณที่โรจน์เพื่อนรักที่ให้คิมเกิดมา พ่อเขียนไว้เตือนใจ เพราะพ่ออาจจากไปโดยไม่ได้ลา .... " ผมคิดว่าท่านยังเขียนไม่จบดีครับ เพราะไม่ได้ลงชื่อไม่ได้ขีดเส้นใต้
ผมลุกผางเดินไปหาวากบ้าเลย
" ไอดิษเว้ย " มันกระพริบตาปริบๆๆอีกล่ะ น่ารักเหลือเกินมึงอะ
" โวยวายอะไรเมียจ๋า " สะอึกเลยกู เหอะๆ
" จดหมายเนี่ย มึงได้อ่านไหม " มันส่ายหน้า
" อ้าว งั้นรู้ได้ไงว่าอยากให้ย้ายหอ " มันก็ควักจดหมายอีกฉบับมา
" นี่ไง พี่มีอีกฉบับ แต่เป็นสำเนานะ "
" ทำไมเป็นสำเนา "
" ตัวจริง พี่ให้ลุงทนายเอาไปถ่ายแจกญาติๆ " เนื้อความมันก็คล้ายๆกับของผมอะไรครับ แต่มันมีข้อความว่า .....
" ทรัพย์สินพ่อยกให้ข้าวกล้อง (ชื่อจริง) ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งให้แม่และน้องไป "
" นี่มันพินัยกรรมชัดๆเลย " คือเอกสารมันระบุชัดขนาดนั้นครับ ผมไม่ใช่ทนาย แต่ผมเรียนถึงชั้นเนติแล้วก็รู้ครับ
" อืม พ่อพี่คงระแวงแม่เลี้ยงด้วย ถึงบอกว่ามันเป็นจดหมายเขียนถึงคิม เนี่ยซอง " พ่อวากดิษนี่ สมองไม่ได้แย่ไปกับอาการป่วยเลยครับ เฉียบจนผมแอบหนาวเลย ถ้าตอนนั้นท่านคิดจัดการผมกับดิษ คงไม่มีวันนี้แน่ๆ
" มานี่ !!! "
" อะไรเนี่ย " วากดิษลากผมไปนั่ง
" เห็นไหมว่า คิมช่วยท่านได้ด้วย "
จดหมายถึงผม ข้าวจ้าวเอามาให้หลังผมหนีมาวันนึงครับ แม่ท่านวากไม่อยากอ่านจดหมายเลยให้ข้าวจ้าวมาส่ง เดิมทีทั้งสองแม่ลูกไม่อยากได้สมบัติอะไรเลยครับ เพราะพ่อวากดิษทำให้มากแล้ว แม้แต่ตอนเห็นจดหมาย ท่านก็ยังยินดีว่าคงใช้จัดการญาติฝั่งพ่อได้ ก็จะไปสละมรดกกันอีก แต่วากบ้าบอกว่า ถ้าสละมันจะตัดพี่ตัดน้อง เพราะอะไร มันว่างี้ครับ
" พ่อพี่ก่อนเจอแม่คนนี้ ไม่มีแม้แต่ตัวตน ตอนนี้เค้ามีเงินทองตั้งมากมาย พี่เองไม่เคยช่วยหา มีแต่แม่ช่วยหามา แล้วทำไมพี่จ้องโลภขนาดนั้นล่ะ คนที่คิดแต่จะเอาน่ะ ไม่น่าเกิดมาเลย พวกญาติของพ่อพี่ไง " แรงดีไม่ตกเลยเนอะ
ตอนนี้ หลังจากมีจดหมายถึงผม ได้ยินว่าญาติฝั่งพ่อก็เริ่มถอยแล้วครับ เพราะฟ้าเปลี่ยนสี หุ้นของบริษัทของพ่อท่านวาก แม่เลี้ยงกับข้าวจ้าวไม่เอา ขอเป็นเงินกำไร ทำให้วากบ้าเค้าจะมีอำนาจสูง ก็พากันกลัวครับ ผมเลยได้ตื่นขึ้นมาโดนไม่รู้สึกแบกโลกอีกต่อไป ผมไม่ได้เข้าทำงานมา 20 วันแล้วครับ นับตั้งแต่วันที่ผมเข้ามาเล้าครั้งสุดท้าย ผมเข้ามาหากำลังใจครับ ความจริงตอนนั้นผมถูกสอบสวนวินัยบริษัท ว่าผมเสนอจ้างพวกพ้อง ก็คือไอวินกับไอเดย์ เข้ามาในบริษัท พวกมันสองคนก็จะลาออกตั้งแต่ตอนนั้น แต่ผมก็ใช้ไม้ตายตัดพี่ตัดน้อง มันเลยอยู่กันต่อ
วันนี้อีกเหมือนกัน ที่ประชุมบอกว่า เดย์จบหลักสูตรต่างประเทศ วินก็มีทักษะภาษาสูง ผมจ้างในราคาต่ำด้วยซ้ำไป เค้าเลยเพิ่มเงินให้มันด้วยครับ ส่วนผมจะได้ค่าจ้าง 20 วันพร้อมดอก แต่ผมไม่รับหรอกครับ ช่างมัน
อยากบอกว่าดีใจครับ ที่เคยเล่าเรื่องของตัวเองไว้เมื่อ 4 ปีก่อน ทำให้ผมสามารถระบายออกมาได้เต็มปาก แฮะๆๆ ใครบ่นไม่ใช่พี่ใช่น้องผมจริงๆด้วย คึคึคึคึ
และสุดท้ายของวัน ผมขอบคุณทุกคนที่เข้ามาแวะเวียนหา มีอยู่คนนึงที่มารอผมทุกวัน ทุกคนคงจะเห็น ผมขอบคุณมากครับ แต่ด้วยภารกิจ ต่างคนต่างมา ผมเลยไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจ แต่ผมซาบซึ้งจริงๆ
หลังวันที่ 10 ธันวาคม ผมนัดไกล่เกลี่ยครั้งสุดท้ายครับ ถ้าไม่จบก็ไม่ต้องจบครับ สู้กันแน่นอน แต่เข้าใจว่าจบครับแฮะๆ หลังวันที่ 10 ธันวาคม ผมขอหยุดยาวไว้แล้ว แต่ผมไม่ได้ไปไหนครับ ขอพักนอนกับตื่นกับกินที่บ้านวากบ้าพอละ
ผมกลับมาแล้วครับ ขอบคุณทุกกำลังใจ
สวัสดีฝันดีครับทุกคน