[[กู+มึง=มิตรภาพตลอดไป]] ถ้าอ่านจบแล้วติดตามภาคพิเศษต่อเลยนะครับ ตามลิ้งค์ที่หน้า10ครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [[กู+มึง=มิตรภาพตลอดไป]] ถ้าอ่านจบแล้วติดตามภาคพิเศษต่อเลยนะครับ ตามลิ้งค์ที่หน้า10ครับ  (อ่าน 93613 ครั้ง)

spok1234

  • บุคคลทั่วไป
มา ต่อ อีก ตอน แล้ว

ขอบ คุณ ครับ

งี้ ก็ รู้ ใจ ตัว เอง แล้ว

พยา ยาม ต่อ ไป ค้าบ

info001

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มสนุกขึ้นแล้วนะครับ เนื้อเรื่องนี้เป็นเรื่องใกล้ตัว และคิดว่าอาจไปคล้ายกับชีวิตจริงของหลายๆ คนก็ได้
ยังไงก็จะคอยติดตามและเป็นกำลังใจให้เรื่อยๆ นะครับ :bye2:

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
มาแล้วคร้าบ    ตอนใหม่ล่าสุด
ตอนที่11




                              ***************

               วันรุ่งขึ้นนั้นหลังจากช่วยหลวงตาท่านทำงานเก็บกวาดในวัดเสร็จแล้ว    ตอนบ่ายผมก็เลยรีบไปหามันที่บ้านโดยใช้กุญแจสำรองที่มันให้ผมเก็บไว้เปิดประตูบ้านเข้าไปเลย   ก็เห็นว่ามันนอนเอกเขนกอยู่ริมระเบียงอย่างสบายอารมณ์   

               " เฮ้ย  เดี๋ยววันนี้เราซ้อมกีต้าร์กันต่อนะ   ต้องแกะกันอีกหลายเพลงอ่ะ  แล้วไว้ไปเล่นที่ตรอกข้าวสารด้วยกันไง"   ผมลองชวนมัน

               " เออ   ดีว่ะ   อยากไปพอดีเลย   คราวนี้อ่ะ  รับรองได้ตังค์เยอะอีกแน่   กูโชว์เองซะอย่าง  คนต้องแห่มาดูกูกันเยอะแยะแน่"  มันคุยตามเคย   ผมก็ยิ้มอย่างหมั่นไส้

               " เออ  แล้วกูจะคอยดู  อย่าเสือกประหม่าจนเล่นผิด  หรือเล่นไม่ออกไปก่อนแล้วกันนะ  อายเค้านะมึง  หึๆ"   ผมดูถูกมันเต็มๆ   

               " สัดนี่  ดูถูกกู  แล้วมึงคอยดูละกัน  ใครๆก็จะต้องโยนตังค์ให้เราเว้ย  ฮ่าๆ"  มันยังคงคุยโว    ผมก็นึกขำในใจ   ไม่ใช่พอไปจริงๆแล้วประหม่าจนทำอะไรไม่ถูกนะ   ไอ่ขี้คุย

               ผมนั่งกับมันอยู่อีกพักนึงก็เลยบอกมันว่าคืนนี้ผมจะนอนค้างกับมันอีก     แต่เดี๋ยวเย็นนี้จะทำกับข้าวกินกันเองดีกว่า    เบื่อออกไปกินหรือซื้อมากินแล้ว

               " เฮ่ย  จริงๆเหรอวะ  มึงจะทำกับข้าวเองเหรอ"   มันถามอย่างตื่นเต้น   

               " มึงนี่   จะตื่นเต้นทำไมวะ   เด็กวัดที่ไหนมันก็ทำได้ทั้งนั้นอ่ะ   ไม่งั้นจะรอดมาได้ไง  เดี๋ยวออกไปซื้อของกัน   มึงอยากกินอะไรอ่ะวันนี้"   ผมเลยถามมันไป   

               " เฮ่ย  เหรอ  แล้วมึงทำอะไรได้มั่งอะ   กูอยากกินสเต๊กกับสปาเกตตี้นะ  แล้วก็พิซซ่า   เอาหน้าอะไรดีล่ะ  แล้วก็หมูหันด้วย   อืม  ของหวานเอาเป็นอะไรดีนะ  สตรอเบอรี่ชีสเค้ก  กับพาย  ดีมั๊ย" มันว่าแล้วก็นับนิ้วไป  ว่ามีอะไรที่อยากกินมั่ง  กวนทีนนัก  ผมเลยตบกบาลมันซะหนึ่งที

               " นี่...ไง..   สาดด...ด   เห็นกูเป็นอ.ยิ่งศักด์รึไง   จะแดกนั่นแดกนี่ขนาดนั้น    กูคงทำให้แดกได้อ่ะนะ   ไปๆ   ไปตลาดกะกูเลย"   มันก็เอามือกุมหัว   แล้วบ่นว่าผมทำรุนแรง    สมควรแล้วอ่ะมึง

               เราเดินกันออกมาที่ตลาดเพื่อเตรียมไปซื้อของสำหรับทำต้มยำกุ้งกับผัดผัก   ผมยังคิดว่าจะทำไก่ทอดอีกสักอย่างแล้วกัน   จากนั้นก็เริ่มเดินซื้อของไปด้วยกันกะมัน   ดูๆแล้วผมว่ามันก็คงจะไม่เคยต้องมาซื้อของจ่ายตลาดเองอย่างนี้มั๊ง     เวลาผมไปหยิบดูของอะไรมันก็จะมาดูอย่างสนใจ

               " กูว่ามึงก็ต้องเรียนรู้ไว้มั่งนะ   อีกหน่อยมึงก็ต้องไปดูร้านให้พ่อกับแม่มึงที่โน่น   มันก็ต้องมีความรู้เรื่องอาหารบ้าง   ยิ่งเรื่องเลือกซื้อของเนี่ย   สำคัญนะเว้ย"   ผมแนะนำมัน   มันก็พยักหน้ารับรู้

               " ตกลงกูก็ต้องฝึกเป็นกุ๊กเลยอ่ะดิ   จะได้มีความรู้เรื่องนี้ได้ดีอ่ะ" 

               " ที่จริงกูว่าถ้ามึงจะเรียนต่อเกี่ยวกับทางนี้โดยตรงไปเลยมันก็ดีนะเว้ย   โดยเฉพาะพวกการโรงแรมที่เกี่ยวกับร้านอาหารอะไรงี้   มึงว่ามึงพอจะอยากเรียนไหมล่ะ"   ผมเสนอความคิด

               " เออ  ก็จริงว่ะ  กูว่ากูก็คงพอเรียนไหวนะแบบนั้น   มันคงไม่ยากเกินไป   เผื่อกูจะได้เป็นเชฟใหญ่  ฮ่าๆๆ"   มันว่าแล้วก็หัวเราะชอบใจ     ก็ดีครับที่มันได้เลือกแล้วว่ามันคงอยากเรียนด้านนี้   เพราะถ้ามันยึดทางนี้ไปได้จริงๆมันก็ไปทำงานทางโน้นได้เลย   จะได้หายห่วงมันนะครับ

               พอเราเลือกซื้อของเสร็จแล้วก็เลยกลับมาที่บ้านเพื่อเตรียมทำอาหารกัน   ผมให้มันช่วยล้างผักแล้วก็หั่น   เราช่วยกันทำโน่นทำนี่   มันก็กวนทีนไปตามเรื่อง   เอาผักมาเล่น  ถามโน่นถามนี่ซอกแซกไป    ผมก็กำลังปรุงรสต้มยำในหม้ออยู่    ก็เลยตักให้มันชิมดูก่อน

               " อ่ะ  เฮ้ย   อร่อยอ่ะ   สาดด..ด  อร่อยโคตรๆ   ทำได้ไงวะ   แม่ง  เชลล์ไม่ต้องมาแย่งชิมเลยนะงานนี้  กูจะแดกคนเดียว"   มันตะโกนลั่น   แล้วก็มาตักไปกินอีกช้อนนึง

               " สัดนี่   พอแล้ว  เดี๋ยวค่อยตักไปกินกับข้าวโน่น   เว่อร์นัก   มันจะอร่อยเชี่ยอะไรขนาดนั้นวะ   เอ้า  ตกลงถ้าอร่อยแล้วกูจะได้ไม่ต้องเติมอะไรเพิ่ม   ไปๆ  เอาชามมาใส่เลย"    ผมบอกแล้วก็ยกหม้อลงจากเตา

                ตอนนี้ผมเตรียมอาหารทุกอย่างใส่จานเอาออกมาวางที่โต๊ะแล้วก็รีบตักข้าวใส่จานกันเพราะหิวสุดๆแล้วครับตอนนี้

               " โห  ผัดผักนี่ก็อร่อยว่ะ"  มันว่าแล้วก็มาจ้วงตักผัดผักไปอีก   

               " โอ๊ย..ย  ร้อนๆๆ  สัดเอ๊ย   แฮ่กๆ..  ปากกู"   มันร้องลั่นแล้วก็เอามือพัดที่ปากมัน   เสือกกัดไก่ทอดร้อนๆไปเต็มเปา  จะเหลือรึปากมึง

               " ฮ่าๆๆ   ฟันร่วงเลยมั๊ยมึง   แมร่ง  กัดไปได้ร้อนจะตายห่า   มึงกลัวใครมันจะมาแย่งมึงแดกรึไง   ของมีตั้งเยอะแยะอ่ะ  ไอ่เวร"   ผมขำไปกะความตะกละของมัน

               " ก็มันอร่อยอ่ะ   อร่อยหมดทุกอย่างเลยว่ะ   ต่อให้อ.ยิ่งศักดิ์มาเจอมึงอ่ะนะ   เค้าคงต้องหลบว่ะ"   มันชมผมใหญ่

               " เฮ้ย  ไก่นี่ก็อร่อยว่ะ   มึงใส่อะไรวะ  เหมือนรสต้มยำเลยอ่ะ  อร่อยดีกรอบๆเพราะมีมาม่าที่เคลือบอยู่นี่    เออ.... มึงคิดได้ไงวะ   โคตรแปลกเลย  ไม่เคยเห็นที่ไหนอ่ะ"   มันหยิบไก่ทอดมากินต่อแล้วก็ถามผม 

               " เออ.... ก็รุ่นพี่ๆเด็กวัดเค้าทำกันมา   เป็นสูตรที่ตกทอดต่อๆกันมาอีกทีว่ะ   นี่ยังมีที่แปลกๆอีกหลายอย่างนะเว้ย   ไว้แล้วจะค่อยๆทำให้มึงลองกิน"   ผมบอกมัน   ซึ่งผมภูมิใจสูตรนี้มากครับทำก็ไม่ยาก   

            ตอนแรกเอามาม่ารสต้มยำมาบดๆให้ละเอียดก่อนเตรียมไว้   

               แล้วผสมแป้งชุบทอดแบบแป้งโกกิกับน้ำให้ข้นๆ     ปรุงรสในแป้งนิดนึงให้ออกหวานเค็มแค่นิดๆอย่ามากไปเพราะเวลาทอดมันจะไหม้ได้ง่าย

               เอาไก่มาลงชุบแป้งก่อน   แล้วค่อยไปคลุกกับมาม่าที่เราบดไว้    ให้เส้นมาม่าติดกับแป้งทั่วๆชิ้นไก่   แล้วก็เอาไปทอดให้เหลืองกรอบ     

               จากนั้นก็รีบเอามาคลุกกับเครื่องปรุงต้มยำที่ในซองมาม่านั่นแหละครับ   คลุกตอนไก่ยังร้อนๆผงเครื่องปรุงมันจะติดผิวของเนื้อไก่ได้ดีครับ   ใครอยากลองกินก็ลองทำดูครับ  ไม่ยากเกิน  แต่ระวังว่าทำแล้วมันจะเค็มมากนะครับ    เพราะเครื่องปรุงมันจะรสเข้มข้นมาก  กะปริมาณใส่แค่พอดีๆก็พอ   

               ตกลงมื้อนั้นมันก็เลยกินซะจนพุงกางไป   ข้าวแทบจะหมดหม้อเลย   ไม่รู้มันจะอร่อยอะไรของมันนักหนา   ผมว่าผมก็ทำรสชาดธรรมดาๆเอง    พอกินกันเสร็จเราก็เลยช่วยกันเก็บล้าง   

            แล้วมันก็เตรียมจะเข้าไปอาบน้ำ   ผมเลยปล่อยให้มันเดินเข้าไปก่อนนิดนึง   แล้วก็ตามมันเข้าไปในห้องน้ำ

               " เออ  กูอาบด้วยนะเว้ย"   ผมเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้าไป    มันก็สะดุ้งเมื่อหันมาเห็นผม 

               " เอ้า  เชื่ยนี่   มึงนึกอะไรขึ้นมาวะจะมาอาบกะกู   อารมณ์ไหนนี่มึง"   มันถามผมอย่างงงๆ   แล้วก็ถอดเสื้อผ้าออก   ผมลองยืนมองร่างเปลือยล่อนจ้อนของมันนิดนึง   ก็เลยถอดเสื้อผ้าออกเหมือนกัน   แล้วก็เดินไปตรงหน้ามัน   มันก็ยิ่งทำหน้างงหนักเลย 

               " อะไรของมึงวะ   เฮ้ย  จะทำอะไรวะ"   มันตกตะลึงไปเลยที่ผมไปกอดมัน   

               " เออ  มึงเฉยๆเหอะน่ะ"   ผมกอดกับมันแน่นขึ้น   ร่างกายที่เปลือยเปล่าของเราก็เบียดแนบชิดกัน    แล้วผมก็มองหน้าสบตากับมัน

               แต่ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากไปกว่ารู้สึกดีและอุ่นๆที่กอดมัน     ผมยังอยากซบที่บ่าของมัน    และสัมผัสผิวเนื้อของมันได้อย่างไม่รู้สึกว่ารังเกียจอะไรเลย   

               ไม่ได้รู้สึกด้วยซ้ำว่า  เฮ้ย มันเป็นผู้ชาย  เราก็เป็นผู้ชายนะ   ซึ่งถ้าจริงๆแล้วก็คงต้องมีรังเกียจกันบ้างอ่ะ   แต่นี่ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจนะว่าทำไมถึงได้รู้สึกอย่างนั้น 

               แต่ที่แน่ๆก็คือผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีอารมณ์ทางเพศอะไรขึ้นมาเลย    น้องชายผมก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรทั้งสิ้น     ถ้าเราคิดกับมันแบบเกย์มันก็น่าจะมีสปาร์คอะไรบ้างนี่นา    แต่นี่ก็ไม่มีนะ    ซึ่งตัวมันเองก็คงเหมือนกับผม   แต่ก็ไม่แน่ใจครับ   เพราะคิดว่ามันอาจจะแค่ยังตกใจที่อยู่ๆผมก็ไปกอดมันไม่ทันตั้งตัว

               " เฮ้ย  มึงจะมากอดกูทำไมวะ   เชี่ยนี่   ไอ่บ้า"   มันเริ่มโวยวายมากขึ้น   ผมเลยปล่อยมัน   ซึ่งมันก็ยังคงงงในสิ่งที่ผมทำ

               " เมื่อกี๊... มึงรู้สึกยังไงมั่งวะ"    ผมถามมัน

               " อ่ะ  อะไรวะ   รู้สึกเชี่ยอะไรอ่ะ   ก็ขนลุกอะดิ   แม่ง  อยู่ๆก็มากอดกู   มึงทำงี้ทำไมเนี่ย   กูละงง   รักกูมากเรอะไง" 

               " เออ   มึงไม่ได้รู้สึกอะไรอื่นก็ดีแล้ว   กูลองใจมึงอ่ะ  ไม่มีอะไร   อาบน้ำเหอะ"   ผมว่าแล้วก็เลยเปิดฝักบัวแล้วก็อาบน้ำต่อ   ทิ้งให้มันยังยืนงงอยู่อย่างนั้น

               " เฮ้ย  เชี่ยนี่   อะไรของมึงวะ  แม่ง  กูละงงเลย   ไหนบอกกูให้เคลียร์ทีเด๊ะ    สาด"   มันบ่นแล้วก็มายืนอาบน้ำจากฝักบัวข้างๆผม

               " เออน่า   ไม่มีอะไรหรอก  กูอยากลองอะไรเล่นๆแค่นั้น   มึงไม่ต้องมาคิดมากหรอก   เออ  เดี๋ยวอาบเสร็จแล้วออกไปดูตีสิบนะ    กูอยากดูว่าวันนี้ใครมา"   ผมแกล้งเปลี่ยนเรื่องเบนความสนใจมันไปซะเลย   ซึ่งก็ได้ผลมันเลิกถามผมต่อแล้ว 

               พอเราอาบกันเสร็จผมก็เลยเดินออกมาแล้วก็มาใส่เสื้อผ้า   ผมได้พิสูจน์แล้วล่ะครับว่าจริงๆผมเองรวมทั้งมันด้วย  ก็อาจจะยังไม่ถึงขั้นว่าเป็นเกย์ไปเลยจริงๆ   

               ผมคิดเอาเองว่าถ้าคนเราจะเป็นเกย์มันก็น่าจะมีเรื่องอารมณ์ทางเพศมาร่วมด้วยสิ    แต่นี่ผมว่าผมกลับเฉยๆกับมันนะ    แค่อยากไปสัมผัสร่างกายมัน   อยากกอดมันไปอย่างนั้นเพราะมันทำให้รู้สึกดี   

               ทีนี้ก็เลยยิ่งงงเข้าไปอีกนะครับ    ตกลงไอ้ความรู้สึกนี้มันคือยังไงกันแน่   แต่ที่รู้แน่ๆแล้วก็คือ   ผมว่ามันเป็นความรู้สึกที่เริ่มจะเกินจากเพื่อนไปซะแล้วล่ะครับ   

               ซึ่งตอนนี้ผมก็คงต้องปล่อยมันไปอย่างนี้ก่อนแล้วล่ะ    เพราะก็ไม่รู้ว่าจะทำไง   ก็คงต้องทำตัวไปเป็นปกตินะ   ยังไงเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่   แม้ว่าสำหรับผมมันคือเกินเพื่อนไปแล้วก็เถอะ

                                                                        -

                                       -

               วันนี้ก็ถือเป็นวันดีอีกวันนึงนะครับ    เพราะว่าเป็นวันเกิดมัน    ผมว่าจะไปซื้อของขวัญไว้ให้มัน   แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่รู้จะเอาอะไรให้มันดี   เลยซื้อกรอบรูปเป็นชุดใหญ่ให้มัน   ซึ่งมันจะเป็นตัวกรอบรูปใหญ่ทำติดบานพับเชื่อมกับกรอบรูปเล็กหลายอัน  ไว้ใส่รูปได้หลายๆขนาดแล้วก็พับได้เป็นหลายรูปทรงไว้วางโชว์     

               ซึ่งที่ผมซื้อกรอบรูปนี้ให้มันก็เพราะว่าอยากลองใจมันดู    อยากรู้ว่ามันจะใส่รูปใครลงไปบ้าง  ก็แอบหวังนะครับว่ามันคงจะใส่รูปที่เราถ่ายด้วยกันไว้ลงไป 

               ตอนนั้นก็หกโมงกว่าแล้ว   ผมซื้อของกินกับน้ำอัดลมไปด้วยจะได้ไว้ฉลองกัน   ผมคิดไปตลอดทางกะว่าจะทำเซอร์ไพร์สมันด้วยการซ่อนเค้กไว้แล้วเอาออกมาให้มัน   แต่ไปๆมาๆก็หาวิธีที่จะซ่อนไม่ให้มันรู้ไม่ได้   ก็เลยขี้เกียจคิดแล้วครับ   ถือเข้าไปบ้านมันโต้งๆนี่แหละ     

               พอเปิดประตูเข้าไปในบ้านมันผมก็เอาของขวัญกับเค้กและของกินไปวางไว้ในครัวแต่ปรากฎว่าบ้านเงียบสนิท   มันไม่อยู่แถวนั้น    และมันไม่ได้อยู่ในบ้านด้วยซ้ำไป

               ผมได้แต่สงสัยว่ามันไปไหนนะป่านนี้ยังไม่กลับ    หลังๆมานี้ดูมันก็แปลกๆ   มันจะออกไปนอกบ้านบ่อยขึ้น   ซึ่งก็ไม่ได้ชวนผมไปด้วยเหมือนอย่างทุกครั้งที่มันจะต้องรบเร้าชวนผมออกไปเป็นเพื่อนทุกที      แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากครับ

            มันอาจจะไปทำธุระอะไรของมันมั่งนะ    แล้วก็อาจไม่อยากบอกผมจริงๆ    ก็ถือว่าปล่อยให้มันมีเวลาเป็นส่วนตัวมันมั่งก็แล้วกัน

               ระหว่างที่รอมันนั้น   ผมก็เลยได้โอกาสวางแผนทำเซอร์ไพร์สมันอีกที    ผมเอาเค้กมาวางไว้บนโต๊ะรับแขกแล้วปักเทียน   เตรียมไฟแช๊กไว้ใกล้ๆ    แล้วก็ลองโทรไปหามันแล้วถามมันว่าอยู่ไหน    มันก็บอกว่ากำลังกลับไปจะถึงหน้าบ้านแล้ว   ผมก็เลยแกล้งบอกว่า  เออ   งั้นเดี๋ยวจะไปหาที่บ้านนะ   แล้วก็วางสายไป     

               จากนั้นผมก็รีบเอาไฟแช๊กจุดเทียนรอไว้เลยครับ   แล้วก็รอให้มันเปิดประตู    พอมันเปิดประตูเข้ามาปั๊บผมก็เลยปิดไฟในห้องทันที  เหลือแค่แสงจากเทียนวันเกิด   แล้วผมก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้มัน

               " โห....   เฮ้ย  มึงนี่   แม่ง  ลงทุนว่ะ"   มันว่าแล้วก็หัวเราะชอบใจ   ผมก็ยังคงร้องเพลงต่อจนจบ

               " เอ้า...  อธิษฐานซะก่อน   แล้วค่อยเป่า"   ผมสั่งมัน   มันก็หลับตาไปแป๊บนึง   แล้วก็เป่าอย่างแรงจนเทียนดับหมด    แล้วผมก็เดินไปเปิดไฟ

               " แล้วของขวัญกูอ่ะ"   มันทวงทันที

               " แหม   สัดนี่   ทำมาทวง  เอ้า..."  ผมยื่นกล่องของขวัญให้มัน    มันก็ยิ้มอย่างตื่นเต้นรีบคว้าไปแกะทันที

               " เฮ้ย  ให้อะไรกูวะ  ไหนๆ"  มันทำเสียงตื่นเต้น

               " หึๆ   ให้ถุงยางมึงมั๊ง   ดูเอาเองดิ"   ผมแกล้งกวนมัน

               " สัดนี่   ให้ถุงยางทำเชี่ยไร   จะให้กูเป่าเล่นเรอะ   เห็นกูว่างมากรึไง   รึจะให้กูเอามาใช้กะมึงดีล่ะ   หึๆ"    มันด่าผม   ผมก็หัวเราะ  มันเริ่มแกะห่อออกจนหมด  แล้วหยิบกรอบรูปที่ผมให้ออกมาพลิกดู

               " เฮ่ย..  อะไรวะ  อ๋อ... กรอบรูป  โธ่เอ๊ย...   กูก็นึกว่าอะไร   นึกไงให้กรอบรูปกูเนี่ย"   มันพูดแล้วก็ทำหน้าเบ้ๆเหมือนคล้ายๆว่ามันผิดหวังที่ผมให้มันแค่กรอบรูป
         
               " ก็อยากให้มึงใส่รูปไง   เลยให้มึงไว้อ่ะ   เผื่อมึงมีรูปที่ประทับใจอยากเก็บไว้ดูน่ะ   มึงมีมั๊ยล่ะรูปที่ประทับใจอ่ะ   มีมั๊ยน๊า    กูว่ามึงน่าจะมีนะเนี่ย..."   ผมแกล้งถามแล้วก็ทวนคำถามไปมาพลางยิ้มให้มันอย่างเป็นนัยๆ      มันมองและทำหน้าเหมือนเริ่มรู้ทันผม    แล้วก็ยิ้มออกมา   

               " อ๋อ   กูก็นึกว่าอะไร   เออ  กูยังไม่ได้เอารูปเราไปล้างเลยว่ะ   เก็บไว้ในคอมแล้ว   เออ  พรุ่งนี้ค่อยเอาไปล้างละกัน  แล้วก็ที่ถ่ายกับพวกที่รร.วันสอบวันสุดท้ายด้วยอ่ะ    รูปพวกเราน่ะ  เดี๋ยวล้างแล้วเลือกเอามาใส่กรอบ"  แล้วมันก็ทำเอียงคอมามองหน้าผม

               " โอเคยังอ่ะ   สาดด....  แหม...  ทำมาเป็นทวงให้กูล้างรูปนะมึงนี่   ร้ายนักนะ"    มันว่าผมแล้วก็หัวเราะ   จนผมก็ชักเขินๆที่มันรู้ทันแล้ว

               " เออ   ก็ไปล้างมาแล้วกัน   เอ้า...  ไปตัดเค้กได้แล้วมึง"   ผมหันไปสั่งมันแก้เก้อ    แต่มันก็ยังคงจ้องผมแล้วก็หัวเราะ

               " เออๆ เดี๋ยวกูไปเปลี่ยนเป็นชุดวันเกิดก่อนเว้ย   จะได้ออกมานั่งสบายๆมันว่าแล้วก็เดินเข้าห้องไป   ผมฟังมันผ่านๆแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร   หันไปอีกทีมันก็ออกมาในชุดวันเกิดแล้ว  ชุดวันเกิดจริงๆนะครับ  ขอย้ำ

               " อ่ะ   ไอ้สาดดด...ด  เป็นเชี่ยไรวะ   แก้ผ้าออกมาเนี่ย   จะบ้าเรอะไงมึง"   ผมโวยวายทันที   ดูมันสิครับ   ท่านผู้อ่าน  ดูมันทำ

               " เอ้า  ก็กูบอกมึงแล้วไงว่าจะไปใส่ชุดวันเกิดอ่ะ   วันนี้วันเกิดกูนี่ก็ต้องใส่ชุดวันเกิดดิ  ฮ่าๆๆ"   มันยังคงหัวเราะชอบใจที่แกล้งกวนทีนผมได้อย่างเชี่ยมากๆ  มุขนี้อ่ะ   แล้วมันก็มานั่งหยิบมีดจะมาตัดเค้กพร้อมกับหันมามองหน้าผมแล้วยิ้มอย่างสะใจมากที่กวนทีนผมอย่างนี้

               " ฮ่าๆ   กูล้อมึงเล่นพอละ  ไปใส่กางเกงก่อนล่ะ"   มันว่าแล้วก็รีบเดินเข้าห้องไปใส่กางเกงออกมา   แล้วก็มาตัดเค้กยื่นให้ผม

               " อ้ะ...  สำหรับมึงนะ   ขอบใจมากที่เตรียมทำทุกอย่างให้กูมีความสุขมากว่ะ   ที่มึงไม่ได้ลืมวันเกิดกูว่าแต่จะไม่อวยพรกูหน่อยเหรอวะ"   ผมฟังมันแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้อวยพรให้มันเลย

               " เออ...  กูก็ลืมเลย    ก็... ขอให้มึงโชคดีว่ะ   อืม  แล้วก็ขอให้มึงสมหวังทุกอย่างแล้วกันนะ"   ผมก็นึกไม่ค่อยออกว่าควรอวยพรอะไรมันดี    แต่แค่นั้นมันก็ยิ้มอย่างสุขใจมากแล้วก็กอดผม

               " ขอบใจว่ะ  เพื่อน... ทุกอย่างที่มึงอวยพรกูๆก็ขอให้ย้อนมันกลับไปที่มึงด้วยนะ   ขอให้มึงมีความสุขเหมือนอย่างที่มึงอวยพรกูเหมือนกัน    แล้วที่กูอธิษฐานกูก็ขอแค่สองอย่างนะ  ขอให้กูและพ่อแม่กลับมารักและเข้าใจกันเหมือนเดิมได้  อีกอย่างนึง..."  มันหยุดนิดนึงแล้วก็มองสบตาผม

               " กูขอให้มีมึงอยู่กะกูอย่างนี้ตลอดไป   ให้เรารักกันไปตลอดว่ะแค่นั้นแหละ  กูพอใจแล้ว  อย่างอื่นกูก็ยังไม่อยากได้หรอก  กูขอแค่นี้แหละว่ะ"   

               " เออๆ  ซึ้งพอแล้วว่ะ   ยังไงกูก็ไม่ทิ้งมึงหนีไปไหนหรอกนะ   มึงคงต้องเบื่อกูซะก่อนแน่ๆ   เอ้อ  มาๆ  ชนแก้วกันเว้ย"   ผมว่าแล้วก็รินโค้กใส่แก้วให้มัน   แล้วก็ชนแก้วฉลองกัน     

               ผมดีใจนะครับที่มันอธิษฐานเรื่องขอให้มีผมอยู่กับมันตลอดไป   ดีใจที่มันรักผมมาก  แม้ว่าวันนี้ของขวัญของผมมันอาจจะยังไม่ถูกใจ     แต่ก็อย่างที่บอกครับ   ว่าแค่อยากลองใจมันดูเฉยๆเท่านั้น     ไว้เดี๋ยวผมค่อยหาของอื่นที่มันคงจะชอบแน่ๆให้มันอีกทีแล้วกัน   

                                                                    -

                                       -

               วันต่อมาผมก็ยังคิดอยู่นะ   ว่าจะซื้ออะไรให้มันดีเลยออกไปเดินดูของที่ตลาดสะพานพุทธ   ก็มีของเยอะแยะแต่ว่าผมดูๆไปก็ไปนึกชอบจี้โลหะรูปเปลวไฟเล็กๆที่ดูคล้ายโลโก้ของอะไรสักอย่าง   ก็เลยซื้อมาแล้วก็รีบเอาไปให้มันเดี๋ยวนั้นเลยครับ

               " อ้าว  ทำไมมึงมาซะป่านนี้ล่ะ"   มันถามผมทันทีที่ผมเดินเข้าไปในบ้าน   ผมก็ยังไม่ได้ตอบมันแล้วก็เดินอ้อมไปหลังมัน  แล้วก็เอาสร้อยนั้นใส่ให้มัน    มันก็ทำหน้างง

               " อ้ะ... ของขวัญของกู   รอบแก้ตัวว่ะ"   ผมยิ้มบอกกับมัน    มันก็หยิบจี้ที่คอมาดูแล้วก็ยิ้มให้ผมอย่างชอบใจ

               " อ้าว...  เหรอวะ   เออ  ก็สวยดีเว้ย  กูชอบว่ะ   เออๆ  ขอบใจนะเว้ย"   มันว่า  ท่าทางมันคงชอบจริงๆแล้ว

               " อยากให้มึงใส่ไว้ตลอดนะ   จะได้นึกถึงกู   จี้นี้มันเป็นรูปไฟ  ตัวมึงก็จะได้มีไฟอยู่ตลอดไง  ไม่ท้อถอยง่ายๆ    มีความหมายดีมั๊ย"   ผมลองอธิบายความหมายที่ผมคิดเอาเองให้มันฟัง 

               " เออๆ  ก็ดีอ่ะ   กูจะใส่เอาไว้ยังงี้ตลอดเลยนะ   เพราะว่ามึงให้กูไง"  มันยิ้มรับคำผม   

               ต่อไปจี้อันนี้มันก็จะเป็นสิ่งที่แทนทั้งตัวผมและใจผมไปตลอดสำหรับมัน   

               ผมได้แต่หวังว่ามันคงจะรักษาเอาไว้อย่างดีตราบเท่าที่มันจะยังรักผมอยู่   

               แต่ว่าตอนนี้แม้แต่ผมเองก็เริ่มรู้สึกนะว่า   วันต่อไปข้างหน้าจะเป็นยังไงก็ยังไม่รู้เลยจริงๆ   

               ระหว่างเรามันจะยังคงเหมือนเดิมอย่างนี้ตลอดไปไหมนะ   

               ผมจะยังคงมีความสุขอย่างนี้เพราะมีมันไปตลอดหรือเปล่า     ก็ไม่อาจจะคาดเดาได้เลยครับ

                                                                           **********

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2010 23:18:38 โดย Goodfellas »

Shin_i_chi

  • บุคคลทั่วไป
งือออ (=w=)
แล้วความรักของเนกะอิน จะเป็นไงต่อไปอ่ะคับนี่
เดาทางไม่ถูกเลยอ่า
อินอ่ะรู้ใจตัวเองแล้ว
แต่เนนี่สิ ไรท์เตอร์(เอ่อ ปิ๊งจำชื่อพี่ไม่ได้อ่ะคับ)ไม่ยอมเขียนบอกเลยว่ารู้สึกกะอินมากกว่าเพื่อนรึเปล่า - -
รอตามตอนต่อไปนะค้าบบ

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
งือออ (=w=)
แล้วความรักของเนกะอิน จะเป็นไงต่อไปอ่ะคับนี่
เดาทางไม่ถูกเลยอ่า
อินอ่ะรู้ใจตัวเองแล้ว
แต่เนนี่สิ ไรท์เตอร์(เอ่อ ปิ๊งจำชื่อพี่ไม่ได้อ่ะคับ)ไม่ยอมเขียนบอกเลยว่ารู้สึกกะอินมากกว่าเพื่อนรึเปล่า - -
รอตามตอนต่อไปนะค้าบบ

อิอิ  ใจเย็นๆครับปิ๊ง  รออีกนิดก็จะได้รู้แล้วครับ   

ตอนหลังๆนี้เรื่องจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆละครับ 

ตอนแรกๆยอมรับว่าเขียนยังไม่ค่อยดีจริงๆ  ดำเนินเรื่องแล้วมันเรียบเกินไป

ยังไงก็ติดตามไปเรื่อยๆนะครับ   คิดว่าคงถูกใจทุกคนพอสมควรแหละ


ปล. พี่ชื่อ น๊อต นะครับ o13  แล้วอย่าลืมล่ะ  อิอิ

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
แล้วก็ขอบคุณ คุณ monoo และทุกๆท่านด้วยนะครับที่มาติดตามอ่านต่ออีก :pig4:

spok1234

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ติดตามกันต่อได้เลยนะครับ  ตอนนี้ก็จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้ว   มาดูกันครับว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่่อไป

ตอนที่12
                                                              
                                                           ***********

         ผมนั่งดูผลสอบทั้งหมดในทรานสคริปต์แล้วก็โล่งใจครับ      แม้ว่ามันจะไม่ได้ดีเลิศเลออะไรแต่ก็ไม่มีที่ต้องซ่อม

         ส่วนมันก็ดีใจเป็นบ้าบอไปตามเคยครับ     เพราะเกรดมันดีจริงๆ    ดีกว่าเทอมที่แล้วซะอีก    นี่สงสัยคงต้องเตรียมตัวให้มันลากไปฉลองอีกแล้วนะครับ

         " ฮ่าๆ  เป็นไงเกรดกูออกมาสวยงามดังหวังละเว้ย   งั้น...."   มันพูดยังไม่ทันจบ  แต่ผมก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

         " เรามาฉลองกันดีกว่า...   ใช่มั๊ยอ่ะ"  ผมคงดักคอมันได้ถูกต้อง   มันก็มองหน้าผม

         " อ่ะ...  สัดนี่   ทำมาเป็นรู้ทันกู    ก็วันดีๆยังงี้มันก็ต้องฉลองสิวะ"   

         " เออ   กูก็รู้แล้วล่ะ   อืม  จะไปไหนมึงก็ว่ามาดิ   ก็แล้วแต่ป๋าอ่ะนะ"  ผมว่าแล้วก็ยิ้มๆ   ก็ต้องตามใจมันอ่ะนะ

         " งั้นเดี๋ยวมึงตามกูมาแล้วกัน    วันนี้มีเซอร์ไพร์สเว้ย   ฮ่าๆๆ"    มันพูดแล้วก็หัวเราะทิ้งท้ายไว้อย่างเป็นปริศนา    ยิ่งยั่วให้ผมอยากรู้มากยิ่งขึ้น

         แล้วเราก็นั่งรถไปยังบ้านของรุ่นพี่คนนึง    พี่เอกนั่นเองครับ   คนที่มันพูดถึงเมื่อก่อนหน้านี้    เค้าจะทำงานเกี่ยวกับเวบไซต์ซื้อขายรถมือสองและแต่งรถ   คงเรียกได้ว่าเป็นเซียนมั๊ง   ซึ่งที่บ้านเค้านี่ก็มีรถหลายรุ่นสวยๆทั้งนั้นเลยครับ

         " งั้นตกลงเดี๋ยววันนี้ผมออกรถไปลองเลยนะพี่"   มันพูดอย่างตื่นเต้นมาก   ผมก็เลยหันไปมองหน้ามัน

         " เฮ่ย...   อะไรของมึง  ออกรถไหนวะ"   ผมถามมันอย่างงงๆ    มึงจะทำอะไรของมึงนี่

         " ฮ่าๆ  ก็ออกรถนี่ไงวะ   สวยมั๊ยมึง"   มันว่าแล้วก็ผายมือไปที่รถโฟล์คแวนรุ่นเก่า สีฟ้าอ่อนตัดขาวที่จอดอยู่ข้างหน้าผม 

         " เอ๊ะ...  อะไรกันวะ   มึงซื้อพี่เค้าแล้วเหรอ   สาดด..ด  เอาเงินมาจากไหนวะ"  ผมตะลึงไปแล้วก็รีบถามมันทันที  นี่นึกว่ามันมาดูรถเล่นเฉยๆนะนี่

         " เอ้า... จะมาจากไหนล่ะมึง   ถ้าไม่ใช่แม่กูน่ะ  ถามแปลกนะมึงนี่" 

         " สัดนี่...   แล้วมาแอบซุ่มซื้อตั้งแต่เมื่อไหร่กูไม่รู้เรื่องเลย"   ผมบ่นมัน   ก็ผมไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ   

         " อ้าว...  แล้วมึงขับได้แน่ๆแล้วเหรอเนี่ย  นี่มึงไปหัดขับตอนไหนวะ  นานแล้วเหรอ"  มันยิ้มแล้วก็หัวเราะที่ผมยิงคำถามใส่มันไม่หยุด

         " เออ...  กูก็เพิ่งมาหัดขับกับพี่เค้านี่แหละ   จนกูขับได้ชัวร์ๆแล้วล่ะ     มึงไม่ต้องห่วงหรอก    นี่ไงเซอร์ไพร์สมั๊ยละมึง  ฮ่าๆ"    มันว่าแล้วก็หัวเราะชอบใจที่ทำเซอร์ไพร์สผมได้จนผมเหวอไปขนาดนี้

         " โห...  แล้วนี่มึงแน่ใจแล้วนะ   ว่าขับได้ชัวร์ๆแล้วอ่ะ    ขืนมีไรขึ้นมาอ่ะกูเสียดายรถว่ะ"

         " อ่ะ... สัดนี่   แทนที่จะห่วงกูเสือกห่วงรถ    เอ้า  งั้นนี่   ดูซะ  มึงจะได้มั่นใจ"  มันบอกแล้วก็ยื่นใบขับขี่ของมันเองให้ผมดู

         " เฮ้ย..  นี่มึงลงทุนไปสอบใบขับขี่มาเรียบร้อยเลยเหรอวะเนี่ย   โห...  ตกลงแค่ที่มึงหายๆไปช่วงหลังๆมานี่    มึงมาซุ่มทำทุกอย่างหมดนี่เลยเหรอวะ   เฮ้อ...  กูนับถือมึงจริงๆ   ทำได้ไงวะ"   ผมรู้สึกทึ่งที่มันลงทุนซุ่มเงียบทำทุกๆอย่างนี่ได้   โดยที่ผมไม่ได้ระแคะระคายเลยสักนิด

         เพียงแค่ว่ามันจะเซอร์ไพร์สผมแค่นี้อ่ะ    มึงลงทุนจริงๆว่ะ  ไอ่เน

         " ก็กูอยากเซอร์ไพร์สมึงไง   แล้วมึงคิดว่าไงอะ"  มันยิ้ม

         " เออ...  กูก็เซอร์ไพร์สจริงๆแหละ   มึงทำสำเร็จแล้ว"   ผมบอกมันแล้วก็ยิ้มๆอย่างยอมแพ้ความตั้งใจของมัน

         " อืม...  งั้นก็รีบไปกันเหอะว่ะ   จะได้มีเวลานะ   นี่จะสิบเอ็ดโมงละไปเหอะ"  แล้วมันก็เดินขึ้นรถ   ผมก็เดินตามขึ้นไปนั่งด้วยกับมัน

         รถคันนี้สภาพยังดีมากครับ   ยังดูใหม่ดีอยู่   แล้วก็ดูสวยแบบรถคลาสสิค    ตัวมันก็ดูท่าทางจะภูมิใจซะเหลือเกินที่เป็นเจ้าของรถคันนี้    ท่าทางราคามันก็คงแพงอยู่นะ

         แล้วมันก็ขับเข้าไปเติมน้ำมันในปั๊มแห่งนึง     เราเลยแวะซื้อพวกของกินกับน้ำดื่มและข้าวกล่องกัน   มันขนซื้อไปซะเยอะเหมือนกันครับสงสัยมันจะพาไปปิคนิคมั๊ง    จากนั้นมันก็ขับไปเรื่อยๆออกจากกรุงเทพฯไป

         " เฮ้ย...  แล้วนี่เราจะไปไหนกันวะ   นี่ออกนอกกรุงเทพฯแล้วนี่หว่า"  ผมมองออกไปข้างนอกแล้วเอ่ยถามมัน  มันก็กระหยิ่มยิ้มย่องแล้วหันมา

         " เออ...  มึงไม่ต้องห่วงหรอก   เดี๋ยวมึงก็จะได้เซอร์ไพร์สอีกนะ   อดใจรออีกนิดเดียว  ฮ่าๆ"   มันยังคงเซอร์ไพร์สผมได้อีกอ่ะ    จนผมชักขี้เกียจจะเดาแล้วสิ

         ตอนนี้มันขับรถมาถึงแถวสระบุรีแล้ว    พอมาถึงทางเข้าน้ำตกแห่งหนึ่งมันก็เลี้ยวรถเข้าไป    ผมเห็นแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเลย    เพราะบอกตรงๆว่าเกิดมาผมยังไม่เคยได้มาเที่ยวน้ำตกเลยนะครับ     

         ที่มากสุดก็แค่ไปทะเลครั้งหนึ่งตอนที่รร.พาไปทัศนศึกษาน่ะ   แต่ก็ไม่ได้ลงไปเล่นหรอกครับ   แค่ไปยืนมองเฉยๆก็เสียดายมากนะเด็กวัดจนๆอย่างผมก็คงมีบุญอยู่แค่นี้เอง

         " เฮ้ย...  ดีจังว่ะ  มาน้ำตกยังงี้  กูยังไม่เคยมาเลยนะเว้ย"    ผมหันไปบอกมันอย่างตื่นเต้น   

         " เออ...  กูถึงพามึงมาไง   เพราะกูเคยขับมานี่กับพี่เอกเค้าทีนึงตอนที่หัดขับน่ะ  พี่เค้าบอกว่าที่นี่เจ๋งที่สุดแล้ว  วิวสวย  น้ำใสสุดๆ  เอ้อ  เดี๋ยวเราขับขึ้นไปที่ชั้นบนๆหน่อยดีกว่าว่ะ   น้ำมันจะยิ่งน่าเล่นนะเว้ย   ใสเย็น ชื่นใจ  ฮ่าๆ"

         " อ้าว...  เฮ่ย  ไม่ได้เอากางเกงมาเปลี่ยนอ่ะ   แล้วจะเล่นกันยังไงวะ   โธ่เอ๊ย..... อุตส่าห์มาถึงที่อ่ะ  ทำไงวะ"   ผมนึกขึ้นมาได้

         " เออ.. น่ะ   เดี๋ยวค่อยว่ากัน   อืม  เดี๋ยวขึ้นไปชั้นบนๆหน่อยดีกว่าว่ะ   ข้างบนอ่ะ   สวยโคตรๆรับรองว่ามึงต้องชอบ"   มันบอกแล้วก็ขับต่อขึ้นไปยังน้ำตกที่ชั้นบน      แล้วก็เลี้ยวเข้าไปจอดใกล้กับทางลงน้ำตกชั้นเกือบบนสุด    แถวนั้นไม่มีใครเลยครับคงเพราะว่าไม่ได้เป็นวันหยุดเลยไม่ค่อยมีใครขึ้นมาเที่ยวบนนี้

         พอมันจอดปั๊บผมก็รีบเปิดประตูลงไปอย่างตื่นเต้นเลยครับ    แล้วก็รีบวิ่งไปยืนดูที่บริเวณศาลาที่อยู่ริมฝั่งใกล้ๆนั้น

         ภาพที่อยู่ตรงหน้าเวลานี้ทำให้ผมตะลึงไปเลยครับ    น้ำตกที่ไหลเป็นสายตกกระทบสู่แก่งหินเบื้องล่างกระเซ็นเป็นฟองขาวสะอาด      มีต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมแลดูเขียวขจีร่มรื่นอย่างที่สุด    ยิ่งได้เห็นสายน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆตามแก่งและซอกหินแล้ว    มันช่างน่ากระโดดลงไปว่ายเล่นเสียจริงๆครับ

         " โห... ทำไมมันสวยอย่างนี้วะ   แม่ง...  โคตรอยากลงไปว่ายเดี๋ยวนี้เลยอ่ะ   ไม่น่าเลยว่ะ   ดันไม่มีกางเกงมาเปลี่ยนอ่ะ"   ผมยังคงบ่นอย่างเสียดายที่ไม่ได้เตรียมตัวมา   

         " โธ่... มึงจะกลัวทำไมวะ   แค่ไม่ได้เอากางเกงมาเปลี่ยนแค่เนี้ย   ก็ไม่ต้องไปเปลี่ยนมันดิ   มึงดูกูนี่"   พูดจบปั๊บมันก็เริ่มถอดเสื้อผ้ามันออกจนหมดแล้วก็กระโดดน้ำลงไปเลย    ผมงี้ตกตะลึงในความบ้าของมันจนอ้าปากค้างเลยครับ   

         " ฮ่าๆๆ  น้ำเย็นสบายจังเว้ย"   มันโผล่ขึ้นมาแล้วก็ว่ายน้ำไปอย่างสบายอารมณ์

         " เฮ้ย..ย  ไอ่สาด..ดด   เดี๋ยวมีใครมาเห็นจะทำไงวะ  ไอ้บ้า"   ผมโวยวายแล้วก็หันไปมองรอบๆบริเวณนั้น    แต่มันก็ยังคงว่ายเล่นอยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้สะทกสะท้านเลยว่าจะมีใครมาเห็นมั๊ย

         " เออ  มึงไม่ต้องห่วงหรอกน่า   เห็นโขดหินใหญ่ข้างๆนี่มั๊ยล่ะ   ถ้าเรามาขึ้นจากน้ำแล้วใส่เสื้อผ้ากันตรงนี้ก็ไม่มีใครเห็นแล้วเว้ย   มันบังมิดอ่ะ"   มันอธิบาย   ผมฟังแล้วก็มองตามมันไปก็เห็นว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ 

         ผมเลยคิดทบทวนนิดนึงว่าถ้าเกิดแก้ผ้าลงไปเล่นจริงๆแล้วมีคนเดินมา   แล้วเรามาแอบขึ้นตรงโขดหินนี่ก็คงไม่มีใครเห็นจริงๆน่ะครับ   เลยเบาใจลงไปนิดนึงแต่ก็ยังคงลังเลอยู่ดีครับ

         " แต่ถ้ามึงจะใส่กางเกงในลงมาก็ตามใจมึงอ่ะ  แต่ก็นะ  กูก็จะได้รู้ไว้ว่ามึงนี่แม่ง  ป๊อดว่ะ  ฮ่าๆๆ"    พอฟังมันเยาะเย้ยผมอย่างนี้ผมก็ฉุนขึ้นมาเลยครับ   หนอยแน่ มึง  รู้จักกูน้อยไปแล้ว

         " ไอ่สัดนี่...  มึงดูถูกกูนัก  ได้เลยมึง   งั้นมึงดู"   ผมว่าแล้วก็ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดวางไว้แล้วก็โดดตามลงไปทันที   

         " ฮ่าๆ  อย่างนั้นเว้ย   เสร็จกูล่ะมึง   ถ้าไม่พูดงี้มึงก็มัวแต่คิดมากอยู่นั่นแหละ   กว่าจะได้เล่นกันคงพรุ่งนี้มั๊ง"   มันว่าแล้วก็หัวเราะเยาะผมที่หลอกผมได้สำเร็จ

         " อ๋อ  ไอ่สัดนี่   มึงหลอกกูเหรอ"    ผมฟังแล้วก็ฉุนขึ้นมาอีกเลยจะเอาขาถีบมัน    แต่มันก็รีบหลบแล้วว่ายหนีไป

         " ฮ่าๆ  แน่จริงก็ตามมาเว้ย   จับกูให้ได้แล้วกันนะ"   มันท้าทายผม    ผมก็รีบว่ายตามไล่หลังมัน    น้ำในน้ำตกนี่มันใสเย็นสบายตัวเหลือเกินครับ     ผมไม่เคยอาบน้ำที่ทำให้รู้สึกดีอย่างนี้มาก่อนเลย     ทั้งๆที่น้ำเย็นอย่างนี้แต่แปลกดีที่มันไม่ค่อยทำให้รู้สึกว่าหนาวเลยครับ

         ผมว่ายอยู่อย่างนั้นจนเพลินเลย    ทำให้ขี้เกียจจะไปไล่ตามมันแล้ว    แต่มันก็ยังคงตะโกนท้าทายให้ผมไปจับมันอยู่

         ผมเลยนึกแผนจะจับมันขึ้นมา   เลยแกล้งไปแอบใกล้กับโขดหินใกล้ๆแล้วก็หลบอยู่ไม่ให้มันเห็น

         ทีนี้มันคงหันมองไปแล้วไม่เห็นผม     ก็เลยตะโกนเรียกผมใหญ่พลางหันซ้ายหันขวามองหาผมไปมาด้วยสีหน้ากังวล    แล้วมันก็ว่ายมาทางโขดหินที่ผมแอบมันอยู่   ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

         " ฮ่าๆ  นี่ไง  กูจับมึงได้แล้ว   เป็นไงล่ะมึง"   ผมกระโจนออกจากโขดหินไปตะครุบตัวมันไว้แล้วก็หัวเราะ  มันก็ทำท่าทางเหวอไปเลยแล้วก็หันมา     แต่ผมก็กอดล๊อคตัวมันไว้แน่นเลย       

         "เฮ้ย.... ไอ่สาด   แม่ง  หลอกกูเหรอ  กูก็นึกว่ามึงเป็นอะไร    นึกว่าจะจมน้ำรึเปล่าอะ   ห่าเอ๊ย  ทำไมเล่นงี้วะ"   มันบ่นหน้างอๆอย่างไม่พอใจ    ผมก็ยังคงหัวเราะมัน

         " ก็ถ้าไม่ทำงี้จะจับมึงได้เหรอ  ไอ่ปลาไหล  ฮ่าๆๆ"  ผมยังคงกอดมันอยู่แน่น    แล้วก็มองหน้ามัน  สบตามัน

         ตอนนี้เรายืนกอดกันอยู่ในน้ำ  ซึ่งตัวเราก็เปลือยกันโทงๆอยู่ไม่ได้ใส่อะไรเลย   เนื้อตัวเราก็แนบชิดกันจนความอุ่นจากตัวของมันกับความเย็นของน้ำนั้นก็เริ่มทำให้ผมรู้สึกแบบนั้นอีกแล้วครับ

         มันเป็นความรู้สึกดีๆที่ทำให้ผมอยากกอดกับมันอยู่อย่างนั้นนานๆ   ไม่อยากผละไปจากมันง่ายๆเลย   

         หน้าของมันและผมตอนนี้ก็ห่างกันแค่นิดเดียว   ผมมองสบตามันนิ่ง   มันก็มองผมนิ่งๆอยู่    หัวใจของเราต่างเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆจนรู้สึกได้ชัดเจน   

         ยิ่งพอผมมองหน้ามันใกล้ๆสบตากับมัน    ริมฝีปากของมันก็อยู่ตรงหน้าผมนี่เอง 

         ความรู้สึกบางอย่างที่เกิดกับผมตอนนี้ก็คือ    ผมอยากจะจูบที่ริมฝีปากนั้นของมัน

         ใช่ครับ  ผมรู้สึกว่าผมอยากจะจูบมันจริงๆ   พอคิดอย่างนี้แล้วผมยิ่งรู้สึกเหมือนว่าชาไปทั้งตัวเลยจนต้องหลบสายตามันแล้วก็ผละออกจากอ้อมกอดของมัน

         นี่เราคงเป็นบ้าไปแล้วใช่มั๊ย    เราเป็นเอามากขนาดนี้เลยเหรอ   มันคงเกินไปแล้วจริงๆ   ผมคงเริ่มรับตัวเองที่เป็นอย่างนี้ไม่ได้ซะแล้วครับ

         " เออ  เฮ้ย  เริ่มหนาวๆว่ะ   น้ำโคตรเย็นเลย"   ผมแกล้งพูดขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกนั้น   แล้วว่ายกลับไปที่ริมฝั่ง   มันก็ยังคงมองตามมาที่ผม

         ผมเลยแกล้งทำเป็นมานั่งแช่น้ำตรงริมฝั่งที่มีโขดหินโดยมีมันว่ายตามมาติดๆแล้วก็มานั่งข้างผม

         ตอนนี้ผมรู้สึกสับสนจนทำอะไรไม่ค่อยถูกซะแล้ว    และที่สำคัญตอนนี้ผมก็ไม่กล้าหันไปมองหน้ามันซะแล้วครับ

         " เฮ่ย   มึงเป็นอะไรรึป่าววะ  ทำไมเมื่อกี๊ทำหน้างั้นอะ"  มันหันมาถามผม 

         " เออ  ไม่มีอะไรหรอก   ตะกี๊มันเหมือนหนาวๆว่ะ   แต่ที่จริงมันก็สบายดีนะเว้ย   น้ำตกที่นี่น้ำมันเย็นสบายตัวดีมากเลยว่ะ   ไม่ยักกะเหมือนน้ำประปาที่เราอาบๆกันเลยนะ"   ผมพูดบอกมันไปเรื่อยแล้วก็ทำเป็นเอนตัวไปพิงโขดหินนั้นอย่างสบาย    เพียงแต่ว่าในใจตอนนั้นมันไม่ได้สบายไปด้วยเลย

         มันสับสนที่ข้างในไปหมดแล้วครับ    ลองนึกทบทวนถึงความรู้สึกเมื่อครู่อีกทีก็ยิ่งทำให้คิดไปว่าทำไมผมถึงเกินเลยไปได้ขนาดนี้นะ   มันไปไกลมากเกินไปซะแล้ว

         แล้วตัวมันล่ะ  ตอนมันสบตาผมเมื่อกี๊มันจะคิดอะไรอยู่นะ   ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจเลยว่าเราสบตากันอยู่อย่างนั้นนานแค่ไหนนะ

         ใจมันจะคิดและรู้สึกแบบผมมั่งมั๊ยนะ   แม้สักนิดนึงก็เถอะ   ซึ่งถ้ามันไม่ได้คิดเลยก็คงถือว่าไม่แปลกอะไร

         แต่ถ้ามันคิดเหมือนผมล่ะ    นั่นก็คงหมายความว่ามันก็คงมีใจให้ผมเหมือนกัน   

         ถ้าผมมีอำนาจอ่านใจคนได้ก็คงดีนะ   ตอนนี้ผมอยากจะรู้ใจมันจริงๆครับ 

         นี่ผมควรจะทำยังไงดี   หรือว่าผมจะถามมันไปเลยดีนะ   จะได้รู้กันไปเลย   

         ผมเบื่อที่จะต้องทนแบกรับความรู้สึกนี้ไว้คนเดียวอีกต่อไปแล้วครับ

         อย่างน้อยถ้ามันไม่ได้คิดกับผมอย่างนั้น   เราก็คงยังพอคบกันต่อไปอย่างเพื่อนได้

         และผมก็จะได้ทำใจไปซะที    ไม่ต้องค้างคาใจอยู่คนเดียวอย่างนี้อีก

         " เฮ้ย   เน  กูมีอะไรอยากถามมึงว่ะ   เอ่อ... มึง...."  ผมตัดสินใจเริ่มถามมัน  แต่แล้วก็ต้องยั้งปากตัวเองไว้   มันก็ทำหน้างงขมวดคิ้วเข้าหากัน

         " หือ  ทำไมอะ  จะถามอะไรวะ"   มันถามผมทันที  แต่ตอนนี้ผมหมดความกล้าที่จะถามมันซะแล้วล่ะ

         " เออ.....  ก็ไม่มีอะไร   เฮ้ย  เดี๋ยวเราขึ้นกันก่อนเหอะว่ะ   กลัวเดี๋ยวเกิดมีคนอื่นเค้าขึ้นมาบนนี้อ่ะ   กูอายเค้านะ"    ผมเลยแกล้งเปลี่ยนเรื่องไปเลย     แล้วผมก็เดินขึ้นมาใส่เสื้อผ้าทันที    มันก็ได้แต่เดินตามขึ้นมาอย่างงงๆ

         ผมว่าผมคงไม่ถามมันตอนนี้จะดีกว่านะครับ    บอกตรงๆว่าพอคิดดูแล้วผมไม่กล้าเสี่ยงเลย

         กลัวว่าถ้าถามมันไปจริงๆแล้ว  ใจมันไม่ได้คิดเหมือนผมล่ะ

         เราสองคนจะมองหน้ากันได้ยังไง   เรายังจะคบกัน   เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้อีกเหรอ

         และผมก็คงปล่อยให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้จริงๆ

         อย่างน้อยถ้าผมยังทนอยู่อย่างนี้    ผมก็จะยังคงมีมันอยู่

         เราคงจะยังคบกันได้เหมือนเดิมนะครับ     ยังคงเป็นเพื่อนรักกันต่อไป

         ซึ่งผมคิดว่ามันคงดีกว่ากันมาก    ก็คงต้องยอมให้เป็นแบบนี้แหละครับ

         เพราะผมคงยังไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าในตอนนี้นะ

                  ***********************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2010 23:21:22 โดย Goodfellas »

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
ช้านก็ต้องรอตอนต่อไป....

เสียดาย.........


อุาส่าห์ลุ้นแทบตาย นึกว่าจะจูบกันไปซะแล้ว หึๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
อิอิ   :laugh:

แหม....  วัยรุ่นทำไมใจร้อนยังงี้ครับ

อดใจอีกนิืดน่า

กำลังปั่นต้นฉบับอยู่แหละ

รอลุ้นอีกนิด  เดี๋ยวรีบต่อให้เลย o13

spok1234

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ขอมาดันหน่อยนะ อิอิ

ขอบคุณ คุณIceCrEam ครับที่มาคอยลุ้นอยู่

รออีกแป๊บ o3

spok1234

  • บุคคลทั่วไป
กลับ มา ถึง เปิด คอม ปุ๊ป

ลุ้น ๆ ต่อ อ่ะ ค้าบ

^^


Shin_i_chi

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกก พี่น้อต
ฉากซาหยิวที่น้ำตก
"กายแนบกาย ไม่มีอะไรมากั้นระหว่างทั้งสอง"

แต่อยากรู้จังเลยอ่าคับ ว่าเนจะคิดยังไง
สงสารอินอ่า เข้าใจความรู้สึกอินนะคับ
เวลาเรามีอะไรในใจละอยากให้เค้ารู้
แต่กลัวบอกเค้าไปละจะไม่เหมือนเดิม
เฮ้อออ ก็ไม่รู้จะทำไงดี
คงต้องอึดอัดต่อไป จนกว่าจะถึงเวลาที่ควรจะบอก (=w= )

ปอลิง เพิ่งได้เข้าบอร์ด น้ำท่วมมม แต่ลดละคับ
รอดูพายุอีกลูกก่อนว่าจะเป็นไง ถ้าอ่อนแีรงก็ดี จะได้ให้มันพัดๆไปให้พ้นเลย เซ็ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2010 22:01:43 โดย Shin_i_chi »

Pattaya

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
อิอิ  ฉากนั้นมันหวาดเสียวไปเหรอครับ   

เห็นภาพเลยก็ดีแล้ว o13

ตรงกับจุดประสงค์ของผู้แต่งแล้วครับ

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
รีบมาต่อแล้วนะครับ   มีเสียงเรียกร้องเ้ยอะ    และไม่อยากให้ใครต้องอารมณ์ค้างนะครับ o3

ตอนที่13




                              **************

         หลังจากที่เราเดินกลับมาที่รถกันแล้ว   ผมก็มัวแต่คิดอะไรจนใจสับสนไปหมด     จนลืมตัวไปเลยว่ายังไม่ได้พูดอะไรกับมันเลยสักคำตั้งนานแล้ว    หันไปอีกทีมันก็กำลังจ้องมาที่ผมอยู่

         " นี่ตกลงมึงเป็นอะไรวะ   เงียบไปเลยอ่ะไม่พูดไม่จา"   มันยังคงคาดคั้นคำตอบจากผม   ผมเลยต้องหันไปยิ้มกลบเกลื่อนมันไปก่อนแล้วตบบ่ามันเบาๆ

         " โอย....  ไม่มีอะไรหรอก  สาด..ด  อะไรของมึงวะ    ทำมาเครียดอยู่ได้เดี๋ยวก็กร่อยกันพอดีอ่ะ   กำลังสนุกๆเลย   วันนี้อ่ะวันดีของมึงนะเว้ย   ไอ่บ้า...  คิดมากอะไรของมึงอยู่ได้"    ผมก็ชักแม่น้ำทั้งห้าพูดไปเรื่อย    มัวว่าแต่มันว่าคิดมากนะ   แต่ตัวผมเองตอนนี้สิ   คิดไปไม่รู้ถึงไหนๆแล้ว

         " อืม...  ก็เห็นมึงเงียบๆไปเลยกูก็งง   นึกว่ามีอะไร   ถ้าไม่มีก็ดีแล้ว"   มันว่าแล้วก็เริ่มยิ้มออกมา

         " เออ... ไม่มีอะไรจริงๆ   มึงนี่   อ้าว...  แล้วนี่กี่โมงแล้ววะ   เฮ้ย...  นี่ก็จะสี่โมงแล้วนะเว้ย   กลับกันก่อนเหอะว่ะ    ถ้ามืดค่ำเดี๋ยวขับรถลำบากอ่ะ"  ผมเลยชวนมันกลับบ้านกันทันทีเพราะนี่ก็เริ่มเย็นมากแล้ว

         " ก็ได้ๆ   ไว้วันหลังเรามากันช่วงเช้าๆเลยนะเว้ย   จะได้มีเวลาอยู่ที่นี่กันนานๆ" 

         " อืม... วันหลังถ้ามาอีกกูจะได้เตรียมกางเกงมาเปลี่ยน   ไม่ต้องมาแก้ผ้าเล่นให้เสี่ยงอายคนอื่นเค้าอีก   แม่ง  ขืนนี่ถ้ามีใครมาเห็นเข้านะ    มึงเอ๊ย...   ไม่อยากจะคิด"   ผมบอกอย่างนึกขยาดจริงๆ   นึกๆไปนี่ผมก็เลยกลายเป็นกล้าบ้าบิ่นไปกับมันด้วยนะนี่

                                       -

                                       -

         แล้วพวกเราก็กลับมาขึ้นรถกัน   แต่พอมันเริ่มสตาร์ทรถก็พบว่าสตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติดเลยครับ    ผมกับมันเลยหันมามองหน้ากัน

         " มึงอย่าบอกกูนะ  ว่า..."   ผมพูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวลเต็มที่

         " เออ... กูว่ากูคงต้องบอกแล้วล่ะ    แม่ง...  มันเป็นเชี่ยอะไรวะ  สัดเอ๊ย   พี่เอกแม่งทำกูแล้ว"   มันบ่นถึงพี่เอกอย่างเคืองๆ แล้วก็ส่ายหน้าไปมา   จากนั้นก็เปิดประตูลงไปดูเครื่อง   แล้วก็ไปหยิบๆจับๆอยู่แป๊บนึง   ผมก็เลยตามไปดูมัน

         " แล้วนี่ตกลงมึงรู้เหรอว่าต้องเช็คอะไร  แก้อะไรตรงไหนน่ะ   เก่งดีว่ะมึงเนี่ย  ซ่อมเครื่องได้อีก"  มันทำให้ผมผมเซอร์ไพร์สอีกแล้วครับ   เลยชมมันไป   ก็หวังๆจะให้กำลังใจมันอ่ะนะครับ

         "  ก็ป่าวอ่ะ   กูก็ลองๆทำดูไปยังงั้นแหละ   เผื่อโชคดีมันจะติดน่ะ"   มันหันมาบอกอย่างหน้ามึนๆ   พอฟังมันแล้วใจผมยิ่งเหมือนหล่นไปไหนๆเลยครับ    เฮ้อ  ตายแน่ๆ   

         " อ่ะโธ่เอ๊ย   สาดด..ด    งั้นก็ไม่ต้องเลยอ่ะ   เดี๋ยวเครื่องมันก็ยิ่งพังไปกันใหญ่นะ    กูก็อุตส่าห์ใจชื้นขึ้นมาหน่อย  นึกว่าจะพอซ่อมได้    พอเลยๆ   ไปลองสตาร์ทอีกทีเลย"  ผมสั่งมัน   มันก็เดินกลับไปสตาร์ทรถอีก   แต่ว่าก็ยังไม่สำเร็จอยู่ดีครับ    ทีนี้ท่าทางมันเลยกลายเป็นหัวเสียอย่างมาก

         " เออ....   มึงไม่ต้องเครียดไป   ใจเย็นๆเดี๋ยวค่อยๆหาทางไป   อืม  งั้นลองโทรไปหาใครดูก่อนแล้วกัน   โทรหาไอ่พี่เอกมันก็ได้"  ผมพยายามปลอบมันให้ใจเย็นลง 

         มันก็เลยเอาโทรศัพท์ออกมาลองโทรดู    แต่พอมันเอามาแนบหูได้แค่แป๊บเดียวมันก็โวยวายออกมาทันที

         " โอ๊ย...ย  แม่ง  ไม่มีสัญญาณอีก   จะซวยกันไปถึงไหนวะ"  มันว่าแล้วก็ทุบพวงมาลัยด้วยความโมโห

         " เฮ้ยๆ  มึงจะโมโหอะไรนักวะ   เดี๋ยวกูลองโทรดูเครื่องกูก็ได้  ใจเย็นๆดิวะ"  ผมบอกแล้วก็ดึงมือมันไว้    แล้วก็เอาเบอร์พี่เอกมาลองโทรดู    แต่ก็ซวยจริงๆด้วยครับที่ไม่มีสัญญาณเหมือนกัน   ผมเลยค่อยๆหันไปมองตามัน  ซึ่งมันก็คงรู้แหละ เพราะผมยังไม่ทันพูดอะไรมันก็โวยออกมาลั่น

         " โว้ยยย...ย  แม่ง   ทำไมมันซวยขนาดนี้วะ"   มันตะโกนแล้วก็ลงไปจากรถ  เดินไปเตะรถ  เตะฝุ่นและหินแถวนั้นวุ่นไปหมดเหมือนคนบ้าไปเลย   ผมเลยรีบลงไปห้ามมันโดยดึงมือมันไว้แล้วก็กอดไหล่มัน

         " เฮ้ย... ไอ่เน   มึงจะอาละวาดไปทำไมน่ะ   ค่อยๆคิดไปดิวะ   ถึงเราจะซวยก็ช่างมันเหอะ   ลองหาทางอื่นกันก่อนดิ   มันต้องมีทางแหละน่า   โวยวายไปก็ไม่ได้อะไรหรอกน่ะ  เชื่อกูดิ   เหนื่อยเปล่าๆ"    ผมพยายามปลอบให้มันใจเย็นลงอีกครั้ง   

         จะว่าไปก็นานมากๆแล้วนะที่ไม่เคยเห็นมันโกรธจนอาละวาดขนาดนี้    เลยชักรู้สึกไม่ดีไปด้วยแล้วครับ   

         จริงๆผมว่ามันก็คงแค่โกรธที่เราซวยกันขนาดนี้   โทรศัพท์ก็ดันไม่มีสัญญาณเลยทีเดียวพร้อมๆกันซะมากกว่า   

         " อืม   งั้นเดี๋ยวลองมาคิดหาทางกันก่อน    กูจะลองไปดูว่าจะพอมีรถใครขับผ่านขึ้นลงที่นี่มั่งมั๊ย  เราจะได้อาศัยรถเค้าไปกัน  เอางี้ก่อนนะ"   ผมว่าแล้วก็เลยลองเดินไปที่ถนนที่เราขับกันขึ้นมาจากน้ำตกด้านล่าง   ก็หวังครับว่าอาจจะมีรถสักคันผ่านมา

                                       -

                                       -
         
         เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว    แต่ก็ไม่มีวี่แววของรถสักคันที่จะผ่านมาเลย      ความหวังของเราก็เลยดูจะริบหรี่เต็มที

         " แม่งเอ๊ย.... ป่านนี้ก็คงไม่มีใครขึ้นมานี่แล้วอ่ะ    ทำไมมันซวยยังงี้วะ"   มันเริ่มบ่นอย่างหัวเสีย   แล้วก็เตะก้อนกรวดแถวนั้นกระเด็นไป

         " เอาน่า... มาช่วยกันคิดต่อดิ  ว่าจะเอาไงดี   เออ... ว่าแต่  นี่มึงหิวรึยังน่ะ"  ผมถามมันอย่างห่วงๆ    ยังดีว่าเราได้ซื้อข้าวกล่องกับขนมแล้วก็น้ำดื่มเอาไว้เยอะพอควรก่อนมาที่นี่

         " อืม  ยังหรอกว่ะ   แล้วมึงอ่ะ"

         " อืม  กูก็ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่   งั้นกูว่าเดี๋ยวเรายอมเดินลงไปที่น้ำตกชั้นล่างจากนี่ก่อนนะ   เผื่อจะพอมีคนอยู่บ้าง    ขืนยังอยู่นี่กันกูว่าคงไม่มีประโยชน์ว่ะ   คงไม่มีใครผ่านมาแล้วจริงๆ  จอดรถล๊อคไว้นี่ก่อนแหละ"   ผมลองเสนอทางเลือกให้มัน    มันก็คิดนิดนึงแล้วก็เห็นด้วยกับผม

         เราเลยกลับมาที่รถขนของกินทั้งหมดไปด้วย    แล้วก็เริ่มต้นเดินกันตามถนนเส้นนั้นไปเรื่อยๆเพื่อจะลงไปสู่น้ำตกอีกชั้นหนึ่งที่อยู่ด้านล่าง

         ตลอดสองข้างทางนั้นก็เปลี่ยวมาก   มีแต่ต้นไม้ใหญ่ๆปกคลุมจนครึ้มไปหมด     เวลาตอนนั้นเกือบจะห้าโมงกว่าแล้ว   บรรยากาศตอนนั้นเลยเริ่มมืดลงเรื่อยๆยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกวังเวงยิ่งขึ้นไปอีก

         ตอนนี้เราเดินมาจากข้างบนได้เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วครับ      ผมเองเริ่มรู้สึกว่าขามันเริ่มล้าๆซะแล้ว   พอหันไปมองหน้ามันผมก็สงสารมันจริงๆ      แต่ในขณะนั้นเองเราก็มองไปเห็นแสงสว่างของดวงไฟอยู่ตรงเบื้องหน้าเราแล้วครับ

         " เฮ้ย   ไอ่เน  สงสัยเราคงเดินมาถึงแล้วว่ะ   ตรงนั้นมีไฟเปิดอยู่นะ"  ผมร้องบอกมันอย่างดีใจ

         " เออว่ะ  รอดไปทีเว้ยเรา    รีบเดินไปดูดีกว่าว่ะ  เผื่อยังมีคนอยู่"  มันยิ้มร่า   แล้วก็รีบเดินกันไปถึงตรงศาลามุงจากที่เปิดไฟอยู่นั้น

         แต่ว่ารอบๆบริเวณนั้นก็เงียบสงัดไร้ซึ่งผู้คน    ไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตเลยด้วยซ้ำไปครับ

         " เฮ้อ....   สงสัยป่านนี้น้ำตกเค้าคงปิดแล้วอ่ะ   คนมันคงจะกลับไปกันหมดแล้วนะ  ซวยเลยว่ะ  แม่ง...  ทำไงดีวะ"  ผมบ่นกับมันอย่างหมดหวัง   ซึ่งผมก็ลืมไปว่าไม่ควรทำอย่างนั้นเลย   เพราะจะไปทำให้มันยิ่งเครียดเข้าไปอีก

         พอหันไปดูมัน   ผมก็เห็นมันค่อยๆทรุดลงไปนั่งที่โต๊ะปิคนิคในศาลานั้นอย่างท้อๆ   แล้วมันก็นั่งก้มหน้าอยู่อย่างนั้น   ท่าทางมันดูแย่มากเลย    ผมก็เลยรีบเดินไปนั่งข้างๆมันแล้วโอบไหล่มันไว้

         " มึงเป็นไงวะ  ไอ่เน เหนื่อยเหรอ"    มันก็หันมา   สีหน้ามันตอนนี้ดูแล้วเหมือนคนจะร้องไห้เลย   มันคงอึดอัดกับทุกอย่างที่ต้องเจอกันอยู่ตอนนี้     เพราะจะทำอะไรก็ทำไม่ได้สักอย่าง   ได้แต่มานั่งรอกันอยู่อย่างนี้   โชคไม่เข้าข้างเราเลยครับ

         " แม่ง... ทำไมเราซวยกันอย่างนี้วะ   เพราะกูอ่ะพามึงมาซวยติดแหง็กไปด้วย   กูขอโทษนะเว้ย"   มันบอกด้วยเสียงสั่นๆ   แล้วก็กุมมือผมไว้ด้วยสองมือของมันเหมือนเป็นการขอโทษผม

         " เฮ้ย...  มึงนี่ก็  จะบ้าแล้ว  รถเสียมันจะเป็นความผิดมึงได้ไงเล่า    มึงสั่งให้มันเสียหรือไม่เสียได้รึไง   คิดมากไปแล้วน่ะมึง   พอเลยๆ    ไม่ต้องมาโทษตัวมึงเองเลย    มึงไม่ได้ผิดหรอกน่า"   ผมปลอบใจมันอีกครั้ง   ก็คงเพราะมันรู้สึกอึดอัดมากจริงๆนั่นแหละครับ   เลยนึกโทษตัวเองไป

         " อืม   มากินข้าวกันก่อนดีกว่าว่ะ   กูหิวแล้วล่ะ   แล้วเราค่อยๆคิดกันใหม่นะ   ว่าจะเอาไงดี"   ผมบอกแล้วก็หยิบข้าวกล่องที่เราซื้อไว้ออกมากินกับมัน   แล้วก็กินขนมอีกหลายห่อนั้นด้วยความหิว   

         ตอนนั้นผมก็พยายามชวนมันคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปด้วย   หวังจะได้ลดความเครียดของมัน    ดูๆไปแล้วยังไงซะเราก็คงไม่พ้นต้องนอนค้างกันที่ศาลานี้ซะแล้วครับ    เพราะมืดค่ำป่านนี้แล้วคงจะไปไหนไม่ได้อีก

         " โอเคนะมึง   ไม่ต้องโทษตัวมึงเองหรอก     ทำไงได้อ่ะ   รถเสียใครจะรู้ล่วงหน้าได้ล่ะ   ถึงจะซวยต้องมาติดกันอยู่นี่แต่ก็ช่างมันเหอะว่ะ    ก็ถือซะว่ามานอนเล่นท่ามกลางธรรมชาติกะกูคืนนึงแล้วกันอ่ะ    เห็นมั๊ย   ดีจะตายไม่ได้มีโอกาสมาเที่ยวกันอย่างนี้ง่ายๆนักนะเว้ย"   ผมก็ยังคงพยายามปลอบใจมันอีก   จนตอนนี้มันก็เริ่มยิ้มออกมาได้บ้างแล้ว

         " เออ  ขอบใจว่ะ   กูไม่เป็นไรแล้ว   ถ้างั้นก็คงต้องนอนกันอยู่นี่นะคืนนี้    หวังว่าตอนเช้าคงพอมีคนขึ้นมาช่วยเรานะ"

         " อืม   ก็คงต้องอย่างนั้นแหละว่ะ   ไม่มีทางเลือกแล้ว แค่คืนนี้คืนเดียว   ดีนะที่นี่เค้ายังเปิดไฟสว่างอยู่   ไม่งั้นละก็พวกเราคงแย่ว่ะ"   ผมบอกมัน   เราก็ยังค่อนข้างโชคดีนะครับที่ได้มาพักกันที่ศาลานี้     แล้วก็เลยลากเอาโต๊ะมานอนด้วยกัน

         ตอนนั้นก็เริ่มดึกมากแล้วเรายังคุยกันว่าจะทนรอกันจนถึงเช้าน่าจะมีคนมาช่วยเราได้    หลังจากนั้นเราก็หลับกันไปอย่างเหนื่อยอ่อน

                                       -

                                       -

         ดึกแล้วแต่อยู่ๆฝนก็เทกระหน่ำลงมาด้วยเสียงที่ดังมากจนปลุกเราสองคนให้ตื่นขึ้นมา    แต่แล้วเราก็ต้องมาสั่นด้วยความหนาวยะเยือกของอากาศขณะนั้น

         " โอย   โคตรหนาวเลยว่ะ   ฝนแม่งก็ตกซะหนักเลย"    มันบ่นแล้วก็นั่งกอดอกด้วยความหนาว   เราเลยต้องไปนั่งหลบละอองฝนและลมหนาวๆที่พัดเข้ามาที่มุมด้านในสุดของศาลา

         ศาลาที่เราอยู่นี้มันก็เป็นศาลาที่ไม่ใหญ่มาก     แต่มีต้นไม่ใหญ่เกือบสองคนโอบอยู่ชิดกันกับตัวศาลาเลย     ซึ่งยังดีที่กิ่งก้านร่มเงาของมันพอจะช่วยกันฝนให้เราได้บ้าง    แต่ตอนนี้เราก็ไม่รู้จะทำไงก็เลยต้องไปนั่งพิงเสาของศาลากันไปอย่างนั้น

         ผมหันไปมองน้ำในน้ำตกก็พบว่าน้ำมันดูเพิ่มขึ้นเยอะมากและไหลอย่างเชี่ยวกรากเลยครับ   เลยนึกขึ้นมาได้ว่าถ้าฝนยังตกหนักอย่างนี้ต่อไป   ก็มีโอกาสที่น้ำป่าจะไหลมาได้ง่ายๆเพราะตอนนี้เราอยู่กลางป่ากัน    โอย  จะทำไงกันดีละทีนี้   ซวยจริงๆ

         " เฮ่ย  ทำไมมึงทำหน้ายังงั้นวะ  ไอ่อิน"    มันหันมาถามผม     คงเพราะผมนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ด้วยความกังวลจนดูผิดปกติไป

         " เออ   ไม่มีอะไร    นอนกันต่อเหอะ   ง่วงๆว่ะ"     ผมแกล้งกลบเกลื่อนมันไปกลัวว่ามันรู้แล้วจะพลอยวิตกจริตกันไปอีก   มันก็ยังทำหน้าสงสัยอยู่     แต่ก็ไม่ได้มาซักถามอะไรอีก

         ขณะที่ผมกำลังคิดว่าจะทำไงกับฝนที่มันยังสาดเข้ามาอยู่นั้น    ก็หันไปเห็นว่ามีโต๊ะปิคนิคอยู่หลายตัวเลย   เลยบอกไอ่เนให้ช่วยกันลากโต๊ะปิคนิคมาจับตั้งขึ้นเพื่อให้มันช่วยบังลมฝน       

         โชคดีที่ว่ามีโต๊ะอยู่หลายตัวครับเลยช่วยกันลากมาตั้งเรียงต่อๆกันเป็นเหมือนกำแพงทั้งสามด้านแล้วก็เข้าไปหลบข้างใน

         " เออ  ดีขึ้นเลยว่ะ   มันบังลมบังฝนไปได้หน่อยนึง   มึงเป็นไงวะยังหนาวอยู่มั๊ย"   มันถามผม

         " ก็หน่อยๆว่ะ   กูอยากบอกอะไรมึงนะ   มึงฟังดีๆแล้วอย่าเพิ่งรีบโวยวายไปล่ะ"   ผมตัดสินใจบอกมันไว้ก่อน    มันจะได้เตรียมใจไว้    ไม่งั้นเดี๋ยวกลัวว่ามันจะลนลานเวลาเกิดอะไรขึ้นมาอีก

         " มึงคงรู้นะว่าตอนนี้เราอยู่กันแทบจะกลางป่าเลย    แล้วฝนตกมาหนักอย่างนี้กูลองมองดูน้ำที่ในน้ำตกแล้วเห็นมันเชี่ยวแล้วก็มาเยอะมากเลยว่ะ   เลยคิดว่ามีโอกาสที่น้ำป่ามันจะไหลมาได้ทุกเมื่อเลยว่ะ"   พอมันได้ยินเข้าก็ทำหน้ายังกับเห็นผีเลยครับ

         " เฮ่ย... จริงเหรอวะ"   มันว่าแล้วก็รีบลุกขึ้นมองไปที่น้ำตก    แล้วก็หันมาท่าทางลนลาน

         " เฮ้ย...  แล้วทำไงอ่ะ   ตายห่ากันละมึงจะทำไงดีวะ" 

         " เออ...  ก็กูบอกแล้วว่าไม่ต้องตื่นเต้นไป    มึงเห็นนี่มั๊ยต้นไม้ข้างศาลานี่อ่ะ   ต้นมันจะใหญ่มากพอ   เราค่อยๆเหยียบบนศาลานี่แล้วค่อยๆปีนกันขึ้นไปก็น่าจะพอหลบน้ำป่าได้อยู่นะ"   ผมอธิบายแผนการของผมให้มันฟัง

         " อืม...  แล้วถ้าเกิดน้ำมันมาแรงมากๆหรือมีอะไรใหญ่ๆพัดมาด้วยล่ะ   จะทำไงดีวะ   ต้นไม้นี่มันจะต้านไหวมั๊ยนะ    มึงพอจะมีแผนสองอีกมั๊ยวะ"    มันถามผมอย่างนี้แสดงว่ามันยังรอบคอบและมีสติดีมากอยู่    ถึงจะตื่นๆกลัวไปบ้าง

         " เอ้อ...   แผนสองเหรอ    ก็ยังไม่แน่ใจว่ะ   ขอคิดก่อนแล้วกัน"   ผมบอกมันแล้วก็เริ่มหาทางใหม่   ถ้าน้ำมันพัดมาแรงมากเราพอจะหนีไปไหนได้อีก   แต่แล้วก็รู้สึกว่าจะมืดแปดด้านครับ  มองไม่เห็นทางอื่นเลย    ถ้าน้ำมันมาแรงอย่างนั้นจริงๆเราคงต้องตายกันแน่ๆ

         " โอ๊ย....ย    คิดไม่ออกเว้ย"   ผมตะโกนออกมาอย่างเหลืออด    มันอึดอัดจริงๆครับที่ต้องมาติดอยู่อย่างนี้ทำอะไรก็ไม่ได้เลย   หนีไปไหนก็มีแต่ป่ากับป่า

         " เฮ่ย...  ใจเย็นๆ   งั้นอย่าคิดอะไรไปก่อนเลยมึง   ยังไงเราก็คงไม่ซวยกันไปกว่านี้แล้วว่ะ   น้ำมันอาจจะไม่มาจริงๆก็ได้   อย่าเพิ่งกังวลไปก่อนเลย"    มันพูดเตือนผมได้อย่างใจเย็นดีมาก   คราวนี้เลยกลายเป็นมันที่ต้องปลอบใจผมซะแล้ว    ซึ่งก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นได้จริงๆ    ความเครียดและอึดอัดเมื่อกี๊ก็หายไปบ้างแล้ว

         " เออ  โทษทีว่ะ  กูคงเครียดเกินไปจริงๆ   จะว่าไปถึงเราตีตนไปก่อนไข้กันมันก็คงเท่านั้นแหละว่ะ   แต่ว่านะ  สมมุติว่าถ้าคราวนี้เราต้องตายกันจริงๆมึงจะเสียใจมั๊ยวะ  ไอ่เน"  ผมหันไปถามมัน   

         " อืม  ถ้ากูจะเสียใจนะ   กูคงเสียใจที่พามึงมาตายน่ะ    ไม่นึกว่ามันจะเป็นยังงี้นะ"    มันพูดคล้ายๆกับว่ามันยังโทษตัวเองอยู่    แล้วก็ถอนหายใจมาทีนึง

            " แต่ถ้าเป็นไปได้นะถึงกูต้องตายมันก็ไม่เป็นไรหรอกให้มึงรอดไปได้ก็แล้วกัน    มันคงจะดีกว่านะ   แล้วมึงเองล่ะ   กลัวหรือเสียใจมั่งมั๊ยวะ"   มันถามผมกลับ   ผมก็ยิ้มที่ได้ฟังคำตอบของมัน     ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีและมีกำลังใจขึ้นอย่างมากๆเลยครับ

         " เออ   กูก็ไม่กลัวหรอกว่ะ   ตายก็ตายแม่งด้วยกันนี่แหละ    แค่นี้กูก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วว่ะ   เราจะอยู่กันยังงี้ไปจนวินาทีสุดท้ายนั่นแหละ    นะเว้ย..."   ผมบอกมันอย่างตื้นตันใจที่มันก็ยังห่วงผม   ความรู้สึกที่กลัวและกังวลก็หายไปจนหมดเลยครับ

         " โอเคว่ะ  งั้นเดี๋ยวมึงนอนไปก่อนก็ได้นะ    เดี๋ยวกูจะอยู่คอยระวังให้เอง   ถ้ามีอะไรก็จะได้ยังหนีกันทันนะ"   มันเสนอให้ผมนอนไปก่อน    ผมก็ยอมตกลงตามนั้นแล้วก็นอนหลับไปก่อนอย่างเพลียๆ
         
                                       -

                                       -

         ฝนยังคงตกกระหน่ำอยู่อย่างไม่ขาดสาย   ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นมันยังคงนั่งพิงเสากอดกับผมแล้วเอาเสื้อตัวนอกของมันมาห่มตัวเราสองคนไว้ด้วยกัน   แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าหนาวและปวดล้าตามตัวไปหมดเลยครับ   และยังรู้สึกมึนๆลืมตาก็แทบจะไม่ขึ้นเลยไม่รู้ว่าเป็นอะไรแน่   หรือว่าผมจะไม่สบายไปแล้วนะ

         " อ้าว... เฮ่ย  มึงนอนไปก่อนก็ได้   เพิ่งนอนไปแป๊บเดียวเองอ่ะ"  มันบอก

         " กูมึนๆหัวว่ะ  ไม่รู้เป็นอะไร  ปวดตามตัวด้วย"   ผมบอกอาการมัน   มันก็เอามือมาแตะหน้าผากผม

         " เฮ่ย...  ตัวมึงร้อนจี๋เลยอ่ะ   แม่งเอ๊ย  ทำไงดีวะ"  มันโวยวายขึ้นแล้วก็ลนลานหันรีหันขวางไปมาเหมือนหาอะไรสักอย่าง

         " เออ... แต่กูไม่เป็นไรเท่าไหร่หรอกน่า   แค่นี้เองมันมึนๆน่ะ   แต่ถ้ากูไม่สบายแล้วมึงจะทำไงล่ะ   จะไปหาสมุนไพรในป่ามาต้มให้กูกินเรอะไง"   ผมพูดให้มันดูตลกๆไปซะ   ไม่อยากให้มันเครียด   แต่ก็ไม่สำเร็จมันไม่ยักกะตลกไปกับผมด้วย

         " โว้ยย..ยย   แม่ง   ถ้ากูออกไปหายามาต้มให้มึงได้กูก็ทำไปแล้ว    ฝนเชี่ยนี่แม่งก็ตกอยู่ได้จะทำอะไรก็ทำไม่ได้เลยเว้ยย...ยย"   มันตะโกนออกมาอีก   ท่าทางมันก็คงเครียดและอึดอัดจนสุดจะทนจนน้ำตาคลอเบ้าเลย    ที่ได้แต่นั่งติดแหง็กกันอยู่ตรงนี้จะทำอะไรก็ไม่ได้เลยสักอย่าง  ผมเลยต้องรีบปลอบมัน

         " เฮ้ย  ไอ่เน  มึงใจเย็นก่อน   กูก็ไม่ได้เป็นไรมากอ่ะ   อย่าทำงี้สิวะ  มึงโวยวายไปมันก็ไม่ได้อะไรอ่ะ   กูไม่เป็นไรจริงๆ"   ผมกอดมันแน่น  ใจผมก็เริ่มเสียไปเหมือนกัน  เพราะสงสารมันน่ะครับ

         " ตัวมึงร้อนขนาดนี้แล้วยังบอกไม่เป็นไรอีก   แม่งเอ๊ย  มันจะซวยไปถึงไหนกันวะ"   มันพูดอย่างเคียดแค้นในโชคชะตาที่เราต้องเจออยู่ตอนนี้จนน้ำตามันไหลออกมา   

         " มึงฟังกูนะ   กูรู้ว่ามึงห่วงกู   แต่มึงอย่าตีโพยตีพายอีกเลย  อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด   ค่อยๆหาทางกันไปเหอะว่ะ   นะเว้ย...  เห็นมึงยังงี้แล้วกูใจไม่ดีจริงๆว่ะ   มึงเชื่อกูเหอะนะ   เวลานี้น่ะมันทำอะไรไม่ได้จริงๆ   แต่เราต้องมีสติกันนะเว้ย"   ผมบอกแล้วก็กุมมือมันไว้แน่น  แล้วก็มองสบตามัน   มันก็มองมา  แล้วก็เอามือปาดน้ำตาออกไป

         " เออๆ   ยังไงก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี   ก็ต้องรอให้ถึงเช้านั่นแหละว่ะ  หวังว่าคงมีคนขึ้นมาช่วยเราเองนะ    กูแค่ภาวนาขอให้มึงอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปก่อนก็แล้วกัน"   น้ำเสียงมันดูเป็นห่วงผมจริงๆ  แล้วก็กอดผมไว้แน่น   

         " เอาน่า   ยังไงซะกูก็ไม่ตายง่ายๆหรอก    มึงกะกูยังต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน    ตอนนี้เราเริ่มดังแล้วอีกหน่อยจะได้ออกอัลบั้มด้วยกันไงวะ    ออกคู่กันไง   ที่นี้จะได้ดังใหญ่   แฟนคลับเราคงเยอะนะเว้ย"   ผมยังคงฝืนยิ้มพูดกับมันไปเรื่อยๆเพราะอยากจะปลอบมัน 

         แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วผมเพ้อไปเพราะไข้มันสูงรึเปล่านะ    แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วครับ    แค่ไม่อยากให้มันกังวลจนใจเสียไปหมดอย่างนี้

         " เออๆ  มึงไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ   นอนไปก่อนเหอะว่ะ"   มันบอก   แต่ว่าสีหน้าของมันก็ดูยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่นัก   เพราะมันก็คงจะกังวลกับอาการของผมอยู่

         ที่จริงผมว่าถึงผมจะโชคร้ายที่ต้องมาติดอยู่อย่างนี้    แต่ก็ยังถือว่าโชคดีมากอยู่นะครับที่มันอยู่ข้างๆผมเวลานี้    ในสถานการณ์ที่เราอาจจะเป็นตายได้เท่าๆกันอย่างนี้   

         และพอคิดอย่างนี้แล้วผมก็รู้สึกว่าถ้าผมและมัน  หรืออาจจะแค่ใครคนนึงจะไม่รอดไปจากที่นี่ได้   ผมจะทำยังไง

         ทำให้ผมหวนคิดถึงเรื่องที่ผมอยากบอกความรู้สึกของผมกับมัน

         ผมอยากจะบอกมันจริงๆครับ   ว่าผมรักมัน  แต่ไม่ได้รักแบบเพื่อนแล้ว

         และผมว่าคงจะต้องบอกกับมันตอนนี้เลย    ก่อนที่ผมอาจจะไม่มีโอกาสนี้อีกแล้วก็ได้

         แต่ผมก็ยังคงไม่แน่ใจอยู่ดีนะครับ    ถ้าบอกไปแล้วคำตอบของมันไม่เป็นอย่างที่ผมหวังไว้ล่ะ

         ผมจะทำยังไงดีนะ    มันรู้สึกลังเลใจไปหมดแล้วจริงๆ

                                   ****************

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2010 23:38:39 โดย Goodfellas »

Shin_i_chi

  • บุคคลทั่วไป
แง่ะ ไมจู่ๆดันซวยไปติดฝนกลางป่าได้ละคับนี่
แถมยังมีโอกาสที่น้ำป่าจะไหลหลากได้อีก ซวยเจงๆเลยอ่า
ขอให้โชคดีนะคับ ทั้งสองคน :sad11:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
กล้าๆบอกไปเลย ดีกว่าเสียใจทีหลังที่ไม่ได้บอก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ติดตามตอนต่อไปกันได้เลยนะครับผม     อิอิ  เพราะรู้ดีว่าคงไม่มีใครอยากรอ     กำลังลุ้นกันอยู่ใช่ม๊า....  :laugh3:  

โอเคครับ   มาอ่านต่อกันเลย :teach:


ตอนที่14



                                                       ************

         ในขณะผมกับมันยังคงนั่งรอความหวังกันอยู่     ตอนนั้นก็คงตีสามได้อากาศก็ยิ่งเย็นลงไปอีกจนผมเริ่มรู้สึกหนาวมากขึ้น   เลยเบียดตัวเองจนชิดกับมันมากขึ้นอีก

         " เฮ้ย... มึงหนาวใช่ปะ  อืม...  แย่ว่ะ  แม่ง... ถ้ามีผ้าห่มอีกตอนนี้ก็คงดีอ่ะ"  

         " เออ... ไม่ต้องหรอก   กอดกะมึงกูอุ่นพอแล้วว่ะ   มึงไม่ต้องห่วงหรอกนะ"   ผมบอกมันแต่ปากก็สั่นซะแล้ว  มันรู้สึกหนาวมากจริงๆอยู่    แต่ก็ไม่อยากให้มันเป็นห่วงมากกว่านี้

         " เฮ้ย...  กู....  คือ..  กูอยากถามอะไรมึงหน่อยว่ะ  เน"   ผมเริ่มรวบรวมความกล้าแล้วถามมันออกไป

         " หือ..   อะไรวะ"

         " มึง... รักกูบ้างมั๊ยวะ"    ผมถามมันอย่างไม่ค่อยเต็มเสียงเพราะว่าไม่มีความมั่นใจเลยครับ   แต่ก็ได้ถามออกไปแล้ว

         " อะไรของมึงวะ   ถามกูแปลกๆ  ก็รักดิวะ   เป็นห่วงมึงอยู่เนี่ย   มึงเพื่อนกูนะเว้ย   ชีวิตนี้กูรักมึงที่สุดแล้วมึงรู้มั๊ย"   มันส่ายหน้าช้าๆ  เหมือนว่าผมจะถามมันทำไม

         " ไม่ใช่เว้ย   กูไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นหรอก   ที่กูบอกว่ารักมึง   กูรักมึงจริงๆนะ  แต่ว่าไม่ได้หมายถึงแบบเพื่อนหรอกว่ะ"  ผมฝืนหลับตาพูดบอกมันไปอย่างยากเย็น  แต่ก็ต้องบอกมันแหละครับ  มันก็ทำหน้างงๆนิดนึงแล้วผมก็เลยรีบพูดต่อ

         " ก็นั่นแหละ  กูคิดกับมึงแบบนั้นจริงๆว่ะ   ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่นะ   แต่กูก็รักมึงจริงๆซึ่งมันก็เกินเพื่อนไปแล้วกูเลยอยากให้มึงรับรู้ไว้นะ"   มันยังคงนิ่งฟังผม

           " ทีนี้กูก็อยากรู้ว่ะว่ามึงคิดยังไงวะ  เน....  บอกกูได้มั๊ยวะ   มึงรักกูอย่างที่กูรักมึงบ้างมั๊ยวะ  กูอยากรู้จริงๆนะ...  แต่ถ้าใจมึงไม่ได้รักกูอย่างนั้นกูก็ต้องขอโทษมึงนะเว้ย   กูจะไม่เรียกร้องอะไรว่ะ....   ขอแค่เราก็คบกันไปเหมือนเดิม  กูก็จะกลับไปเป็นเพื่อนที่ดีของมึง  ได้มั๊ยวะ  เน...  กูขอร้องมึงล่ะนะ...."   ผมคร่ำครวญขอร้องมันแล้วน้ำตาก็เริ่มไหลออกมา    เพราะผมกลั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ

         ความรู้สึกตอนนั้นมันบอกไม่ถูกเลยครับ   ทั้งที่อยากจะบอกมันมาก

         แต่พอบอกมันไปแล้วก็เริ่มกลัว   มันรู้สึกกลัวไปหมดเลยทุกอย่าง

         กลัวว่าระหว่างเรามันจะต้องเปลี่ยนแปลงไป  

         กลัวว่ามันจะรับไม่ได้ที่ผมคิดกับมันอย่างนี้

         และที่สำคัญผมกลัวจริงๆครับ   ว่าจะต้องสูญเสียมันไป

         " โธ่เอ๊ย   มึงจะมาพูดอะไรตอนนี้ว้า   สภาพมึงตอนนี้น่ะ   จะแย่อยู่แล้ว"   สีหน้ามันดูเป็นห่วงผมมากๆ   แล้วก็กอดผมไว้แนบอกมันเลย     ผมก็ได้แต่บอกมันที่ข้างๆหูของมันไป

         " ก็ถ้ากูไม่ได้บอกมึงตอนนี้กูกลัวนะ...   ไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสบอกมึงอีกมั๊ย   เผื่อว่า.... กูอาจจะไม่รอดไปจากนี่หรือต้องตายไป   กูก็คงไม่ได้บอกมึงนะ   มึงเข้าใจมั๊ย...."  ผมพูดไปก็สะอื้นไปด้วย   ในใจผมอยากให้มันเข้าใจผมได้จริงๆครับ

         " โธ่เว้ย...ย  พอแล้วๆ   มึงอยากรู้ใช่มั๊ยว่ากูคิดยังไงน่ะ"   มันพูดออกมาเสียงดังแล้วก็สบตาผมนิ่ง   ตามันก็มีน้ำตาคลออยู่  แล้วมันก็ก้มลงจูบผม    

         ริมฝีปากของมันสั่นและหายใจอย่างแรงเพราะอารมณ์ที่เตลิดไปแล้วของมัน   ซึ่งผมก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน

         ผมไม่นึกเลยว่าเราสองคนจะมาจูบกันอย่างนี้     ใจนึงผมก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เลย

         เรายังเป็นผู้ชายอยู่นะ   จะทำยังงี้ได้ไง

         แต่ขณะที่อีกใจนึงผมกลับรู้สึกว่านี่แหละคือ สิ่งที่ผมรอคอยมานาน

         ที่จริงใจผมคงใฝ่หามันมาตลอดอยู่แล้ว   เพียงแต่ผมยังค้นหามันไม่เจอเท่านั้นเอง

         ดีใจครับที่ผมได้พบมันแล้ว   มันอยู่ตรงหน้าผมนี่เอง  และผมจะไม่มีวันลืมความรู้สึกนี้เลยครับ

                                       -

                                       -

         ผมกับมันจูบกันนานจนแทบจะลืมหายใจไปเลย    นี่คงเป็นอารมณ์ปรารถนาในใจของผมและมันที่ลุกโชนขึ้นมาจริงๆ    ในที่สุดก็ได้รู้แล้วว่ามันก็รักผมเหมือนกัน    

         เพราะจูบนี้ก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุดจากมันอยู่แล้ว   ผมคงไม่ต้องสงสัยว่ามันคิดยังไงอีกต่อไป

         แล้วมันก็หันออกมากอดผมไว้แล้วกระซิบที่ข้างๆหูผม

         " กูก็รักมึงเหมือนกันนะเว้ย   แล้วที่ผ่านๆมากูก็คงรักมึงมาตลอด   แต่ตอนนั้นกูก็ไม่มั่นใจนะ   ยังคิดว่ากูจะรักมึงอย่างนั้นได้ไง   เพิ่งจะรู้ว่ะ ว่านั่นมันคือกูหนีใจตัวเองมาตลอดเลย"  

         " แค่ตอนที่กูคิดว่ามึงอาจจะต้องตายไป   กูจะไม่มีมึงอีกแล้ว  กูก็รู้ตัวแล้วว่ะ  ว่าที่จริงกูรักมึงแบบนี้  ต่อไปกูยอมเป็นเกย์หรือเป็นอะไรก็ได้แล้วว่ะ   กูไม่สนแล้วล่ะ  ขอแค่ได้อยู่กะมึงก็พอ   เพราะงั้นมึงอย่าเป็นอะไรไปนะเว้ย  อย่าทิ้งกูไปนะ   กูขอร้องละ"    มันบอกแล้วก็กอดผมจนแน่น

         " เออ...  กูไม่ทิ้งมึงไปหรอกนะ  ไอ่เน... ดีใจว่ะที่มึงก็รักกูนะ   กูคิดถูกที่บอกมึงไปแค่นี้กูก็สบายใจแล้ว  กูกังวลอยู่นานเลยว่ะ   กว่าจะกล้าบอกมึงนะ   ก็กลัวๆน่ะถ้ามึงไม่คิดเหมือนกู    ระหว่างเรามันจะเป็นยังไงอาจจะจบเห่ไปเลย   หรือกูคงต้องเสียมึงไปน่ะ"   ผมสารภาพทุกอย่างกับมัน

         " ถ้างั้นต่อไปนะเว้ย   มึงก็คงไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วละนะ   แต่ว่าตอนนี้กูห่วงมึงนะ"  มันว่าแล้วก็เอามือแตะหน้าผากผมอีก   ผมเลยจับมือมันไว้แล้วก็กุมเอาไว้แน่น

         " ขอบใจว่ะที่ห่วงกู    นี่เดี๋ยวก็คงเช้าแล้วนะ  คงจะมีคนมาช่วยเราแหละ   มึงก็นอนก่อนเหอะ  พักซะ  ไม่ต้องห่วงแล้วละนะ"   ผมบอกให้มันนอนพักซะ   มันก็ยิ้มแล้วบีบมือผมเบาๆ

         อากาศตอนนั้นก็ยังคงหนาวๆอยู่    เรายังคงนั่งเอนหลังพิงเสาแล้วกอดกันอยู่ตรงนั้น    

         ผมรู้สึกว่าแค่อยู่อย่างนี้ถึงอากาศจะหนาวแต่ผมก็อบอุ่นได้เพราะมันจริงๆครับ

         โดยเฉพาะที่ในใจผมนั้นมันรู้สึกอบอุ่นจริงๆ     ไม่ใช่แค่ว่าจะพูดให้มันสวยหรูอะไรนะครับ

         แต่ก็เข้าใจแล้วล่ะที่มีคนพูดว่าถ้าเรามีใครสักคนที่เรารักอยู่ด้วยกัน

         แม้อากาศจะหนาวสักแค่ไหนแต่ก็จะอบอุ่นได้  

         มันคงจะเป็นแบบนี้นี่เองครับ...

                                       -

                                       -

         แล้วผมก็หลับไปอีกครั้งเพราะเพลียมากและอาจเป็นเพราะพิษไข้   พอมาได้สติอีกทีก็รู้สึกไม่มีแรงเลยครับ   ลืมตาขึ้นมาก็เห็นลางๆว่าไอ่เนและใครก็ไม่รู้อีกสองคนกำลังหามผมนอนในเปลผ้าใบและกำลังขึ้นรถพยาบาล   แล้วผมก็หลับไปอีกจนไปตื่นอีกทีที่โรงพยาบาล    มองไปก็เห็นมันนั่งเฝ้าผมอยู่

         " เอ้อ...  ฟื้นแล้วเหรอวะ  ดีเลย   มึงหิวอะไรมั๊ยวะ"   มันยิ้มให้ผม  ท่าทางมันดีใจมากๆที่ผมฟื้น  แล้วก็หันไปรินน้ำให้ผม   ตัวผมเองก็ดีใจครับที่ตื่นมาแล้วเห็นหน้ามันเป็นคนแรกนะ

         " เออ... กูนอนไปนานแค่ไหนนี่"   ผมถามมันแล้วก็รับแก้วน้ำจากมันมากินอย่างกระหายเลย

         " ก็นี่บ่ายอีกวันแล้วอ่ะ   ตอนนั้นที่มึงกะกูหลับไปกัน   พอเช้ากูก็ได้ยินเสียงรถเลยรีบตื่นมาดู    ก็เห็นรถพี่ที่เค้าเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานเค้าขับมาพอดีน่ะ     กูเลยรีบไปบอกให้เค้าช่วยเค้าก็รีบเรียกรถพยาบาลมารับมึงเลย โชคดีว่ะ พี่ๆเค้าต้องมาตรวจพื้นที่ทุกเช้าอยู่แล้วอ่ะ"  มันเล่าเหตุการณ์ย้อนหลังให้ผมฟัง   ผมก็รู้สึกขอบคุณโชคชะตาที่ยังเข้าข้างพวกเราอยู่บ้าง

         " แต่ตอนแรกกูก็ใจไม่ดีแหละที่มึงไม่รู้สึกตัวนะ   แต่หมอเค้าว่ามึงไม่เป็นไรมากแล้วกูก็เลยเบาใจไปหน่อยนึง"    มันนั่งลงข้างเตียงแล้วก็กุมมือผมไว้

         " เพราะว่าถ้ามึงเป็นอะไรไปจริงๆ   กูว่ากูคงแย่ว่ะ  กูคง....  ไม่รู้ดิ   คงจะใจสลายไปเลยมั๊ง"   มันว่าแล้วก็ถอนหายใจยาว    แล้วก็สบตาผม

         " เออ... กูก็ไม่เป็นไรแล้ว  ไม่ต้องห่วงแล้วนะ   อ้าว... แล้วรถมึงล่ะ"  ผมถามถึงรถมันเพราะเพิ่งจะนึกได้

         " อ๋อ... ให้ช่างเค้าไปดูแล้ว  เค้าไปจับๆนิดเดียว   แม่ง... สตาร์ทติดซะงั้น   ถ้ารู้งี้ก่อนนะกูซ่อมเองไปแล้วอ่ะ    ทำเราเกือบตายเลย"   มันเล่าให้ฟัง   ผมก็รู้สึกขำมัน    

         จริงๆแล้วผมว่าผมอาจจะต้องขอบใจรถของมันนะที่มาเสียตอนนั้น

         เพราะมันทำให้ผมได้บอกความจริงในใจผมกับมัน   ว่าผมรักมันแบบนี้

         ถ้ารถมันไม่เสียนะเหรอ  ผมก็คงยังไม่ได้บอกมันหรอกครับ

         และก็อาจจะไม่มีโอกาสบอกมันอีกเลยก็ได้นะ

                                       -

                                       -

         หลังจากที่ผมฟื้นและดีขึ้นแล้วผมก็เลยรีบบอกมันว่าจะกลับบ้านก่อน   ไม่อยากนอนนี่ให้มันเปลืองเงินไปอีก    หมอเค้าก็ยอมอนุญาตเราเลยออกมาจ่ายเงิน   รับยาแล้วมันก็ขับรถกลับมากับผมถึงบ้านมัน

         " คืนนี้นอนกะกูนะ   ไม่ต้องกลับวัดหรอก   กูจะได้ดูมึงนะ    เหมือนตอนที่มึงช่วยดูกูไง   กูจะได้ไม่ต้องห่วงมึงน่ะ"   มันบอก   ผมก็ตามใจมัน

         สักพักมันก็ออกไปซื้อข้าวต้มมาเผื่อผมแล้วเราก็มานั่งกินกัน   มันก็เทคแคร์ผมดีนะ   หยิบนั่นทำนี่ให้ตลอด    ผมยังอาบน้ำไม่ได้ก็มาช่วยเช็ดตัวให้  จนเริ่มดึกแล้วก็เลยเข้านอนกัน

         " มึงเป็นไงวะ  ยังปวดหัวมั๊ย"   มันถามแล้วก็เอามือมาแตะหน้าผากผมอีก         

         " อืม   ไม่แล้วล่ะ   กูว่ากูคงไม่เป็นไรแล้วว่ะ  เฮ้ย  เน..   เอ่อ....  กูถามอะไรมึงอีกอย่างได้มั๊ยวะ"    ผมเริ่มถามมันอย่างอึกอัก   เพราะไม่มั่นใจบวกกับที่รู้สึกเขินๆมันนิดนึง   มันก็เลยขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

         " มึง  เอ่อ....  แบบว่า...  มึงเคยคิดอยากจะมีอะไรกะกูแบบนั้นมั๊ยวะ   แบบมีอะไรกันเลยจริงๆน่ะ    เข้าใจที่กูถามป่ะ"   พอพูดจบผมก็รู้สึกหน้าชาๆไป  ผมคงเขินอายมันจริงๆน่ะ   คิดถูกมั๊ยนี่ที่ถามมัน    แต่มันฟังแล้วดันหัวเราะ

         " โธ่... กูก็นึกว่าอะไร   พูดง่ายๆก็คือกูอยากจะเอากะมึงมั๊ย  ว่างั้นเหอะ  ใช่มั๊ยอ่ะ"  มันยังคงยิ้ม   ผมเองกลับยิ่งรู้สึกเขินๆไปอีก

         " กูอ่ะ  ก็ยังแปลกใจนะ   ว่ากูก็ไม่เคยคิดยังงั้นเลยว่ะ   สาบานได้ว่าไม่เคยอยู่ในหัวกูเลย   ก็เลยรู้สึกว่าเราอาจจะยังไม่ได้เป็นเกย์กันจริงๆก็ได้นะเว้ย   ในเมื่อเราไม่ได้อยากมีอะไรกันจริงๆนี่หว่า   แต่กูก็ยอมรับนะ   ว่ากูอยากกอดแล้วก็จูบมึงจริงๆ  ไม่รู้ดิ  ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ะ   ทำไมกูถึงคิดแบบนี้วะ"  มันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง  

         " ก็นั่นอะ   กูก็เหมือนกันว่ะ   แต่ไอ้ที่เราจูบกันยังงี้มันก็เหมือนเป็นเกย์อยู่ดีนะเว้ย   กูก็ไม่เข้าใจว่ะ   ระหว่างเราตอนนี้มันคืออะไรแน่วะ"  ผมบอกมันอย่างสับสนในใจเต็มที

         " เออ...  ก็ช่างมันเหอะว่ะ   จะอะไรก็ช่างมันเหอะ   รักมันก็คือรักแหละวะ   กูรักมึง  แล้วมึงก็รักกู  แค่นี้ก็พอแล้ว   วันข้างหน้าจะเป็นไงก็ช่างมันเหอะว่ะ    ขอแค่อยู่ด้วยกันยังงี้ไปเรื่อยๆแหละ  อย่างอื่นกูไม่สนหรอก  แล้วกูก็อยากให้มึงคิดเหมือนกูไปอย่างนี้  ได้มั๊ยวะ"

         " อืม  ก็ได้ว่ะ  ต่อไปไม่ว่านี่เราจะรักกันแบบไหน  แต่ก็ขอให้เรารักกันไปอย่างนี้ตลอดไปแล้วกัน"    ผมบอกแล้วก็สบตามัน   มันเลยจับมือผมไว้แล้วบีบเบาๆ  

         " เออ   ยังไงกูก็จะรักมึงอย่างนี้   ไม่ทิ้งมึงไปไหนหรอก   เอ้อ... ใช่  ที่จริงกูก็มีอะไรอยากถามมึงเหมือนกันแหละ"   อยู่ๆมันก็เอ่ยขึ้นมา    ผมก็นึกตื่นเต้นขึ้นมาเลยว่ามันจะถามอะไรนะ

         " วันนั้นมึงจำได้มั๊ยวะ   ตอนที่มึงนอนกับกูแล้วคืนนั้นฝนมันตกหนักมากๆเลย   แล้วกูหันไปกอดมึงน่ะ   ทำไมมึงถึงกอดกูด้วยซะแน่นเลยอ่ะ    ตอนนั้นมึงตั้งใจจะกอดกูใช่มั๊ยวะ   แล้วก็ตอนที่เล่นน้ำตกน่ะ   ที่มึงกอดกะกูนั่นก็ด้วย"   อยู่ๆมันก็ถามมา    ผมฟังมันแล้วก็หน้าชาเลยครับ   อายมันอ่ะ

         " เอ่อ.... ก็   ไม่รู้ดิ  กูเห็นมึงมากอดกู   กูก็เลยนึกอยากกอดมึงมั่ง   เอ...  เดี๋ยวนะ   ถ้ามึงรู้ว่ากูกอดมึง  อ้าว... งั้นตอนนั้นมึงก็ไม่ได้หลับอ่ะดิ   นี่มึงแกล้งหลับเหรอวะ"   ผมนึกขึ้นมาได้ก็ตกใจไปนิดนึง   หันไปมองหน้ามันๆก็หลบตาผมแล้วแกล้งทำมองเพดานทำไม่รู้ไม่ชี้ไป

         " ก็....  เออๆ  นั่นแหละ  กูยังไม่หลับหรอก   แต่ตอนนั้นอยากกอดมึงก็เลยกอดไป    ไม่นึกว่ามึงก็อยากกอดกูเหมือนกัน"   มันตอบเสียงอ้อมแอ้มอยู่ในคอ   สงสัยมันคงจะเขินแล้วเหมือนกันครับ

         " อ๋อ... ยังงี้นี่เอง   แล้วมาทำเป็นเนียนหลับลึกนะมึง   ถึงว่ากูสะกิดก็ไม่รู้สึก   ตกลงคือมึงตั้งใจกอดกูแต่แรกแล้วใช่ป่ะ"   ผมหันไป  มันก็ทำหน้าเหมือนเด็กที่ซ่อนของไว้แล้วโดนจับได้   แต่ผมก็ยังคงจ้องหน้ามันอยู่   มันเลยต้องยอมรับ

         " เออ....อ  ก็.... มันหนาวๆด้วยไง   กอดกันมันจะได้อุ่นอ่ะ"   มันก็ยังคงอ้างไปน้ำขุ่นๆ   แล้วก็หลบตาผมอีก   ตอนมันเขินๆอายๆแบบนี้มันก็ดูน่ารักดีนะครับ   เพิ่งจะได้เห็นว่ามันน่ารักก็วันนี้แหละ

         " ฮะๆ  เออว่ะ   ไม่ต้องมาทำอายหรอกมึง    เฮ้อ...  กูโล่งใจแล้วล่ะ   มึงก็รู้สึกเหมือนกูทุกอย่างนะ   ดีใจว่ะที่ใจเรามันตรงกันนะ   ไม่ใช่แค่กูคิดของกูไปคนเดียวอ่ะ"   ผมบอกแล้วก็หันไปกอดมันไว้   มันก็ยิ้มให้ผม    

         ตอนนี้ผมสบายใจมากจริงๆครับ    ได้บอกมันไปทุกๆอย่างแล้วอย่างนี้

         แล้วที่สำคัญ   ผมโชคดีมากที่มันคิดเหมือนกับผม  และรักผมเหมือนกัน

                                       -

                                       -

         แล้วข้างนอกบ้านฝนก็เริ่มเทลงมาอีกแล้วครับและกำลังตกหนักขึ้นเรื่อยๆ

         เหมือนกับวันนั้นเลย   ที่เราสองคนได้นอนกอดกันอย่างอบอุ่น

         เพียงแต่วันนี้ผมและมันได้กอดกันอย่างตั้งใจและเต็มใจมาก

         มันเลยทำให้ผมอบอุ่นและมีความสุขมากขึ้นไปอีกนะครับ  ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

         แต่ถึงมันจะเหมือนเกย์ก็เถอะ   ผมก็คงไม่อยากคิดอะไรแล้ว

         ช่างมันก็แล้วกัน   เพราะตอนนี้ผมได้มีความสุขจริงๆแล้วนะ

         แค่นี้ก็คงพอแล้วล่ะ.........................

                     ***************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-12-2010 23:49:09 โดย Goodfellas »

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
สำหรับช่วงนี้นะครับ  คงยังไม่ได้มาอัพเดทให้อีกนา่นเลยอ่ะ   

พอดีว่างานเข้ามาเยอะเกินอาจจะยังไม่มีเวลามาเขียนต่อนะครับ

ต้องขออภัยไว้ก่อน  แต่คงไม่เกินเดือนหน้านี้จะได้มาอัพต่อให้แน่นอน

เพราะงั้นถือว่าช่วงนี้ผมลาพักร้อนก่อนนะ อิอิ

ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะครับ   อดใจรออีกหน่อยนะ o14

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
รอต่อไปอีกก็ได้ 555


แต่.........



ลืม..............


ไป...........




ว่า..............



















ต้อง....................


















กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


เค้าจูบกันแล้ว................ บอกรักกันไปด้วยแล้ว..........................  555

ปล. +1 นะเจ้าคะ

spok1234

  • บุคคลทั่วไป
เน & อิน

จุ๊บ ๆ กัน แล้ว

อ๊ากกกก

อิจ ฉาาา ค้าบบบ

จูบ ไรท์ เตอร์ แทน ได้ ไหม

ฮ่า ๆ

p.s. รอ ได้ ค้าบ แค่ ไหน ก็ จะ รอออ

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
^
^
^
^ อิอิ  จะมาจูบผมเลยเหรอ

   ก็ไม่ได้ว่าไรครับ  ตามสบายเลย o13

Shin_i_chi

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกกกกกกก
พี่น้อต ทำไมทำแบบเน้
เขิลลลลล (>//////<)

จูบกันแล้ววว เฮ้ออ สบายใจทั้งคู่ก็ดีละคับ เนกะอิน
ต่อไปจะเป็นยังไงก็ขอให้นึกถึงความรักที่มีให้กันน้า

ปอลิง อยากจะบอกพี่น้อตว่า ตลอดเวลาที่อ่านนิยายของพี่น้อตมาเนี่ย
ฉากจูบเป็นฉากที่ปิ๊งตั้งตารอมากที่สุดอ่ะคับ แหะๆ ( :กอด1: พี่น้อตทีนึงเป็นการขอบคุณ)
ละก็มาถึงแล้ว หวานมากๆ อิจฉาทั้งคู่เลย ที่รู้ใจตัวเองก่อนที่จะสายเกินไป เห้อ~~~ มีความสุข
ปอลิงสอง เป็นกำลังใจให้นะคับในเรื่องงาน สู้ๆค้าบบ

Pattaya

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
ก็กะอยู่แล้วว่าใครๆก็คงรอตอนนี้อยู่แหละ   อิอิ

ตั้งแต่แรกๆนั้นใจอยากแต่งเรื่องให้มันเป็นแบบว่าอารมณ์ของตัวละครไม่ได้อยากเป็นเกย์และมารักกันเองเลย

ทีแรกกะว่าจะไม่ได้ให้มีจูบกันด้วยซ้ำ  แค่ชอบกันเฉยๆแล้วก็กลับเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

แต่มาคิดอีกทีคงโดนแน่ๆถ้าจบอย่างนั้น

เลยต้องเปลี่ยนแปลงโครงเรื่องใหม่

ส่วนจะจบยังไงนั้น


คง

ต้อง

ติดตามตอนต่อไป.........
 o3

เป็ดชรา

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
สู้ๆกับงานนะครับ แต่ถ้าพอว่างก็มาเยี่ยมกันบ้าง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด