(เรื่องสั้น) สุดที่รัก [ของคนอื่น] ตอนที่ 5 >>EnD<< Up!!! 14/09/53
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) สุดที่รัก [ของคนอื่น] ตอนที่ 5 >>EnD<< Up!!! 14/09/53  (อ่าน 29789 ครั้ง)

tonight

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



.........................................................................................
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2010 00:13:30 โดย tonight »

tonight

  • บุคคลทั่วไป
สุดที่รัก (ของคนอื่น)


…แต่สุดที่รักของคนอื่น จำไว้ของคนอื่น อย่าไปฝืนให้มันเกินฝัน เมื่อเธอต้องรักเขา
และเราต้องเลิกกันก่อนที่ฉันจะเป็นคนเลว…


บทเพลงสุดที่รัก (ของคนอื่น) ซึ่งขับร้องโดยเสียงทุ้มของนักร้องนำวง I-Zax ได้ผ่านเข้าโสตประสาทการรับฟังและผมก็มีเวลาว่างพอที่จะเรียบเรียงถ้อยคำและความหมาย


ผมคิดว่าการที่ได้สัมผัสกับความรักรูปแบบนี้คงจะเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมากที่สุด เป็นใครอยากจะไปรักคนมีเจ้าของ เว้นเพียงแต่ว่าเราไม่อาจจะถอนใจจากความรักครั้งนี้ได้


ผมคิดอะไรเพลินๆก่อนที่จะรับรู้ได้ถึงแรงสะกิดก่อนที่หญิงสาวรูปร่างหน้าตาสะสวยจะนั่งลงต่อหน้า


“ดีจ้า ภัทร” น้ำเสียงหวานใสเอ่ยทักทาย


“ไม่เจอกันนานเลยนะนุช หน้าตาของว่าที่เจ้าสาวสดใส เบิกบานเชียวนะ”


“แหมๆ ไม่ต้องมาแซวเลยนะ ว่าแต่ภัทรเถอะเมื่อไหร่จะเจอคนที่ใช่สักที”


“เนื้อคู่ยังไม่เกิดน่ะ” ผมเอ่ยก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ


“บ้าสิ ถ้าเนื้อคู่ยังไม่เกิด แล้วนี่ภัทรอายุปาเข้าไปจะ 30 แล้ว แล้วถ้าเนื้อคู่เกิดมาไม่กลายเป็นเลี้ยงต้อยหรอกเหรอ ฮ่าๆๆๆ…” เมื่อนุชเอ่ยจบ เราทั้งคู่ก็พากันหัวเราะ


เสียงดังกรุ๊งกริ๊งจากโมบายลมที่แขวนไว้ที่บานประตูของร้านเรียกให้ผมหันไปมองอย่างไม่มีเหตุผล ภาพเบื้องหน้าที่เห็นสะกดให้ผมไม่อาจจะละสายตาไปไหนได้


ชายร่างสูงแต่งสูทสีเทาควันบุหรี่ดูภูมิฐานเดินด้วยท่วงท่างามสง่าก่อนที่จะมาหยุดอยู่ต่อหน้าและนั่งลงเคียงข้างนุช เพื่อนสาวคนสนิทของผม


“ภัทร นี่คุณภวินทร์จ้ะ”


วินาทีนั้นผมสาบานกับตัวเองได้เลยว่า โลกทั้งใบกำลังหยุดหมุน ผมกับเขาสบตากันเนิ่นนานก่อนที่มือเราทั้งคู่จะสัมผัสกัน การกระทำนั้นทำให้เกิดกระแสความรู้สึกบางทีแล่นผ่านไปทั่วทั้งร่าง


ริมฝีปากบางของเขายกยิ้มกว้างจนเผยให้เห็นลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง ผมอยากจะถามเขาเหลือเกินว่า “มีใครเคยบอกไหม ว่ารอยยิ้มของคุณมีเสน่ห์มาก”


แต่ผมก็ตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันได้ไม่นานเนื่องจากแสงวิบวับวูบวาบที่ส่องเข้ามาแยงตา โอ้โห!!! แหวนเพชรน้ำงามที่นิ้วนางข้างซ้ายของนุชนั่นเองซึ่งไม่แปลกสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่เตรียมจะเข้าประตูวิวาห์เร็วๆนี้


และคงจะดีมากกว่านี้ถ้านิ้วนางข้างซ้ายของมือใหญ่ที่แสนจะอบอุ่นเมื่อครู่จะไม่มีเครื่องประดับตีตราว่ามีเจ้าของจองแล้ว


สองคนตรงหน้าของผมช่างเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก


หากผมเจอเขาที่อื่น หากเขาไม่ใช่คนของเพื่อนสนิทของผม


ผมคงจะบอกกับนุชไปแล้วว่า



“คนนี้แหละที่เกิดมาเพื่อภัทร”


To B Con…

(ขอฝากเรื่องสั้นเรื่องนี้ไว้ในอ้อมแขน อ้อมใจด้วยนะคับ ติชมกันได้เสมอจะได้นำไปปรับปรุงคับแล้วก็จะรีบอัพให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจให้ต่อไปด้วยนะคับ :call:)

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
หลงรักคนมีเจ้าของของเพื่อนรักตัวเอง
ดูแล้วน่าปวดหัวแทนจัง


yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เปิดเรื่องได้น่าสนใจชวนติดตามค่ะ

pattyam

  • บุคคลทั่วไป
โห มาแค่สั้นๆ

แต่ชวนให้ติดตามมากๆคะ ไรเตอร์


ดึงดูดให้อยากรู้ความเป็นไปต่อไปของตัวละคร อ๊ายยยย รีบมาต่อนะคะ :mc4:

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :o12: :o12:

โห ถ้าทางจะเศร้า
เตรียมทิชชู่ก่อน

Verxus

  • บุคคลทั่วไป
น่าติดตามมากค่ะ มาต่อไวๆนะค้าา
แววดราม่ามาแต่ไกล

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
อืมๆเรื่องสั้น  เลยมาซะสั้นเชียว   แล้วจะรอตอนต่อไปนะครับ :3123:

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
วี่แววเจ็บปวดตั้งกะเริ่มเรื่องเลยอะค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ รออ่านๆ  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เตรียมผ้าขนหนูซับน้ำตาได้เลยมั้ยค่ะ

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ซับน้ำตาด้วยไหมอ่ะ

ท่าทางจะเศร้า   :monkeysad:   :monkeysad:

pogiodot

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0

tonight

  • บุคคลทั่วไป
Re: (เรื่องสั้น) สุด&#
«ตอบ #14 เมื่อ08-09-2010 16:07:54 »

-2-
   

หลังจากที่ได้แนะนำตัวกันเป็นที่เรียบร้อย หญิงสาวก็มองชายหนุ่มทั้งสองคนที่นั่งสบตากันก่อนจะเอ่ยแทรกบทสนทนาเมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มเงียบเกินไป


“เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ”


“ผมกำลังหามัณฑนากรช่วยตกแต่งบ้านอยู่ พอดีนุชบอกว่ารู้จักมัณฑนากรฝีมือดีเลยอยากแนะนำให้ผมรู้จัก”


“พี่วินก็บอกภัทรไปสิคะว่าตกแต่งเรือนหอ ภัทรเขาจะได้ออกแบบถูก” นุชเอ่ยก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้ชายหนุ่มข้างกายเธอ


ถ้าคุณภัทรตกลงรับงานนี้ ผมคงจะดีใจมาก” เขาเอ่ยด้วยแววตาเป็นประกายพร้อมรอยยิ้มที่ชวนให้หลงใหล


แล้วแบบนี้ผมจะปฏิเสธลงได้อย่างไร…



   เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยก็เริ่มจากการที่คุณวินขับรถมารับที่คอนโดเพื่อพาผมไปดูตัวบ้านที่หัวหิน


“นุชไม่ได้ไปด้วยเหรอครับ” ผมเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นเพื่อนคนสนิท


“รายนั้นอยู่ทำโอทีน่ะครับ”


“นุชยังขยันเหมือนเดิมนะครับ คุณวินโชคดีจริงๆ” ผมเอ่ยออกไปทั้งๆที่ในใจก็อดที่จะรู้สึกอิจฉาลึกๆไม่ได้


ผมละสายตาจากเขาก่อนจะก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ก่อนที่จะเผลอแสดงความรู้สึกออกไปมากกว่านี้


แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อใบหน้าคมเข้มโน้มเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รินรดโดนผิวแก้ม


ใกล้…จนได้กลิ่นอาฟเตอร์เชฟเย็นๆ ใกล้…จนหัวใจของผมสั่นไหว


“ลืมคาดเซฟตี้เบลล์ไม่ได้นะครับ ผมไม่อยากถูกตำรวจเรียกกลางทางนะ”


เขาเอ่ยก่อนจะหัวเราะในลำคอราวกับผมเป็นเด็กตัวน้อยๆที่ยังไม่รู้ประสา


“คุณวินก็บอกภัทรได้นี่ครับ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องทำให้เลย” ผมเอ่ยก่อนจะรีบหันหน้าหนีทำเป็นสนใจวิวทิวทัศน์ทั้งที่จริงแล้วตั้งใจจะซ่อนใบหน้าแดงระเรื่อ


   ตอนนี้รถคันงามก็แล่นออกมาจากถนนใหญ่เพื่อเข้าไปในซอยที่มีต้นสนเรียงตัวทอดไปตามแนวยาว ผมชื่นชมบรรยากาศอย่างตื่นตาตื่นใจเนื่องจากนานๆทีได้มีโอกาสมาเห็นทิวทัศน์ธรรมชาติ


แต่แล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นอีก


“คุณวินนี่ท่าทางจะเป็นคนอารมณ์ดีนะครับ หัวเราะได้ตลอดเลยทั้งๆที่ผมไม่เห็นว่ามีอะไรน่าขำเลยสักนิด” ผมเอ่ย


“ก็คุณภัทรน่ะสิครับ ทำท่าทางเหมือนเด็กๆเวลาจะเข้าดิสนี่แลนด์เลย”


“ท่าทางของผมตลกขนาดนั้นเลยเหรอครับ”


“ไม่หรอกครับ น่ารักมากเลยต่างหาก”


ผมหันไปมองเขาแล้วก็เห็นสายตาคู่นั้นสบมาพอดีและเป็นอีกครั้งที่เขาสะกดผมด้วยรอยยิ้ม


ไม่นานเราทั้งคู่ก็มาอยู่หน้าบ้านไม้สองชั้นที่เหมือนกับว่ายังตกแต่งไม่เสร็จดี เนื่องจากยังมีบางส่วนที่ยังไม่ได้ทาสีและก็ยังเหลือส่วนที่เป็นสวนหน้าบ้านอีก


ผมมองบ้านหลังนี้ก่อนจะขมวดคิ้วใช้ความคิด บ้านหลังนี้ผมต้องเคยเห็นที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอนเพราะแบบบ้านคุ้นตามาก


“คุณวินครับ พอจะบอกผมได้ไหมว่าใครเป็นคนออกแบบบ้านหลังนี้”


“อ่อ…พอดีผมเคยเห็นภาพร่างแบบบ้านหลังนี้ตอนสมัยเรียนน่ะครับ รู้สึกถูกใจก็เลยลองออกแบบสร้างและปรับอะไรเพิ่มอีกนิดหน่อยน่ะครับ”


มองยังไงผมก็รู้สึกคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้มาก อีกอย่างบ้านหลังนี้เป็นตามแบบฉบับบ้านในอุดมคติของผมทุกประการในใจนึกอิจฉาคนที่จะได้อยู่ในบ้านหลังนี้เหลือเกิน


“เข้าไปดูเลยไหมครับ”


ผมพยักหน้าตกลงก่อนที่เราทั้งคู่จะเดินผ่านประตูที่ด้านบนมีซุ้มพวงชมพูประดับอยู่


“ตัวบ้านผมยังลงสีไม่เรียบร้อย ด้านในก็เหลืออีกนิดหน่อยแต่คิดว่าอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ทุกอย่างคงน่าจะเรียบร้อย”


“คุณเป็นคนทาสีบ้านเองเหรอ” ผมถามเขาด้วยความอยากรู้


“ครับ” เขาตอบผมพร้อมรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ


ยิ่งได้รู้จักเขาในหลายๆมุมยิ่งทำให้ผมได้รู้ว่าเขาคือคนที่ผมรอคอยมาแสนนานจริงๆ ทุกอย่างที่เขาเลือกหรือหยิบจับล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ผมชอบ ตอนนี้ผมก็มีคำถามอยากถามนุชอีกว่า “นุชไปเจอผู้ชายแบบคุณวินที่ไหน”


“นุชโชคดีมากเลยนะครับ ที่จะได้แต่งงานกับคนที่เพียบพร้อม”


เขาหันมายิ้มให้ผม


“แล้วคุณภัทรล่ะครับ”


“ผมเป็นผู้ด้อยโอกาสด้านความรักน่ะครับ ถ้าไม่รักเขาข้างเดียวก็มักจะรักคนมีเจ้าของแล้ว” ผมเอ่ยก่อนมองตาเขาตรงๆไม่มีหลบ


“คุณเพียงแค่ยังไม่เจอคนๆนั้น แต่ผมคิดว่าต้องมีสักคนที่เขาก็กำลังรอคุณอยู่เช่นกัน”


เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มหู ผู้ชายตรงหน้าเป็นคนที่มีเสน่ห์เหลือร้าย น้ำเสียง ดวงตา บุคลิกท่าทาง รอยยิ้ม ทุกอย่างที่เป็นเขาล้วนสะกดผมได้อยู่หมัดจริงๆ


ปลายนิ้วเรียวของเขายื่นมาเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าก่อนจะไล้เฉียดผิวแก้มเรียกไอร้อนผ่าวก่อนใบหน้าคมเข้มจะก้มลงมาใกล้ ผมรีบหลับตาแล้วหันหน้าหนีทันที


หัวใจจะวายตาย ใครใช้ให้เล่นแบบนี้กับผมเนี่ย…


“ขอโทษทีนะครับ ผมเพียงแต่เห็นกลีบพวงชมพูติดอยู่ที่ผมคุณภัทรเลยจะเอาออกให้”


เพียงสองครั้งที่เจอกันก็เล่นเอาหัวใจผมทำงานหนักเกือบจะทุกเวลา แล้วหลังจากนี้อีกหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ผมจะอยู่ในสภาพไหนกัน แล้วหัวใจที่ผมเคยเป็นเจ้าของจะเปลี่ยนไปเป็นเขาไหม


ใจหนึ่งผมอยากให้เวลาหยุดอยู่ตรงนี้ชั่วนิรันดร์


อีกใจหนึ่งผมคงไม่อาจเป็นคนทรยศหักหลังเพื่อนได้ลง


“เป็นอะไรไปครับ หน้าตาไม่ค่อยสดชื่นเหมือนเมื่อกี๊เลย”


ผมฝืนยิ้มแบบที่คิดว่าสดใสที่สุดส่งให้เขา


“ไม่มีอะไรหรอกครับ”


“เดี๋ยวคุณภัทรไปเปลี่ยนชุดสบายๆดีกว่านะครับ ผมเองก็จะไปเปลี่ยนชุดด้วย เดี๋ยวเราเจอกันหน้าบ้านนะครับ”


ผมเปลี่ยนเป็นชุดลำลองสบายๆเพื่อให้เหมาะกับสถานที่ เมื่อเดินออกมาจากห้องก็เห็นเขายืนรออยู่แล้ว


“ไปสูดอากาศบริสุทธิ์กันดีกว่าครับ อยู่แต่ในกรุงเทพฯมีแต่มลภาวะ”


เราเดินเคียงคู่เหยียบย่ำลงบนผืนทรายที่ทอดตัวยาวก่อนจะมองเห็นท้องทะเลสีครามกว้างสุดลูกหูลูกตา เสียงคลื่นกระทบฝั่งทำให้ใจของผมสงบลงได้อย่างน่าประหลาด


ร่างสูงขยับกายยืนซ้อนด้านหลังของผมก่อนฝ่ามือใหญ่จะวางลงบนลาดไหล่ ไออุ่นที่ถ่ายทอดมาทำให้ผมเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัว


“จะสูดอากาศต้องยืดตัวด้วยสิครับ ยืดแขนเหมือนท่าบิดขี้เกียจแล้วก็สูดอากาศเข้าลึกๆ” เขาเอ่ยเหมือนเป็นเทรนเนอร์ในฟิตเนสก่อนจะจับท่อนแขนผมให้ยืดออกจนสุด


จนตอนนี้กลายเป็นว่ามือของเราทั้งสองคนประสานกันไว้ก่อนที่จะลดระดับลงจนกลายเป็นว่าตอนนี้เขากำลังโอบกอดผมจากด้านหลัง


ลมทะเลพัดผ่านเรื่อยๆ ท้องฟ้ายามอาทิตย์อัสดงเป็นสีส้มอมชมพู แสงสุดท้ายของวันกระทบผืนน้ำส่องประกายระยิบระยับ คงเป็นเพราะบรรยากาศ


ใช่…เพราะบรรยากาศมันพาไปถึงเกิดการกระทำแบบนี้


เมื่อรู้ตัวผมจึงพยายามจะขืนตัวออกแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ร่วมมือแต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจนเขาต้องยอมปล่อยผมออกจากอ้อมแขนเพื่อหยุดเสียงเครื่องมือสื่อสาร


“ครับ นุช”


ทันทีที่ได้ยินชื่อนั้นผมก็รู้แย่ รู้สึกผิดที่เผลอไปรู้สึกดีๆกับสัมผัสของว่าที่เจ้าบ่าวในอนาคตของเพื่อนสนิท


ผมมันแย่ที่สุด


ขืนยังเป็นอย่างนี้อยู่ต่อไป อีกไม่นานผมก็คงจะกลายเป็น…คนเลว…เข้าสักวัน

To B Con…

(ติดตามตอนต่อไปด้วยนะคับ หวังว่าทุกคนจะชอบ ขอโทษทีด้วยนะคับที่ยาวเกินไปหน่อย แหะๆ หวังว่าทุกๆคนจะอ่านกันไหวนะคับแล้วก็อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหน อยู่เป็นกำลังใจกันต่อไปนะคับ ปล…ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์นะคับดีใจมากจริงๆ ขอบคุณมากคับ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2010 16:11:30 โดย tonight »

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
:เฮ้อ: รักคนมีเจ้าของมีแต่จะเจ็บปวดเนอะคะ...
แต่อาจจะมีพลิกหรือเปล่าหว่า? มันอาจจะไม่มาม่าอย่างที่คิด (ปลอบใจตัวเอง 555)

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
ไม่หรอกไม่ใช่คนเลวหรอกน่ะคนเรามันย่อมมีสิทธิ์ที่จะคิดจะหวังไม่ใช่เหร่อ อย่าได้โทษตัวเองเลยเรายังเป็นขอบอก ไม่ผิดหรอก

Verxus

  • บุคคลทั่วไป
โอยยย ไม่ยาวไปหรอกค่ะ สั้นไปด้วยซ้ำ!!!!!
ตายละ เป็นแฟนฉัน ในสมัยเด็กของภัทรป่าวเนี่ย บ้านหลังนั้นต้องเป็นภัทรออกแบบไว้เองแน่เลย
อยากอ่านต่อไวๆค่ะ มาลงต่อนะคะ  :call:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
แค่ชื่อก็มาม่า ยิ่งอ่านยิ่งมาม่า

ใจจริงก็อยากเชียร์ให้สมหวัง แต่ก็ไม่อยากให้หักหลังเพื่อน

และก็ไม่อยากให้มีเหตุให้นุชต้องจากไป T________T

tonight

  • บุคคลทั่วไป
:เฮ้อ: รักคนมีเจ้าของมีแต่จะเจ็บปวดเนอะคะ...
แต่อาจจะมีพลิกหรือเปล่าหว่า? มันอาจจะไม่มาม่าอย่างที่คิด (ปลอบใจตัวเอง 555)



หุหุ  รอติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆนะคับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
เฮ้ย.... เอาล่ะสิ ทำไงดีล่ะที แค่แอบเผลอใจไปน่ะไม่ถือว่าเลวหรอกนะ แต่อย่าไปแย่งเขาก็พอ ของเพื่อนสนิทซะด้วยสินะ.... :เฮ้อ:

รักคนมีเจ้าของมันน่าเหนื่อยใจเนอะ เจ็บปวดยิ่งนัก  :L3:  เฮ้อ~ จะพลิกล็อกอีท่าไหนล่ะเนี่ย.......

ว่าแต่~~ แปลนนี้ตาวินนี่ไปเห็นมาจากไหนฟระ~ แล้วทำไมหนูภัทรถึงจำไม่ได้ล่ะ ทั้งๆที่เป็นบ้านในอุดมคติก็น่าจะจำได้นะ o8

ปล.ไม่ยาวไปหรอกค่ะ สั้นไปด้วยซ้ำ ไอรีเควสยาวกว่านี้นะ :m18:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
รักคนมีเจ้าของ รู้สึกยังไงบ้างละ :L1:

ออฟไลน์ Non_stop

  • Until we meet again
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
 o13 o13

สนุกมากเลยค่ะ

อยากบอกว่าทุกคนรอคุณอยู่น่ะ

แต่งยาวๆก็ได้ค่ะสนุกดี

 :L2:

ออฟไลน์ zingiber

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
เข้ามาให้กำลังใจค่ะ  :L2:
อยากบอกว่าไม่ยาวไปหรอกค่ะ ไม่มีคำว่ายาวเกินไปสำหรับรีดเดอร์ทั้งหลาย มีแต่คำว่า ทำไมสั้นจัง 5555
อยากรู้จังว่าเรื่องจะพลิกไปยังไง

tonight

  • บุคคลทั่วไป
(ขอสกรีมก่อนนะคับ คืออยากจะบ้าตายกับคอมพีซีที่บ้านมากคือโปรแกรมเวิร์ดมันรวนคับ พิมพ์ๆอยู่มันเล่นตัดออกจากโปรแกรมเลย แล้วกำลังพิมพ์ไปเรื่อยๆหายหมด เซ็งจิตมาก :m16: ต้องมานั่งเริ่มกันใหม่ เอาเป็นว่าตอนที่ 3 มาแล้วล่ะคับทุกคน)

-3-

   หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทะเลทั้งเขาและผมก็ไม่ได้มีใครเอ่ยถึงเรื่องนั้นอีก เราสองคนนั่งกินอาหารง่ายๆที่หาได้ตามแถวนั้นก่อนที่ผมจะแยกไปนั่งร่างแบบเพื่อตกแต่งภายใน


ลมทะเลพัดผ่านบานหน้าต่างไม้เข้ากระทบกับผืนผ้าม่านบางพลิ้วไปพลิ้วมามองดูแล้วเพลิดเพลิน


เสียงเพลงเบาๆเปิดคลอไปด้วยยิ่งทำให้บรรยากาศดูโรแมนติก หากว่าเป็นนุชมาแทนผม สองคนนั้นคงจะต้องสวีตหวานอย่างแน่นอน


ผมไม่รู้ว่าเผลอหลับไปนานแค่ไหนแต่มารู้สึกตัวตื่นก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนที่นอนปิ๊กนิคในห้อง ผ้าแพรสีสวยถูกดันออกจากตัวก่อนที่จะบิดขี้เกียจและสูดหายใจเข้าปอด


ว่าแต่…ผมเข้ามานอนในห้องได้ยังไง


หรือว่า…



เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ผมลุกขึ้นไปเปิด


ผมเห็นคุณภวินทร์ยืมยิ้มให้ต้อนรับเช้าวันใหม่ ถึงแม้ท้องฟ้าจะยังมืดเนื่องจากพระอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นเส้นขอบฟ้าก็ตาม


“หิวหรือยังครับ ไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนนะ เดี๋ยวผมจะพาไปหาอะไรกิน ตลาดอยู่แถวๆนี้เอง”


หลังจากที่ผมทำภารกิจส่วนตัวเสร็จก็เดินออกมาหน้าบ้านเห็นจักรยานสองคันจอดอยู่


“ลำบากหน่อยยะครับ พอดีผมยังไม่ได้สั่งเตียงมาเลยต้องนอนแบบนั้นไปก่อน”


“สบายมากครับ ภัทรไม่ใช่คุณหนูที่จะต้องนอนแต่บนเตียงนุ่มๆนะครับ”


“ครับๆ เอาเป็นว่าผมมีสองทางให้เลือก หนึ่งคือเราจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันก่อนถ้าภัทรยังไม่หิว สองคือเราจะไปหาอะไรกินกันก่อนถ้าภัทรหิวแล้ว”


ผมยิ้มกว้างเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อโดยที่ไม่มีการเติมคำนำหน้าที่ดูเป็นคนอื่นคนไกล


“ยังไม่หิวครับ อีกอย่างภัทรไม่อยากพลาดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่หัวหินหรอกนะครับ”


และก็เป็นอีกครั้งที่เขาหัวเราะ


“คุณวินคงคิดว่าภัทรเหมือนเด็กอีกแล้วใช่ไหมครับ”


“ก็นิดหน่อยครับ ว่าแต่…ผมว่าเราลดหรือตัดคำสุภาพออกไปบ้างดีไหมครับ แลดูห่างเหินยังไงชอบกล”


“ได้ครับ คุณ…อ๊ะ…ได้ครับวิน”


อ่า…ครั้งแรกที่ผมเรียกชื่อเขาตรงๆ บรรยายความรู้สึกออกมาไม่ถูกเลยจริงๆ หัวใจเจ้ากรรมก็เต้นแรงสูบฉีดเลือดซะจนหน้าร้อนผ่าว


“ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวไม่ทันนะ”


เขาเอ่ยก่อนจะขี่จักรยานนำไปก่อนที่ผมจะเร่งความเร็วจนตามทัน ก่อนจะไปจอดอยู่บนสะพานที่ทอดตัวออกไปกลางทะเล


ดวงอาทิตย์สีส้มแดงค่อยๆโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ


“ผมเพิ่งเคยตั้งใจดูพระอาทิตย์ขึ้นเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย”


“แล้วที่ผ่านมาภัทรไม่เคยดูเลยเหรอ”


“ผมไม่ค่อยมีเวลาไปไหนหรอกครับ ทำแต่งานและถึงแม้จะมีเวลาก็ใช่ว่าจะมีคนไปด้วย ให้ไปนั่งมองบรรยากาศโรแมนติกคนเดียวหรือไปดูคู่อื่นเขาสวีตใส่กันล่ะก็…ขอนอนอยู่บ้านโดยมีกระดาษร่างแบบอยู่รอบตัวยังจะดีซะกว่า”


“งั้นวันนี้ภัทรดูให้เต็มที่เลยนะ ผมจะนั่งอยู่ข้างๆนี่แหละ”


น้ำเสียงของเขาทำให้รู้สึกอบอุ่นไปทั่วทั้งหัวใจ ใช่…ตอนนี้เขากำลังอยู่ข้างๆกายของผมแต่อีกไม่นานเขาก็จะไปอยู่ข้างกายของคนอื่น


เมื่อแสงเริ่มสว่างจ้าขึ้นเขาก็ชวนผมไปหาอะไรกินเพราะว่าถ้าช้ากว่านี้ร้านประจำของเขาจะเก็บของกลับบ้าน


“ต้มเลือดหมูร้านนี้ขึ้นชื่อเลยนะครับ แต่ถ้าภัทรไม่ถนัดของหนักท้องโจ๊กก็มีนะครับ หรือกาแฟ น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋”


“ก็ในเมื่อวินบอกว่าต้มเลือดหมูขึ้นชื่อ ภัทรจะพลาดได้ไงกัน”


หลังจากมื้อเช้าแสนอร่อยสมคำร่ำลือผมก็กลับมานั่งประจำที่ระเบียงบ้านซึ่งเป็นจุดที่เห็นวิวทะเลได้ดีที่สุดและดูเหมือนว่าอีกภาพหนึ่งที่น่าสนใจคงจะไม่พ้น…


ชายหนุ่มรูปร่างสูงสมส่วนถอดเสื้อโชว์รูปร่างในขณะกำลังทาสีบ้าน ผมสีเข้มที่เคยปรกหน้าผากบัดนี้ถูกผ้าเช็ดหน้าสีขาวคาดกันไว้ ลักยิ้มที่เผยให้เห็นบ่งบอกได้ว่าคนทำกำลังเพลิดเพลิน


ลมทะเลหอบพัดมาวูบหนึ่งเป็นเหตุให้แผ่นกระดาษปลิวว่อนไปทั่ว ผมรีบคว้าบางส่วนของตัวเองไว้ได้แต่ดูเหมือนว่าจะมีอีกหลายๆแผ่นที่กระจัดกระจายไปทั่ว


ผมเก็บส่วนของตัวเองเข้าแฟ้มจนเรียบร้อยแต่ก็ต้องมาเก็บให้ส่วนของเขาด้วยเช่นกัน แผ่นกระดาษนับสิบๆแผ่นถูกรวบมารวมอยู่กองเดียวกันแต่มีเศษกระดาษแผ่นหนึ่งที่ใหญ่กว่าแผ่นอื่นแถมขอบกระดาษก็เริ่มเป็นสีเหลืองบ่งบอกถึงระยะเวลา


ความจริงผมก็มีมารยาทพอที่จะไม่ทำอย่างที่ใจคิดแต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นมันมีมากกว่าทำให้จับภาพนั้นเพื่อจะนำมาดูแต่เสียงของเขากลับเรียกขัดเสียก่อน


“ว่าไงครับ วิน”


“ผมว่าจะจัดการกับซุ้มพวงชมพูสักหน่อยเลยอยากได้ผู้ช่วยมาจับเก้าอี้ให้เพราะไม่อยากตกลงมาคอหักหรือเป็นอัมพาตน่ะครับ” เขาเอ่ยก่อนจะหัวเราะตามแบบฉบับคนขี้เล่น


หลังจากที่เขาจัดการกับดอกไม้สีหวานเป็นที่เรียบร้อย ช่วงขายาวก้าวลงมาจากเก้าอี้แต่เนื่องจากพื้นด้านล่างเป็นดินที่ค่อนข้างแฉะทำให้ร่างสูงลื่นจนเสียการทรงตัว


ผมพยายามฉุดเขาไว้แต่ด้วยความที่ไม่อาจถ่วงน้ำหนักไว้ได้ มือข้างที่ว่างจึงคว้าไปที่เถาของต้นพวงชมพูแต่ด้วยความบอบบางของต้นไม้ จนแล้วจนรอดเราทั้งคู่ก็ล้มลงบนพื้นโดยมีกลีบสีหวานของดอกพวงชมพูร่วงโปรยปรายตามลงมาด้วย


ณ เวลานี้ราวกับถูกสายตาคู่คมดึงดูดไว้ไม่ให้ละไปไหนจนลืมไปแล้วว่าตอนนี้สถานการณ์ล่อแหลมมากแค่ไหนเพราะผมนั่งคร่อมอยู่ที่ช่วงเอวของเขา


ปลายนิ้วเรียวของมือใหญ่เกลี่ยไปตามแนวโครงหน้าของผมก่อนจะหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก ลูบไล้ไปมาช้าๆทำให้เคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสต้องห้าม


ความอบอุ่นของเขา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ามือ รอยยิ้มหรือการกระทำก็ตาม


สิ่งเหล่านั้นทำให้ผม…เผลอ…รักคนมีเจ้าของ


มือใหญ่สัมผัสที่ซีกแก้มโน้มใบหน้าให้ก้มต่ำลงไปหาก่อนจะแนบริมฝีปากอุ่นลงบนแก้มของผมเนิ่นนาน


แต่แล้วจิตสำนึกก็ปลุกผมจากภวังค์ ผมรีบผละลุกขึ้นจากเขา


“ตัวเลอะหมดแล้ว ภัทรขอไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ผมรีบก้มหน้าก้มตาเดินหนี ซ่อนใบหน้าระเรื่อด้วยความเขินขาย


“เดี๋ยวภัทร…คือเมื่อกี๊…”


เขาเดินเข้ามาคว้าแขนผมไว้


“แค่อารมณ์ชั่ววูบ ภัทรไม่ถือ”


“เดี๋ยวภัทร”


เขาเอ่ยเรียกไว้อีกครั้งเมื่อเห็นว่าผมกำลังจะเดินหนี


เขาใช้อ้อมแขนกว้างโอบรั้งผมไว้ ไม่มีถ้อยคำใดๆอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้น และเราก็มายืนเผชิญหน้าประสานสายตากัน


ร่างสูงค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะใช้ฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างประคองซีกแก้มก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้จนริมฝีปากของเราแนบชิด


ตอนนี้ผมรับรู้ได้เพียงแค่สัมผัสของเขาเท่านั้น แค่…ภวินทร์เท่านั้น


ขอเพียงแค่หนึ่งอาทิตย์ที่อยู่ที่หัวหินเท่านั้น แค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นที่ผมจะยอมเป็นคนเลว หลังจากนั้น…


ผมจะไปจากชีวิตของเขา


คำอธิบายการกระทำเหล่านี้จากผมคงมีแต่เพียงคำว่า “ชั่ววูบ” เท่านั้น เพราะผมไม่อาจจะบอกเหตุผลที่แท้จริงออกไปได้ ผมจะบอกเขาได้อย่างไรว่า “ผมรักเขา”


เย็นวันนั้นหลังมื้อค่ำขณะที่วินกำลังล้างจานส่วนผมกำลังร่างแบบห้องไปพลางๆก็มีคนมาผมจึงอาสาไปดูให้


“ผมเอาชุดมาให้คุณภวินทร์น่ะครับ” ชายวัยกลางคนเอ่ย


“ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวผมจะบอกคุณวินให้”


“ชุดมาส่งน่ะครับ” ผมตะโกนบอกเขา


“รบกวนเอาไปแขวนไว้ในห้องให้หน่อยครับ” เขาตะโกนตอบกลับมา


ผมเดินเข้ามาในห้องของเขาซึ่งยังไม่ได้ตกแต่งอะไรก่อนจะเอาชุดที่ถูกคลุมด้วยซองซิปสีเงินขนาดพอดีกับตัวเสื้อ ดูก็รู้ว่านี่คงเป็นชุดที่สำคัญมาก


ตอนนี้ผมไม่สนใจแล้วว่าจะเป็นการเสียมารยาทหรือไม่ผมค่อยๆรูดถุงซิปลงเพื่อดูชุดข้างในแล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้


ชุดสูทสีดำที่ทำจากผ้าเนื้อดีถูกรีดจนเรียบกริบ กลิ่นน้ำยาอัดกลีบยังคงหอมฟุ้ง ในใจของผมตอนนั้นนึกอยากจะทึ้งชุดนั้นให้ยับย่น ขาดวิ่นแต่ผมกลับทำได้เพียงแค่ยิ้ม ยิ้มให้กับภาพของเขาที่อยู่ในชุดสูทหรูที่มีหญิงสาวแสนสวยยืนเคียงข้าง


“ผมอยากคุยกับภัทรได้ไหม” เขาเอ่ยก่อนเดินเข้ามาใกล้


“ครับ ว่ามาเลย”


“ผมอยากให้บ้านเสร็จให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้น่ะ”


“กลัวว่าจะไม่ทันเซอร์ไพร์เจ้าสาวเหรอครับ”


“ไม่ใช่อย่างนั้นนะภัทร”


“ถึงแม้ว่าเราจะเพิ่งได้พบกัน เพิ่งได้พูดคุยกันแต่ผมก็มั่นใจในความรู้สึกของผม ว่าผมรักภัทร”


“รักอย่างนั้นเหรอครับ แต่เสียใจนะครับคุณวิน สำหรับผมน่ะมันก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ คุณก็รู้นี่ว่าผมไม่มีใคร การที่ผมจะเผลอใจไปกับใครสักคนก็ไม่เห็นจะแปลก อีกอย่างถ้าตอนนี้ผมอยู่กับคนอื่นผมก็คงจะทำแบบนี้เหมือนกัน”


“ผมหลงคิดว่าเราจะใจตรงกันเสียอีก”


“คุณหลงอยู่ในความฝัน ส่วนผมอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง ขอโทษด้วยนะครับ พรุ่งนี้ผมจะเร่งทำงานให้เสร็จ เราสองคนจะได้กลับไปอยู่ในที่ที่แต่ละคนควรจะอยู่เสียที”


ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะเดินกระแทกไหล่เขาออกจากห้องไปเพื่อไม่ให้เขาเห็นใบหน้าที่เปรอะเปื้อนรอยน้ำตา ใบหน้าของคนอ่อนแอ ที่พ่ายแพ้ต่อทุกอย่าง


ผมอยากจะบอกเขาไปตามตรง อยากจะบอกออกไปว่า “รัก” เหลือเกิน


แต่เวลากำลังสั้นลงทุกวินาที ภาพหญิงสาวแสนสวยเพื่อนรักคนสนิทของผม ภาพชุดสูทอย่างเป็นทางการของว่าที่เจ้าบ่าว ภาพบ้านแสนสวยที่จะเป็นเรือนหออีกไม่นาน


ทุกๆอย่างมันตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าภวินทร์เป็น…


สุดที่รักของคนอื่น


To B Con…


(สวัสดีคับ มาแล้วๆๆ  คือใจจริงอยากจะสื่อความรู้สึกของทั้งคู่ให้มากกว่านี้แต่นี่ก็ปาเข้าตอนที่ 3 แล้วเดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องไม่สั้นไปเสียก่อน แหะๆ คิดว่าอีกไม่น่าจะเกิน 2 ตอนก็จะปิดตัวแล้วล่ะคับ ช่วยเป็นกำลังใจให้จนจบด้วยนะคับ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์นะคับ ดีใจจริงๆ  :call:)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2010 13:49:43 โดย tonight »

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
อ่านไปเราเริ่มรู้สึกว่า มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่ภัทรคิดก็ได้อะ 555
อาจจะเป็นพวกขอมองโลกแง่บวกเพื่อปลอบใจตัวเองก็ได้
แต่แอบรู้สึกว่า วินอะชอบภัทรจริงๆ อาจจะชอบมานานแล้ว (เพราะดันมีแปลนบ้าน?)
ภัทรอาจจะลืมอะไรบางอย่างไป แล้วนุชก็อาจจะเป็นแค่ตัวช่วยเพราะอยากให้เพื่อนสมหวังอะไรแบบนี้

แต่ถ้าที่เดามาผิด ก็ต้องทำใจ ฮึกๆ มันเจ็บปวด....
ภัทรคงรู้สึกไม่ดี...ทั้งกับตัวเองแล้วก็ตัววิน
(อารมณ์ว่ามาเผลอใจบอกชอบภัทรทั้งที่ตัวเองกำลังจะแต่งงานได้ไงฟระ?)

อ๊ายยย นั่งจิ้นล่วงหน้าก็สนุกดี 555  :laugh:
รอคุณคนแต่งมาต่อนะคะ แต่อีกสองตอนจบแล้วเหรอเนี่ย...เรื่องสั้นนี่เนอะ
ยังไงก็สู้ๆนะคะ รออ่านจ้าา  :L2:

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
ภัทรน่าสงสารถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับใครก็น่าสงสารทั้งนั้น :o12:
พยายามคิดในแง่ดีอยากให้ภัทรกับวินสมหวัง :เฮ้อ:

+1เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ :L2:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เข้าใจความรู้สึกของภัทร ทั้งคำพูดและการกระทำของภัทร คือการใช้ของมีคมกรีดลงบนหัวใจตัวเองนี่เอง
นั่นเพราะภัทรเป็นคนดี

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
บรรยายสื่อความรู้สึกอีกหน่อยก็ได้ค่ะ ถ้าไรเตอร์อยากจะทำ คนอ่านอย่างไอไม่ว่าค่ะ จะเป็นการสื่ออารมณ์เรื่องนี้ยิ่งขึ้นด้วย ^^ เพราะการที่ต้องสื่ออารมณ์ออกมาให้ดีมันเป็นงานเขียน ไม่ใช่เหมือนการดูหนังที่เราสามารถดูท่าทางสีหน้าของตัวละครได้โดยที่ตัวละครไม่ต้องพูดก็ได้(แต่คนเล่นก็ต้องสื่อให้ดีด้วยนะ ไม่งั้นคนดูก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน) แต่เพราะการอ่านหนังสือมันไม่สามารถเห็นสีหน้าท่าทางของตัวละครได้ นอกจากเราจินตนาการตามที่ผู้เขียนเขียนออกมา เพราะฉะนั้นการที่ผู้เขียนเขียนสื่ออารมณ์ออกมาให้ดีเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หัวใจสำคัญของการเขียนนิยายก็คือการเขียนที่สื่ออารมณ์ออกมาให้ดีที่สุดนี่แหละ (ที่จริงการดูหนังก็เหมือนกันนั่นแหละ พล็อตดี แต่คนเล่นห่วย คนดูก็เซ็งเบื่อรู้สึกขัดใจได้เหมือนกัน) ภาษาไม่สวยแต่ถ้าเขียนแล้วทำให้เรานึกภาพออกชัดเจน เรื่องนั้นย่อมมีคนชอบอ่านมาก เพราะถ้าเขียนสวยแต่สื่ออารมณ์ไม่เป็น คนอ่านนึกภาพไม่ออก มันจะยิ่งเป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก ประมาณว่า..ภาษาสวยก็จริง แต่เขียนอะไรออกมาเนี่ย! กูอ่านไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ แล้วกูจะอ่านทำไมวะ <-- มันก็จะเป็นแบบนั้นไป~ ^^ ไอไม่ได้หมายความว่าคุณเขียนไม่ดีนะ (อย่าเพิ่งเข้าใจผิด) แต่ไอแค่ติดใจคำพูดของคุณที่ว่า"อยากเขียนสื่ออารมณ์ให้มากกว่านี้ แต่มันเป็นเรื่องสั้น" ไอก็เลยเกิดคำพูดขึ้นมาในใจว่า..ก็เลยไม่เขียนงั้นเหรอ? บอกตรงๆนะว่าถึงจะเป็นเรื่องสั้นแค่1หน้าwordก็เหอะ แต่ถ้ามันน่าเบื่อ เขียนไม่ดี ไม่รู้เรื่อง ก็ไม่มีใครอยากอ่านหรอกค่ะ ไอเลยอยากบอกว่า "ถ้าอยากเขียนสื่ออารมณ์ให้มากกว่านี้ ก็เขียน" เพราะคนอ่านเป็นผู้ตัดสินว่าเรื่องนี้ดีแค่ไหน ดีพอที่ในอนาคตก็อยากจะกลับมาอ่านอีกไหม ซึ่งก่อนที่จะตัดสินคนเขียนก็ต้องพยายามเต็มที่ใช่ไหมล่ะ คุณก็คงอยากเขียนเรื่องที่อยากให้มีคนมาอ่านและเมื่อไหร่ก็อยากกลับมาอ่านอีกใช่ไหมล่ะ คุณก็คงไม่อยากให้คนที่อ่านแล้วก็อ่านเลยไป รู้สึกงั้นๆ และไม่คิดจะเหลียวกลับมาอ่านอีก ใช่ไหมล่ะ? เพราะงั้นอย่าพูดแบบนี้อีก บอกตรงๆว่าไอไม่สบอารมณ์เลยล่ะ คุณอยากให้ไอรู้สึก "ก็แค่เรื่องสั้นนี่เนอะ" หรือพออ่านจบแล้วอยากให้ไอรู้สึก "ถึงจะสั้นแต่ก็ประทับใจว่ะ เขียนสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีจริงๆ" คุณจะเลือกแบบไหน? (นั่นก็ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณนั่นแหละ)

ปล.ที่บอกซะยาวยืดนี่หวังดีนะคะ ไม่ได้ต้องการทำลายขวัญกำลังใจอะไรนะ (ขอย้ำว่าอย่าเข้าใจผิด)
ปล2.ไอก็ยังเป็นกำลังใจให้อยู่นะ นี่ถ้าไม่สน ไอก็คงไม่คอมเมนท์ซะยาวขนาดนี้หรอกนะ

  :teach:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2010 15:15:29 โดย เกริด้า(๐-*-๐)v »

tonight

  • บุคคลทั่วไป
บรรยายสื่อความรู้สึกอีกหน่อยก็ได้ค่ะ ถ้าไรเตอร์อยากจะทำ คนอ่านอย่างไอไม่ว่าค่ะ จะเป็นการสื่ออารมณ์เรื่องนี้ยิ่งขึ้นด้วย ^^ เพราะการที่ต้องสื่ออารมณ์ออกมาให้ดีมันเป็นงานเขียน ไม่ใช่เหมือนการดูหนังที่เราสามารถดูท่าทางสีหน้าของตัวละครได้โดยที่ตัวละครไม่ต้องพูดก็ได้(แต่คนเล่นก็ต้องสื่อให้ดีด้วยนะ ไม่งั้นคนดูก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน) แต่เพราะการอ่านหนังสือมันไม่สามารถเห็นสีหน้าท่าทางของตัวละครได้ นอกจากเราจินตนาการตามที่ผู้เขียนเขียนออกมา เพราะฉะนั้นการที่ผู้เขียนเขียนสื่ออารมณ์ออกมาให้ดีเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หัวใจสำคัญของการเขียนนิยายก็คือการเขียนที่สื่ออารมณ์ออกมาให้ดีที่สุดนี่แหละ (ที่จริงการดูหนังก็เหมือนกันนั่นแหละ พล็อตดี แต่คนเล่นห่วย คนดูก็เซ็งเบื่อรู้สึกขัดใจได้เหมือนกัน) ภาษาไม่สวยแต่ถ้าเขียนแล้วทำให้เรานึกภาพออกชัดเจน เรื่องนั้นย่อมมีคนชอบอ่านมาก เพราะถ้าเขียนสวยแต่สื่ออารมณ์ไม่เป็น คนอ่านนึกภาพไม่ออก มันจะยิ่งเป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก ประมาณว่า..ภาษาสวยก็จริง แต่เขียนอะไรออกมาเนี่ย! กูอ่านไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ แล้วกูจะอ่านทำไมวะ <-- มันก็จะเป็นแบบนั้นไป~ ^^ ไอไม่ได้หมายความว่าคุณเขียนไม่ดีนะ (อย่าเพิ่งเข้าใจผิด) แต่ไอแค่ติดใจคำพูดของคุณที่ว่า"อยากเขียนสื่ออารมณ์ให้มากกว่านี้ แต่มันเป็นเรื่องสั้น" ไอก็เลยเกิดคำพูดขึ้นมาในใจว่า..ก็เลยไม่เขียนงั้นเหรอ? บอกตรงๆนะว่าถึงจะเป็นเรื่องสั้นแค่1หน้าwordก็เหอะ แต่ถ้ามันน่าเบื่อ เขียนไม่ดี ไม่รู้เรื่อง ก็ไม่มีใครอยากอ่านหรอกค่ะ ไอเลยอยากบอกว่า "ถ้าอยากเขียนสื่ออารมณ์ให้มากกว่านี้ ก็เขียน" เพราะคนอ่านเป็นผู้ตัดสินว่าเรื่องนี้ดีแค่ไหน ดีพอที่ในอนาคตก็อยากจะกลับมาอ่านอีกไหม ซึ่งก่อนที่จะตัดสินคนเขียนก็ต้องพยายามเต็มที่ใช่ไหมล่ะ คุณก็คงอยากเขียนเรื่องที่อยากให้มีคนมาอ่านและเมื่อไหร่ก็อยากกลับมาอ่านอีกใช่ไหมล่ะ คุณก็คงไม่อยากให้คนที่อ่านแล้วก็อ่านเลยไป รู้สึกงั้นๆ และไม่คิดจะเหลียวกลับมาอ่านอีก ใช่ไหมล่ะ? เพราะงั้นอย่าพูดแบบนี้อีก บอกตรงๆว่าไอไม่สบอารมณ์เลยล่ะ คุณอยากให้ไอรู้สึก "ก็แค่เรื่องสั้นนี่เนอะ" หรือพออ่านจบแล้วอยากให้ไอรู้สึก "ถึงจะสั้นแต่ก็ประทับใจว่ะ เขียนสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีจริงๆ" คุณจะเลือกแบบไหน? (นั่นก็ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณนั่นแหละ)

ปล.ที่บอกซะยาวยืดนี่หวังดีนะคะ ไม่ได้ต้องการทำลายขวัญกำลังใจอะไรนะ (ขอย้ำว่าอย่าเข้าใจผิด)
ปล2.ไอก็ยังเป็นกำลังใจให้อยู่นะ นี่ถ้าไม่สน ไอก็คงไม่คอมเมนท์ซะยาวขนาดนี้หรอกนะ

  :teach:


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณไอนะคับ คือความจริงแล้วไม่มั่นใจว่าตัวเองแต่งออกมาสื่ออารมณ์ตัวละครได้ดีขนาดไหนอ่ะคับ คือไม่มั่นใจในความสามารถของตัวเองเท่าไหร่ และอีกอย่างคิดว่า เอ๊ะ...คนอ่านคงเข้าใจอารมณ์ของตัวละครใช่ไหม แบบนั้นอ่ะคับ และก็กลัวด้วยว่าภาษามันจะเยิ่นเยอไปหรือเปล่า ขอบคุณนะคับที่เป็นกำลังใจให้


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด