“พี่ริว พี่พาย... มาซื้อของเข้าบ้านเหรอคะ อุ๊ย... น่ารักจังเลย สาวน้อยคนนี้ใช่หลานสาวพี่ริวรึเปล่าคะ” ไอ้พายกำลังยืนเลือกกุ้งอยู่โดยมีผมยืนจูงมือน้องเพลินอยู่ข้างๆ สักพักก็มีกลุ่มสาวๆ สี่คนเดินเข้ามาทัก ท่าทางจะเป็นแฟนคลับพวกผมเข้ามาส่งยิ้มตาเป็นประกาย น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจกันใหญ่
“ใช่ครับ... น้องเพลินสวัสดีพวกพี่ๆ เขาก่อนค่ะ...” ถึงแม้เราจะไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่น้องๆ เหล่านี้ก็เป็นแฟนเพลงผม เป็นผู้ใหญ่กว่าน้องเพลิน น้องเพลินต้องยกมือไหว้สวัสดีครับ บ้านผมจะสอนเรื่องมารยาทกับกาลเทศะกันอย่างเคร่งครัด
“สวัสดีค่า... น้องเพลินชื่อน้องเพลินค่า” ตามสไตล์ยัยลูกหมูแกแหละครับ เวลายกมือไหว้สวัสดีคนที่เพิ่งรู้จัก เธอจะแนะนำตัวเองเสร็จสรรพว่าชื่ออะไร
“น่ารักจังเลยค่ะ... เห็นแบบนี้ดูอบอุ่นมากๆ เลย ขอให้พี่ๆ รักกันตลอดไปนะคะ พวกเราเอาใจช่วย เรื่องข่าวเรื่องต่างๆ อย่าไปสนใจนะคะ พวกเราเชื่อพี่พาย เชื่อในความรักของพวกพี่ค่ะ สู้ๆ นะคะพี่ริวพี่พาย... พวกเราขอตัวนะคะ พวกพี่ไปนะคะน้องเพลิน”
“ขอบคุณมากนะครับน้องๆ โชคดีนะครับ...” ไอ้พายยิ้มกว้างให้กับสี่สาวแฟนคลับ ผมว่าวันนี้ไอ้พายคงยิ้มกว้างสบายใจไปทั้งวัน... โชคดีของพวกผมจริงๆ ครับ ที่มีแฟนคลับน่ารักๆ แบบนี้
“สวัสดีค่ะพี่ๆ บ๊ายบายค่า” ยัยน้องเพลินยกมือขึ้นไหว้ลาอีกครั้งโดยไม่ต้องบอกเตือน
“ดีจังเลยเนอะ...” ไอ้พายหันมาส่งยิ้มให้ผม
“สบายใจแล้วสิ... เห็นไหม บอกแล้วว่าทุกคนเข้าใจเรา มีแต่คนรักเรากันทั้งนั้น”
“อืม... พายรักริวนะ!” ไอ้พายบอกผมเบาๆ
“แล้วพี่พายรักน้องเพลินไหมคะ...” ยังไม่ทันที่ผมจะชื่นชมกับประโยคบอกรักแบบสุภาพ ของไอ้พาย ยัยน้องเพลินก็รีบชิงขอความรักขึ้นมาทันที
“รักสิคะน้องเพลิน... พี่พายรักทั้งอาทั้งหลาน รักทั้งคู่เลยค่ะ” ไอ้ประโยคบอกรักแบบน่ารักๆ แบบนี้ ทำให้ผมอยากหอมแก้มมันตอนนี้จังเลยครับ
“เย้! น้องเพลินก็รักพี่พายกับอาริวค่า... แต่ตอนนี้น้องเพลินเริ่มหิวแล้วค่ะพี่พาย” รักพี่พายกับอาริว แต่ว่าน้องเพลินรักของกินมากกว่าแล้วล่ะตอนนี้ ยัยลูกหมูยกมือขึ้นมาลูบท้องปอยๆ ประกอบประโยคเรียกร้องความน่าสงสาร โถ ลูกหมูของอา เพิ่งจะกินข้าวต้มมาเมื่อชั่วโมงกว่าๆ เองนะลูก หิวแล้วเหรอ!
“งั้นเดี๋ยวขอพี่พายเลือกอาหารทะเลเสร็จแล้วให้อาริวไปจ่ายเงินกับเก็บของในรถ ส่วนเราสองคนก็ไปที่ร้านอาหารกันก่อนเลยเนอะ” เอิ่ม... ความยุติธรรมมีอยู่จริงใช่ไหม?
พอเลือกวัตถุดิบต่างๆ เสร็จ สองคนพี่น้องก็จูงมือลั้ลลากันไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าประจำ ผมก็ต้องไปรอคิวชำระเงิน เสร็จแล้วก็ต้องเข็นเหล่าบรรดาของสดของแห้งเหล่านี้ไปเก็บในรถ... ระหว่างเก็บของเกือบเสร็จก็มีสายเรียกเข้าจากพี่นุช ผมแอบถอนหายใจเบาๆ ถ้าพี่นุชโทรมาในวันหยุดแบบนี้ ไม่เรื่องงาน ก็เรื่องข่าว!
“ครับพี่นุช...”
“ริว... พี่จะโทรมาแจ้งเรื่องข่าวของพายกับบีม เมื่อกี้พี่โทรไปคุยกับบีมมาแล้ว แต่โทรหาพายไม่ติด คิดว่าน่าจะอยู่ด้วยกัน พี่เลยโทรมาหาเราแทน...” นั่นไงเรื่องข่าวจริงๆ ด้วย
“ครับพี่ สงสัยไอ้พายลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้องน่ะครับ ผมกับมันออกมาซื้อของที่ห้างกัน บังเอิญหลานสาวผมมาอยู่ด้วยสามวันน่ะครับ... แต่ตอนนี้ไอ้พายอยู่ที่ร้านอาหาร ผมเดินมาเก็บของที่รถ พี่นุชจะคุยกับพายไหมครับ เดี๋ยวผมกำลังจะเดินกลับไปหามันแล้ว อีกสัก 15 นาทีพี่นุชค่อยโทรกลับมาใหม่ก็ได้ครับ”
“ไม่เป็นไร พี่คุยกับริวก็ได้ แค่จะมาแจ้งข่าวความคืบหน้าของคดี ตอนนี้คุณคิวเหมือนจะได้เบาะแสของตัวต้นเหตุแล้วนะ ตอนนี้กำลังรวบรวมหลักฐานอยู่คาดว่าไม่เกินวันพุธคงได้ตัวแล้วล่ะ...”
“เป็นใครหรือครับพี่...”
“ถ้าเป็นคนนี้จริงๆ น่ะนะ ก็เป็นอดีตนักข่าวสายบันเทิง ตอนนี้ไม่ได้เป็นนักข่าวแล้ว เพราะเธอเคยนั่งเทียนเขียนข่าวลูกสาวไฮโซคนใหญ่คนโตคนหนึ่งของประเทศว่ามั่วแล้วท้อง ตอนนั้นเป็นข่าวดังอยู่พักนึง สักสองปีที่แล้วเห็นจะได้ แล้วตระกูลนี้เขาอิทธิพลเยอะด้วย เขาไม่ยอม เลยฟ้องกลับสำนักพิมพ์ และนักข่าวคนนี้ก็โดนเด้งออกจากงาน... เห็นว่ากลับไปอยู่บ้านที่เชียงใหม่ ไปขายของแฮนด์เมดที่ถนนคนเดิน พี่ว่าเธอกะจะกุข่าวหาข่าวมาขายให้สำนักพิมพ์ต่างๆ เพื่อหาเงิน ประจวบเหมาะกับเราสองคนก็เพิ่งเป็นกระแสไปหมาดๆ แล้วยัยนักข่าวนี่ก็มีน้องชายเรียนอยู่มหาลัยเดียวกับเราสองคน พี่ว่าเธอใช้ให้น้องชายนี่แหละคอยสอดส่องหาข่าวจากพวกเธอ คิดว่าคงส่องอยู่นานแล้ว แล้วโชคดันเข้าข้าง วันนั้นมีตัวละครเด็ดเป็นบีมโผล่เข้ามา ก็เลยจับมั่วไปปลุกกระแสในอินเตอร์เนท กะว่าถ้ากระแสมันฮอตมาก เธอคงจะขายรูปที่เหลือให้สำนักพิมพ์ต่างๆ แน่ๆ”
“โอโห... นี่ขนาดเรื่องของพวกผมซาไปแล้วนะ ยังจะมาอะไรกันอีก แล้วถ้าวันนั้นไอ้บีมไม่มามันจะหาข่าวอะไรมาป้ายสีใส่พวกผมเนี่ย...”
“ก็คงมีนั่นแหละ... อย่าลืมสิ เรื่องบางเรื่องมันไม่เป็นเรื่อง แต่มันเกิดเรื่องขึ้นมาได้ก็เพราะนักข่าวน่ะมีถมเถไปนะ ถ้าวันนั้นไม่ใช่บีม มันก็ต้องหาประเด็นอื่นมาเล่นจนได้ อย่างที่พี่บอก เรื่องของริวกับพายมันยังเป็นเรื่องสดใหม่อยู่ ต่อให้ผ่านมาแล้ว เคลียร์ทุกอย่างจบไปแล้วก็เถอะ แต่ประเด็นแบบนี้สังคมยังให้ความสนใจไง... นั่นแหละ เอาเป็นว่าบอกพายด้วยนะว่าไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ถ้าเราคิดดีทำทีซะอย่างต่อให้เกิดอะไรขึ้น ความจริงก็จะช่วยเราเอง... ไปกินข้าวกันต่อเถอะ พี่ไม่กวนแล้ว”
“ขอบคุณครับพี่นุช สวัสดีครับ” เฮ้อ! ผ่านไปอีกหนึ่งเรื่อง ขอให้คนผิดได้รับโทษจริงๆ เถอะ ขนาดเคยทำผิดมาแล้ว โดนจับได้ ได้รับผลกรรมไปแล้วรอบหนึ่งก็ยังไม่วายที่จะทำผิดซ้ำๆ ในเรื่องเดิมๆ อีก ทำไมไม่กลับใจแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินแบบที่ไม่ต้องเดือดร้อนชาวบ้านเขานะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
นี่โชคดีของไอ้บีมนะครับ ที่มันยับยั้งชั่งใจทัน ไม่ลงไม้ลงมือทำอะไรน้องเค้กไปซะก่อน ไม่งั้นไอ้บีมได้มีบาปติดตัวไปชั่วชีวิตแน่ๆ เฮ้อ!
ผมเดินกลับมาที่ร้านอาหารญี่ปุ่น เดินเข้าไปในร้านก็เจอไอ้พายกับน้องเพลินนั่งคุยกันกระจุ๊งกระจิ๊ง ท่าทางจะสั่งอาหารเรียบร้อยแล้ว...
“สั่งอาหารแล้วเหรอ...” ผมเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามไอ้พาย
“สั่งแล้ว เราสั่งซาชิมิรวมพิเศษ เทมปุระพิเศษ เห็ดรวมกระทะร้อน ข้าวปั้นหน้าปลาไหล นิกิริเซ็ท หมูย่างเทริยากิ แคริฟอเนียมากิ ทงคัตซึ ปลาอาจิย่างเกลือ ปลาหมึกย่างงาดำ เต้าหู้เย็น สลัดมันฝรั่ง ซุปกา ไข่ตุ๋น... เอาอะไรเพิ่มอีกไหม” โอโห มีแต่ของโปรด เห็นเยอะขนาดนี้ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่หมดนะครับ ผมกับไอ้พายกินจุด้วยกันทั้งคู่ ตอนที่อยู่ด้วยกันแรกๆ ก็ไม่คิดนะว่าไอ้พายมันจะกินจุ เผลอคิดว่าตัวเล็กๆ อย่างมันจะกินอะไรนิดๆ หน่อยๆ แต่มันบอกว่า อย่าลืมสิ มันก็ผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกัน กินเยอะไม่แพ้ผู้ชายทั่วไปหรอก
“อือหือ ถ้าสั่งเพิ่มพนักงานคงคิดว่าเราคงตามเพื่อนมากินอีกสิบคนแน่ๆ แค่นี้ก็พอแล้วล่ะ... เอ่อ เมื่อกี้พี่นุชโทรมาเรื่องข่าว แล้วก็ความคืบหน้าของคดี...” ผมก็เล่าคร่าวๆ ให้ไอ้พายฟัง ไอ้พายมันก็พูดไม่ต่างจากผมเลยครับ โชคดีที่บีมมันยั้งคิด!
“ว้าว! ปลาหมึกตัวโตมาแล้วค่า...” เสียงดีใจจากยัยน้องเพลินทำให้พวกผมหยุดคุยเรื่องข่าวกัน แล้วหันมาสนใจอาหารตรงหน้าที่ทยอยมาเสิร์ฟ
“ปลาก็มาแล้วค่ะ น้องเพลินทานปลาย่างไหมเดี๋ยวพี่พายแกะก้างให้นะคะ แต่น้องเพลินต้องเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนนะ” ไอ้พายมันคอยแกะปลา หั่นปลาหมึก หั่นหมูให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนที่จะคีบให้ยัยน้องเพลินทาน หลายคนที่รู้จักมันอย่างผิวเผินอาจจะมองว่าไอ้พายเป็นคนหยิ่ง หน้าเหวี่ยง หรือดูไม่ค่อยสนใจโลก แต่จริงๆ แล้วไอ้พายเป็นคนที่แคร์และเอาใจใส่คนอื่นมากนะครับ ไม่เพียงแค่กับน้องเพลิน เพราะปกติแล้วกับผมเอง เวลาเรามากินข้าวกันข้างนอกหรืออยู่ที่ห้องกันสองคนก็ตาม ไอ้พายก็จะคอยตักนู่นตักนี่ให้ผมเสมอ มันรู้ว่าผมชอบทานอะไรหรือไม่ทานอะไร ถ้าในอาหารจานไหนมีส่วนผสมที่ผมไม่ชอบ ไอ้พายก็จะคอยนั่งเขี่ยออกให้... มันน่ารักแบบนี้นี่แหละ ถึงทำให้ผมไปไหนไม่รอด และคงไม่ไปไหนอีกแล้วล่ะครับ
พออิ่มหนำสำราญ พวกเราก็พากันรีบตรงดิ่งกลับคอนโดทันที เพราะยัยลูกหมูของผมรีบรบเร้าจะกลับไปทำคัพเค้ก... กลับถึงห้องไอ้พายกับผมก็ช่วยกันเก็บของเข้าที่ เสร็จแล้วไอ้พายก็พายัยน้องเพลินไปล้างมือ ก่อนจะลงมือทำคัพเค้กกัน ไอ้พายบอกว่าสูตรนี้มันลดน้ำตาลลงครึ่งนึงจะได้ไม่หวานมาก และดีต่อสุขภาพฟันของเด็ก
ไอ้พายทำช็อคโกแลตคัพเค้ก วานิลลาคัพเค้กให้น้องเพลิน และทำเรดเวลเว็ทที่ผมชอบมากให้ผม ผมจัดแจงหาเก้าอี้มาต่อขาให้ยัยน้องเพลินยืนจะได้สูงเท่าโต๊ะ ไอ้พายก็ให้น้องเพลินช่วยตอกไข่ เทส่วนผสม ช่วยคนนั่นนิดนี่หน่อย เลอะบ้างเละบ้างก็ไม่เป็นไร ถือว่ายิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์ หลานจะได้เรียนรู้ ผมเองก็เป็นลูกมือคอยช่วยหยิบจับบ้าง...
พอไอ้พายกับน้องเพลินช่วยกันหยอดตัวเค้กลงถ้วยเสร็จก็จัดการอบเค้กทั้งหมด 15 ถ้วย เก็บไว้กินพรุ่งนี้ได้อีก เห็นไอ้พายบอกว่าพรุ่งนี้ให้ชวนพวกเพื่อนๆ ในวงผมมากินข้าวเย็นด้วยกัน ส่วนมันจะชวนไอ้ฟี่มา เพราะนอกจากมีคัพเค้กแล้ว พรุ่งนี้ยังมีคุกกี้ด้วย เดี๋ยวไอ้พายจะทำกับข้าวมื้อใหญ่ไว้รอ
ช่วงเวลาที่สนุกที่สุดที่ยัยน้องเพลงรอคอยคือการแต่งหน้าคัพเค้กครับ... ไอ้พายผสมครีมแต่งหน้าเป็นสีสันต่างๆ เอาไว้หลายสี แถมมีเม็ดๆ น้ำตาล รูปต่างๆ และเม็ดช็อคโกแลตชิพเอาไว้แต่งด้วย เพลินยัยหนูเพลินเขาแหละครับ...
“โอ้โห ของพี่พายสวยจังเลยค่า... อันนี้น้องเพลินทำให้พี่พาย อันนี้ของอาริว ส่วนอันนี้ที่พี่พายทำสวยสุดเป็นของน้องเพลิน เย้!”
“สวยไม่แพ้ของพี่พายเลย... เดี๋ยวเราแช่เย็นไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวทานข้าวเย็นเสร็จแล้วเราค่อยมาทานขนมกัน โอเคไหม?”
“โอเคค่า!!”
กว่ามหกรรมทำขนมจะเสร็จสิ้นก็ปาเข้าไปบ่ายสาม ไอ้พายก็เลยให้ผมจัดการมาล้างมือให้น้องเพลิน แต่ดูแล้วท่าจะเลอะเทอะหนัก ผมเลยให้ยัยน้องเพลินไปอาบน้ำดีกว่า ส่วนไอ้พายเก็บอุปกรณ์ พอน้องเพลินเข้าไปอาบน้ำผมก็เข้ามาช่วยไอ้พายเก็บล้าง ไอ้พายตัดสินใจเตรียมวัตถุดิบสำหรับมื้อเย็นเอาไว้เลย พอสักห้าโมงค่อยมาจัดการปรุงจะได้ไม่ใช้เวลานาน
ล้างครัวเตรียมของเสร็จ ไอ้พายก็ชวนน้องเพลินไปปั่นดินน้ำมันเล่น อีกหนึ่งกิจกรรมที่ยัยหนูชอบมาก ไอ้พายบอกว่าน้องเพลินมีพรสวรรค์ด้านศิลปะ วาดรูปมีจินตนาการที่ดี การลงสีต่างๆ ก็ปราณีตสวยไม่เละเทะเลอะเทอะเหมือนเด็กทั่วไป...
ศิลปินน้อยกับศิลปินใหญ่ปั้นดินน้ำมันเล่นกันจนห้าโมงกว่า ผมหลับไปแล้วตื่นหนึ่ง ตื่นขึ้นมาสองคนพี่น้องยังคงสนุกกับงานปั้น... ไอ้พายเงยหน้าขึ้นมามองนาฬิกาแล้วก็จัดการให้ผมพาน้องเพลินไปล้างมือที่เปรอะดินน้ำมันอีกรอบ ส่วนตัวมันก็ไปจัดการกับมื้อเย็น...
มื้อนี้ก็ตามบัญชาครับ มีบรอคโคลี่ผัดกุ้งของน้องเพลิน ทะเลรวมมิตรผัดผงกะหรี่ของผม ไอ้พายทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง... ยัยน้องเพลินเอ็นจอยกับอาหารมากๆ เกือบจะเติมข้าวอีกชามแต่โดนไอ้พายเบรคเอาไว้ว่ายังมีคัพเค้กรออยู่ เด็กหญิงเพลินเลยต้องเก็บท้องไว้รอคัพเค้ก...
“อาริวขา... น้องเพลินมีเรื่องจะถามค่ะ” ระหว่างนั่งกินคัพเค้กกันอยู่ยัยลูกหมูก็ยกมือขึ้นเหมือนถามคุณครูในห้องเรียน
“ค่ะ มีเรื่องอะไรถามมาได้เลยอาริวรอฟังอยู่”
“คือ จุ๊บแจงน่ะค่ะ จุ๊บแจงเรียนห้องเดียวกับน้องเพลิน จุ๊บแจงมาถามน้องเพลินว่าอาริวของน้องเพลินเป็นแฟนกับพี่พายเหรอ... น้องเพลินก็ตอบว่าใช่แล้วพี่พายเป็นแฟนของอาริว แล้วจุ๊บแจงก็มาบอกว่ามันผิดนะ ผู้ชายกับผู้ชายเป็นแฟนกันไม่ได้ ต้องผู้ชายกับผู้หญิงสิ เหมือนพ่อกับแม่ ปู่กับย่า แต่อาริวกับพี่พายเป็นแฟนกันไม่ได้... ทำไมล่ะคะ สรุปว่าพี่พายกับอาริวเป็นแฟนกันรึเปล่า แล้วทำไมถึงเป็นแฟนกันไม่ได้ด้วย น้องเพลินงง” เอาแล้วไง... ผมเคยคิดว่าสักวันยัยน้องเพลินจะมีคำถามแบบนี้ขึ้นมารึเปล่า แต่ก็คิดว่าแม่ผมคงมีคำตอบที่ดีให้กับหลานเอง ไม่คิดว่าหลานเลือกจะมาถามเอากับตัวต้นเหตุอย่างผมแทนคุณย่าซะอย่างงั้น
น้องเพลินแกรู้นะครับว่าผมกับไอ้พายเป็นแฟนกัน ผมเคยบอกแกเอง ตอนนั้นแกไม่ได้ถามอะไร แถมยิ้มแป้นดีใจด้วยซ้ำที่พี่พายสุดที่รักเป็นแฟนผม...
“น้องเพลินคะ ที่จุ๊บแจงพูดมาก็ไม่ผิดค่ะผู้ชายก็ต้องคู่กับผู้หญิง แต่อาริวกับพี่พายรักกันค่ะ ความรักมีหลายรูปแบบนะคะน้องเพลิน ทั้งรักแบบครอบครัว รักแบบคนรัก พี่พายกับอาริวรักกันแบบคนรักค่ะ เราสองคนรักกันเป็นครอบครัวเดียวกัน ความรักไม่มีผิดไม่มีถูก เอาไว้โตขึ้นกว่านี้น้องเพลินจะเข้าใจนะคะ...”
“ค่ะอาริว... ตอนนี้น้องเพลินก็ยังไม่ค่อยเข้าใจที่อาริวพูดหรอกค่ะ แต่ถ้าอาริวบอกว่าโตขึ้นจะเข้าใจเอง น้องเพลินรอเข้าใจตอนโตก็ได้ค่ะ น้องเพลินรอได้”
“น้องเพลินรักพี่พายไหมคะ...” ไอ้พายยกมือขึ้นมาลูบหัวยัยน้องเพลินอย่างเอ็นดู
“รักค่ะ...” ยัยหนูตอบทั้งๆ ที่ช้อนยังคาปาก แต่ก็ยิ้มหวานตายิบหยีให้ไอ้พาย
“แล้วถ้าพี่พายเป็นแฟนอาริว เป็นคนรักของอาริวมันผิดตามอย่างที่จุ๊บแจงบอก น้องเพลินจะยังรักพี่พายกับอาริวน้อยลงไหมคะ” น้องเพลินกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะสั่นหน้าหวือแล้วตอบว่า...
“ไม่ค่ะ... น้องเพลินก็ยังรักพี่พายกับอาริวเหมือนเดิม น้องเพลินดีใจจะตายที่พี่พายมาเป็นแฟนอาริว”
“ถ้าอย่างนั้น... น้องเพลินก็เชื่อในความรักของตัวเองนะคะคนดี พี่พายกับอาริวก็รักน้องเพลินมากเหมือนกัน” ผมไม่รู้ว่าน้องเพลินจะเข้าใจที่ไอ้พายพูดมากน้อยแค่ไหน แต่ยัยหนูก็พยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้มกว้าง บางทีผ้าขาวเราก็ต้องค่อยๆ แต้มสีทีพอเหมาะไปเรื่อยๆ ระวังอย่าให้มากจนเกินไป จนกว่าผ้าผืนนี้จะเติบใหญ่อย่างสวยงาม...
หลังจากมื้อค่ำผ่านไป เราสามคนก็พากันมาดูการ์ตูนจบไปหนึ่งเรื่อง จนสองทุ่มไอ้พายก็ให้ยัยน้องเพลินไปอาบน้ำ ส่วนมันก็มาอุ่นนมไว้รอ... พอน้องเพลินอาบน้ำเสร็จออกมาดื่มนมแล้ว ไอ้พายก็พายัยน้องเพลินไปแปรงฟันแล้วออกมานอน ส่วนไอ้พายก็เข้าไปอาบน้ำ แล้วผมก็อาบต่อ... ออกมาจากห้องน้ำก็เห็นยัยน้องเพลินนอนหลับปุ๋ยไปแล้วบนเตียง สงสัยจะเหนื่อยมาทั้งวันสิ้นฤทธิ์ซะแล้วหลานผม
“วันนี้มึงนอนข้างเตียงแล้วกันนะ กูกับน้องเพลินจะเสียสละนอนบนเตียงเอง กูปูฟูกเอาไว้ให้แล้ว” ห่า!! เสียสละมากเลยนะมึง
“อะไรว้า... คืนนี้ไม่ได้นอนกอดกันมึงจะนอนหลับเหรอ”
“หลับ!!! เพราะกูมีน้องเพลินให้กอด ฮ่าๆ ทำไมนอนไม่หลับเหรอจ๊ะถ้าไม่ได้กอดกู”
“เออดิ...” ยอมรับแบบตรงๆ ว่าติดเมียอะ ใครจะทำไมวะ
“นอนไปเลยปะ เสียงดังเดียวหลานตื่น...”
“ใจร้าย... เออ ก็ได้วะ” ผมจะทำอะไรได้ ก็ได้แต่เดินไปปิดไฟ แล้วกลับมาล้มตัวลงนอนบนฟูกข้างเตียง
ในห้องนอนเงียบกริบ ได้ยินแค่เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของยัยลูกหมูเบาๆ ส่วนไอ้พายก็เงียบไป สงสัยมันจะเหนื่อยหลับไปแล้ว เชอะหลับไม่สนใจกูเลย กูนอนไม่หลับโว้ย!!! …ผ่านไปเกือบยี่สิบนาที ขณะที่ผมกำลังเคลิ้มๆ ก็มีวัตถุทรง (เกือบ) กลมลงมาทับบนตัว... ไอ้พายครับ
“เห็นคนแถวนี้นอนพลิกไปพลิกมาไม่หลับสักทีเลยต้องลงมากล่อม...” แหม! ปากดีจริงๆ ไหนขอชิมปากคนเก่งหน่อยซิ๊
“อืม!” ผมรั้งท้ายทอยไอ้พายลงมาจูบ
“นอนไม่หลับเหมือนกันล่ะสิ เลยต้องลงมาให้กูกอด...” ผมกับมันนอนกอดกันท่ามกลางความมืด เราต่างกระซิบชิดริมฝีปากกันเบาๆ เพราะกลัวเด็กน้อยบนเตียงจะตื่น
“ก็เออน่ะสิ... แล้วจะให้นอนด้วยไหมล่ะ” ไอ้พายถามก่อนจะก้มลงมาจูบผม แล้วมันก็พลิกตัวเองลงมานอนข้างๆ ก่อนจะซุกตัวกอดผมไว้เหมือนเคย
“ลงมาซะขนาดนี้ใครจะใจร้ายกับเมียรักได้ว้า... หลับซะวันนี้เหนื่อยมามากแล้ว ขอบใจนะมึงที่ดูแลหลานกูอย่างดี” ผมก้มไปหอมหัวไอ้พาย แอบสวีทกันหลังหลานหลับก็ตื่นเต้นดีแหะ
“กูบอกแล้วว่าหลานมึงก็เหมือนหลานกู กูรักไม่แพ้มึงเหมือนกัน... อีกหน่อยถ้าน้องเพลินโตขึ้น ให้แกมาเรียนในกรุงเทพฯ แล้วมาอยู่กับพวกเราสิ”
“อืม... เอาไว้เดี๋ยวกูบอกพ่อกับแม่เอง กูก็เคยคิดๆ ไว้เหมือนกัน...”
“ถ้าน้องเพลินอยากเรียนด้านศิลปะ กูจะติวให้ติดมหาลัยเดียวกับพวกเราเลย” ได้ฟิลเหมือนพ่อแม่กำลังวางอนาคตให้ลูกเลยเว้ย
“กูเชื่อว่ามึงทำได้... กูรักมึงนะพาย”
“รักมึงเหมือนกัน... ฝันดีนะ” ไอ้พายเงยหน้าขึ้นมาจูบผมอีกครั้ง ก่อนจะกลับไปซุกตัวที่เดิม แล้วคืนนี้เราก็หลับไปในอ้อมกอดของกันและกันเหมือนทุกวันที่ผ่านมา และผมสัญญาว่า มันจะเป็นแบบนี้อีกตลอดไป!
++++++++++++++++++++++
+ สวัสดีค่ะ... ตอนนี้ก็กลับเข้าสู่ตอนปกติกันแล้วนะคะ ใครที่คิดถึงอีคู่นี้ก็เอามาหาให้หายคิดถึงแล้วเนอะ... แต่ตอนนี้จะเรื่อยๆ เฉื่อยๆ เป็นเรื่องทั่วๆ ไปนะคะ
+ ใครที่เป็นเฟรนด์ในเฟสคงรู้ว่าเมอร์ซี่บอกแล้วว่า เค้กบีม ไม่คู่กันนะคะ เป็นอันว่าจบรีเควสคู่นี้นะตัวเอง...
+ มีข่าวมาแจ้งค่า ประมาณสิ้นเดือนนี้เมอร์ซี่จะเปิดจอง Valentine Love เมื่อไหร่จะรักผมสักที แบบรูปเล่มแล้วนะคะ รายละเอียดต่างๆ หากใครสนใจนะคะเมอร์ซี่รบกวนเข้าไปไลค์ในเพจ https://www.facebook.com/mercynovelbook นี้นะคะ เพจนี้เมอร์ซี่ทำมาเพื่อจอง สอบถาม และเปิดขายนิยายที่รวมเล่มของเมอร์ซี่ค่ะ ส่วนเรื่องทั่วๆ ไปนั่นนี่นู่น เมอร์ซี่ก็ยังอัพในเฟสเมอร์ซี่เป็นหลักค่ะ แต่เฉพาะนิยายรวมเล่มจะมาแยกในนี้เพื่อจะได้ไม่รวมกันสับสนค่ะ...ขออภัยที่ช้ามากเลยค่ะ ด้วยปัญหาหลายๆ อย่าง
+ ขอบคุณทุกคนที่ยังคงตามอ่านกันอยู่นะคะ เมอร์ซี่คิดว่าอีกไม่กี่ตอนเรื่องนี้คงจะจบลงแล้วค่ะ มันคงจะถึงจุดอิ่มตัวสักทีเนอะ แต่ตอนสั้นๆ ยังคงตามอ่านได้ในเฟสเมอร์ซี่ค่ะ เมอร์ซี่ก็ลงไว้บ่อยๆ ส่วนเรื่องนี้ถ้าจบก็คงจะรวมเล่มต่อจากน้องเลิฟนะคะ ตอนนี้เมอร์ซี่ยังมีแรง อยากทำอะไรต้องรีบทำค่ะ... ถ้ากลับไปป่วยอีกกลัวว่าจะไม่มีแรงและเวลามาทำ
+ ปล. คำผิดเดี๋ยวกลับมาแก้นะคะ กอดทุกคนค่า