(ต่อครับ)
ตอนที่ 15วินวินในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีอ่ีอนกับกางเกงยีนสีซีด และกระเป๋าเป้หลังคู่ใจ กดออดที่ข้างประตูของบ้านหลังใหญ่ ยืนรอจนกระทั่งยามเปิดประตูเล็กออกมาไต่ถาม
“สวัสดีครับ ผมชื่อวินวิน มาสอนเปียโนครับ”
ยามที่หน้าบ้านยิ้มกว้างชนิดเห็นฟันครบ 32 ซี่แล้วเปิดประตูให้หนุ่มหน้าใสเดินเข้ามาในบ้าน ที่ดูเหมือนฉากละครมากกว่าการอาศัยอยู่จริง จากนั้นคนรับใช้ก็นำทางต่อเข้าไปจนถึงห้องโถงกว้างที่มีเปียโนอยู่ชิดผนังด้านหนึ่ง
“คุณครูมาแล้วค่ะนายหญิง” แม่บ้านขานเมื่อวินวินเข้าไปยืนอยู่ด้านหน้าสตรีวัยประมาณ 30 เศษๆ ที่ส่งยิ้มทักทาย
“สวัสดีครับผมชื่อวินวิน” การถูกเรียกว่าคุณครูทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกกระดาก
เธอพยักหน้าแล้วบอกอย่างยิ้มแย้ม “นั่งรอก่อนนะ พอดีชีต้าออกไปข้างนอกกับพ่อเค้าน่ะ เดี๋ยวคงมาถึง”
“ครับ” วินวินนั่งลงที่เก้าอี้โซฟา ใกล้กับเปียโน
“ที่จริงพ่อกับพี่ของชีต้าเค้าก็เล่นดนตรีได้หลายอย่างนะ แต่กลับสอนกันไม่ได้ เลยต้องรบกวนคุณครู”
วินวินพยักหน้ายิ้มอย่างเข้าใจพ่อของเขาเองก็สอนเขาไม่ได้เหมือนกัน การพูดคุยผ่านไปอย่างสนุกสนานยิ่งกว่าคนคุ้นเคยกัน จนกระทั่งเสียงรถยนต์ที่เลี้ยวเข้ามาจอดเทียบบันไดหน้าบ้าน กับเด็กชายวัย 8 ขวบที่วิ่งหน้าตั้งเข้ามา แต่ที่ทำให้วินวินรู้สึกเหมือนตกลงมาจากที่สูงคือคนตัวโต รูปร่างสูงโปร่งที่เดินตามมาด้านหลัง
เสื้อยืดคอปกสีอ่อน กับกางเกงยีนส์ ดูแปลกตา แต่ท่าทางที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ามีความสุขอย่างที่สุด กลับทำให้ คนที่ยืนอยู่ข้างนายหญิงของบ้านรู้สึกปวดใจ
“มาแล้วครับ มาแล้วครับ” เด็กน้อยวิ่งเข้ามาทักทายแม่ แล้วหันมายิ้มกว้างให้กับคุณครู
เป็นรอยยิ้มที่เหมือนกับคนที่เดินตามมา ยิ่งกว่าถ่ายสำเนา
“ทำไมขากลับมาเหลือแค่ 2 ล่ะ” แม่ชีต้าถามยิ้มๆ
“เพราะอีกคนเจอเพื่อน เลยขอลงไปสนทนากันน่ะสิ” คนที่ยืนยิ้มไม่เลิกเป็นคนตอบ แต่วินวินกำลังรู้สึกเหมือนมีมือที่มองไม่เห็นบีบที่หัวใจ
“วินวินเรียนอยู่ที่มหาลัยที่คุณสอนเหรอ” แม่ชีต้าหันมาถาม ขณะที่เดินจูงเด็กน้อยไปที่เปียโน
“ใช่” คนตอบท่าทางภูมิใจมากมาย จนแม่ชีต้าหันมาค้อน
“ภูมิใจซะ” จากนั้นแม่ชีต้าก็หันไปหาลูกชาย “ตั้งใจเรียนนะครับ คุณครูนั่งรถมาตั้งไกล”
“ครับแม่” ชีต้าเอียงแก้มให้แม่หอมฟอดใหญ่ แล้วนั่งตัวตรงที่หน้าเปียโน
วินวินค้อมตัว แล้วเดินเข้าไปนั่งข้างๆ “เรามาเล่นด้วยกันก่อนนะครับ”
พี่ลีโอถอยออกมานั่งอยู่ที่โซฟาด้านหลัง
ยังไม่มีคำทักทายจากน้อง
ียังไม่ยิ้มด้วย
รู้สึกไปเองหรือเปล่านะ ว่าน้องพยายามหลบตา ท่าทางเหมือนไม่ค่อยสบายใจ
แล้วก็เหมือนจะหน้าซีดๆ
อาจเพราะต้องนั่งรถมาไกลเลยเหนื่อย
สงสัยอาทิตย์หน้าไปรับที่มหาวิทยาลัยน่าจะดี...
หลังการเรียนพื้นฐานของดนตรี ที่เหมือนกับการทำความรู้จักกันระหว่างครูกับลูกศิษย์ผ่านไป ได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ลูกศิษย์ก็ขออนุญาตพักผ่อน คุณครูตัวเล็กเลยถือโอกาสพักเข้าห้องน้ำเหมือนกัน
เสร็จธุระเปิดประตูห้องน้ำออกมา แต่เจอกับคนที่ยืนรออยู่
“อ๊ะ!”
“วินวิน ไม่สบายหรือเปล่า”
เด็กหนุ่มก้มหน้า กัดริมฝีปากแน่นทั้งพยายามเดินหนีคนที่ยืนขวางทาง
“วินวินครับ เป็นอะไร” สีหน้าเป็นห่วงอย่างจริงใจเข้ามาใกล้ แต่วินวินยังคงหาทางหนีห่าง จนมือแข็งแรงต้องคว้าที่ข้อมือไว้
“วินวินครับ บอกพี่สิ เป็นอะไร”
วินวินเงยหน้าขึ้นมามอง แล้วกลับมีน้ำตาหลากออกมาด้วย จนพี่ลีโอตกใจดึงเข้ามากอด วินวินพยายามผลักร่างกายสูงโปร่งนั้นออก แต่พี่กลับยิ่งกอดแน่นขึ้น
“ปล่อย!”
“ไม่ วินวินบอกพี่ก่อน ร้องไห้ทำไม”
ลีโอได้แต่ลูบหลังรอจนเสียงร้องไห้หยุดลง มือเรียวสวยประคองใบหน้าน้อง ถามคำเดิมซ้ำไปซ้ำมา
“ร้องไห้ทำไม”
ดวงตากลมที่มองมาแดงก่ำ ริมฝีปากเม้มสนิท แล้วสะบัดหน้าไปทางอื่น “ผมจะล้างหน้า”
ลีโอปล่อยน้องออกจากอ้อมแขน แต่กลับยืนขวางอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ ต่อให้อีกคนหันมามองหน้าทำตาขวาง ก็เหมือนไม่รับรู้
“หลบไป”
ชายหนุ่มเบี่ยงตัวให้คนตัวเล็กเดินออกมา แต่กลับคว้าข้อมือไว้แน่น
“ปล่อย!”
“ไม่ วินวินโกรธพี่เรื่องอะไรกันเนี่ย!”
วินวินมองหน้าพี่เหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง
“ผมต้องกลับไปสอนแล้ว ปล่อย!”
พี่ลีโอถึงได้คลายมือออกช้าๆ
แม่ชีต้าทำหน้างงๆ เมื่อเห็นคุณครูตัวเล็กตาแดงก่ำ เดินกลับออกมาที่ห้องกลางพร้อมกับพี่ลีโอ
“คุณครู เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่เป็นไรครับ” คุณครูรีบบอก ขณะที่เด็กชายชีต้าดึงมือแม่ให้ก้มลงมาแล้วกระซิบที่ข้างหู
ดวงตากลมโตตวัดไปหาคนรูปหล่อที่ทำหน้าตาใสซื่อทันที
“คุณ!”
“ผมเหรอ” พี่ลีโอทำหน้าตาตื่น ทำให้แม่ชีต้าถอนหายใจหนักๆ
“ชีต้าตั้งใจเรียนนะลูก” จากนั้นนายหญิงของบ้านก็หันไปทำเสียงเขียวใส่คนตัวโต “ส่วนคุณมานี่เลย!”
คนตัวโตที่นั่งมองการเรียนการสอนในช่วงแรกหายไปนับจากนั้น จนกระทั่งการสอนในวันนี้จบลงวินวินหันไปเก็บชีทเพลง แล้วเดินจูงมือลูกศิษย์ตัวน้อย ออกมาหาแม่ชีต้าที่สนามหญ้าหน้าบ้าน
“คุณครูครับอาทิตย์หน้าคุณครูจะมาสอนอีกหรือเปล่า” ชีต้าเขย่ามือครูตัวเล็ก ท่าทางเหมือนยังไม่อยากให้กลับ
“มาครับ” วินวินตอบเด็กน้อย ทั้งที่ในใจชักไม่แน่ใจว่าควรจะมาสอนเปียโนอีกหรือไม่ จนเมื่อคนตัวโตก้าวเดินออกมา ความรู้สึกละอายต่อผู้หญิงและเด็กข้างหน้าทำให้วินวินแทบไม่กล้ามองหน้าคนทั้งคู่
“ครูกลับไหวนะคะ” แม่ชีต้าถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นคุณครูหน้าซีดลงไปเรื่อยๆ
“ไม่เป็นไรครับ สวัสดีครับ” วินวินหันไปค้อมตัวขอบคุณแม่ชีต้าอีกครั้งแล้วรีบหันหลังเดินออกมา
แต่ผู้ชายตัวโตด้านหลังที่ก้าวตามออกมา กลับคว้าข้อมือบางไว้
“รุ่นพี่!”
ขณะที่แม่ชีต้าพูดเสียงเข้มๆ “ไปส่งคุณครูเดี๋ยวนี้! ถ้าอาทิตย์หน้าคุณครูไม่มา คุณต้องรับผิดชอบ!”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมกลับเองได้” วินวินรีบยกมือห้าม แต่กลับโดนมือแข็งแรงลากมาที่รถหรูที่คนขับรถนำมาสตาร์ทเครื่องรอไว้
“ปล่อย!”
“แม่ชีต้าบอกให้พี่ไปส่งไง”
เมื่ออยู่ในรถ คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เอาแต่มองไปที่ด้านข้าง ไม่ว่าจะชวนพูดอะไรก็ไม่มีคำตอบ
---จบตอนที่ 15---
โพสต์ของผมยังกดบวกไ่ม่ได้ ส่ง

ให้ทุกคนเลย ^^
ขอตัดแค่นี้ เพื่อไม่ให้ตอนหน้าค้างนะครับ เพราะว่ามันยาวอีกละ 5555