A moment in Siam กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม [แจ้งข่าวจ้า] P.111
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: A moment in Siam กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม [แจ้งข่าวจ้า] P.111  (อ่าน 1117268 ครั้ง)

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

เข้ามารายงานตัวตามระเบียบตุ๊ด คะ  อิอิ   :mc4:

ออฟไลน์ 0nePiece

  • ++..ชีวิตไร้รัก..++
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
 :z10: :z10: :z10:

พี่เป็ดหายไปใหนอ่า

ออฟไลน์ กว่าจะไร้เดียงสา

  • อาจมีค่าเพียงหยดน้ำ...สักวันจะกลายเป็นฝน
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-26

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
เมื่อตื่นจากผวา ผมนึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่คือความฝัน
อะไรกัน อยู่มาจนอายุจะ 28 แล้ว ยังไม่เคยรู้เลยว่าประเทศไทยมีแผ่นดินไหวกับเขาด้วย
หรือสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความฝัน
“บ้าสิ ฝันบ้าอะไรจะเหมือนจริงขนาดนั้น แต่.........” ผมปัดกางเกง ลุกขึ้นมองรอบๆ
“เอ๋???” ก่อนจะอุทานเบาๆแบบหนัง X ญี่ปุ่น
“ทำไมบ้านเขย่ายังกับรถบั๊ม แต่เข้าของไม่ยักกะหล่น”
มึนไปหมดแล้ว นี่มันอะไรกัน สงสัยเมื่อคืนฤทธิ์ bourbon คงออกแรงหนักไปหน่อย
ผมเดินออกมาจากห้องด้วยอาการเซเดินไม่ตรงทาง หางตาเหลือบไปเห็นนาฬิกาลูกตุ้มที่ก่อนหน้านี้ดับอนาถ แต่ตอนนี้มันกลับเริงร่าถลาแกว่งไปแกว่งมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดบอกเวลา
“กูบ้าไปแล้ว  กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
ผมเขย่าหัวไปมาสองสามที มึ๊นมึนกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“แหม่ นี่ถ้าเป็นละครนะ จะนึกว่าย้อนอดีตมายุค..............................” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ สายตาคู่เก่าก็เหลือบไปเห็นสิ่งของรอบๆตัว ไม่ว่าจะเป็น รูปถ่ายเก่าๆ ตอนนี้หายไป เครื่องครัวที่หยากไย่เกาะ ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็นของใหม่เอี่ยม
เมื่อเปิดประตูออกไป กลิ่นข้าวที่เพิ่งหุงเสร็จใหม่ๆ ลอยมาเตะจมูกอย่างแรง ก่อนที่ผมจะเห็น ทางเดินไปบ้านตัวเองเป็น ป่าไผ่ และกอกล้วย และ ดงใบเตย และ และ และ
“เฮ้ยยยยยยยยยย บ้านใครวะเนี๊ยะ” ผมเกาหัวแรกๆ พยายามหยุดนิ่ง นึก นึก
“ Think Think สิ Think ................มันก็บ้านกูนี่หว่า เอ๊ะ แต่ ยังไง เอ๊ะ”  นี่ผมมึน ผมเมา หรือผมบ้า
“แม่ พ่อ พี่เอี่ยม ใครเอาบ้านไปจำนำที่ไหนรึป่าว”  ยังจะตลก ผมตะโกนลั่นบ้าน ก่อนจะตัดสินใจเดินลงจากเรือนครัว
“พี่เอี่ยม ที่บ้านไม่มีเตาแก๊ซแล้วเหรอ ถึงได้มาหุงข้าวกับกะทะใหญ่เท่าสระบัวอย่างงี้เนี๊ยะ”  นี่ใจคอจะไม่ผิดสังเกตุอะไรเลยเหรอ บ้านหายไปทั้งหลัง
“พี่เอี่ยมได้ยินมั๊ยเนี๊ยะ ควันมันฟุ้งไปหมดแล้ว” ผมดุพี่เอี่ยม แม่บ้าน
อากาศยามเย็นในวันนั้น ประหลาดยังไงชอบกล วันเป็นวันที่แสงแดดสีทองอ่อนสาดแสงผ่านควันไฟที่ลอยอ้อยอิ่งทั่วบริเวณ อีกทั้งอากาศที่เย็นสบายนั้น ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในความฝัน
กลุ่มควันที่ลอยอยู่นั้นทำให้ผมมองภาพข้างหน้าไม่ชัดเจน  ผมได้แต่เอามือปัดป่ายไปมาให้ควันมันจางไป จนในที่สุด ภาพข้างหน้าก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น ผมหวังว่าจะได้เจอบ้าน แต่.................
“เอ๋????” อีกครั้งที่ผมร้องออกมาแบบหนังโป๊ญี่ปุ่น
เพราะภาพข้างหน้าที่เห็นมันผิดปกติไป
“แม่นึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรขึ้นมา จับคนใช้นุ่งโจงกระเบน” แน๊ ยังไม่รู้สึกอีก เมาอย่างเดียวไม่พอนะนี่ ต้อง.............ด้วย
“ลุงๆ” ผมร้องเรียกตาแก่ๆคนหนึ่งที่ยืนถือไม้กวาดกวาดใบไม้มาสุมกองไฟ ต้นเหตุของควันอยู่
“เห็นบ้านผมมั๊ย” ผมถามราวกับว่าบ้านมันมีขาเดินจะได้หนีไปไหนต่อไหนได้ ตาแก่นั่นหันมามอง ทันทีที่เห็นหน้าผม เขาทำหน้าตกใจราวกับเห็นผี ตาแกถลึงเหลือก อ้าปากค้างสั่นระริกจนเห็นฟันสีดำเมี่ยม แกตัวสั่นเทิ้ม
“นี่ลุง อย่าโอเว่อร์แอคติ้ง คนไม่ใช่ผี มาทำท่าตกใจอะไรขนาดนี้ เห็นบ้านผมรึป่าว” ผมถามอีกครั้งก่อนจะเดินไปหมายจะแตะไหล่แก แต่ไม่ทันที่มือผมจะโดนแก ตาแก่นั่นตกใจทิ้งไม้กวาด ก่อนจะวิ่งล้มลุกคลุกคลานตะโกนผีหลอกๆ จนผ้าถุงหลุดลุ่ย
“อ้าว เฮ้ยๆ ลุงๆ ผ้าถุงหลุด” ผมกวักมือเรียก แต่ตาแก่นั่นไม่แม้แต่จะหันมามอง
“ท่าจะบ้า บ้านนี้จะมีใครเต็มสักคนมั๊ยเนี๊ยะ”

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
ผมยังคงเดินโซซัดโซเซ ควานหา “บ้าน” ของตัวเอง ทั้งๆที่ยังคงคิดว่า คงจะดื่มหนักไปหน่อย เลยจำที่จำทางไม่ค่อยได้ อีกอย่างหลายปีมาแล้วที่ผมไม่ได้กลับมาบ้าน เพราะมัวแต่ตะแลดแต๊ดแต๋อยู่ที่ออสเตรเลีย หลายสิ่งหลายอย่างมันคงเปลี่ยนแปลงไป
“แต่มันน่าจะเจริญกว่านี้ไม่ใช่เหรอ” และผมก็ต้องสับสนในตัวเองเพราะสิ่งที่เห็นรอบตัวมันล้าหลังกว่าตอนที่ผมจากบ้านไปเรียนต่อเสียอีก

“ป้า เห็นทางไปบ้านผมมั๊ย” เป็นอีกครั้งที่ผมเอ่ยปากถามป้าคนหนึ่งที่ยืนอุ้มลูก ถ้าผมมองไม่ผิด ป้าแกนุ่งผ้าโจงกระเบนสีออกหม่นๆ คาดผ้าแถบบิดบังหน้าออก ส่วนเด็กที่แกอุ้มก็หัวจุก
“ไปกันใหญ่และ ท่าทางจะเป็นความคิดของแม่”
“ป้าเห็นมั๊ย “ผมย้ำไปอีกทีเมื่อเห็นแกไม่สนใจ มัวแต่วุ่นวายอยู่กับการจับเด็กนั่นอาบน้ำ
“อะไร” แกตอบอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันมาที่ผม และก็เหมือนเดิม
“ว๊าย ผีจะแหกอกอีสร้อย” แกเอามือตบหน้าอกป๊าบๆ ขาสั่นพั่บๆ “พุทโธ ธรรมโม สังโฆ อย่ามาหลอกลูกช้างเลยเจ้าค่า ลูกช้างมีลูกมีผัวต้องเลี้ยงดู ลูกช้างยังไม่อยากตาย”  แกร้องเสียงหลง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งยองๆพนมมือไหว้ผมประหลกๆ
“นี่ป้า เป็นอะไรกันหมดเนี๊ยะ ผมไม่ใช่ผีนะ” ผมนึกว่าสภาพตอนสร่างเมาคงดูไม่ได้เอามากๆ คนใช้ที่บ้านถึงได้อาการหนักขนาดนี้
“ลุกขึ้นเถอะป้า หน้าตาดีขนาดนี้เห็นเป็นผีได้ไง เดี๋ยวปัดสิงซะเลย” ผมแซวแกเล่นก่อนจะเอื้อมมือไปประคอง แต่ไม่คิดว่าการแซวของผมจะทำให้ป้าแกอาการหนักกว่าเดิมเสียอีก ยังไม่ทันทีที่ผมจะจับแก แกก็ลุกพรึบ รวบผ้าถุงขึ้นมาเหนืออก แล้วใส่เกียร์หมาวิ่งไม่คิดชีวิต ทิ้งไอ้หัวจุก เด็กที่แกจับอาบน้ำยืนหันซ้ายหันขวาโบกมือเรียกแม่ร้องไห้จ้า
“เฮ้ย  ป้าๆ ลูก ลืมลูก................หรือว่ากูจะเป็นผีไปแล้วจริงๆ” ผมปลง
“หนูเงียบๆ” เสียงเด็กแหปากร้องทำให้ผมเกือบสร่างเมา
“แฮๆๆๆๆๆๆๆๆ” ไอ้จุกยังคงร้อง
“จะร้องทำไม ไม่ใช่ผี คน นี่ไงคน”
“แฮๆๆๆๆๆๆๆๆ แฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” มันร้องดังขึ้น
“โอ้ยยยยยยย มึงจะแหกปากทำไมวะ เดี๋ยวปั๊ด จับกินตับเสียเลยนี่” ผมถลึงตาใส่ แลบลิ้นแผล็บๆ
“แฮ ฮะ ฮะ อุบ” ได้ผลแหะ ไอ้จุกสะอื้น ตัวกระเพื่อม มันกลั้นหายใจ ผมถอนหายใจโล่งอก
“แหวกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”  ทันใดนั้นไอ้จุกกลับแหกปากร้องดังกว่าเก่าจนผมต้องปิดหู
“โอ้ยยยย”

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
^

^

^

ได้จิ้มพี่เป็ดแล้ว

อิอิ

มาต่อแล้วววววววววววววววววววววววววววววว

ยังไม่รู้ตัวเองอีกเนอะว่าตัวเองอะแปลกกว่าคนแถวนั้น เหอๆๆๆๆๆ


ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
แปลกกว่าใครเขาแล้วยังไม่รู้อี๊กกกกกกกกกกก :laugh:

ปล.ในที่สุดก็มา o7

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
และในขณะที่ผมกำลังสาละวันเตี้ยลงกับการปลอบเด็กบ้านั่นไม่ให้ร้องไห้อยู่นั่นเอง ก็มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“เจ้าน่ะ”ผมหันไปมอง ทันทีที่ได้สบตากับเจ้าเสียงนั้น ผมถึงกับแน่นิ่งไป แววตาของหญิงกลางคนผู้นั้นสะกดผมไม่ให้ละสายตาไปจากเธอ แววตาที่คุ้นเคย ดูอบอุ่น และเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“เจ้าเป็นใคร เข้ามาในบ้านเราได้เยี่ยงไร” เธอพูดในภาษาที่แปลกออก
“..............................”

“นี่ คุณหญิงถาม ไม่ได้ยินรึ”  เสียงยายแก่อีกคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ใกล้ๆถามผมด้วยอาการกล้าๆกลัวๆ
“เอ่อ”  ทันทีที่ได้สติ ผมกลับทำอะไรไม่ถูก ละล่ำละลักจะตอบ แต่รู้สึกกริ่งเกรงอยู่ในทียังไงไม่รู้   ปกติผมไม่เคยกลัวใคร  แม้แต่พ่อแม่ตัวเอง แต่ผู้หญิงคนที่ใส่ชุดโบราณผ้าลูกไม้สีขาว สวมถุงเท้าสีขาวเลยเข่า ผมที่รวบตึง แววตาที่ดูทรงพลังแต่ก็อ่อนโยนในทีนั้น ทำให้ผม..........เกรง
“ท่าทางจะเป็นบ่าวเรือนนู้นกระมังเจ้าคะ คุณหญิง” ยายแก่ที่นั่งคุกเข่าเงยหน้าขึ้นกระซิบกระซาบ
“เจ้ามาทำอันใดในเรือนของเรา เรือนนี้นอกจากบ่าวผู้ชายสามคนนั่นแล้ว เรามิอนุญาตให้ชายแปลกหน้าผู้ใดเข้ามาอีก”
น้ำเสียงหล่อนดูเยือกเย็น
ผมสับสนในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้านั้น นี่มันอะไรกัน ถ้าจำไม่ผิด ที่นี่คือบ้านของผมไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมพวกคนประหลาดเหล่านั้นถึงคิดว่าผมเป็นคนแปลกหน้า ผมมีสิทธิ์ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ นะ หรือว่า.......”นี่จะเป็นแผนการไล่ผมออกไปจากบ้านของอา”
“ผม เอ่อ” ผมตอบไม่ถูกว่าผมมาทำอะไรในบ้านของตัวเอง ก็นี่มันบ้านของผมนี่หว่า
“ผมอยู่บ้านหลังนี้” สุดท้ายผมก็บอกพวกเขาไปตรงๆ “บ้านนี่เป็นบ้านของผม และหากพวกคุณถูกจ้างมาเพื่อไล่ผมกับครอบครัวออกไป เชิญคุณไปบอกอาผมด้วยว่า ไม่มีประโยชน์” ผมตอบเสียงแข็ง โดยไม่ยอมสบตาหญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เจ้าพูดเรื่องอันใด เรือนหลังนี้เป็นของเจ้าเสียตั้งแต่เมื่อไหร่” สีหน้าของหล่อนยังคงวางเฉย
“เราว่า สติเจ้าคงเลอะเลือนเสียแล้วกระมัง  ไปร่” หล่อนหันไปเรียกชายแก่ที่วิ่งผ้าถุงหลุดเมื่อครู่
“ขอรับ” ชายผู้นั้นตอบ พวกเขาช่างแสดงละครได้แนบเนียนเสียจริง
“พาชายผู้นี้ไปส่งบ้านหลวงจรัส ข้าว่าหลวงจรัส คงรู้ดีว่าจักทำเยี่ยงไรกับบ่าวของท่าน”  หญิงคนนั้นตอบก่อนจะเดินหันหลังกลับ
บ่าวเหรอ.........
“ไม่ ผมไม่ไป นี่มันบ้านผม ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น” ไม่ไหวแล้วเว้ย นี่มันอะไรกัน ผมตะโกนโวยวายขึ้นมาจนคนที่มุงล้อมผมอยู่ขณะนั้น แตกกระจายคนละทิศละทาง
“ถ้าเจ้า................” หญิงคนนั้นหันมาแววตาคาดคั้นผม “คิดว่าที่นี่คือบ้านของเจ้า จงพิสูจน์ให้เราเห็น”
ตอนนั้นบอกตรงๆว่าผมเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่าที่ที่ผมยืนอยู่คือบ้านผมรึเปล่า เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด ไม่มีเค้าโครงบ้านที่ผมเคยอยู่เลย ต่อให้ผมจากบ้านไปนานแค่ไหน มันก็ไม่น่าจะเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้
เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ผมเดินงุดๆไปตามทางที่คิดว่าน่าจะมีบ้านผมตั้งอยู่ โดยยึดโรงครัวเก่าเป็นหลัก
“เมื่อวันก่อนยังอยู่ที่บ้าน เมื่อคืนยังจอดรถอยู่................ตรงนี่” ผมพูดกับตัวเอง แต่ตรงที่พูดกลับเป็นลานโล่งๆ
 “งั้นบ้านก็น่าจะอยู่....................ตรงนี้”  แต่กลับเป็นป่าไผ่
“ไม่สิ เป็นไปไม่ได้ ตรงนี้น่าจะเป็นบ้านเรา ส่วนบ้านอาน่าจะอยู่...................” ผมเดินไปตามความรู้สึกและพบว่าที่ที่คิดว่าเป็นบ้านอา กลับเป็น โรงเก็บรถประหลาดคล้ายเกวียน
“เฮ้ย อะไรกันวะเนี๊ยะ ก็โรงครัวยังอยู่นี่อยู่เลย” ผมวิ่งไป วิ่งมาคล้ายหนูติดจั่น
“พอเสียทีเถิด ที่นี่คือที่ของเรา  เรือนกระโน้น” หล่อนชี้ไปที่เรือนไม้หลังใหญ่ที่ผมคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก “คือเรือนของเรา”
ทุกคนรอบตัวผมมีท่าทีหวาดหวั่น ยกเว้นหญิงที่ถูกเรียกว่าคุณหญิงคนนั้น
“กลับไปหานายของเจ้าเถิด เรือนหลวงจรัสก็เลี้ยงดูเจ้าดีมิใช่รึ เหตุใดถึงอยากจะไถ่หนีจากการเป็นบ่าวเรือนนู้นเสียหล่ะ” น้ำเสียงของหล่อนอ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด ถึงคำพูดนั้นจะหมายถึงการไล่ผมไปจากบ้าน แต่มันก็ดูอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
“คงจะจริงเสียกระมังเจ้าคะ ที่เค้าว่าพวกบ่าวเรือนนู้นมักถูกเฆี่ยนอยู่บ่อยๆ อิชั้นเคยได้ยินมาว่า ธรรมเนียมพวกฝาหรั่งนั่น หากไม่พอใจอันใดก็เป็นอันต้องเฆี่ยน ต้องโบย” ยายแก่ยืดตัวพูดลอยหน้าลอยตาน่าหมั่นไส้
“เมี้ยน อย่าพูดจาให้มากความ การใดมิใช่เรื่องของเราจงอย่าเอาเข้ามาในเรือน” เมื่อถูกดุไปอย่างนั้น ยายเมี้ยนก็หงอลงฟุบกับพื้น
“เรือนของเราไม่ต้องการบ่าวอีกแล้ว กลับเรือนของเจ้าเถิด ข้าจะให้ไปร่ไปส่ง และจะกำชับหลวงจรัสมิให้ถือสาเอาความลุแกโทษเจ้า” น้ำเสียงของหล่อนช่างอ่อนโยนเสียจนผมคล้อยตามคิดไปจริงๆว่า หรือเราหลงบ้านจริงๆ เมื่อคืนอาจเมาหนัก เผลอขับรถออกมาแถวๆอยุธยาก็เป็นได้
“สงสัยจะจริง”
เอาวะ เอาไงก็เอากัน นี่ก็จะค่ำแล้ว รถจอดไว้ไหนก็ยังไม่รู้ หาที่นอนก่อนแล้วกัน ผมเดินโซซัดโซเซตามลุงแก่ที่ท่าทางจะยังกลัวผมอยู่ไปยังบ้านที่ว่า
“จงอดทนไว้เถิด อีกไม่กี่เพลาหลวงท่านก็จะเลิกทาส พวกเจ้าก็จะได้เป็นไทเสียที” หญิงคนนั้นพูดตามหลังผมมา
“เลิกทาส?”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-11-2010 15:27:46 โดย เซ็งเป็ด »

ออฟไลน์ กว่าจะไร้เดียงสา

  • อาจมีค่าเพียงหยดน้ำ...สักวันจะกลายเป็นฝน
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-26
 :z13:

หึหึ.....กว่าจะมานิยายจะสลายกลายเป็นปุ๋ยแล้วพี่หลวงเห้อ :laugh:

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
อ่าวววววพี่เป็ดยังลงไม่จบนี่นา ไอต้องลบโพสของไออีกรอบป๊ะคะ?

แต่ก็ดีที่มาต่ออีกๆๆๆๆ พี่หายไปนานนนนน อยากอ่านเยอะๆๆๆๆๆๆๆเลย ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
ข้างบน อย่าแซวๆ แหม่ กว่าจะเขียนได้แต่ละหน้า
ต้องพิมพ์ไม่ให้แป้นกระดิก เดี๋ยวเสียงดัง หัวหน้าชะโงกหน้าออกมาดูอีก

เจ๊แกยิ่งหูไวตาไวอยู่  :m16:

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
 :m20: พิมพ์อีท่าไหนยังไงไม่ให้แป้นกระดิก :pigha2:

ปล.ลงอีกสิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆคะ :m13:

ออฟไลน์ ลูกลิงแสดงตัว

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
^^^^
ฮา ด้วยคน :jul3:


ปาดดดดดดดดดดดดด :m14:

เลิกทาสเลยรึเจ้าค่ะ นี่มันเหตุอันใดกัน รบกวนท่านผู้ประพันธ์ช่วยขยายความด้วยเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
“พ่อสน พ่อสน” เสียงลุงไปร่ ตะโกนเรียกคนในบ้านซึ่งผมก็ยังแน่ใจว่าไม่ใช่บ้านผม บ้านหลังนู้นตะหากล่ะที่น่าจะใช่ แต่ก็นะ ผมยังไม่รู้เลยว่าที่นี่ที่ไหน ขับรถเมามา หรือโดนลากมาทิ้งก็ยังไม่แน่ใจ ถามลุงไปร่ ขานั้นก็เอาแต่เดินงุดๆตัวสั่น ผวาทุกทีที่ผมกระแอม ราวกับผมเป็นเสือสมิงจะคอยขย้ำคอหอยเหี่ยวๆของแกอย่างนั้นแหละ
“ว่าไงลุง” ชายหนุ่มวัยกลางคนร่างกายสันทัดนุ่งผ้าเตี่ยวไม่ใส่เสื้อเดินออกมา บรรยากาศน่าจะสักทุ่มกว่าๆ แต่ทำไมมันเหมือนเที่ยงคืน แถมที่นี่ยังไม่มีเสียงรถให้ได้ยินเลยสักเอะ
“ข้าเอาบ่าวเรือนเอ็งมาคืน มันไปป้วนเปี้ยนอยู่แถวเรือนคุณหญิง ไปขี้ตู่เอาว่าเรือนท่านเป็นเรือนมัน” ลุงไปร่ใส่ใหญ่ ผมทำหน้าขมวด
“ไหน” คนชื่อสนเดินลงมาจากเรือนไม้หลังใหญ่ เขาคว้าตะเกียงเจ้าพายุติดมือมาด้วย
“แต่งกายประหลาดดีแท้” เขาถือตะเกียงยื่นเข้ามาใส่ผม ก่อนจะมองจากหัวจรดเท้า “ท่าทางคงไม่ใช่คนละแวกนี้เสียกระมัง ตาไปร่”
“ละแวกนี้ ?” ผมย้อนถาม “ละแวกนี้นี่มันละแวกไหน บอกหน่อยดิ๊ ที่นี่ที่ไหน” ผมถาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างประหลาดใจ
“พระนคร บางเจ้ามิรู้รึ และเรือนหลังนี้คือเรือนเจ้าพระยาจรัสกิจพิจารณ์” ดูท่านายสนคนนี้จะภาคภูมิใจกับยศของเจ้าของบ้านหลังนี้เสียขนาดหนัก
“โอ้ย ชั้นไม่รู้หรอกว่าบ้านนี้บ้านใคร ว่าแต่ จากนี้ไปแถวๆถนนข้าวสารไกลป่าว” ผมถามเพราะว่าบ้านอยู่แถวนั้น หากผมไปถึงนั่นได้ ก็ไม่อยากที่จะหาทางกลับบ้าน
“ข้าวสาร?” ทั้งคู่ทำหน้าสงสัย
“นี่อย่าบอกนะว่าไม่รู้จัก ถนนข้าวสารน่ะ โห บ้านนอกจริงๆ ไม่ Intrend เอาซะเล้ย ชื่อเขาออกจะดังระดับโลก  งั้นแถวเอ่ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยหล่ะ รู้จักป่าว”
“????????????????”
“ข้าว่าเจ้านี่มันสติวิปลาส น่าจะจับส่งโปลิสจะดีกว่าเสียกระมัง” คนชื่อสนพูด
“โปลิสเหรอ โปลิส ตำรวจ” ผมทวน “เอ้ย ไม่ได้นะเว้ย จะจับชั้นส่งตำรวจไม่ได้” ผมร้องเสียงหลงเมื่อได้ยินเรื่องตำรวจ เพราะคิดว่าป่านนี้อาคงไปแจ้งความเรื่องทำผมขู่ และทำร้ายเขาไว้ อีกอย่างกระเป๋าสตางค์ เอกสาร บัตรประชาชน แม้แต่มือถือติดตัวผมก็ไม่มีสักกะอย่าง จะเอาที่ไหนไปยืนยัน
“รู้มั๊ยชั้นลูกใคร” แหม๊ นานพูดที  
“พวกข้าไม่รู้หรอก ว่าเอ็งลูกเต้าเหล่าใคร แต่ข้าว่าโปลิสน่าจะบอกเอ็งได้ เฮ้ย ไอ้แดง ไอ้อิน ออกมาจับตัวไอ้บ่าวไร้เจ้าตนนี้ไปส่งโปลิสที” เสียงสนตะโกนโหวกเหวก
“เฮ้ย อย่านะเว้ย อย่าเข้ามานะเว้ย อย่าหาว่าชั้นไม่เตือน” ผมยกมือกำหมัด ยกแข้งยกขาเป็นท่ามวยวัดที่ดูไม่ได้เรื่องได้ราว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอ็งไปเรียนวิชามวยมาจากเขมรรามัญหรือกระไร ท่าทางถึงได้เหมือนคนเป็นสันนิบาตเยี่ยงนี้” ไอ้สนหัวเราะเยาะ
“ก็ลองเข้ามาสิวะ เห็นอย่างงี้ชั้นล้มพวกฝรั่งมาแล้วนะเว้ย” ผมร้องขู่ ยกหมัดเหยงๆ แต่ สองคนนั้นไม่กลัวเลย ปรี่เข้ามาคว้าแขวนผมหมับ
“เฮ้ยๆ จะทำอะไร ปล่อยนะเว้ย ปล่อย พวกแกทำแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย คอยดูชั้นจะฟ้องทนาย ปล่อย บอกให้ปล่อยไง” ผมสะบัดแขน ดิ้นไปดิ้นมา แต่สองคนนั้นตัวใหญ่และแข็งแรงเกินไป อ้อ อีกอย่างเต่าเหม๊นเหม็น
“นี่พวกแกไม่ใช้โรลออนกันมั่งเลยรึไง แหวะ” ผมทำท่าอ๊วก “ปล่อยสิวะ จะพาชั้นไปไหน ปล่อย”

“เอี๊ยดดดดดดดด” เสียงเปิดประตูดังมาจากด้านบน ทำให้เหตุการณ์ชุลมุนนั้นสงบลง ชายสองคนที่จับตัวผมไว้ปล่อยมือ และคุกเข่าลงบนพื้นหญ้ารวมทั้งลุงไปร่ด้วย ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง

ภาพที่เบื้องหน้าคือ ชายหนุ่มวัยรุ่นราวคราวเดียวกับผม บวกลบไม่น่าจะเกินสองปีที่ดูคุ้นตา (อีกและ คุ้นเค้าไปหมด) จะต่างคนตรงที่ชายผู้นั้นดูภูมิฐาน และน่ายำเกรงกว่าผมมาก ผมมองใบหน้าเขาไม่ถนัดนักหรอก รู้แต่ว่าความรู้สึกภายในลึกๆที่คล้ายมันถูกฝังมาเนินนานเป็นตัวบอกผมว่า ชายผู้นั้น ลักษณะท่าทาง หน้าตาเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่ชัดเจนมากพอที่จะทำให้ผม “ระลึกได้”
เขายืนอยู่ในชุดเสื้อคอจีนบางสีขาว กางเกงแพรสีน้ำเงิน
“hey !! man?” ผมตะโกนถามชายที่อยู่เบื้องบน เพราะภาพที่เห็นลางเลือนนั้น คล้ายๆกับว่าชายคนนั้นเป็น...ฝรั่ง
“ I think you should do anything better than look/ กูคิดว่ามึงน่าจะทำอะไรได้ดีกว่ามองดูกูกำลังถูกปู้ยี้ปู้ยำนะเว้ย”  แปลให้เสร็จสรรพ เขายังคงยืนกอดอกมองลงมาข้างล่างอย่างเงียบๆ
เมื่อเห็นมันไม่ทำอะไรสักอย่างผมจึง
“can you speak English?” เงียบ
“Ou, vous parlez français ?” หรือมึงพูดฝรั่งเศส?
“Oder sprechen Sie Deutsch ?”  หรือเยอรมัน?
“Eller talar du svenska ?”  สวีดิช?
“ Or can you speak?” หรือว่าเป็นใบ้ ยังไง ทำไมเงียบ
“ฮ่วย ไอ้ฝรั่งขี้นก เป็นใบ้ก็เสือกไม่บอก อ้อ ลืมไป คนเป็นใบ้ต้องหูหนวกด้วยนี่หว่า โทษๆ” ผมโบ้ยมือไปมา
“พวกเอ็งปล่อยคนบ้าคนนั้นเถิด”  อ้าวพูดไทยได้นี่หว่า เสียงของเขานุ่ม ทุ้มกังวาลราวกับเสียงเพลงสุนทราภรณ์ลอยอยู่รำไร
“เฮ้ย ใครบ้า ไม่ได้บ้านะเว้ย แค่...........เมานิ๊ดหน่อย” ผมเสียงอ่อยตรงคำท้าย ก่อนจะทำหน้าสำนึกผิด
“สามหาว เจ้าบ้าใบ้ รู้หรือไม่ว่ากำลังยืนอยู่ต่อหน้าใคร วอนหลังลายเสียแล้ว คุกเข่าลง” ชายสองคนที่คุกเข่าก่อนหน้านี้พยายามจะดึงผมลงนั่ง แต่ผมไม่ยอม ใครจะไปคุกเข่าให้ไอ้ขี้เก๊กข้างบนนั้นกันเล่า อายุก็ใกล้เคียงกัน อีกอย่างนี่มันสมัยไหนแล้ว เขายกเลิกระบบศักดินากันนานแล้วเว้ย
“ทำไมต้องคุกเข่าด้วยวะ หมอนั่นเป็นเทวดารึไง” ผมเงยหน้าส่งสายตาท้าทาย
“มันจะมากไปแล้วนะ” ชายที่ชื่อสนเงื้อมือทำท่าจะฟาดลงมาที่หน้าผม  ผมเบ้หน้า
“หยุดนะ สน” แต่เสียงไอ้ขี้เก๊กข้างบนร้องห้ามไว้ทัน
“อูย เกือบไปแล้วมั๊ยหล่ะ” ผมถอนหายใจโล่งอก ปากดีไปงั้นแหละ “ทำไมคนไทยสมัยนี้ชอบใช้กำลังกันจังเลยวะ” บ่นกับตัวเองเบา
“อย่าไปถือสา คนบ้าเลย เจ้าจงไปจัดเรือนบ่าวหลังเล็กท้ายเรือนให้เป็นที่หลับที่นอนของเจ้าบ้านี่เถิด” เขาพูดราวกับเป็นเจ้าชีวิตคนเหล่านี้
“อะไรวะ คำก็บ้า สองคำก็บ้าง บอกว่าไม่ได้บ้า แค่เมา นิดโหน่ยเอง” ผมพึมพำเบาๆ ก่อนจะเดินตามหลังคนชื่อสนไปไหนก็ไม่รู้ เขาพาไปไหนก็ไปกะเขาหมด ไม่ได้คิดอะไร ตอนนั้นคิดแต่เพียงว่า
“ขอให้คืนนี้กูได้นอนก่อนเถ๊อะ เดี๋ยวตอนเช้า ค่อยออกไปหารถกลับบ้าน ชิส์ ใครจะไปอยากอยู่กันวะ บ้านนอกชิบหาย”
ไอ้ขี้เก๊กยืนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับ เดินผ่านประตูไม้หายหลับไป ผมหันมองเขาจนลับตา............


ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
จะไปฟ้องแอบพิมพ์นิยายในที่ทำงาน  :m20: แอบไปหาซื้อแป้นที่มันซอฟๆ หรือแป้นยางดิ เวลาพิมพ์จะได้ไม่มีเสียง

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
^
^
เออเนอะ ถ้าแป้นเป็นยางก็ไม่มีเสียงแล๊ะ


แล้วเมื่อไหร่จะรู้นะว่าตัวเองน่ะแปลกกว่าใคร :laugh:

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
ไม่ได้ครับพี่ ต้องใช้แป้นบริษัท ที่ดังแต๊กๆๆ อ่ะ

แบบว่า งานที่นี่จะใช้พิมพ์เป็นจังหวะ ที่รู้กันว่างานไงพี่

พอเพิ่มระดับความเร็ว หรือจังหวะการพิมพ์ผิดไปนิดนึง จะรู้และ
ว่าเล่นเอ็ม หรือว่างานส่วนตัว
เจ๊แกก็จะกระแอมเบาๆ หรือไม่ก็ชะโงกหน้ามาดู เป็นระยะๆ

ตอนนี้กำลังฝึกพิมพ์นิยาย เป็นจังหวะรหัสมอส อยู่ อิๆ

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก+ รหัสมอสเลยเหรอคะ จะSOSหาใครอ่ะ :jul3:

ปล.น่าจะให้เจ๊แกไปทำงานเป็นคนรับคลื่นเสียงหรืออะไรสักอย่างนะเคอะ ตั้งใจฟังซะขนาด...... :m29:

ออฟไลน์ กว่าจะไร้เดียงสา

  • อาจมีค่าเพียงหยดน้ำ...สักวันจะกลายเป็นฝน
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-26
ถกผ้าถุงวิ่งตะโกนรอบบ้าน................พระเอกโผล่แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เมื่อไหร่จะได้อ่านตอนที่ว่า "ท่านเจ้าคุณขอรับ กระผมเจ็บ"


กร๊ากกกกกก... :z1: :z1:

ออฟไลน์ ลูกลิงแสดงตัว

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
^^^^^^
^^^^^
^^^^
^^^
^^
^
อยากจะจิ้มทะลุรีบน  "ท่านเจ้าคุณขอรับ กระผมเจ็บ" อ๊ากกกกกก คิดได้ :m30: ...แต่ก็แอบรอด้วยคน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ชอบค่ะเรื่องย้อนยุค เรื่องราวชวนติตามค่ะ

เอ่อ...อ่านรีของคุณ กว่าจะไร้เดียงส  แล้วอดยิ้มไม่ได้ค่ะ

@Kanda@

  • บุคคลทั่วไป
สนุกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!

กรี๊สสสส สมกับที่รอคอยจริงๆค่ะ สนุกมากๆ อยากอ่านต่อไวๆ รออยู่นะคะ!!!!  :-[

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
เพิ่งเข้ามาอ่าน คงไม่ช้าเกินไปหรอกนะ ที่จะบอกว่า ยินดีกับเรื่องใหม่ :mc4:
ย้อนยุค เหมือนทวิภพ น่าติดตามครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ  +1 เพิ่มกำลังใจอีกนิด :กอด1:

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาแล้วๆ
 o13

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ถกผ้าถุงวิ่งตะโกนรอบบ้าน................พระเอกโผล่แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เมื่อไหร่จะได้อ่านตอนที่ว่า "ท่านเจ้าคุณขอรับ กระผมเจ็บ"


กร๊ากกกกกก... :z1: :z1:

แหม่  ช่างคิดได้  งั้นรอฟังด้วยคน

Ramika

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาดันให้แล้วนะ

น่าสงสาร คนเขียนต้องบังคับคนให้มาอ่าน

5555555

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ในที่สุด
 :mc4:


ถกผ้าถุงวิ่งตะโกนรอบบ้าน................พระเอกโผล่แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

เพิ่งรู้นะว่าปกติอยู่บ้านพี่ใส่ผ้้าถุง
มิน่าล่ะ วันนั้นดูทำอะไรไม่ค่อยถนัดเลย
คราวหลังไม่ต้องเกรงใจนะ แต่งตัวตามสบาย
 :laugh:

ออฟไลน์ กว่าจะไร้เดียงสา

  • อาจมีค่าเพียงหยดน้ำ...สักวันจะกลายเป็นฝน
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-26
ในที่สุด
 :mc4:


ถกผ้าถุงวิ่งตะโกนรอบบ้าน................พระเอกโผล่แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

เพิ่งรู้นะว่าปกติอยู่บ้านพี่ใส่ผ้้าถุง
มิน่าล่ะ วันนั้นดูทำอะไรไม่ค่อยถนัดเลย
คราวหลังไม่ต้องเกรงใจนะ แต่งตัวตามสบาย
 :laugh:


>>>>>อุ๊ยตาย มัวแต่ดีใจที่พระเอกโผล่ เลยลืมตัวเลย กรีดดดดดดดดดดดดด :sad4:

Rinze

  • บุคคลทั่วไป
ต๊ายยยย กว่าจะอัพก็เกือบเป็นปุ๋ยซะแล้วล่ะค่ะ  o18
แต่ดีใจนะเนี่ยที่มาอัพ แวบมาดูทุกวันเลยว่าลงหรือยัง

Ramika

  • บุคคลทั่วไป
ดันไว้ คนเขียนฝากมา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด