A moment in Siam กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม [แจ้งข่าวจ้า] P.111
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: A moment in Siam กาลครั้งหนึ่ง ณ สยาม [แจ้งข่าวจ้า] P.111  (อ่าน 1118329 ครั้ง)

ออฟไลน์ dragonnine

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-16
ช่าย...... ปล้ำไปเลยหมอ
แค่พูดออกมาจากความรู้สึกแค่นี้ก็ไม่ได้

เจ้าชายแกงจืด

  • บุคคลทั่วไป
อ๋อยยยยยยยยย เขินง่ะ  ไม่ไหวล่ะ  :impress2:

ด่วนๆเลยคับที่รัก รออยู่

topsupparit

  • บุคคลทั่วไป
เขินอ่ะ หมอปีย์น่าร๊ากกกกกกกกกกกกก   :impress3:

eat2tea

  • บุคคลทั่วไป
เพลานี้หมอปีย์และพ่ออัชย์ มิควรชักช้า ถ้าคำแก้วตามมา จักลำบาก

รออ่านตอนต่อไปอยู่น่ะคับพี่เป็ด  :z13:


ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ใครจะบอกความในใจก่อนกันก็ไม่รู้นะคับ

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2

ในที่สุดเราทั้งสองก็ถึงจุดหมาย นั่นคือเรือนหมอจรัส อาจคลาดเคลื่อนไปหลายวัน แต่เราก็มาถึง
เรือนตากอากาศของหมอจรัสเป็นเรือนไม้ยกใต้ถุนสูงตามแบบบ้านเรือนไทยของภาคใต้ หลังคาทรงจั่วที่ลาดเทมากกว่าปกติ  ตัวบ้านโปร่งลมพัดเข้าออกได้รอบทิศ ลวดลายรอบบ้านล้วนแต่ฉะลุโปร่งเป็นลายกนกไม้ลวดลายวิจิตรสวยงาม ข้างๆบันไดมีต้นเล็บมือนางเลื้อยเลาะไปตามระเบียง ส่งกลิ่นหอมในเวลาเช้าพร้อมดอกสีขาว แต่เมื่อสายดอกจะค่อยๆเข้มขึ้น จนกลายเป็นสีแดงสดในบ่ายแก่จัด
 ผมจำได้ เพราะเมื่อก่อน บ้านของยายหนูวาดมีต้นเล็บมือนางปลูกไว้ที่ศาลาริมรั้ว ยายหนูวาดมักจะเอาดอกเล็บมือนางมาเสียบร้อยยาวเป็นสร้อยให้ผมคล้องคอทำเป็นสร้อยบ้าง กำไลบ้าง


ขณะที่เรามาถึงเรือนหมอจรัสนั้นก็เย็นย่ำแล้ว แต่ยังพอมองเห็นรอบๆบ้านที่ขนาบด้วยต้นมะขามใหญ่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงา ดอกพุดซ้อนสีขาว ตัดกับดอกชบาและดอกเข็มสีแดง
ผมยืนมองเรือนหลังนั้นด้วยความดีใจ ที่ในที่สุดเราก็ไม่ต้องระหกระเหเร่ร่อนอีกต่อไป

อยากให้พ่อกับแม่มาเห็นบ้านหลังนี้ และบรรยากาศของที่นี่ บางทีท่านอาจอยากยอมให้บ้านโดนยึด ร้านอาหารโดนโกง ทรัพย์สมบัติร่อยหรอหายไป เพื่อที่เราจะได้ครอบครัวกลับคืนมา

ผมยังจำความรู้สึกตอนที่รู้ว่าบ้านเรากำลังล้มละลายได้ดี มันไม่เชื่อหูตัวเองเป็นอย่างแรก และไม่เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง ผมเกิดมาก็มีเงินใช้ไม่ขัดสน แล้ววันหนึ่ง เราจะไม่มีอะไรเลย มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองต้องอยู่ต่อไปไม่ได้แน่ๆ สังคมวัตถุนิยมเหล่านั้นยอมรับเฉพาะคนมีเงินตราเป็นอาวุธเท่านั้น พวกเขานับถือคนมีเงินว่าเป็นคนดี คนมีเกียรติ และจะได้รับการปฏิบัติดั่งพระราชา
แล้วหากวันหนึ่งผมไม่มีเงินขึ้นมา .....................ผมจะเป็นยังไง


แต่มาวันนี้ วันที่ผมยืนอยู่หน้าบันไดเรือนตากอากาศหลังนี้กับหมอปีย์ เมื่อนึกย้อนกลับไป ผมกลับเห็นว่า ช่างน่าขันสิ้นดี ทำไมผมถึงได้สิ้นหวังกับวัตถุที่เมื่อเวลาผ่านไปมันก็แค่กระดาษ
“คิดอะไรอยู่รึ” หมอปีย์เดินมาถามขณะที่กลับมาจากสำรวจความเรียบร้อยรอบเรือน
“ปล่าว ชั้นคิดถึงแม่น่ะ ถ้าแม่อยู่ที่นี่กับชั้น ท่านคงชอบ” หมอปีย์แตะบ่าเผาอย่างปลอบประโลม แต่ผมรู้ว่าที่เขาไม่พูดอะไรไม่ใช่ว่าไม่อยากพูด เพียงแต่เขาไม่รู้จะพูดอย่างไรในเมื่อตัวเองไม่เคยมีแม่มาตั้งแต่เกิด

“ขึ้นเรือนกันเถอะ” เขาเดินนำหน้า “เรือนหลังนี้หมอจรัสให้ชาวบ้านแถวนี้เป็นคนดูแล เขาจักมาทำความสะอาดเช้าเย็น วันนี้คงมาปัดกวาดแล้ว เราค่อยรอพรุ่งนี้ แล้วค่อยหารือกันว่าจักทำเยี่ยงไรต่อ”





บนเรือนไม้น่าอยู่หลังนี้ มีของใช้อยู่เพียงไม่กี่ชิ้น หมอปีย์เดินสำรวจดูรอบๆ ส่วนผมเปิดประตูเข้าไปดูห้องนอนที่มีเพียงห้องเดียว
ห้องนอนหันหน้าให้ทะเล แต่ก็ยังสามารถเปิดหน้าต่างอีกฝั่งมองไปยังภูเขาได้ด้วย เตียงไม้กว้างขนาดนอนได้สองคน วางไว้กลางห้องโดยมีผ้าขาวคลุมไว้อย่างดี มุ้งสายพาดไว้ที่มุมเสาทั้งสองข้าง เบาะผ้าบางๆที่ทำจากนุ่น ผ้าห่มแพรผืนสีฟ้า  แค่ผมเห็นเพียงเท่านี้ ผมก็แทบจะกระโดดลงไปนอนให้หายเมื่อยแล้ว

“พ่ออัชย์” ในขณะที่ผมกำลังล่องลอยไปกับจินตนาการในการนอนเตียงนุ่มๆนี้ จู่ๆหมอนั่นซึ่งปกติก็เดินเหมือนแมวย่องอยู่แล้วก็มาโผล่ประชิดหลังก่อนจะเรียกชื่อ เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมหันหลังกลับเพื่อจะออกไปหาเขา
แต่เมื่อหันกลับไปใบหน้าของหมปีย์ก็แนบหน้า ผมผงะตกใจก่อนจะหงายหลังล้ม หมอปีย์คว้าแขนไว้
เราสองคนสบตากัน มันช่างเหมือนในละครน้ำเน่าตอนหัวค่ำเสียจริง ฉากที่พระเอกคว้านางเอกไว้ก่อนที่หล่อนจะล้ม นางเอกสบตาพระเอก ทั้งๆที่พยายามอย่างมากที่จะหลบเลี่ยงความรู้สึกที่มีต่อพระเอก แต่ทันทีที่ได้สบตา หล่อนก็เหมือนดั่งต้องมนต์สะกด
“พ่ออัชย์ พ่ออัชย์” หมอปีย์เรียกสติ ผมสะดุ้งเล็กน้อย นี่เราถูกหมอนั่นสะกดจิตหรือ
“เฮ้ย” ผมร้องเสียงดังข่มความเขินขาย “จับแขนทำไม ปล่อย” ผมบอก
“ปล่อยไปประเดี๋ยวเจ้าก็ล้มตึง”
“ช่างเหอะ ปล่อย เอ้ ปล่อยสิวะ” ผมดิ้น ทันใดนั้นโดยไม่ได้เตรียมตัวหมอปีย์ปล่อยมือเขาจากแขนผม จากท่าที่คว้างเคว้งอยู่แล้ว เมื่อไม่มีมือคอยดึง ผมจึงล้มลงบนเตียงอย่างแรงเสียงดัง ตึง!!!
“โอ้ยยยยยยย โอ้ยยยย ไอ้หมอ” ผมโอดครวญ “ปล่อยแม่มไม่ดูจังหวะกูเล้ย โอ้ย  ริดสีดวงกูแตกซ่านแล้ว โอ้ย” ผมนอนร้องดินไปดิ้นมาบนเตียง จริงๆมันไม่ได้เจ็บมากหรอก แต่เพียงแค่เมื่อล้มตัวลงบนเตียงนุ่มๆแล้วนั้น กลับไม่อยากลุกขึ้นอีกเลย จึงหาข้ออ้างนอนดิ้นบนเตียงนุ่มๆ
“สำออยนัก เจ้านี่” เขายิ้มนั่งลงใกล้ๆผม  ที่นอนพาดเตียงแผ่หลา
“เตียงนี่สบายจังเลยหมอ นุ่มอ่ะ ชั้นไม่ได้นอนเตียงนุ่มๆแบบนี้มาน๊านนนนนนมาก” ผมลากเสียงยาว
หมอปีย์ นั่งมองผมเหม่อมองเพดาน อมยิ้มอย่างมีความสุข
“ที่บ้านชั้นนะ เตียงนอนของชั้นกว้างกว่านี้อีก แถมนุ่มเด้งดึ๋งๆเลยหล่ะ แล้วบนเตียงก็มีหมอนข้าง หมอนอิง สารพัดหมอนเลยบนนั้น เพราะว่าชั้นกลัวผีมานอนด้วย เลยต้องหาอะไรมาสุมๆไว้บนเตียง” ผมหัวเราะขำในความไร้สาระของตนเอง แต่ในความคิด กลับมีภาพเตียงนอนนั้นอย่างชัดเจน
“อ้อ แล้วสมัยชั้นแตกเนื้อหนุ่มนะ ใต้เตียงชั้นเต็มไปด้วยหนังสือโป๊เลยแหละ”
“หนังสือโป๊?” หมอปีย์เอียงคอ
“อื้อ หนังสือโป๊ หนังสือที่มีรูปผู้หญิงแก้ผ้าน่ะ”
“แก้ผ้า?”
“ใช่ แก้ผ้า”
“เปลือยนะรึ”
“อืม”
“ไม่ใส่อะไรเลยรึ”
“ใช่ อล่างฉ่าง อะบะละฮ่า”
หมอปีย์กลืนน้ำลายดังเฮือก สีหน้าดูกระอักกระอ่วน
“บางทีก็มีรูปผู้ชายกับผู้หญิงซ่ำกันด้วยนะ” ผมนึกอยากจะล้อหมอปีย์
“ซ่ำ?”
“หมายถึง Featuring นะ”
เครื่องหมายคำถามปรากฏเต็มหน้าหมอปีย์
“เออๆ ช่างเหอะ”  ไม่สนุกเอาเสียเลย

“หญิงในสมัยเจ้ามีหญิงงามเมืองมากกระนั้นรึ”
“ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะ “หญิงงามเมืองในความหมายนายเป็นไงหล่ะ”  ผมยกขาชันเข่าขึ้นมาในท่าสบาย
“ก็ เอ่อ เอ่อ” หมอปีย์ก้มหน้านิ่ง นิ้วมือพันไปจนจะเป็นเกลียวอยู่แล้ว
“พูดมาเหอะหมอ ไม่งามชั้นรู้ แต่ว่า ไม่งามสักครั้งเหอะนะ”
“หญิงงามเมืองก็หมายถึง หญิงที่ปล่อยตัว เข้าหาชาย จับมือถือแขนชายในที่รโหฐาน แล้วก็ เอ่อ”
หมอปีย์ยังไม่ทันพูดจบผมก็แทรกขึ้น
“โอ้ย ถ้าหญิงงามเมืองคือหญิงแบบที่นายว่านะ สมัยชั้น ก็คงงามทั้งประเทศแล้วหล่ะ”
หมอปีย์ทำหน้าตกใจราวกับเห็นผี เขาอ้าปากค้าง จนผมต้องลุกขึ้นนั่ง เอามืองัดคางปิดปากเสียงดังกั๊บ
“ไม่ต้องตกใจไปหรอกหมอ สมัยชั้นน่ะ รับวัฒนธรรมตะวันตกมามาก การที่ผู้หญิงจับมือถือแขน กอดกัน หรือแสดงความรักต่อกันกับผู้ชาย ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้หญิงไม่ดี เพียงแต่มันเป็นการแสดงความรักในรูปแบบหนึ่งเท่านั้น”
“ไหนเจ้าบอกว่าเรามิเป็นเมืองขึ้นพวกฝรั่งมังค้องไง ไฉนจึงรับเอาวัฒนธรรมบัดสีแบบนั้นมาได้” เขาส่ายหัว
“เอาไว้นายไปบ้านเมืองชั้นแล้วนายจะเข้าใจ” ผมตัดบทเพราะเหนื่อยใจจะอธิบายให้หมอนั่นฟัง
“ชั้นไปอาบน้ำก่อนนะ เหนียวตัวมาก” ผมลุกขึ้นหยิบผ้าผ่อนในตู้ก่อนจะเดินลงไปจากเรือน

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2

“แตงโม แตงโม่ แตงโม แตงโมลูกโตๆรสหว่าน ใครรับประทานถูกอกถูกใจ แตงโมจินต่ะราม้ามาย   แตงโมจินต่ะราม้ามาย” เสียงเพลงที่ผมมักชอบร้องเวลาอารมณ์ดี หรืออยากจะหัวเราะหึๆในลำคอเบาๆดังขึ้นเพื่อกลบเสียงเงียบสงัดในหัวค่ำของคืนนั้น
ห้องน้ำทำด้วยไม้กระดานกั้นสี่มุม มีโอ่งน้ำที่มีน้ำเต็ม ขันทองเหลืองที่ดูมีราคา และชั้นวางที่วางขมิ้นผง มะกรูดแช่น้ำ และไม้ข่อยทุบแช่ในถ้วยเกลือ
“อย่างกะโรงแรม” ผมนึก
“ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมห้าดาวชายทะเลชะอำ” ผมพูดล้อ พลางนึกว่าหากเป็นยุคของผม ที่ตรงนี้น่าจะเป็นโรงแรม......โรงแรมดุสิตที่หรูหรา พรั่งพร้อมด้วยความสะดวกสบาย อ่างอาบน้ำจากุซซี่ระบบวนล้านทิศทาง เราใช้ผลิตภัณฑ์อย่างดีจากลังโคม” ผมผายมือไปที่ชั้นวางของสำหรับอาบน้ำ มองผงขมิ้น น้ำมะกรูดสำหรับสระผม แล้วแปรงสีฟันยาสีฟันที่ทำมาจากกิ่งข่อยทุบกับเกลือ เข้ากันเสียจริง
“เชิญท่านสัมผัสกับประสบการณ์อันเลอ................”
“ปัง!!!”
“เฮ้ยยย เช็ดเป็ด!!” ผมสะดุ้งโหยงกำลังเพลินๆกับบทละครหลอนจินตนาการให้เคลิ้ม หันไปมอง หมอปีย์นุ่งผ้าขาวม้า ยืนอยู่หน้าประตู
“ไอ้บ้า!! ตกใจหมด มาทำอะไร ตรงนี้” ผมลุกขึ้นยืนลืมไปสนิทว่าไม่ได้ใส่อะไรปิดบังเรือนร่างแม้แต่ชิ้นเดียว


“อาบน้ำสิ” หมอปีย์ยิ้มกรุ้มกริ่ม จนผมประหลาดใจ
“ยิ้มอะไรของมึง” ก่อนจะก้มลงมอง
“เฮ้ยยยยย พ่อมตาย หมดกันกู หมดกัน” ผมเต้นผางทันทีที่รู้ว่ากำลังยืนอ้าซ่า เผชิญหน้าหมอปีย์มือคว้าผ้าขาวม้ามาห่อหนอนน้อย


“จะเข้ามาทำแป๊ะอะไรตอนนี้วะ ไอ้บ้า”
“เจ้าอาบช้า รอไม่ไหว เลยมาอาบด้วย” เขาเดินเข้ามาในห้องน้ำ
“อีกอย่าง อยากตอบแทนเจ้าที่เคยอาบน้ำให้เรา”
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง เต็มใจทำโดยไม่หวังผล ออกไปก่อนนะ ชั้นอาบแป๊บเดียว” ผมเขิน แต่หมอนั่นไม่เขินด้วยเขาทำท่าจะปลดผ้าขาวม้า
“เอ้ย ทำไรอ่ะ ไม่ต้องถอดนะเว้ย” ผมร้อง นี่ตกลงใครควรจะเป็นฝ่ายรักนวลสงวนตัวกัน ระหว่างชายที่อยู่ในยุคร้อยกว่าปีก่อน กับชายที่มาจากยุคเกย์เฟื่องฟู
“แล้วจะอาบอย่างไร”เขาถาม
“ก็อาบทั้งผ้านี่แหละ”
“งั้นเจ้าให้เราอาบด้วยแล้วสิ” ว่าแล้วหมอปีย์ก็นั่งลงตรงข้าม
“นี่อะไร” เขาหยิบผ้าฝ้ายสามเหลี่ยมสีดำที่ผมขยี้น้ำแขวนไว้ข้างฝา
“เฮ้ย อย่าจับ ไอ้บ้า นั่นมันกางเกงใน” ผมร้อง
“กางเกงใน?”
“เออ กางเกงที่เขาใส่ไว้ข้างในน่ะ”
“แล้วทำไมจับไม่ได้”
“มันของส่วนตัวเข้าใจป่าว ของส่วนตัว”
หมอปีย์พยักหน้า บางทีมันก็ฉลาดเป็นกรด แต่บางทีก็แม่งซื่อจนหน้าถีบ
“จำเป็นต้องใส่มันด้วยรึ” เขาถาม
“จำเป็นสิ ใส่แล้วมั่นใจ ว่าจะไม่ดึ๋งดั๋งขึ้นมาผิดที่ผิดทาง” ผมยิ้มๆ “นายไม่ใส่เหรอ”
“ไม่” เขาส่ายหน้า
“เฮ้ย จริงดิ แล้วมันไม่เอ่อ ไม่.......”
“ไม่”
“หือ เก่งนะเนี๊ยะ you can control yourself”
“Certainly I can control everything but my heart”




“T_T”










คืนนั้นเราทุ่มเถียงกันยกใหญ่เรื่องที่ใครจะได้อภิสิทธิ์ในการนอนบนเตียง
“นายต้องให้ชั้นสิ หมอ เพราะว่าชั้นเหนื่อยกว่านายมาก ชั้นดูแลนายตอนที่นายเอ๋อ  ชั้นพานายวิ่งหนี แบกนายตอนนายไม่ได้สติ นายต้องให้ชั้น” ผมยื่นคำขาดพร้อมให้เหตุผลประกอบมากมาย
“แต่เราบ้า” สามคำที่หมอปีย์ให้เหตุผล เล่นเอาผมอึ้ง งงไปกับหมอ
“นอนด้วยกันได้ เตียงตั้งกว้าง” เขายื่นข้อเสนอ
“ไม่หล่ะ ขอบใจ” ผมแบะปากพลางหอบหมอน และผ้าขาวม้า ออกไปนอนนอกห้อง







ค่ำคืนของชะอำ ไม่ต่างไปจากค่ำคืนของสยาม และคงไม่ต่างไปจากค่ำคืนของกรุงเทพ ที่ที่ผมจากมา
ผมไม่เคยนอนมองท้องฟ้า และเฝ้าถามตัวเองว่า กลุ่มดาวลูกไก่คือดวงใด ไหนหล่ะดาวไถ ดาวประจำเมือง พระจันทร์ที่เขาว่ามีกระต่ายสีขาวปุกปุยอยู่มันมีจริงรึเปล่า ไม่เคยเลยสักใครในชีวิตของการเป็นคนสมัยสิวิไล
แต่คืนนี้ ผมกลับทำในสิ่งที่ผมเห็นว่าไร้สาระ  ในวันนี้ที่ ดวงจันทร์ดวงโต ลอยเด่นเหนือท้องฟ้า ถึงแสงจะไม่เจิดจ้าเท่าดวงอาทิตย์ แต่นั่นก็ทำให้คนธรรมดาอย่างผมสามารถมองมันอย่างชื่นชมได้โดยไม่แสบตา และถามตัวเองว่า
“คืนนี้ แม่จะเห็นดวงจันทร์ดวงเดียวกับผมรึเปล่านะ”



“เพี๊ยะ ซี๊ด” ผมตบยุงที่เฝ้าแต่จะรุมกันดูดเลือดจนไม่ได้หลับได้นอน เสียงหวีดวี่ดังอยู่ข้างหูจนรู้สึกรำคาญ ที่ที่ผมนอนเป็นลานกว้างโล่งหน้าเรือน ถัดออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็จะเป็นระเบียงไม้ที่ ที่ที่ดอกเล็บมือนางไต่เลื้อยอย่างเสรี
กลิ่นของมันหอมเย็นในตอนกลางคืน กล่อมให้ผมเคลิบเคลิ้มจนแทบหลับ
แต่ “เพี๊ยะ”  ยุงเจ้ากรรมนี่สิ ที่ยังตามราวีผมไม่ยอมเลิกรา
“”””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””””

“หมอ”   ความพ่ายแพ้ที่ผมต้องยอมรับในครั้งนี้คือ ผมทนที่จะนอนให้ยุงนับล้านแห่กันมารุมเจาะเลือดผม โดยที่มีเพียงผ้าขาวม้าผืนเดียวเป็นเครื่องปกป้องไม่ได้ ผมสาบานได้ว่า หากทนนอนในสภาพนั้นถึงตอนเช้า ผมคงเลือดหมดตัวตายแน่ๆ
“ยุงกัด” เป็นประโยคบอกเล่าที่เจือน้ำเสียงอ้อนวอน
“เข้ามาสิ” หมอปีย์พูดผ่านมุ้ง ผมเห็นเงาตะคุ้มๆของเขาผ่านแสงตะเกียงเจ้าพายุสี่ตัวที่อยู่รอบห้อง
“จะให้ชั้นนอนที่ไหน”
“ตามใจเจ้าเถิด”
ผมมองไปรอบๆห้อง มีเพียงพื้นไม้กระดานที่ว่างเปล่า และเป็นช่องลม การนอนตรงนี้ก็คงไม่ต่างจากนอนข้างนอกนั่น
“ขยับหน่อยสิ” ผมค่อยๆแทรกตัวเข้าไป หมอปีย์ขยับเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะพลิกตัวนอนหงาย
.
.
.
.
.
.
.
ความเงียบกำลังจะรัดคอผม มันทำให้หายใจติดขัด และรู้สึกยิบยับไปทั่วตัว
“ลมโกรกดีนะ” ประโยคที่จะช่วยทำลายความเงียบดังขึ้น ผ้าม่านสีขาวพริ้วไหวไปมา
“ลมทะเล มีทั้งปี เราชอบทะเล มันทำให้เรารู้สึกว่า ความอ้างว้าง ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด” หมอปีย์พูด
“แต่ชั้นชอบตึกรามบ้านช่องที่บ้านชั้นมากกว่า ชั้นชอบอยู่บนตึกสูงๆ มันทำให้ชั้นรู้สึก ว่าโลกทั้งใบอยู่ใต้ฝ่าเท้าชั้น”
“เราช่างต่างกันเหลือเกินนะพ่ออัชย์ ต่างกันแทบจะทุกอย่าง มีเพียงอย่างเดียวที่เหมือนกัน โดยไม่น่าจะเหมือนกันเอาเสียเลย”
“อะไรวะ”
“เจ้าเป็นชาย เราเป็นชาย คือสิ่งเดียวที่เราทั้งคู่เหมือนกัน”
ผมกลืนน้ำลายเฮือก นึกถึงช่วงเวลาที่จะเกิดขึ้นแล้วนึกกลัวขึ้นมาจับใจ
“หมอ นายเคยมีความรักมั๊ย”  กลิ่นดอกลั่นทมต้นใหญ่หลังบ้านส่งกลิ่นโชยมาอ่อนๆ
หมอปีย์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่
“เราไม่เคยมีความรัก แต่เรากำลังมีความรัก”
.
.
.
.
.
.
.
.
ลมทะเลพัดพาไอทะเล
ลมหายใจหมอปีย์พัดพาลมแห่งสิเน่หา
.
.
.
“หมอ อย่ารักชั้นเลย ชั้นไม่ใช่คนที่นายเห็นในความฝันหรอก”  ไม่มีสิ่งใดให้มองในความมืด แต่ผมยังคงเบิกตาโพรง
“เราพยายามแล้ว แต่ทำมิได้” น้ำเสียงหมอปีย์สั่นเครือ ความอัดอั้นตันใจคงกำลังฆ่าหัวใจหมอปีย์อยู่ภายใน
“เจ้ามิรักเรา ก็มิเป็นไรดอก แต่ขอร้อง อย่าบังคับให้เราเลิกรักเจ้าเลย พ่ออัชย์ เราทำไม่ได้”
“ชั้นเคยมีความรักมาหลายต่อหลายครั้งนะหมอ แต่ทุกครั้งที่ชั้นรักใคร ชั้นก็มักจะพบว่า วันหนึ่งเมื่อตัวเองตื่นขึ้น ก็พบว่าเหลือเพียงตัวเองที่อยู่คนเดียว” ผมสูดหายใจลึกๆ รวบรวมความกล้า
“ชั้นไม่ได้รังเกียจนายที่นายเป็นผู้ชาย ตรงกันข้าม.......................................”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ตรงกันข้ามชั้นกลับซาบซึ้งในไมตรีจิตของนาย แต่ แต่...................” บัดนี้กลายเป็นผมที่น้ำเสียงสั่นเครือเสียเอง
.
.
.

“หมอ!!”  ผมลุกพรวดขึ้นจากเตียง “ชั้นอยากได้เหงื่อว่ะ  ไปหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่า”
...

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
พ่ออัชย์จะไปทำอะไรจะ
ที่จะได้เหงื่อนะ :laugh:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
กรี๊ด.......จะเล่นอะไรกันค้า......มาอยากได้เหงื่อเอาตอนแบบบนี้นี่ มันมีอยู่ไม่กี่อย่างนะค๊า..... :o8:

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
กลังรักแล้วเวลาต้องกลับปัจจุบันแล้วจะเจ็บล่ะซิเ้จ้าบ้า
เลยไม่ยอมรับรักหมอของเราซักที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






takkie

  • บุคคลทั่วไป
รอลุ้นกิจกรรมเรียกเหงื่อ

chantana

  • บุคคลทั่วไป
+1  ให้เซ็งเป็ด ไฟแรงดีไม่มีตก

ออกกำลังกายแบบไหนหว่า  อยากรู้อะ   :z2:   :z2:

รอวิธีการออกกำลังกายตอนกลางคืนอะ   :call:   :call:

eat2tea

  • บุคคลทั่วไป
“เจ้ามิรักเรา ก็มิเป็นไรดอก แต่ขอร้อง อย่าบังคับให้เราเลิกรักเจ้าเลย พ่ออัชย์ เราทำไม่ได้”   :o8:
ข้าชอบวจีของหมอปีย์ยิ่งนัก พวกเจ้า 2 คน จักทำอันใด เพื่อเรียกเหงื่อรึ

จะรออ่านตอนต่อไปน่ะคับพี่เป็ด  :call:

ออฟไลน์ iota

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
เสียเหงื่อ? พ่ออัชย์ เวลาแบบนี้มาชวนหมอปีย์เสียเหงื่อ แบบไหนอ่ะ :m21:คนอ่านอยากรู้
ความรักของคนทั้งคู่ คงเหมือนกุญแจแห่งเวลา...ที่รอการไขของหัวใจทั้งสองดวง
เรื่องราวบทสรุปสุดท้ายจะเป็นเช่นไร...น่าติดตาม^^
กด+ กับความรู้สึกดีๆ :3123:ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เล่นผีผ้าห่มจิ จะได้เหงื่อ  :laugh:

ออฟไลน์ Mai.IcySakura

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
อ่ะอ้าววว คืนนี้้มีเสียเหงื่อ ทำไรกันอ่ะ ฮ่าๆๆ
สมัยนั้นมีอะไรเล่นมั่งเนี่ย

ว่าแต่ช่วงนี้พ่ออัชย์พูดแนวๆว่า"ถ้าหมอปีกลับปัจจุบันด้วย"หลายครั้งแล้วนะเนี่ย
ไม่ใช่ว่า ลงทะเลกันคราวนี้จะไปโผล่ที่บ้านแบบตอนตกคลองคราวนู้นนะ = =lll

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
พ่ออัชย์  ถ้าพ่ออัชย์มัวแต่กลัวแล้วเมื่อไหร่พ่อจะมีความสุขเล่า

บวกเป็ดเจ้าค่ะ

Zymphoniz

  • บุคคลทั่วไป
อะไรกันพ่ออัชย์
เรียกเหงื่ออะไรดึกๆ ดื่นๆ
จะชวนหมอไปทำอะไร?  :z1:

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
จะชวนหมอไปทำอะไร :haun5:

BlueFaith

  • บุคคลทั่วไป
กะลังเคลิ้ม....
 
ชิส์!!! ไอ้บ้าอัชย์ทำเสียอารมณ์
      :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3

    Oh Noooooooooo.....!!!   

ตาอัชย์ จะทำอะไรหมอปีย์ของช้านนนนนน   บอกมานะ!?!     

BF-e

  • บุคคลทั่วไป
555 คืนนี้มีเสียเหงื่อซะเเล้ว  o18

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
จะมาชวนเล่นอะไรกันตอนนี้ล่ะพ่ออัชย์ - -*

brownie

  • บุคคลทั่วไป
ผีผ้าห่ม เป่ายิงฉุบถอดทีละชิ้น  อิอิ แต่ละเกมส์ พาจิ้นๆ  :laugh:

cotone

  • บุคคลทั่วไป
กิจกรรมเรียกเหงื่อ!?!?!? อร๊างพ่ออัชย์ อย่าทำให้คิดไปเองสิ><

รอตอนต่อไปค่า หวังว่าจะพูดความในใจออกไปเร็วๆนะคะ ได้รักแล้วได้จากกันดีกส่าไม่ได้พูดความในใจออกไปเลยนะคะ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
เข้าซาวน่าเลยค่ะ  :laugh:

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
ไหนตอนแรกว่าเหนื่อย ทำชวนทำกิจกรรมเข้าจังหวะ เอ๊ย กิจกรรมเสียเหงื่อซะอย่างนั้น

ออฟไลน์ Tinton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตัดตอน อย่างแรง คุณเซ็งเป็ด

ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
แต่เราว่าทั้งสองชายคงไม่ ฟิจเจอริ่ง กันหรอก ท่ามากกันซัขนาดนั้น คงไปกระโดดตบยุงหน้าห้องกันแหละมั้ง

แล้วเมื่อไหร่จะได้ ฟิจเจอริ่งกันสักที  :dont2:

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
เจ้าบ้าไม่ใจเลย  :m16:
สุดท้ายก็ปากแข็งไม่ยอมพูด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด