A moment in Siam กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม [แจ้งข่าวจ้า] P.111
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: A moment in Siam กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม [แจ้งข่าวจ้า] P.111  (อ่าน 1118177 ครั้ง)

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
"อย่าทิ้งเราไปเยี่ยงนั้นอีก..................." อีชั้นตายไปแล้วกับประโยคนี้ค่ะ  :z1:

 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

ออฟไลน์ หัวเเม่มือ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 804
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
อ่าาาาาาา
ขอตามอ่านก่อน ไม่ได้อ่านมา 2 ตอน เห็นชื่อตอนล่าสุดแล้วเตรียมตัวหิว

Mileson

  • บุคคลทั่วไป
เห็นอาหารแล้วหิวขึ้นมาทันที...

wing

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดอัชก็กลับมาหาหมอซักที หมอบอกขนาดนั้นไม่เข้าใจหรือไม่ยอมเข้าใจกันแน่หือนายอัช
แอบสงสัยนิดๆผู้ชายรอบๆตัวที่ชอบอัชเป็นหมอทั้งนั้น
แล้วหมอในยุคปัจจุบันที่มาชอบอัชนี่จะมีอะไรเกี่ยวข้องกันหรือเปล่าเหอๆ
ปล.เห็นอาหารแต่ละอย่างแล้วหิวจริงๆน่ากินมาก

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
 :call: :call: :call:
ขออย่าให้เรื่องนี้จบ เศร้าเลยเทอญ.........

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
“นี่ นาย ชั้นได้เข้าไปเรียนทำอาหารในบ้านคุณชั้นด้วยนะเว้ย” ผมคุยทันทีที่ได้เจอหน้าหมอปีย์
“กระนั้นรึ” เขาก้มหน้าก้มตาไม่ยอมสบตา
“ก็ช่ายนะเซ่ โชคดีเป็นบ้าเลย ได้เข้าไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้ง บางทีชั้นอาจหาวิธีกลับบ้านได้โดยไม่ต้องทรมาน....แบบนั้นอีก”
“ดูเหมือนเจ้าจะมิอยากจะอยู่เสียที่นี่”
“เออดิ ที่นี่ไม่ใช่บ้านชั้นเสียหน่อย ยังไงชั้นก็ต้องกลับบ้านวันยังค่ำ” ผมว่า ก่อนจะล้างเท้าเดินตามหมอปีย์ขึ้นบ้าน


“เจ้าช่วยตามเรามาในห้องได้หรือไม่ เรามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย”


ห้องสี่เหลี่ยมที่เก็บหนังสือไว้จนแน่นห้อง ทุกซอกทุกมุมมีแต่หนังสือ มีเพียงมุมเล็กๆมุมหนึ่งเท่านั้นที่วางโต๊ะกับเก้าอี้ไว้ บนโต๊ะ มีตะเกียงเจ้าพายุวางอยู่ ข้างๆกันนั้นก็เป็นปากกาขนนก และที่ฝนหมึกวางอยู่ไม่ไกลกัน ผมนั่งบนเก้าอี้ไม้ตรงข้ามเขา การเข้ามาในห้องหนังสือครั้งนี้ ก็คงไม่มีอะไรมาก นอกจากหมอปีย์จะให้ผมช่วยแปลหนังสือทางการแพทย์สมัยใหม่ ที่เป็นภาษาอังกฤษ

“อ่านหน้านี้ แล้วจงบอกเรา ว่าเจ้าเข้าใจว่ายังไง” เขาเปิดหนังสือวางลงตรงหน้าผม หมอปีย์เมื่อใส่แว่นนั้น เขายิ่งกลับดูขึงขัง และเคร่งเครียดกว่าครั้งที่ตอนวิ่งหนีโจรอั้งยี่เป็นไหนๆ
“ ถามจริงๆ เหอะ นายอายุเท่าไหร่กันแน่” ผมถามเมื่อเริ่มไม่แน่ใจว่ามันอายุไล่เลี่ยกับผมจริงหรือเปล่า
“ภาระและความรับผิดชอบทำให้เราเป็นเยี่ยงนี้  ภาระและความรับผิดชอบ ทำให้เจ้าเป็นเยี่ยงนั้น”

ผม.............งงไปพักใหญ่ ว่ามันหมายความว่ายังไง
.
.
.
.
“ห่า มึงด่ากูเหรอ” ผมคิดได้
“ไม่มีใครว่าเจ้าได้นอกจากเจ้าเอง”

เห้อ .............





ผมใช้เวลาขลุกอยู่ในห้องหนังสือเกือบทั้งวัน เฝ้าแต่อ่านบทความของหมอชาวอเมริกัน ที่เขียนเรื่องราวของการเป็นโรคฝีดาษ อาการ และการรักษา รวมทั้งตัวยาที่เป็นภาษาทางการแพทย์

“นี่ ชั้นไม่ได้เรียนหมอมานะเว้ย ชั้นเรียนทำอาหาร”
“เอาเถิด แต่เจ้าก็ช่วยเราได้มากโข อย่างน้อยๆ ก็ช่วยไม่ให้เราเอาหัวมุดเข้าไปในกองตำรานี้ด้วยความเบื่อหน่าย” เขาว่า
“นายเบื่อกับเขาเป็นเหมือนกันเหรอ”
“เราก็คนเหมือนเจ้านะ รู้ไหมว่า ชีวิตเราเปลี่ยนไปตั้งแต่เจ้าเข้ามา” เขามองตาผมลอดผ่านเลนส์แว่นทรงกลมโบราณ แต่ แม่งสำหรับผม โคตรแนวเลยว่ะมึง เหมือนเด็กเนิร์ด
“เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นใช่มั๊ยหล่ะ” ผมหัวเราะ
“เปล่า เลวลง” เขาพูดหน้าตาย ผมหยุดหัวเราะกึก ไม่แน่ใจว่ามันพูดจริงหรือพูดเล่น
“เราล้อเจ้าเล่นน่ะ ดูทำหน้าเข้า” แล้วเขาก็หัวเราะเบาๆไว้เชิง แต่รอยยิ้มจางๆนั้นเองที่ทำให้ผมจ้องมองจนเกือบลืมตัว
“นายไม่เหมาะจะเป็นตลกนะ ไอ้หมอ เพราะว่าไม่มีพรสรรค์เอาเสียเลีย” ผมแบะปาก “เป็นพระเอกมาดขรึม สุขุม นุ่มลึกไปน่ะดีแล้ว ตลกนะ ชั้นรับเล่นเอง” ผมแซว
“เราก็แค่........” หมอปีย์ทำหน้าสลด “อยากให้เจ้าได้หัวเราะบ้างก็เท่านั้นเอง”

โถๆๆ พ่อหมอใจบุญ คำพูดแต่ละคำนี่ชวนให้น่าสงสารเอาเสียจริงๆ  ผมยิ้มให้มันไปทีนึงในความพยายามและบอกว่าผมไม่เบื่อหรอก เพราะอ่านๆไปก็เพลินดีเหมือนกัน แต่จริงๆในใจตอนนั้นอยากจะตะโดกนออกมาว่า

“เหี้ย กูเบื่ออออออออออออออออ”  นี่ถ้าผมกลับไปสอบเข้าแพทย์ศาสตร์จุฬาฯนี่ ติดแน่ๆ



.
.
.
“หมอ หมอเคยเป็นสังคังมั๊ย”  ผมถาม 555 เนื่องจากกำลังอ่านมาถึงบทเชื้อราในที่อับ
“ถามอะไรเยี่ยงนั้น” หน้าแดงๆ
“ก็ชั้นกำลังอ่านมาถึงโรค Tinea Cruris” จริงๆไม่รู้หรอก แต่อ่านโดยรวมเลยเดาได้
“เจ้าหล่ะ” เขาถามกลับ




“อย่ามาเนียนสิวะ ชั้นถามนายก่อน”

“ไม่เคยดอก เราจะเป็นโรคอย่างนั้นได้เยี่ยงไร” เขาตอบเขินๆ นี่กูถามตรงไปรึเปล่า
“เหรอ แน่ใจ๊  ชั้นเคยได้ยินมาว่าบุรุษเพศทุกผู้ทุกตนจะต้องเป็นสังคังก่อนที่จะเข้าสู่วัยหนุ่ม เมื่อย่างเข้าสู่ความเป็นชาย”
“ใครบอกเจ้าเยี่ยงนั้นรึ เราอยู่จะ 30 ปีแล้วมิเคยได้ยิน” เขาทำหน้าสงสัย วางปากกาขนนกลง
“เอ่อ .......” ผมชักไม่แน่ใจ “ ปรมาจารย์ท่านนึงเคยบอกชั้นมา”  แล้วใบหน้าของไอ้ยักษ์เพื่อนสมัย ม.ต้นของผมก็ลอยกึ่มๆมา
“ไอ้ห่ายักษ์ หลอกกู” ผมคิด



























เช้าวันรุ่งขึ้นผมจัดแจงอาบน้ำแต่งตัวอย่างดี วิ่งไปยื้มน้ำมันเซทผมจากหมอปีย์ซึ่งเขาก็ไม่มี แต่ก็ยังพยาย๊ามพยายามไปรื้อหาให้ในห้องหมอเจอราร์ทจนได้มา ผมเซทผมเรียบร้อยสุดชีวิต ไม่มีชี้เด่ให้เห็นแม้แต่เส้นเดียว
ดูเรียบร้อยจนผมตกใจ อย่างอื่นพอรับได้ แต่กลิ่นของน้ำมันนี่นะสิ เล่นเอาจะเป็นลม

“จะไปไหนรึเจ้าบ้า แต่งตัวเสียงามเชียว” นังอ่ำแซว บ่าวคนอื่นๆก็พากันหัวเราะคิกคัก
“อย่ามาทักสิ เสียเซลป์หมด” ผมเริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง
“แหม ก็ปกติข้าเห็นเอ็งแต่งตัวทำเผ้าทำผมเข้าเหมือนคนสติไม่ดี”

ผมทำท่าจะก้าวเท้าลงจากเรือนพอดี แต่เมื่อได้ยินนังอ่ำแซวแบบนั้นต้องหยุด ชักจะไม่มั่นใจขึ้นวิ่ง วิ่งแจ้นไปหาหมอปีย์ที่กำลังวุ่นอยู่กับการยัดเสื้อเข้าไปในชายกางเกง
“ไอ้หมอ ไอ้หมอ” ผมวิ่งหน้าตาตื่นเข้าไปในห้องมันโดยที่ไม่ได้เคาะ
“เฮ้ยๆ เจ้าบ้า เข้ามาทำไม” ผมหันมาทำหน้าเลิ่กกัก รีบหาผ้าแพรมาปิด
“มึงจะอายทำเหี้ยอะไร ใส่ซะมิดชิด มาดูกูหน่อย กูเป็นไงมั่ง” ผมถาม

มันเงยหน้ามามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเงียบไป

“เอ่อ” ผมกวักมือถาม
หมอนั่นจ้องตาไม่กระพริบ
“เฮ้ย!!!!”

“อ้อ เอ่อ  ก็ ก็ ดีๆ”
“โอเคนะ งั้นกูไปหละ” ผมหันหลังทำท่าจะวิ่ง เพราะสายแล้ว
“เดี๋ยวก่อน เจ้าบ้า” ผมหยุด “แล้วเราหล่ะ เป็นเยี่ยงไรบ้าง” หมอนั่นถาม พลางลุกขึ้นยืน
ผมมองหัวจรดเท้าอย่างรวดเร็ว

“จะไปไหน”
“ไปบ้านเจ้าพระยา ที่หมอเจอราร์ทประจำอยู่ ท่านมีเรื่องจะให้เราทำ”
“อ้อ”
“เป็นเยี่ยงไร” ผมเซ้าซี้ถาม
“หล่อ หล่อมาก พอใจยัง” หมอปีย์ยิ้มแก้มแทบปริ เหมือนคนบ้า
“แล้วเจ้าหล่ะ จะไปไหน”
“อิๆ” ผมยิ้ม ไม่ตอบ แต่หัวใจนั้นพองโตแทบจะทะลุอก





ประตูไม้หน้าเรือนคุณชั้นปิดไว้อย่างแน่นหนา ราวกับว่าข้างในนั้นมีสมบัติล้ำค่าอย่างนั้นแหละ ปกติบ้านเรือนผู้คนแถวนี้มักจะไม่ค่อยทำประตูบ้านกัน อย่างมากก็แค่ไม้ไผ่มาคาดตามยาว กันให้ดูเป็นบริเวณ ประตูก็ทำง่ายๆจากไม้ที่ขึ้นมากมายแถวนั้น ภายในบ้านเรือนต่างปลูกต้นไม้แข่งกัน บ้านเหนือคลองมีดอกเรไรไต่ตามรั้ว ถัดมาก็เป็นดอกเฟื่องฟ้าช่อหนาสีแดงสด  บ้านหลังกระนู้น ปลูกต้นโกสน

 ผมตะโกนเรียกคนข้างในให้มาเปิด แต่เหมือนกับตด เรียกไปก็ไม่มีใครได้ยิน

“มีใครอยู่มั๊ย ผมมาหาคุณชั้น” ผมกระโดดเหยงๆผมไม่กระดิกอยู่หน้าบ้าน
“มีใครอยู่มั๊ย ไม่มีชั้นจะปีนเข้าไปแล้วนะเว้ย” ผมตะโกนบอกเป็นครั้ง 20

แต่ข้างในยังเงียบอยู่ดี สุดท้ายผมจึงตัดสินใจ “ปีน”

มือข้างจับไม้ที่พาดขวางเหนือหัว อีกข้างยันร่างขึ้น เท้าก็เกี่ยวเข้ากับเงี่ยงที่โผล่ออกมา ทุลักทุเลน่าดู
“ห่าเฮ้ย หวังว่าสมัยนี้เขาคงไม่มีสายตรวจนะเว้ย ไม่งั้นโดนหาว่าขโมยแน่ๆ” ผมบ่นกับตัวเอง ในขณะที่พาร่างมาอยู่บนขอบด้านบนประตู บานประตูสั่นหง๊อกแหง๊กๆ โงนเงนไปมาน่าเสียวไส้

“หยุดนะ เจ้าทำอะไรของเจ้า” เสียงลุงคนเดิมที่ลากผมไปทิ้งไว้บ้านหมอปีย์เมื่อวันก่อนรีบวิ่งเข้ามาห้าม
“ชั้น มา หา คุณ ชั้น” ผมละล่ำละลักตอบ มือเริ่มสั่นเพราะมันสูง
“แล้วทำไมถึงไม่เข้ามาดีๆกันเล่า”
“อ้าว ก็ไม่มีใครมาเปิดให้นี่หว่า ฮึบ” แล้วผมก็กระโดดลงมาดังตุ๊บ
“อ่า คุณชั้นอยู่ป่าว” ผมปัดมือ


“มีธุระอะไรกับท่าน” ลุงถามหน้าตาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลยพับผ่า
“เออ ลุงไม่ต้องรู้หรอก ไปกวาดใบไม้ใบหญ้าของลุงเหอะไป อ้อ มีเรื่องจะเตือนลุงหน่อยนะ” ผมหันไปมองเด็กเล็กๆวิ่งไปมาอยู่หน้าเรือนคนใช้ “ให้ลูกเรียนสูงๆนะลุง เชื่อผม” ผมยิ้ม ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปที่เรือนใหญ่อย่างชำนาญราวกับบ้านของตัวเอง

ลุงแกยืนงงอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรให้ผมเข้าไป แกวิ่งตามมาร้องห้ามเสียงดัง
“เข้าไปไม่ได้นะเว้ย หยุดก่อนๆ” แต่ไม่ทันแล้ว ผมมายืนอยู่หน้าบันไดแล้ว และกำลังจะก้ามขึ้นบันไดบ้าน
“บอกว่าเข้าไม่ได้ไง” ลุงฉุดมือผมไว้ ผมสะบัดเบาๆก็หลุด
“เอ้ย อะไรกันนักหนา ก็บอกแล้วว่าชั้นนัดคุณชั้นไว้” ผมกำลังจะก้าวเท้าเหยียบบันไดขั้นแรก



“หยุดอยู่ตรงนั้น!!!” แต่แล้วขาผมก็ค้างเติ่งอยู่กลางอากาศ

คุณชั้นยืนจ้องลงมาจากบนเรือน แววตาของเธอแสดงอาการไม่พอใจอย่างรุนแรง
“ใครอนุญาตให้เธอขึ้นมาบนเรือนนี้” เธอพูดน้ำเสียงเนิบๆ แต่ทำไมมันถึงได้ทรงพลังถึงขนาดห้ามควายโง่อย่างผมได้
“ก็ ก็ เรามีนัดกันไม่ใช่เหรอครับ” ผมถามส่งแววตาปิ๊งๆให้แกเห็นใจ พลางค่อยๆดึงขากลับมาที่เดิม
“ก็คุณชั้นบอกว่าจะสอนผมทำอาหารไม่ใช่เหรอ ผมก็มาทำอาหารนี่ไง”

“ที่นี่......เราทานอาหารเช้ากันหลังพระบิณฑบาต”

คุณชั้นเธอหมายถึงว่า ผมจะมาทำซากอะไรเอาตอนนี้ สายขนาดนี้แล้ว ที่บ้านหลังนี้เขาทานข้าวเช้ากันเช้าตรู่

“อ่าว ก็ผมไม่รู้นี่ อะ ไม่เป็นไร ผมไปรอบนบ้านก็ได้ รอสอนตอนเที่ยงเลยทีเดียว”  อีกครั้งที่ผมยกขาจะเหยียบกระได
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ”  อีกแล้วววววว  อะไรอีกหล่ะทีนี้ “ถ้าเธอจะรอให้ชั้นสอนตอนเที่ยง ก็ได้ ชั้นจะให้เธอรอที่นี่”  เธอยิ้มเหยียดๆเหมือนแม่นางร้ายเลย “แต่ไม่ใช่บนเรือนหลังนี้”
“อ้าว แล้วจะให้ผมไปรอที่ไหนหล่ะ” ผมตะโกนถาม มองเธอจนเมื่อยคอ

“ไปรอที่เรือนครัวกระนู้น” เธอชี้ไปที่เรือนทำครัว “แล้วนั่งรอบนเตาก้อนห้ามขยับ จนกว่าชั้นจะลงไปทำสำรับเที่ยง หากแม้นว่าชั้นเห็นเธอขยับแม้แต่น้อย อย่างหวังว่าชั้นจะสอนเธออีก”

ผมมองไปที่เรือนครัว มองหาเตาก้อนที่ว่า แล้วภาพที่เห็นก็คือ ภาพ ก้อนหินสามก้อนวางเป็นสามเส้าบนพื้นดิน เพื่อเอาไว้รองกะทะ หรือหม้อใบใหญ่ๆแทนเตาอั้งโล่ ไว้หุงข้าว ไว้แกงทีละเยอะๆ เขม่าดินสีดำติดเต็มไปหมด ตรงกลางเตาก้อนนั้นเต็มไปดูดซากไม้ฟื้นที่ไหม้ดำ รวมทั้งขี้เถ้าถ้วย กูแต่งตัวมาหล่อขนาดนี้ จะให้ไปนั่งตำแตงอะไรอยู่ตรงนั้น

“หา!!! จะให้ผมไปนั่งบนก้อนนั่นน่ะนะ”
“ใช่ ทำได้หรือไม่ หากไม่ได้ ก็ไม่เห็นความจำเปนต้องเรียน” คุณชั้นว่าก่อนที่จะหันหลังหายเข้าเรือนไป

ผมหันซ้ายหันขวา จะเอายังไงดี จะกลับก็กลัวเสียฟอร์มครั้นจะให้ไปนั่งแช่อยู่บนก้อนหินนั้นก็แมร่งลำบาก โคตรร้อน
“ชั้นว่าเธอกลับไปเสียเถอะ เสียเวลาเปล่า” เสียงคุณชั้นตะโกนแว่วมาแต่ไกล

ผมได้ยินดังนั้นก็เกิดแรงฮึดขึ้นมาทันที ด่ากันได้ ตีกันได้ แต่อย่ามาดูถูกคนอย่างผม เรื่องแค่นี้ทำไมผมจะทำไม่ได้

“ชิส์ ก็แค่นั่งรอ” ว่าแล้วผมก็เดินดุ่มไปที่เตาก้อน เลิกก้อนที่นั่งถนัดที่สุด หย่อนตูดลง แล้วถอนหายใจ

“เห้อ.......................” ตอนนั้นไม่รุ้ว่ากี่โมง รู้เพียงแต่ว่าตะวันยังเพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้ามาไม่นาน อีกตั้งนานกว่ามันจะตรงหัว แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็จะรอ.............
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” ผมว่า

ออฟไลน์ DarKLasT

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
คุณชั้นนี่สุดๆเลย อย่างกับในหนังกำลังภายในที่กว่าจะยอมรับศิษย์ได้ ต้องพิสูจน์ความอดทนก่อน

ออฟไลน์ หัวเเม่มือ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 804
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
กว่าจะได้เรียน มาให้กำลังใจ  :L2:
+1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2011 18:06:24 โดย Little Devil »

lazewcielo

  • บุคคลทั่วไป
โห คุณชั้นเฮี้ยบมากเลยยยยยยยย

ออฟไลน์ gingivalis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ว๊าวๆๆๆ...สนุกน่าตื่นเต้นมากเรยยค๊าบๆๆๆ....รีบๆๆมาต่อเน้อออ :oo1:

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
ลำบากน่าดูกว่าจะได้เรียนกับคุณชั้น

ออฟไลน์ วิหคท่องนภา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
คุณชั้น!!! ฮ่าๆๆ  มาดเจ๊แกสุดยอดอ่ะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ปากคอและพฤติกรรมนายเอกได้รับการพัฒนาไปบ้างแล้ว
เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ  คุณหมอ พอจะรับได้แล้วใช่มั๊ย
เหลือแต่เข้าใจอะไรยากอยู่เหมือนเดิมนี่แหละเจ้าค่ะ
คุณหมอต้องพยายามเอาหน่อยนะเจ้าคะ  บ่าวเอาใจช่วย

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เหอๆๆๆ นึกว่าจะได้เรียนง่ายๆ
สู้ๆเนาะ

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Sakana2yunjae

  • บุคคลทั่วไป
จะรอดไหมเนี้ย เรียนทำอาหารเนี้ย หึหึ มาต่อไวๆๆนะคะ

ออฟไลน์ Goodfellas

  • magKapleVE
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1828
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +384/-2
    • Adult games: dating for spicy meetups
อิอิ บทเรียนต่อไปต้องฝึกสะบัดกระทะ โดยใส่หินร้อนๆอะไรยังงี้รึเปล่าครับ

แบบอากิยามะ จาง จอมโหดกระทะเหล็กอ่ะ

แต่ก็นั่นแหละ  เค้าคงอยากดูความตั้งใจของนายอัชน่ะนะ  เพราะวิชาสำคัญๆอย่างนี้สอนกันง่ายๆ  คนเรียนก็จะไม่เห็นคุณค่า

ว่าแล้วก็อยากไปเรียนกับคุณชั้นบ้างนะครับ  o13

donkyxx

  • บุคคลทั่วไป

kingphai

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากเลยคับบบ
สุดยอดดด
สงสารหมอปีย์อ่ะ
จะได้ตามมาปัจจุบันป่าวอ่า
แต่...
อ่านไปอ่านมาคิดถึงรุ่นน้องคนหนึ่ง
...นศพ...
หมอชื่อนี้มีจริงครับบ

littleFiNgeR

  • บุคคลทั่วไป
ปอได้เรียนทำอาหารแล้ว อิอิ

kihaezzzzzz

  • บุคคลทั่วไป
ค้าง งง  รีบมาต่อนะคะ



ทำไมคุณชั้นใจร้ายจังเลยนะ

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ก่อนเจอกับบทเรียนบทแรก  ต้องมีPre-testก่อนค่ะน้องน็อต
ว่าด้วยเรื่องความตั้งใจจริง และความอดทน
เห็นปะคะว่าคุณชั้นน่ะใช้วิธีการสอนทันสมัยเชียวแหละ

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook

LifeTime

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด