(ต่อครับ)
ตอนที่ 31 พี่จับมือน้องไว้แน่นตั้งแต่ลงจากรถจนเปิดประตูห้องพักสุดหรูชั้นบนสุดของโรงแรม 5 ดาว
วินวินได้แต่หันกลับมามองคนหน้าเครียดเป็นระยะ
“เลิกเครียดได้แล้ว พี่ไรน์แค่ล้อเล่นน่ะ”
“ใครที่ไหนล้อเล่นเรื่องนี้กัน ไอ้หมอนี่มันยังไง” พี่บ่นขณะที่หันมามองคนตัวเล็กที่เดินไปกดน้ำดื่ม
“คนเจ้าชู้ขี้หึงอย่างที่เขาว่าจริงๆ”
“พี่ไม่ได้เจ้าชู้”
“อ่ะ งั้นเปลี่ยนใหม่ คนใจร้ายทำกับคนอื่นไว้เยอะ เลยกลัวว่าจะกลับมาโดนตัวเอง” น้องหันมามองแล้วจิบน้ำ
พี่อ้าปากจะเถียงแล้วเปลี่ยนเป็นพยักหน้า
“นั้นแหละ เปลี่ยนเรื่องเหอะ” พี่ตามเข้ามาแย่งแก้วน้ำในมือมาจิบต่อจนหมดแก้วแล้วหันมาโอบเอวไว้หลวมๆ
“วินวินอยากอยู่ห้องชุดหรือชอบบ้านที่มีบริเวณ”
วินวินกะพริบตามองพี่ที่จู่ๆก็เปลี่ยนเรื่องคุย หรือว่านี่คือเรื่องที่พี่ตั้งใจว่าจะคุยมาตั้งแต่แรกกันนะ....
มือขาวๆ แตะค้างอยู่ที่ไหล่ ทำให้พี่ต้องอธิบาย
“ทีแรกพี่กะว่าจะหาที่สวยๆ คุยกัน แต่มีคนก่อกวน ก็เลยต้องพากลับมาที่ห้องนี้ .... น้องชอบห้องชุดหรือบ้านครับ”
“ก็...ยังไงก็ได้” วินวินก้มหน้ามองอยู่ที่กระดุมเสื้อพี่ “ไม่เห็นจะต่าง เพราะยังไงผมก็อยู่หอ”
พี่ยิ้มๆ
...น้องตามใจพี่เสมอ จนพี่ชักจะเคยตัว...
พี่โอบเอวบางพากลับมาที่โซฟาแล้วอุ้มนั่งตัก
“งั้นเป็นบ้านดีมั้ยถึงจะนอกเมืองแต่ก็จะได้มีห้องกว้างๆไว้ให้น้องซ้อมดนตรีได้”
วินวินเอนหน้าพิงอกกว้าง ไล้นิ้วมือที่แขนที่โอบรอบเอวอยู่
“ไว้เราไปดูบ้านกันนะ”
“ผม...ยังเรียนอยู่นะ อยู่หอด้วย”
“อาทิตย์หน้าละกัน เดี๋ยวให้กองเลขาเขาหาให้”
“ฟังผมมั่งสิ” มือขาวๆตีแขนเบาๆ
“ก็ฟังอยู่ไง น้องบอกว่ายังไงก็ได้” พี่ทำหน้าซื่อ จนวินวินหัวเราะ
“ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์”
“ตาเฒ่าคนนี้หลงรักเด็กดีจนหมดหัวใจ”
วินวินมองตาอ่อนโยนแล้วขยับตัวนั่งคร่อมตักพี่ 2 มือประคองใบหน้าพี่ไว้ แล้วกดริมฝีปากนุ่มๆ
“ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ ใจร้าย คิดมาก”
พี่จูบปากบางเร็วๆ ขณะที่กระชับสะโพกกลมเข้ามาเบียดชิด
“ไม่มีดีเลยนะเนี่ย”
“หื่นมากด้วยแหละ” แก้มแดงเรื่อเมื่อมือพี่ที่สะโพกเริ่มบีบนวด
เสียงโทรศัพท์ของพี่ดังขึ้นจากโต๊ะทำงาน
วินวินหัวเราะร่วน กระโดดออกจากตักพี่ “ไม่แปลกใจเล๊ย! ฮ่าๆๆๆๆ”
“วันนี้มันวันอะไรกันวะเนี่ย!” พี่ลีโออยากทิ้งผมตัวเองเต็มที เดินมากดรับโทรศัพท์พูดกับนายช่างผู้ควบคุมงานก่อสร้างโรงแรมที่ปลายสายห้วนสั้นผิดปกติ
ขณะที่สายตาของพี่หันกลับมามองหนุ่มหน้าใส ที่เดินไปกดดูโทรศัพท์ของตัวเองบ้าง
โทรศัพท์ที่ปิดเสียงมาตั้งแต่เช้า ถึงตอนนี้มีสายโทรเข้ามานับสิบสาย
วินวินเหลือบตามองพี่
แววตาของพี่ที่มองมา เหมือนพี่กำลังภาวนาว่าไม่ใช่คนที่พี่เป็นกังวล
แต่มันใช่....
วินวินกดโทรออกแล้วนั่งอยู่ที่โซฟาตัวเดิม ให้พี่เห็นว่าเรื่องที่คุยกันไม่มีความลับ
“ไอ้พี่กลาส มีอะไรเหรอ กูลืมเปิดเสียงโทรศัพท์น่ะ”
เสียงพูดคุยซักถามของคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาในนี้ แม้จะอยู่ห่างออกไปหลายเมตร แต่กลับดูชัดเจนมากกว่าเสียงจากนายช่างจากโทรศัพท์ที่แนบหูเสียอีก
จากเรื่องของคนรอบข้างที่เกิดขึ้นทั้งหมด น้องน่าจะเป็นคนกังวลและคิดมาก แต่น้องกลับเป็นคนที่ปล่อยให้เรื่องเหล่านั้นผ่านไป แถมยังบอกว่าพวกเขาน่าสงสาร
พี่เสียอีก กลับคิดมากหึงหวงน้องอยู่ตลอดเวลา
...ตาเฒ่าคนนี้ทั้งคิดมาก และหึงมากเลยนะวินวิน...
ดวงตากลมโตที่มองมาเป็นระยะเหมือนรู้ว่าพี่คิดอะไร น้องลุกจากโซฟาเดินเข้ามาหา ทั้งที่ยังฟังเสียงจากปลายสาย แต่วินวินเดินเข้ามาหาจนเบียดชิด
เขย่งเท้าขึ้น
แล้วจูบปาก
ผละออกแล้ววิ่งหนีเข้าไปในห้องนอน!
พี่วางสายไปแล้ว แต่เมื่อเดินตามเข้ามาในห้องนอน น้องนั่งอยู่บนเตียง มือหนึ่งถือโทรศัพท์คุยเล่นอยู่กับคนปลายสาย อีกมือถือรูปภาพของตัวเองพลิกไปมา ใบหน้าเหมือนตุ๊กตาหันมามองพี่ วางรูปไว้ที่เดิมแล้วโบกมือ
พี่ลีโอยิ้มที่มุมปากเดินมานั่งพิงหัวเตียงแล้วดึงน้องเข้ามาหา
วินวินหันมามองหน้าคนที่ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์เต็มที่ เพราะขายาวๆของพี่ ที่แยกกว้างทำให้ร่องก้นของน้องเบียดเข้าหาแก่นกายของพี่ตรงๆ เจตนาแกล้งจับเอวจัดท่าให้เบียดอยู่กับร่องก้นจนเจ้าตัวแก้มแดงเรื่อ
“อะ ไอ้พี่กลาส กูต้องวางสายแล้ว” วินวินพยายามตัดบท แต่คนในสายไม่ยอม “เออ..มึงจะพูดอะไรก็รีบๆพูดมาเหอะ อ้อมไปอ้อมมาอยู่นั่นแหละ” หนุ่มหน้าใสพยายามตัดบท แต่ต้องกัดปากตัวเองแน่น เมื่อพี่สอดมือเข้าใต้เสื้อยืด
“มะ ไม่มีอะไร มึงเข้าเรื่องเลยไม่ได้เหรอ..”
วินวินอยากแกะมือซุกซนที่เกลี่ยเล่นอยู่ที่อกจะแย่ ทั้งอยากวางสายคนที่กำลังพูดถึงอาการบาดเจ็บ และถามไถ่เรื่องการซ้อมดนตรี แต่เหมือนทั้งคู่จะดื้อพอกัน
พี่ลีโอเห็นคนทำหน้าตาลำบากใจแล้วยิ่งอยากแกล้งต่อ
ดึงชายเสื้อยืดขึ้นสูง แล้วโน้มตัวน้องไปด้านหน้า เมื่อแตะปลายลิ้นที่ไหล่ด้านหนึ่ง น้องก็สะดุ้งหันมามอง แต่ไม่ได้ส่งเสียงอะไร พี่ยังคงสบตากลมเมื่อลากลิ้นไปอีกด้าน ปลายนิ้วที่ด้านหน้าแตะอยู่ที่อกบางเกลี่ยเบาๆ ทำให้วินวินทำหน้าตาบิดเบี้ยวกัดริมฝีปากแน่น หันกลับไปก้มหน้า
“อะ มะ ไม่ไหวอ่ะ”
คนที่กำลังจูบหลังเนียนของน้องหัวเราะเบาๆ แต่คนที่อยู่ปลายสายไม่รู้เรื่อง คงถามว่าไมไหวอะไร เพราะวินวินทำเสียงขัดใจ
“กูไม่ได้รำคาญมึง ไว้กูเสร็จเรื่องจะโทรกลับนะ” วินวินรีบพูดแล้วกดสายวางไปทันที แต่พี่แย่งโทรศัพท์มาแล้วกดปิดเครื่อง!
“พี่!” วินวินหันมานั่งคุกเข่ามองอย่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“วันนี้พี่โดนขัดคอมามากพอแล้ว” พี่ตอบนิ่งๆ
“แต่ไอ้พี่กลาสเค้ากำลังไม่สบายใจ”
“พี่ก็เหมือนกัน วินวินก็รู้ว่าพี่ไม่สบายใจ”
“ตอนนี้ผมก็อยู่กับพี่แล้วไง แต่ไอ้พี่กลาสเป็นอย่างนี้ก็เพราะผม”
“พี่ก็เป็นอย่างนี้เพราะวินวิน”
วินวินอ้าปากค้างแล้วผุดลุกจากเตียง แต่พี่คว้าแขนแรงจนเหมือนกระชาก แล้วเหวี่ยงลงมากด 2 มือไว้เหนือหัว
โดยปราศจากคำพูด ริมฝีปากของพี่กดลงมาหาขบที่ริมฝีปากบางแล้วดูดแรงจนรู้สึกถึงคาวเลือด
“อึก อึก”
พี่ทั้งกดจูบทั้งเบียดเอวเข้าเสียดสีแกนกลางของน้อง วินวินพยายามเบี่ยงตัวหนี แต่กลับกลายเป็นการยั่วยุให้พี่เบียดไว้แน่น
เมื่อแรงกดที่ข้อมือยังรุนแรง จูบก็ยังเต็มไปด้วยความก้าวร้าว
วินวินน้ำตาซึม
....ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วยนะ
....ทำไมต้องหึงหวงขนาดนี้ด้วย...
ริมฝีปากที่เปิดรับ ไร้ซึ่งท่าทีขัดขืนทำให้พี่ผละริมฝีปากออก ทันทีที่เห็นน้ำตา กับริมฝีปากช้ำห้อเลือดพี่ก็รีบโอบน้องเข้ามากอด ละล่ำละลักขอโทษ
“ขอโทษครับ วินวิน พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ”
พี่พลิกน้องขึ้นมาหนุนนอนที่ไหล่ มือข้างหนึ่งยังประคองศรีษะเล็กไว้แนบอก
วินวินสูดจมูก เช็ดน้ำตากับเสื้อพี่
“เจ็บมากใช่มั้ยขอโทษ” พี่ก้มลงใช้นิ้วมือเกลี่ยริมฝีปากที่ยังมีเลือดซึม วินวินพยักหน้า เหมือนกำลังกลืนก้อนแข็งๆลงคอ เมื่อช้อนตาขึ้นมองพี่
“พี่....”
ไม่อยากแปลความหมายในดวงตากลมที่มองมาว่ากำลังขอโทษ
ไม่อยากแปลว่าน้องกำลังตามใจพี่...อีกครั้ง......
ไม่เลย.....
“วินวินครับ” พี่บอกแล้วพลิกน้องลงนอน ก้มลงจูบแผ่วเบาแล้วเลื่อนที่ไปที่แก้มใส ซุกไซ้อยู่ที่ลำคอขาวจนร่างกายผอมบางในแขนอ่อนแรง ปล่อยให้มือของพี่สำรวจผิวกายขาวละเอียด
“พี่ฮะ...ขอ อาบ น้ำ ก่อน ได้ มั้ย ฮะ”
“รอไม่ไหวแล้ว ขอจูบก่อนแล้วค่อยไปอาบแล้วกัน”
วินวินดันไหล่พี่ขึ้น แล้วนั่งคร่อมอยู่บนขาแข็งแรง มือขาวๆ ประคองใบหน้าของพี่แต่ยังไม่ทันที่จะขยับใบหน้าเข้าหา เสียงโทรศัพท์ของพี่ที่วางอยู่ที่โต๊ะทำงานด้านนอกก็ดังขึ้นอีกครั้ง
น้องถึงกับทิ้งตัวลงนอนกลิ้งหัวเราะเสียงดังลั่นห้อง
“นี่มันวันอะไรกันวะเนี่ย!”
ไม่ต้องมองหน้าก็รู้ว่าพี่กำลังหงุดหงิดขนาดไหน
“ฮ่าๆๆๆ ไปรับโทรศัพท์สิฮะ”
“ไม่รับหรอก ช่างเหอะ” พี่บอกอย่างเอาแต่ใจ แล้วทิ้งลงคร่อม แต่คราวนี้ทั้งเสียงโทรศัพท์ในห้องนอนก็ดังขึ้นด้วย
“โว๊ย!”
วินวินสลัดพี่จนหลุด แล้ววิ่งหนีออกไปนอกห้อง ปล่อยให้พี่รับโทรศัพท์คุยงาน แต่ไม่ถึงนาทีพี่ก็เดินตามออกมารื้อกระเป๋าทำงาน
น้องทำหน้าตาล้อเลียน แล้วทำมือขออนุญาตเปิดทีวีเบาๆ
นานทีเดียวกว่าที่การโทรศัพท์จะเสร็จ
“ไม่เห็นต้องหงุดหงิดเลย วันนี้มันวันเสาร์ลูกน้องทำงานอยู่ ถ้ามีปัญหาเค้าก็ต้องโทรหาพี่อยู่แล้ว”
วินวินเดินเข้ามานวดไหล่ให้พี่ ที่นั่งทำงานหน้าเคร่งเครียดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
“เดี๋ยวเราไปเดินเล่นห้างตรงนี้กันก็ได้ฮะ ถ้าเกิดจะเจอใคร หรือมีโทรศัพท์เข้ามาอีกจะได้ไม่อารมณ์เสีย”
แต่พี่ถอนใจยาว จนวินวินยิ้มกว้าง
“ไรน์เคยบอกกับผมว่า สำหรับพี่แล้วไม่มีใครหรืออะไรสำคัญไปกว่างานของพี่”
“จริงเหรอ” พี่จับมือที่นวดไหล่แล้วหันมามอง
“ไม่นี่ ผมว่า พี่พยายามหาเวลาอยู่กับผมมาก จนผมเกรงใจ ก็ขนาดวันทำงานพี่ยังโดดไปให้กำลังใจผมคัดตัวเลย”
พี่ลีโออมยิ้ม ที่จริงวันนั้นนอกจากจะไปให้กำลังใจน้อง ด้วยการใช้สิทธิ์ของกรรมการสมาคม เข้าไปดูการคัดตัวที่จัดขึ้นแบบภายในแล้ว อีกเรื่องที่ทำให้ต้องไป ก็คือไปคุยกับเทียร์ที่จะต้องอาละวาดกับน้องแน่ๆ
ดีที่วินวินสามารถก้าวข้ามคำพูดของคนที่เข้ามาหาไปได้
ชายหนุ่ม 2 เดินจับมือเดินเล่นอยู่ในห้างดัง สะดุดตาทุกคนในห้างเพราะคนหนึ่งรูปร่างสูงโปร่งหล่อคมเข้ม อีกคนตัวเล็กหน้าตาสดใสเหมือนตุ๊กตา
แต่ท่าทางอารมณ์ดีของคนตัวสูงเปลี่ยนไปทันทีที่ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่แต่งตัวสะอาดเรียบกริบตั้งแต่หัวจรดเท้าเดินเข้ามาทักทาย
“เจ้านายครับ มาเดินเล่นหรือครับ” ชายหนุ่มทักทายขณะที่ส่งยิ้มกว้างให้กับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ผมคืออลันครับ เป็นคนที่เตรียมพวกข้าวของเครื่องใช้ให้คุณวินวิน ถ้ายังมีอะไรขาดตกบกพร่องบอกผมได้นะครับ”
จนเมื่ออลันจากไปแล้ว แต่พี่ยังดูหงุดหงิด จนวินวินต้องกระตุกมือพี่ให้เดินเข้าไปในร้านอาหาร
“พี่ฮะ เขาเป็นลูกน้องเจอเจ้านายก็ต้องทักทายสิฮะ ไม่งั้นพี่ก็ว่าเค้าไม่มีมารยาทอีกหรอก”
วินวินชวนคุยไปเรื่อยเพื่อให้พี่อารมณ์ดีขึ้น แต่ว่าในตอนนี้สมองของพี่กำลังคิดวางแผนเรื่องอื่นอยู่
มุมปากสวยได้รูปยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
“คิดอะไร”
“เปล่า” พี่หัวเราะเสียงหึหะ แต่วินวินส่ายนิ้วชี้ไปมา
“มีแผนแหง ๆ ยังไงก็ได้แต่ต้องไม่ทำร้ายคนอื่นโอมั้ย”
“จะโออะไร พี่ไม่ได้มีแผนอะไรนี่นา”
-*-*-จบตอนที่ 31---*
แฟนคลับมิคกี้ และ พี่กลาสครับ พรุ่งนี้มีเรามีนัดกันนะครับ
