ทางที่เลือกเดิน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ทางที่เลือกเดิน  (อ่าน 64978 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ไม่เป็นไรจ๊ะ อ่านได้  :o9:

มาต่ออีกนะ   :teach:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
กูจะไม่มีวันปล่อยมือมึงก่อนแน่นอน.......นี่ไม่ไช่คำสัญญา...แต่กูรู้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้น.  o7  o7

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
อยากจะบอกว่า............

เอาไปหนึ่งบวกเลยเคอะ  อ่านแล้วสนุกได้ใจ  ลุ้นไปด้วยเลยตอนนี้  แต่....(เบื่อมะคำนี้?) ประโยคที่ว่า....

....“ไม่......กูไม่เคยชอบผู้ชายคนไหนเลย......มึงเป็นคนแรกที่กูชอบขนาดนี้”....

ขอร้องหละ  เรื่องหน้าอย่ามีอีกนะ  o21


gobgab

  • บุคคลทั่วไป

“กูไม่กลัวอนาคต.....กูแค่อยากให้ตอนนี้กูมีความสุขก็พอแล้ว......กูไม่เคยชอบใครเท่ามึงเลย.....
กูจะไม่มีวันปล่อยมือมึงก่อนแน่นอน.......นี่ไม่ไช่คำสัญญา...แต่กูรู้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้น.........มึงก็เหมือนกัน.....เลิกหนีซะที”


.............คำพูดที่เอ่ยออกมามันก็เป็นสัญญาไปครึ่งหนึ่งแล้ว.....

.............อยู่ที่ว่า....เคยจำมันได้รึเปล่า......... :o12: :o12:

hayuho

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 10 เพื่อนที่อยู่ห้องเดียวกัน

เช้าที่สดใสของวันต่อมาตาผมมองเพดานห้อง  สำรวจตามใยแมงมุม  แต่ความคิดยังยอกย้อนกลับไปถึงเรื่องราว
ที่เหนือความคาดหมายเมื่อคืน

“กูน่ารักตรงไหน”ผมถามมันเขินๆ  ระหว่างรอรถ

“...ตรงไหนเหรอ.....ปากไง....เล็กๆน่ารัก....แดงๆดีด้วย....แต่เวลาพูดออกมานะมีแต่หมา.55555”มันว่า

“แล้วมึงชอบกูตรงไหน”มันถามกลับครับ

“...เอ่อ...นิสัยมึงไง......มีเหตุผล...ตรงไปตรงมา”ผมตอบไปคิดไป  ใจจริงก็อยากตอบว่ารูปร่างหน้าตาน่ะนะ.....
แต่กลัวมันเหลิง  เมื่อคืนเรานั่งแท็กซี่กลับกันครับ  พอถึงหอก็แยกย้ายกันไปนอน.......พอมาคิดไปแล้วเหมือนฝันเลย......
ว่าแต่มันเกิดขึ้นจริงรึเปล่าวะ....ผมยังสงสัย

“เฮ้ย”ผมอุทานเสียงหลงเมื่อมีมือมาวางพาดหน้าอกอย่างแรง

“ตกใจอะไร...ให้แฟนกอดไม่ได้เหรอ”ไอ้นี่หวานแต่เช้าเลยครับ  น้ำเสียงอ้อนสุดๆ

“มาเมื่อไหร่....ไม่บอกล่ะ”ผมถามพร้อมหันหน้าไปหามัน....

“นึกว่าฝันไปซะอีกเมื่อคืนน่ะ”มันหัวเราะหึๆ  ผมแปลกใจครับที่มันคิดเหมือนผมเลย  หรือว่ามันมีพลังจิตอ่านใจคนได้....เพ้อเจ้อแล้วกู........ป้าบ....ไอ้คมคับ..มันเอาขามาพาดบนตัวผมแถมไปทับของผมเต็มๆ

“เฮ้ย...ไอ้คมเอาขาออก” ผมพยายามใช้มือช่วยยกขามันออก  แต่แขนก็โดนมือที่มันกอดผมเอาไว้ขวางอยู่

“หึหึหึหึ”มันหัวเราะหื่นๆ  มือไม้เริ่มลูบไล้แล้วครับ

“แค่นี้มีอารมณ์แล้วเหรอ”มันว่าพร้อมเริ่มเอามือรุกรานเข้าไป  ก็รู้ดีว่าของสำคัญตอนเช้าๆน่ะมันขยันขนาดไหน
ยังมากวนอารมณ์อีกแฮะไอ้นี่

“ไอ้คมกูยังไม่พร้อม.....กูกลัว”ผมหน้าแดงหันหน้าหนี  แต่มันดิครับ  จับมือผมอีกข้างล้วงเข้าไปในกางเกงมัน
สัมผัสกับไอ้คมน้อยที่พร้อมเต็มที่

 “น่ารักจริงๆ  แฟนกู”มันว่าพร้อมหอมแก้มผมครับ  ผมงี้เขินหน้าแดงเลย

“ไป ไปอาบน้ำเลยไอ้คม...มานอนทับตัวกูอยู่ได้”ผมพูดไปเบาๆ

“หึหึหึ.....ทำไมเหรอแค่นี้ก็เขินแล้วเหรอ”มันรีบกระโดดไปเลยครับก่อนจะโดนหมอนที่แฝงพลังวัตร 20 ปีจากมือผม 
พอมันออกไปครับผมอมยิ้มเลยครับ....มีความสุขมาก

   วันเวลาที่เหลือจนเปิดเทอมผ่านไปในลักษณะนี้  มันจะอยู่กับผมเกือบตลอดเวลา  ตอนที่ผมไปเรียน 
มันไปทำงานมันก็จะโทรหาผมตอนเทื่ยงวันเที่ยงคืนทุกวัน  จนเปิดเทอมทุกคนก็กลับมาอยู่หอตามปกติ
(ปี 2 เทอม 1 ครับ)  แต่ผมกับมันอะดิ  ไม่รู้จะทำตัวยังไง  เลยได้ข้อสรุปว่า  เป็นเหมือนเดิมแล้วกัน 
แต่มันต้องโทรหาผมทุกเทื่ยง  วันนี้ผมมาเรียนตามปกติครับ  เจอไอ้รัน  ไอ้นิว ตามเคย เพราะไม่เจอกันนาน
เราเลยคุยกันเพลินจนไอ้คมโทรมา

“อื่อ”ผมรับ

“สวัสดีครับแฟน”มันว่า

“อยู่คนเดียวเหรอ”ผมถาม

“ใช่.....ทำไมรู้”

“ถ้ามีคนอยู่ด้วยคงไม่กล้าพูดหรอก”

“5555....แสนรู้จัง.......นี่ไม่บอกรักหน่อยเหรอ”มันอ้อนแล้วครับ....แต่ผมยังไม่เคยบอกรักมันนะครับ...
มีแต่บอกว่าชอบ....เพราะผมจะไม่พูดคำว่ารักง่ายๆ

“ไม่”ผมตอบไปเรียบๆ

“ทำไม”มันถามฉุนๆ

“คิดดิ”

“.........อยู่กับเพื่อนเหรอ...”มันถามครับ

“อือ”

“...งั้นไม่เป็นไร......คิดถึงนะ”

“เหมือนกัน”แล้วมันก็วางหูครับ  คราวนี้ไอ้นิวถามครับ

“มึงมีแฟนแล้วเหรอ”มันแซวครับ

“....ไม่เมื่อกี้เพื่อนกูเอง....”ผมก็แก้ตัวไปตามประสา

พอตกค่ำพวกเราก็ออกไปกินข้าวข้างนอกกันตามระเบียบ  มีผม  ไอ้คม  ไอ้รัน  ตามเคย  แล้วก็มีไอ้โน้ตสะกดรอยตาม  พวกผมคร้านที่จะสนใจมันแล้วครับ  น่าเบื่อที่สุด......มาตามตื้อแฟนผมอยู่ได้

“พวกมึงสนิทกันมากเหรอวะ”ไอ้รันมันถามขึ้นมาครับ

“...ถามทำไม”ผมก็ถามไปเรียบๆ  ไม่เผยพิรุธ

“ไอ้เชี่ยโน้ตมันถามกู”ไอ้รันมันว่า....ท่าทางมันก็รำคาญ

“อ้าวมึงรู้จักไอ้โน้ตด้วยเหรอ”ไอ้คมถามด้วยความสงสัย

“ก็นิดหน่อย”ไอ้รันตอบส่งๆ

“.......พวกมึงเล่นกลับกันหมด...เหลือกูกับไอ้คม.....ถ้ากูไม่ไปกะมันจะไห้กูไปกะป๊ามึงเหรอ”กวนตีนทันทีครับผม

“ใครบอกให้มึงอยู่ล่ะ....คนอื่นเขากลับบ้านไปเสวยสุขกันไม่ต้องมานั่งเรียนหัวฟูแบบมึงหรอก...5555”ไอ้รันสวนเลยครับ

“ก๊าาาากาาากก...ถ้าอย่างกูมันฟู...แล้วแอฟโฟ่อย่างมึงเรียกอะไร”ผมว่าแล้วเอามือไปขยำหัวมัน

“ไอ้ควายทิศมึงเอามือออกหัวกูเสียทรงหมด”มันว่าแล้วเอามือผมปัดวุ่นวายเลยครับ

“มึงว่าใครเป็นควาย....ถ้ากูเป็นควาย...พวกมึงก็ญาติควายล่ะวะ....มึงก็ตัวควาย(ผมชี้ไอ้คมครับ)....มึงก็สมองควาย
(ผมชี้ไอ้รัน)....ได้ข่าวเกรดไม่ถึง 2....ก๊าาากกกไอ้โง่”ผมว่าพวกมันทั้ง 2 ตัวเลยครับเพื่อความฮา

“เฮ้ยลามมาถึงกู...ถึงกูจะตัวควายกูก็ไม่ได้หน้าควายเหมือนไอ้รันนะ”ไอ้คมร่วมด้วยครับ  พอว่าจบผมกะไอ้คมก็หัวเราะไปวิ่งไป  หลบการตระครุบตัวจากไอ้รันครับ  พอไปถึงร้านพวกเราก็หัวเราะไปจนหมดเรี่ยวแรงไปตามกัน  ขณะที่รอข้าว 
ไอ้เชี่ยโน้ตครับ  โผล่มาโฉบอีกแล้ว  ผมก็ไม่สนใจ  แต่ไอ้คมดิครับดันชวนมันมาด้วย

“เฮ้ยไอ้โน้ต...แดกข้าว”ไอ้คมแอบยื่นมือมากุมนิ้วก้อยผมใต้โต๊ะครับ  คล้ายๆจะบอกว่าอย่าคิดมาก
แต่ผมก็อดอารมณ์เสียไม่ได้

“เออๆ...มาดิ.....กินด้วยกัน”ไอ้รันก็อีกคนครับ  เออก็พวกมึงรู้จักกันนี่หว่า  ผมคิด  ส่วนไอ้โน้ตมันไม่ว่าอะไรครับ 
เดินไปสั่งอาหารแล้วมานั่งเก้าอี้ข้างๆไอ้คมเลย  ไอ้คมปล่อยมือผมเลยครับ 
ไอ้รู้น่ะรู้ว่าเดี๋ยวไอ้โน้ตเห็นแล้วมันจะเป็นเรื่อง  แต่อีกใจหนึ่งก็.............เฮ้อ  พอมันนั่งลงเท่านั้นแหละ
บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันที   เงียบครับเงียบ  จู่ๆดูเหมือนทุกคนไม่มีเรื่องจะพูดขึ้นมากะทันหัน 
มื้อนั้นจบลงด้วยความอึดอัด   หลายวันต่อมาไอ้โน้ตก็มากินข้าวด้วยกันตลอด  คราวนี้เดินมาอย่างเปิดเผยครับ
ไม่สะกดรอยตามเหมือนเคย  บรรยากาศอึดอัดทุกวัน  มีแต่ไอ้คมพยายามชวนไอ้โน้ตคุยตลอด  ผมงี้ทั้งหึงทั้งเซ็ง.....
มึงเป็นใครต้องไห้แฟนกูเอาใจ.....แม่......ง        วันนึงก่อนจะไปกินข้าวไอ้คมมันมาคุยกับผมครับ

“มึงชวนมันคุยหน่อยดิ”

“ทำไมกูต้องชวนมันคุย”ผมถามหงุดหงิด

“ก็มันบอกว่ามึงน่ะ  ทีกับไอ้รัน  กับกูคุยได้คุยดีแต่กับมันไม่ยอมคุย”ไอ้คมว่าเสียงอ่อยๆ

“อ๋อ...เพราะงี้ใช่มั้ยถึงมาบอกให้กูชวนมันคุย...เพราะมันว่ากูใช่มั้ย”ผมมองหน้าหาเรื่องเลยครับอารมณ์เสีย 
กูไม่ไล่มึงกลับตอนแดกข้าวก็บุญแล้ว

“ไม่ใช่อย่างงั้น”

“แล้วทำไม่มันไม่ชวนกูคุย.....ทำไมกูต้องพูดกับมันก่อน...พ่อกูก็ไม่ใช่”ผมว่า

“ก็มันไม่กล้าพูด”ไอ้คมพยายามเกลี้ยกล่อม

“แล้วกูล่ะ......ถึงกูจะพูดมากกูก็ไม่เคยตอแหล.....คนที่กูไม่ชอบกูไม่อยากคุย”ผมหันหน้าไปทางอื่น
ไม่อยากมองหน้าของไอ้คมที่กำลังทำเพื่อคนอื่นต่อหน้าผม

“มึงสงสารมันเหอะ......มันเป็นเมทกูนะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน.......กูไม่อยากอึดอัด”ไอ้คมขอร้องครับ

“........แล้ว........กูหล่ะ........”ผมถามันช้าๆชัดๆ  เสียใจมาก...แต่ไม่รู้ว่าทำไม

“มึงก็แฟนกูไง”ไอ้คมพูดเบาๆครับ  หลังจากสำรวจรอบข้างเรียบร้อย

“......มึงบังคับไห้แฟนมึงทำในสิ่งที่คนที่ชอบมึงอยากให้กูทำเหรอ..........”ผมก้มหน้าพูดเบาๆ  ราวกับรำพึงกับตัวเอง

“ไม่ไช่อย่างงั้น........”มันพูดทำท่าลำบากใจ

“......................”ผมเงียบครับรู้ว่ามันยังพูดไม่จบ

“......ตอนปี 1 แรกๆไม่มีใครคบกูเลย........มีแต่มันนี่แหละ........แต่เมื่อก่อนมันไม่เป็นอย่างนี้......
มันก็ธรรมดานั่นแหละ.......พูดคุยหยอกล้อกันธรรมดา.............แต่ตั้งแต่กูเจอมึงกูก็อยู่แต่กับมึง........
กูว่ามันคงน้อยใจกูที่กูไม่มีเวลาไห้มัน..........แต่กูก็อยู่กับมันตลอดไม่ได้เดี๋ยวแฟนหึงตายเลย.........
กูก็เลยอยากให้มึงกับมันเป็นเพื่อนกันไว้.........นะกูขอร้อง.......ยังไงมันก็เพื่อนกู”มันอธิบายครับ 
ผมเงียบอยู่นานแล้วถามมันว่า

“มึงรู้มั้ยว่ามันชอบมึง”

“กูไม่รู้แล้วกูก็ไม่อยากรู้.......กูมีแต่มึงคนเดียว....มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอ”มันว่า  ตั้งแต่รู้จักกับมันมามันไม่เคยโกหกผมเลย 
จนผมเชื่อมันทุกอย่าง  โดยเฉพาะการกระทำของมันครับที่ทำไห้ผมเชื่อใจมัน
ดังนั้นพอผมรู้ว่ามันต้องการเก็บเพื่อนคนนี้เอาไว้  ผมก็เต็มใจที่จะช่วยมันครับ 
แต่ในใจลึกๆก็รู้ว่าไอ้คมไม่มีทางหลงรักไอ้โน้ตแน่นอนครับเพราะผมหน้าตาดีกว่าและไม่โรคจิตเหมือนมันด้วย55555

“ก็ได้กูจะพยายาม”ผมบอกมันปลงๆ

“กูขอโทษนะที่ทำไห้มึงลำบากใจ”มันว่าด้วยสายตาสงสาร

“กูเข้าใจว่าถ้าต้องอยู่ห้องเดียวกันแล้วน่าอึดอัดมันทรมานขนาดไหน”

   หลังจากวันนั้นเราก็ไปกินข้าวกันบ่อยๆผมก็แหย่ไอ้รันกะไอ้คมตามปกติ....บางทีก็เลยไปถึงไอ้โน้ตด้วย....
คุยๆไปก็ชิน....เริ่มเฉยๆ.......ลึกๆก็สงสารมันนะที่มีคู่แข่งด้านความรักร้ายกาจอย่างผม55555 อันที่จริงแล้วไอ้โน้ต
มันก็นิสัยใช้ได้นะครับ แต่มันขี้งอนมากๆ แล้วก็ชอบงอนไอ้คมบ่อยๆ งอนจนออกนอหน้าทั้งๆที่ไอ้คมมันไม่เคยง้อเลย
ผมพยายามตะล่อมถามมันว่ามันมีคนที่ชอบไหม มีแฟนรึยัง มันก็ตอบว่ายังครับ ผมเคยถามมันว่า

“มึง.....กูถามมึงจริงๆนะ...มึงชอบไอ้คมรึเปล่า”

“ทำไมถามกูอย่างนี้”มันสวนผม

“ก็มึงชอบงอนมันอยู่เรื่อย”ผมก็บอกไปตามความจริง (ซึ่งหลายคนไม่ค่อยยอมรับ555)

“ไม่หนิ.........กูไปงอนมันตอนไหน”มันยังถามใสซื่อ

“เออๆ ถือว่ากูเชื่อมึงละกัน”ผมว่าอย่างหน่ายๆ เบื่อจริงๆ น่าจะพูดตรงๆ ผมกับมันจะได้มีเฮ.....55555
(มีหวังผมเละแน่ครับ เพราะมันเป็นนักกีฬา) บางครั่งพอผมถามมันว่า ทำไมชอบเดินตามไอ้คม มันก็จะบอกว่า

“กูเหงา มันไปไหนไม่เคยชวนกูเลย” พอผมไปถามไอ้คม

“เฮ้ย  มันว่ามึงไม่ยอมชวนมันไปไหนมาไหนด้วยอ่ะ...แล้วมึงว่าไง” ไอ้คมก็จะตอบว่า

“กูชวนมันแล้ว......แต่มันเงียบไม่ตอบกูสักที...กูเลยไปเลย....แม่งน่ารำคาญ”

“ไม่ใช่มันไม่ได้ยินเหรอ”ผมถามไอ้คม เมื่อผมคิดว่าไอ้โน้ตมันเป็นเพื่อนผมคนนึง
ผมก็ต้องทำกับมันให้สมกับคำว่าเพื่อนครับ

“ไม่ได้ยินป๊ามึงเหรอ กูตะโกนตั้งหลายครั้ง ส่วนมันแม้แต่หน้ายังไม่เหลียวมา”ไอ้คมยิ่งพูดยิ่งขบเคี้ยวเขี้ยวฟันครับ
เวลาที่ผมไปกันข้าวกับพวกมันนะ ถ้ามีวันไหนที่มีไอ้โน้ตไปด้วย ผมต้องชวนไอ้โน้ตคุยก่อนแล้วพยายามโยนบทสนทนา
ให้ไอ้คมต่อ ไม่งั้นพวกมันไม่มีใครเอ่ยปากแน่ๆ บางครั้งผมก็สงสัยว่าใครเป็นแฟนใครกันแน่วะเนี่ย
แต่ผมก็ดีใจนะที่ตั่งแต่มีผมไปเป็นตัวประสานเนี่ยสถานการณ์ไม่ตรึงเครียดมาก ดีพอที่จะกินข้าวลง ก็นับว่าคุ้มอยู่

story by นายโฮะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
สงสารน้องทิศ รับหน้าที่ประสานความสัมพันธ์ของสามีกะเมียน้อย  หน้าที่หนักจริงๆ

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 o12 o12  เคยได้ยินเรื่องม้าอารีย์มั๊ยครับ  :laugh: :laugh:

ผมใจร้ายไปอะป่าวเนี่ยะ o18 o18

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ซึ้งน้ำใจทิศ   :o8:

แต่ระวังหน่อยก็ดีนะ  :o9:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ตามมาทันแระ

ลุ้นโคดดดดด

เป็นกำลังใจให้ครับ

 o13

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ระวังมือที่สามนะ มาแบบเนียน ๆ นี้แหละ น่ากลัวนัก  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
อ๊ะ  ตามมาทันแล้วเหมือนกัน  ดีใจๆ :laugh:

มือที่สามถ้าเราให้ใจเค้า จริงใจกับเค้า มันก็ไม่น่ามีไรป่าว
อยู่ที่คนของเราแหละ   o8

สนุกดี  รออ่านต่อจ้า   :impress:

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
กว่าจาตามทัน  นานเหมือนกันแฮะ

เรื่องน่าติดตามครับ  และจะติดตามต่อไป

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13

hayuho

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 11 สัมผัสแรก


วันนี้ผมกับไอ้คมมีนัดไปเดทกันที่สะพานพุทธครับ 

มันว่า “พาไปซื้อเสื้อหน่อย....น้า...น้า”ทำท่าอ้อนครับ  ไม่ได้ดูสารรูปตัวเองเลย.....

เราไปกันประมาณ 3 ทุ่มครับ  แต่ผมต้องไปรอที่ป้ายรถเมล์ที่ห่างออกไป 2- 3 ป้าย  แล้วก็ต้องรอไอ้คมมันด้วย 
รอประมาณ 30 นาที  มันก็รายงานว่าสลัดหลุดจากการติดตามของไอ้โน้ตเรียบร้อย(พักนี้มันสะกดรอยตามไอ้คมครับ)  เรานั่งรถเมล์ไป  ชื่นชมทิวทัศที่สวยงามยามค่ำไปตามรายทาง  ไม่รู้เป็นอะไร
ผมมักจะเคลิบเคลิ้มไปกับแสงไฟสีเหลืองๆเสมอ  มันให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่ก็เงียบเหงาไปพร้อมกัน 
พอคิดถึงตอนนี้...เอาแล้วครับ....เจ้าตัวแสบยื่นมือมากุมมือผมไว้....ผมก็.....ก็.....ย่อมปฎิบัติตามแต่โดยดี....
เราเอาขาบังเอาไว้ครับ....ไม่ได้รู้สึกว่าอบอุ่นหรอกนะ....เพียงแต่ไม่อยากปล่อย(เรายังไม่เคย”เกินเลย”กันเลย....
อย่างเก่งก็หอมแก้ม).......พอมาถึงเราก็เดินผลุบๆโผล่ๆอยู่ตามร้านต่างๆ  ไอ้คมมันได้กระเป๋ามาใบนึง
ส่วนผมได้ถุงเท้าถูกๆมาหลายคู่.....ผมเห็นมันมองเสื้อตัวหนึ่งอยู่นานแต่ไม่ยอมซื้อ...ผมเลยถามมัน

“จะซื้อก็ซื้อดิ”

“ไม่มีตังค์อ่ะซื้อกระเป๋าไปแล้ว”มันทำท่าละห้อย

“กูซื้อให้นะงั้น”ผมเดินเข้าร้านครับจะไปต่อราคานึดนึง

“ไม่เอา......มานี่”มันจับแขนผมแล้วลากมาเชิงสะพาน  ชื้อน้ำเปล่าน้ำผลไม้และขนมต่างๆ  พลางบอกผมว่า

“เค้าว่ากันว่า......ถ้าแฟนกันซื้อเสื้อผ้าให้กันจะต้องเลิกกัน”มันว่า  พร้อมดูดน้ำ  ก่อนจะส่งน้ำผลไม้ให้ผม

“เหรอวะ.....กูไม่เคยได้ยินเลย”ผมพูดขณะแย่งขนมมาจากมันนิดนึง

“ตอนแรกกูก็ไม่เชื่อ.....แต่เพื่อนกูอะดิทดลอง.....เห็นผลทันตา”มันทำตาโตเหมือนเล่าเรื่องตื่นเต้น

“เหรอ”ผมยื่นหน้าไปแกล้งทำตื่นเต้น 2 วิ  แล้วกลับมาทำหน้าเซ็งตามเดิม  ให้มันรู้ว่าผมตอแหลมัน

“ป้าบ”มันตบหัวผมโทษฐานล้อเลียนมัน

พอเรากินอิ่มหน่ำ  มันก็ชวนผมไปยืนบนสะพานพุทธ  เรายืนเกาะสะพานจ้องมองสายน้ำและแสงไฟเบื้องล่าง 
มีรถวิ่งผ่านไปมาด้านหลังทำให้สะพานสั่นเล็กน้อย  แต่ผมรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก
คล้ายกับสามารถอยู่ที่นั้นได้โดยไม่เบื่อหน่ายหลายๆชั่วโมงและก็รู้ว่ามันเองก็รู้สึกเหมือนกัน 
สายลมเย็นๆยังคงพัดพลิ้วเบื้องหน้าไปอย่างแผ่วเบา  คล้ายกับจะพัดเอาความกลัดกลุ้มไปจากตัวเรา....ผมปลดปล่อยความอึดอัดจากการที่ต้องคบแบบหลบซ่อนๆ และความหวาดกลัวอนาคตไปกับมัน........ปกติผมเป็นคนพูดมาก.......
แต่พอมีมันอยู่  คล้ายกับว่าระหว่างเราไม่ต้องพูดอะไรมากโดยเฉพาะบรรยากาศแบบนี้

“ไปเดินเล่นกัน” มันพูดเบาๆ  คล้ายกับกลัวทำลายบรรยากาศที่สุขสงบไป  มันจูงมือผมเดินไปฝั่งธนบุรี 
เราพูดคุยเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นรอบๆตัวอย่างแผ่วเบา หลังจากนั้นเราก็เดินกลับฝั่งกรุงเทพด้วยสะพานที่อยู่ด้านข้าง

 ผมยิ้มตลอดเวลา นอกจากการได้อยู่กับมันแล้วไม่ได้คิดถึงเรื่องราวอื่นอีก  เราเดินกันจนเหนื่อย  ซื้อน้ำอีก 1 ขวด 
แล้วก็มานั่งคุยกันที่ท่าน้ำสะพานพุทธ  รวมๆแล้วได้ความว่า  บ้านมันมี 4 คน  มันเป็นลูกชายคนเดียว  มีพี่สาวอีก 1
มีพ่อมีแม่ครบพร้อม  บ้านมันอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ครับฐานะค่อนข้างยากจน 
มันจึงเป็นความหวังของวงศ์ตระกูล  ส่วนผมเป็นลูกคนที่ 5 คนสุดท้อง  พ่อเสีย  แม่ทำงานหนักฐานะปานกลาง 
ญาติๆก็ห่างๆกันไปไม่ได้สนิทเท่าไหร่  ถ้าเทียบกันแล้ว  ไหล่บ่าของมันจึงแบกรับภาระไว้มากมาย 
มิน่ามันถึงเข้มแข็งนัก  เราคุยกันจนเพลินจนผมถามมันว่า

“เน่ะ.....มึงชอบกูตั้งแต่ตอนไหนวะ”ผมก้มหน้ามองสายน้ำ

“ก็ตั้งแต่....ตอนที่เจอที่สนามแบตครั้งแรกเลย”มันยิ้มๆ

“ฮะ....ตั้งแต่ตอนนั้นเลยเหรอ”ผมแปลกใจ.....ดีใจด้วยนิดนึง

“ก็.......กูคิดว่ามึงน่ารักดี.....แต่กูก็กลัวใจตัวเอง.......แต่ยิ่งรู้จักมึงมึงยิ่งทำให้กูรู้สึก......”มันหยุดไป

“รู้สึกอะไร”ผมถามมัน

“ไม่รู้.....เหมือนควบคุมไม่ได้.....เหมือนอยากดูแลมึง......ยิ่งตอนที่กูเห็นมึงร้องไห้หน้าสนาม.....กูแทบบ้า......
สงสารมึง......อยากรู้ว่าเป็นอะไร”มันทำท่าทางหวนรำลึก

“........แต่กูเป็นผู้ชายนะ.....”ผมพูดเบาๆ.....คิดว่าถ้าพูดเบาแล้วจะทำร้ายจิตใจมันน้อยลง

“นี่แหละที่กูกลัว......มึงก็รู้ว่ากูมีภาระในอนาคตขนาดไหน......แต่กูก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้....พอใจมึงยัง”มันว่า

“ขอโทษนะ”ผมก้มหน้าลง

“แล้วมึงล่ะเริ่มขาดกูไม่ได้ตอนไหน”มันว่าหันหน้ามาซะด้วย  ผมหันซ้ายขวาอย่างระแวดระวัง

“มึงนี่.....รู้ว่าอายสะกดยังไงมั้ยหาาาาา”ผมเขินครับเลยโวยแก้เขิน

“เออน่าว่ามาอยากรู้”

“....อือ...ก็คงตอนที่มึงเข้ามาในชีวิตกูมั้ง.....แต่เริ่มแน่ใจตอนที่เริ่มหึงมึงกะไอ้โน้ตมัน.......แล้วทนไม่ได้
ตอนที่มึงมาสายช่วงsummer.....มึงคงรู้ว่าตอนไหนนะ”ผมตอบเรียบๆ

“ชอบกูขนาดนั้นเชียว”ยิ้มแฉ่งเลยครับมัน

“ไอ้คมมึงเงียบเลย”การแก้เขินของผมคือด่าครับ

เราเงียบกันไปอีกนาน  ไอ้คมเคลิบเคลิ้มกับลมแม่น้ำพริ้มตาหลับลง

“มึงรู้มั้ยว่า...สักวันหนึ่งเราก็ต้องเลิกกัน”ผมพูดในสิ่งที่คิดออกมา  สิ่งนี้แหละที่คอยกวนใจผมอยู่ตลอดเวลา

“อย่าพูด”มัน  จ้องไปที่แม่น้ำเขม็ง  ใบหน้าสงบจนน่าประหวั่นใจ

“แต่กูกลัว...กูต้องพูด”ผมพูดเบาๆ  กลัวว่ามันจะไม่พอใจ

“กูบอกว่าอย่าพูด”มันยังคงย้ำคำเดิม  ผมรู้ได้ทันทีว่ามันก็กลัวอนาคตไม่แพ้ผม 
แต่มันไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ผมเห็นเลย  มันคอยดูแลปกป้องผมตลอด

“มึงว่าถ้าซื้อเสื้อให้แล้วต้องเลิกกันใช่มั้ย”

“........................”มันเงียบครับ

“......ถ้าวันนั้นมาถึง.......ถ้ามึงลำบากใจที่จะพูด.....มึงก็ซื้อเสื้อให้กูละกันนะ....”ผมยิ้มอย่างน่าดูที่สุดเท่าที่ทำได้

“.....ไม่....กูไม่มีวันที่จะซื้อเสื้อผ้าให้มึง....กูบอกมึงไว้แล้ว”มันหน้าเครียด  ยังคงจ้องสายน้ำ

“มึงอย่าผูกมัดตัวเองกับคำสัญญาโง่ๆดิวะ.....กูไม่อยากให้มึงทรมานตัวเอง”ผมยังคงพูดเพราะห่วงมันจริงๆ

“กูบอกแล้วว่ามันไม่ใช่สัญญา.....แต่กูรู้ว่ามันต้องเป็นอย่างนั้น......เลิกพูดได้แล้ว”มันอารมณ์เสียแล้วครับ


..............................
..............................
..........................................................................


“มึง..”ไอ้คมพูดขึ้นมา

“หือ”ผมขานรับหันหน้าไปหามัน

“มึงชอบกูมั้ย....”มันหันหน้ามามอง

“ชอบ....ชอบมากๆ...ชอบจนกูกลัว”ผมตอบ

“ตั้งแต่กูเกิดมา.....มึงเป็นผู้ชายคนแรก.....และคนสุดท้ายที่กูจะรู้สึกแบบนี้ด้วย”มันว่า  ทำหน้าจริงจัง  สายตาที่จริงใจ 
ทำไห้ผมไม่อาจละสายตาไปได้  ก่อนที่มันจะพูดต่อ

“ถ้ามึงทำให้กูมีความสุข กูก็มีความสุขมากกว่าเรื่องไหนๆ แต่ถ้ามึงทำไห้กูทรมาน กูไม่รู้ว่ากูจะอยู่ได้ยังไง”

“เหรอ”ผมยิ้มอย่างมีความสุข  แต่ดวงตาที่หวั่นเกรงอนาคตก็ยังฉายแววกังวล

“กูรักมึง”................................................................................กาลเวลาของผมหยุดนิ่ง...............รู้สึกสมองมึนๆ.........ไอ้คมหอมแก้มผม.....ผมสะดุ้ง

“เฮ้ย”ผมตกใจ  หันซ้ายหันขวาไม่มีใครโชคดีที่อยู่มุมเปลี่ยว  พอหันหน้ามาเจอสายตาที่อ้อนวอนจากมัน
ก็รู้ตัวว่าไม่สามารถละสายตาไปจากมันได้อีกแล้ว  มันโน้มตัวลงมาหอมแก้มผมอย่างแผ่วเบาเนิ่นนานอีกที 
ปากของมันค่อยขยับเลื่อนมาที่กึ่งกลางของใบหน้า  จนริมฝีปากมันเริ่มสัมผัสกับส่วนเดียวกันของผม 
จนจมูกเราชนกัน 

กาลเวลาหยุดอยู่อย่างนั้น.......เนิ่นนาน....จนผมรู้สึกว่าปากของคมเริ่มขยับ........ผมจึงตอบสนองอย่างแผ่วเบา........
อย่างไม่รู้ตัว.......ไอ้คมสอดลิ้นเข้ามาครับ.....ผมตกใจลืมตาโพลง.....ก่อนจะขยับหนีอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย”ผมอุทานออกมา

“ใจเย็นดิวะ.....กูครั้งแรก”ผมบอกมันตาตื่นๆ

“กูก็เหมือนกัน”มันยิ้มๆพยายามจะหลบตา.......เราสองคนเงียบอยู่นานครับ.....ผมไม่รู้ว่าใครหัวเราะออกมาก่อน
แต่ท้ายที่สุดเราก็หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งด้วยกันทั้งคู่   ก่อนที่จะจูงมือกันเดินกลับ.....

วันนี้เหมือนว่าเราได้ถ่ายทอดบางอย่างที่เรากลัวออกมาให้อีกฝ่ายได้รับรู้.......ซึ่งมาจากความเข้าใจ
และความต้องการปกป้องซึ่งกันและกันทั้งสิ้น ผมโบกแท็กซี่ ส่วนไอ้คมยืนยิ้มครับให้กำลังใจอย่างเดียว
เวลามันจะซื้อของหรือว่าไปถามข้อมูลอะไรเนี่ย มันมักจะดันผมออกหน้าเสมอ มันบอกมันหน้าบาง
ไม่กล้าคุยกับคนแปลกหน้า

“แหมไอ้ควายหน้าบางนะ.....ทีเมื่อกี้....กูนึกว่ามีควายมาหอมแก้ม.....หนวดสากชิหายเลย”ผมแซวมันตอนรอรถ

“เออ...มึงไม่ชอบก็บอกกูดีๆ....กูจะได้ไม่ทำอีก”มันว่าหน้าบูดเลยครับ ส่วนผมก็

“โอ๋ๆๆ....กิ้วๆ...”จี๋เอวมันครับ มันหัวเราะก๊ากเลย บิดตัวหนีแทบไม่ทัน แต่เทียบกันแล้วผมค่อนข้างอ่อนไหวมาก
เวลาอยู่ด้วยกันนะ 10 นาทีผมจะงอนมันประมาณ 2 ครั้ง (มันว่า) ผมไม่รู้หรอกว่าจริงมั้ย แต่ถ้าถามว่าผมขี้งอนมั้ย
อันนี้ยอมรับ

อยู่บนแท็กซี่

ไอ้คมมันจับมือผมอีกแล้ว ทีกะคนแปลกหน้างี้อายนะมึง กะกูมึงออกลายซะพร้อยเลย ผมนั่งซ้ายหันหน้ามองวิวทางซ้าย แต่มันนั่งด้านขวาดันมองวิวทางซ้ายซะนี่ ผมอยากบอกมันเหลือเกินว่า

“กูเขิน....หันหน้าไป๊” แต่ก็กลัวคนขับแท็กซี่ทำตัวไม่ถูก เลยเงียบ พอถึงหอ มันปล่อยมือทันทีเลยครับ ไม่ต้องบอกเลย
ทีงี้รู้ดีเชียว มีคนที่เดินกระวนกระวายอยู่ตรงระเบียงห้องครับแน่นอนว่าเป็นไอ้โน้ต

“ไปไหนมา....”มันถามไอ้คม

“ไปสะพานพุทธ.....ถามทำไม”ไอ้คมตอบเซ็งๆ ไอ้โน้ตมันไม่ตอบครับ เดินเข้าห้องปิดประตูดัง ปึง
ผมกับไอ้คมมองหน้ากัน ไอ้คมยักไหล่ ผมก็ยักไหล่ตอบ ก่อนที่มันจะไปส่งผมที่ห้อง

“ฝันดีนะ....อย่าลืมฝันถึงแฟนล่ะ”มันว่า ทำหน้าประมาณว่าถ้าฝันถึงคนอื่นมึงตาย!!!

“เอ๋าแล้วให้กูฝันถึงแฟนคนไหนล่ะ”ผมว่า พร้อมกับเดินเข้าห้องปิดประตูล็อกทันที ก่อนที่ไอ้คมจะฆ่าผมซะก่อน
ผมเอาหูแนบประตูอยากรู้ว่ามันจะพูดอะไร แต่มันไม่พูดครับ ดันโทรเข้ามาแทน

“เออ”ผมรับแบบขำๆ

“อย่าไห้กูรู้นะมึง.....ไม่งั้นไอ้นั่นตาย!!!”มันว่า ผมก็กลัวนิด มันยิ่งเรียน anatomy ได้ เอ คงชำแหละเก่งน่าดู55555

“ห่า...มึงก็รู้ว่ากูพูดเล่น...ฝันดีล่ะ....ใส่เสื้อผ้าหนาๆล่ะ....ระวังไอ้โน้ตลักหลับนา555”ผมแซวไม่เลิก

“....เออน่า.....แล้วมึงจะพูดได้ยัง”มันว่า

“ฝันดีนะ อย่าฝันถึงคนอื่นล่ะ.......พอใจยัง”ผมบอกมันทั้งๆที่กั้นอยู่แค่ประตูแต่ดันโทรคุยกันซะงั้น

“ค้าบบบ.....เฮ้อ  นอนหลับแล้ววันนี้” ว่าแล้วมันก็วางเลยครับ ผมก็อาบน้ำนอน รับวันทีจะมาถึงของผมกับมันต่อไป

story by นายโฮะ

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

.........ถ้าจะรัก.........จงอย่ากลัวกับวันข้างหน้า........ o13

.........ยิ่งกลัวก็ยิ่งรังแต่จะทำหั้ยความสัมพันธ์ลดน้องลง...... :impress:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เหอ เหอ เข้าโหมดเตรียมเศร้า  :undecided:  :undecided:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
แต่งได้ดีมากเลยครับ
เป็นกำลังใจให้นะคับ
 o13

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 o18 o18  มะเข้าใจรูมเมทคมเลยครับ  รู้ทั้งรู้  แต่ก็ยังจะหึงหวงมะเข้าท่าเลย  :oak: :oak:

hayuho

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 12 ความเปลี่ยนแปลง

หลังจากช่วงนั้นผมและมันก็หวานกันมากขึ้น(เวลาอยู่กัน 2 คน)  เราทะเลาะกันบ้างครับ  แต่ส่วนใหญ่
คนที่ผิดจะเป็นผมและผมก็จะเป็นคนง้อซะส่วนใหญ่(ทั้งงอนเองและง้อเองว่างั้นเหอะ) 
ใจหนึ่งก็รู้ว่าตัวเองผิด  อีกใจหนึ่งก็อยากให้มันง้อนะครับ  แต่ไม่รู้ทำไมเหตุผลมักจะไปยืนอยู่ฝ่ายมันเสมอ(ทั้งๆที่ผมเห็นว่าผมถูกแท้ๆ......มั้งแหะๆ)เช่น

มันไม่ยอมโทรหาผมตอนเที่ยงของวันหนึ่ง  ผมก็ไม่ยอมโทรหามัน  เพราะอยากให้มันโทรหาก่อนอยากรู้ว่าคิดถึงผมมั้ย  กลับถึงหอ  ผมโวยเลยครับ

ผม-----ทำไมไม่โทรหากู

มัน—แล้วทำไม่มึงไม่โทรหากู

ผม—มึงบอกมาก่อนเลยอย่าให้กูโมโห(กอดอก)

มัน—ก็กูอยากรู้ว่ามึงจะคิดถึงกูมั่งมั้ยปกติกูเป็นฝ่ายโทรตลอด

ผม—อ้าว....เหรอกูก็คิดแบบมึงเลย....ก็เลยรอแต่มึง(เขิน)

มัน—ทีหลังโทรหากูบ้างกูน้อยใจนะ(งอนครับงอน)

ผม—ขอโทษน้า(ง้อซะงั้น)

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผม—ไปไหนทำไมไม่บอกกู

มัน—แล้วมึงล่ะไปไหนมา

ผม—ก็กูว่าจะไปชวนมึงไปซื้อของ  เลยไปหามึงที่ห้อง  มึงบอกมาเลยไม่ต้องโยกโย้(กอดอก)

มัน—กูก็ไปหามึงที่ห้องมาพอดีซื้อขนมมาฝาก  พอดีมึงไม่อยู่เลยกลับมา

ผม—อ้าว....เหรอไปหากูมาเหรอ(เขิน)

มัน—ทีหลังจะโมโหมึงดูก่อนได้มั้ยหาาาา(งอนครับงอน)

ผม—ขอโทษน้า(ง้อซะงั้น)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผม—ทำไมป่านนี้มึงไม่ยอมไปเรียน

มัน—แล้วมึงล่ะ

ผม—มึงไม่ต้องเลยไหนบอกจะตั้งใจเรียน  ใครบอกให้มึงโดด(กอดอก)

มัน—กูไม่ได้โดด  กูไม่สบาย  ไปหาหมอมา  แล้วทำไมมึงไม่ไปเรียน

ผม—อ้าวไม่สบายเหรอ......เอ่อ....กูรู้ว่ามึงไม่สบายไงเลยโดดมาดูแลมึงไง(เขิน)

มัน—มึงอย่าเอานิสัยขี้เกียจมาอ้างนะ  กูรู้ว่ามึงไม่ห่วงกูหรอก(งอนครับงอน)

ผม—ขอโทษน้า(ง้อซะงั้น)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผม—เมื่อวานมึงไปดูหนังกับใครมา

มัน—ตอนไหนล่ะ

ผม—มึงไม่ต้องมาถ่วงเวลารีบตอบมา...กูเห็นกะตาเลย(กอดอก)

มัน----กูไปทำ research ช่วยอาจารย์  แจกแบบสอบถามเฉยๆ

ผม—อ้าวเหรอ.....ทำไมกูตามมึงตั้งนานไม่เห็นวะ(เขิน)

มัน—มึงตามกูมาเหรอ......มึงไม่ไว้ใจกูเลยใช่มั้ย(งอนครับงอน)

ผม----ขอโทษน้า(ง้อซะงั้น)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผม—ทำไมมึงไม่ยอมรับโทรศัพท์หาาาาาาา......สายไม่ว่างตลอดเลย

มัน—อ้าวมึงโทรหากูเหรอ

ผม—มึงไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง......บอกมาดีๆ...คุยกับใคร....ทำไมสายไม่ว่าง(กอดอก)

มัน—ก็โทรหามึงนั่นแหละ.......ถึงว่าทำไมสายไม่ว่างเลย

ผม----อ้าว.......โทรหากูเหมือนกันเหรอ(เขิน)

มัน----ถ้ากูไม่โทรหามึงจะให้กูโทรหาหมาที่ไหนหาาาาาา(งอนครับงอน)

ผม—ขอโทษน้า(ง้อซะงั้น)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายตัวอย่างความเลวของมันนะครับ(ขอย้ำ.....ของมัน)  คิดแล้วมันน่านัก.....ฮึ่ม

   วันเวลาของเราผ่านไปในอย่างรวดเร็วจนกระทั่งปิดเทอมอีกครั้งหนึ่ง 
ระหว่างนี้ข่าวลือว่าผมกับไอ้คมเป็นแฟนกันมันก็เริ่มก่อตัวแต่ทั้งผมและไอ้คมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก 
เรายังคงไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเดิมและบางครั้งเรายังขโมยจูบกันในบางโอกาส5555555 
พอเราสอบเสร็จผมก็ต้องกลับไปเยี่ยมบ้านในช่วงนี้  ไอ้คมก็เหมือนกันครับ 
จากที่เราโทรคุยกันวัน 2 ครั้งครั้งละหลายนาที  แต่บ้านผมไม่ค่อยมีคลื่นครับผมจึงได้แต่หยอดตู้โทรหามัน  คำพูดที่พูดออกมาก็เป็นคำที่แทบจะถมตัวผมจนหายใจไม่ออกอยู่แล้ว

“คม”ผมพูด

“อื้อ”มันตอบอย่างเร็วๆ

“คิดถึงมากๆนะ”ผมบอกมัน

“เหมือนกัน”มันว่า

“งั้นแค่นี้นะ.....เดี๋ยวเจอกันนะ”ผมพูดเพราะเหรีญกำลังจะหมด

“อือ...เจอกันนะ”พอมันพูดจบสายก็ตัดไปเลยครับ ตลอดเวลา 2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา เราไม่ได้พูดเกินเลยไปกว่านี้เลยครับ เพราะเราต่างไม่มีเรื่องตื่นเต้นที่ต้องเล่าด้วยมั้ง ผมคิดถึงมันมาก
คอยคิดแต่ว่ากลับไปแล้วจะทำอะไรดี  จะไปกินอะไรดี  จะไปเดทที่ไหนดีน้า   คิดแล้วก็ความสุขครับ
พอมาสำรวจตัวเอง ก็ตกใจครับเพราะช่วงนี้ผมไม่เหงาเลยครับ มีมันให้คิดถึงตลอด
ชีวิตมีความหมายขึ้นอีกเยอะ 5555

   พอกลับมาถึงกรุงเทพฯ ขนกระเป๋าขึ้นหอ ผ่านหน้าห้องมันเห็นมันเล่นเกมส์อยู่กะไอ้โน้ต

“เฮ้ย...ไอ้คม..ไอ้โน้ต..กูกลับมาแล้ว”ผมร้องเรียกพร้อมยกของพะรุงพะรังให้มันดู

“อ้าวมาแล้วเหรอ”ไอ้คมว่า  ส่วนไอ้โน้ตแค่หันหน้ามายิ้มให้เฉยๆ ไม่ว่าอะไร

“อือ”ผมทำท่ายกกระเป๋าแล้วเดินออกมาครับ คิดว่าเดี๋ยวมันคงเดินออกมาช่วย แต่เดินๆแล้วมันก็ไม่มา
ผมหยุดฟังเสียงอยู่นาน ไม่มีควานเคลื่อนไหวใดๆครับ ผมวางกระเป๋าแอบย่องกลับไปดู เห็นมัน 2 คน
เล่นเกมส์อยู่เหมือนเดิม รู้สึกไม่ดีเลยครับ มันแปลกๆ แต่ก็บอกไม่ถูก
ผมหันกลับมาหอบของขึ้นมาจัดเข้าตู้ในห้อง สมองยังทำงานไม่หยุดยั้ง
เอ.....มันไม่เหมือนที่ผมคิดไว้เลยครับ ผมคิดว่ามันจะคิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงมัน
มันคงอยากออกมาเจอผมมากๆ แต่ทำไมมันไม่ทำ .......ไม่มีคำตอบครับ.....ผมไม่กล้าหาคำตอบ.....
อีกใจหนึ่งก็บอกตัวเองว่าอย่าคิดมากไอ้นิสัยคิดมากเนี่ยเลิกได้แล้ว คบกันมา 1 เทอมแล้ว
ผ่านอะไรมาตั้งเยอะ ยังไม่เชื่อใจมันอีกเหรอ ผมรีบเค้นรอยยิ้มออกมา มือก็จัดของไม่หยุด
สมองหาเหตุผลที่ดีที่สุดในการกระทำของมัน......แต่หาไม่เจอ!!!  เฮ้ยคิดมากน่า
หลายครั้งแล้วนาที่เข้าใจผิดเนี่ย ผมบอกตัวเองอย่างนั้น เริ่มค่ำแล้ว ผมขยับกระสับกระส่าย
จ้องมองมือถือในมือ รอใครบางคนโทรมาแต่ก็ไม่มี 2 ชั่วโมงแล้วก็ไม่มี ตอนนี้ 3 ทุ่มแล้ว
ผมลุกขึ้นเดินออกจากหอ จ้องมองหน้าต่างห้องมันที่มีแสงไปส่องลอดออกมาสักพัก
จากนั้นจึงก้าวเดินออกไปยังเส้นทางที่พวกเราเคยไปกินข้าวด้วยกันทุกวัน ผมยิ้มแห้งๆให้อากาศ
ใช่แล้วเงินมันอาจจะหมดไง เลยโทรหาไม่ได้ อือ....อาจใช่.....ผมกินข้าวเพียงลำพังอย่างแจ่มใสจนเกินจริง ถึงขั้นยิ้มให้กับช้อน หัวเราะหึหึหึในลำคอ แต่นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่ผมทำได้ ผมกลับไปนอนพักสักพัก
ไอ้คมก็โทรมา

“อือ”ผมรับแกล้งทำเป็นง่วงนอน

“จะนอนแล้วนะ...มีอะไรมั้ย”มันพูดเรียบๆ

“ไม่มี จะนอนเหมือนกัน แค่นี้นะ”ผมพูดอย่างร่าเริง เพราะพอจับใจความได้ว่ามันไม่มีอะไรจะพูด
แล้วคำที่ว่าจะนอนแล้วก็หมายความว่า ไม่ต้องโทรมาอีก...............................ผมอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันตามปกติ แซวทรงผมไอ้รันที่ย้ายมาอยู่ชั้นเดียวกันแล้ว หัวเราะร่วน ก่อนจะล้มตัวลงนอนตอน 5 ทุ่ม
น้ำตาไหลไม่มากนัก ไม่ถึง 10 หยด ไม่มีเสียงสะอื้น แต่ปวดหัวเหลือเกิน ปวดจนคิดอะไรไม่ออก
ได้แต่รอคอยคำตอบจาก..........คนบางคน............

   2 อาทิตย์ผ่านไป ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราโทรคุยกันเหมืนเดิมแต่เหมือนไม่มีเรื่องคุย
แต่ละครั้งไม่เกิน 1 นาที ความเย็นชาจากสายตาของคม สาดส่องจนผมเหน็บหนาวใจ
ผมยังคงหัวเราะร่วนดุจเดิม ปากร้ายเหมือนเดิม บางทีอาจร้ายกว่าเดิมก็ได้ และน้ำตาก็ยังไหลทุกคืน
คืนละ 10 หยด 14 คืนก็ 140 หยด ไม่ถือว่ามาก แต่อาการปวดหัวและปวดใจกลับมากขึ้นทุกๆวัน

“ไอ้โน้ต ปิดเทอมมึงไปไหนมาวะ”ไอ้รันถามเรื่อยเปื่อย

“กูไปเล่นบ้านไอ้คมมา ไปช่วยพี่มันทำงาน”ไอ้โน้ตเอ่ย

“ไปค้างตลอดปิดเทอมเลยเหรอ”ไอ้รันถาม

“อือ”ไอ้โน้ตตอบเสียงเรียบๆ มองมาทางผมที่นั่งอยู่ สมองของผมมึนงงไปหมด ขาวโพลน
เหมือนโดนทุบอย่างแรง

“ตุ้บ”ผมตบโต๊ะอย่างไม่รู้ตัวแล้วพูดอย่างเสียดายว่า

“ไอ้โน้ต....ทำไมมึงไม่ชวนกูไปด้วยว้า...กูอยู่บ้านเบื่อชิหายเลย...เนอะไอ้รัน”หน้าผมพยักบุ้ยใบ้ไปที่ไอ้รัน
แต่สติยังไม่มาสิ่งที่มองเห็นยังขาวโพลน แต่ร่างกายและคำพูดยังทำตามหน้าที่อย่างแนบเนียน
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกสมเพชกับการปกปิดความรู้สึกที่เป็นพรสวรรค์ของผมตลอดมา.............................
 
อย่างไม่รู้ตัว...ผมเดินออกมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตามทางเดินที่มีกลีบดอกไม้สีขาวร่วงหล่น ผมร้องไห้

ตลอดเวลาที่ผมเฝ้าคิดถึงมัน มันอยู่กับไอ้โน้ต ค้างอยู่ด้วยกัน 2 อาทิตย์
ตลอดเวลาที่ผมวางแผนว่าจะไปไหนกับมันดี มันทำอะไรอยู่...ผมอยากรู้แต่ก็กลัวที่จะรู้เหมือนกัน.......
ทุกย่างก้าวที่ผมเดินออกมาคล้ายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผมเลย คล้ายกับวิญญาณมันหลุดลอยออกไป
เฝ้ามองร่างกายตัวเองกำลังเคลื่อนไหวทั้งๆที่ไม่ได้สั่งงาน ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องแล้ว
ตอนเที่ยง ๆ ที่ทุกคนต่างก็เรียนกันหมด ผมนั่งหมดเรี่ยวแรงบนเตียง หยิบมือถือออกมา
โทรหาคนที่ทำให้ผมมีความสุข และทำให้ผมเสียใจมากที่สุด

“ตื้ด.............ตื้ด.....”มือถือต่อติด ผมรวบรวมสติทั้งหมดกลับคืนสู่สมอง เพื่อรับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น สูดหายใจลึกๆ 2 ครั้ง รอคอยอย่างเงียบงัน

“ว่าไง”เสียงคนรับ รับอย่างสดใส ไม่ว่าจะเกิดอะไรทิศก็ไม่มีทางที่จะลืมน้ำเสียงที่นุ่มนวลนี้ได้เลย เพราะมันคือเสียงของ.............คม

story by นายโฮะ

gobgab

  • บุคคลทั่วไป

............ความใส่ใจของคนเรา...ไม่เท่ากัน..... :undecided: :undecided:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
คิดจะรัก....ต้องลืมกลัว

ปล.  น้องถุงเม้นต์ได้ใจเจ้.....ความใส่ใจของคนเราไม่เท่ากัน  ถูกต้องที่สุดคร้า  o7

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
จะเข้าโหมดเศร้าแล้วใช่มะ จะได้เตรียมใจ  :impress:

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
แต่งได้กินใจมากเลยครับ

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
 :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2:
 :o7: :o7: :o7: :o7: :o7:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
และแล้ว ก็เริ่มเศร้าได้ซักที  :sad4:  :sad4:

hayuho

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 13 ผิดสัญญา 2 ครั้ง

“ตื้ด.............ตื้ด.....”มือถือต่อติด ผมรวบรวมสติทั้งหมดกลับคืนสู่สมอง เพื่อรับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
สูดหายใจลึกๆ 2 ครั้ง รอคอยอย่างเงียบงัน

“ว่าไง”เสียงคนรับ รับอย่างสดใส ไม่ว่าจะเกิดอะไรทิศก็ไม่มีทางที่จะลืมน้ำเสียงที่นุ่มนวลนี้ได้เลย
เพราะมันคือเสียงของ.............คม

“เราเลิกกันเถอะ”ผมบอกให้ตรงประเด็นที่สุดด้วยเสียงเรียบๆ

“อยู่ไหนน่ะ”น้ำเสียงของมันไม่ได้ตื่นเต้นหรือสงสัยเลย ตรงกันข้ามผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆก่อนที่มันจะพูด

“อยู่ห้อง”ผมตอบไปอย่าง...เซื่องซึม.....ทำไมมันไม่เสียใจเลยที่ผมผิดสัญญาที่เราทำไว้เมื่อหลายเดือนก่อน

“รออยู่นั้นแหละเดี๋ยวไปหา”น้ำเสียงที่ร่าเริงอีกแล้ว ได้ยินแล้วปวดใจ................ถึงจะดีใจ
แต่แกล้งทำเป็นเสียใจก็ได้นี่นา.......ไม่เห็นต้องออกนอกหน้าขนาดนั้น......

“แหมะ”อ้าวน้ำตาผมไหลมาตอนไหน นี่ผมกำลังร้องไห้เหรอไม่รู้ตัวเลย...........พอคิดได้เท่านี้
น้ำตาก็ไหลออกมาอีก.......คราวนี้ไม่แค่ 10 หยดแล้ว...ขณะที่กำลังจะตัดสินใจร้องไห้ให้สะใจสักครั้ง
ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออกมา........ไอ้คมนั่งลงมาที่เตียงข้างๆผม.....ไม่พูดว่าอะไร......ไม่ปลอบผม.....
ไม่จับต้องตัวผมเลย........น้ำตาผมหายไปตามสัญชาตญาณ ผมมองหน้ามัน คิดจะเค้นรอยยิ้มให้เหมือนเคย
กลับทำไม่ได้..........

“นึกแล้วว่าถ้ากูทำแบบนี้มึงต้องเสียใจ”มันพูดพร้อมกับยิ้มนิดนึง

“...........มึงรักกับไอ้โน้ตใช่มั้ย....”ผมบอกมันด้วยเสียงนุ่มนวล

“...........................”มันไม่ตอบ ทำหน้างงๆ  ผมยิ้มอย่างเต็มฝืนให้มัน แล้วเอ่ยอย่างนุ่มนวลว่า

“ไอ้here.........มึงบอกกูมา......ไอ้sad”รอยยิ้มที่ผมมีให้มันยังคงจริงใจขนาดนั้น น้ำเสียงยังนุ่มนวลปานนั้น
แต่คำพูดนี้เป็นการแก้แค้นที่มากเกินพอแล้วที่ผมจะทำ

“เรื่องที่มันไปอยู่บ้านกูใช่มั้ย”ไอ้คมถามผม

“ไอ้เลว”ผมยังคงใช้น้ำเสียงเดิม

“มันไม่ใช่อย่างนั้น มันไปทำงานพิเศษกับพี่กู มันเลยได้อยู่บ้านกู กูไล่มันก็ไม่ยอมไป”มันมองหน้าผม
เอามือมาจับที่มือผม

“.......................มึงปิดบังกู”ผมพูดเรียบๆเช็ดน้ำตาจนเหือดแห้ง

“กูรู้ว่าถ้ามึงรู้มึงจะเสียใจ.......แต่กูกับมันไม่มีอะไรกัน....กูนอนกับพ่อแม่กู.....มันนอนอีกห้อง”พอมันพูดถึงตอนนี้
ผมใจอ่อนซะแล้วครับ เพราะคนอย่างมันไม่โกหกแน่นอน ในขณะเดียวกันก็แค้นตัวเองที่ใจอ่อนง่ายๆอย่างนี้
คงเป็นเพราะความรักที่มันให้กลายเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจขาดได้ซะแล้ว

“.......................”ผมเงียบครับ

“....กูขอโทษนะ......ที่ไม่ได้บอกมึงก่อน.....เราเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย”มันถามผมอ้อนๆ........................................


ผมค่อยๆพยักหน้าอย่างไม่อาจบังคับตัวเอง


เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น แม่ผมโทรมาครับ

“อือ”ผมรับ พยายามทำเสียงปกติซึ่งก็สำเร็จด้วยดี แม่ผมวานให้ไปรับของที่ส่งมาจากบ้านไปให้ญาติที่อยู่ในกรุงเทพ ผมวางหูไป หันไปมองหน้าไอ้คมซึ่งตอนนี้ยิ้มอย่างดีใจอยู่ในขณะที่หน้าผมไม่แสดงอารมณ์ไดๆ

“คม.....ไปสถานีรถไฟเป็นเพื่อนหน่อย....ไม่อยากไปคนเดียว”ผมบอกมันอย่างช่วยตัวเองไม่ได้
เพราะผมกำลังงงกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น จนคิดอะไรไม่ออก

“ไม่ไปได้มั้ยเราเหนื่อยแล้ว”มันพูด

“อือได้”ผมเดินออกมาจากห้องอย่างไร้วิญญาณ ทบทวนเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้........สติเริ่มกลับมา.....
ความทรงจำเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ผมทำธุระให้แม่เสร็จแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาเย็นๆ ผมนั่งลงที่ป้ายรถเมล์
ความคิดที่ผ่านมาก็ถึงบทสรุป

1.ถึงแม้มันไม่ได้มีอะไรกับไอ้โน้ต....แต่มันปิดบังผม

2.ผมบอกเลิกมัน...มันไม่มีทีท่าเสียใจเลย.....กลับหัวเราะในลำคอ

3.ผมอ่อนแอเกินไป...ไปยอมคืนดีง่ายเกินไปมันจะไม่เห็นค่า

4.มันไม่ได้บอกสาเหตุที่ช่วงนี้มันเปลี่ยนไปแสดงว่ามันยังไม่เชื่อใจผม....และอาจปิดบังบางอย่างเอาไว้

5..มันรู้ว่าผมไม่อยากไปไหนคนเดียวแต่มันก็ยังทิ้งผมเอาไว้หลายครั้ง.....เช่นตอนที่ผมต้องไปสถานีรถไฟ

6..ผมรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองไร้ค่าและอยากแก้แค้น

7.เหตุผลที่มันขอคืนดีตอนนั้นก็เพราะมันรู้ว่าผมอ่อนแอ.....เพราะผมร้องไห้.....คงไม่อยากให้ผมเสียใจ

8.ผมทนไม่ได้

9. .....มัน...........ไม่ได้รักผมแล้ว

เมื่อถึงบทสรุปสุดท้ายผมพลันได้คิด ใช่มันไม่ได้รักผม ผมควรปล่อยมันไปซะ ไม่ให้มันต้องมาฝืนตัวเอง
เพื่อผมอีก การบอกเลิกครั้งแรกของผมเกิดจากอารมณ์ไม่มีการไตร่ตรอง ไม่มีความเหมาะสม ไม่มีสติ
แต่คราวนี้ไม่ใช่ เพราะผมพร้อมแล้วกับการต้องโดดเดี่ยวอีกครั้ง ถ้ามันจะทำให้มันหยุดฝืนตัวเองและธรรมชาติวิถี
ผมหัวเราะฮาฮาอย่างสาแก่ใจ หยิบมือถือโทรหามัน

“อือ”มันรับเสียงเบาๆ คงกำลังเล่นเกมส์อยู่

“เน่ะ คม”ผมทำเสียงอ้อนเต็มที่

“หือ”มันทำท่าฟัง

“ขอโทษด้วยนะ.....แต่เราเลิกกันเถอะนะ.....น้า”ผมอ้อนมัน ไม่ใช่แค่น้ำเสียงเท่านั้นใบหน้าก็ยิ้มแย้มเปล่งจากใจจริง เพราะอยากให้คนที่เรารักได้ทำในสิ่งที่ต้องการจริงๆ

“อะไรของมึงอีก”มันโมโหครับ

“ตอนบ่ายๆขอโทษด้วยนะ.......แต่คราวนี้เอาจริง.....อย่าโกรธน้า....เราเลิกกันเถ้อ”ผมอ้อนสุดชีวิต

“มึงอยู่ไหน”มันพูดพร้อมกับที่ผมได้ยินเสียงมันกำลังวิ่ง

“เอาน่า.....เอาเป็นว่าเราจบกันตรงนี้แล้วกันนะ”ผมยังคงร่าเริง

“ไม่...มึงอยู่ไหนบอกกูมา”มันเค้นเสียงตามไรฟันแล้วครับ

“นี่ๆ....มึงไม่ต้องห่วงกูหรอก...พอเอาเข้าจริงก็ไม่เสียใจเท่าไหร่นี่นา....คมก็ลองตัดใจดูดิ”ผมลุกขึ้น
เดินปะทะกับสายลมที่พัดไหวอย่างต่อเนื่อง

“ไม่กูบอกมึงแล้วว่ากูจะไม่ปล่อยมึงไป”มันพูดพร้อมเสียงหอบแฮ่กๆ คงกำลังวิ่งหาผมอยู่

“5555มึงนี่ดื้อด้านจังเอ้....เอาเป็นว่ากูจะวางแล้วนา...กูถือว่ามึงตกลงนะ”ผมเดินไปเรื่อยๆไม่มีจุดหมาย

“ไม่.....มึง...มึงร้องไห้ใช่มั้ย.....ฮะ...มึงร้องไห้ใช่มั้ย”มันเริ่มหอบ  ผมจับหน้าตัวเอง อ้าวน้ำตาไหลมาเมื่อไหร่เนี่ย

“ไม่หนิ.....มึงอย่าเวอร์....มึงต้องลองคิดว่าจะเลิกดูดิมันไม่ได้เจ็บขนาดนั้นหรอกน่า”ผมยังพูดติดตลก

“มึง....แฮ่กๆ.....บอกกูได้มั้ยว่าทำไม”มันพูดอย่างเร็วเพราะกำลังวิ่งสุดฝีเท้า

“ทำไมเหรอ...อืมขอคิดนะ....เพราะกูไม่เคยรักมึงเลยไงไอ้โง่.....ก๊าาาก”ผมยังคงแสดงละครอย่างต่อเนื่อง
แต่ต้องเว้นจังหวะการพูดเดี๋ยวจะมีเสียงสะอื้นลอดออกมา

“ไม่.....กูไม่เชื่อ......มึงรักกู.....กูก็รักมึง...แฮ่กๆ....”มันว่าอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ยังคงวิ่งไม่หยุดยั้ง

“นี่ๆมึงเลิกหลอกตัวเองได้แล้ว........น่าขำคนรักกันเขาทำแบบที่มึงทำเหรอ........แค่นี้ล่ะกูจะนอน”พูดเสร็จ
ผมก็วางสายไปเลย.....ปิดเครื่อง........ใช้ความสามารถทั้งหมดหยุดน้ำตาไว้....เฮ้อ.....ดันหลอกมันว่ากำลังจะนอน
ป่านนี้มันคงวิ่งกลับหอแล้วมั้ง.....ผมพยายามเปล่งเสียงหัวเราะให้กับความเหลี่ยมจัดของตัวเอง........
เอแล้วคืนนี้กูจะนอนไหนวะเนี่ย....ผมโทรหาเพื่อน ม.ปลายที่สนิทกันกะจะขอนอนด้วยซักคืน....
แต่ลืมไปว่าเปิดเครื่องไม่ได้เดี๋ยวไอ้คมโทรมา....ผมเอ่ยปากรำพึงกับตัวเอง.....
คิดจะพูดคำว่า “แล้วจะทำยังไงวะกู” แต่พอเปล่งเสียงออกมา

“.....ลฮึก....ฮึก...ฮึก”กลับมีแต่เสียงสะอื้นที่ดันมาจากภายในจนอดกลั้นไม่ได้ ผมตกใจ......กูจะอ่อนแอไม่ได้.....
แต่เสียงสะอื้นยังดังไม่หยุดยั้งทั้งๆที่ไม่มีน้ำตา....ผมเริ่มหายใจไม่ทัน....จังหวะการหายใจมันผิดเพี้ยนไปหมด....

ผมเอามือทุบอกตัวเอง ปึก ปึก ไม่ไหวว่ะ มันจะออกมาไห้ได้ ตาผมรู้สึกมีน้ำมากจนเกินไป ผมกระพริบตาถี่ๆ
ฮึก ฮึก ตัวผมยังสะอื้นไม่หยุด ผมรีบเดินไปที่สนามเด็กเล่นเช่นเคย นั่งบนม้านั่งตรงข้ามชิงช้านั่น
ทบทวนทุกอย่างอีกที.... “ฮึก..ฮื้อ....ฮึก” เสียงสะอื้นยังดังอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่ผมกัดฟันแน่น....
คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเคยบอกผม....ที่มันเคยทำไห้ผม....แต่ตอนนี้มันไม่มีค่า........มันพยายามบีบบังคับ
ให้ผมเป็นฝ่ายบอกเลิกมัน....มันจะได้ไม่ต้องผิดสัญญา......มันเลือดเย็นจังแฮะผมคิด.....

ผมบอกตัวเอง....มึงก็รู้อยู่แล้วว่าวันที่ต้องเลิกกันจะมาถึง......มึงยังทำใจไม่ได้อีกเหรอ......
อีกใจหนึ่งก็ว่า.....ถึงกูจะรู้แต่กูไม่รู้ว่ามันจะเร็วขนาดนี้นี่.....

ไม่ได้......มึงต้องเข้มแข็งไอ้คมจะได้ไม่คิดมากเรื่องมึง...ไม่ต้องห่วงมึงมาก....
มึงปล่อยให้เค้าไปรักกับผู้หญิงดีๆสักคนเถอะ....สงสารมันที่มันต้องมารักผู้ชายทั้งๆที่รู้ผลสุดท้ายแต่แรก.............
มึงปล่อยมันไปซะอย่ายื้อ......และที่สำคัญ.....มันไม่ได้รักมึงแล้ว.......

ผมรีบควาญหาเครื่องเล่น mp3 ออกมาคิดจะหาเพลงที่สดใสฟังสักหลายเพลง.....ในขณะที่กลั้นน้ำตาสุดขีด.....แต่ก็ไปสะดุดกับเพลงๆนึงที่พึ่งจะได้มา....คืนเหงาครับ


คนเหงาคนหนึ่ง ในค่ำคืนเหน็บหนาว
ยืนมองดาวอยู่เพียงลำพัง
มีแค่น้ำตามีแค่ภาพความหลัง
คืนนี้มันช่างยาวนาน

อ้อมกอดของเธอคงไม่มีวันกลับคืนแล้วใช่ไหม
รักเธอแค่ไหนแต่สุดท้ายต้องพรากกัน

หัวใจที่ว่างเปล่าคืนเหงามันช่างเดียวดาย
ต้องทนฝันร้ายฝั่งใจแค่ภาพเก่าๆ
เมื่อไหร่จะเช้าเมื่อไหร่ที่ใจจะลืม

คำว่าลาก่อน ตอนที่เราจากกัน
เธอแค่เอ่ยออกมาเบาๆ
ฟังทั้งน้ำตาฟังด้วยใจปวดร้าว
จะให้ลืมได้ยังไง

อ้อมกอดของเธอคงไม่มีวันกลับคืนแล้วใช่ไหม
รักเธอแค่ไหนแต่สุดท้ายต้องพรากกัน

หัวใจที่ว่างเปล่าคืนเหงามันช่างเดียวดาย
ต้องทนฝันร้ายฝั่งใจแค่ภาพเก่าๆ
เมื่อไหร่จะเช้าเมื่อไหร่ที่ใจจะลืม

อ้อมกอดของเธอคงไม่มีวันกลับคืนแล้วใช่ไหม
รักเธอแค่ไหนแต่สุดท้ายต้องพรากกัน

หัวใจที่ว่างเปล่าคืนเหงามันช่างเดียวดาย
ต้องทนฝันร้ายฝั่งใจแค่ภาพเก่าๆ
เมื่อไหร่จะเช้าเมื่อไหร่ที่ใจฉันจะลืม

อยากจะลืมเธอ แต่จะเมื่อไหร่ไม่รู้


ทำนบที่ก่อสร้างอย่างยากเย็นพังทลายลง ผมปลดปล่อยทุกอย่างออกมา น้ำตาที่กลั้นมานานก็ร่วงพรูลงมาอย่างรวดเร็ว

ท้องของผมรู้สึกโหวงๆ  จากเสียงร้องฮือฮือก็กลายเป็น เสียงครวญครางอย่างเจ็บปวด
ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าเจ็บปวดตรงไหน

“โอย.......ฮือ.......ฮือ.....ฮึก...เจ็บ”ผมพูดเบาๆ มันรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก เหมือนปอดไม่ยอมรับอากาศที่สูดลงไป

ผมร้องไห้โฮๆเหมือนเด็กๆ ในใจก็คิดว่าร้องแบบนี้กูจะตายมั้ยเนี่ย มือผมปิดหน้าเอาไว้ สติยังครบถ้วน
เพียงแต่ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ ฟังเสียงที่นักร้องเปล่งออกมาก็อดจะร้องตามไม่ได้
แต่เสียงที่ออกมาจากปากมีแต่เพียงเสียงคร่ำครวญคำหนึ่งเท่านั้น.......

ยอมรับว่าตอนแรกๆที่ผมคบกับมัน ผมไม่เคยคิดเลยว่าความรู้สึกของพวกเราจะเลยเถิดขนาดนี้ ผมเจ็บมาก เจ็บจนแทบทนไม่ได้  ผมบอกตัวเองให้เข้มแข็งแต่น้ำตาก็ยิ่งไหลลงมาอีก

“ตึกๆ”ผมได้ยินเสียงคนวิ่งผ่านพุ่มไม้ด้านหลังมา สังหรณ์ใจแปลกๆ รีบเหลียวหน้าไป ไอ้คมครับ มันเห็นผมแล้ว
และกำลังวิ่งตรงมา ผมลุกขึ้นและกระโจนออกไปสุดแรงเกิด วิ่งไปได้ 2-3 ก้าว ก็โดนมันโดดมารวบขาเอาไว้ได้
ผลล้มลงหน้าฟาดพื้นดังป้าบ ส่วนมันข้อศอกกระแทกพื้นจนหนังหลุด ผมงงนิดหน่อย โดนมันจับให้นอนหงาย
ส่วนมันตะกายขึ้นมารวบแขนผมไว้ กดผมลงกับพื้น

“ไหนมึงบอกกูไม่ร้องไห้”มันตะโกนเลยครับ

“ไม่....ฮึก..ได้ร้อง....ฮึก”ผมยังสะอื้นอยู่เลยครับ มองหน้าที่มีเหงื่อเต็มของมัน

story by นายโฮะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันที่จริงผมว่าจะใส่เพลงด้วย แต่ทำไม่เป็นซะงั้น o6

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
กรี๊ดๆๆๆ สลบแล้ว ตื่นขึ้นมา
กรี๊ดๆๆๆๆสลบต่อ

อ้างถึง
“แล้วมึงกลัวทำไมอนาคต......ถ้าตอนนี้มึงไม่มีความสุขมึงมั่นใจเหรอว่าอนาคตมึงจะมี”มันคาดคั้น 
ส่วนผมสติสตังค์ไปหมดแล้วครับ....ทำได้แค่ตอบคำถามมันไป


จะมีความรักไหน น่าประทับใจและโรแมนติคเท่านี้

เอาไปบวก 1


 :o12: :o12: :o12:

http://resources.imeem.com/resources/flash/audio_player.swf?&autoStart=false&ak=4c1U7-lhpD&gatewayUrl=http%3a%2f%2fwww.imeem.com%2famf%2f&isEmbed=1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-06-2007 21:47:16 โดย b|ueBoYhUb »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ความรักที่มันให้กลายเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจขาดได้ซะแล้ว
  :o11:  :o11:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ทิศยังแคร์คมอยู่นะเนี่ย
ยังคงลุ้นและหวังไปกับความรักครั้งนี้  :impress:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด