+ G A M E R L O V E R +
แฟนผมเป็นโอตาคุเกมครับ!
8
บ้านหลังเดิม..เงียบเชียบเหมือนเดิม ..แต่เด็กหนุ่มก็วิ่งเข้าบ้านอย่างตื่นตระหนกทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีใครอยู่
“บ้าชิบ อยู่ไหนกันนะ" กล่องแล้วกล่องเล่าที่เปิดออก ลิ้นชักแต่ละลิ้นชักที่ถูกรื้อค้น กอล์ฟพึมพำออกมาแผ่วเบา..สะกดให้เสียงที่เปล่งออกไปไม่ได้มีความกระวนกระวายอย่างลำบาก แถมยังนึกเกลียดตัวเองที่ขี้หลงขี้ลืมอะไรได้ขนาดนี้
“...จำได้ว่าครั้งสุดท้าย....” ดวงเนตรคู่คมเบือนจากโต๊ะเขียนหนังสือลงไปที่ปลั๊กไฟ แล้วจึงได้แจ้งแถลงไขเมื่ออุปกรณ์ชาร์จไฟทรงเหลี่ยมมนสีขาวล้วนคาอยู่ที่เดิม ที่ๆเขาเสียบเอาไว้เมื่อคืนก่อนที่จะเดินทางไกล
ร่างสูงถอนหายใจรอบสุดท้ายด้วยรอยยิ้มอ่อน แล้วสะบัดศีรษะเล็กน้อยขณะเดินไปยังที่หมาย
..ลืมเอาที่ชาร์จมือถือไป..
….แทบจะกลายเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต.. จริงๆแล้วเขาไม่ได้กังวลมากมายเท่าไหร่ เพราะพี่เก็ตและทางบ้านเองก็รู้เบอร์ไอ้ดอย...มีเรื่องอะไรก็ติดต่อกันผ่านทางนั้นได้ แต่ความกังวลมันอยู่ที่ว่าเขายังไม่ทันได้รายงานเรื่องที่จะไปหัวหินกับคุณOTTOที่เคารพรัก สิ่งแรกที่เขาจะทำหลังจากสามารถเปิดมือถือได้นั้นคือการเปิดเบอร์ของอีกฝ่าย และใช้สมองดีๆของตัวเองจดจำตัวเลขทั้ง10หลักนั้นให้ขึ้นใจ ส่วนสิ่งที่สองคงไม่ใช่อะไร...นอกจากกิจกรรมที่เริ่มติดทำเป็นประจำ...คือการเช็คไลน์
..จะโทษที่โทรศัพท์ราคาแพงบ้าอะไร แบตหมดเร็วชิบหาย.....ก็ดูจะไม่ใช่เรื่อง..
..มันเป็นปัญหาที่ความสะเพร่านี่ต่างหาก.. 2days agoOTTO : (กระต่ายไฟลุกพรึ่บ)
OTTO : โทษที
OTTO : งานหนักมาก
OTTO : อยากไปตีกลองแล้วว่ะ รอแปป
OTTO : กำลังเคลียร์งาน
OTTO : เบื่อโคตรพ่อโคตรแม่ yesterdayOTTO : เฮ้ย ทำไร
OTTO : ว่างแล้ว ไปกัน
OTTO : เฮ่ย
OTTO : 'ไมไม่ตอบวะ สาดด
OTTO : …..
OTTO : เหี้ย ไปไหนเนี่ย
OTTO : โทรไปทำไมปิดเครื่องวะ
OTTO : (กระต่ายโกรธ)
OTTO : ไอ้กอล์ฟ
OTTO : ไอ้กอล์ฟ..
OTTO : (กระต่ายโกรธมาก)
OTTO : จะตอบไม่ตอบวะ สาดดดด
OTTO : (กระต่ายต่อยหมีกระเด็น)
OTTO : (กระต่ายกระโดดถีบหมี)
OTTO : (กระต่ายฆ่าหมี)
OTTO : เออออ!!
OTTO : ….เล่นคนเดียวก็ได้ว้อย!! todayOTTO : มารึยัง
OTTO : โทรไปเป็นล้านรอบแล้วนะ
OTTO : หายหัวไปไหนไม่บอกกันบ้างวะ
OTTO : ไปเล่นกันเหอะ
OTTO : อยากตีกลอง
OTTO : (กระต่ายร้องไห้งอแง)
OTTO : ไปไหน กลับมาก่อนนนนนน
OTTO : ได้
OTTO : ไม่คุยแล้วใช่มั้ย ได้
OTTO : กูจะตามจองล้างจองผลาญมึงไปตลอดชีวิต!! 1hour agoOTTO : …...อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก
OTTO : สามวันแล้วนะว้อยยยยย 30minutes agoOTTO : ไปไหนวะ
OTTO : ตายไปแล้วรึไง?
OTTO : (กระต่ายโกรธ) หลังจากนั่งไล่อ่านเป็นวรรคเป็นเวร กอล์ฟก็ทั้งขำทั้งระอาตัวเองไปในขณะเดียวกัน...เขาเลื่อนกลับไปจ้องสติ๊กเกอร์ต่างๆที่อีกฝ่ายส่งกลับมารอบแล้วรอบเล่า...ใบหน้าของคนส่งในท่าทีนั้นๆก็ฉายขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ช่างเหมือนกันอย่างกับอะไรดี..
เขาคิดว่าควรจะตอบอะไรกลับไป เลยเลื่อนไล่มาเรื่อยๆจนถึงประโยคสุดท้าย
10minutes agoOTTO : ไม่ได้อ้อนนะ
OTTO : พี่ไม่ได้อ้อนนะ อย่าเข้าใจผิด ..มีบางอย่างผิดปกติในประโยคนั้น.. และมันทำให้เรียวคิ้วคมเลิกขึ้นด้วยความฉงน เมื่อนึกถึงคำว่า
'อ้อน' ที่ติดจะหน่อมแหน้มไปหน่อยสำหรับคู่สนทนา...แต่รวมๆแล้วข้อความดังกล่าวก็ทำให้เขายิ้มออกมาอีกจนได้..ก่อนจะกดพิมพ์ส่งตอบกลับไป
GOLF : กลับมาแล้วครับ
GOLF : ไปหัวหินมา3วันครับ ลืมเอาที่ชาร์จไป ประโยคต่อไปกำลังจะพิมพ์คำว่า 'ขอโทษครับ' ตามประสา แต่ยังไม่ทันจะกดส่ง อีกฝ่ายก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับมาอย่างรวดเร็วเป็นรูปกระต่ายสวมนวมต่อยรัว ชนิดที่ว่าถ้าเป็นคนจริงๆเขาคงน่วมไปอย่างหมดท่า..แต่ก็นั่นแหละ มันทำให้คนมองถึงกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขณะที่ตัวนั่งข้างปลั๊กไฟ
OTTO : ไม่บอกชาติหน้าไปเลยล่ะฟะ
OTTO : ไม่ได้รอหรอกนะ แค่เบื่อๆ
OTTO : อย่าเข้าใจผิดล่ะ ...พิมพ์เร็วขึ้นจมเลยแหะ... กอล์ฟคิดแบบนั้น และเริ่มพบว่าตัวเองด้อยพัฒนาการมากเมื่อเทียบกับอีกฝ่าย...ทั้งที่เคยคิดว่าประสาทสัมผัสของตัวเองเร็วมากแล้วแท้ๆ แต่อย่างว่า...ถ้าไม่เรียนรู้ไวก็คงเล่นเกมที่ต้องใช้ทักษะพวกนั้นเก่งไม่ได้ ต้องขอยอมรับว่าข้าวโอ้ตเก่งจริงๆ
แต่ความจริงที่ว่า...เขาคงยอมไม่ได้ถ้าหากว่าตัวเองต้อง 'พ่ายแพ้' น่ะ...มันไม่เลือนหายไปหรอกนะ...
เด็กหนุ่มคิดว่าเขาควรจะ 'เลิก' ทำความรู้จักกับคนๆนี้ผ่านทางแอพพลิเคชั่นแชทไร้สาระแบบนี้สักที ถึงสติ๊กเกอร์อีโมติค่อนพวกนั้นน่ารักดีเวลาที่อีกฝ่ายส่งมาก็เถอะ...
GOLF : อาบน้ำแปปนะครับ
GOLF : เดี๋ยวโทรไป+ G A M E R L O V E R +
ครืดดดด ครืดดดดดดดดด...
ปิ๊บ “...เอะอะก็โทรมาๆ...พ่อเป็นเจ้าของเสาสัญญาณมือถือต้นไหนวะ" การทักทายแบบนั้นติดจะหยาบคายเกินไปหน่อยก็จริง แต่ปลายสายก็ชินแล้ว
((โทรฟรีหลังห้าทุ่มน่ะครับ พี่โอ้ตสมัครโปรโทรฟรีตอนกลางวันรึยัง?))
“........ยัง.....” ((เอ๊ะ? ทำไมล่ะ?))
คนถูกถามกรอกตา ไม่อยากประจานความล่าสมัยของตัวเองเท่าไหร่นัก..
“.....ทำ...ไม่เป็น" ((ฮะๆ โอเค...งั้นเดี๋ยวเจอกันครั้งหน้าผมสมัครให้นะ))
“ไม่ต้อง! สอนมาเดี๋ยวนี้แหละทำเองได้..! แค่ไม่เคยทำเท่านั้นเฟ้ย!!...คนมันโลว์เทคนิดๆหน่อยๆจะเป็นอะไรตาย”
((คร้าบ คร้าบ...ก่อนอื่นก็กดดอกจันทร์......))
“แปป หากระดาษก่อน....”
..ตั้งใจเกินไปรึเปล่านะ?.. ชายหนุ่มจดขั้นตอนที่อีกฝ่ายกำลังพล่ามบอกมาให้ แล้วอ่านทวนอีกรอบจนได้ดั่งใจ..ทั้งๆที่รู้ว่าการผลัดกันโทรแบบนี้มันทะแม่งๆ...แถมพฤติกรรมดังกล่าวไม่ค่อยชอบมาพากลสักเท่าไหร่..แต่ก็ยัง 'ตั้งใจ' ทำ
พวกเขาคุยไลน์กันน้อยลง..และน่าประหลาดตรงที่อีกฝ่ายจะโทรมาทุกเวลาห้าทุ่มตรง..เป็นอย่างนี้มาอาทิตย์กว่าแล้ว..โดยที่ไอ้เด็กเมื่อวานซืนนั่นอ้างแค่เพียงว่าขี้เกียจพิมพ์ เพราะพิมพ์เร็วสู้เขาไม่ได้ โอเค..นั่นถือเป็นคำชมก็แล้วกัน แต่ทุกวันนี้เขาเองก็ไม่เคยเข้าใจว่าทั้งๆที่รำคาญเสียเต็มประดาแต่ก็ยังรับสายอยู่ได้
เพื่อไม่ให้เป็นการกลืนน้ำลายตัวเองที่เคยว่าเด็กวัยรุ่น(ที่ชอบเหน็บมือถือติดไว้กับหู) ข้าวโอ้ตเลยไปคุ้ยหาสมอลทอล์คจากกองอะไรสักอย่างออกมา อย่างน้อยมันก็ดูน่าเกลียดน้อยกว่าก็แล้วกัน...
((ทำงานอยู่รึเปล่าครับ?)) อีกฝ่ายถามขึ้นในที่สุด ร่างผอมบางขมวดคิ้วตอกกลับไปอย่างฉุนเฉียว
“ก็ทำอยู่สิวะ"
((อยู่ที่ออฟฟิศ?))
“อือ ใช่...ไอ้พวกบ้านั่นกลับไปหมดแล้วด้วย เซงชิบ"
((แล้วพี่โอ้ตไม่กลับบ้างเหรอครับ?))
“ไม่ล่ะ กลับทำไม...พรุ่งนี้ก็ต้องมาอีก"
((ตรรกะนั่นพิกลอยู่นะ....))
“เอาเหอะน่า อยู่อย่างนี้ก็สบายดีออก...ค่าน้ำค่าไฟไม่ต้องจ่าย เดี๋ยวพอมึงทำงานก็จะรู้!"
ถึงแม้จะไม่เห็นหน้า แต่ก็สัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายคงตีหน้าหล่อๆ..ระบายยิ้มหวานๆอยู่เป็นแน่ ((แล้ว...งานหนักมั้ยครับ?))
“ไม่เท่าไหร่หรอก" คนพูดฉวยช่วงเวลานั้นหันกลับไปที่ตารางงานใบโตตรงผนังห้อง "ไม่งั้นไอ้พวกนั้นคงกลับบ้านไปนอนไม่ได้....เออ แล้วแกไม่หลับไม่นอนบ้างรึไงวะ?"
((ไม่ล่ะครับ รอพี่โอ้ตนอนก่อน))
“....ตรรกะนั่นพิกลอยู่นะ"
((เอาน่า ถือว่าผมอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าพี่โอ้ตจะทำงานเสร็จก็แล้วกันครับ))
..แล้วที่คุยโทรศัพท์อยู่เนี่ย..มีสมาธิทำงานตายห่าแหละ.. เรื่องที่น่าประหลาดใจมากกว่านั้น คือข้าวโอ้ตพูดไม่ออกสักครั้งว่าให้อีกฝ่ายวางสายไปซะ
ถึงแม้จะทำงานเพลินๆจนลืมคุย รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงลมหายใจดังเป็นจังหวะจากอีกฝ่าย...ถึงได้รู้ว่าเจ้าเด็กบ้านั่นหลับไปแล้วก็จะกดวางสาย...แล้วจึงคิดได้ว่าควรจะนอนตามไปบ้าง..ก็จะย้ายร่างจากโต๊ะทำงานไปสิงที่โซฟา
...เป็นแบบนี้...มาสักพักแล้ว... พอเริ่มโปรเจคงานใหม่ การออกภาคสนามก็ถี่ขึ้นกว่างานเดิม...จนเขาไม่มีเวลาแวะไปเล่นเกมมาร่วมอาทิตย์ แต่เหมือนความเครียดจะผ่อนลงไปบ้างเมื่อพบคนที่คุยถูกคอ เพียงแค่บอกเล่าประสบการณ์การเล่นเกมที่สั่งสมมาชั่วอายุคนสลับกันก็รู้สึกเหมือนได้เล่นไปด้วย ดังนั้นไม่มีเหตุผลที่เขาจะวางสายด้วยเหตุผลโง่ๆเพียงแค่ว่า 'เปลืองตังค์' หรืออะไรเทือกนั้น..
ได้คุยเรื่องที่คุยกับคนอื่นไม่ได้ พอตะคอกใส่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะโกรธหรือตัวหดไปเหลือสองนิ้วแบบที่คนอื่นเป็น..จะเรียกว่าความอดทนสูงหรือไม่รู้สึกรู้สาอะไรก็ไม่รู้ล่ะ แต่ด้านๆอยู่ทนแบบนี้ก็ไม่เลวนัก...
นาฬิกาบอกเวลาสองนาฬิกาตรง
ข้าวโอ้ตได้ยินเสียงหายใจเป็นจังหวะจากปลายสายในช่วงเวลานั้น จึงได้รู้ตัวว่าตนลืมคุยอีกแล้ว..
“...หลับแล้วเหรอ?”
อีกฝ่ายไม่ได้ตอบ แต่คู่สนทนาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรนัก
….เด็ก...ก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยันค่ำ... และเพราะอะไรบางอย่าง..บางทีอาจจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าอุปทานหมู่ พอเห็นหรือได้รับรู้ว่าคนใกล้ตัวทำอะไรก็จะอยากทำไปเสียทุกเรื่อง...ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือความง่วงที่เข้าครอบงำอย่างเฉียบพลันในขณะนี้
เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่เขาพร้อมจะตัดจบงาน ร่างผอมบางลุกขึ้นจากโต๊ะเพื่อบิดขี้เกียจซ้ายทีขวาที..แล้วเปิดโปรแกรมเรนเดอร์คาไว้ตั้งใจว่าจะมาเก็บตอนเช้า ส่วนตอนนี้...เป็นช่วงเวลาที่แรงดึงดูดของโลกทำงานอย่างขมีขมัน ด้วยการดูดเขาลงบนโซฟาหนังเก่าๆเหมือนเช่นทุกคืนปกติ..
เพียงแต่คืนนี้ไม่ปกติ..ตรงที่ว่าเขาหยิบมือถือมาวางข้างๆพร้อมเสียบสมอลทอล์คคาไว้พร้อมสรรพ..
...มันบอกเองว่าโทรฟรีหลังห้าทุ่ม...
…ไม่มีเหตุผลที่จะวางก่อน... ชายหนุ่มทอดกายหลับตา ขยับยิ้มเจ้าเล่ห์ราวกับว่าจะฝันให้ดี
...ถ้าหมดโปรโมชั่นจะดูดเงินให้หมดตัวเลย...คอยดู!...
+ G A M E R L O V E R +
ร่างสูงสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนตีสาม..
...แก้มที่แนบกับแขนในสภาพไม่สบายตัวนักแดงเป็นรอยปื้นใหญ่ แถมยังมีอาการปวดคออย่างแสนสาหัส...ที่สาเหตุไม่ใช่อะไรนอกจากการทิ้งศีรษะลงผิดท่าแบบนี้...
“อา...เผลอหลับไปอีกแล้วเหรอเนี่ย...”
เขาบ่นกับตัวเองขณะกวาดสายตาไปรอบห้องที่ยังไม่ได้ปิดไฟ ขณะกำลังจะลุกจากเก้าอี้จึงได้พบว่าบลูธูธตัวเดิมยังเสียบคาไว้ที่หู และสิ่งที่สัมผัสได้ต่อมาคือเสียงจากปลายสาย...ที่ไม่ได้วางลงไป..
..เสียงลมหายใจ..ดังเป็นจังหวะ..
..หนักหน่วงมั่นคง..ตามสไตล์ของคนที่มั่นใจในตัวเอง.. กอล์ฟนิ่งกับเสียงที่ได้ยินนั้น นานพอที่จะขยับยิ้มบาง..แล้วก้มมองมือถือที่วางอยู่ไม่ไกล อีกฝ่ายยังไม่ได้วางสาย นั่นดูราวกับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ทำให้ในอกพองโตอย่างน่าประหลาด
“พี่โอ้ตครับ?”
เมื่อลองส่งเสียงเรียก ก็ไม่มีอะไรตอบกลับมานอกจากเสียงเสื้อผ้าเสียดสียามพลิกตัว
“หลับแล้วเหรอครับ?”
..ไม่เห็นต้องถามเลยแหะ..โง่จริง.. มันเป็นเรื่องน่าแปลก...ปกติแล้วข้าวโอ้ตมักจะเป็นฝ่ายวางสายไปก่อนทันทีที่รู้ว่าตนเผลอหลับ แต่ครั้งนี้กลับหลับไปด้วยกันทั้งๆที่ยังอยู่ในสาย ความรู้สึกประหลาดก่อขึ้นในอกชั่วครั้งหนึ่ง..และกอล์ฟเองก็รู้ว่าความรู้สึกนี้ไม่สู้ดีนัก นั่นทำให้เขาถึงกับยืนค้างไปชั่วขณะ
นี่เป็นครั้งที่สอง..ที่เขารับรู้ว่าอีกฝ่ายนอนอยู่..
..เป็นครั้งที่สองที่สัมผัสได้ถึงเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย.. นั่นทำให้เขานึกถึง 'ครั้งแรก' ที่มีเจ้าของร่างผอมบางนั่นอยู่บนหลัง มันเป็นความบังเอิญที่เขาไม่ทันพิจารณาถึงสถานการณ์นั้นนัก..และนึกเสียดายที่ทำไมตัวเองถึงไม่ทันได้เก็บเกี่ยวมันเอาไว้
..เขาควรจะบอกราตรีสวัสดิ์...เหมือนเช่นที่เคยบอกไปในครั้งแรก.. แต่สิ่งที่เขาทำคือการปิดไฟ แล้วเอนหลังทอดยาวลงบนเตียง ห่มผ้าห่มอยู่ในท่านอนเรียบร้อย...ในความมืดมิด..ด้วยความเงียบสงัด เสียงหัวใจที่เต้นระรัวแบบนี้ทำให้เขารู้ตัวว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะนอน...ตราบเท่าที่เสียงลมหายใจจากปลายสายยังคงดังอยู่แบบนี้เขาก็คงยังไม่พร้อมที่จะนอน...
พรุ่งนี้...
ใช่...พรุ่งนี้... กอล์ฟคิด ไม่เชิงวิตก..เขากลับยิ้มออกมาทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเท่าไหร่นัก..
..จากพรุ่งนี้เป็นต้นไป...
….ต้องเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างกับ 'ความรู้สึกแบบนี้' ซะแล้ว...TBC====================
ตอนหน้าข้าวโอ้ตตายแน่!! 555555