A moment in Siam กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม [แจ้งข่าวจ้า] P.111
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: A moment in Siam กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม [แจ้งข่าวจ้า] P.111  (อ่าน 1118496 ครั้ง)

ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
ชงโคโหดมาก ขอให้เธอมีบทสุดท้ายโหดเลย

ออฟไลน์ CheeTah

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
อ่าวว จบตอนแล้วหรอเนี่ยย กลังเพลินเลย ลุ้นมากๆ เฮ้อออ ได้ข่าวว่าอัชย์กับหมอปีย์เค้ามาเที่ยวกันไม่ใช่หรอ ไหงเจอแน่เรื่องร้ายๆอ่ะ เส้า TOT

Piloy

  • บุคคลทั่วไป
เธอช่างโหดร้ายอะไรเยี่ยงนี้ ToT

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ชงโค.....ชั่ว!!!!
ใจร้ายชะมัดเลย
แต่หมอปีย์กับอัชย์หนีออกมาได้แล้วใช่มั้ย T^T
สงสารป้าหนูกับจันทร์จัง

ออฟไลน์ tartar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เป็นการกระทำที่กระทบจิตใจสุดสุด รอตอนต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ Anonymus

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-1
ในที่สุดจันทร์ก็เป็นอิสระเสียที ไม่ต้องทนทรมานอยู่กับคนโหดร้าย เลวร้ายเหล่านี้ กรรมมีจริงและคงไม่นานต้องสนองคนแบบชงโคอย่างรวดเร็วถึงใจแน่

พ่ออัชย์ก็รีบๆพาหมอปีย์หนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้เห้อ  อย่าปล่อยให้ความเสียสละของป้าหนู และจันทร์ต้องสูญเปล่าเพราะมัวแต่เสียใจเลย

brownie

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดก็ตามทัน สักที
อยากจะบอกคนเขียนว่า อ่านเรื่องนี้แล้วเหมือนคนบ้าเลยคะ
หัวเราะ ร้องไห้ ไปกับตัวละคร มีความสุข เศร้า อิน ไปกับบทเลย ชอบมากเลย
รีบมาอักต่อไวๆนะคะเป็นกำลังใจให้  :กอด1:

ออฟไลน์ iota

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
ยัยชงโค ยังมีความเป็นคนหลงเหลืออยู่บ้างไหม
จิตใจแกต่ำกว่า ป้าหนูแม่ครัวหรือแม้แต่จันทร์คนบ้าใบ้เสียอีก
อ่านแล้วแค้นใจแทน :fire:
พ่ออัชย์กับหมอปีย์ยังต้องผจญภัยเจออะไรอีกล่ะนี่
คิดว่าจะได้หวานใส่กันตอนมาเที่ยวทะเล
กับเจอเหตุกราณ์สยองปนเลือดเข้าให้

กด+ "หมอปีย์เป็นของข้า" เจอประโยคนี้ของพ่ออัชย์เข้าไป หมอปีย์สติกลับคืนมาทันใด

ออฟไลน์ Isuru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ค้างงงงงงงง มากมายเลยค่ะ
หมอปีย์แกล้งบ้า ใช่รึไม่
รอคำตอบตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ shiawase

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
อิชงโค  อิเลวววววววววววววววววววววว  ทำได้แม้กระทั่งกับคนบ้า 

 เดี๋ยวมันจะต้องบ้าตามแถมไม่ตายดีอีก  ไหนจะป้าหนูอีก  ป้าจ๋าาาาาาาาาาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
บีบอารมณ์สุดๆ  :เฮ้อ: ชงโค นี่จะตายดีมั้ยนะ

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
หมอจำได้แล้วใช่ไหม
หรือว่าแค่ทำเป็นลืม

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ความผิดครั้งนี้ จัดกุดหัวหมดโครต ก็ไม่สาสม ( หิ หิ .... อินจัด )
มาช่วยกันลุ้นต่อไปว่า เจ้าอัยช์ กับหมอปีย์ จะรอดเงื้อมือ อันโสมมนี้ได้อย่าไงกัน
+ 1 ให้คุณนนท์ นำพาเจ้าอัยช์กับหมอปีย์กลับพระนครอย่างปลอดภัย  :z2:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โหดเหี้ยมได้อีกคุณชงโค

wordpdf

  • บุคคลทั่วไป
ดาร์กอย่างแรง...คุณชงโคโหดว่าคุณโมรีหลายเท่านะนี่

LifeTime

  • บุคคลทั่วไป
 o22
เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนกันหรือไรนี่...สมัยนั้นเป็นแบบนี้จริงหรือแค่นิยาย  :เฮ้อ:
เอาใจช่วยหมอกับพ่ออัชย์ให้หนีพ้นไปโดยไว... :call:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
อ่านจบตอน....
ทำเอาซึมเลย

MokGaLaKom

  • บุคคลทั่วไป
นังชะนีหน้าปลวก แกเป็นตัววรนุชกลับชาติมาเกิดชัดๆ
พ่ออัชย์พาหมอหนีไปให้ได้นะ

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2


 “กลับบ้านเถอะลูก ปอ กลับบ้านเถอะลูก” เสียงของแม่เรียกร้องให้ผมกลับบ้านดังอยู่ในหัว รอบๆตัวมีแต่ความมืด มีเพียงแต่เสียงแม่เท่านั้นที่นำทางให้ผม
“แม่  แม่”
“กลับบ้านเราเถอะลูก กลับบ้าน”
“ยังก่อนแม่ ขอปออยู่ก่อน ขอปออยู่ที่นี่ก่อนนะแม่นะ”
“แม่ แม่” ผมสะดุ้งเฮือกตื่นขึ้นมา สายตาทอดยาวขึ้นมอง ภาพแรกที่เห็นคือ ใบไม้รกคลึ้มเขียวขจี สายลมพัดแผ่วเบาจนทำให้ใบไม้ไหวไปมาตามลม
ผมตั้งสติครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
เราว่ายน้ำหนีบ่าวเรือนพระยาบริรักษ์ ผมพาหมอปีย์วิ่งเข้าไปในป่ารก แล้วก็ เกิดอะไรขึ้นจากนั้น
“อ้อ” ผมร้องเมื่อนึกเหตุการณ์ออก หมอปีย์ล้มฟาดกับรากต้นไม้ใหญ่จนหมดสติไป จากนั้นผมก็จับหมอปีย์ขี่หลังแล้วพาวิ่ง วิ่ง และก็วิ่งโดยที่ไม่รู้เจ็บ รู้ปวด รู้เมื่อย รู้ล้า เหงื่อหยดแล้วหยดเล่าไหลปร่าราวกับน้ำหลาก ผมลิ้มรสเหงื่อตัวเองและยังจำรสชาติเค็มปะแหล่มๆนั้นได้ดี
“หมอปีย์” ผมมองไปข้างๆ ภาพชายคุ้นตานอนสลบไม่ได้สติ
“หมอ หมอ” ผมสะกิดเขาเบาๆ “หมอ”








“ฮืออออออออออออ”
หมอปีย์ครางในลำคอเบาๆ เขาหรี่ตาด้วยความเจ็บปวด ริมฝีปากเผยอน้อยๆ ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมา
ทันทีที่เขาลืมตาเห็นผม หมอปีย์ก็แน่นิ่งราวกับพยายามครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“หมอ จำชั้นได้มั๊ย” ไม่มีความหวังในน้ำเสียงของผมหรอก ผมแค่ถาม เผื่อที่ว่าโชคชะตาอาจเลิกเล่นตลกกับเราแล้วก็ได้
.
.
.
.
.
.

เขาไม่ตอบ เอาแต่จ้องมองผม

ตอนนั้นใจผมฝ่อเหลือเท่าเม็ดถั่ว เมื่อคืนหลังจากที่หมอนั่นล้มหัวฟาด สลบไม่ได้สติ นั้น ใกล้รุ่ง เขาส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ถ้าผมจำไม่ผิด ถึงมันจะลางเลือน แต่ผมก็จำได้ว่าเป็นเสียงร้องของเขาแน่ๆ ถ้าเพียงแต่ผมมีแรง ผมคงลุกขึ้นดูแลเขา แต่นี่ แม้แต่จะขยับตัวผมยังทำไม่ได้ จึงต้องปล่อยให้หมอนั่นร้องครวญครางไปตามยถากรรม นี่หากหมอปีย์จำอะไรไม่ได้และเกิดอาการเลวร้ายลงกว่าเดิม แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป
อุตส่าห์หนีออกมาจากเรือนพระยาบ้านั่นได้แล้วเชียว
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจ แต่ยังไม่ทันจะสุด มือของหมอปีย์ก็ยกขึ้นมาแตะใบหน้าผมอย่างแผ่วเบา จนผมสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่คุ้นเคย

“พ่อ..............................” คำพูดคำแรกนั่นทำให้ผมใจสั่น


“พ่ออัชย์ของข้า”

ผมอ้าปากค้าง แววตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความปิติ ริมฝีปากยิ้มด้วยความดีใจ ในที่สุด ในที่สุดหมอปีย์ก็กลับมา
“หมอ”
ผมโผเข้ากอดหมอปีย์แน่นอย่างลืมตัว ไม่คิดอะไรอีกแล้ว ณ วินาทีนั้น รู้แต่ว่าที่ผ่านมา คืนวันที่หมอปีย์ไม่อยู่ ผมทุกข์ทรมานมากแค่ไหน โดดเดี่ยวและไร้จุดหมายมากแค่ไหน การที่ต้องมาอยู่ในภพภูมิที่ไม่คุ้นเคยตัวคนเดียว ก็เหมือนกับจิตวิญญาณลอยเคว้งขว้างอยู่กลางมหานที มันช่างเดียวดายจนยากเกินที่ใครจะเข้าใจ

“หมอกลับมาแล้ว” เสียงผมอู้อี้

น้ำตาแห่งความตื้นตันไหลไม่ยอมหยุด เป็นครั้งแรกที่ผมร้องไห้แบบนี้ แต่ผมไม่สามารถหยุดน้ำตาเหล่านี้ได้จริงๆ นำ้ตาที่ผสมปนเปความรู้สึกต่างๆไม่ว่าจะเป็น ดีใจ โล่งใจ หมดกังวล และอีกหลายความรู้สึก

“เราอยู่นี่แล้ว พ่ออัชย์”

 หมอปีย์คงตกใจไม่น้อยที่เห็นผมเป็นแบบนี้ ปกติเขาเห็นผมเป็นพวกแข็งกร้าว เมื่อเจอแบบนี้หมอนั่นก็ใจคอไม่ดีไปเหมือนกัน
“เราเป็นอะไรไปรึ พ่ออัชย์ แล้วเราอยู่ที่ไหน บ่าวไพร่คนอื่นหล่ะ” คำถามมากมายหลั่งไหลออกมาจากปากหมอปีย์ แต่ผมไม่สนใจที่จะตอบมันแม้แต่น้อย สุขใจแค่เพียงได้กอดหมอปีย์คนเก่าที่จากไปเสียเนิ่นนานแบบนี้มากกว่า

“พ่ออัชย์” เขาเรียกชื่อผม “ปล่อยเราสักประเดี๋ยวเถิดพ่อ เราหายใจไม่ออก”
ผมได้สติ ค่อยๆคลายเขา ก่อนจะปาดน้ำตาแล้วมองหน้าเขาอีกครั้งให้เต็มตา
“เอ้ย ขอโทษว่ะ ดีใจนะเว้ยที่กลับมาได้ซะที เล่นเอาชั้นแทบแย่” ผมตบบ่าหมอปีย์แก้เขิน


เขายิ้มตอบก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง ยกมือเช็ดน้ำตาที่ไหลนองหน้าของผม
“ร้องไห้เป็นเด็กๆไปได้พ่ออัชย์” เขายิ้มอย่างเอ็นดู รอยยิ้มอุ่นละไมแบบนี้กลับมาแล้ว รอยยิ้มที่เป็นดั่งดวงอาทิตย์ยามเหน็บหนาว เป็นจันทรายาวมืดมน ไม่มีวันที่ผมเบื่อรอยยิ้มอาทรนี้
 
“ใช่นายจริงๆใช่มั๊ยหมอ” ผมถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เพื่อไม่ให้ภาพคนที่เห็นเบื้องหน้าเป็นแค่.....ความฝัน

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
 :mc4: :mc4: :mc4:หมอกลับมาแล้ว.....

+1... 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
สั้นไปมั้ยพ่อคุณ  :z10:

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
“ใช่สิพ่อ”เขายิ้มอีกครั้ง “หิวน้ำเสียจริง ที่นี่พอจักมีน้ำให้เราประทังความกระหายได้หรือไม่” เขาพูด ก่อนจะพยายามลุกขึ้น
“อย่าเพิ่งลุก หมอรออยู่ที่นี่แหละ เดี๋ยวชั้นจะไปหาน้ำมาให้นายเอง” ผมยิ้มอย่างสุขใจ
“ต่อไปนี้นะหมอ” ผมจับมือเขาอย่างไม่เคอะเขิน “ชั้นจะเป็นคนดูแลนายเอง หลวงพินิจ”
เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้





 ที่ที่เราหนีออกมานั้นเป็นป่าโปร่งมีต้นสนและหูกวางแซมริมเขาลูกหนึ่ง ผมเดาเอาว่าเราคงจะหนีออกมาไกลพอสมควรทีเดียว เพราะตอนนี้ ป่าเหล่านี้เริ่มที่จะบางตาลงเรื่อยๆ และดินละแวกนี้ก็เริ่มบอกให้เรารู้ว่าเราอยู่ใกล้ชายทะเลมากขึ้นทุกที
“เราจะเดินไปไหนกันหมอ” ผมถาม พลางขยับห่อเสบียงและเสื้อผ้าขึ้นสะพายบ่า
“ออกไปหาทะเลกัน ทันทีที่เราเจอทะเล เราจะเจอทางกลับเรือน”
“โห นายนี่เก่งนะ ความจำเสื่อมขนาดนี้ ยังจำได้”
“พ่ออัชย์” หมอปีย์เรียกชื่อผม “เล่าให้เราฟังทีเถิด ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง”
เมื่อหมอปีย์ร้องขอ เรื่องราวทั้งหมดจึงถูกผมเล่าไปตลอดทางระหว่างที่เรามุ่งหน้าออกสู่ชายทะเล


“ขนาดนั้นเลยรึ” หมอปีย์หัวเราะทันทีที่ผมเล่าเรื่องที่หมอนั่นพ่นข้าวใส่หน้าผม
“นี่ไม่ตลกนะเว้ย ชั้นไม่ถีบตกเตียงก็บุญเท่าไหร่แล้ว รู้รึป่าวว่านายน่ะ มันตัวป่วนเลยทีเดียว” ผมยีหัวหมอปีย์ด้วยความหมั่นไส้ เขาหัวเราะร่วน
“แล้วยังไงอีกพ่ออัชย์ เราอยากฟังอีก น่าขันดี”
“ชงโคเขาเข้าใจว่านายน่ะ ชื่ออัชย์ เพราะทันทีที่นายฟื้นขึ้นนายก็เพ้อเรียกแต่ เอ่อ เรียกแต่.......................”
“เรียกแต่ชื่อเจ้า” หมอปีย์พูดต่อจากผม
“ อืม ชงโคเขาก็เลยเรียกนายว่าพ่ออัชย์ๆ และก็หลอกนายว่านายเป็นผัว เอ้ยเป็นสามีเขา”
“หา!!!” หมอปีย์ทำหน้าตกใจ “แล้วหร่อนทำอันใดเรารึไม่พ่ออัชย์”
“จะทำอะไรได้ มีชั้นอยู่ทั้งคน ไม่มีใครพรากพรหมจรรย์นายไปไหนได้หรอก” ผมยิ้มอย่างภูมิใจ หมอปีย์เองก็ดูจะมีความสุขไม่น้อยที่ได้ยินแบบนี้
ผมจึงเริ่มเล่าเรื่องที่จับเขาไปอาบน้ำ ตอนที่ผ้าขาวม้าหลุด ตอนที่หมอปีย์แกล้งตาย
“เจ้าก็...............”หน้าหมอปีย์แดงขึ้นมาเหมือนลูกตำลึงทันที “เจ้าก็เห็น เอ่อ เห็น....หมดแล้วกระนั้นรึ”
“เออ” ผมตอบสีหน้าเรียบเฉย
หมอปีย์ไม่ตอบอะไร ก้มหน้าก้มตาเดินงุดๆ
“อายเหรอ” ผมกระเซ้า “ฮั่นแน่ๆ อายจริงด้วย” ก่อนจะหัวเราะชอบใจ “ไม่ต้องอายหรอกหมอ เรื่องเด็กๆ”
หมอปีย์เงยหน้ามามองก่อนจะอมยิ้ม
“เรื่องเด็กๆกระนั้นรึ หน็อย เจ้านี่มัน ร้ายกาจยิ่งนัก” ว่าแล้วหมอนั่นก็วิ่งไล่เตะผมด้วยความอาย









“ฟ้าหลังฝนมักสดใสเสมอ” คำพูดที่ใครๆมักพูดให้กำลังใจคนที่กำลังเผชิญหน้ากับความทุกข์ที่มืดครึ้ม ผมไม่เคยเข้าใจมันเลย จนกระทั่งวันนี้ ปัญหาต่างๆที่ผ่านมาไม่น่าเชื่อว่าผมจะผ่านมันมาได้ด้วยตัวของตัวเอง ในบางครั้งก็อดภูมิใจไม่ได้ว่านี่เราโตจนสามารถรับผิดชอบตัวเองจนกระทั่งรับผิดชอบชีวิตคนอื่นได้ด้วยหรือนี่
พ่อมักจะปรามาสผมเสมอว่าผมจะไปไหนไม่รอดหรอก สุดท้ายผมก็ต้องมาตายลงบนกองมรดกของครอบครัว และผลาญมันจนหมด
มาวันนี้ผมรู้แล้วว่าผมจะไม่เป็นเช่นนั้น ผมภูมิใจที่ฟ้าหลังฝนของผมวันนี้สดใส ดีใจที่วันที่สดใสวันนี้ มีหมอปีย์อยู่ใกล้ๆ


ผมไม่ได้เล่าเรื่องป้าหนูกับจันทร์ให้หมอปีย์ฟัง เพราะเห็นว่าเขายังไม่ควรจะมารับรู้เรื่องอะไรที่เลวร้ายตอนนี้ ป้าหนูกับจันทร์มีบุญคุณกับผมมาก การที่สองคนนั่นเสียสละชีวิตเพื่อช่วยพวกเรานั้น ยิ่งทำให้ผมซาบซึ้งและเข้าใจคุณค่าของคนที่รักและหวังดีกับเรามากขึ้น การสูญเสียคนที่เรารักและหวังดีกับเรา นับจากแดง ป้าหนู และจันทร์นั้น เป็นสิ่งที่ผมโทษตัวเอง โทษว่าทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นถ้าผมไม่มาที่นี่
สิ่งเดียวที่ผมจะทดแทนบุญคุณของพวกเขาได้คือ ผมจะทำในสิ่งที่ชะตาฟ้าลิขิตซึ่งเป็นอะไรก็ไม่รู้ให้ดีที่สุด และที่สำคัญ ผมจะไม่ลืมพวกเขา ไม่ว่าจะภพนี้หรือภพไหน



**มีต่อหน้า ๖๗
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2011 21:30:02 โดย เซ็งเป็ด »

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
โอ้ววววยังไม่อยู่ในระยะปลอดภัยใช่มั้ยเนี่ย...สู้ๆคุณเซ็งเป็ด

โอ้วววอ่านตอนล่าสุด ขณะนี้  น่าจะปลอดภัยแล้ว  ขอให้ถึงเรือนเร็วๆนะ  พ่ออัชย์  หมอปีย์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2011 21:19:04 โดย cancan »

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
ป้าข้างบนใจร้อนจริง ไม่ใช่สาวๆแล้วนะครับคุณป้า ใจร่มๆ มีต่อๆ :z2:

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4

fOnfOn :D

  • บุคคลทั่วไป
สั้นไปมั๊ยๆๆๆๆๆ   มาต่ออีกนิดเถอะค่ะ

แต่ว่าดีใจอ่าาาาาาหมอกลับมาแล้วววว 

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
พวกเรือนโรคจิตนั่น ยังจะตามมามั๊ยเนี่ย  o18

แต่ท่าทางอัชย์จะมาอยู่กับหมอนานไปแล้วแน่ๆ แม่ถึงขั้นเรียกแล้วง่ะ  o22

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
อ่านตอนนี้แล้วมีความสุขจังขอบคุณคุนเซงเป็ดมากๆๆ

 o13

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
“ปั่ก!!”
“โอ้ย หมอ เจ็บ” ผมแอ่นหลังซี๊ดปากทันทีที่ฝ่ามือของหมอนั่นฟาดลงบนหลัง
“เราขอโทษ เราขอโทษ หนักมือไปหน่อย” หมอปีย์ทำหน้าตกใจ
“เพื่อนเล่นเหรอ ห๊ะ ยอมหน่อยละเอาเชียว” โดนผมดุแบบนี้เข้า หมอนั่นถึงกับหน้าเจื่อน ผมกลั้นหัวเราะอยู่ครู่ใหญ่
ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา
“ล้อเล่น แหม ทำหน้าจะร้องไห้” เราทั้งคู่หัวเราะ


รอยเท้าของเราทั้งคู่ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อย่ำบนพื้นทรายขาวละเอียด ไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากชายสองคนที่เดินเคียงข้างกันไปยังจุดหมายที่ ณ ตอนนี้เรายังไม่รู้้เลยว่ามันอยู่ไหน รู้เพียงแต่ว่าจุดหมายจะเป็นยังไงก็ช่าง ขอแค่ข้างๆของเรานั้น
มีกันและกัน................ก็พอ



“หมอ ร้อนเน๊อะ” ผมพูดในมือถือกิ่งไม้หวดอากาศไปมา “ถ้ามีน้ำแข็งใสขายก็คงจะดี” แดดยามบ่ายของที่นี่ค่อนข้างร้อนระอุ เหงื่อซึมไหลเป็นทาง แต่ยังดีที่ลมทะเลช่วยพัดพาลมเย็นๆมาบ้าง
“น้ำแข็งกระนั้นรึ” หมอปีย์ทำท่าครุ่นคิด “ที่นี่จักไปหาน้ำแข็งได้จากหนใด สยามสั่งน้ำแข็งมาจากสิงคโปร์เท่านั้น”
ผมหันหน้าขวับไปมอง ก่อนจะถอนหายใจอย่างหมดแรง

“สั่งน้ำแข็งไปตอนนี้ กว่าจะได้กิน ไม่ละลายหมดแล้วเหรอ”
“ไม่ดอก เขาอัดมาใต้ท้องเรือ เอาแกลบ ขี้เลื่อยโรยทับอีกหลายชั้น” หมอปีย์อธิบาย “แต่เราไม่ยักกะชอบน้ำแข็ง กินแล้วเสียวฟัน สู้น้ำโอ่งน้ำฝนเรามิได้ดอก”
“คนแก่ก็งี้แหละ นี่รู้เปล่าที่บ้านเมืองชั้นนะ เรามีเครื่องทำความเย็น  มีตู้เย็น ทุกอย่างต้องเย็น แตงโมแช่เย็น น้ำแช่เย็น หมู ไก่ ไข่ แม้แต่คนยังอยู่ในห้องเย็นๆเลย” ผมพูดข่มมือก็หวดอากาศไปเรื่อย
“บ้านเมืองเจ้านี่ดีนัก บ้านเมืองเราอยากกินแตงโมเย็นๆก็เอาแช่ตุ่ม อยากกินน้ำเย็นก็ตักในโอ่งน้ำฝน หมู ไก่ คลุกเกลือตากลมไว้กินได้หลายวัน นี่แหละบ้านเมืองเรา”
“ไว้ว่างๆชั้นจะพานายไปเที่ยวบ้านชั้นนะ รับรองนายจะต้องร้อง โอ้โฮ นี่หรือบางกอก ผิดกับบ้านนอกตั้งหลายศอกหลายวา” ผมร้องเพลงพุ่มพวงพอถูๆไถๆ แต่ก็ทำให้หมอนั่นหัวเราะออกมาได้



“นายปวดหัวบ้างหรือเปล่า”
เขาส่ายหน้า
“หิวข้าวมั๊ย”
ส่ายหน้า
“หิวน้ำรึเปล่า”
ส่ายหน้า
“เมื่อยมั๊ย ร้อนมั๊ย”
หมอปีย์ไม่ตอบเอาแต่ส่ายหน้า แต่คราวนี้มีรอยยิ้มเปื้อนมาด้วย
“เราดีใจนะ ที่เจ้าเป็นห่วงเรา”
“ชั้นก็ดีใจ ที่เป็นห่วงใคร...................เป็นกับเขาซะที” ผมยิ้มตอบกลับ



รอยเท้าของเราเคียงคู่บนหาดทรายสีขาว ร่องรอยเหล่านั้นกลายเป็นอดีตไปเพียงแค่เสี้ยววินาที อดีตที่ชัดเจนนั้น ช่างแตกต่างกับอนาคตของเราที่เป็นเพียงเงาที่พาดผ่านลงบนหาดทราย....เท่านั้น








ตะวันคล้อยหลังเรามามากแล้วเงาของเราทั้งสองทอดยาวออกไปจนเกือบมองไม่เห็น อากาศที่เคยร้อนอบอ้าวเมื่อครู่กลับถูกแทนที่ด้วยไอเย็นจากลมทะเลที่หอบเอากลิ่นทะเลอ่อนๆลอยมาตามลม หมอปีย์บอกผมว่าถ้าเราเดินเลียบชายหาดไปจนสุดทาง เราจะเห็นภูเขาเตี้ยๆอีกลูก และที่ชายเขานั้นเองจะเป็นบ้านพักตากอากาศของหมอจรัส
ผมนั้นไม่แน่ใจนักว่าที่นั่นจะปลอดภัยมากแค่ไหน เพราะคนของพระยาบริรักษ์อาจตามเรามาได้ทุกเมื่อ แต่เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้แล้ว เรายังไม่เห็นวี่แววคนของพระยา เราก็เลยคิดว่าพวกเขาคงเลิกล้มแผนการณ์ที่จะติดตามเราแล้วก็เป็นได้

“เจ้าว่ามันจักผิดวิสัยหรือไม่ที่ ผู้ชายสองคนจักอาศัยนอนในห้องเดียวกัน” หมอปีย์ถามเล่นเอาผมไปไม่เป็น
“คงไม่มั้ง ก็เราเอ่อ” ผมอ้ำอึ้งที่จะพูดคำหลังจากนี้ “บริสุทธิ์ใจต่อกันไม่ใช่เหรอ”
“คงงั้นกระมัง” เข้าอ้อมแอ้ม
“ชั้นได้ข่าวมาว่า สมัยนายผู้ชายกับผู้หญิงเขาไม่อยู่ด้วยกันสองต่อสองเหรอ” ผมถามเพราะเคยอ่านในหนังสือประวัติศาสตร์มา
“เป็นเช่นนั้น ชายหญิงมิบังควรอยู่ด้วยสองต่อสองในที่ลับตาคน”
“งั้นนายเคยจับมือผู้หญิงป่าว”
“พูดกระไรเยี่ยงนั้น” ใบหน้าหมอปีย์แดงก่ำ ราวกับสาวแรกรุ่น
“อย่าบอกนะ ว่าโตขนาดนี้ยังไม่เคยได้จับนมผู้หญิง” ผมรุกหนัก
“เจ้านี่มัน บ้าเสียจริง” เขามองซ้ายขวา “เรื่องเยี่ยงนี้มิควรนำมาพูด มันไม่งาม”
“โห ไม่งามอะไรกันหมอ ไม่มีใครสักหน่อย เราก็ผู้ชายทั้งคู่ ไม่มีใครว่าหรอก”
“สมัยเราเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องต้องห้าม สตรีมิควรออกนอกเรือนนอกห้องตัวเอง มิควรแวะเวียนเรือนชายอื่น มิควรชะม้ายชายตาทอดสะพานให้ชายอื่น เรื่องจักมาถูกเนื้อต้องตัวยิ่งเป็นไปมิได้” เขาก้มหน้าก้มตา
“ส่วนบุรุษเพศนั้นก็ควรให้เกียรติสตรี เราจักไม่แสดงออกในเรื่องชู้สาว มิฉกฉวยล่วงเกินสตรีให้เสียหาย แม้แต่เป็นสามีภรรยาก็จักไม่ประพฤติตนรุ่มร่ามให้ชาวบ้านติฉินนินทาเอาได้”
“โห อะไรวะ ถามแค่นี้ตอบซะยาวเชียว ชั้นไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้นหรอก ชั้นแค่อยากรู้ว่านายเคยจับเนื้อตัวผู้หญิงบ้างมั๊ย”
ผมยังไม่ลดละความพยายาม
หมอปีย์ก้มหน้านิ่งไม่ยอมพูด ผมจึงหยุดไม่ยอมเดินเช่นกัน
“ถ้านายไม่ตอบนะหมอ ชั้นจะไม่เดิน จะนั่งมันตรงนี้แหละ” ผมทรุดตัวลงนั่งกับพื้นทราย หมอปีย์หันหลังกลับมามอง เขาส่ายหน้าด้วยความเอือมระอา
“เจ้านี่มันรั้นเสียนี่กระไร เฮ้อ” เขาถอนหายใจ “แต่เหตุอันใดเราถึงต้องยอมเจ้าอยู่ร่ำไป” ว่าแล้วเขาก็นั่งลงข้างๆ
“เราเป็นหมอ เจ้าอย่าลืมสิ” เขาเอ่ยปากพูด
“เป็นหมอแล้วไง”
“เราแตะเนื้อต้องตัวสตรีมานักต่อนัก ทั้งหญิงสาวชาวบ้าน ข้าทาส นางใน ด้วยความสัตย์จริงเรามิเคยรักใคร่สิเน่หาพวกนางเหล่านั้นเลย”
“เหรอ” ผมทำตาโต
“แต่เจ้าอยากรู้หรือไม่ ว่าผู้ใด ที่ทำให้จิตใจของข้าโลดแล่นเหมือนโคถึก”
เขาเว้นจังหวะหายใจ
“ทุกครั้งที่เราเห็นใบหน้าเขา เห็นแววตาของเขา ริมฝีปากของเขา อยู่ใกล้เขาจนลมหายใจเราสัมผัสกัน เมื่อเนื้อกายสัมผัสเนื้อกายกันและกัน เมื่อนั้นจิตใจของเรากลับร้อนรุ่มเหมือนอยู่ในเพลิงแห่งความสุข” แววตาของหมอปีย์เหม่อมองออกไปนอกทะเลสุดสายตา
“จนเราแทบอยากจะหยุดหายใจ”
....
...
......
....
.....
......
เสียงคลื่นกระทบฝั่งเป็นจังหวะพร้อมๆกับที่เสียงของหัวใจผมเต้นตึกๆอยู่ภายใน ผมพยายามสงบพายุที่อยู่ในใจผมที่ตอนนี้กำลังคลุ้มคลั่งด้วยน้ำคำที่แสนจะเชยเฉิ่ม แต่เพราะเหตุใดคำพูดเหล่านั้นถึงทำให้ผมนั่งแทบไม่ติด
“เจ้าจะไม่ถามหรือว่าเขาผู้นั้นเป็นใคร” เขาหันมามองหน้าผม
ผมเหล่ตาไม่กล้าสบตาหมอปีย์ เพราะกลัว กลัวว่าจะไม่สามารถควบคุมพายุที่อยู่ในใจได้อีกต่อไป
“ไม่เห็นจะอยากรู้สักหน่อย” ผมตอบ
หมอปีย์นิ่งไปครู่หนึ่ง ส่วนผมนั้นเงยหน้ามองฟ้าสุดหายใจลึกๆเข้าปอด ผมไม่อยากรู้ ไม่อยากคิดไปเองว่าคนที่หมอนั่นพูดจะเป็นผม เพราะหากเกิดไม่ใช่ขึ้นมา ผมกลัว กลัวว่า ผมจะต้องเสียใจ


“เราไปนะ” จู่ๆหมอปีย์ก็ลุกขึ้นปัดเนื้อตัวแล้วเดินไปหน้าตาเฉย ทิ้งให้ผมนั่งแกร่วอยู่ลำพัง
แต่ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นเดินตามหมอปีย์ไป สายตาพลันเหลือบไปเห็นพื้นทรายที่ที่หมอนั่นนั่ง

“เจ้านั่นแหละ เจ้าบ้า” ลายมือขยุกขยิกปรากฏขึ้นบนพื้นทราย ผมอ่านมันซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ ก่อนจะค่อยๆเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว


“หมอ รอด้วยสิวะ”

takkie

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจมากครับที่ได้อ่านต่อ
ผมจะติดตามจนกว่าจะจบนะครับคุณเซ็งเป็ด คูณก็อย่าหายไปนานนักล่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด