-23-
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใส หลังจากที่นภดลต้องทนทำงานหนักตรากตรำมาเป็นระยะเวลายาวนานและวันนี้จะเป็นวันที่เขาจะมีความสุขมากที่สุดในโลก ชายหนุ่มหุ่นนายแบบในชุดสูทสีเทาควันบุหรี่เดินเข้ามายังห้องโถงของบริษัทด้วยความภาคภูมิ
สองข้างทางที่เดินผ่านก็มีพนักงานภายในบริษัทหลายคนกล่าวคำอวยพรและมอบช่อดอกไม้ให้
“ยินดีนะคะ ท่านประธาน”
ชายหนุ่มส่งยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มที่ข้างแก้ม นัยน์ตาเป็นประกายราวกับคนที่เปี่ยมความสุข ทันทีที่เข้ามาในห้องประชุมหัวหน้าฝ่ายแต่ละฝ่ายก็ร่วมกันกล่าวแสดงความยินดี ตำแหน่งที่ได้มาโดยชอบธรรมด้วยความสามารถทำให้ไม่อาจมีใครคัดค้าน
ทันทีที่ออกจากห้องประชุมชายหนุ่มก็รีบกดโทรศัพท์มือถือเพื่อโทรหาคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตคนแรกคือ…ผู้เป็นแม่ของเขานั่นเอง
“แม่ครับ ดลจะไปรับแม่แล้วเราไปทานข้าวนะครับ”
เมื่อผู้ให้กำเนิดตกลงเรียบร้อย นภดลก็รีบขับรถไปหาอีกคนที่บ้านทันที
“แม่ครับ วีล่ะครับ”
“อยู่ในครัวน่ะลูก”
นภดลค่อยๆย่องเดินเข้าไปก็เห็นอีกคนกำลังง่วนอยู่กับการอบเค้ก กลิ่นหอมหวานของครีมเนยอบอวลซะจนใครบางคนเริ่มน้ำลายสอ ร่างสูงเดินเข้าไประยะประชิดก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปสัมผัสแก้มนุ่ม
“หอมจัง”
ปฐวีหันมาพร้อมกับพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะเดินไปล้างมือที่เต็มไปด้วยคราบสีขาวของแป้ง
“ทำไมอยู่ๆถึงชวนออกไปกินข้าวล่ะ”
“เถอะน่า อ่อ…ชวนแม่ของวีไปด้วยนะ”
“ทำไมล่ะ”
“เถอะน่า…”
“ก็บอกเหตุผลมาสิ”
นภดลเลิกสนใจก่อนจะหันไปคุยกับแม่ของปฐวีแทน
“แม่ครับ วันนี้แม่ไปทานข้าวกับดลนะครับ”
“จ้ะลูก ไปสิ”
ตอนนี้ทั้งสามคนกำลังเดินทางไปยังบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่าเพื่อไปรับอีกบุคคลหนึ่งโดยที่ผู้เป็นแม่และปฐวีไม่ได้ล่วงรู้มาก่อน ทันทีที่หญิงวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐานขึ้นรถมาบรรยากาศก็ออกจะตึงเครียดเล็กน้อยแต่เมื่อเริ่มบทสนทนาหญิงวัยกลางคนทั้งสองกลับเข้ากันได้เป็นอย่างดี
ร้านที่นภดลพามาเป็นร้านบรรยากาศสบายๆตกแต่งเน้นธรรมชาติ มีเพลงคลอเบาๆ โดยรวมแล้วเป็นร้านที่จัดว่าดูดีเลยทีเดียว
“ดลมีเรื่องอะไรจะบอกแม่หรือเปล่า”
“ดีจังที่ข่าวยังไม่รั่ว แม่จะได้รู้จากปากของดลเป็นคนแรก ดลเป็นประธานบริษัทแล้วนะ”
พอได้ยินข่าวดีทุกคนก็กล่าวแสดงความยินดีด้วยกับประธานบริษัทที่เต็มไปด้วยความสามารถในทุกๆด้าน
“แม่ครับ ช่วงเวลายากลำบากกว่าที่จะมาเป็นวันนี้ได้เพราะดลมีวีอยู่เคียงข้าง แม่ยอมรับเราทั้งคู่เถอะนะครับ”
นภดลเอ่ยบอกตรงๆอย่างไม่ปิดบังทำเอาทั้งแม่ของตัวเองและแม่ของคนสำคัญนิ่งอึ้งก่อนจะหัวเราะเบาๆในความตรงไปตรงมา แม้ทั้งคู่จะไม่ได้ตกลงอย่างเป็นเรื่องเป็นราวแต่เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
“ฉลองที่ดลได้เป็นประธานบริษัทแล้วก็ฉลองวันเกิดของวีไปในตัวด้วย”
“อ๊ะ…ลืมวันเกิดไปซะสนิทเลย”
ปฐวีเอ่ยก่อนจะยิ้มด้วยความดีใจที่นภดลจำวันเกิดของเขาได้ หลังจากร่วมโต๊ะอาหารกันเป็นที่เรียบร้อยนภดลก็ขับรถไปส่งผู้ให้กำเนิดถึงบ้านก่อนจะขับพาอีกสองแม่ลูกมาส่ง หญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีนั่งลงบนโซฟาก่อนที่ชายหนุ่มหุ่นนายแบบคลานเข่าเข้าไปหาก่อนจะก้มลงกราบตักเธอ
“แม่ครับ ขอบคุณนะครับที่ให้กำเนิดวีมา”
ฝ่ามืออบอุ่นลูบลงบนเรือนผมสีเข้มก่อนจะยิ้มให้อย่างเอ็นดูและเรียกปฐวีลงมานั่งข้างๆ
“ดูแลกันและกันให้ดีๆนะลูก”
เธอเอ่ยเพียงแค่สั้นๆแต่ครอบคลุมทุกความหมายก่อนจะมือของลูกชายวางลงบนมือของนภดลคล้ายกับว่านับจากนี้ไปเธอไว้ใจฝากให้ดูแลผู้ที่เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ
ทีแรกปฐวีกะจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนผู้เป็นแม่แต่เมื่อโดนนภดลรบเร้ามากเข้าจึงต้องมานอนเป็นเพื่อนคนที่ว่าอยู่คนเดียวไม่ได้
ทันทีที่มาถึงที่พักทั้งคู่ก็เดินเข้ามานั่งลงบนโซฟาและเปิดโทรทัศน์ดู แต่อยู่ๆปฐวีก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหาของในกระเป๋าสะพาย มือเรียวหยิบกล่องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำเงินเข้มผูกด้วยริบบิ้นสีเงินสะท้อนแสงออกมา
“ยินดีด้วยนะ ท่านประธาน”
ปฐวีเอ่ยก่อนจะส่งของที่ถือให้ นภดลรับมาก่อนจะเปิดออกมาก็เห็นเป็นเนคไทสีโปรด
“ผูกให้ด้วยหรือเปล่า”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
ชายหนุ่มรูปร่างโปร่งฉุดมือให้อีกฝ่ายลุกขึ้นยืนก่อนทั้งคู่จะยืนเผชิญหน้ากัน มือเรียวค่อยๆปลดเนคไทเส้นเดิมออกก่อนจะวางลงบนโซฟาและหยิบเส้นใหม่ออกมาจากกล่อง
นภดลมองใบหน้าที่กำลังตั้งอกตั้งใจก่อนจะอมยิ้มและอดไม่ได้เมื่อเห็นผิวแก้มใสจนต้องหอมเสียฟอดใหญ่
“วันนี้วันเกิดวีทั้งทีแต่ดลกลับไม่มีอะไรให้เลย”
“ใครบอกล่ะว่าไม่มีอะไรให้เลย”
ปฐวีขยับตัวเข้าไปแนบชิดก่อนจะช้อนตามองอย่างหวานซึ้งปนยั่วเย้า ริมฝีปากอิ่มแตะสัมผัสลงบนเรียวปากบางสีจัดอย่างแผ่วเบาแต่ก็อ้อยอิ่งราวกับเชิญชวนให้ลิ้มลองมากยิ่งขึ้น ปลายนิ้วเรียวไล้ไปมาเบาๆตามแนวโครงหน้าก่อนจะไล่ต่ำลงไปตามแนวลำคอจนหยุดอยู่ที่แผ่นอก
“วีอยากได้ของขวัญแล้วล่ะดล”
นภดลไม่รอช้ารีบรวบร่างคนช่างยั่วขึ้นมาอุ้มแนบอกก่อนจะผลักบานประตูเข้าไปยังส่วนห้องนอนที่มีเตียงกว้างตั้งอยู่
คงไม่ผิดอะไรถ้าเขาจะให้ของขวัญวันเกิดปฐวีจนกว่าจะล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่
เรวัตรคิดว่าตั้งแต่ภูมินทร์ออกจากโรงพยาบาลในครั้งนั้นเขาก็ยังไม่เคยทำเรื่องเซอร์ไพร์เลยสักครั้ง เห็นทีว่าคราวนี้จะต้องทำให้ยิ่งใหญ่ดูสักครั้งเพื่อชดเชยในส่วนที่เด็กหนุ่มเคยเสียใจ
“อาวัตร ออกไปซื้อของเพื่อนมินทร์หน่อยสิ”
เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยเสียงออดอ้อนก่อนจะเดินเข้ามากอดท่อนแขนใหญ่
“ไม่ล่ะครับ วันนี้อาติดรายการทีวี”
“คนใจร้าย ไปคนเดียวก็ได้”
ภูมินทร์งอนตุ๊บป่องก่อนจะเดินออกไปห้องไป ตอนนี้ทั้งคู่ได้มาเช่าโรงแรมริมแม่น้ำสายหลักอยู่เพราะไม่อยากรบกวนนภดลซึ่งก็เป็นเรื่องดีที่จะได้ไม่ต้องมาคอยห่วงกังวล อยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ
“ครับ…ช่วยเอาของที่สั่งทั้งหมดมาส่งให้ด้วยนะครับ”
ชายหนุ่มเอ่ยกับปลายสาย รอไม่นานก็มีคนมากดกริ่ง เมื่อโผล่หน้าไปดูก็เป็นคนมาส่งของ
“ต้องการให้ผมช่วยไหมครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากทำเพื่อเซอร์ไพร์คนรักด้วยตัวเอง”
เรวัตรเอ่ยก่อนจะจ่ายเงินค่าของมากมายที่วางเรียงรายอยู่ ชายหนุ่มจุดยิ้มขึ้นมาเมื่อนึกถึงใบหน้าเปื้อนยิ้มของคนที่อยู่ในหัวใจก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าต้องรีบทำก่อนที่อีกฝ่ายจะกลับมา
ภูมินทร์ที่เดินซื้อของคนเดียวก็นึกบ่นในใจว่าอีกคนคงไม่ห่วงเขาเลยถึงได้ปล่อยเขามาคนเดียวแบบนี้ นึกแล้วก็น่าน้อยใจนัก ยิ่งเห็นหลายคู่เดินควงกันช่วยเลือกของยิ่งทำให้เศร้าในใจ
“อาวัตรนะอาวัตร กลับไปจะงอนให้ดู”
เมื่อเดินจนพอใจก็กลับไปยังที่พักทันที เมื่อไขกุญแจเปิดห้องก็เห็นผู้เป็นอานอนหลับพริ้มอยู่บนโซฟาในใจก็เกิดนึกอยากจะทำโทษ ฐานที่ปล่อยให้เขาไปเดินเที่ยวเล่นคนเดียว
ว่าแล้ว…ปลายนิ้วเรียวก็ค่อยๆเกลี่ยไปตามแผงขนตาหนา คนที่นอนหลับก็หันหน้าหนีด้วยความรำคาญทำให้เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคักด้วยความถูกใจ
“อาวัตร…”
เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกได้เสียงแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆเป่าลมใส่หูอีกฝ่ายเบาๆ เพียงเท่านั้นเรวัตรก็ลุกขึ้นมานั่งทันที
“กลับมาแล้วเหรอ”
ชายหนุ่มถามเพียงเท่านั้นก่อนจะรวบร่างของภูมินทร์เข้าไปกอดแน่นก่อนจะจับกดให้นอนลงบนโซฟา
“จะทำอะไรน่ะอาวัตร”
เด็กหนุ่มเอ่ยถามและเมื่อถูกอีกฝ่ายใช้ผ้าผิดตายิ่งดิ้นเร่าเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการ
“อาไม่ทำอะไรหรอกน่า แต่มีอะไรอยากให้ดู”
น้ำเสียงทุ้มเอ่ยบอกก่อนจะจูงมือคนที่มองไม่เห็นให้เดินตามทาง เสียงประตูดังขึ้นทำให้ภูมินทร์รู้ได้ทันทีว่าเป็นส่วนห้องพักและทันทีที่ผ้าปิดตาถูกปลดออกเด็กหนุ่มก็ต้องยืนมองอย่างตกตะลึง
ลูกโป่งหลากสีที่ลอยอยู่จนติดเพดานมีปลายริบบิ้นห้อยลงมา รูปของเด็กหนุ่มกับผู้เป็นอาติดถูกติดลงบนผ้าสีขาวไข่มุกที่ขึงไว้รอบห้องและมุมห้องริมหน้าต่างบานใหญ่มีแจกันใส่ดอกกุหลาบตั้งอยู่บนโต๊ะตัวเล็ก เสียงเพลงหวานแว่วให้ได้ยินทำให้ภูมินทร์ยิ้มกว้างทำให้คนที่มองอยู่แทบลืมหายใจ
“อ๊ะ…”
เด็กหนุ่มร้องอุทานเมื่อเห็นบางอย่างสะท้อนแสงแวววาวอยู่ที่ปลายริบบิ้น ร่างโปร่งรีบปีนขึ้นไปบนเตียงก่อนจะกระโดดเพื่อคว้ามาดูแต่กลับเสียหลักทำท่าจะล้มจนอีกคนต้องรีบเข้ามาประคองแต่ด้วยความอ่อนนุ่มของฟูกทำให้ล้มลงไปนอนด้วยกันโดยภูมินทร์นั่งคร่อมอยู่
ด้วยท่าทางล่อแหลมทำให้เด็กหนุ่มหน้าแดงก่ำก่อนจะลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“อาวัตร มินทร์เอื้อมไม่ถึง”
ภูมินทร์ออดอ้อนเหมือนเด็กทำให้เรวัตรจำต้องเข้ามาอุ้มเพื่อให้อีกฝ่ายเอื้อมไปจนถึงและเมื่อดึงลงมาได้จนสำเร็จเด็กหนุ่มก็มองสิ่งที่สะท้อนอยู่ในมือก่อนจะเงยหน้าสบตาคนที่อยู่ตรงหน้า
ชายหนุ่มปลดริบบิ้นออกก่อนจะปล่อยให้ลูกโป่งลอยขึ้นไปบนเพดานก่อนจะถือเจ้าสิ่งนั้นไว้ในมือ
“อารักมินทร์และอยากให้มินทร์อยู่เคียงข้างอาตลอดไปจะได้ไหม”
“ครับ มินทร์จะอยู่เคียงข้างอาวัตรตลอดไป”
ภูมินทร์เอ่ยก่อนจะวางมือลงบนมือใหญ่ที่ยื่นมาต่อหน้าก่อนจะสวมเครื่องประดับแสดงความรักไว้ที่นิ้วนางข้างขวา
“มินทร์รู้ไหมว่าทำไมเวลาคนแต่งงานกันถึงสวมแหวนแทนความรัก”
“ทำไมเหรอครับ”
“ก็เพราะว่าลักษณะทรงกลมและไม่มีข้อต่อของแหวนแทนความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด ความกลมมนแทนว่ารักนี้ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ”
เมื่อเอ่ยไปปลายนิ้วแกร่งก็เกลี่ยไปแก้มนุ่มไปพลางพร้อมกับมองใบหน้าอ่อนเยาว์อย่างลึกซึ้งมีความหมาย
ใบหน้าคมเข้มโน้มเข้าไปใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ เด็กหนุ่มใช้ท่อนแขนทั้งสองข้างโอบรอบลำคอและเป็นฝ่ายโน้มใบหน้าเข้าไปหาจนในที่สุดริมฝีปากก็แนบสนิท
แต่ก่อนที่จะเลยเถิดก่อนเวลาสมควรชายหนุ่มก็รั้งตัวเข้าอีกฝ่ายเข้ามากอดแนบอกและลูบเรือนผมนุ่มสีน้ำตาลคาราเมลอย่างเบามือก่นจะพาเด็กหนุ่มมายืนชมวิวมองดูแสงไฟจุดเล็กๆจนเหมือนดาวบนผืนดิน สะพานข้ามแม่น้ำประดับประดาด้วยแสงไฟสีเหลืองทองสว่างเป็นแนวยาว
“เรากลับเชียงใหม่ครั้งนี้ชวนอาวีกับอาดลไปด้วยนะครับ มินทร์อยากจะจัดงานเลี้ยงเล็กๆฉลองให้อาดลและเราก็จะชวนพี่ตะวันกับอิงธารแล้วก็คุณศิลามาร่วมงานด้วย”
“ได้สิ”
เรวัตรตอบพร้อมรอยยิ้มก่อนจะยืนกอดเด็กหนุ่มจากทางด้านหลังและทั้งคู่ก็มองดูเมืองศิวิไลซ์ที่ไม่เคยหลับใหลก่อนจะใช้เวลาผ่านค่ำคืนนี้ไปด้วยกันอย่างช้าๆ
ในที่สุดก็ได้เข้าใจในความหมายของคำว่า “รัก” เสียที
2BCon…
(มาอัพต่อแล้วนะคับ เย่ๆๆๆ ตอนหน้าเนื้อเรื่องหลักจะจบแล้วนะคับส่วนที่ว่าจะมีตอนพิเศษไหมก็ขอตอบว่ามีแหละครับต้องรอติดตามไปเรื่อยๆ ต้องขอขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์ ทุกๆกำลังใจและหนึ่งในแรงบันดาลที่ทำให้นิยายเรื่องนี้มาถึง ณ จุดนี้ได้
ใจจริงก็อยากจะบอกเขานะคับว่าช่วงที่ได้คุยได้รู้จักกันเป็นช่วงที่ดีมากๆเลยก็ว่าได้ คือไนท์จะเป็นคนที่จะทำอะไรต้องมีแรงบันดาลใจไม่งั้นจะทำไม่ได้และเพราะได้แรงบันดาลใจจากเขาและทุกๆคอมเม้นต์จึงต้องขอบคุณที่ต้อนรับกันอย่างอบอุ่น ขอบคุณนะคับ )PS เครดิตอยู่ในภาพแล้วนะคับ แหวนยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อในฝันเลย ฮ่าๆๆ