เออ...ก็คนมันแรด VS. แต่ผมดันชอบ : ตอนพิเศษ Valentine : เมียหาย! 22/02/14 P.165
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เออ...ก็คนมันแรด VS. แต่ผมดันชอบ : ตอนพิเศษ Valentine : เมียหาย! 22/02/14 P.165  (อ่าน 1510917 ครั้ง)

ออฟไลน์ udongjay

  • ความรัก...ไม่เคยจำกัดเพศ แต่เพศต่างหากที่จำกัด...ความรัก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-2
ตอนนี้ฟี่น่ารักอ่ะ คิคิ
แจ็คมันคงหายงอนซะทีเนอะ

beambeam

  • บุคคลทั่วไป
 :m20: :m20: งานนี้น้องพายจะมีการถามต่อไหมนะ ว่าตกลงพี่ฟี่เป็นภรรยาหรือสามีพี่แจ็ค อิอิ สงสัยรายการนี้มีฮาเต็มๆๆ o13 o13

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ พระสนมฝ่ายซ้าย

  • ❤วั ง ว น ว า ย เ วิ่ น เ ว้ อ❤
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +283/-2
พี่ฟี่จะบอกความจริงเลยหรอคะ ใจเด็ดมาก
น้องพายจะช็อกมั้ยน้า

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
ฟี่ตัดสินใจเด็ดขาดมาก เยี่ยม o13

ออฟไลน์ ์ำNeFuji

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
แอบมีหวานเล็กน้อย. แจ็คโกรธแล้วน่ากลัวอ่ะ

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
มันอึนและหน่วงตั้งกะเริ่มอ่าน แต่มาฟินอีตอนท้ายนี่แหละ
อารมณ์ประมาณแบบรักแต่ปากแข็งไม่พูดกันสักที
แต่สุดท้ายก็พูด น่ารักเหมือนกันนะเนี่ยคู่นี้ :-[
ขอบคุณคนเขียนมากๆค่ะ :L2:

ออฟไลน์ aishiteru.

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
หมั่นไส้ชะนีพายนั่นอ่ะ กลับมาหาข้ออ้างต่างๆนาๆ อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว
คิดจะกลับมาเหมือนเดิม เหอะๆ แอบกังวลว่าฟี่จะใจอ่อนหรือป่าว กลัวเสียรู้ใจอ่อนให้ชะนีพายนั่น หึ
แต่ตอนท้ายก็ทำดีแล้วนะฟี่ คิดถึงใจแจ๊คมันบ้าง ดีๆเปิดตัวไปเลย
เคลียร์ตัวเอง แล้วก็ทำให้แจ๊คเข้าใจมั่นใจไปพร้อมๆกัน
แล้วเมื่อไหร่แจ๊คจะเปิดตัวกับพวกเพื่อนๆตัวเองบ้างละเนี่ย งี้ต้องให้น้องพายแฉ ฮ่าๆ
แหมเรียกลำบากจังดันชื่อพายเหมือนกันอีก ฮ่าๆ
รออ่านตอนต่อไปจ้าา คนเขียนสู้ๆน้า รออ่านน้องเมียอยู่เหมือนกัน อิอิ
 :กอด1:

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
แค่คำว่า "คิดถึง" ของทั้งคู่  :o8: ก็ทำให้คนอ่านมีความสุขแล้วค่ะ

ฟี่กล้าบอกน้องพายแล้วว่าใครคือคนนั้น  แล้วแจ็คจะกล้าบอกเพื่อนๆ ในวงบ้างไหม

กด + ให้กับคนเขียนและความรักของฟี่-แจ็ค

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ruby

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 477
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-3
อึดอัดตอนเริ่มต้น แต่สุดท้ายก็ฟินค่ะ
น่ารักจริงๆเลยคู่นี้ :o8:
ฟี่พูดไปแบบนี้หวังว่าแจ็คจะหายงอนนะ
อยากอ่านตอนง้อกันอีกนิดนึงได้มั้ยค่ะ
คุณ เมอร์ซี่คนสวย :กอด1:

ออฟไลน์ ammamooty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1056
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-2
เอิ๊กสนุกอะ มาสมัคเป็นแฟนคลับอีกคนนะคะ

snice_cz

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดด พี่ฟี่อ่ะ ตอนนี้น่ารัก ฮ่า พี่แจ็คกวนไปป่ะ กวนมากอ่ะ เย้ๆ ดีใจที่ไม่มาม่ามากไปกว่านี้ คิคิ :))

ออฟไลน์ NASS.NET

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-1
น้องแจ็ค กลับมาเร้วววว
ฟี่ลงให้ก่อนขนาดนี้
ไม่ต้องหลบหน้าหลบตาแล้ว^^

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ชอบตอนบอกคิดถึงกัน รู้สึกดีจริง ๆ

ออฟไลน์ palm-metto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
ว๊าวววว

นึกว่าจะดราม่ามากว่านี้ซะอีก
ดีล้ะ
ที่แค่นี้พอ

อยากเจอฉากหวานๆฟี่แจ๊คบ้าง
 o13 o13

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
โถ ๆ ๆ ไอ้ตัวป่วน แอบมีงอน สงสัยอยากเปลี่ยนสถานนะ เป็นคุณภรรยา  :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะจ๊ะ Mercy  เวิ่นเว้อ..... ตลอด  :z1:

navintae

  • บุคคลทั่วไป
รอมานาน ได้แค่ตอนพิเศษก็ยังดี น่าร๊ากอ่ะ...

K3n0

  • บุคคลทั่วไป
ดราม่าจริงจัง.. แต่นู๋ช๊อบชอบบบบบบ

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
พี่ฟี่จะเปิดตัวแฟนล่ะหรออออ   :m1:
รอนะฮะ  ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ AdLy

  • ไม่ได้ Korea Fever แค่รัก ดงบังและเอสเจ เท่านั้น
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0

ออฟไลน์ นิรนาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
เย้!!!  ในทีุ่สุดก็ตามอ่านทันแล้ว  อิอิ

ไปแอดใน FB แล้วนะค่ะ  อิอิ

เดี๋ยวจะตามไปอ่าน เรื่อง น้อง"เมีย"  ต่อค่ะ 555

ออฟไลน์ tua_aonnn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2

NARUE

  • บุคคลทั่วไป
เย้ๆๆอ่านทันแล้ว ฟี่ชัดเจนไปเลย เอาใจช่วย

 :กอด1: เมอร์ซี่

Mercy

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีค่า...
กลับมาแล้วจ้า... หายไปเดือนกว่าตามสไตล์ เหอะๆ  :กอด1:
สปีดในการอัพยังคงไม่มีการเพิ่มขึ้น... ก็ได้แต่ขออภัยจริงๆ ค่ะ...

แต่ขอบคุณที่ยังคงมีคนรออ่านอยู่นะคะ  :pig4: เอาล่ะ ยาวมากตอนนี้ขอตัดเป็นสองนะ

ปล.คำผิดเดี๋ยวกลับมาแก้จ้า...

+++++++++++++++++++++++++++++++



ตอนพิเศษ อัลฟี่ & แจ็ค : อดีตและปัจจุบัน


7 โมงเช้าของวันใหม่… ผมยังคงนั่งอยู่หน้าคอมเหมือนเมื่อคืน เพราะงานที่ผมรับมาทำมีการแก้ไขรายละเอียด และทางลูกค้าค่อนข้างเร่ง ผมเลยต้องโหมงานทั้งคืน… แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะชีวิตผมก็เป็นแบบนี้อยู่เสมอ แต่ถ้าเมื่อคืนไม่มีงานที่ต้องสะสาง ก็ใช่ว่าผมจะหลับลง… ให้ตายเถอะ! กับอีแค่ไม่ได้เจอหน้าไอ้บ้านั่นไม่กี่วัน แล้วพอรู้ว่าพรุ่งนี้จะได้เจอมัน ก็เล่นเอาใจเต้นตุบ ตับ เหมือนสาวน้อยวัยริรักไปได้ หน้าไม่อายจริงๆ ไอ้ฟี่…


เก้าโมงเช้าไม่ขาดไม่เกิน เสียงออดหน้าห้องทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว แต่ก็ต้องผิดหวังน้อยๆ เพราะคงไม่ใช่ ‘มัน’ มันมีคีย์การ์ดอยู่แล้วถ้าจะเข้าห้องก็ไม่ต้องกดออดหรอก แต่ก็นะ ว่าไม่ได้ คนอย่างไอ้เหี้ยแจ็ค ทำห่าอะไรเหมือนชาวบ้านเค้าซะที่ไหน เรื่องพิเรนน่ะชอบนัก…


“พี่ฟี่อารมณ์ดีเชียวค่ะ ยิ้มแต่เช้าเชียว มีเรื่องดีๆ อะไรรึเปล่า”


“อ๋อ คิดอะไรเพลินๆ ไปหน่อยน่ะจ้ะ ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวพี่ไปเปิดประตูก่อนนะ” เสียงออดหน้าห้องดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ผมหาเรื่องแก้เขินที่โดนจับได้ว่าแอบยิ้มพอดี…


“ฟี่!! กินข้าวยัง… พายซื้อข้าวเช้ามาฝากเพียบเลย มีทั้งหมูปิ้ง น้ำเต้าหู่ ปาท่องโก๋ โจ๊ก ข้าวหมูแดง ก๊วยเตี๋ยวหลอด ขนมจีบด้วย” เสียงเพื่อนสนิทผมเจื้อยแจ้วทันทีที่เปิดประตูไปเจอ ปากก็สาธยาย ข้าวของที่ซื้อมาฝากอย่างเต็มไม้เต็มมือ ซึ่งไม่ใช่มือเพื่อนผมแน่นอน มันก็ต้องอยู่ในมือไอ้ผัวทาสอย่างไอ้ริวอยู่แล้ว ว่าแต่… แล้วเพื่อนมันไม่มาหรือไงวะ ปกติมันไม่ใช่คนตื่นสาย แม้จะนอนดึกแค่ไหนไอ้แจ็คก็จะต้องตื่นเช้าขึ้นมาซ้อมเบสทุกวัน มันเป็นกิจวัตรของมันที่ผมค่อนข้างชื่นชม… มันเคยบอกผมว่า ดนตรีไม่ใช่นึกจะเก่งก็เก่งเอง ถ้าไม่ซ้อมต่อให้ดื่มแบรนด์สักสิบลัง ก็ไม่ได้ช่วยให้เล่นเก่งขึ้นมา แถมไก่ดำเป็นร้อยๆ ตัวที่นอนตายในท้องอาจจะมาเข้าฝันหลอกหลอนมันก็ได้…อืม นี่แหละความคิดของคนอย่างไอ้เหี้ยแจ็ค…



“เข้าไปทักทายกันในห้องสิครับ…ข้อนิ้วกูจะหลุดอยู่แล้วโว้ย” ถ้าไม่เห็นแก่อาหารที่มันหิ้วอยู่ กูจะถีบปากมึง


“อ่อนแอ!!” เสียงพายหันไปด่าแฟนมันอย่างชัดถ้อยชัดคำ… ไอ้คู่นี้ก็นะ มันจะคุยกันดีๆ แบบคนรักพึงปฏิบัติกันไม่ได้หรือไง แต่เห็นแบบนี้ มันก็รักกันดี ไม่มีทะเลาะกันแบบจริงๆ จังๆ เลย


ผมเปิดประตูออกกว้าง และเบี่ยงตัวหลบให้แขกผู้มาเยือนทั้งสองเดินเข้าห้องไปอย่างสะดวก… ในใจก็พยายามหายใจเข้าลึกๆ และผ่อนลมออกช้าๆ ผมไม่รู้ว่าพายจะงอนไหม ที่ผมไม่ยอมบอกเรื่องน้องพาย เพราะพายมันไม่ชอบคนโกหก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีเรื่องไม่ดี พูดแล้วจะทำให้คนฟังรู้สึกดีหรือแย่ พายก็ไม่เคยโกหก มันพูดทุกๆ คำที่ควรจะพูด และเป็นความจริง… แม่งกูลุ้นซะยิ่งกว่าดูมวยโอลิมปิกอีก


“สวัสดีค่ะพี่พาย… อ๊ะ… พี่ริว!!! สวัสดีค่ะ ดีใจจังเลยได้เจอพี่ริว เทอมินัลตัวจริงด้วย” น้องพายแสดงสีหน้าดีใจสุดชีวิต ต่างกับเพื่อนซี้และแฟนเพื่อนซี้ ไอ้สองคนนี้เบิกตากว้างและหันควับมาจ้องผมด้วยสายตาคาดคั้นแบบพร้อมๆ กันโดยมิได้นัดหมาย ให้ตายเหอะ พวกมึงนี่มันอุปทานหมู่คู่กรรมชัดๆ


“ฟี่!!!!!!!” เสียงพายที่ดังรอดตามไรฟัน พร้อมกับตาวาวๆ ที่ส่งมาถึงผม ดูแล้วขนลุกขนชันพิลึก


“เอ่อ…”


“…กูว่าไปกินข้าวกันก่อนดีกว่านะ เมื่อกี้บ่นหิวไม่ใช่เหรอมึง กินอิ่มแล้วค่อยคุยกันเถอะนะดาร์ลิ้ง สูดลมหายใจลึกๆ เข้าไว้ และแดกให้หายโมโห เอ๊ย หายหิว ไปๆ” วันนี้กูรักมึงมากริว ไอ้ริวคงเห็นสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยน่าไว้วางใจ จะพูดให้ถูกก็คือ มันคงรู้จักแฟนมันดีว่าท่าทางแบบนี้หมายความว่าพร้อมจะเหวี่ยงทุกสิ่งที่ขวางหน้า แล้วคนที่จะโดนก่อนเพื่อนคือผมแน่ๆ


“พี่พายไม่สบายเหรอคะ หรือว่าเป็นโรคกระเพาะ งั้นพี่ริวส่งถุงอาหารมาให้น้อยพายเลยค่ะ น้องพายจะจัดใส่จานให้ จะได้เริ่มทานกันเร็วๆ เดี๋ยวพี่พายปวดท้อง…” น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยส่งออกมาพร้อมสีหน้ากระตือรือร้นของน้องพาย นี่ล่ะน้าน้องพายก็ยังคงเป็นน้องพายอยู่เสมอ มองโลกในแง่ดี ร่าเริง และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง…


“พี่ช่วยแล้วกันครับจะได้เสร็จเร็วๆ” อ้าวฉิบหาย มึงทิ้งกูเลยนะเหี้ยริว… ไอ้ริวอาสาไปช่วยน้องพายจัดโต๊ะอาหารในแพนทรี่ ก่อนไปมันหันไปยักคิ้วให้พายทีนึง ส่วนไอ้เพื่อนซี้ผมก็พยักหน้าตอบแฟนมัน… นี่พวกมึงกะจะวางแผนรุมอะไรกูรึเปล่าวะเนี่ย


“ไม่คิดจะบอกเราสักนิดใช่ไหมเรื่องน้องพายมาเนี่ย” ลับหลังคนทั้งคู่ที่เข้าครัวไป พายก็เปิดฉากด้วยน้ำเสียงตัดพ้อทันที


“คือ…”


“หรือเดี๋ยวนี้เรามันไม่ใช่เพื่อนสนิทกันแล้ว… การที่พายมีแฟน ไม่ได้หมายความว่าพายจะต้องเลิกสนิทกับฟี่นะ หรือฟี่ไม่ได้คิดแบบนั้น… ใช่สินะ ฟี่มีแจ็คเป็น ‘เพื่อนสนิท’ คนใหม่แล้วนี่ พายก็คงหมดความหมายแล้วล่ะ” เรื่องเกทับบลัฟคนให้รู้สึกผิดเนี่ย พายมันเก่งโคตร!


“ไม่ใช่อย่างนั้นนะพาย! พายก็ยังเป็นเพื่อนสนิทฟี่อยู่เสมอ… แต่เรื่องนี้ คือ…ยังไงดีล่ะ ก็เราไม่อยากให้พายกังวลไปกับเรา พายเพิ่งจะมาเหนื่อยๆ ไหนจะเรื่องเตรียมงานคอนเสิร์ตอีกล่ะ แล้วน้องพายก็มาแค่อาทิตย์เดียว เดี๋ยวเค้าก็กลับอเมริกาแล้ว”


“แจ็ครู้เรื่องนี้ไหม?”


“ก็… ก็ต้องรู้สิ เพราะมันเป็นเจ้าของห้องนี้ เราต้องขออนุญาตมันก่อนจะพาน้องพายมาพัก”


“แล้วแจ็คว่ายังไงบ้าง”


“ก็ไม่ได้ว่าอะไร… มันอนุญาต”


“แล้วแจ็คไปไหน ทำไมต้องกลับไปนอนบ้าน แล้วทำไมต้องฝากไอ้ริวให้มาเอาเสื้อผ้าด้วย ทะเลาะอะไรกันรึเปล่า” เฮือก! รู้สึกเหมือนกำลังโดนรีดความลับทุกๆ อย่างเลย ให้ตาย หายใจไม่ทันเลยจริงๆ บทพายมันจะโหด มันก็เล่นเอาซะผมไปไม่เป็น


“แม่มันให้กลับบ้าน มันไม่ได้กลับนานแล้ว… แต่เห็นมันบอกว่ามันจะเข้ามาเอาเองไม่ใช่เหรอเสื้อผ้าน่ะ” ก็ไหนตอนคุยในโทรศัพท์เหมือนจะรู้เรื่องกันดีแล้วไงวะ หรือว่ามันจะลืมบอกพาย


“แจ็คมันมาไม่ได้หรอก วันนี้มันมีถ่ายแบบกับ ‘กิ๊กเก่า’ มันไม่ได้บอกเหรอ” เรื่องที่มันถ่ายแบบไม่ได้ตกใจไปกว่าคำว่า กิ๊กเก่า… ขอบใจมากพาย ที่มาหย่อนระเบิดไว้ให้… เหี้ยอะไรของมันวะ เมื่อวานทำไมไม่เสือกพูดว่าจะไม่มา แล้วเรื่องถ่ายแบบมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกที่ศิลปินดังๆ อย่างพวกมันจะมีลูกค้าอยากได้ไปถ่ายแบบลงนิตยสาร แต่ไอ้กิ๊กเก่านี่แม่งใครวะ… ก็ไม่ได้จะหึงอะไรหรอก เก่าก็คือเก่า แต่มันก็อดหงุดหงิด ยุบยิบในใจไม่ได้


“เปล่านี่! ช่างมันเหอะ… หายโกรธเรารึยัง ดีกันเถอะนะ น้า! พายนะ” ค่อยๆ แก้ไปทีละเรื่องตอนนี้ง้อเพื่อนก่อนเว้ย


“เราไม่ได้โกรธเราน้อยใจ… สรุปว่า น้องพายมาขอคืนดีใช่ไหม” นี่เพื่อนผมเป็นหมอดูหรือว่าแอบติดกล้องเอาไว้รึเปล่า เดาแม่นซะ


“ไม่ต้องทำหน้าเหมือนว่าเรารู้ได้ยังไงหรอก… ของแบบนี้ใครๆ ก็เดาได้ทั้งนั้น แจ็คเองมันก็คงเดาได้เหมือนกัน คนสองคนเคยรักกัน จากกันทั้งๆ ที่ยังรัก ไม่ได้เกลียด ไม่ได้ทะเลาะกัน ทำไมจะไม่อยากกลับมาคืนดีกันล่ะ” โอ๊ย พาย จะต้อนให้เราอกแตกตายเลยใช่ไหม อืม ไอ้แจ็คมันก็คงรู้ล่ะมั้งว่าน้องพายมาขอคืนดี แต่มันก็น่าจะรู้ว่าตอนนี้ผมรักใคร!


“แล้วพายคิดว่าเราตัดสินใจยังไงล่ะ”


“เรื่องนี้เราไม่กล้าเดาจริงๆ เพราะเราไม่รู้อะไรเลย… บางทีฟี่อาจจะกลับไปคบกับน้องอีกครั้งก็ได้ เพราะอีกไม่นานเราก็จะเรียนจบกันแล้ว ฟี่ก็บินไปอยู่กับน้องที่อเมริกา… ตอนนี้นอกจากครอบครัวแล้ว ฟี่ก็ยังไม่มีใครในใจไม่ใช่เหรอ? หรือมีแล้ว? หรือเรากำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่?” บีบให้มั่นคั้นให้ตายไปเลยพาย เอาหนักๆ เลย…


ผมถอนหายใจหนักหนึ่งครั้ง ก่อนจะตอบพายออกไปว่า…


“….เรามี ‘ใครคนนั้น’ แล้วล่ะพาย ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว”


“ขอถามอีกคำ… ‘ใครคนนั้น’ คือใคร” หมัดฮุกสุดท้ายเสยเข้ามาที่หน้าผมอย่างจัง…


“เราว่าพายรู้อยู่แล้วนะว่าใคร…” ผมเลือกตอบแบบนี้ดีกว่า เพราะผมเองก็ยังไม่รู้ว่าไอ้แจ็คมันอยากให้ผมพูดอะไรกับใครมากน้อยแค่ไหน เอาเป็นว่านี่เป็นคำตอบที่เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วกัน…


“ทานข้าวกันได้แล้วค่ะพี่ๆ” เสียงน้องพายเจื้อแจ้วออกมาตามเราสองคน


บนโต๊ะอาหารไม่ได้มาคุอย่างที่คิด เพราะความร่าเริงช่างพูดของน้องพาย ประกอบกับคนง่ายๆ อย่างไอ้ริวที่คุยได้ทุกเรื่อง เลยทำให้บรรยากาศครื้นเครง… ส่วนเพื่อนซี้ผม ปกติจริงๆ แล้วพายเป็นคนเงียบๆ  มันไม่ได้เป็นคนช่างพูด ถ้ากับคนที่ไม่สนิทมันจะยิ่งเงียบ แม้พายกับน้องพายจะเคยเจอกันบ่อยๆ ก็มาก่อนตาม แต่ก็ไม่ได้คุยกันมากนัก เพราะช่วงนั้นไอ้พายเองก็งานเยอะ แค่เจอหน้าก็ทักทายกันธรรมดา พายมันไม่ค่อยคุ้นกับการทำความรู้จักใครก่อน ยิ่งถ้าไม่รู้จักกันอย่าหวังว่ามันจะเอ่ยปากชวนคุย ไม่น่าเชื่อว่ามันเป็นศิลปินได้ยังไง สมัยก่อนข่าวเรื่องไอ้พายหยิ่งน่ะลงกันทุกฉบับ ทุกเว็บบอร์ด ผมว่าตั้งแต่มันคบกับไอ้ริวมันดีขึ้นเยอะมากแล้วนะ


“แล้วน้องพายกลับวันไหนเหรอครับ” ไอ้พายถามน้องพายขึ้นมาตอนที่ผ่านพ้นของคาวไปแล้ว และกำลังเริ่มต้นจิ้มปาท่องโก๋กับนมข้นกันอยู่


“อีกสองวันค่ะ…” น้องพายตอบไอ้พาย และหันมามองหน้าผมเศร้าๆ ผมทำได้ดีที่สุดก็แค่ส่งยิ้มกลับไป


“คิดถึงเมืองไทยไหม” ไอ้พายถามต่อ ก่อนจะหันไปบอกให้แฟนมันฉีกปาท่องโก๋ใส่แก้วโอวัลตินให้หน่อยเพราะขี้เกียจมือเลอะ


“คิดถึงค่ะ… คิดถึงบ้าน คิดถึงเพื่อน… และก็… คิดถึงพี่ฟี่” สองพายหันมามองหน้าผมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย พายคนน้องส่งยิ้มเศร้าให้ผมอีกครั้ง ส่วนพายคนพี่มันหลี่ตามองหน้าผมแบบจับผิด ประหนึ่งมันเป็นเมียหลวงที่กำลังมองดูพิรุธจากสามี สุดท้ายผมก็เลยมองไปที่ไอ้ริว มันก็เสือกยักคิ้วกวนตีนส่งมาให้ เหี้ย!


“งานนี้มีรีเทิร์นไหม” ตรงประเด็นเสมอเพื่อนกู เล่นเอาผมสำลักกาแฟ ส่วนไอ้ริวก็หลุดอุทานใส่เมียมันเบาๆ


“ตอนแรกก็หวังค่ะพี่พาย… แต่มันสายไปแล้วล่ะ… ตอนนี้พายก็เป็นน้องสาวของพี่ฟี่ แล้วพี่ฟี่ก็กำลังจะมีพี่สะใภ้ให้น้องพายใช่ไหมคะ” คราวนี้ไอ้สองคนผัวเมียสำลักโอวัลตินออกมาพร้อมๆ กัน ผมเองที่นั่งเท้าคางอยู่ก็เกิดอาการ ‘วืด’ แบบไม่รู้ตัวตามไป


“สะใภ้? ใครนะ? ไอ้แจ… อือ อะไอ ไอ้ อาย อิด อาก อู อำ ไอ” ผมไม่ได้ตกใจอะไรถ้าหากไอ้ริวมันจะหลุดปากชื่อไอ้แจ็คออกมา แต่อดขำพายไม่ได้ มันรีบยกมือไปอุดปากแฟนมันก่อนจะโพล่งชื่อเพื่อนซี้มือเบส


“พี่ริวก็รู้จักแฟนพี่ฟี่เหรอคะ เธอน่ารักไหมคะ”


“เอ่อ… ก็… เกรียน เอ๊ย กวน เอ๊ย ก็น่ารักดีมั้งครับ” ฮ่าๆๆ ไอ้บ้าเอ๊ย อยากให้แฟนเพลงมันมาเห็นหน้าพ่อนักร้องดังตอนนี้จริงๆ ไอ้หน้าตากลืนไม่เข้า คายไม่ออก พะอืดพะอมแบบนี้ สงสัยคงคิดภาพตามความน่ารักของเพื่อนมันอยู่


“เออ… กลับกันไหมมึง เดี๋ยวเราต้องไปแวะหาเซย์ด้วยไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวจะสายไปกว่านี้…” พายรีบตัดบท ท่าทางมันก็คงกลัวน้องพายถามถึงแฟนผมขึ้นมาอีก ผมรู้ว่าพวกมันรู้อยู่แก่ใจว่าผมคบกับไอ้แจ็คอยู่ แต่ในเมื่อผมไม่ได้พูดตรงๆ ออกมา พวกมันเองก็คงไม่อยากพูดอะไร


“ได้ๆ งั้นไปกันเลยดีกว่า อ่อ… เสื้อผ้าของไอ้แจ็คด้วยฟี่…” ผมแอบหงุดหงิดอีกครั้งที่ไอ้ริวทวงเอาของของไอ้แจ็คจากผม นี่สรุปไอ้เจ้าตัวมันจะไม่มาใช่ไหม เป็นเหี้ยอะไรอีกวะ


“เดี๋ยวไปหยิบให้”


วันนี้ทั้งวันผมไม่เป็นอันทำอะไรทั้งสิ้น หงุดหงิดจนแทบไม่อยากจะพบเจอใคร แม้แต่น้องพายเอง ผมก็ปล่อยให้เธอนัดเพื่อนมาเจอที่ร้านกาแฟใต้คอนโด เพียงแค่กำชับว่าอย่าบอกใครเรื่องที่มาพักกับผม และเรื่องที่ห้องนี้เป็นห้องของแจ็ควงเทอมินัล เดี๋ยวจะเป็นข่าวใหญ่โต แล้วตัวพายเองจะเสียชื่อเสียงที่มานอนค้างกับผู้ชาย


ตกเย็นเพื่อนน้องคงกลับไปแล้ว น้องพายเลยโทรขึ้นมาชวนผมไปทานข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารใกล้ๆ ถึงได้รู้สึกตัวว่านั่งจมอยู่กับกระดาษและดินสอมานานมากขนาดนี้… แอบตกใจตัวเองที่วาดรูปไอ้แจ็คออกมาเป็นสิบๆ อิริยาบถ นี่ผมท่าจะบ้าจริงๆ แล้วนะเนี่ย…


“พี่ฟี่คะ สรุปว่าพายจะได้เจอพี่สาวคนใหม่ไหมเนี่ย” น้องพายถามขึ้นระหว่างที่ผมกับเธอกำลังกินราดหน้าเจ้าอร่อยกันอยู่สองคน


“หะ…อ๋อ… ก็ เห็นเขายังยุ่งๆ อยู่น่ะ พี่ก็ไม่รู้ว่าเค้าจะว่างมาไหม” ยังไงซะวันนี้มันคงจะไม่โผล่มาแล้ว ไหนมึงบอกคิดถึงกูไง สัดเอ๊ย!


“ทะเลาะกันรึเปล่าคะ… ขอโทษนะคะที่พายถาม คือพายกลัวว่าจะทะเลาะกันเพราะพาย”


“…ไม่หรอก อย่าคิดมากเลย เค้าเข้าใจ แต่นี่คงติดงานจริงๆ” ท่าทีผมดูออกเหมือนคนทะเลาะกับแฟนขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย น้องพายถึงได้ทัก


“แฟนพี่ฟี่ยังเรียนอยู่ หรือทำงานแล้วคะ”


“…เรียนด้วยทำงานไปด้วยน่ะ”


“ว้าว… เป็นผู้หญิงเก่งจังเลยนะคะ ต้องทั้งเรียนทั้งทำงาน คงจะเหนื่อยน่าดู ถ้าพี่เค้าไม่ว่างมาเจอก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แล้วก็ ถ้าไม่ทะเลาะกัน พายก็ดีใจแล้ว… พายอยากเห็นพี่ฟี่ยิ้มเยอะๆ นะ” ถ้าผมไม่มีมัน ผมคงต้องกลับไปหลงรักเธออีกครั้งแน่ๆ ก็ได้แต่ภาวนาให้เธอได้พบเจอคนดีๆ ที่รักเธอจริง ดูแลเธอได้ และอยู่กับเธอไปนานๆ


“ยิ้มพอไหม” ผมแกล้งฉีกยิ้มกว้างให้น้องพาย


“เย้! แบบนี้แหละค่ะ พี่ฟี่ยิ้มน่ารักที่สุดในโลกเลย” น้องพายก็ยิ้มน่ารักที่สุดในโลกเหมือนกันจ้ะ สาวน้อยของพี่ฟี่


……………………….
……………………….


“ฮัลโหลที่รัก ว่าไงจ๊ะ” ล่วงเข้าวันใหม่ไปกว่าหนึ่งช่วงโมง ผมก็ยังนอนไม่หลับ สุดท้ายแพ้ใจตัวเองต้องกดโทรศัพท์ไปหาไอ้ตัวต้นเหตุ แล้วดูมันรับและพูดนะ ทำเหมือนไม่มีห่าอะไรเกิดขึ้นเลย


“ทำไมมึงไม่มาวันนี้” ผมลุกขึ้นเดินไปเปิดระเบียงห้องมัน จัดการหนีบโทรศัพท์ไว้แนบหู แล้วลงมือจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบแก้เซ็ง


“อ้าว กูบอกเหรอว่าจะไป… ที่รักฟังผิดเองม้างงงง…” แค่เสียงของมันก็ทำให้นึกถึงหน้าคนพูดที่ลอยหน้าลอยตากวนบาทาได้เป็นอย่างดี เออ… กูมันคงโง่เอง ที่คิดเข้าข้างตัวเองว่ามันจะมา


“………………………..” ผมเลือกที่จะเงียบ จริงๆ ก็ไม่รู้จะโต้ตอบอะไรมันดี คนอย่างไอ้แจ็คยิ่งถ้าเราเต้นไปตามความกวนส้นตีนของมัน มันจะยิ่งไม่หยุด แล้วคนที่มีความสุขที่สุดก็จะเป็นมัน


“โถๆๆๆๆ งอนเลยเหรอคนดีของพี่… พี่แจ็คบอกแล้วว่าพี่แจ็คติดงานนี่นา เดี๋ยวอีกสองสามวันพี่แจ็คจะกลับไปให้กอดนะจ๊ะ” นอกจากจะชอบเรียกตัวเองว่าน้องแจ็คเวลาอ้อนแล้ว เวลากวนตีนมันก็ชอบเรียกตัวเองว่าพี่แจ็คเช่นเดียวกัน


“…………………………..” ผมยังคงพ่นควันต่อไปอย่างไม่ใส่ใจน้ำเสียงกวนๆ ที่ลอยลอดออกมาจากโทรศัพท์ ท้องฟ้าคืนนี้แดงก่ำ จนเดาได้ว่าอีกไม่นานพระพิรุณคงประทานพรลงมาเป็นแน่แท้


“นี่นาย… สูบบุหรี่อยู่ใช่ไหม… อย่าสูบในห้องนอนกูนะเว้ย” สรรพนามเรียกขานเปลี่ยนไปตามความต้องการของคนพูด ถ้าใครไม่รู้จักมัน ก็คงมึนๆ กันบ้าง แต่กับผมที่ใช้ชีวิตอยู่กับมันมาพักใหญ่ เลยไม่ค่อยใส่ใจว่ามันจะเรียก หรือแทนตัวเองว่าอะไร บางเรื่องของไอ้แจ็คถ้าเก็บมาใส่ใจมากๆ จะประสาทกินเข้าสักวัน…


“…………………………..” บุหรี่ที่คาบไว้เผาไหม้ใกล้หมดมวน อาจเพราะลมที่ค่อนข้างแรง ประกอบกับผมอัดแรงๆ อยู่สองสามรอบ ควันบุหรี่สีเทาคลุ้งอยู่ไม่นานก็จางหายไป ผิดกับคนทางปลายสายที่ควันของอามรณ์เริ่มขุ่นมัวเพิ่มขึ้น… คืออย่างนี้ครับ ไอ้แจ็คมันไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ ไม่ใช่ว่ามันไม่เคยสูบ หรือแพ้ แต่มันโรคจิต มันไม่ชอบให้ห้องนอนหรือเสื้อผ้า เครื่องใช้มีกลิ่นบุหรี่ติด มันบอกว่าตอนที่สูบออกมาใหม่ๆ มันไม่เหม็น แต่พอควันมันไปจับตัวกับเนื้อผ้า หรือผสมกับอากาศจากเครื่องปรับอากาศ นั่นแหละคือกลิ่นที่มันทนไม่ได้ ผมเองเลยมีโซนดูดบุหรี่ของตัวเองในระเบียงห้องกลาง และดูดเสร็จใหม่ๆ ผมจะไม่เดินเข้าห้องนอนของมัน ไม่งั้นไอ้คนย้ำคิดย้ำทำอย่างไอ้แจ็คมันจะบ่นอยู่นั่น บ่นจนอยากจะเอาแอลกอลฮอลมาล้างปากตัวเองซะให้รู้แล้วรู้รอด


“เฮ้ย… นี่อย่าบอกนะว่าดูดอยู่ที่ระเบียงห้องนอนกู” แหม… แม่นเหมือนตาเห็น… เห็นมันหงุดหงิดแล้วก็พาลให้อารมณ์เดือดๆ ของตัวเองลดลงเกือบหมด…


“เออ! กูว่าจะไม่บอกแล้วเชียวว่าดูดในห้องมึง…”


“อย่ากวนตีนฟี่ ดับบุหรี่ซะ” หึ ไอ้สัด ที่ตัวเองกวนตีนคนอื่นเขา ยังไม่เคยคิดจะเพลาๆ ลงบ้างเลย ทีอย่างนี้มาทำเสียงเข้มใส่ กูกลัวตายห่า


“กูไม่ดูดในห้องมึงก็ได้ แต่กูจะอมควันไปพ่นใส่ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน หมอน ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดเบส แอร์ พ่นแม่งให้คลุ้งทั้งห้องเลยสัด! ขอบใจที่อยู่คุยเป็นเพื่อนตอนดูดบุหรี่ ฝันดี!” แล้วผมก็กดตัดสาย และเพื่อป้องกันความกวนส้นตีนของมัน ผมรีบปิดเครื่อง พร้อมวิ่งไปยกหูโทรศัพท์บ้านออกทันที ดี… อยากกวนตีนกูนัก มึงเจอกูบ้าง… ไม่อยากกลับห้องใช่ไหม กูจะดูดบุหรี่ให้หมดคอต อัดแม่งให้อยู่ในห้องนอนมึงนี่แหละ!


………………………..
……………………….


วันนี้เป็นวันที่น้องพายต้องเดินทางกลับอเมริกา ความรู้สึกของครั้งนี้ไม่หนักหน่วงเท่าครั้งแรกที่ต้องจากกัน ผมเศร้าที่ผมดูแลเธอไม่ได้ แต่ผมไม่เคยเสียใจที่ได้รักเด็กผู้หญิงคนนี้ ผมอยากเก็บรอยยิ้มนี้ไว้ให้นานที่สุด ผู้หญิงอย่างพายไม่เหมาะกับน้ำตา…


“พาย พี่ขอโทษ พี่…”


“พอแล้วค่ะ พายบอกแล้วว่าไม่ต้องขอโทษ พี่ฟี่ไม่ผิดสักหน่อย…” ผมดึงผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าเข้ามากอดแน่น ผมรู้ว่าพายเจ็บไม่ต่างจากครั้งแรกที่เราจากกัน นี่เป็นการจากแบบเจ็บอีกครั้ง พายพยายามทุกอย่างที่จะมาเจอผม แต่ก็กลับไปพร้อมความเจ็บปวดและผิดหวัง แทนที่จะเป็นรอยยิ้มแห่งความสุข แต่ผู้หญิงคนนี้ก็ยังยิ้มตาหยีให้ผมเหมือนวันวาน ถ้าจะมีสักครั้งในชีวิตที่ผมจะตอบแทนอะไรเธอได้ ผมสัญญาว่าผมจะทำอย่างไม่รีรอเด็ดขาด…


“พี่ฟี่สัญญากับพายนะ ว่าจะไม่โทษตัวเอง… พี่ฟี่ต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะ” เสียงน้องพายยังคงอู้อี้อยู่ตรงอกผม


“พี่สัญญา… พายก็เหมือนกัน ต่อไปนี้ต้องยิ้มทุกวัน ไม่ร้องไห้อีกแล้วนะ” ผมยกมือขึ้นมาลูบหัวน้องน้อยในอ้อมกอดเบาๆ ถ่ายเทน้ำหนักแห่งคำสัญญาซึ่งกันและกัน


“ยิ้มพอมะ!” เธอผละตัวออกจากอกผม ก่อนจะส่งยิ้มตาหยีอย่างเคย แต่ครั้งนี้กว้างขึ้นอย่างจงใจ แล้วผมจะอดไม่ยิ้มตามเธอได้อย่างไร ต่อให้ยิ้มนี้จะไม่ได้ยิ้มทั้งปากและตาเหมือนวันวาน แต่อย่างน้อยครั้งนี้ เราก็จากกันด้วยรอยยิ้ม…


“พอจ้า!! ได้เวลาต้องเข้าเกทแล้วล่ะ… พี่ส่งตรงนี้นะ เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ… ” คงอย่างที่เนื้อเพลงได้บอกไว้… ‘ส่งไกลแค่ไหน เราก็ต้องลาอยู่ดี’


“ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างที่พี่ฟี่ทำเพื่อพาย ขอบคุณที่รักพาย ดูแลตัวเองนะคะ ถึงแล้วจะส่งเมลมาบอกนะคะพี่ชาย… สวัสดีค่ะ” ตั้งแต่เจอกัน คบกันเป็นแฟน จนตอนนี้เลิกกัน ทุกครั้งที่เราต้องลา น้องพายมักจะยกมือขึ้นไหว้ผมเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน… ผมเสียคนรักเก่าไป แต่ผมเพิ่งได้น้องสาวเพิ่มขึ้นมาแทน… แค่นี้ก็คุ้มแล้ว!


‘ดูแลตัวเธอเองให้ดี จากนี้ไม่มีฉัน

เจอใครยังไงไม่สำคัญ อย่าลืมกันก็พอ

จากนี้ไปคงไม่ต้องรอ แค่สิ่งเดียวที่จะขอ ครั้งสุดท้าย



ไม่อยากเป็นคนต้องบอกลา แค่คิดฉันก็ยิ่งปวดใจ

เก็บเอาความรู้สึกดีๆ ส่งเธอเลยตรงนี้จะได้มั้ย



ส่งไกลแค่ไหนเราก็ต้องลาอยู่ดี
 ก่อนเราจากกันฉันควรจะหยุดเท่านี้

น้ำตาที่มี ให้เธอโชคดี ให้เธอปลอดภัย ทุกอย่าง

จะส่งที่ไหน ฉันคิดว่าคงไม่ต่าง ยังไงก็เจ็บเหมือนกัน’




สามทุ่มกว่าๆ ผมนั่งรถไฟฟ้าสายด่วนจากสนามบินแห่งชาติมาลง ณ จุดเดิมของตอนขาไป และด้วยความที่ยังไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียวที่ห้องตอนนี้ ผมเลยโทรหาไอ้จอมว่ามันตั้งวงกันที่ไหนรึเปล่า จะได้ไปแจม… แล้วก็ไม่ผิดหวัง พวกเหี้ยจอมมันแดกเหล้าเป็นงานหลัก เรียนหนังสือเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว สถานที่ก็เดิมๆ บ้านไอ้จอม ผมก็เลยแวะตลาดโต้รุ่งใกล้บ้านมันก่อนเพื่อซื้อพวกสะเบียงกับแกล้มเพิ่ม อย่างน้อยแดกเหล้าฟรีก็ควรจะมีกับไปเส้นเจ้าของบ้านสักหน่อย…


“ไปไงมาไงถึงโผล่มาแดกเหล้า เมายาดองกับพวกกูได้วะ” ไม่มีหรอกยาดองน่ะ มีแต่ฮันเดรด กับหงส์ แต่ไอ้จอมมันคงพูดให้คล้องจองกันไปอย่างงั้น วันนี้วงเหล้าประกอบไปด้วยไอ้จอม ไอ้เพิ่ม ไอ้เสก และไอ้มิ่ง ไอ้สี่คนนี้เป็นแก็งค์เฮไหนเฮนั่นของผม จริงๆ ถ้าอยู่ที่มหาลัยก็มีพายเพิ่มมาอีกคน… พวกมันนั่งล้อมวงกันหน้าโทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ที่กำลังถ่ายทอดฟุตบอลยุโรปอยู่ตอนนี้


“ก็ไม่ไง ปกติกูก็มาแดกกับพวกมึงบ่อยๆ เป็นเหี้ยอะไรขึ้นมาเสือกถามเอาวันนี้” ผมรับแก้วเหล้าผสมน้ำอย่างที่กินประจำจากมือไอ้เพิ่ม มือชงเหล้าประจำกลุ่มที่มันจำได้หมดว่าใครกินผสมอะไรบ้าง ผมไม่ชอบโซดา กินได้บ้าง แต่กินมากแล้วท้องอืดทำให้ประสิทธิภาพในการเสพเหล้าลดลงอย่างน่าใจหาย… ยกขึ้นจิบนิดๆ ก่อนจะเอื้อมไปหยิบถั่วลิสงคั่วเข้าปาก


“เมื่อก่อนน่ะปกติ แต่เดี๋ยวนี้มึงไม่ค่อยมาแดกเหล้ากับพวกกูเลย แล้ววันนี้อยู่ดีๆ ก็เสือกโทรมาบอกว่าจะแดกเหล้าด้วย กูก็เลยแปลกใจ” จริงสินะ… ตั้งแต่คบกับไอ้เหี้ยนักดนตรีนั่น ผมก็ไม่ค่อยได้มาค้างอ้างแรมร่ำสุรากับพวกเพื่อนในกลุ่มสักเท่าไหร่ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน มันแค่เคยพูดเฉยๆ ว่าไม่อยากให้ผมไปเมาข้างนอกบ่อยๆ จริงๆ ก็เคยเถียงมันนะ แต่มันก็เสือกกวนตีนตอบว่า


‘เดี๋ยวเมียพี่แจ็คเกิดไปจับใครปล้ำตอนเมาขึ้นมา พี่แจ็คก็ต้องเสียเมียให้ไปเป็นผัวชาวบ้านเค้าน่ะสิ พี่แจ็คก็เป็นหม้ายพอดี’ ผมเลยเลิกต่อล้อต่อเถียงกับมัน แล้วก็พยายามไปค้างที่อื่นน้อยลง ถ้าจะกินเหล้าก็พยายามไม่ให้เมามาก และกลับมานอนห้องเสมอ…


“ไม่ทำไมหรอก… ช่วงก่อนๆ เบื่อๆ เหล้าว่ะ วันนี้เปรี้ยวปากอยากแดก” ตอบเลี่ยงๆ ไป ก่อนจะกระดกเหล้าหมดแก้ว แล้วส่งกลับไปให้ไอ้เพิ่มช่งต่อ


“มึงมีเมียใหม่เหรอวะ…” ดีนะที่แก้วเหล้ายังอยู่ในมือไอ้เพิ่ม ถ้ากำลังจ่ออยู่ที่ริมฝีปาก งานนี้คงมีพุ่งกันบ้าง



(ต่อด้านล่างค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2012 23:39:03 โดย Mercy »

Mercy

  • บุคคลทั่วไป
“เออใช่… พวกกูสงสัยกันมานานและ ถามพาย พายมันก็บอกไม่รู้ มันให้มาถามมึงเอาเอง… อะไรมันจะลึกลับขนาดนั้นวะ” ไอ้เสกที่นั่งข้างๆ เอ่ยถามสมทบไอ้จอม… กูคงคิดผิดที่มาแดกเหล้ากับพวกมึงวันนี้สินะ เกิดอยากทำตัวเป็น CSI กันทุกคน ไม่เว้นแม่แต่ไอ้มิ่งที่เป็นคนเงียบๆ ยังทำหน้าตาอยากรู้อยากเสือกเลย…


“หรือมึงมีเมียเป็นผู้ชาย!” เช็ดเข้! พวกเหี้ยนี่ไปเข้าโปรแกรมฝึกดมกลิ่นจากสุนัขตำรวจมาหรือไงวะ


“กูว่าพายมันรู้แต่มันไม่บอกมากกว่า มีเหรอเรื่องไอ้ฟี่ที่พายมันจะไม่รู้” ไอ้เพิ่มที่ชงเหล้าเสร็จ เริ่มออกความเห็นบ้าง


“พายมันไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ… แล้วกูก็ไม่ได้มีเมียใหม่ พอแล้วไอ้เหี้ยเลิกซัก แล้วก็แดกๆ เข้าไป” ผมพยายามอีกครั้งที่จะตัดบท โดยการยกเหล้าขึ้นดืมอักๆ ทันทีที่พูดจบ


“กูว่าทะเลาะกับเมียใหม่มาชัวร์ๆ เลยมาเศร้าแดกเหล้าวันนี้” พวกมึงไปเขียนนิยายขายท่าจะดีกว่าทำงานออกแบบนะสัด คิดกันได้เป็นเรื่องเป็นราว


“เออกูก็ว่าอย่างนั้น… เอางี้เราโทรตามไอ้พายมาด้วยอีกคนดีไหม ถ้ามันบอกไอ้พายไม่รู้ คราวนี้จะได้ให้พายมันมาช่วยกันล้วง ลับ ตับ ม้ามไอ้เหี้ยฟี่กัน…” ไอ้เพิ่มพูดไม่ทันขาดคำ ไอ้จอมก็กดโทรศัพท์หาพายทันที เหี้ยพวกมึงทำงานกันเป็นทีมจนกูเริ่มกลัวและ


“พายจ๋า จอมเองนะ พายว่างเปล่าอะ มาล้วงตับไอ้เหี้ยฟี่ที่บ้านจอมไหมจ๊ะ เนี่ยพวกเรากำลังเค้นความลับที่สันนิฐานว่ามันแอบไปมีเมียใหม่อยู่เลย อัญเชิญพายมาเป็นสักขีพยานร่วมกันหน่อยไหม” เหี้ยเอ๊ย! ความหวังอยู่ที่พายแล้วล่ะตอนนี้ ถ้าพายมันเกิดเล่นด้วยกับไอ้พวกเหี้ยนี่ มีหวังกูตายแน่ๆ


“ไอ้เหี้ย พวกมึงแม่งจัญไร กูบอกแล้วว่าไม่มีเหี้ยอะไร กูแค่อยากแดกเหล้ามึงก็จะบีบให้กูพูดว่ามีให้ได้” ผมโวยวายอย่างหงุดหงิด จนพวกมันมองหน้ากันเลิกลัก แต่ไอ้เหี้ยจอมก็ยังไม่ยอมวางสายจากพาย… ไม่รู้ว่าปลายสายตอบอะไรกลับมา ไอ้เหี้ยจอมถึงกับเบิกตาตกใจใส่ผม…


“เฮ้ย…เหรอ เราไม่รู้ เออๆ โทษทีๆ จ้าๆ แค่นี้แหละ จ้า… รับรองว่าจะดูแลมันเป็นอย่างดี แหะๆ จ้าๆ ไม่ถามแล้วจ้า… งั้นแค่นี้นะ แล้วเจอกันอย่าลืมของฝากเรานะ…”


“มึง… เออ… น้องพายมาเหรอวะ” สงสัยพายมันคงยกเรื่องน้องพายขึ้นมา ไอ้จอมถึงได้ทำหน้ารู้สึกผิดใส่ผมขนาดนี้ คราวนี้ทุกตัวในวงเหล้าเลยจ๋อยแดกกันไปตามๆ กัน พวกมันรู้ว่าตอนที่ผมเลิกกับน้องพาย ผมเจียนตายขนาดไหน…


“อืม… เป็นอาทิตย์แล้วล่ะ เมื่อกี้เพิ่งไปส่งที่สนามบินมา” ผมพูดเพียงเท่านั้น ไอ้พวกเหี้ยทั้งหลายก็เลิกถามใดๆ ต่อทั้งสิ้น ปล่อยให้พวกมันคิดว่าที่ผมอยากกินเหล้า และดูเซ็งๆ ในวันนี้ เป็นเหตุมาจากการมาและจากไปของน้องพายอีกครั้งดีกว่าให้มันมาขุดคุ้ยผมต่อ… ถึงแม้เรื่องจริงที่ทำให้ผมอยากมากินเหล้าคือการไม่อยากกลับไปอยู่ห้องคนเดียว แล้วฟุ้งซ่านถึงไอ้เจ้าของห้องก็ตาม แต่อย่างน้อยเรื่องของน้องพายก็มีส่วนเล็กๆ ในการอยากเมาวันนี้เหมือนกัน ถือว่าผมและพายไม่ได้โกหกล่ะนะ
กรำสุราอยู่กว่าสองชั่วโมง โทรศัพท์มือถือผมก็แผดเสียงดังมาจากกางเกงยีนส์ที่ถอดกองไว้บนโซฟาถัดจากวงเหล้าไปไม่ไกล ผมค่อยๆ พยุงตัวเองที่เริ่มมึนเล็กๆ ไปล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกง ไม่ทันได้มองหน้าจอก่อนว่าใครก็กดรับสายเลยทันที


“ครับ…” ผมส่งเสียงทักออกไป


“ส่งน้องพายเสร็จรึยัง…” เสียงคนปลายสายคล้ายกับไอ้คนที่ทำให้ผมต้องมานั่งเมาอยู่ตอนนี้


“ใครน่ะ” ถามไปอย่างนั้น จริงๆ ก็รู้ว่าเป็นมันนั่นแหละ


“จำสามีสุดหล่อไม่ได้เหรอจ๊ะพี่ฟี่ นี่แหละน้าที่เค้าว่า สามวันจากสามี ไปเจอนารี เลยทำให้สามีกลายเป็นอื่น” เสียงพูดเจื้อยแจ้วของมันดังลอยออกมาโดยที่ผมไม่ได้ใส่ใจ อยากกวน อยากพูด อยากเหี้ยอะไรก็เอา กูเหนื่อย!


“แค่นี้นะ จะแดกเหล้าต่อ”


“อ้าว… ส่งเสร็จแล้วทำไมไม่กลับบ้าน ไฟล์ทสามทุ่มไม่ใช่เหรอ นี่ตีหนึ่งเข้าไปแล้วนะ กูนึกว่าบินไปส่งที่อเมริกาซะอีก”


“แจ็ค… เลิกกวนตีนกูสักที” ผมพูดด้วยความกึ่มบวกอารมณ์โกรธาเล็กๆ โชคดีที่เดินออกมาคุยหน้าบ้าน ไม่อย่างนั้นไอ้พวกเห้วงเหล้าต้องสงสัยขึ้นมาอีก


“อ๊าว! น้องแจ็คก็กวนของน้องแจ็คเป็นปกติอยู่แล้ว เพิ่งจะมาเหวี่ยงอะไรเอาตอนนี้…” กูผิดเองสินะที่เพิ่งมาเหวี่ยงใส่มึงทางโทรศัพท์ แทนที่จะเหวี่ยงตีนใส่หน้ามึงซะตั้งนานแล้ว


“แจ็ค แค่นี้นะ กูจะแดกเหล้า…” ขี้เกียจคุยกับแม่งแล้ว


“เมื่อไหร่จะกลับห้องล่ะ…” แหม สัด ถามมาได้เมื่อไหร่จะกลับ ที่มึงหายไปเป็นชาติ เคยคิดถึงใจกูบ้างไหม


“คืนนี้ไม่กลับ พรุ่งนี้ก็อาจจะไม่กลับ ถ้าอยากกลับกูก็กลับของกูเอง…”


“…… โกรธอะไร” ไอ้แจ็คถามเสียงอ่อย เหมือนเวลามันทำตอนช่วงง้อ


“…………… แค่นี้นะกูจะไปกินเหล้าต่อ” ขี้เกียจจะมาทะเลาะกันผ่านระบบโทรคมนาคม ก็เลยรีบๆ จบบทสนทนาซะ


“งั้นก็… กินให้เมานะ เมาแล้วจะได้เลิกกิน… ฝันดี” ไอ้สัด ไม่คิดจะง้ออะไรให้มันดีกว่านี้เลยใช่ไหม… แล้วนี่กูเป็นเหี้ยอะไร หวังอะไรอยู่ หวังว่าคนอย่างไอ้แจ็คจะพูดจาดีๆ หรือขอโทษดีๆ น่ะเหรอ แดกขี้ยังง่ายกว่า!


สุดท้ายผมก็คลุกอยู่ที่บ้านไอ้จอมอยู่สองคืนสองวันโดยที่ไม่มีแม้แต่โทรศัพท์ หรือแมสเสจจากหมาแมวห่าเหี้ยตัวไหนทั้งนั้น… ก็ดี ต่างคนต่างอยู่ซะบ้าง สรุปกูผิดอะไรวะเนี่ย กูไม่ใช่เหรอที่ต้องโมโหมัน แล้วทำไมกลายเป็นมันที่หายไปด้วยคำพูดทิ้งท้ายที่เหมือนจะน้อยใจ เออ น้อยใจไปเลย กูก็น้อยใจเป็นเหมือนกันโว้ย!


บ่ายของวันที่สองที่ผมยังอยู่บ้านไอ้จอม ก็มีแขกรับเชิญพิเศษมาเยือนถึงที่…


“เอ้า แดกข้าวกันได้แล้ว กูซื้ออาหารมาให้เสวยกันถึงที่ ลุกขึ้นมาแดกเร็ว!” เสียงพายโหวกเหวกมาแต่ไกล ผมนอนอยู่บนโซฟา ได้ยินก็รีบลุกขึ้นมาขยี้หน้าขยี้ตา มองลงไปที่พื้น ก็เจอซากศพวงเหล้าทั้งหลายที่ตอนนี้เพิ่มจำนวนมาอีกสาม เป็นรุ่นน้องที่คณะ จะมาเอาของจากไอ้จอม ทำไปทำมาก็กลายเป็นร่วมวงไพบูรณ์ด้วยกันซะงั้น วงเหล้าเลยตีตั๋วยาวสองวันสองคืน


จริงๆ แล้วก็ไม่ได้กินมันทั้งวันทั้งคืนหรอกครับ ก็มีแยกย้ายกันไปอาบน้ำบ้าง ออกไปซื้อกับข้าวบ้าง ไปรับแฟนบ้าง ไปรับงานบ้าง เล่นเกมบ้าง แต่สุดท้ายพอทุกคนเสร็จภาระกิจอย่างอื่นก็กลับมาต่อวงเหล้า ส่วนผมกิจกรรมยามว่างน้อยที่สุด ก็เลยได้แต่กินๆ นอนๆ ช่วยไอ้จอมทำงานบ้าง แล้วก็กลับมากินเหล้าต่อ แล้วก็นอน วนเวียนจนครบสองวัน…


“หืม!! ฟี่ กลิ่นเหล้าหึ่งเลย ทำไมกินเยอะขนาดนี้เนี่ย…”


“โอ๊ย ไม่เยอะหรอกพาย แก้วเหล้าหกใส่มันน่ะ” เป็นไอ้จอมที่หวังดีช่วยตอบแทนผม แต่หารู้ไม่ว่ามึงเงียบไว้จะดีกว่า ระวังไอ้พายเหยียบอกมึงตาย กูจะไม่ช่วยสักนิด


“หกเข้าปากน่ะสิ… กูมีเขาหรือไงจอม แค่นี้กูดูก็รู้ว่าแดกไม่ใช่อาบ” พายหันไปแง่งใส่ไอ้จอมทันที สมน้ำหน้ามึงนัก… จริงๆ มีผมคนเดียวที่พายมันไม่พูดกูมึงด้วย นอกนั้นมันก็กูมึงกับพวกไอ้จอมทุกคน แต่ทุกคนกลับไม่มีใครกูมึงกับมัน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ก็เห็นจะมีแต่ไอ้ริวล่ะมั้งที่ใช้สรรพนามพ่อขุนรามกับพาย


“ก็แดกเหมือนอาบไงจ๊ะพายจ๋าาาาา” ยังคงไม่เข็บหลาบ ยังคงต่อปากต่อคำต่อไป…


“งั้นก็เชิญอาบเหล้ากันต่อไป กับข้าวนี่ก็โยนให้หมาแดก ของฝากก็โยนให้หมามันใช้ดีไหม”


“ดีจ้า!!! โยนมาทางนี้เลย พวกเราเป็นหมา… โฮ้งๆๆ บู้ววววววว!!” ขอให้มึงหางโผล่… ไอ้สัดทำไปได้… คราวนี้พายมันส่ายหน้าอย่างระอาใจ ผมแอบคิดว่าตัวเองคงจะรอดแล้ว แต่เปล่า!


“ทำไมไม่กลับห้องล่ะฟี่… แจ็คมันเป็นห่วงนะ” พอหันเอากับข้าวไปให้ไอ้พวกวงเหล้าจัดการเอาไปจัดใส่จานเสร็จ คราวนี้ก็เหลือแต่ผมกับพายที่หย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ผมบนโซฟาตัวยาว


“มันกลับห้องด้วยเหรอ… ใครจะไปรู้ ก็เห็นไม่กลับมาหลายวันแล้ว เราก็ขี้เกียจอยู่ห้องคนเดียว” ไม่ได้โกหกนะ ความตั้งใจดั้งเดิมที่มากินเหล้าบ้านไอ้จอมเมื่อวันก่อนก็คือขี้เกียจกลับไปอยู่ห้องคนเดียวเฉาๆ


“มันโทรมาหาแล้วไม่ใช่หรือไง” ทีอย่างนี้มันเสือกเล่าให้พายฟังซะหมดเลยนะ สรุปว่าเรื่องของเรามันยังเป็นความลับรึเปล่าวะเนี่ย…


“ขอโทษ ที่ละลาบละล้วงนะ เพราะเราเป็นห่วงฟี่จริงๆ แล้วบังเอิญแจ็คมันมาหาริวที่ห้องเลยได้คุยกันนิดหน่อย” ใครจะไปโกรธพายลงล่ะครับ


“ขอโทษทำไม…พายไม่ได้ทำอะไรผิด ฟี่เองต่างหากที่ทำตัวให้เป็นห่วง” บ่อยครั้งที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง เพราะหลังจากที่เสียน้องพายไปครั้งนั้น ผมก็แทบจะไม่รู้สึกว่ามีคนกำลังห่วงเราอยู่ เลยทำอะไรก็ได้ไม่คิดหน้าคิดหลัง หรือคิดว่าใครจะกำลังทุกข์ใจเพราะความเป็นห่วง


“ถ้ารู้ว่ามีคนห่วง ก็กลับห้องเถอะ”


“เรารู้ว่าพายห่วง แต่ทำไมเราต้องกลับห้องด้วยล่ะ” พายค่อยๆ ถอนหายใจเบาๆ อย่างข่มอารมณ์ คงอยากจะเหวี่ยงใส่ผมเต็มที่เหมือนกัน ทำไมผมจะไม่รู้ว่าคนอย่างพาย มันขี้หงุดหงิดและใจร้อนขนาดไหน


“ก็แจ็คมันกลับห้องแล้ว”


“มันกลับแล้วก็ดีจะได้มีคนเฝ้าห้อง…”


“โถ่! ฟี่ อย่าเพิ่งรวนได้ไหมเนี่ย… เราไม่รู้ว่าสองคนทะเลาะอะไรกัน แต่กลับไปคุยกันดีๆ เถอะนะ ถ้าต่างคนต่างไม่พูด แล้วมันจะรู้เรื่องกันได้ยังไงวะ” เริ่มขึ้นวะโว้ย สงสัยจะเริ่มมีน้ำโหจริงๆ ซะแล้ว


“เดี๋ยวพรุ่งนี้เรากลับ” ผมตอบอย่างตัดปัญหา แต่จริงๆ ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าพรุ่งนี้คงต้องกลับห้องสักที เพราะยืมเสื้อผ้าไอ้จอมมาใส่สองวันแล้ว จะยืมต่ออีกก็กะไรอยู่


“ทำไมไม่กลับวันนี้ล่ะ เดี๋ยวเราขับรถไปส่ง” ข้อเสนอลดแลกแจกแถมจริงๆ ไม่รู้ว่าไอ้แจ็คมันไปพูดอีท่าไหน พายถึงได้มาโน้มน้าวผมซะสุดโต่งขนาดนี้…


“เราช่วยงานจอมติดค้างอยู่ เดี๋ยวช่วยมันให้เสร็จๆ ก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับ” จริงๆ ไม่ต้องอยู่ช่วยก็ได้ เพราะงานมันเหลืออีกแค่จิิ๊บจ้อยเท่านั้น แต่ขอยืมมาอ้างหน่อยเถอะวะ


“มีอะไรให้ช่วยทำไหม เดี๋ยวเราช่วยก็ได้ เผื่อเสร็จวันนี้จะได้กลับเลย” โหย พาย ไปรับจ้างทวงหนี้ดีไหมเนี่ย ตื๊อซะขนาดนี้


“นี่ได้ค่าจ้างตื๊อมาเท่าไหร่เนี่ย แบ่งเราครึ่งนึงดิเดี๋ยวเรากลับให้เลยวันนี้” แกล้งแหย่ซะหน่อย เห็นทุ่มสุดตัวเหมือนกับจะตื๊อชิงแชมป์โลก แต่เจ้าตัวคงไม่สนุกด้วยเลยเขวี้ยงค้อนกลับมาวงเบ้อเร่อ…


“ชิ… ตามใจ จะกลับพรุ่งนี้ก็พรุ่งนี้ แต่คืนนี้ห้ามกินเหล้าแล้วนะฟี่” นอกจากแม่ผมแล้ว พายก็เริ่มจะปวารณาตนเป็นแม่คนที่สองของผม…


“คร้าบบบบบ คุณแม่ เดี๋ยวผมจะดื่มแต่น้ำเปล่าเท่านั้นครับ สัญญาด้วยเกียรติของนายอัลฟี่เพื่อนซี้คุณพายเลยครับ” ผมยกสามนิ้วชูขึ้นแบบลูกเสื้อสามัญรุ่นใหญ่เพื่อประกอบคำสัญญา พายมันเลยกรอกตาแบบระอาส่งมาให้ทิ้งท้าย ก่อนที่พวกไอ้จอมจะมาตามไปกินข้าว



รุ่งขึ้นอีกวันผมก็กลับห้องตามสัญญา กะเวลาออกจากบ้านไอ้จอมตอน สิบโมงเช้าประมาณสิบโมงครึ่งกว่าๆ ก็ถึงคอนโด ที่ออกสายๆ แบบนี้เพราะหนึ่งหลีกเลี่ยงการจราจรใจกลางเมืองหลวง และสองหลีกเลี่ยงไอ้เจ้าของห้อง อย่างน้อยก็ยังไม่อยากกลับไปเจอทันทีที่ไปถึง…


แต่ผมคงทำกรรมมาเยอะ เพราะภาวนาสิ่งใดไม่เคยจะเป็นผล ไขประตูห้องเปิดเข้าไปปุ๊บ เสียงโทรทัศน์รายการเพลงก็ดังกระทบโสตประสาท รู้เลยทันทีว่ามีส่ิงมีชีวิตกำลังนั่งหายใจอยู่หน้าทีวีแน่ๆ แล้วมันคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก…


“ไม่มีเซย์ฮาโหลตอนกลับเข้าบ้านสักหน่อยเหรอ” เสียงกวนอันคุ้นเคยรอดผ่านทะลุเสียงเพลงจากโทรทัศน์มาดักให้ผมชะงักเท้าที่กำลังสาวเดินหนีเข้าห้องตัวเอง เลยจำในต้องหันไปมองหน้าไอ้คนพูด


“ดี!” ผมเอ่ยทักสั้นๆ (มาก) ก่อนจะตั้งท่าเดินหนีอีกรอบ แต่ไม่ทันเสียงนรกที่ดังขึ้นเบรคเอาไว้อีกครั้ง


“เดี๋ยวววววววววว! ยู้ดดดดดดดดดด ก่อนพ่อหนุ่ม… ถ้าจะทักกันสั้นขนาดนี้ เดินมาจูบปากโดยไม่พูดเลยยังจะดีซะกว่า…” ผมหันกลับไปมองหน้ามันเพลียๆ ไอ้เจ้าตัวก็รีบลุกเดินเข้ามายืนประจันหน้ากับผม


“คุยกันก่อนไม่ได้เหรอ” ประโยคเหมือนจะอ้อนวอน แต่น้ำเสียงมันอ้อนตีนมากกว่า


“มีอะไร” ไหนๆ ก็ไหนๆ มันก็คงต้องเผชิญหน้ากันแล้วล่ะมั้ง


“โกรธกูเรื่องอะไร” นี่ไม่รู้จริงหรือแกล้งโง่ หรือโง่อยู่แล้วแต่อยากกวนตีนเลยถามประโยคนี้ขึ้นมา


“แจ็ค มึงเลิกหาคำตอบในสิ่งที่มึงก็รู้อยู่แล้วว่าทำไมเหอะว่ะ”


“รู้ห่าอะไรวะ… ถ้าจะกรุณาคนหล่อๆ อย่างน้องแจ็ค มึงช่วยพูดออกมาให้หมดได้ไหมพี่ฟี่ ว่ามึงไม่พอใจอะไรกูบ้าง เพราะกูคิดว่า ทุกสิ่งที่กูทำ กูทำดีที่สุดแล้ว และมันก็ดีกับทุกฝ่าย” โอเค กูอดทนเล่นลิ้นกับมึงมานานและ ถ้าอยากรู้กูก็จะแถลงไขให้ฟังจนหมด ว่ากูโกรธเหี้ยอะไรมึงบ้าง…


“ทำไมมึงต้องหนีไปนอนบ้านแม่มึงด้วย มึงอย่าอ้างว่าแม่มึงตาม วันนั้นไปรับพายมึงก็หนีกลับไปนอนบ้าน เป็นเหี้ยอะไรนักหนา มึงไม่คิดว่ากูจะเสียใจบ้างเลยเหรอที่มึงทำแบบนี้ แล้วมึงก็หายไปเลยไม่ยอมกลับห้อง แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่กลับมาเอาเอง ต้องวานให้คนอื่นมาเอาให้ พอกูขอร้องให้มึงมา เพราะกูจะแนะนำมึงให้น้องพายรู้จัก กูกะจะบอกเค้าว่ามึงเป็นใคร เป็นอะไรกับกู มึงก็เสือกไม่โผล่มา หลบหน้ากูทุกทาง มึงเป็นเหี้ยอะไรนักหนาวะแจ็ค!” ในตอนแรกกะว่าจะแค่พูดให้มันฟังอย่างนิ่งๆ แล้วจะเดินหนีมันเข้าห้อง ปล่อยให้มันสำนึกผิดเอาเอง แต่ไปๆ มาๆ น้ำเสียงผมก็แสดงอารมณ์โกรธออกมาอย่างเต็มที่


“แล้วถ้ามึงเป็นกู มึงคิดว่าจะต้องทำยังไงล่ะ… แฟนเก่าของแฟนตัวเองมาหา แถมทั้งสองคนยังเลิกกันทั้งๆ ที่ยังรักกันอยู่ แล้วการกลับมาครั้งนี้ กูก็ไม่รู้อะไรเลย มึงเองก็ไม่ได้บอกว่าน้องเขามาเพราะอะไร มึงเงียบ เงียบซะจนกูกลัว กูกลัวว่าสุดท้ายแล้วมึงจะเพิ่งรู้ใจตัวเองว่ายังรักน้องเค้าอยู่ แล้วก็กลับไปคบกัน กูน้อยใจไม่เป็นเหรอฟี่ ถึงกูจะบ้าๆ บอๆ พูดจาทีเล่นทีจริง แต่กูก็มีความรู้สึกนะ ที่มึงโทรมาบอกแค่ขอให้น้องเขามานอนด้วย ถ้ามึงเป็นกูมึงจะหึงไหม มึงจะน้อยใจไหม มึงจะเสียใจไหม และสุดท้ายมึงจะทำอะไรได้ มึงเองก็น่าจะรู้ว่ากูเป็นคนยังไง กูไม่พูด กูเล่น กูกวนตีน ไม่ใช่ว่ากูไม่หึง ไม่โกรธ ไม่น้อยใจ แต่กูก็ยอมเพราะมึง…”


“สุดท้ายกูก็ต้องมานั่งบอกกับตัวเองว่า ถ้ามึงจะเลือกกลับไปรักกับแฟนเก่า กูก็คงได้แต่ทำใจและยอมรับ กูรู้ว่ามึงยังคงรู้สึกมีตะกอนเล็กๆ กวนอยู่ในใจกับเหตุการณ์ของมึงกับน้องเค้า กูเลยเลือกที่จะถอยออกมาก่อน เปิดโอกาสให้มึงได้อยู่กับน้องพาย และหัวใจตัวเอง ปล่อยให้มึงได้ลองทบทวนดีๆ อีกครั้ง มึงจะได้ผ่านปมทุกอย่างไปโดยไม่มีอะไรติดค้างอีก… และถ้าหากมึงกับกูจะต้องเลิกกัน ก็ยังดีที่มึงได้กลับไปรักกับคนที่มึงรักจริงๆ”


“แล้วกูก็ดีใจมากที่มึงโทรมาหากู บอกว่าคิดถึงกู กูแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่ามึงคงเลือกกู แต่ที่กูไม่โผล่มาหามึงหรือมาเจอน้องพาย เพราะกูไม่อยากให้น้องเค้ารู้สึกแย่ที่ผู้ชายที่เคยเป็นแฟนเก่า ผู้ชายที่เคยดูแลปกป้อง ผู้ชายที่เคยเป็นฮีโร่เสมอ และผู้ชายที่รักมากจะต้องมามีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันเอง มึงคิดว่าน้องเค้าจะยินดีดี๊ด๊าหรือไง คนที่เข้าใจมันก็มี ไอ้คนที่รับไม่ได้มันก็เยอะ และกูยังอยากให้มึงเป็นผู้ชายที่ดีที่สุดในสายตาของน้องเค้า หรือแม้แต่กับคนอื่นเองก็ตาม กูถึงเลือกไม่พูดเรื่องของเรากับใคร แม้แต่พายมันก็คงจับพฤติกรรมเราได้เอง แต่กูไม่เคยพูดตรงๆ เลยว่ากูกับมึงคบกัน เพรากูถือว่าถ้าเรานิ่งซะ ต่อให้คนอื่นเค้าคิด เค้าก็ไม่กล้าเอาไปพูด”


“แล้ว….”


“พอแล้ว พอแล้ว กูรู้แล้ว….กูรักมึงนะ รักมึงที่สุด… ขอโทษ ขอโทษนะ” ผมโผเข้ากอดผู้ชายตรงหน้าอย่างเต็มแรง เจ้าตัวเองก็เหมือนจะงงกับการกระทำของผม เหมือนมันอยากจะพูดอะไรต่อ แต่ผมพอแล้วครับ ผมหยุดคำพูดมันด้วยริมฝีปากของตัวเอง สลับกับคำบอกรักและคำขอโทษ… แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาเงียบๆ อย่างไม่รู้ตัว ผมเสียใจที่ทำมันเจ็บ ผมเสียใจที่ตัวเองดื้อด้าน ผมเสียใจที่เอาแต่ใจตัวเอง


เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว กับสิ่งที่ผู้ชายคนนี้คิดเพื่อผม ทำเพื่อผม ผมมันบ้าไปเอง คิดเอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่เคยคิดหรือห่วงความรู้สึกของใครเลย แต่ไอ้บ้านี่มันรักผม มันคิดทุกอย่างเผื่อผมเสมอ แม้ตรรกะบางอย่างของมันจะแปลกคนก็ตามเถอะ แต่ผมก็รักมัน ผมรักมันจังเลยครับ…


“อืม… อืมม” เสียงบอกรักของผมสลับกับเสียงหอบหายใจของเราทั้งคู่ จากจูบแห่งการขอโทษ ก็ค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งพล่าน
 

“อือ… จะ แจ็ค…” ผมต้องทุบหลังไอ้คนที่กำลังสูบพลังชีวิตผมอย่างเอาเป็นเอาตายให้ถอนปากออกบ้าง เพราะเหมือนตัวเองจะเริ่มหน้ามืดจากการขาดอากาศหายใจ


“ปากเจ่อเลย… เซ็กซี่จัง…” ไอ้บ้า! พูดอะไรที่มันชวนให้เขินน้อยกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไงวะ แล้วดูสายตาที่มันส่งออกมา แววตาวาวที่แฝงแววแห่งความต้องการเต็มเปี่ยม… ถ้าจะมองกันซะขนาดนี้ ไม่ปล้ำกูไปเลยล่ะ…


“ต่อได้ยัง… น้องแจ็คจะปล้ำล่ะนะ” ผมสะดุ้งน้อยๆ กับการโผเข้าหาอีกครั้งโดยไม่รอคำอนุญาต พร้อมคำพูดที่เหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่… ไอ้บ้าแจ็คก็โหมกระหน่ำทั้งปากและมือที่วนเวียนตะโบมลูบไล้ ทั่วแผ่นหลัง ก่อนจะเลื่อนสำรวจลงมาที่บั้นท้ายปอดของผม


“อ่ะ อือ… อ๊ะ ยะ อย่าเพิ่ง…” ไม่รู้ว่ากางเกงยีนส์ตัวเก่าของตัวเองหลุดไปกองที่พื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ มาสะดุ้งตัวอีกทีก็ตอนที่นิ้วมือสากจากการเล่นเบสกำลังชำแรกเข้ามาที่เนื้อตัวด้านหลัง… ความสากกระด้างที่ครูดแหวกไปกับเนื้ออ่อนของผิว ยิ่งทำให้ทั้งแสบและสุขไปพร้อมๆ กัน


“นางเอกอีกและ… อย่าปฏิเสธพี่ให้ยากเลยน้องฟี่ เป็นของพี่ซะอย่าให้ต้องข่มขืน หึหึ…อึก อู๊ย!!! ตีเข่าใส่น้องแจ็คทำไม อู๊ยดีนะไม่โดนสุดหล่อตรงกลาง…” แม่งชอบเป็นแบบนี้ ขนาดอยู่ท่ามกลางระหว่างอารมณ์ใคร่ มันก็ยังทำตัวเล่นๆ หลุดความบ้าออกมาได้อยู่ดี…


“พอเลย… กูไม่มีอารมณ์แล้ว” ผมผลักมันออกห่าง แต่ไม่รู้เพราะว่าผลักเบาไปหรือมันแข็งแรง เลยไม่ทำให้ไอ้คนโดนผลักกระทบกระเทือนเลื่อนตัวหนีแม้แต่น้อย


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวน้องแจ็คสร้างอารมณ์ให้ใหม่ได้ไม่มีปัญหา” แล้วมันก็จัดการทรุดตัวลงคุกเข่าและเริ่ม ‘สร้างอารมณ์’ ให้ผมอีกครั้งด้วย ‘ปาก’ ไอ้แจ็คเป็นคน ‘ปากเก่ง’ มากทั้งคำพูดและการใช้งาน จนผมต้องยึดมือไว้กับพนักโซฟาเพื่อช่วยพยุงตัวเองไม่ให้ลงไปกองกับพื้น เพราะแข้งขาเริ่มไม่มีแรง


“จะ แจ็ค… มะ ไม่ไหวแล้ว” นอกจากปากที่ทำงานได้ดีเยี่ยม มือของมันก็ไม่หยุดรุกรานด้านหลัง สอดประสานจังหวะเข้าออกทั้งนิ้วและปากได้อย่าง ‘ลึก’ ซึ้ง จนประสิทธิภาพในการยืนหยัดของผมหมดลง ทรุดหวบลงไปกองกับพื้น… ได้ทีไอ้แจ็ครีบจับผมนั่งพิงเอนกับด้านหลังโซฟา แล้วจัดการแยกขาทั้งสองข้างออกจากกันและจับชันเข่าขึ้น ทำให้ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวผมเปิดเผยกว้างขวางให้ไอ้มือเบสได้ทำการ ‘เล่นลิ้น’ ได้ถนัด


เขาว่าลิ้นมีพลังทำให้คนเราอ่อนเหลวเป็นขี้ผึ้งรนไฟได้แล้ว… ความแข็งขึงของบุรุษเพศยิ่งกว่าลิ้นเป็นสิบเท่าตัว… ตอนนี้ผมกำลังจะละลายหายไปท่ามกลางแรงกระแทกกระทั้นกระชั้นชิด ที่ไอ้แจ็คกำลังโหมกระหน่ำตัวลงมาในตัวผม… ไม่รู้เพราะว่าห่างหายไปหลายวัน หรือเพราะเพิ่งผ่านเรื่องราวทะเลาะกันมา เลยทำให้เซ็กส์ครั้งนี้ดูดิบ ห่าม เกินสิ่งที่ไอ้แจ็คเคยเป็น แต่ไม่รู้สิ… ผมกลับชอบแบบนี้นะ!


แม้จะเป็นช่วงเวลาเที่ยงเข้าไปแล้วแต่ยังคงไม่มีใครสนใจจะไปหาอาหารประทังความหิวของท้อง เพราะเราต่างยังไม่มีใครอิ่มซึ่งกันและกัน… บทรักที่รุนแรงแต่เต็มไปด้วยความห่วงหายังคงดำเนินต่อไป มีบ้างที่มันให้ผมได้ลิ้มลองสอดใส่ แต่ส่วนใหญ่ผมก็เต็มใจที่จะเป็นผู้รับ เซ็กส์ของแจ็คไม่ใช่เซ็กส์ที่เอาแต่ได้ ไม่ใช่มัวแต่จ้วงเอา ตักตวงเอา แต่มันแบ่งปันทุกความสุข เติมเต็มให้ผมอิ่ม… ขอบคุณทุกสิ่งในโลกนี้ที่ทำให้ผมได้เจอมัน ขอบคุณที่มันเป็นมัน และขอบคุณที่มันรักผม


“นี่… กิ๊กเก่ามึงน่ะใคร” หลังจากมื้ออาหารใหญ่ที่เราผลัดกันป้อน ผลัดกันกินซึ่งกันและกันผ่านพ้นไป ผมก็เดินออกมาสูบบุหรี่ที่ระเบียง โดยมีมันเดินตามมาออเซาะข้างๆ เลยนึกถึงที่พายพูดขึ้นมาได้ว่ามันไปถ่ายแบบกับกิ๊กเก่า


“หืมมมม กิ๊กเก่ากู? ใครวะ? หมายถึงไอ้เหี้ยริวน่ะเหรอ” สัด! นี่มึงเคยกิ๊กกันจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย


“มึงก็เล่นตลอด… พายบอกกูว่ามึงไปถ่ายแฟชั่นกับกิ๊กเก่ามึง” ด้วยความหมั่นไส้เลยหันไปพ่นควันใส่หน้ามันหนึ่งที


“แค่กๆ ๆ เฮ้ย… เล่นไรเนี่ย!! กิ๊กเก่าห่าเหวอะไรไปเชื่อพายมัน… กูไปถ่ายคอลัมน์แนะนำเบสคู่กับพี่พลมือเบสวงเฮลต่างหาก มึงโดนพายหรอกแล้ว…” อ้าว!! กู โดนเพื่อนเล่นงานซะแล้ว ก็ใครจะไปรู้วะ ว่ามันจะแค่ไปถ่ายคอลัมน์กับนักดนตรีด้วยกัน เล่นหึงไปซะแล้วกู


“หึงอะดิ” เหมือนมันรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ เลยหันไปพ่นควันใส่อีกทีด้วยความเขิน…


“เออ หึง! พอใจมะ” ไม่รู้จะเล่นตัวไปทำไม… ก็เลยตอบไปตรงๆ


“พอใจมากกกกก… หึงขนาดนี้แสดงว่ารักน้องแจ็คมากเลยใช่ม้า!!! เพราะน้องแจ็คน่ารักล่ะซิ งี้แหละน้องแจ็คเข้าใจ” ถุย! ได้ทีเอาใหญ่นะมึง…


“หึ… นี่มึงไม่รู้ตัวเหรอว่ากูรักมึง”


“ก็รู้ แต่น้องแจ็คก็พูดไปให้บรรยากาศมันโรแมนติก” โรแมนติกตรงไหนวะ บ่ายสองโมงแดดเปรี้ยง ลมไม่โชยสักแอะแบบนี้เนี่ยนะ แถมคำพูดมึงนี่มีประโยคไหนแสดงความโรแมนติกบ้างวะ


“ต่อไปนี้เลิกคิดสักทีว่ากูจะกลับไปคืนดีกับน้องพายนะ… ถ้าเป็นหนัง เรื่องระหว่างกูกับพายมันถึงตอนอวสานไปนานแล้ว ไม่มีการทำหนังภาคต่อเด็ดขาด… ส่วนเรื่องของมึงกับกู กูจะถือว่ามันเป็นซีรีย์แล้วกัน เราจะมี Season 1 2 3 4 5 ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจบ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะจบตรงไหนเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ ปัจจุบันนี้… คือมึงกับกู… เข้าใจนะ”


“จ๊วบบบ!!! น้องแจ็ครักพี่ฟี่ที่สุดในโลกเลย!!!” เฮ้อ! นี่คือช่วงเวลาโรแมนติกที่สุดในชีวิตผมแล้วล่ะ มันคงได้แค่นี้… แต่ก็หุบยิ้มไม่ได้สักที… รักมึงเหมือนกัน!


+++++++++++++++++++++++++++

+ ตอนแรกจะตัดแบ่งสองตอน แต่เอาก็เอา โพสต์มันไปเลยทีเดียวเอาให้จบครบกระบวนความ ยาวจุใจกันไปเลย

+ ตอนนี้เหมือนแจ็คจะหล่อ (รึเปล่า) พี่ฟี่มันก็อารมณ์ติสแตกเหมือนเคย เลือดจะไปลมจะมา ห่าเหวก็ไปแดกเหล้า ปล่อยให้น้องแจ็คน้อยใจ T^T

+ ตอนพิเศษคู่นี้ยังไม่รู้จะมีอีกเมื่อไหร่ ถ้าคิดพล๊อตได้ก็จะมาต่อ แต่อาจจะหลังตอนจบน้องพายเลยมั้ง ยังไม่รู้และยังไม่รับปากค่ะ

+ ยังคงมีคนอ่านกันอยู่ใช่ไหมอะ หรือเริ่มเบื่อๆ บ้างแล้ว คืออย่าเพิ่งรำคาญนะ ที่ถามบ่อยๆ ว่าเบื่อรึยัง อะไรรึยัง เพราะเราก็ไม่รู้ว่าทุกคนอยากอ่านเรื่องใหม่บ้างแล้ว หรือว่ายังโอเค ยังยังไงอยู่ และหลังๆ เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเขียนน่าเบื่อไปไหมวะ! (คิดเอาเองนะ ฮ่าๆ) ยังไงมีอะไร อยากบอก อยากแนะ อยากติ อยากเสริม ชอบไม่ชอบก็ช่วยเม้นท์บอกกันสักหน่อยนะคะ จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยจริงๆ

+ ส่วนคนที่แอดเฟสไป... เหมือนเดิม มาทักมาแนะนำตัวกันสักหน่อยนะคะ เราไม่รู้เลยว่าคุณเป็นคนอ่านเราหรือเป็นใคร ปัญหานี้พูดบ่อยมากจริงๆ มากจนมีบางครั้งก็ขี้เกียจจะพูด เพราะมันมีพวกขายของกับเล่นเกมแอดไปเยอะ เราก็ต้องมานั่งลบทิ้ง หรือบางคนที่เลิกอ่านแล้ว ไม่ชอบ ขี้เกียจ อินี่พูดแต่เรื่องความสวยความงามนิยายอัพช้า เบื่อ ก็รบกวนช่วยลบดิฉันทิ้งออกจาเฟรนด์ไปเลยก็ได้ไม่ว่ากันนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ...

เมอร์ซี่... คุณแม่คนสวยมากๆ และยังคงรักคนอ่านทุกคนค่ะ จ๊วบ!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2012 16:02:32 โดย Mercy »

ออฟไลน์ momoshiro

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-1
ขอนิดนึง,,, อิแจ๊นึกว่าจะพระเอกได้นาน โอ๊ยยย ไอ้บ้า!

กลับเข้าสู่โหมดเดิมม พี่แจ๊คอ่ะ พระเอ๊ก พระเอก โอยย เหนื่อยไหมพี่ ที่ต้องเก็บอะไรไว้เยอะแยะขนาดนั้น โอ๋ๆนะพี่แจ็ค >___<

ice_spok

  • บุคคลทั่วไป

ranaways

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด