ตอนที่ 2เสียงรัวนิ้วเป็นจังหวะเรื่อยๆบนโต๊ะไม้บ่งบอกว่าคนทำกำลังอยู่ในอารมณ์สบายอกสบายใจ
ลมเย็นๆที่อุตส่าห์แทรกตัวผ่านบ้านเรือนที่ปลูกกันอยู่หนาทึบทำให้รู้สึกสบายตัวในช่วงเย็นย่ำแบบนี้
อารมณ์และบรรยากาศพาไปจากรัวนิ้วเคาะจังหวะบนโต๊ะไม้จึงได้เสียงผิวปากเข้ามาร่วมด้วยอีกจังหวะ
“ ลูกพี่คร๊าบบ เสร็จแล้ว ”
เย๊!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงเจื้อยแจ้วที่โห่รับพร้อมกันดังขึ้นเหมือนรอเวลานี้อยู่นานแล้ว
ลูกสมุนทุกคนพร้อมใจกันกดดันเพื่อนคนสุดท้ายให้ทำการบ้านเสร็จไวๆเพื่อที่จะได้ออกไปทำกิจกรรมนันทนาการก่อนเข้าบ้านใครบ้านมัน เห็นจะมีคนที่อารมณ์ดีถึงขั้นเคาะโต๊ะผิวปากอยู่ได้ ก็ลูกพี่ของเหล่าบรรดาลูกสมุนลูกเล็กเด็กแดงพวกนี้แหละ
ความยิ่งใหญ่ของนักเลงคุมสลัมอย่างพี่ดิน ที่มีลูกสมุนหลายสิบเป็นลูกหลานของคนในชุมชนนี่เอง
เห็นลูกพี่ทั้งเฮี้ยวทั้งซ่าแบบนี้แต่เวลาเอาจริงเอาจังขึ้นมาเมื่อไหร่ ลูกสมุนก็กลัวจนตัวสั่นได้เหมือนกันแหละนะ
เพราะแบบนี้ใครๆในชุมชุนจึงได้พร้อมใจกันเรียกหัวหน้าแกงค์ตัวโข่งว่า “พี่ดิน”
หน้าที่หลักๆนอกจากเดินกร่างไปมาในชุมชนให้ทุกคนได้เอ็นดูกันถ้วนหน้าแล้ว
ยังมีหน้าสำคัญคือต้อนลูกสมุนทั้งหลายให้ทำการบ้านก่อนออกไปวิ่งเล่น เหมือนเช่นตอนนี้
“เอาหละ ในเมื่อพร้อมกันทุกคนแล้ว วันนี้เราจะเล่นอะไรกันดี”
ลูกพี่ตัวโข่งให้สิทธิ์เหล่าบรรดาลูกน้องทั้งหลายมีโอกาสเลือกการละเล่นที่ตัวเองสนใจ
“โมราเรียกชื่อ”
“เย้ๆๆ เอาอันนี้แหละลูกพี่ เล่นอันนี้ “
บอกแล้วเป็นลูกสมุนพี่ดินห้ามเล่นอะไรที่ธรรมดาเกินไปมันดูไม่สมฐานะลูกพี่ ใครไม่แน่จริงเล่นไม่ได้นะเกมส์นี้ ใครแพ้โดนลูกปิงปองอัดขาเข้าไปแล้วทนความเจ็บปวดไม่ได้ ร้องไห้จ้ากลับบ้านถือว่าไม่ผ่านการเป็นลูกสมุนของผู้ยิ่งใหญ่
เกมส์ดำเนินไปจนหลายคนเริ่มมีร่องรอยจ้ำสีแดงๆ ไว้เป็นร่องรอยเกียรติยศกันแล้ว
ฟ้าเริ่มมืดใกล้ได้เวลาแยกย้าย ถ้าไม่มีลูกสมุนคนใดวิ่งหน้าตาตื่นมาเรียกลูกพี่ก็นะ กระจัดกระจายกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“ลูกพี่ๆๆ แย่แล้วๆๆ”
“อะไรวะ ใครแย่ใครเย่อกับใคร”
ไอ้คนที่วิ่งหน้าตั้งคาบข่าวมารายงานลูกพี่โตพอที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาของเด็กในชุมชนแห่งนี้ที่จะรับรู้อะไรต่ออะไรเร็วกว่าเด็กในวัยเดียวกันอยู่มาก
“ไม่ใช่อย่างนั้นพี่ดิน ตรงท้ายซอยอ่ะ มีรถจอดอยู่”
“แค่นี้เหรอ แล้วมันตื่นเต้นตรงไหนวะ” ถ้าเป็นรถผีสิงที่ขย่มได้ก็ว่าไปอย่าง
“ป่าวมันมีคนนอนตายอยู่ในนั้นนะสิ”
“เฮ้ยยยยยยยยยยยย คนตายเลยเหรอวะ โดนใครฆ่าแล้วเอาศพมาทิ้งแถวนี้ป่าววะ”
ชุมชนแออัดนะเว้ยไม่ใช่ป่าละเมาะ จะได้เป็นที่ทิ้งศพอำพราง
“ไปดูกันมั้ยพี่”
“ไปสิๆ”
รถคันที่ว่าเป็นรถหรูราคาแพงที่ดูจากการแต่งแล้วเจ้าของคงยังวัยรุ่นอยู่ กระจกโดยรอบติดฟิล์มทึบแสงมองไม่เห็นคนข้างใน
ยิ่งเวลาย่ำค่ำแบบนี้เดาได้ยากว่าคนข้างในเป็นอะไรบ้าง คนส่งข่าวก็เก่งแสนเก่ง มืดมิดขนาดนี้มันรู้ได้ไงว่าคนข้างในตายแล้ว
ถ้ามีคนตายจริงๆ เคาะกระจกคงไม่ได้ยินสินะ พี่ดินและลูกสมุนที่ส่งข่าวจึงได้แต่เดินวนไปมารอบๆ
“จืด เอ็งจำได้มั้ยวะ จส.100 เบอร์อะไรที่ดีแทคโทรฟรี”
ไอ้ที่เดินวนไปมารอบรถไม่ใช่เพราะว่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูกหรอกนะ แต่เดินวนเพื่อจะระลึกว่าเบอร์ที่จะแจ้งไปยังวิทยุสถานีอุบัติเหตุและจราจรนั้นเบอร์ไหนที่โทรฟรี ปากกัดตีนถีบขนาดนี้ทางไหนประหยัดได้พี่ดินก็เลือกประหยัดแหละวะ
ทั้งลูกพี่ลูกน้องกำลังนั่งใช้ความคิดกันอยู่อย่างหนัก เสียงกระแทกอย่างแรงทำให้ทั้งสองร่างสะดุ้งตกใจพร้อมกัน
อ๊วกกกกกกกกกกกกก!!!
เสียงที่บ่งบอกว่าเป็นคนดังตามเสียงกระแทกออกมา
ลูกพี่ดินได้สติก่อนใครถึงได้ถลาเข้าไปหา ไม่ตายก็ดีแล้ว
เพราะพี่ดินนึกเท่าไหร่ก็จำไม่ได้ว่าเบอร์โทรฟรีนั้นคือเบอร์อะไร
คนที่โก่งคออ๊วกอยู่ข้างรถฝั่งคนขับเป็นผู้ชาย ถึงเสื้อจะหลุดลุ่ยออกมาจากกางเกงแต่ก็พอเดาได้ว่าก่อนหน้านี้คงแต่งตัวดีอยู่ไม่น้อย พี่ดินจึงค่อยๆยื่นมือไปลูบหลังเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่โก่งคออ๊วกอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้คนลูบหลังอินถึงขั้นอยากอ๊วกตามไปด้วยเลย
พักใหญ่ๆกว่าคนที่ให้อาหารย่อยสลายง่ายกับหมาจรจัดข้างทาง คงจะออกแรงโก่งคอจนเหนื่อยถึงได้นั่งพิงกับรถหอบหายใจหมดสภาพ
ดูไปดูมาคุ้นตามาก ผู้ชายคนนี้เคยเห็นที่ไหน
“ขับรถได้มั้ย”
“เฮ้ย พูดกับผมเหรอ”
“พูดกับรถมั้ง พูดกับนายนั่นแหละ”
“ขับไม่ได้”
ท่าทีแบบนี้ คำพูดยียวนกวนส้นนิ่มๆของพี่ดินคนนี้คุ้นมาก
“งั้นเรียกแท็กซี่ให้หน่อย”
นี่มันใช้เพราะเมาหรือว่านิสัยมันเป็นคุณชายอยู่แล้ววะ ได้แต่เกาหัวแกรกๆให้คนเมาแต่ยังมีอำนาจสั่งคนที่ไม่รู้จักได้
“นี่ ผมไม่ใช่พลเมืองดีนะ ผมมาปล้น ผมเป็นโจร”
“ฮะ ฮะ โจรที่ไหนตัวขาว ปากแดงยังกับแต้มอุทัยทิพย์มาแบบนี้ หรือจะเป็นโจรกระเทย”
รูปร่างหน้าตาและคำพูดที่พิจารณาแล้วสติพี่ดินประมวลผลออกมาทันทีว่า
“ไอ้เสาไฟฟ้า เฮ้ย ปากเสียเหมือนเดิมเลยนี่หว่า”
“อะไร บอกว่าให้เรียกแท็กซี่ไง”
แล้วมีสิทธิ์อะไรมาจับแขนพี่ดินแล้วเขย่าวะ จะขอความช่วยเหลือทำไมไม่พูดดีๆ
“พี่ดินรู้จักเค้าเหรอ”
“ไม่รู้จักหรอก แต่ไอ้นี่เคยเดินชนพี่ ก๋วยเตี๊ยวกระจาย”
“อ่อ แล้วเอาไงดี เมามากนะเนี่ย เมาแล้วเพ้อ”
“เออนี่ไอ้เสาไฟฟ้า เอ้ย นายบ้านอยู่ไหนหละ แล้วรถนายจะทำยังไง”
“รถจอดไว้นี่แหละ เดี๊ยวจะนั่งแท็กซี่กลับบ้าน ไม่ไกลแล้ว”
“พี่ดิน พี่ไปส่งเค้าด้วยเถอะผมว่า สภาพเมาและปากหมาแบบนี้โดนแท็กซี่ปาดคอชิงทรัพย์แน่ๆ”
“เฮ้ย ทำไมต้องเป็นพี่ด้วยวะ”
“ก็จากสภาพเราสองคน พี่ตัวโตกว่าผมแล้วก็รู้จักถนนหนทางดีกว่าผม”
“เออๆ เอางั้นก็ได้ จืดไปบอกลุงใบไว้นะว่านี่รถเพื่อนพี่จอดฝากไว้”
ลูกสมุนพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินออกไปริมถนนเรียกรถให้ลูกพี่โดยไม่ต้องรอคำสั่ง
“นี่นายเรียกรถแล้วนายลุกไหวมั้ย”
“ไม่ไหว”
อ้าวไอ้ฉิบหาย!! ตัวใหญ่ยังกับตึกถ้าลุกเองไม่ไหวแล้วจะให้ทำยังไงวะ แล้วมันเรื่องอะไรถึงได้เมามายไร้สติแบบนี้
โว้ยยยยแล้วมันเรื่องอะไรของกูวะเนี่ย ปีนี้ปีชงของพี่ดินหรือไงทำอะไรก็มีแต่เรื่อง
รถจอดเทียบท่าแต่คนเมาก็ไม่มีทีท่าว่าจะลุกแต่อย่างใด พี่ดินและลูกสมุนถึงต้องคอยหามหัวหามท้ายเอาร่างยักษ์ไร้สภาพยัดเข้ารถได้แบบทุกลักทุเล
หลังจากที่ปล้ำถามกับคนที่ขึ้นรถมาได้ก็ตีตั๋วศพทันที ว่าบ้านอยู่ไหนก็กลายเป็นว่าพี่แท็กซี่ขับเลยทางกลับบ้านของไอ้บ้านี้มาแล้ว เฮ้ออ!!ซวยฉิบหายเลยพี่ดิน
บ้านที่ความจริงแล้วไม่ไกลจากชุมชนเท่าไหร่แต่กว่าจะสื่อสารกันได้รู้เรื่องก็กดค่าแท็กซี่ไปเป็นร้อย บ้านหลังใหญ่ที่ไม่สามารถบอกได้ว่าจุดสิ้นสุดของบริเวณอยู่ที่ไหน คนมาส่งได้ทำให้ต้องกลืนน้ำลายลงคืออึกใหญ่ๆ ก้มดูสภาพตัวเองแล้วอนาถใจจะมีใครมาเปิดบ้านให้มั้ยเนี่ย ไอ้เสาไฟฟ้านี่ชื่ออะไรแล้ววะ
“นี่ๆ นายๆบ้านนายแน่นะ”
ไม่ตอบแต่พยักหน้า แล้วมึงก็เก่งนะปิดตาแต่พยักหน้าได้เหมือนหยั่งรู้
“แล้วนายชื่ออะไร จะได้บอกเค้าถูกว่าเอาใครมาส่ง”
“ภู”
“อือ รอเดี๊ยวนะ แล้วต้องกดกริ่งตรงไหนอ่ะ”
นิ้วมือที่ไร้เรี่ยวแรงยกขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ นิ้วชี้ส่งๆไปไร้ทิศทางน่าปวดกบาลจริงๆเลยให้ตาย
จะรู้มั้ยเนี่ยว่ามันปุ่มไหน มีเครื่องเล็กๆรูปร่างหน้าตาคล้ายเครื่องเล่น mp4 มีปุ่มหนึ่งปุ่มที่เขียนตัวหนังสือว่า call พี่ดินกลั้นใจกดปุ่มแล้วก็ได้แต่รอ หน้าจอมีแสงวาบขึ้นแสดงการเชื่อมต่อ มีตัวหนังสือภาษาอังกฤษบอกให้รอแต่ไม่มีภาพของใครให้เห็น
“มาพบใครค่ะ”
มีเสียงดังออกมาจากไอ้เครื่องนั่น แล้วพี่ดินต้องทำยังไงวะ ถ้าโต้ตอบออกไปทางนู้นจะได้ยินไหม เอาวะ! ไม่มีอะไรจะเสียลองดูสักตั้งก็แล้วกัน
“ไม่พบใครครับ ผมเอาคนมาส่ง”
“ใครค่ะ”
“ไอ้เสาไฟ............เอ้ยยยยย...........คนที่ชื่อภูอะครับ”
“ห๊า คุณภูเหรอค่ะ แล้วรถไปไหนค่ะ”
“รถจอดไว้แถวตลาด.......ครับ เค้าเมา”
“คุณภูเมา โอย ตายแล้ว”
อย่าเพิ่งตายเลยครับ ก่อนตายช่วยมาเอาศพไอ้ตึกนี่เข้าบ้านก่อน ตัวหนักยังกับอะไร หน้าตาดีแต่งตัวดีแต่สภาพที่นอนเหมือนคนข้างถนนนี่ดูไม่จืด
“คุณรอสักครู่นะคะ เดี๊ยวให้คนออกไปรับ”
“ครับ”
สักครู่ที่บอกนั้นทำเอาคนรอแทบหลับส่วนไอ้คนเมามันเริ่มขยับได้แล้ว สงสัยคงพลิกตัวไปมาบนพื้นคอนกรีตแล้วคัน
ไอ้ผู้ดีผิวบางเอ้ยย
ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอา เวลายังไม่สองทุ่มดีไอ้นี่มันก็เมาเหมือนกับว่ากินมาข้ามวันข้ามคืนแล้วอย่างนั้น
“ที่นี่ที่ไหน”
“อ้าวเฮ้ย ทำไมถามแบบนี้หละ เมื่อกี้ตอนกูถามว่าบ้านมึงใช่ที่นี่แน่นะ มึงก็เสือกพยักหน้าให้”
“ก็แค่นั้น อยู่บ้านนายก็บอกว่าบ้านสิจะโวยวายทำไม”
ก็มึงทำเหมือนจำอะไรไม่ได้เลยนี่หว่า ก็ต้องตกใจไว้ก่อนละนะถึงแม้คนในบ้านจะทำเหมือนกับรู้จักมึงก็เหอะ
“นี่”
“อะไร”
“นายเคยอกหักมั้ย เคยโดนทิ้งรึเปล่า”
“ไม่เคย”
“อ้าวทำไมไม่เคย มันโครตเจ็บเลยนะรู้มั้ย”
“ไม่รู้”
“ทำไมไม่รู้”
“เอ้ยย แล้วจะให้กูตอบว่าไง คนไม่เคยมีแฟนจะให้เคยอกหักได้ไง บ้ารึเปล่า เมาก็เพ้อไปคนเดียวเลย นี่บ้านมึงเค้าไปผลิตแก็สโซฮอลล์กันอยู่หรือไงทำไมไม่ออกมาสักที”
ขนาดรู้ว่าคนเมามันเพ้อก็ยังไปบ้าตามมัน
“นั่นสินะ ถ้าไม่มีแฟนก็ไม่อกหักใช่มะ”
“เออ”
“ฮะ ฮะ พอมีแฟนแล้วอกหักแล้วก็ต้องมาเจ็บแบบนี้ไม่ดีเลยนะ”
อ้าวเฮ้ยยย เมื่อกี้ยังได้ยินเสียงหัวเราะอยู่เลย ทำไมตอนนี้นั่งกอดเข่าร้องไห้แบบนั้นวะ
“นี่นายเป็นอะไรไปอีกอ่ะ มดกัดขาเหรอ”
“เปล่า กำลังร้องไห้”
เออมึงนี่ก็ไม่รักษาหน้าตัวเองเลยเนาะ ร้องไห้ก็บอกว่าร้องไห้ ปกติผู้ชายเค้าต้องรักษาฟอร์มสิวะ ผงเข้าตาก็ตอแหลไป ตอบแบบนี้พี่ดินเลยต้องรู้สึกสงสารเลย
“ขอโทษที่ให้รอครับ พอดีตอนนี้ในบ้านกำลังวุ่นวายเลย ผมช่วยนะครับ”
“พี่ต้องช่วยอยู่แล้วครับ ผมคนเดียวไม่ไหวแน่ๆตัวยังกับควาย”
“คุณคงเป็นเพื่อนสนิทคุณภูนะครับถึงได้หยอกกันสนิทสนมขนาดนี้”
“ปล่าวครับ ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว”
“อ้าว”
“เรียบร้อยแล้วผมกลับเลยนะครับพี่ หวัดดีครับ”
“เดี๊ยวครับคุณ ผมรบกวนช่วยจับคุณภูก่อนได้มั้ยครับ รถไม่มีประตูผมกลัวตกลงมาหนะครับ”
รถที่เอาออกมารับคุณชายของบ้านเป็นรถกอล์ฟเปิดโล่งทุกทาง
พี่ดินคนดีศรีชุมชนเลยต้องจำใจเอาไอ้เสาไฟฟ้าไร้น้ำยานี่ไปส่ง
ระยะทางจากประตูถึงตัวบ้านไกลโขถึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงมารับช้า
“ทำไมไม่เข้าทางหน้าบ้านละครับ ประตูฝั่งนี้ไกล”
ควรต้องปลุกไอ้คนตีตั๋วศพมากระทืบให้กระอักเลือดตายซะดีมั้ย ไอ้ขี้เมามันบอกทางว่ามาทางนี้นี่หว่าใครจะไปรู้ว่าบ้านมีทางเข้าหลายทาง
มาถึงตัวบ้านมีแม่บ้านวัยกลางคนมารอรับหน้าตาตื่นเหมือนทำอะไรหายสักอย่าง เหอะ กะอีแค่คุณชายเมาแล้วหาทางกลับบ้านไม่ได้แค่นี้ทำไมต้องตกใจ
“คุณค่ะ เอาเข้าข้างในเลยค่ะ ตามป้ามาทางนี้ค่ะ ทางนี้ เกรียงไกร ช่วยคุณเค้าประคองคุณภูมาเร็วสิ”
นี่ตกลงวันนี้ผมจะได้กลับบ้านตอนไหนครับ เอาไอ้เสาไฟฟ้ามาส่งจะกลับบ้านก็กลับไม่ได้ มาส่งถึงบ้านแล้วยังต้องหามไปส่งถึงห้องนอนแล้วท่าทางลุกรี้ลุกรนเหมือนกำลังค้ายาข้ามชาติแบบนี้หมายความว่าไง
ไม่อยากให้ใครมาเห็นไอ้คุณชายสภาพนี้เหรอ....อย่าบอกนะว่าไอ้นี่เคยเมาเหมือนหมาครั้งนี้ครั้งแรก
“ถึงแล้วค่ะ ขอโทษนะค่ะ ป้าฝากคุณภูด้วย เสื้อผ้าเครื่องใช้อยู่ที่เดิมนะค่ะ”
“เดียวครับป้า คือผมจะกลับแล้วครับ”
“กลับทำไมค่ะ ค้างที่นี่แหละค่ะ นี่มันจะสามทุ่มแล้วนะค่ะ ดึกแล้ว ค้างที่นี่แหละ ไปนะค่ะวันนี้ป้ายุ่งมาก”
อะไรกันวะบ้านนี้ พี่ดินเป็นคนแปลกหน้านะเว้ย อยู่ดีๆให้มานอนได้ไง แล้วสามทุ่มนี่มันดึกตรงไหน คงแค่ตรงนี้และที่บ้านนี่สินะ
แล้วไอ้บ้านี่มันจะยืนพิงกำแพงโงนเงนใกล้จะล้มอีกนานมั้ย..........
อะไรกันหนักหนาวะเฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย
“นี่ๆ ยืนตัวตรงๆสิ เฮ้ยคุมสติหน่อย ไม่มีคนช่วยประคองแล้วนะเว้ย เปิดตูดกันไปหมดแล้ว อย่าทิ้งตัวแบบนั้นสิวะ มันหนัก”
ฮ่วย!! ไอ้ประตูบ้านี่ก็หนักชิบหายกว่าจะหลุดเข้าห้องมาได้ก็
.
.
.
.
ลอยหวือมาปะทะประตูที่ใช้แรงทั้งหมดที่มีเปิดเข้ามาได้เมื่อกี้ ด้วยแรงควายของไอ้ขี้เมานี่
“เฮ้ย จะทำอะไรวะ”
คนอย่างพี่ดินสู้นะเว้ย ถึงจะต่อยในบ้านคู่ต่อสู้ก็เหอะ และถึงแม้จะตกอยู่ในปลอกเหล็กของอ้อมแขนก็เถอะ
“เฮ้ย ปล่อยสิเว้ย แล้วจะมาล็อคไว้ทำไมละเนี่ย”
ไม่ได้ผล ดิ้นสุดกำลังที่มี แต่ไอ้ยักษ์บ้านี่ไม่สะเทือนแม้แต่น้อย
แขนสองข้างที่ล้อมตัวพี่ดินเอาไว้กับประตูแข็งยังกับเหล็ก ตะกายขาออกไปเตะขาไอ้บ้านี่ก็ไม่สะทกสะท้าน
หอบและเหนื่อย!!
“กร ทำไมเข้าใจอะไรยากแบบนี้”
“เอร้ยยย เพ้ออะไร กูไม่ใช่นะเว้ย”
จำได้แล้วชื่อนี้คือชื่อพี่หน้าหล่อสุดเนี๊ยบเรียบร้อยคนนั้น คนที่บอกว่าเป็น “แฟน” ไอ้เสาไฟฟ้านี่ คนที่ไอ้นี่ทั้งเกรงใจและหงอสุดๆวันนั้น
หรือว่าไอ้บ้าพลังนี่จะถูกแฟนทิ้ง
แรงกอดที่รัดแน่นขึ้นทำให้หายใจไม่ออก จมูกที่ฝังลงมาตรงซอกคอทำให้ทำอะไรไม่ถูก จะผลักไสก็ทั้งผลักทั้งถีบทั้งทำทุกอย่างแล้วก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ทำไมกรยอมอะไรง่ายๆ ไหนบอกว่ารัก แล้วทำไม ทำไม”
“กูไม่รู้เว้ยว่าทำไม แต่ตอนนี้ปล่อยกูก่อนได้มั้ย กูหายใจไม่ออกแล้ว แอ่ก แอ่ก”
“ไม่ให้ไปแล้ว ไม่ให้ไปไหน อยู่กับภูนี่แหละ นะ ไม่ให้ไป”
จมูกเริ่มซุกไซร้มากกว่าเดิม ไม่ใช่แค่ซอกคอ แค่ลามไปถึงหน้าและใบหู รู้สึกแปลกๆมันจั๊กจี้แล้วก็รู้สึกหวิวชอบกลเมื่อลมหายใจเป่ารดต้นคอและใบหู ไอ้ยักษ์เอาลิ้นร้อนชื้นแหย่เข้าไปในรูหูแล้วเม้มริมฝีปากย้ำๆกับติ่งหู
ขนลุกซู่ แขนขาไร้เรี่ยวแรงเหมือนลูกโป่งโดนปล่อยลมริมฝีปากลากผ่านไปทั่วหน้าและลำคอก่อนจะมาแลบลิ้นเลียไปรอบๆริมฝีปากเหมือนรอ
รอ
“อะ”
กำลังจะอ้าปากด่าเรียกสติให้สมกับที่รอ กลายเป็นว่าเปิดทางให้ลิ้นอุ่นเปียกชื้นเข้ามาในโพรงปากแทน
ตัวแข็งตาเหลือกคืออาการที่รับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังเป็นอยู่.....แต่อีกฝ่ายแม่งไม่รับรู้ห่าเหวอะไรเลย ส่งลิ้นเข้ามาได้แม่งก็ชอนไชไปทั่วทุกมุมปาก พอชักลิ้นหลบมันก็ส่งเสียงออกมาเหมือนพอใจแล้วก็ส่งลิ้นเข้ามารุกไล่ต่อ
นี่คือพี่ดินกำลังส่งลิ้นไปเข้าชิงวิ่งไล่จับกับลิ้นไอ้ยักษ์ขี้เมาอยู่ใช่มั้ย!!!เริ่มหมดแรงจนไม่อยากต่อสู้อะไรแล้ว เริ่มปล่อยให้มันบ้าไปตามที่มันพอใจ จะเอาอะไรนักหนากับคนเมา มันคิดว่ามันจูบผู้ชายได้ก็ปล่อยให้มันทำไป พี่ดินท้องไม่ได้ไม่เสียหายอะไรอยู่แล้ว
ไอ้ยักษ์มันกินลิ้นจนพอใจก็มาสนใจกินอย่างอื่นต่อ เสื้อยืดใส่สบายตัวหลวมโพรกโดนนิ้วเกี่ยวนิดเดียวก็หลุดออกจากร่าง แต่อีกคนไม่ได้ถอดอะไรเลย ตอนเข้ามาแอร์เย็นฉ่ำไปทั้งห้องแต่ตอนนี้รู้สึกสะบัดร้อนหวิวๆตามเส้นชีพจรเพราะอะไรก็ไม่รู้
ไอ้คนที่ตีตั๋วศพอ่อนเปลี่ยนเพลียแรงตั้งแต่อยู่ในรถเอาพลังมาจากไหนไม่รู้ ไล่เลียไปทั่วทั้งไหล่หลังแล้วมาหยุดกลืนกินยอดอกเหมือนคนตายอดตายอยาก ทั้งจักจี้ทั้งสยิวจนต้องยื่นสองแขนไปเกาะบ่าไอ้ยักษ์ตรงหน้าเอาไว้ จังหวะและท่าทีลีลาของมันเพลินเสียจนลืมตัวเอามือไปขยุ้มกลุ่มผมชื้นเหงื่อที่ท้ายทอยของมันเล่น
อาาาา เริ่มควบคุมอะไรไม่ได้เมื่อมันเริ่มลากลิ้นต่ำลงไปต่ำลงไปจนหยุดวนปลายลิ้นรอบสะดือ
อ่อย.........ตอนนี้ไม่ใช่แค่จั๊กจี้หรือสยิวแล้วแต่บอกได้ว่าเสียวจนปั่นป่วนลงไปถึงท้องน้อย“อือ หยุดก่อน เริ่มไม่ไหวแล้ว เฮ้ย ไอ้เสาไฟฟ้า ไอ้ยักษ์ ไอ้เชี่ยเอ้ยกูบอกว่าให้หยุดก่อน มันทนไม่ไหว มันเสียวนะรู้มั้ยละเว้ยเฮ้ย”
โอย พี่ดินจะทำยังไงดี ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ พอสั่งให้หยุดสั่งให้พอ มันก็ยิ่งรัวลิ้นเร็วเดี๋ยววนรอบเดี๋ยวแหย่เข้าไปในรูสะดือ
ที่สำคัญเพิ่งได้ลืมตาแล้วเห็นว่า ไอ้ห่านี้มันถอดกางเกงออกไปตอนไหนวะ พี่ดินแทบจะทรุดลงไปเด๊ยวนั้นเมื่อเห็นบางอย่างที่อยู่ในมือเจ้าของที่สาวเข้าออกรัวเร็วพองตัวออกมา ก้มลงมองของตัวเองก็มีสภาพไม่ต่างกันแต่ที่ไม่เท่ากันคือขนาด
เออ!!!กูมันมักน้อยพ่อรีบปั้นเลยได้มาแค่นี้ รีบหลับตาปี๋หนีภาพตรงหน้าด้วยความอนาถใจ อะไรๆก็ต่างไหนที่วิทยาลัยสอนว่ามันไม่ได้ใหญ่ตามตัวเสมอไปไงวะ แล้วของไอ้บ้านี่มันอะไร
มัวแต่เสียวมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยและมัวแต่บิดตัวผ่อนคลายความรู้สึกแปลกใหม่ที่เพิ่งได้ลองครั้งแรก
มันวาบหวามเสียวซ่านและวาบหวิวยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่ได้ทำด้วยมือตัวเอง การตกอยู่ในอุ้งมือของคนอื่นมันสุขได้ขนาดนี้เลยเหรอ
แผ่นหลังกระทบที่นอนหนานุ่มแทบไม่รู้ตัวเลยว่ามาได้ยังไง มัวแต่หลงระเริงไปกับความรู้สึกใหม่ที่เริ่มจะทรมานเพราะต้องการจะปลดปล่อยแต่คนตรงหน้าช่ำชองกว่าที่คิด มันรู้จังหวะที่จะเร่งรุกเร้าหรือแผ่วลงมาเพื่อรอเวลาทะยานไปพร้อมกัน ทุกสิ่งอย่างเกิดเพราะต้านแรงไม่ไหวและอีกความรู้สึกที่แทรกเข้ามาคือความอยากรู้อยากลอง
แทบจะดิ้นพล่านส่งเสียงครางไม่เป็นภาษาเมื่อไอ้ยักษ์ตรงหน้าส่งปากเข้าไปครอบครองทั้งหมดที่มีแล้วบรรเลงลงลิ้นซะจนก้นพี่ดินลอยไม่ติดที่นอน ส่งเสียงร้องครางทั้งคนรับและคนปรนเปรอ มันเคลิ้มจนเพลิน รู้สึกดีจนลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง
ลืมไปว่าตัวเองกระตุกตัวแรงครั้งสุดท้ายไปถึงฝั่งฝันแล้ว แต่อีกคนหนึ่งยัง
เพราะเพิ่งปลดปล่อยและยังล่องลอยสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เลยไม่รู้ว่าน้ำเหนียวๆเย็นๆที่จ่อรออยู่ก้นนั้นคืออะไร
เพราะไม่รู้
เพราะไม่เคยได้ลองมาถึงขั้นนี้และตอนนี้ เพราะไม่ได้เตรียมตัวและเตรียมใจ
“โอ้ยยยยยยยยยยย”
เสียงร้องดังลั่นเพราะความเจ็บปวดที่ทิ่มพรวดลงไปทีเดียวมิดหัว คนหนึ่งส่งเสียงร้องซี๊ดยาวเพราะความพึงพอใจ
แต่พี่ดินร้องซี๊ดเพราะมันเจ็บและแสบยิ่งกว่าอะไรและเมื่อมันเข้าไปได้จนหมด นอกความเจ็บและแสบแล้วมันยังปวดหน่วงไปทั้งบั้นท้ายยิ่งแรงขยับที่เริ่มกระแทกแรงตามอารมณ์หนักหน่วงขึ้นเท่าไหร่ มันเจ็บปวดเหมือนใครมาฉีกร่างทั้งๆที่ยังมีสติครบถ้วนทุกประการ
“ไอ้เสาไฟฟ้าเดินได้ ไอ้ยักษ์ห่าซาตาน มึงจำไว้ มึงหายเมาเมื่อไหร่ กูจะกระทืบมึงตายคาตีนแน่ๆ”
“โอ๊ยยยยยยยย อ๊ะ อ๊ะ”
==============================================
ได้มีแค่นี้อะ ค้างเนอะ แต่เห็นแรงใจมาเชียร์เยอะ เลยเอามาลงให้ก่อน เรทติ้งดีมากจนปลื้มใจ
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ อย่างงี้ต้องไปบีบคอคนเขียนต่อแล้ว
