(ต่อครับ)
ตอนที่ 21 ภาพของหนุ่มรูปร่างผอมบางที่วิ่งถลาลงจากรถในทันทีที่จอด เสียงตะโกนร้องเรียกชื่อจนแหบแห้ง ความพยายามเข้าไปหาคนที่เจ้าหน้ากู้ภัยที่กำลังช่วยออกมาจากรถในสภาพพังยับ กลายเป็นหนังเรื่องเก่าที่ฉายวนซ้ำอยู่ในสมองของพี่ลีโอ แม้ในตอนที่มาถึงโรงพยาบาลที่วินวินยังคงซุกหน้าอยู่กับอก
อ้อมแขนแข็งแรงของพี่ยังคงกอดน้องไว้แน่น แต่คนในอ้อมแขนยังคงเต็มไปด้วยความกลัว และความกังวล
...ห่วงชีวิตของคนที่อยู่ในห้องไอซียูก็ใช่ แต่อาการของคนในอ้อมแขนทำให้ปวดหัวใจจนแทบหายใจไม่ได้...
พี่ลีโอเพิ่งกดวางสายจากการโทรฯแจ้งข่าวให้ทางมหาวิทยาลัยรับทราบ และจะได้แจ้งเพื่อนกับครอบครัวต่อไป พยาบาลห้องไอซียูก็เปิดประตูห้องออกมา
“เลือดกรุ๊ปบีหรือเปล่าคะ”
วินวินเงยหน้ามองตอบพยาบาลไปโดยอัตโนมัติ
“ผมกรุ๊ปเอ”
“พี่กรุ๊ปบี” พี่ลีโอลูบหลังน้องเบาๆ “เดี๋ยวมิคกี้กับเพื่อนๆ คงมาถึงวินวินรอที่นี่นะครับ”
“พี่ฮะ...ช่วยไอ้พี่กลาสด้วย”
พี่ลีโอฝืนยิ้ม พยักหน้า
ในตอนที่พยาบาลสอดเข็มเลือดสีแดงที่เป็นกรุ๊ปเดียวกันกับคนเจ็บไหลลงมาตามสาย พี่ลีโอกำลังรู้สึกเหมือนน้ำตาก็ไหลออกมาพร้อมกัน จนต้องยกมืออีกข้างขึ้นมาปิดหน้า
พยาบาลรู้ดีว่าเข็มเล็กๆ อาจทำให้ผู้ชายตัวโตบางคนกลัว แต่คนที่ดูสงบนิ่งแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเป็นสายแบบนี้ เป็นเพราะความกังวล
“ไม่ต้องกังวลนะคะ ผู้บาดเจ็บอยู่กับคุณหมอแล้ว”
พี่ลีโออยากบอกเหลือเกินว่า น้ำตาที่ไหลออกมามันซับซ้อนว่าที่คุณพยาบาลคาดคิด
ยังไม่ทันที่พยาบาลจะปิดแผลเล็กๆ จากการบริจาคเลือดให้เสร็จหมิงก็เดินเข้ามา
“ผมก็กรุ๊ปบีเหมือนกัน” เด็กหนุ่มผมยาวบอกเรียบๆ แล้วนอนลงที่เตียงข้างๆ ให้พยาบาลเข้ามาเก็บเลือดไปอีกคน
คงเพราะตาของพี่ที่ยังแดงก่ำทำให้หมิงพูดต่อไป “พวกมันสนิทกัน รุ่นพี่อย่าคิดมาก”
พี่ลีโอพลิกตัวมานั่งห้อยเท้าอยู่ข้างเตียง จนแน่ใจว่าไม่เวียนหัวถึงได้ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปเงียบๆ
เมื่อเดินออกมาเพื่อนนักศึกษาหลายคนของกลาสมาถึงแล้ว ขณะที่วินวินผละจากมิคกี้จนเหมือนโผเข้ามากอดพี่ไว้แน่น ซุกหน้าลงกับอกกว้าง ร้องไห้จนตัวโยน
“รุ่นพี่กับวินวินกลับไปพักก่อนมั้ยครับ” เพื่อนคนหนึ่งของกลาสบอกขึ้น
“เดี๋ยวกูโทรไปบอกมึงเอง” มิคกี้อาสา
“ไม่ กูอยากดูไอ้พี่กลาสก่อน” วินวินบอกเพื่อนทั้งที่ยังสะอื้น
“อยู่กับหมอแล้ว เย็นๆ พ่อกับแม่ของไอ้กลาสคงมาถึง มึงไปพักเถอะ ถ้ามันฟื้นมาแล้วเห็นมึงงอแงอย่างนี้มันจะไม่สบายใจเปล่าๆ”
วินวินพยักหน้า แต่ไม่วายหันไปหามิคกี้ “มึงต้องโทรหากูเรื่อยๆ นะ”
“เออ..”
*-*-*
วินวินยังคงรู้สึกว่ามือตัวเองกำลังสั่น และเย็น ความหนาวเหน็บแผ่ขยายจากมุมหนึ่งในหัวใจลุกลามไปทุกอณู แม้พี่ลีโอจะพากลับมาถึงห้องพัก ได้ยินเสียงพี่ถามว่าจะนอนพักก่อนหรือว่าจะอาบน้ำ เด็กหนุ่มก็ยังคงจ้องมองมือของตัวเอง
ภาพของไอ้พี่กลาสที่ติดอยู่กับพวงมาลัยรถยังชัดเจน ทับซ้อนกับภาพของ....แม่.... เลือดสีแดงอาบใบหน้าด้านที่หันตะแคงมาหา ดวงตาปิดสนิท
แม้เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะขานอยู่ตลอดเวลาว่า ยังหายใจ ระดับความดันเลือดยังอยู่ แต่วินวินก็ยังไม่สามารถหยุดเสียงร้องตะโกนเรียกชื่อคนที่ติดอยู่ในรถได้
ไม่ได้รับรู้ถึงแขนแข็งแรงที่รั้งไว้ไม่ให้เข้าไปขัดขวางการช่วยเหลือคนเจ็บ
ไม่ได้รับรู้ถึงน้ำเสียงที่เรียกให้สติกลับคืนมา
ไม่ได้รับรู้ถึงอกอุ่นที่ซับน้ำตา
กระทั่งพี่ลับหายเข้าไปในห้องเจาะเลือดกับพยาบาล เด็กหนุ่มถึงเพิ่งรู้สึก...
.......บางอย่างหายไป......
จนมาถึงตอนนี้ .....
ดวงตากลมโตค่อยๆ เหมือนรับรู้ความเคลื่อนไหวรอบตัวอย่างช้าๆ กวาดตามองไปรอบห้องหยุดนิ่งที่คนถืออ่างน้ำใบเล็กๆ ออกมาจากห้องน้ำ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดใบหน้าเปื้อนฝุ่นให้
“เช็ดหน้านะครับ”
“ผมไม่เป็นไรแล้ว พี่ไปทำงานเถอะฮะ ” วินวินบอกทั้งเสียงแหบแห้ง
“แต่วินวิน”
“เดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จก็จะนอน”
พี่ลีโอพยักหน้า แต่พอจะลุกขึ้น วินวินก็ลุกขึ้นตาม จับมือพี่ไว้ “พี่....อย่าทิ้งผมไปไหนนะฮะ”
แขนแข็งแรงกระหวัดรอบร่างผอมบาง จนจมไปในอ้อมแขน
“พี่ไม่ไปไหน ถ้าวินวินไม่บอกให้พี่ไป”
*--*--*
พี่ลีโอควบคุมสมาธิให้จรดจ่ออยู่กับการทำงานได้อย่างยากเย็นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะภาพ และเสียงร้องของวินวินที่ยังติดอยู่ในสมอง จนเลขานุการสาวต้องเสนอให้ส่งผู้ช่วยไปอยู่เป็นเพื่อนเด็กหนุ่มที่ห้องพัก
“ถ้าเจ้านายไม่ไว้ใจ จะให้อลันไปอยู่กับคุณวินวินก็ได้นะคะ หรือ ป้าลิซก็ได้”
“ป้าลิซดีกว่า อลันไม่น่าไว้ใจ” พี่ลีโอยังอดไม่ได้ที่จะวางใจแม่บ้านมากกว่าผู้ช่วยกองเลขาอยู่ดี
หลังการประชุมช่วงบ่ายเสร็จสิ้น พี่ลีโอก็ยังแวบมาดูคนที่อยู่ในห้องด้วยความเป็นห่วง
ป้าลิซเดินมาเปิดประตู โดยที่มีอีกคนที่สวมเสื้อยืดของเขากับกางเกงขาสามส่วนยืนอยู่ข้างหลัง
“ทำไมไม่นอนพักหล่ะ”
แต่คำตอบคือคนที่ก้าวเดินเข้ามาหาช้าๆ แล้วโอบเอวไว้แน่น
“วินวิน”
ป้าลิซค่อยๆเลี่ยงออกไปจากห้อง ขณะที่พี่ลีโอหันมาพูดขอบคุณแม่บ้าน แล้วก้มลงหาคนในอ้อมแขน
“มีอะไร มิคกี้โทรมาแล้วเหรอ”
วินวินส่ายหน้ากับอกพี่
“ถ้ากลาสฟื้นเราค่อยไปเยี่ยมเค้านะ”
วินวินพยักหน้า แต่ยังคงไม่มีคำพูดทำให้พี่ประคองกลับไปนั่งตักที่โซฟาตัวยาว
พี่ลีโอกอดน้องไว้จับศีรษะเล็กๆพิงที่อก
พักหนึ่งวินวินก็พูดขึ้น
“ไอ้พี่กลาสเล่นดนตรีเสร็จดึกแล้วตื่นแต่เช้าไปรับผม บางทีเขาอาจไม่ได้นอนเลยหลับใน”
“ไม่หรอก พี่ได้ยินตำรวจพูดกันว่าอาจมีรถตัดหน้าเลี้ยวกะทันหัน เพราะที่พื้นมีรอยเบรก”
“ผมน่าจะบอกเขาว่าพี่ไปรับผมแล้ว”
“เขารู้ แต่ลืมไป ที่สนามบินเขาก็บอกแล้วไงว่าเขาลืม”
“แต่ผมน่าจะบอกกับเขาอีกครั้ง”
“ต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ วินวินก็จะไม่บอกกับเขาอยู่ดี เพราะวินวินไม่อยากย้ำให้เขาเสียใจ”
วินวินนิ่งไปแล้วพยักหน้ายอมรับ
“อย่าโทษตัวเอง”
“ผมกำลังพยายาม”
“วินวิน”
“พี่ฮะ” ทั้ง 2 คนพูดขึ้นพร้อมกัน ทำให้พี่ลีโอก้มลงหอมที่ผมอ่อนนุ่ม
“อย่าทิ้งผมไปนะฮะ”
“พี่อยู่นี่แล้วไง....”
คนในอ้อมแขนนิ่งไปนานแล้วพยักหน้า ขยับตัว
“พี่ไปทำงานเถอะฮะ” วินวินบอกพี่ ทั้งที่ดวงตากลมยังมีน้ำตาซึม
แต่ภาพที่ป้าลิซเห็นในตอนที่กลับเข้ามาในห้องพักอีกครั้ง คือเด็กหนุ่มที่นั่งจมอยู่ที่โซฟาตัวยาวหน้าโทรทัศน์ ดวงตากลมจ้องมองภาพที่เคลื่อนไหว แล้วปล่อยให้ไหลผ่านไป
-*-*-ตอนที่ 21---*
--พอเข้าบทโศกลูกค้าหายหมดเลย

--