ตอนที่ 7ลีโอรู้สึกเหนื่อยจนอยากหลับไปในทันทีที่ก้าวขึ้นรถหรูสีดำเข้ม แต่เลขานุการที่นั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับรถ ยังคงขานงานที่ต้องทำในลำดับต่อไปของวันนี้
ไม่มีประโยชน์ที่จะเถียงว่าวันนี้คือวันเสาร์ เมื่อเขาขอแลกกับการอยู่กับสิ่งที่รักสัปดาห์ละ 1 วัน
ดวงตาคมกริบมองไปนอกรถ แล้วต้องสะดุดตาที่หนุ่มหน้าอ่อนใส ที่ยืนอยู่หน้าร้านหนังสือแล้วหันกลับมามองสภาพการจราจรบนท้องถนน ดวงตากลมโตมองผ่านรถหรูสีดำคันนี้ไป
“จอดรถก่อน”
“เจ้านายคะ”
“จอดก่อน” ลีโอชะเง้อมองจนเหลียวหลังเห็นเด็กหนุ่มก้าวเข้าไปในร้านหนังสือ
“ตรงนี้ไม่ให้จอดรถยนต์ครับ” คนขับรถเหลือบตามองเจ้านายจากกระจกมองหลัง เพราะนี่คือย่านศูนย์การค้าวัยรุ่น
แต่เจ้านายไม่ฟัง เมื่อรถจอดติดไฟแดง ชายหนุ่มก็เปิดประตูรถก้าวลงไปทันที
ขายาวๆ ก้าวไปที่ร้านหนังสือที่เห็นเด็กหนุ่มก้าวเข้าไปเมื่อครู่
เมื่อเปิดประตูเข้าไปดวงตาสีอ่อนกวาดตามองไปทั่ว
เด็กหนุ่มที่ตอนนี้เปลี่ยนมามัดผมเปิดหน้าผากไว้ครึ่งหนึ่งอวดใบหน้าอ่อนใส ยืนอ่านหนังสืออยู่ที่ด้านในของร้าน
ลีโอจัดเสื้อสูทขยับเนคไทให้เข้าที่แล้วทำเป็นมองดูหนังสือไปเรื่อยๆ จนเข้าไปใกล้
วินวินขยับตัวหนีเมื่อรู้สึกว่ามีคนเข้ามายืนใกล้ แต่ดวงตากลมโตยังไม่ละไปจากหนังสือ เมื่อคนตัวโตข้างๆ ขยับตาม เด็กหนุ่มก็หันขวับมาท่าทางพร้อมที่จะหาเรื่อง แต่ดวงตาคู่นั้นเปลี่ยนเป็นตาค้างเมื่อเห็นคนที่ยืนยิ้มอยู่
“รุ่นพี่”
นิ้วเรียวยาวแตะที่ริมฝีปาก แล้วเปลี่ยนเป็นจับมือดึงออกมานอกร้าน แต่พอออกมา วินวินก็ขืนตัวไว้
“จะไปไหนฮะ”
ลีโอขมวดคิ้ว “ทำไมวันนี้ดูพูดไม่ถนัด”
“ผมเพิ่งมาจากร้านจัดฟัน เจ็บจะตาย” มือขาวๆจับที่คาง พร้อมกับทำหน้าตาเหยเก
“เจ็บมากเลยหรือ” นิ้วมือเรียวยาวแตะที่คางสวย ขณะที่ใช้นิ้วหัวแม่มือสัมผัสที่ริมฝีปาก
วินวินหน้าแดงไปถึงหู ผงะถอยทันที “พะ พี่ ฮะ”
พี่เลยหัวเราะ
“รุ่นพี่มาทำอะไรที่นี่ แล้วทำไมแต่งตัวอย่างนี้ละฮะ” ดวงตากลมๆ มองที่เสื้อสูทหรูเรียบกริบ กับมาดนักธุรกิจเต็มรูปแบบ ต่างจากเสื้อสีอ่อน กับกางเกงสแลคที่พบที่มหาวิทยาลัย
“ก็...ทำงาน”
“ทำงาน.....อ๋อ....” วินวินลากเสียงยาว พลางพยักหน้าเมื่อนึกขึ้นได้ ว่ารุ่นพี่เป็นเจ้าของโรงแรมแบบฟูลไทม์ และเป็นอาจารย์ช่วยสอนแบบพาร์ทไทม์
“เจ้านายคะ” เลขาสาวร้องเรียกเมื่อเข้ามาใกล้ ทำให้ทั้งรุ่นพี่และวินวินหันไปมอง
“รถจอดอยู่อีกบล็อกค่ะ เราจอดนานไม่ได้” เลขาสาวพูดทั้งหอบๆ
ลีโอยิ้มหันมายิ้มกับเด็กหนุ่มแล้วดึงมือกลับไปที่รถ
คนขับรถท่าทางร้อนรนยืนอยู่ข้างรถ แล้วเปิดประตูรถให้ชายหนุ่มทั้ง 2 คนขึ้นรถจากนั้นก็กลับไปประจำที่ของตัวเอง
ลีโอหันมามองคนที่ทำหน้าตาเลิกลั่ก
“มีธุระที่ไหนหรือไง”
วินวินส่ายหน้า ทำตาพอง
“ไปทำงานเป็นเพื่อนพี่”
“แต่ว่า...” วินวินกัดริมฝีปากนึกคำพูดที่จะบอกปฏิเสธ แบบที่ไม่ทำให้อีกคนผิดหวัง “บอกว่าไม่ได้ตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้ว”
ลีโอเอื้อมมือมาจับมือขาวๆ ไว้ ไม่ได้พูดอะไร
วินวินปล่อยให้พี่จับมือไม่ถึงนาทีก็บิดมือออก แต่พี่กลับจับมือแน่นขึ้น ทำให้วินวินหันมามองหน้าพี่ตรงๆ ดวงตาสีอ่อนคู่นั้นจ้องกลับมา วินวินรับรู้ถึงหัวใจตัวเองที่เต้นแรง
“ผม...ไม่ใช่” เด็กหนุ่มพึมพำก้มหน้ามองมือสวยที่จับมือของของเขาอยู่
“ไม่เป็นไร ขอแค่อยู่อย่างนี้”
“แต่ว่า.....” วินวินรู้สึกเหมือนขอบตากำลังร้อนผ่าว
คำพูดของพี่กลาสเมื่อคืน กับสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้กำลังตีกันจนยุ่ง
อยากแกล้งทำเป็นไม่รับรู้อยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่พี่ทำอยู่ในตอนนี้มันชัดเจนมากเกินไป
“เราไม่รู้จักกันเลยนะฮะ”
“พี่ตามน้องมานานกว่าที่น้องคิด”
ดวงตากลมๆ มองพี่อย่างคาดไม่ถึงแล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง ไม่มีคำพูดใดๆ ออกจากปากแดงๆ คู่นั้น จนกระทั่งเจ้าตัวยกมืออีกข้างขึ้นมาเช็ดน้ำตา
“วินวิน”
พี่ดึงใบหน้าที่กำลังร้องไห้ให้หันกลับมา
“พี่ขอโทษ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกฮะ” วินวินสูดจมูก “วันนี้ผมมาจัดฟัน แต่ที่เกเรยังไม่กลับเข้ามหาลัยก็เพราะว่าเมื่อคืนก็มีคนที่บอกอะไรบางอย่างกับผมคล้ายกับที่พี่บอกผม แล้วผมยังไม่พร้อมที่จะบอกกับเค้าว่าผมคิดยังไงก็มาเจอพี่แล้วพี่ก็...”
“พี่ก็ไม่ได้บังคับให้วินวินตอบรับหรือปฎิเสธพี่ในทันทีนี่”
“นี่ก็คล้ายกันอีก” วินวินเช็ดน้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุด เบี่ยงหน้าหนีมือสวยๆ ที่จะช่วยเช็ดน้ำตา
“ถ้าวินวินยังไม่อยากตัดสินใจ ก็ไม่เป็นไร เพราะพี่รู้ว่ามันยากขนาดไหน”
วินวินพยักหน้า เรื่องนี้ยากตั้งแต่ต้นจนจบน่ะแหละ
เลขานุการสาวท่าทางคล่องแคล่วของรุ่นพี่ลีโอก้าวลงจากรถไปก่อน ขณะที่พนักงานโรงแรมเข้ามาเปิดประตูรถให้
แต่พอก้าวลงจากรถหรูคันใหญ่ รุ่นพี่ลีโอก็ดึงมือน้องที่กำลังค้อมตัวขอลากลับ ให้ตามเข้าไปในโรงแรมส่วนที่เป็นคอฟฟี่ช็อปที่ปิดให้บริการตอนบ่าย แต่มีคนที่มารอคุยงานกับรุ่นพี่รออยู่
วินวินพลอยได้รับการแนะนำตัวตามมารยาท แต่พอจะถึงเวลาคุยงานเด็กหนุ่มก็ขออนุญาตแยกตัวไปนั่งที่เค้าเตอร์หน้าคอฟฟี่ช็อปอีกด้าน
มองคนที่กำลังนั่งคุยงานอยู่ที่ชุดโซฟาเบาะนวมสีน้ำตาล การออกแบบตกแต่งร้านหรู แล้วหันกลับมากวาดสายตาที่ชั้นวางแก้ว สุดท้ายดวงตากลมโตก็กลับไปหยุดอยู่ที่สิ่งแรกที่เห็นตั้งแต่เดินเข้ามา
เปียโนตัวเล็กตั้งอยู่บนเวทีที่สูงแค่เข่า
วินวินก้าวเดินเข้าไปหาช้าๆ นิ้วมือขาวๆไล่คีย์เสียงแล้วเล่นเพลงที่บันทึกอยู่ในนิ้วมือ
เสียงเพลงไหลลื่นเหมือนสายน้ำ.......
ลีโอเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสาร ขณะที่คู่สนทนาหันไปมองหนุ่มหน้าเหมือนตุ๊กตาที่กำลังเล่นเพลงอยู่ ชายหนุ่มเรียกคู่สนทนาพูดคุยธุรกิจจนเสร็จงาน
ต่างลุกขึ้นจับมือขอบคุณ
“เพลงเพราะมากจริงๆ” อีกฝ่ายหันกลับมาบอกย้ำเมื่อเดินออกไปจนถึงหน้าโรงแรม ลีโอยิ้มขอบคุณอีกครั้ง แล้วเดินกลับมา
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งยืนกอดอกพิงเค้าเตอร์คอฟฟี่ช็อปฟังเพลง จนกระทั่งโน้ตเพลงสุดท้าย วินวินถึงได้เหลียวกลับไปมองรอบตัว
มีผู้ฟังคนหนึ่งที่กำลังยืนกอดอกท่าทางเหมือนคุณครูที่กำลังตัดสินใจให้เกรดนักเรียนว่าจะให้ตกหรือให้ผ่านดี
ส่วนเลขานุการกับพนักงานของโรงแรมคนอื่นๆ ยืนยิ้มกันอยู่ที่หน้าห้อง
----จบตอนที่ 7----
