เพราะเมื่อเช้าที่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่มีอะไรทานเลยต้องมาเดินซื้ออาหารไปตุนไว้ จะให้อาศัยโทรสั่งบ่อยๆ ก็ไม่ไหว อีกอย่างก็เพราะอาหารหลักของเนมนั่นล่ะ มีแต่อาหารสำเร็จรูปกับขนม ไม่แปลกใจที่ตัวเตี้ยแบบนี้ ผมซื้อของเสร็จก็ตรงกลับห้อง
“ว่าไงนิค”ผมค่อนข้างแปลกใจที่นิคโทรมาหา เพราะหลังจากที่มันรู้เรื่องระหว่างน้องมันกับผม เราทะเลาะกัน แต่นิคมันค่อนข้างเป็นคนมีเหตุผล เราเลยไม่ถึงขั้นชกต่อยกัน แค่ไม่คุยกันเลยตั้งแต่นั้น และเริ่มกลับมาคุยกันไม่นานนี้เอง
“ไอ้เนมมันป่วย ที่ห้องมึงมียามั้ย”
“มี มันอยู่ห้องเหรอ”
“เออ เพิ่งคุยกันเสร็จเมื่อกี้ กูเพิ่งไล่ให้มันไปนอน ยาอยู่ตรงไหนล่ะ เดี๋ยวกูจะได้โทรบอกมัน”
“แล้วทำไมน้องมึงไม่โทรมาเอง”
“มึงก็น่าจะรู้ จะถามทำไมวะ”
“เออ เดี๋ยวกูหายาให้เองก็ได้ กูเดินจะถึงห้องแล้วเนี่ย”
“ฝากดูมันด้วยล่ะ มันชอบไม่กินยา ถ้าไม่หายก็พาไปหาหมอให้ด้วย หรือถ้ามันไม่ยอมก็โทรตามเพื่อนมันที่ชื่อคีย์ก็ได้ เดี๋ยวมันหาวิธีบังคับกันได้เองล่ะ”
“เออๆ”
“แล้วมีพวกยาแก้ไอมั้ย ถ้ามันป่วยแล้วมันชอบไอหนักๆ”
“มีอยู่”
“บอกให้มันนอนเยอะๆ อย่าฟุ้งซ่านด้วย”
“เออ แค่นี้แหละ”นิคมันเป็นพวกรักน้องหวงน้องมาแต่ไหนแต่ไร ถ้าผมไม่ตัดบทพูดมีหวังมันสั่งนั่นสั่งนี่อีกเรื่อยๆ แน่ เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง หันมาอีกทีคนป่วยที่น่าจะนอนอยู่ก็ยืนมองผมตาแป๋ว แต่คิ้วขมวดจนหน้ายุ่ง ผมไล่ให้มันกลับไปนอน ส่วนผมก็อาบน้ำแล้วออกมาทำอาหารสำหรับมื้อเย็น ของสดที่ซื้อมาทำอาหารได้ไม่กี่อย่าง หลังจากทำเสร็จก็ไปเรียกเนมออกมาทาน ผมนั่งทานไปมองโทรทัศน์ไป มีตัวอย่างหนังที่ผมอยากดูอยู่พอดี ผมเห็นเนมนั่งทานเงียบๆ คงจะเบลอไข้ ความจริงตอนเนมยังเด็กมันค่อนข้างงอแงนะเวลาไม่สบายน่ะ แต่นี่โตแล้วคงไม่เป็นแล้วล่ะมั้ง
“อิ่มแล้วเหรอ”ผมถามเพราะเห็นเนมหยุดทาน
“อืม”
“กินยาแล้วไปนอนไป ถ้าไม่ดีขึ้นเดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปหาหมอ”ผมพูดจบเนมก็วางช้อน ยกแก้วน้ำขึ้นจิบ แต่ยังไม่ลุกไปไหน แถมยังมองหน้าผมนิ่ง
“............”
“เป็นอะไร”
“เนมไม่ชอบผัดผักกับยำไข่ดาว”เนมพูดแล้วลุกหยิบชามของตัวเองไปล้างก่อนจะเดินเข้าห้องเงียบๆ ผมวางช้อนลงเพราะเริ่มอิ่ม ยกจานชามไปเก็บล้างจนเรียบร้อย แกงจืดเต้าหู้เป็นอาหารอย่างเดียวที่หมด...ก็มันชอบเต้าหู้นี่นะ
เนมเหมือนเด็ก ยังเป็นเด็ก และเด็กมากสำหรับผม ไม่ว่าตอนนี้หรือเมื่อก่อนก็ยังคงเหมือนเดิม...อ่านง่าย ไม่ว่าจะพูดจาว่าร้ายผมยังไง ต่อว่าแรงแค่ไหน หันหลังให้ เดินหนี พูดจาไม่มีสัมมาคาราวะ พูดเรื่องแย่ๆ ให้คนนอกรับรู้เพื่อหักหน้าผม แต่สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนคือแววตา และเพราะอย่างนั้น....ถึงไม่อยากยุ่งด้วย
ช่วงนี้ถือเป็นช่วงพักร้อนสำหรับผม เพราะคอร์สที่ต้องสอนวันเสาร์-อาทิตย์ที่สาขาใหญ่ปิดแล้ว ช่วงนี้ไม่ได้รับจ็อบเสริม ไม่มีงานอบรม เพราะงั้นเลยค่อนข้างว่างมากๆ เพราะปกติแล้วผมทำงาน 7 วัน แล้วไม่รู้เพราะอะไรข่าวเรื่องวันหยุดของผมถึงรับรู้กันได้ในวงกว้างของคนรู้จัก อย่างเช่นรายนี้ที่กำลังคิดโปรแกรมเพื่อชวนผมไปเที่ยวด้วยกัน
“เสาร์นี้ไปดูหนังด้วยกันนะครับ”
“ผมไม่ค่อยชอบดูหนังโรง”
“งั้น...ไปดูที่ห้องตองมั้ย”
“อย่าเลย ผมว่าจะจัดห้องสักหน่อย ไม่ได้ว่างนานแล้ว จะได้ทำความสะอาดครั้งใหญ่เสียที”
“ตองไปช่วยนะ”
“ไม่ต้องหรอก ผมทำคนเดียวได้”
“ทำไมโก้ชอบปฏิเสธตองจัง หรือว่าซุกใครไว้ที่ห้อง”คำพูดของตองทำให้ผมนึกถึงคนที่อยู่ร่วมห้อง...แต่ไม่ได้ซุก เพราะไม่ได้แอบ
“ก็ไม่เกี่ยวกับตองนี่”ผมไม่รู้ว่าตองมีสายสืบจากไหนถึงได้รู้วันหยุดของผม รวมทั้งรู้ถึงวันที่ผมจะมาฟิตเนสด้วย แต่ผมเดาว่าเรื่องมาฟิตเนสเนี่ย ตองอาจจะมาดักรอแทบทุกวันก็ได้
“ตองขอโทษ ตองก็แค่อยากสนิทกับโก้มากกว่านี้ โก้ก็รู้นี่ว่าตองชอบโก้ ทำไมไม่เปิดโอกาสให้ตองบ้างล่ะ”
“งั้น...ศุกร์นี้ไปเที่ยวกันมั้ย”
“.......จริงเหรอ”
“ครับ”
“ไปสิ ห้ามเบี้ยวนะ”ตองฉีกยิ้มกว้างแล้วรีบถามรายละเอียดถึงร้านที่ผมจะไป ซึ่งไม่ใช่ร้านพี่ปั้น ตอนแรกตองอยากให้ผมไปรับ แต่ผมปฏิเสธ ตองเลยบอกจะมารับผมแทน ผมก็ปฏิเสธอีก ต่างคนต่างไปเจอกันที่ร้าน แล้วต่างคนต่างกลับจะสะดวกกว่า ต้องยอมรับว่าตองก็หน้าตาดี และลีลาดีด้วย แต่แค่ครั้งเดียวมันก็พอแล้ว
ผมกลับถึงห้องก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนชุด เดินออกมาหยิบเบียร์หนึ่งกระป๋องนั่งดื่มหน้าโทรทัศน์ หลังจากที่มันบ่นเรื่องอาหารตัวเองคืนนั้นเราก็ไม่ได้คุยกันอีก เพราะรุ่งขึ้นผมไปทำงาน กลับมาตอนค่ำก็พบโน้ตแปะหน้าประตูห้องนอนว่าจะไปค้างหอเพื่อน และต้องไปรับน้องที่ต่างจังหวัดตั้งแต่คืนวันศุกร์ นี่ก็ไปค้างห้องเพื่อนสามวันแล้ว ป่านนี้น่าจะหายป่วยแล้วมั้ง เพราะถ้าป่วยอยู่มันคงไปรับน้องวันศุกร์ไม่ไหว กว่ามันจะกลับมาที่นี่ก็คงสัปดาห์หน้า รู้สึกเหมือนถูกประกาศสงครามเย็นนิดๆ
“วันศุกร์ไปเที่ยวกันมั้ย”ผมโทรหาเจมส์เพื่อชวนมันไปด้วย
“ก็ได้ มีใครไปบ้าง”
“มึง กู แล้วก็ตอง”
“โอ้วว น้องตองคนนั้นน่ะเหรอ ยังไม่เลิกตามมึงอีกเหรอวะ”ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมไอ้เจมส์ถึงรู้จัก เพราะความจริงแล้วมันก็มีส่วนในเรื่องนี้ ถ้าวันนั้นผมไม่ไปเที่ยวกับมันแล้วแข่งกันดื่มจนเมาทั้งคู่ล่ะก็ ผมคงไม่ไปต่อกับตองง่ายๆ หรอก แต่จะโทษเหล้าอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะผมไม่ได้เมาถึงขนาดขาดสติ ต้องยอมรับล่ะว่าพลาดเอง ไม่คิดว่าจะบังเอิญได้รู้จักกันนี่นา
“เออสิ ขนาดกูไม่ได้เล่นฟิตเนสวันเดิมยังเจอเลย สงสัยมีสาย”
“ที่คอนโดฯ มึงก็มีเสือกไม่เล่นเอง”
“อุปกรณ์มันน้อยเว้ย แต่ต่อไปคงต้องเล่นแล้วล่ะ ตามมากๆ กูก็รำคาญแล้วเหมือนกัน”
“สงสัยติดใจ หรือมึงเล่นของใส่วะ ความจริงน้องตองก็น่ารักดีนะเว้ย ไม่คบๆ ไปล่ะ”
“มึงสนก็เอาไปดิ”
“ไม่รู้ ลองดูก่อน ถ้าเล่นด้วยกูก็เอา”
“เอาไปเลย แล้ววันศุกร์มารับกูที่ห้องด้วยล่ะ กูไม่เอารถไป”
“แล้วขากลับล่ะ”
“มึงก็มาส่งสิ”
“เกิดกูจะหิ้วเด็กไปต่อล่ะ ขัดลาภกูนะนี่”
“งั้นกูกลับแท็กซี่เองก็ได้”
“ไม่เป็นไรๆ กูเปลี่ยนใจแล้ว กูไปส่งแล้วค้างห้องมึงดีกว่า คิดถึงน้องเนมมมม”
“จะหลอกเด็กเหรอมึง”ผมไม่บอกมันว่าเนมไม่อยู่ เพราะผมขี้เกียจนั่งแท็กซี่กลับห้อง บางทีเมาๆ แล้วขึ้นรถคนเดียวก็ไม่ค่อยปลอดภัย ผมเคยเมามากๆ แล้วนั่งแท็กซี่กลับ ตอนลงรถดันหยิบแบงค์ห้าร้อยกับแบงค์ร้อยเพราะมองผิดว่าเป็นแบงค์ร้อยสองใบ พอบอกว่าไม่ต้องทอนคนขับก็ขับไปเลย ผมรู้ตัวอีกทีก็ตอนเช้านั่นล่ะว่าเงินในกระเป๋ามันหายไป
“ทำไม มึงหลอกได้คนเดียวรึไง”
“เรื่องของกู”
“เชี่ยนี่ ตกลงมึงกับน้องเนมกูเคยคบกันเหรอวะ”
“เปล่า”
“งั้นมึงกะน้องแค่อ่ะจึ๊ยๆ กันเหรอ”ไอ้เวรนี่เสือกใช้คำซะน่ารักเลย สงสัยติดมาจากเด็กมันแน่ๆ
“เปล่า”
“อ้าว มึงทำให้กูงงนะนี่”
“ดึกแล้วเบลอนะมึง แค่นี้ล่ะ วันศุกร์สักสองทุ่มมารับกูด้วย”ผมตัดสายทั้งๆ ที่ได้ยินเสียงมันลอดออกมา คาดว่าคงตะโกนด่าอะไรผมสักอย่าง หลังจากชวนไอ้เจมส์ก็โทรไปชวนพี่ฟ้าพี่ปั้นอีก แต่สองคนนั้นขอตามมาดึกๆ หน่อย เพราะวันศุกร์ลูกค้าเยอะ บางทีพี่ฟ้าอาจฉายเดี่ยว นอกจากพวกนี้ก็ต้องชวนไอ้นิ้งด้วย ซึ่งมันคงไม่ยอมพลาดแน่ๆ
วันนี้สอนเสร็จผมก็ตรงกลับห้อง นิ้งบอกว่าต้องรีบกลับไปเสริมสวยไว้แข่งกับตอง ส่วนตองเองก็โทรมาย้ำเรื่องนัดตั้งแต่เช้า กลับถึงห้องอาบน้ำเสร็จก็นอนดูหนังรอเวลาให้ไอ้เจมส์มารับ เสียงประตูห้องถูกไขก่อนจะเปิดเข้ามา ผมลุกขึ้นนั่งมองเนมและไอ้เจมส์ที่เดินเข้ามาพร้อมกัน
“ไงมึง แต่งตัวเสร็จยัง”
“ยัง”ผมยังใส่เสื้อยืดกับขาสั้นอยู่เลย เพราะไม่จำเป็นต้องรีบถึงขนาดแต่งตัวรอ แต่ไอ้คนมาเร็วเดินยิ้มมานั่งโซฟาตัวเล็กใกล้ๆ ส่วนเนมเดินเข้าห้องตัวเองไปแล้ว
“มึงไม่ถามหน่อยเหรอว่าทำไมมาด้วยกัน”
“เจอกันข้างล่างก่อนขึ้นมา”ผมพูดคำตอบที่คิดว่าใช่ ซึ่งดูจากหน้าตามันที่ดูหงุดหงิดเล็กๆ แสดงว่าผมพูดถูก
“แฟนน้องเนมมาส่งเว้ย จอดมอเตอร์ไซต์รออยู่ข้างล่างด้วย น้องเนมลืมของเลยกลับมาเอา”
“แล้วไง ถูกใจแฟนมันอีกล่ะสิ”ผมแกล้งพูด แต่ก็ไม่แน่นะ ไอ้นี่มันรสนิยมแปลกๆ อยู่
“ไม่ว่ะ”
“พี่โก้ขอตังค์ไปรับน้องหน่อย”เนมเดินมาหยุดหลังเจมส์พอดี ผมแอบเห็นมันสะดุ้งด้วย
“รอเดี๋ยวนะ”ผมเดินเข้าห้องไปหยิบกระเป๋าสตางค์ แล้วก็เปลี่ยนชุดใหม่ออกมา ปิดโทรทัศน์ปิดไฟ เดินนำสองคนที่มองผมงงๆ ออกจากห้องก่อนจะล็อค เดินเข้าลิฟต์ลงมาชั้นล่าง เห็นรถมอเตอร์ไซต์จนอยู่ใกล้ทางเข้าออก เจ้าของรถนั่งแบบหมิ่นเหม่ พอเห็นเนมเดินมาก็ลุกขึ้นยืน แสดงว่าคนนี้ล่ะที่เจมส์มันพูดถึง ผมหยุดเมื่อเดินเข้าไปใกล้จนเกือบถึงตัว สองคนที่เดินตามมาเลยหยุดด้วย
“เอาไปพันเดียวพอนะ เพราะตอนรับน้องรุ่นพี่เค้ายึดกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์อยู่แล้ว เอาติดตัวไว้ซื้อของฝากขากลับก็พอ”
“พันห้า จะซื้อของฝากส่งให้แม่ด้วย”
“ซื้อเผื่อพี่ด้วย ไข้หายแล้วใช่มั้ย”ผมยื่นเงินให้สามพัน พอเนมรับไปผมก็เลื่อนมือที่เพิ่งว่างแตะหน้าผากเบาๆ เนมรีบเงยหน้าขึ้นมองเหมือนตกใจ
“หายแล้วนี่ พี่ไปล่ะ ถ้าวันกลับจะให้ไปรับก็โทรมา ไปกันเหอะ”ผมหันไปพูดกับไอ้เจมส์ให้มันเดินนำไปที่รถ มันก็เดินนำไปอย่างว่าง่ายผิดปกติ แต่พอเข้าไปนั่งในรถมันเท่านั้นล่ะ ไอ้บ้านี่หัวเราะเสียลั่น สงสัยอาการกำเริบ
“เป็นไรมึง ลืมแดกยาเหรอ”
“ฮ่าๆๆ เลวนะมึง ห่า ข่มได้กระทั่งเด็ก”
“....ฮึ”ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะถึงพูดไปมันก็ไม่ฟังหรอก เล่นหัวเราะเสียลั่นรถขนาดนั้น
ระหว่างทางตองโทรมาถึงสองรอบ รอบแรกบอกว่ากำลังจะถึงร้าน ผมเลยบอกว่าให้เข้าไปหาโต๊ะนั่งก่อน พอหาโต๊ะได้ก็โทรมาบอกอีกรอบ สักพักนิ้งก็โทรมาว่าถึงแล้ว และเห็นเป้าหมายแล้ว ผมโทรหาพี่ฟ้า สองคนนั้นบอกว่าจะตามมาดึกหน่อย
เดินเข้ามาในร้าน มองหาโต๊ะที่นิ้งกับตองนั่งอยู่ ซึ่งหาไม่ยากเลยเพราะตองลุกเดินมาหาเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้ๆ นิ้งเองก็ตะโกนเรียกเสียดัง ผมเหล่มองเจมส์ก็เห็นว่ามันจ้องตองอยู่เหมือนกัน คงกำลังตัดสินใจว่าจะสนใจดีหรือเปล่าล่ะมั้ง
“โก้กินอะไรรองท้องมายัง สั่งอาหารมาหน่อยมั้ย”ตองนั่งข้างผม นิ้งก็ขยับเข้ามานั่งใกล้ผม เจมส์มันมองแล้วก็หัวเราะ ผมว่ามันจะอารมณ์ดีมากไปแล้ว
“ไม่ล่ะ นิ้งกินไรมายัง”
“กินแล้ว”นิ้งหันไปทักทายไอ้เจมส์ สองคนนี้เคยเจอกันมาก่อนแล้วผมเลยไม่ต้องแนะนำ ผมแนะนำเจมส์กับตองให้รู้จักกันอีกครั้ง เพราะเหมือนตองจะจำไอ้เจมส์ไม่ได้ ผมสังเกตุว่ามันไม่ค่อยสนใจตอง ไม่มีการส่งสายตาหรือชวนคุย ซึ่งค่อนข้างน่าแปลกใจ แต่ผมไม่มีโอกาสได้ถามสักที เพราะตองที่นั่งประกบข้างผมพยายามยึดการสนทนาจากผมไปหมด เจมส์กับนิ้งเลยนั่งคุยกันสองคน ผมดื่มไปเรื่อยๆ แล้วก็คุยไปเรื่อย ความจริงตองเป็นคนคุยสนุก หาเรื่องมาพูดได้ตลอดเวลา คุยเก่งแต่ไม่น่าเบื่อ ไอ้เจมส์น่าจะชอบ แต่ทำไมมันไม่เห็นสนใจเลย
พวกเรานั่งดื่มกันสักพักพี่ฟ้าก็มาถึงร้าน ส่วนพี่ปั้นจะตามมาเก็บพี่ฟ้าก่อนกลับ วันนี้ร้านพี่ปั้นคนเยอะมากเลยไม่อยากทิ้งมา แต่อนุญาติให้พี่ฟ้าเมาได้เต็มที่ พอพี่ฟ้ามานิ้งเลยได้โอกาสเลื่อนมานั่งชิดผม ชิดแบบแนบสนิทชนิดกอดแขนซบไหล่ ทำให้ตองมองแบบไม่พอใจ แต่ไม่กล้าพูดออกมา จากนั้นก็พยายามชวนคุยในเรื่องที่ตองไม่รู้จนตองคงรู้สึกเป็นส่วนเกิน เห็นแล้วก็น่าเห็นใจเหมือนกัน แต่ถ้าอยากเข้าหาผม อยากสนิทด้วย ก็ต้องทนแบบนี้ล่ะ แต่ถ้าแค่อยากมีอะไรกันเป็นครั้งคราวก็อีกเรื่องนึง แต่สำหรับตองคงไม่มีทางแล้วล่ะ เพราะท่าทางจะอยากมีสัมพันธ์ระยะยาวกันมากว่า
สุดท้ายพี่ปั้นตามมาถึงร้านแล้วตรงเข้ามากอดคอผมจากด้านหลัง ผมน่ะรู้ว่าตั้งใจแหย่ให้พี่ฟ้าหึง แต่ตองคงไม่รู้ แล้วเหมือนจะแพ้ทางพี่ปั้นล่ะมั้งเลยรีบขอตัวกลับก่อน พี่ปั้นก็มองตามแบบงงๆ เพราะไม่เคยเจอตองมาก่อน
“คนนั้นเด็กโก้เหรอ”พี่ปั้นย้ายมานั่งข้างแฟนตัวเอง ผมเข้าใจนะว่าทำไมตองรีบกลับ คงเพราะเตรียมตัวมาไม่พร้อมแข่งประชันล่ะมั้ง กับนิ้งน่ะตองพอสูสี นิ้งสวย หุ่นดี แต่เป็นรูปลักษณ์ของผู้หญิง ตองเลยไม่รู้สึกว่าตัวเองแพ้หรือชนะ แต่กับพี่ปั้น....พี่ฟ้าปล่อยให้พี่ปั้นใส่เสื้อเชิ๊ตแขนกุดแหวกอกลึกขนาดนี้ได้ไงวะ
“เอาเสื้อที่ไหนมาเปลี่ยนวะ ตอนอยู่ร้านไม่ใช่ตัวนี้นี่”พี่ฟ้าทักเมื่อมองพี่ปั้นชัดๆ นึกแล้วว่าพี่ฟ้าไม่น่าปล่อยให้ใส่
“เอามาจากในรถไงที่รัก ซี๊ดป่ะ”พี่ปั้นก้มมองคอเสื้อตัวเองที่รูดซิปลงเสียลึก
“ใส่มาอ่อยใคร”
“อย่าทำหน้าดุสิครับ อ่อยตัวเองคนเดียวแหละ”พี่ปั้นรีบยกแก้วเหล้าป้อนพี่ฟ้าถึงปาก แถมเอนหัวซบไหล่ถูๆ แบบเอาใจ ทำให้พวกผมหลุดหัวเราะกับมารยาของแก
“เมื่อกี้เด็กที่โก้ซุกไว้ที่ห้องเหรอ”พอเอาใจแฟนตัวเองเสร็จก็เริ่มหันมาคุยกับผม แต่...เด็กที่ซุกไว้เหรอ
“เด็กไหน”
“อ้าว ก็ไหนไอ้เจมส์บอกมึงซุกเด็กไว้ที่ห้อง กูนึกว่ามึงจะพามาโชว์ตัววันนี้ซะอีก”นึกแล้วเชียวว่าไอ้เวรเจมส์ต้องปากโป้ง แต่ไม่นึกว่าข่าวจะไปเร็วขนาดนี้ นี่ทั้งพี่ฟ้าพี่ปั้นรู้หมด และตอนนี้นิ้งก็คงรู้แล้วเหมือนกัน
“ไปเชื่ออะไรไอ้เจมส์”
“กูไม่ได้โกหก ไม่ได้ใส่ไข่อะไรเลย กูพูดทุกประโยคตามที่น้องเนมพูดเลย เด๊ะๆ เลยด้วย”ไอ้เด๊ะๆ ของมันนี่ล่ะที่น่าโมโห เพราะถ้าเดาไม่ผิด ต้องเป็นประโยคเด็ดเช้าวันที่ไปส่งเนมที่หอเพื่อนแน่ๆ
“เด็กเก่ามึงเหรอ น้องเจรู้มั้ยเนี่ยว่ามึงหลอกเด็กมาไว้ที่ห้องน่ะ”
“อย่าบอกนะว่าพี่บอกพี่เอ็กซ์กับเจน่ะ”ปากไอ้เจมส์ก็ว่าน่ากลัวก็พอแล้ว แต่ปากพี่ฟ้าก็ไว้ใจไม่ได้เหมือนกัน
“ยังว่ะ กูยุ่งๆ เลยไม่ได้คุยกับเอ็กซ์มันพักใหญ่แล้ว”
“แต่กูเล่าให้กฤษมันฟังแล้วว่ะ”
“เชี่ยเจมส์ ปากมึงนี่เนอะ วอนตีนกูตลอด”
“กลัวห่าไร มันไม่เล่าให้น้องตี๋ฟังหรอกน่ะ หรือถ้าเล่าก็น่าจะดีกว่า มันจะได้เข้าใจว่ามึงมี...”
“อย่าเสือก!!”ผมด่ามันก่อนที่มันจะพูดจบ เรื่องระหว่างผมกับตี๋ก็มีไอ้เจมส์นี่ล่ะที่รู้ลึกกว่าคนอื่น รู้มากพอๆ กับเจหรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ
“แล้วตกลงมึงมีเด็กอยู่ที่ห้องมึงจริงเปล่า”พี่ฟ้ายังคะยั้นคะยอเอาคำตอบอยู่
“ลูกเพื่อนแม่ น้องเพื่อนตอนเด็ก”
“เมียเก่ามัน”ไอ้เชี่ยเจมส์ก็ยังปากหมาไม่หยุด
“สัตว์นี่”
“ก็น้องเนมพูดเองนี่หว่า หรือมึงจะบอกว่าไม่จริง กูก็ไม่เห็นว่ามึงจะปฏิเสธ แถมก่อนออกมามึงยังข่มแฟนใหม่เด็กเก่ามึงเลย”มาเป็นชุดเลยไอ้เวร ปะติดปะต่อเรื่องเองเฉย ผมไม่ได้ข่มสักหน่อย แค่อยากเห็นหน้าเท่านั้นเอง
“หุบปากไปเลยมึง”
“เจมส์มานั่งตรงนี้มา รู้อะไรเล่ามาให้หมด”พี่ปั้นกวักมือเรียกให้เจมส์ไปนั่งข้างๆ ไอ้นิ้งก็ทำท่าจะขยับไปฟังด้วย
“โหยพี่ปั้น ไม่ต้องสนใจหรอก มันเดามั่วไปงั้นแหละ”
“เออน่าไม่เป็นไร พี่ชอบฟังเรื่องคนอื่น เพลินหูดี โดยเฉพาะเรื่องโก้นี่ยิ่งน่าฟังอ่ะ นานๆ จะได้รู้ความลับโก้สักที”พี่ปั้น พี่ฟ้า ไอ้นิ้ง ไอ้เจมส์ย้ายไปนั่งสุมหัวกันโดยมีผมนั่งกอดอกมองอยู่เงียบๆ และคิดในใจว่าไม่น่าจะชวนพวกนี้มารวมกันเลย โดยเฉพาะไอ้เวรเจมส์
+++++++++++++++++++++++++++
อัพช้าหน่อยนะ มีปัญหาักับสายเอ็กเทอร์นอลฮาร์ดดิส ไฟติดแต่ไม่อ่าน นั่งเสียบค้างไว้ทั้งวันเพิ่งติดเมื่อกี้ อยากซื้อสายใหม่ก็ไม่มีขาย เซ็งงงงงง