แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]  (อ่าน 367094 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
«ตอบ #30 เมื่อ13-11-2010 11:27:36 »

กรี๊ดด
จิ้มก่อนอ่าน นิยายคุณบอย
จะดราม่าบีบหัวใจอีกรึเปล่าเนี่ย
เดี๋ยวไปตามอ่านก่อนนะคะ อิอิ

---------------------------------------
คุณบอยมาต่อด่วนนนเลยค่ะ
อิอิ ชักอยากจะให้เจอกันแล้วสิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2010 11:46:57 โดย Rafael »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
«ตอบ #31 เมื่อ13-11-2010 17:22:39 »

แหะๆ แค่หมั่นไส้ไม่ได้เกลียดกัน อย่างนี้น่าจะมีลุ้นเนอะ :z1:
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปเน้อ :impress2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
«ตอบ #32 เมื่อ13-11-2010 18:04:54 »

พระเอกอาทิตย์แหงเลย  นายเอกก็ต้องอิทธิสิ  รึเปล่า

Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
เช้าตรู่แสงแดดเพิ่งโผล่พ้นริมขอบฟ้า อาทีเดินเข้าไปในเขตเรือนในตอนสถานที่ยังเงียบอยู่ เช้าๆ แบบนี้ยังไม่มีใครมาพลุกพล่านนัก แม่ของตนก็คงจะยังไม่ออกมาจากห้องนอนหรอก เด็กหนุ่มก้าวขาขึ้นบันไดเรือนเพียงแค่ขั้นแรกก็ต้องสะดุ้งกับเสียงเรียกที่ดังแผดกล้ามาให้ได้ยิน
“กลับมาแล้วเหรอไอ้ตัวดี!”
“แม่!” อาทีเอ่ยเรียกเจ้าของเสียง ตกใจหน่อยๆ ที่เห็นเจ้าตัวยืนมองตนด้วยสายตาดุๆ
“ใช่ฉันเอง นึกไม่ถึงล่ะสิว่าแอบกลับเรือนตอนเช้าตรู่แบบนี้แล้วจะเจอฉัน เมื่อคืนแกไปค้างที่ไหนมา” จิตราเดินลงบันใดมายืนจังก้าหน้าลูกชาย
“เรือนไอ้อิท” อาทีตอบตามตรงเพราะไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเสียหายอะไร เด็กหนุ่มหน้าหงายจนตกบันใดขั้นแรกตามแรงนิ้วมือของผู้เป็นแม่ที่จิ้มลงหน้าผากแล้วออกแรงผลักสุดกำลัง
“ฉันสั่งอะไรแกไม่เคยฟังเลยใช่มั้ย บอกกี่ครั้งว่าอย่าไปเข้าใกล้กับไอ้เด็กเวรนั่นทำไมแกไม่ฟังฉัน เรือนหลังนี้มันเล็กนักหรือไร แกถึงต้องดั้นด้นไปค้างอ้างแรมที่เรือนคนงาน แกเป็นถึงหลานเจ้าของไร่ จะทำอะไรทำไมไม่คิดถึงฐานะตนบ้าง” จิตราเปิดปากสั่งสอนลูกชายทันทีที่ได้รับคำตอบ อันที่จริงหล่อนรู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วจากปากจันทร์จวง คิดจะออกไปอาละวาดซะตั้งแต่ตอนนั้นแต่ติดที่พี่สาวรั้งไว้เลยได้แต่ทนรอให้ฟ้าสาง
“เอะอะก็ยกเรื่องฐานะมาพูด ทำไมล่ะแม่ ทำไมแม่ไม่มองคนเราทุกคนให้มีค่าเท่ากัน ทำไมแม่จะต้องนึกเหยียดคนที่ต่ำกว่า โดยเฉพาะไอ้อิทกับแม่นาง สองคนนั้นเขาทำอะไรให้แม่เจ็บช้ำน้ำใจอะไร ทำไมแม่ถึงจะต้องกีดกันผมไม่ให้เข้าใกล้พวกเขาด้วย” อาทีเอ่ยระบาย น้ำตาคลอกับการการกระทำของแม่แต่ไม่ยอมให้มันไหลด้วยการข่มใจเอาไว้จนกายสั่นสะท้าน
“แกไม่ต้องมาเถียงฉัน ฉันเป็นแม่แกฉันสั่งอะไรแกก็ต้องทำ เอาอย่างพี่ชายแกหน่อยสิ เขาไม่เคยขัดใจอะไรฉันแล้วผลที่เขาได้รับมันเป็นยังไง ตอนนี้กำลังจะได้ดิบได้ดี เรียนจบชั้นสูงเหมาะที่จะเป็นเจ้าคนนายคน ซึ่งต่างกับแกนัก ตะลอนๆ ใช้ชีวิตอยู่กับอีพวกเด็กไร้อนาคตให้มันได้อะไร” จิตราว่าอีก ไม่สนใจแววตาที่ลูกชายมองมาอย่างคนน้อยใจ หนำซ้ำยังถลึงตาเข้าใส่หวังข่มให้เจ้าตัวเกรงกลัว
เมื่อรู้สึกน้ำในตาจะไหลออกมาเพราะเก็บกลั้นความน้อยใจไม่ได้อาทีจึงตัดสินใจวิ่งผ่านร่างแม่ของตนขึ้นไปบนเรือน พอเข้าห้องได้จึงค่อยปล่อยให้น้ำตาไหลอาบสองแก้มนั่งขุดคู้พิงประตู นึกเคืองไปถึงพี่ชายตนเองที่เป็นตัวเปรียบเทียบให้แม่ไม่ชอบนิสัยตน
ด้านจิตราจัดการลูกชายเสร็จก็ไม่คิดจะให้เรื่องจบแค่ตรงนี้ ยังมีอีกที่หนึ่งที่หล่อนต้องตามไปกำราบให้สำนึกว่าเป็นแค่ลูกคนงานอย่าสะเออะมาตีตนเสมอนาย
“พิศ พิศ! มานี่ซิ!” หล่อนเอ่ยเรียกสาวใช้คนสนิทเพื่อนำทางไปยังเรือนแม่นาง
“ขาคุณนายจิตร” เพลินพิศส่งเสียงมาก่อนตัว สักครู่จึงพาร่างท้วมอย่างหญิงอายุสามสิบปลายๆ นั่งคุกเข่าแทบเท้าเจ้านาย
“ไปกับฉันหน่อย” จิตราบอกเสียงนิ่ง เชิดหน้าเพียงนิด เมื่อนึกถึงสถานที่ที่ตนจะไป เช้าๆ แบบนี้คนงานคงยังไม่ตื่นกันมากนัก เพราะไร่นี้มีเวลาทำงานในตอนสายๆ ตามที่จันทร์จวงเจ้าของไร่ที่ใจดีที่สุดในสามโลกเป็นคนร่างกฎไว้
การที่คนงานบางตา หล่อนจะจับไอ้เด็กเวรนั่นฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ ยังไงก็คงจะสะดวกอยู่หรอก เรือนของมันแยกตัวอยู่ไกลเรือนคนงานอื่นๆ ซะด้วย สมใจยิ่งนักจิตราเอ้ย
“ไปไหนหรือคะ” เพลินพิศเอ่ยถาม
“เรือนยัยแม่นาง” เจ้านายบอก สาวใช้เกิดอาการเนื้อเต้นทันที รู้ว่าต้องมีเรื่องให้เลือดสูบฉีดอีกเป็นแน่ ได้ออกกำลังกายแต่เช้าตรู่อีกแล้ววุ้ยอีพิศ

******************************************************************

“อิทเอ้ย เสร็จหรือยังลูก เดี๋ยวไปโรงเรียนสายเอานะ” แม่นางร้องถามลูกชายขณะมือง่วนกับการจัดสำรับเช้าให้เจ้าตัว กิจวัตรของนางเป็นมาแบบนี้ตั้งแต่อิทธิโตจนเข้าโรงเรียน
“เสร็จแล้วแม่ ไม่สายหรอกวันนี้จะเช้ากว่าทุกวันล่ะไม่ว่า” อิทธิส่งเสียงบอกในตอนที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ซึ่งวันนี้เร็วกว่าทุกวัน เพราะตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อปั่นจักรยานไปส่งอาทีที่เรือน
“เสร็จก็ดีแล้ว มากินข้าวมา แม่จะได้เตรียมตัวไปไร่” แม่นางบอกอีก พลางยกสำรับออกไปวางที่ชานเรือน ซึ่งยกสูงจากพื้นระดับเพียงอก เสียงฝีเท้าของลูกชายเดินออกมาจากในเรือนทำให้นางหันไปมองจนไม่ทันได้เห็นว่ามีร่างสองร่างกำลังเดินลิ่วๆ มาหยุดอยู่หน้าสำรับกับข้าว
“กับข้าวมันน่ากินนะคะ จะเอาจริงเหรอ” เพลินพิศกระซิบใส่ใบหูเจ้านายตอนมองเห็นสำรับกับข้าวสองสามอย่างที่ล้วนแต่เป็นแกงป่า ซึ่งตนจะต้องยกทิ้งตามแผนที่เจ้านายสั่งตั้งแต่มองเห็นว่ายัยแม่นางกำลังนั่งจัดสำรับอยู่
“ฉันสั่งแกก็ต้องทำ” จิตราบอกเสียงดุ เสียงนั่นดังพอให้เจ้าของเรือนได้ยินจนหันมามอง
“คุณจิตร” แม่นางเอ่ยเรียกแขกผู้มาเยือน ใจหายหน่อยๆ ที่เห็นรอยยิ้มเหยียดเป็นการทักทาย จังหวะนั้นอิทธิเดินมาเห็นเข้าพอดี เด็กหนุ่มชะงักมองน้องสาวเจ้าของไร่
“นังพิศ! จัดการ” จิตราเหลือบตามองสาวใช้เอ่ยออกคำสั่ง
“ได้ค่ะ” เพลินพิศรับคำยิ้มร้ายใส่สำรับกับข้าว พุ่งร่างคว้าหยิบ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรแม่นางก็โดดปัดป้องไว้ จึงเกิดการยื้อแย่งสำรับกับข้าวกัน
“หล่อนจะทำอะไรเพลินพิศ” แม่นางเอ่ยถามสาวใช้เจ้านายที่อายุน้อยกว่าตน
“กับข้าวป่าๆ แบบนี้หล่อนกับลูกอย่ากินมันเลย” เพลินพิศตอบกลับอย่างไม่คำนึงถึงเรื่องวัย ถลึงตาเข้าใส่ศัตรูเจ้านายออกแรงแย่งมากขึ้นจนน้ำแกงในถ้วยเริ่มกระฉอก
“ปล่อยสำรับเดี๋ยวนี้นะน้าพิศ” อิทธิส่งเสียงสั่งคนที่ยื้อยุดสำรับอยู่กับแม่ของตน เด็กหนุ่มสนใจสถานการณ์ตรงหน้ามากกว่าที่จะมองเห็นการยืนมองเหตุการณ์อย่างแสยะยิ้มของจิตรา หนุ่มน้อยรีบวิ่งเข้ามาช่วยผู้ให้กำเนิด จิตราที่ยืนมองดูอยู่จึงรีบฉวยหยิบแกงถ้วยหนึ่งยกสาดใส่ร่างนั้นทันที
“โอ้ย!” อิทธิร้องออกมาด้วยความแสบร้อนเมื่อน้ำแกงอุ่นๆ สาดเข้าเต็มร่างมีบางส่วนที่กระเด็นเข้าใบหน้าเลยไปถึงดวงตาจนต้องลุกวิ่งไปที่ตุ่มน้ำจัดการล้างหน้าล้างตาทันที
“อิทธิเป็นไรมั้ยลูก” แม่นางร้องถามลูกชายอย่างตกใจ น้ำตาแทบไหลเมื่อเห็นลูกชายกำลังตักน้ำในตุ่มล้างหน้าล้างตาอย่างร้อนรน นาทีนั้นเรี่ยวแรงที่ยื้อแย่งสำรับจากมือเพลินพิศจึงถดถอย เป็นเหตุให้สาวใช้แย่งถาดสำรับมาได้สำเร็จ
เพลินพิศจัดการเหวี่ยงสำรับกับข้าวทิ้งทันทีที่แย่งมาได้สำเร็จ หล่อนฉลาดพอที่จะเหวี่ยงไปให้พ้นการกระเด็นมาโดนตัวเจ้านาย  ด้านแม่นางพอได้ยินเสียงถ้วยชามพร้อมสำรับกับข้าวตกกระทบพื้นจึงหันมาสนใจเหตุการณ์
“เพี๊ยะ!” เสียงฝ่ามือหนักๆ ตบสวนเข้าที่ใบหน้าจนหันสะบัดตอนหันมา แม่นางร้องโอ้ย ร่างล้มแนบไปกับชานเรือน อิทธิได้ยินเสียงหันมามอง เห็นวงแขนจิตรายังไม่วางลงจึงแน่ใจว่าเจ้าตัวทำร้ายแม่ตน เด็กหนุ่มจัดการตักน้ำขันใหญ่สาดไปที่ร่างนั้นทันที
“ว้าย!” สองเสียงร้องประสานกันระหว่างเจ้านายกับสาวใช้ พลางถอยร่นร่างกายออกไปหน่อยๆ ให้พ้นการซ่านกระเซ็นของน้ำ
“ไปให้พ้นเลยนะก่อนที่ผมจะหมดความอดทน” เมื่อความแสบร้อนที่ร่างกายและดวงตาทุเลาลง อิทธิจึงรีบวิ่งมาพยุงแม่ลุกนั่ง สายตาจ้องมองสองคนที่มาหาเรื่องอย่างโกรธแค้น
“ฉันไปแน่ ฉันไม่อยู่ให้คราบไคลคนงานอย่างแกและก็แม่ของแกไหลมาติดตัวฉันหรอกไอ้เด็กขี้ครอก” จิตราเอ่ยขึ้น มองสองแม่ลูกที่นั่งเกาะร่างกันบนชานเรือนแล้วนึกสะใจปนสมเพช ก็ดูสิ อีนังคนเป็นแม่ก็ใบหน้าแดงไปแถบหนึ่ง น้ำหูน้ำตาไหลพรากตัวสั่นงันงก ส่วนไอ้ลูกชายตัวดีสภาพก็ดูไม่ได้ เสื้อนักเรียนขาวๆ บัดนี้กลายเป็นรอยคราบจากน้ำแกง ผมเผ้าที่ดูเป็นระเบียบแต่ต้นตอนนี้ก็ชุ่มไปด้วยน้ำที่เจ้าตัวตักวิดใส่เอง ไหนจะใบหน้าที่แดงรื้นจางๆ จากการโดนไอร้อนจากแกงถ้วยนั้นอีก สะใจกูจริ๊งๆ อีพวกชั้นไพร่ นี่ยังไงล่ะโทษฐานที่พวกแกไม่เจียมฐานะพาลูกชายฉันมาค้างอ้างแรมด้วยที่เรือนเน่าๆ ผุๆ นี่
“จะไปก็รีบไปไม่ต้องมาพูดมาก” อิทธิเอ่ยตะคอกถลึงตาเข้าใส่คล้ายจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ รู้ถึงสาเหตุที่จิตราพาสาวใช้คนสนิทมาหาเรื่องถึงที่เรือนตน จึงไม่คิดจะถามไถ่หาความให้เสียเวลา
“จองหองมากเกินไปแล้วนะไอ้อิท แกเป็นใครถึงมามองจ้องหน้าคนเป็นเจ้าเป็นนาย ไอ้ลูกไม่มีพ่อ” เพลินพิศเอ่ยปากตำหนิเด็กหนุ่มหวังเอาใจเจ้านาย
“อย่ามาว่าลูกฉันนะเพลินพิศ หล่อนเองก็แค่สาวใช้” แม่นางเอ่ยว่าเมื่อรู้สึกไม่ชอบใจในคำพูดของคนที่มีสถานภาพไม่ต่างจากตนเท่าไหร่นัก จะว่าไปก็ด้อยกว่าตนที่เป็นผู้คุมบัญชีของไร่เสียอีก
“บริวารของฉันจะพูดจะจาอะไรก็ได้ แกนั่นแหละควรสำนึกยัยแม่นาง หัดสั่งสอนลูกชายของแกให้เจียมกะลาหัวไว้บ้างว่าอย่ามาตีตัวเทียบเสมอลูกชายฉัน ถือดียังไงถึงชวนตาอาทีมาค้างที่นี่ด้วย” จิตราชี้หน้าสั่งสอน แม่นางหันหน้ามองลูกชาย ก็ไหนอาทีบอกขอมาค้างที่นี่เพื่อให้อิทธิช่วยสอนหนังสือให้ไง เรื่องนี้มันยังไง ตกลงคนที่ชวนอาทีมาคือลูกชายตนงั้นเหรอ
“บอกแม่มานะอิทว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง” นางเอ่ยถามลูกชาย แต่คนที่ชิงตอบคือจิตรา
“เรื่องจริงน่ะเหรอ ลูกชายของแกไม่ฟังคำสั่งฉันยังไงล่ะนังไพร่ ชอบนักที่จะชวนลูกชายฉันไปเถลไถลตอนเลิกเรียนจนต้องกลับเรือนดึกๆ ดื่นๆ หนำซ้ำมันยังชวยอาทีมาค้างอ้างแรมกับมันอีก ทำแบบนี้มันหยามคำสั่งฉันเกินไปหน่อยแล้ว หนอยฉันรู้นะว่าที่ต้องตีสนิทกับลูกชายฉันขนาดนี้เพราะหวังเกาะที่จะเข้าเรียนชั้นที่สูงขึ้นอีกน่ะสิ ฝันไปเถอะ ฉันทนให้แกข้องแวะกับอาทีแค่นี้พอแล้ว พอจบม.6 ลูกชายฉันจะต้องไปอยู่กับพ่อมันที่กรุงเทพฯ โน่น ส่วนแกจะต้องทดแทนข้าวแดงแกงร้อนของฉันด้วยการเป็นคนงานในไร่นี้เท่านั้นจำเอาไว้ ไปนังพิศ กลับ!”
จิตราพาสาวใช้เดินกลับไปแล้ว แม่นางหันมาผลักลูกชายออกจากตัวทันที เค้นถามถึงสิ่งที่จิตราเอ่ยทิ้งไว้
“เมื่อคืนนี้โกหกแม่กันเหรออิท อิทชวนคุณอาทีมาค้างที่นี่อย่างที่คุณจิตรบอกเหรอ”
“คืออย่างนี้แม่” อิทธิอ้ำๆ อึ้งๆ ที่จะเล่าความจริง เพราะแม้จะไม่ใช่คนชวนอาทีมาที่นี่แต่การที่ตนยังข้องแวะอยู่กับฝ่ายนั้นอยู่หากแม่นางทราบเรื่องนางคงจะไม่พอใจอยู่ดี เพราะนางเองก็พร่ำบอกมาตลอดว่าให้เลิกข้องเกี่ยวกับอาทีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เมื่อเห็นลูกชายอ้ำอึ้งก็พอจะเดาเรื่องราวได้ แม่นางรู้สึกทั้งโกรธ ทั้งเสียใจที่ลูกชายไม่ฟังคำ จึงลุกขึ้นฟาดฝ่ามือทุบตีสั่งสอนลูกชายบ้างพลางร้องไห้และพูดจาเชิงตัดพ้อ
“ที่แม่บอกแม่ห้ามไม่ฟังใช่มั้ย เห็นหรือยังว่าผลสุดท้ายมันเป็นยังไง ลูกเขาเป็นถึงเจ้าคนนายคนอิทฟังคำแม่แค่นี้ไม่ได้ใช่มั้ย ไม่ได้ใช่มั้ย ไม่ได้ใช่มั้ย ฮือๆ”
เมื่อหมดแรงจึงนั่งลุกปาดน้ำตาที่ไหลเป็นทางไม่หยุด อิทธิเห็นดังนั้นจึงรีบคลานเข่าก้มกราบแทบเท้าเอ่ยขอโทษทั้งน้ำตา
“อิทขอโทษแม่ อิทขอโทษ”
ร่างที่สั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นของลูกชายที่กัมกราบตรงหน้าทำให้ผู้เป็นแม่สะเทือนใจจึงรีบยกร่างนั้นขึ้นมากอดปลอบ รู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ทุบตีเจ้าตัวก่อนหน้า
“แม่ก็ขอโทษอิท แม่ก็ขอโทษ ลูกเจ็บมากมั้ย แม่ขอโทษ”
หญิงวัยกลางคน
กอดปลอบลูกชายทั้งน้ำตา ไม่ต่างจากลูกชายที่สะอื้นไห้ภายใต้อ้อมกอดผู้ให้กำเนิด สัญญากับตัวเองว่าจากนี้จะพยายามตีตัวออกห่างลูกชายของเจ้านายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผื่อว่าแม่ของตนจะได้ไม่โดนราวีครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้
สองแม่ลูกกอดกันกลมจมกับหยาดน้ำตาที่ต่างฝ่ายต่างหลั่งออกมาด้วยความเสียใจ ผู้เป็นแม่นึกน้อยใจในชะตาชีวิตที่ต้องพาลูกชายคนเดียวมาตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแบบนี้ อิทธิแม่ขอโทษ ชีวิตลูกคงจะดีกว่านี้หากแม่ไม่พาลูกหนีมาจากพ่อของลูก นางได้แต่พร่ำรำพันอยู่ในอกเมื่อนึกถึงอดีตขึ้นมา

โปรดติดตามตอนต่อไป


ฝากอีกหนึ่งผลงานด้วยครับ
DREAM II ขีดเส้นฝันในวันที่มีรัก ภาค 2
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=19623.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2010 20:18:03 โดย Bboyseries »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
มา 3 ตอน  ก็มาม่า 3 ชาม  อิ่มแปล้เลยเรา
นี่ถ้าคุณอาทิตย์กลับมาคงจะเป็นมาม่าต้มยำชามพิเศษแหงเลย

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :เฮ้อ:ดาวพระศุกร์

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
 :เฮ้อ:

ฉากแม่กับลูกอ่ะซึ้ง แต่อึดอัดอ่ะ..

ไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมต้องยอม ถ้ายอมแล้วไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นมา
บุญคุณหมดเมื่อทวงนั่นแหละ

แม่แอบรังแกอาทีนิดๆนะแบบนี้

(โพสยากจัง)

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
:เฮ้อ:ดาวพระศุกร์

ดาวพระศุกร์x100


อีนางจิตรานี่ทำตัวต่ำมากไม่สมกับเป็นน้องสาวเจ้าของไร่เลย ไม่สำเหนียกตัวแล้วยังไม่ว่าคนอื่นอีก อีนี่มีปมแน่ๆ น่าตบจริงๆ

nuewanda

  • บุคคลทั่วไป
เย้ๆๆๆๆๆ
มีนิยายหนุกๆ อีกเรื่องแล้ว
จิตราดูไร้เหตุผลมากอ่ะ มองไม่เห็นเหตุผลที่ต้องเกลียดชังกันขนาดนั้นเลย
เมื่อไหร่จะปิดเทอม พระเอกจะได้แแกโรงซักที อิอิ

แอบชอบอาที......เป็นไรไม่รู้ ชอบตัวรองตล๊อดดดด ฮ่าๆๆๆ

รอตอนต่อไป............

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
เกินไปมั้ยนั่น
ถ้าเค้าตาบอดจะทำไง
จิตราเป็นผู้ใหญ่ที่แย่มาก
หวังว่าชีวิตจริงคงไม่มีคนแบบนี้นะ
ถ้ามีล่ะก็พ่อจะเล่นตีลังกาแปดตลบแล้วตบด้วยฝาโอ่งเลย
555++  :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
มาม่าจริงๆด้วย
แหงะ มาต่อเร็วๆนะคะ
เกลียดคนแบบจิตราจริงๆ

Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีอย่างเป็นทางการครับสำหรับเพื่อนๆ นักเขียน นักอ่าน ผู้ดูแลบอร์ด และทีมงานเว็บไซต์แห่งนี้ทั้งหมด
ลงนิยายให้อ่าน 3 ตอนแล้ว ชื่นใจที่เห็นหลายคนแสดงความคิดเห็นต่อผลงานชิ้นนี้กันอยู่พอสมควร สำหรับนักอ่านที่คุ้นเคยกันมาบ้างแล้ว ผมคงไม่ต้องแนะนำตัวเองมากนัก เพราะผลงานนิยายในที่แห่งนี้มีมากเหลือเกิน แต่สำหรับใครที่เพิ่งเข้ามาอ่านผลงานนี้เรื่องแรก ก็ขอยืมพื้นที่ตรงนี้แนะนำตัวกันสักนิดนะครับ ผม Boy ครับ
จาก Bboyseries นามปากกาที่ลงนิยายในนี้แหละครับ นิยายที่เพื่อนนักอ่านหยิบมาโพสในนี้ มีหลากหลายมาก ขอไล่เรียงให้ทราบไว้ เผื่อจะได้ตามไปชื่นชมผลงานกัน เริ่มตั้งแต่

Real Love Story 1, 2
จนกว่าฟ้าจะมีเวลา
รู้ไหม? หัวในฉันตามหา 1, 2
DREAM ขีดเส้นฝันในวันที่มีรัก (เรื่องนี้กำลังโพสภาค 2 ลงที่นี้ด้วยครับ)
Lonely Love หัวใจขอมีรักแค่สักครั้ง
Loving Course ติวรักสุดใจนายเกเร
สองคนบนทางรัก
ไฟรัก (นิยายรางวัลตัวร้ายสุดฮอตเซ็งเป็ดอวอร์ด ครั้งที่ 1 สำหรับแฟนๆ วิศรุต ปรมินทร์ และศัตรูนายอธิศร เร็วๆ นี้ เตรียมพบผลงานนี้ในรูปแบบพ็อคเก็ตบุ๊ค ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง วางแผงเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบและอย่าลืมตามเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ)

ทั้งหมดนั่นคือผลงานที่โพสจนจบลงในที่แห่งนี้แล้ว สนใจผลงานไหนตามไปอ่านได้ที่บอร์ดนิยายที่โพสจบแล้วได้ครับ ส่วนอีกหนึ่งผลงานที่ยังค้างคาอยู่ที่ห้องนิยายยังโพสไม่จบคือ Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม ขออนุญาตถามผู้ดูแลบอร์ดตรงนี้เลยละกันครับว่าหากผมจะนำผลงานนั้นมาโพสที่ห้องนี้จะได้หรือเปล่า เพราะงานโพสที่ห้องนิยายยังไม่จบเป็นผลงานโพสของนักโพสท่านหนึ่ง ซึ่งผมไม่สามารถแก้ไขกระทู้ได้หากเกิดการผิดพลาดจากการโพส (ความผิดพลาดในการโพสทั้งหมดที่ทำให้นิยายค้างคา เกิดจากผมเองนะครับ ไม่เกี่ยวกับนักโพส ยังไงผมก็ขอกล่าวคำว่าขอโทษต่อนักโพสท่านนั้นด้วยที่ทำให้การโพสนิยายสะดุดลง รวมถึงขอโทษเพื่อนๆ นักอ่านที่กำลังติดตามผลงานนั้นแล้วเกิดอาการสะดุดและรู้สึกแย่ในการติดตาม) ผมก็เลยอยากจะนำมาเริ่มกระทู้ใหม่ที่ห้องนี้ (คราวนี้จบแน่นอนครับ) ฝากพิจารณาด้วยครับว่าเหมาะสมหรือไม่ หากไม่ได้ก็ยินดีที่จะไปโพสต่อที่ห้องนั้นครับ หากเป็นแบบนั้น เพื่อนๆ ในห้องนี้ช่วยตามไปให้กำลังใจที่โน้นด้วยนะครับ

เอาล่ะ ขอวกกลับมาที่นิยายแรงแค้นใต้เงารักกัน กำลังเกิดสับสนอยู่ใช่มั้ยว่าใครพระ ใครนาง ไม่รู้ว่าตามธรรมเนียมจะต้องเฉลยต้องเริ่มเรื่องมั้ย แต่ผมไม่อยากเฉลยอ่ะ เอาไว้อ่านๆ ลุ้นๆ ไปดีกว่าเนอะ แต่ผมว่าหลายคนคงพอจะรู้แล้วล่ะ อ้อ แล้วนิยามคำว่ามาม่า นี่มันใช้แทนคำว่าน้ำเน่าใช่หรือเปล่าอ่ะ คือผมห่างวงการนี้ไปนานแล้ว เลยขอความรู้หน่อย คิดว่าน่าจะใช่นะ เพราะเห็นหลายคนใช้เรียกผลงานชิ้นนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็น้อมรับด้วยความยินดีครับ แต่ภายในมาม่าชามนี้มีหลายปมที่ซ่อนอยู่ไว้ให้ผมคอยแก้ คอยแกะ ออกมาทีละนิดๆ สารภาพว่าเครียดอยู่ไม่น้อยเหมือนกันถึงปมที่วางเอาไว้ว่าผมจะสามารถคลายมันออกมาสร้างความกระจ่างให้ผู้อ่านได้มากน้อยแค่ไหน นิยายเรื่องนี้เดิมทีผมวางพล็อตไว้เป็นนิยายธรรมดาเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เหตุที่ปมมันเยอะมาก ผมเลยคิดถอดใจในตอนที่เขียนได้สักระยะหนึ่ง แต่พอมาจับงานเขียนนิยายวายแล้วรู้สึกสมองมันลื่นไหลกว่าการเขียนแนวชายหญิง จึงขอจับมันขึ้นมาปัดฝุ่นอีกครั้ง หากมีข้อผิดพลาด หรือความไม่ลงตัวใดๆ ผมต้องอภัยและขอกำลังใจจากทุกคนเอาไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ส่งมาให้กันเยอะๆ หน่อยก็ดีนะ เพื่อเป็นแผงผลักให้นิยายเรื่องนี้ก้าวเดินไปอย่างตลอดรอดฝั่ง ลงทุกตอนก็ลุ้นทุกตอนว่าหลายคนจะชอบมั้ยกับนิยายสำนวนไทยๆ แบบนี้ ตอนล่าสุดนี้ก็เพิ่งจะตอนที่ 3 การดำเนินเรื่องยังวนๆ เวียนๆ อยู่กับอาทีและอิทธิ รออีกสักนิดนะ อีกไม่กี่ตอน อาทิตย์ ก็พร้อมจะมาเพิ่มสีสันและรสชาติที่แซ่บระดับมาม่าน้ำข้นให้ทุกๆ คนได้ชิมแน่นอน ถึงตอนนั้นเมื่อไหร่ อย่าลืมซี้ดส์..ส์ปากกันนะครับสำหรับสาวกคนชอบทานมาม่า เอาให้ดังกันอย่างพร้อมเพียงเลยนะ เพราะมันแซ่บ! แน่นอน

ขอบคุณครับ
Boy


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2010 22:12:03 โดย Bboyseries »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
สำหรับเราแล้ว  มาม่า (Drama)  คือ เศร้า สลด รันทดใจ เป็นทุกข์
มิได้หมายถึงน้ำเน่าแต่อย่างใด  และส่วนตัวแล้วชอบพระเอกเลว ๆ อ่ะ
อ่านแล้วมันบีบหัวใจดีชะมัด  ซาดิสต์ว่ะตรู '^^"

ออฟไลน์ kaporzung

  • miKapleXD
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
    • [Premier Сasual Dating  Living Women]
ตกลงใคร คู่ ใคร อิอิ

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

ต๊าย หรือพ่อของอิทธิ จะ
๑. เคยเป็นชิ้นเก่าของยัยจิตรา
๒. แล้วมาเป็นพ่ออิท
๓. แล้วมีคนใหม่
๔. แม่อิทเลยสะบัดบ๊อบใส่
๕. จิตราเลยยังพาลแม่ลูกคู่นี้
๖. อิทธิ อาจเป็นพี่น้องกับอาร์ตี้ และอาที
๗. อาร์ตี้ กับอาที อาจจะมีพ่อไม่ซ้ำกัน
รึเปล่าคะ 5555

ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries


ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
Re: แรงแค้นใต้เงาũ
«ตอบ #45 เมื่อ14-11-2010 10:49:36 »

แอบเดาว่าพ่อของอิทธิน่าจะรวย...
อ่านมาได้ สาม ตอนก็มาม่าซะ
แล้วถ้าอาทิตย์กลับมามันจะ มาม่า กว่านี้อีกหรือเนี่ยขอรับ :a6:
ออกจะเดาได้ลางๆ ว่าใครเป็นพระเอก นายเอกของเรื่อง ...

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
มาม่ามากเลย

จิตราทำตัวให้สมกับเป็นผู้ใหญ่หน่อยสิ

เมื่อไหร่คุณอาทิตย์จะมาน้า

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
สำหรับเราแล้ว  มาม่า (Drama)  คือ เศร้า สลด รันทดใจ เป็นทุกข์
มิได้หมายถึงน้ำเน่าแต่อย่างใด  และส่วนตัวแล้วชอบพระเอกเลว ๆ อ่ะ
อ่านแล้วมันบีบหัวใจดีชะมัด  ซาดิสต์ว่ะตรู '^^"
ค่า มาม่าที่ว่าก็เป็นคล้ายๆนี่แหละค่ะ พี่บอยขา
ตามมาให้กำลังใจค่ะ สู้ๆนะคะ เอาใจช่วย
รักพี่บอย จุ๊บๆ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
บวกให้ทั้ง กิต และ บอย  อิอิ

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

ว้าย ได้เลขตองค่ะ  :z7:
๘๘๗ + ๑ = ๘๘๘
ขอบคุณนะคะ คุณ สอง


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
พ่อของอิทธิเป็นใครนาาาา อยากรู้อ่ะ สนุกจังเลย o13

Bboyseries

  • บุคคลทั่วไป
“เธอฟังฉันก่อนสิสุรางค์ ที่ฉันทำลงไปเพราะฉันเมา แค่นี้เธอให้อภัยฉันไม่ได้เหรอ”
“ให้อภัยหรือคะ กี่ครั้งแล้วคะที่คุณยุทธแก้ตัวกับดิฉันแบบนี้ กับคนอื่นนอกบ้านดิฉันยังจะพอรับได้ แต่นี่กับเด็กในบ้าน คุณยุทธหยามน้ำใจดิฉันเกินที่ดิฉันจะทนได้นะคะ”
“ก็เรื่องมันแล้วไปแล้ว ยังไงสุรางค์ก็เป็นเมียของฉัน เป็นคนที่ฉันรักอยู่วันยังค่ำ จะมามัวคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแบบนี้ทำไมกัน”
“เรื่องเล็กน้อยเหรอคะ การที่คุณยุทธหลับนอนกับสาวใช้ในบ้านในขณะที่ดิฉันกำลังอุ้มท้อง คุณยุทธคิดว่าเรื่องแค่นี้มันเล็กน้อยอย่างงั้นหรือคะ”
“แล้วเธอจะเอายังไง จะให้ฉันทำอะไรเธอถึงจะหายโกรธหายงอนฉันล่ะ”
“คุณยุทธไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแหละคะ เพราะต่อจากนี้ดิฉันคงไม่ทนอยู่กับพฤติกรรมมักมากของคุณยุทธอีก”
“เธอหมายความว่ายังไง”
“ดิฉันจะไปจากที่นี่ค่ะ”
“เธอจะไปไหนได้ยังไง เธอกำลังท้องกำลังไส้”
“ท้องก็ช่างปะไร นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณยุทธหยามน้ำใจดิฉัน ดิฉันไม่อยากให้ลูกลืมตามาเห็นพฤติกรรมเหลวไหลของคุณยุทธ ซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเขา”
“ฉันยอมให้เธอไปไหนไม่ได้หรอกสุรางค์ อย่าลืมนะว่าตอนนี้เธอเปรียบเสมือนคนไร้ญาติขาดมิตร การที่เธอก้าวออกจากเรือนไพศาลสกุลของฉันก็เท่ากับว่าเธอต้องพาลูกฉันไประหกระเหินอย่างไม่รู้โชคชะตา”
“ดิฉันกล้าทิ้งยศศักดิ์บุตรสาวคนเล็กในตระกูลที่มั่งคั่งของเมืองเพชรเพื่อหนีตามนักเลงปักษ์ใต้อย่างคุณยุทธก็นับว่าเป็นความระหกระเหินของโชคชะตามากพอแล้วล่ะค่ะ การที่ดิฉันจะพาชีวิตออกระหกระเหินอีกกครั้งมันก็คงจะไม่มีอะไรน่ากลัวนัก”
“แล้วทำไมเธอจะต้องทำเช่นนั้นด้วยล่ะ อยู่กับฉันที่นี่มันจะเป็นไรไป ฉันสัญญาก็ได้ว่าทันทีที่เธอคลอดฉันจะเลิกเหลวไหลนอกลู่นอกทาง ฉันจะเป็นพ่อที่ดีดูแลลูกของเราอย่างดีที่สุด”
“พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่าคะคุณยุทธ หากดิฉันไม่คลอด คุณยุทธก็จะยังไม่เลิกพฤติกรรมมักมากอย่างนั้นเหรอคะ ดิฉันเสียใจจริงๆ ที่ดิฉันไม่ฟังคำทัดทานจากญาติมิตรว่าให้ระวังนิสัยมักมากของพวกนักเลงปักษ์ใต้ เชิญเลยค่ะ ต่อแต่นี้เชิญคุณยุทธทำตัวเหลวไหลได้ตามสะดวก ดิฉันคงทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้จริงๆ”
จากวันนั้นสุรางค์พาลูกในท้องก้าวเดินออกจากเรือนไพศาลสกุลจริงๆ หล่อนไม่ฟังคำทัดทานของสามี แม้ว่าจะโดนขู่ว่าหล่อนจะไม่ได้ทรัพย์สินติดตัวไปแม้แต่ชิ้นเดียวหากยังจะดันทุรัง ด้วยทิฐิและความน้อยใจทำให้สุรางค์ไม่หยิบเศษเงินแม้สตางค์แดงเดียวที่เป็นของเรือนไพศาลสกุลติดตัวมา หล่อนมีเพียงทรัพย์สินเก่าๆ ที่เป็นของหล่อนเองตอนที่มีติดตัวเมื่อครั้งหนีออกจากเรือนบวรภิรมย์เพื่อมาใช้ชีวิตคู่กับสามีที่หล่อนคิดจะฝากฝีฝากไข้ด้วยได้
ยุทธ ไพศาลสกุล บุตรชายข้าราชการชาวใต้ ซึ่งมีนิสัยอันพาลเกเรไปวันๆ สุรางค์เจอกับนักเลงปักษ์ใต้ผู้นี้ตอนงานสมโภชประจำปีของจังหวัด หล่อนต้องมนต์เสน่ห์ชายหนุ่มผู้นี้เมื่อโดนหยอดคำหวานให้ระหว่างเดินชมงาน ด้วยวาจาหวานหู และรูปร่างหน้าตาที่ดูหล่อคมขำสมชายปักษ์ใต้ทำให้สาวเมืองเพชรอย่างหล่อนมองข้ามนิสัยเกเรอันธพาลที่ลือกันนักในหมู่ชาวบ้าน
“ไอ้ยุทธมันเป็นนักเลงปักษ์ใต้ นิสัยมันเจ้าเล่ห์นัก มันเที่ยวจีบสาวไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เวลามีงานใหญ่ๆ ที่ไหนมันไม่เคยพลาดที่จะไปเหล่สาวหรอก แม่สุรางค์อย่าไปหลงเสน่ห์มันเชียวล่ะ” แม้ค้าขายของในงานที่คุ้นเคยกันดีเอ่ยกระซิบเตือนหล่อน ตอนหล่อนเดินไปอุดหนุนร้านพร้อมกับนักเลงปักษ์ใต้ผู้นี้
“แม่สุรางค์อย่าไปเชื่อคำใครๆ เขาลือเลยนะ ฉันน่ะมันคนต่างถิ่น ชาวบ้านเขาเลยพาลไม่ชอบกระมัง จริงอยู่ที่ฉันชอบเที่ยวทั่วไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แต่ฉันไม่ได้ไปเหล่สาวที่ไหน ฉันไปเที่ยวตามประสาหนุ่มๆ เท่านั้น เพิ่งจะมีครั้งนี้แหละที่ความงามของแม่สุรางค์ทำให้ฉันนึกอยากจะจีบขึ้นมา” หนุ่มใต้ผู้นี้บอกกับหล่อนว่าอย่างนั้นตอนหล่อนเผลอตัวเผลอใจไปแอบพลอดรักไกลสายตาผู้คน ตอนนั้นหล่อนก็เพิ่งจะแตกเนื้อสาว พอโดนคำหวานชาย จิตใจก็เลยหลอมละลายเชื่อตามน้ำคำอย่างเสียมิได้ ความสัมพันธ์ของหล่อนกับนายยุทธจึงเลยเถิดถึงขั้นลึกซึ้ง
“แม่สุรางค์ไม่ต้องเสียใจนะ ฉันจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณี” นักเลงปักษ์ใต้ที่ใครๆ กล่าวหาว่าเกเรบอกกับหล่อนในตอนที่ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งได้จบลง ซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามคำบอกจริงๆ แต่ทว่ารื่องราวการสู่ขอมันไม่ได้ง่ายนัก
วันที่ขบวนผู้ใหญ่จากฝั่งโน้นมาเจรจาเพื่อขอตัวหล่อนให้กับนายยุทธหล่อนจำมันได้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งพ่อ แม่ และบรรดาญาติมิตรต่างคัดค้านการเจรจาสู่ขอครั้งนี้ เพราะไม่รู้ไม่เห็นมาก่อนว่าหล่อนชอบพอและคบหากับนายยุทธตั้งแต่เมื่อใด อีกอย่างคำร่ำลือถึงความกะล่อนของนายยุทธก็กระฉ่อนเมืองเพชรบุรีอยู่ไม่น้อย  เหตุการณ์บานปลายใหญ่โตเมื่อนายยุทธบอกกับทุกคนว่าหล่อนตกเป็นของตนแล้ว ถึงตอนนี้อย่าได้มีใครปฏิเสธขัดขวาง เพราะไม่แน่หากหล่อนท้องขึ้นมาจะงามหน้าที่หาสามีให้หล่อนไม่ได้
พอทราบเรื่องราวเหล่าบรรดาญาติมิตรต่างไล่ตะเพิดนายยุทธให้ออกจากเมืองเพชรบุรีและอย่าได้กลับมาอีกเพราะการกระทำที่หยามศักดิ์ศรีสาวเมืองเพชรนั้นเป็นเรื่องเสียหายเกินที่วงศ์ตระกูลที่มั่งมีเช่นบวรภิรมย์จะรับได้ นายยุทธยอมล่าถอยกลับในวันนั้น แต่ยังตั้งมั่นว่าถึงอย่างไรเสียก็จะกลับมาเอาตัวหล่อนไปเป็นภรรยาและพาไปอยู่ที่ปักษ์ใต้ให้ได้
หลังนายยุทธกลับไปแล้ว คนที่โดนพิพากษาต่อก็คือหล่อนเอง สารพัดถ้อยคำถากถาง และวาจาดุด่าหลุดออกมาจากปากพ่อ แม่ และบรรดาญาติของหล่อน จนหล่อนเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจว่าเหตุใดทุกคนจึงต้องมาขัดขวางความรักหล่อนได้ขนาดนี้ ญาติพี่น้องต่างตราหน้าว่าหล่อนเป็นลูกสาวที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงศ์ตระกูลจนอาจมีการตัดสิทธิ์ออกจากกองมรดก คำขู่ข้อนี้หล่อนไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก เพราะเชื่อว่าหากหล่อนได้ครองรักกับนายยุทธ นายยุทธก็คงจะพอดูแลหล่อนไม่ให้ตกระกำลำบากได้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นในวันที่นายยุทธติดต่อกลับมาว่าในเมื่อสู่ขอกันดีๆ แล้วไม่ได้ ก็หนีไปตามเขาไปที่ปักษ์ใต้ซะให้สิ้นเรื่อง หล่อนจึงตัดสินใจหนีออกจากเรือนบวรภิรมย์ทันที พอมาใช้ชีวิตครอบครัวที่ปักษ์ใต้ได้สักพัก ก็ได้ทราบข่าวจากคนรู้จักว่าพ่อแม่หล่อนโกรธเคืองการกระทำครั้งนี้ของหล่อนจนประกาศตัดขาดการเป็นคนตระกูลนั้นของหล่อนไปทั้งเมืองเพชร
การมาใช้ชีวิตครอบครัวที่ปักษ์ใต้ระยะแรกทุกอย่างดูราบรื่น หล่อนกับนายยุทธรักใคร่กันดี หล่อนเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าตระกูลไพศาลสกุลก็มีหน้ามีตา และมีฐานะมั่งคั่งไม้น้อยในปักษ์ใต้ นายยุทธเองก็ได้สวนยางพารามาเป็นทรัพย์สินหาเลี้ยงตัวและหล่อนจนสร้างฐานะและอาณาจักรเรือนไพศาลสกุลขึ้นมาได้อย่างน่าพอใจ การเป็นคนมีฐานะ มีตามีตาพอประมาณทำให้หล่อนส่งเสริมบารมีสามีด้วยการเรียกเจ้าตัวว่าคุณยุทธแทนนายยุทธนับตั้งแต่บัดนั้น
พอเปลี่ยนสรรพนามเรียกสามีได้ไม่นาน สิ่งที่หล่อนได้ยินผ่านหูถึงความกะล่อนเจ้าเล่ห์ของชายผู้นี้ก็เริ่มส่อแววมาให้เห็น นายยุทธหรือคุณยุทธเริ่มมีสาวเล็กสาวน้อยมาติดพัน หล่อนทนนิ่งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เพราะไม่อยากให้ชีวิตครอบครัวมีปัญหา แต่พอหล่อนนิ่งแทนที่สามีจะเกรงใจกลับทำตัวเหลวไหลหนักขึ้น บางวันหล่อนทนไม่ได้เพราะเห็นจะจะตาจึงเปิดอกพูดคุย ก็มักได้คำตอบกลับมาว่ายังไงตนก็เป็นเมีย คนอื่นก็แค่สนุกชั่วครั้งชั่วคราว ในเมื่อแก้ไขอะไรไม่ได้หล่อนจึงยอมอยู่อย่างสงบเรื่อยมาจนตั้งครรภ์ หล่อนบอกเรื่องนี้กับสามีและขอให้เจ้าตัวหยุดพฤติกรรมมักมากเสีย ถือซะว่าเห็นแก่ลูกที่กำลังจะเกิดมา แรกๆ สามียอมฟังเพราะรู้สึกดีใจล้นเหลือที่จะมีทายาท หล่อนรู้สึกดีที่ได้ชีวิตครอบครัวกลับมาอีกครั้ง แต่ที่สุดสามีก็เริ่มเหลวไหลอีกครา อ้างว่าตัวเองยังหนุ่มยังแน่น ยังเป็นผู้ชายที่มีตัณหาราคะอยู่ การที่ไม่ได้ระบายออกเสียบ้างจะพาลทำให้หงุดหงิดเสียเปล่าๆ หล่อนทำทีเข้าใจเพราะตนก็ท้องอยู่คงปรนนิบัติหน้าที่ภรรยาในเรื่องนี้ไม่สะดวก แต่ที่สุดความอดทนก็ขาดสะบั้นในวันที่สามีไปแอบหลับนอนกับสาวใช้ในบ้าน การกระทำเช่นนี้มันช่างหยามน้ำใจหล่อนจนเกินจะรับได้นัก และนี่ก็เป็นต้นเหตุให้หล่อนเลือกที่จะหนีออกจากเรือนสกุลไพศาลพร้อมลูกน้อยในท้อง

***************************************************************
แม่นางเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มทิ้งเสียหลังจากปล่อยให้มันไหลเป็นทางไม่หยุดตอนที่นึกถึงชีวิตความเป็นมาของตน สุรางค์ บวรภิรมย์ หรือสุรางค์ ไพศาลสกุลในอดีตก็คือตัวนางนั่นเอง ชื่อแม่นางเป็นชื่อที่นางบอกให้ใครๆ เอ่ยเรียกเองหลังจากนั้น เพราะสภาพหญิงท้องที่เร่ร่อนไร้ที่อยู่ คงไม่เหมาะกับชื่อเดิมอย่างสุรางค์ บวรภิรมย์ หรือสกุลไพศาลเท่าไหร่นัก คิดถึงเรื่องราวต่อแล้วก็อดเศร้าไม่ได้ หลังจากที่นางหนีออกมาจากเรือนไพศาลสกุล แรกๆ นางก็ยังไม่รู้จะไปไหน จะกลับไปที่เพชรบุรีน่ะเหรอก็ละอายต่อบรรดาญาติมิตรในตระกูลที่คงจะรอสมน้ำหน้านางอยู่เป็นแน่หากเห็นนางหอบท้องหอบไส้กลับไป แต่หากจะให้กลับหลังหันมายังเรือนไพศาลสกุลดังเดิมก็เกินที่จะทำใจได้ อย่างไรเสียหล่อนขอไปตายเอาดาบหน้ายังดีกว่าที่จะต้องให้ลูกที่กำลังมาพบเจอพฤติกรรมเหลวไหลของผู้เป็นพ่อ เชื่อได้แค่ไหนกันกับคำสัญญาที่เจ้าตัวบอกจะเลิกเหลวไหลหากนางคลอดลูกมา
ไร่ส้มแห่งนี้คือที่ๆ ที่นางหอบท้องหอบไส้เข้ามาขอพึ่งใบบุญ หลังจากระหกระเหินไปยังที่ต่างๆ แต่ไม่มีใครอ้าแขนต้อนรับหญิงท้องเข้าทำงาน สมบัติที่ติดตัวมาก็นำไปขายกินประทังชีวิตจนหมดจนสิ้น ท้องหรือก็โตขึ้นทุกเมื่อ วันแรกที่นางเข้ามาที่นี่ก็ไม่คิดว่าเจ้าของไร่จะเมตตา แต่ก็ลองเสี่ยงอ้อนวอนเพราะหมดหนทางที่จะไปแล้วจริงๆ ที่สุดโชคชะตาก็เหมือนเข้าข้าง เมื่อเจ้าของไร่อย่างจันทร์จวงหรือคุณจันทร์ตกลงรับนางเข้าเป็นคนงาน แม้ว่าจะโดนคัดค้านจากจิตราผู้เป็นน้องสาวก็ตาม
“ชีวิตเธอมันช่างเหมือนฉันตรงที่หนีตามผู้ชาย โดยไม่คิดถึงศักดิ์ศรีหรือชื่อเสียงวงศ์ตระกูลนี่แหละแม่นางเอ้ย” หญิงเจ้าของไร่อย่างคุณจันทร์เคยบอกกับนางว่าอย่างนั้นในตอนที่ได้พูดคุยกันหลังจากที่นางได้เข้ามาเป็นคนงานในไร่นี้ได้ระยะหนึ่ง
“คุณจันทร์เคยหนีตามใครด้วยหรือคะ” นางหลุดปากเอ่ยถามผู้เป็นนาย
“เคยสิ คนที่ฉันหนีตามก็คือผู้เริ่มต้นถางพงหญ้าที่แห่งนี้ให้กลายเป็นไร่ส้มไงล่ะ”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“นายชัดสามีฉันที่ฉันหนีตามมาเป็นคนเริ่มต้นถางพงหญ้าไร่แห่งนี้เอง” ในตอนนั้นจันทร์จวงเอ่ยไปน้ำตารื้นไป ทำให้นางต้องเอ่ยขอโทษที่เอ่ยถามในเรื่องที่ไม่น่ารู้ แต่ที่สุดหญิงผู้นั้นก็เปิดปากบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นางฟังเอง
“ฉันน่ะเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลที่มีหน้ามีตาพอประมาณในเมืองพิจิตรซึ่งพบรักกับนายชัดซึ่งเป็นคนขับรถที่พ่อของฉันเพิ่งรับเข้ามาทำงานแทนคนเก่าที่ลาออกไป นายชัดเป็นคนขยัน มีมานะ พื้นเพเป็นคนทางถิ่นอีสาน ทำให้ฉันอดเอ็นดูไม่ได้ ซึ่งความเอ็นดูของฉันนี่แหละที่เป็นต้นเหตุของความรักของเราทั้งสอง แต่พูดไปมันก็ช่างเหมือนนิยายพาฝันนั่นแหละ ความรักของเราทั้งสองถูกขัดขวางจากญาติฝ่ายของฉันเองที่มองเห็นนายชัดเป็นเพียงคนรับใช้ในเรือน นายชัดเองก็เจียมเนื้อเจียมตัวยอมให้พ่อ แม่ และบรรดาญาติๆ ของฉันโขกสับเพื่อแสดงถึงความจริงใจที่มีต่อฉัน จิตราเองครานั้นก็ใช่ย่อย สารพัดเล่ห์ร้ายที่หล่อนพยายามแยกนายชัดออกจากชีวิตฉัน แต่ทำยังไงก็ไม่สำเร็จ หล่อนเลยยอมแปรพักตร์มาอยู่ข้างฉันเพราะยอมจำนนต่อความจริงใจของนายชัดที่มีต่อฉัน นานวันเข้าความรักของฉันกับนายชัดก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนนายชัดยอมเสี่ยงเอ่ยขอเป็นคนดูแลชีวิตฉันจากพ่อและแม่ของฉัน สารภาพว่ารักฉันมากเหลือเกินจนไม่อาจยอมเห็นฉันตกไปเป็นของใคร ผลจากความกล้าครั้งนั้นทำให้พ่อของฉันไล่ตะเพิดนายชัดออกจากเรือน ในวันที่นายชัดจะไปเขาได้ชวนฉันหนีตามออกไปด้วย เพราะคงอยู่ไม่ได้หากไม่มีฉันอยู่เคียงข้าง ตอนนั้นฉันเองก็รักนายชัดมาก ทั้งรักและสงสาร เห็นใจในความจริงใจที่เขามีต่อฉัน ฉันจึงตัดสินใจหนีตามออกมา ในวันเดินทางจิตราได้มาเห็นเราสองคนพอดี ตอนแรกฉันก็กลัวว่าหล่อนจะไปบอกพ่อแม่ฉัน แต่หล่อนกลับทำในสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึง คือขออาสาตามมาดูแลฉัน เพราะเป็นห่วงฉันเหลือเกิน พูดไปแล้วฉันก็ซึ้งในน้ำใจน้องสาวของฉันนะ แม้หล่อนจะดูร้ายกาจใส่คนรอบข้างฉันอยู่ก็ตาม แต่สิ่งที่หล่อนทำไปก็ทำเพื่อปกป้องฉันทั้งนั้น วันที่หล่อนฟาดหัวฟาดหางใส่เธอตอนเข้ามาขอทำงานที่นี่ ก็เพราะหล่อนกลัวว่าเธอจะมีพิษมีสง และเข้าประจบสอพลอฉันอย่างผู้หญิงหลายๆ คนที่หล่อนเคยเผชิญตอนตามฉันหนีตามนายชัดออกจากเรือนน่ะแหละ พูดแล้วก็อดสูนัก ผู้หญิงพวกนั้นแท้จริงแล้วคือบรรดาญาติๆ นายชัดที่อยู่ทางภาคอีสานน่ะแหละ นายชัดพาฉันกลับไปตั้งหลักที่นั่น โดยไม่ยอมเปิดเผยฐานะของฉันเพราะกลัวจะมีอันตรายจากโจรผู้ร้ายซึ่งชุมนักในท้องถิ่นแถบนั้น หากพวกมันรู้ว่าฉันกับจิตรามาจากตระกูลมั่งมีพวกมันอาจจะจี้ปล้นก็เป็นได้ การปิดบังฐานะของฉันครานั้นทำให้ทางญาติๆ ของนายชัดไม่ชอบใจฉันนัก หาว่านายชัดพาฉันมาเป็นภาระ แม้นายชัดจะบอกว่ามาขอตั้งหลักเพียงเท่านั้น พอหาที่ทางขยับขยายหาเพื่อทำกินได้ก็จะไป ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น นายชัดไม่ยอมให้ฉันนำทรัพย์สินที่ฉันมีติดตัวมาออกมาใช้ เพราะว่าละอายใจ เขายอมออกไปหางานทำเพื่อหาเลี้ยงฉันอย่างอดทนอยู่หลายวัน ในขณะที่ฉันกับจิตราโดนโขกสับให้ทำงานบ้านงานเรือน ฉันน่ะทนได้เพราะไม่อยากให้นายชัดไม่สบายใจ แต่จิตรานี่สิ หล่อนเป็นคนอารมณ์ร้ายอยู่แล้ว พอโดนใช้มากๆ ก็มีบ้างที่หล่อนมีปากเสียงกับญาติของนายชัด หนักถึงขั้นตบตีกันเลยก็มี ทิฐิความที่เคยเป็นเจ้าคนนายคนทำให้หล่อนนึกเกลียดชังบรรดาญาติของนายชัดเข้าไส้ หาว่าพวกเขาไม่เจียมตัวบ้าง อยู่ท้องถิ่นกันดารยังจองหองพองขนทำตัวเยี่ยงผู้ดีอยากมีข้ารับใช้ ลับหลังหล่อนมักจะด่าว่าเสมอว่าคนพวกนั้นมีสันดานไพร่ สันดานขี้ข้าที่ไม่รู้จักสำนึกตัว จนที่สุดหล่อนจึงเผลอเปิดเผยฐานะออกมาอย่างอดไม่ได้เมื่อโดนโขกสับเข้ามากๆ พอพวกนั้นรู้ความเป็นมาของเราสองพี่น้องก็รีบเข้าประจบสอพลอหวังสมบัติทรัพย์สินที่ฉันมีติดตัวไป การเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีแบบนั้นยิ่งเพิ่มความชิงชังให้จิตราอย่างมากมายกว่าเดิม หล่อนจึงเริ่มมีอคติกับคนพวกขี้ประจบสอพลอมาตั้งแต่บัดนั้น นายชัดเองก็กลัวว่าฉันจะไม่ปลอดภัยเมื่อฉันและจิตราแสดงฐานะตัวเองออกมาแล้วจึงพาฉันกับจิตราหนีขึ้นมาทางเมืองเชียงใหม่ ทำมาหากินกันอยู่พักหนึ่งก็เริ่มเก็บหอมรอมริบพอที่จะหาที่ทางเป็นของตนเอง สุดท้ายก็ได้ไร่นี้แหละที่เป็นพื้นที่ทำกินมาจนทุกวันนี้ ชีวิตในตอนนั้นฉันมีความสุขมากจนคิดจะมีทายาทไว้ให้นายชัดสักคน แต่แล้วก็ได้แค่คิด เมื่อนายชัดมาด่วนเสียเพราะไข้ป่าขึ้นมาซะก่อน ตอนนั้นชีวิตฉันเหมือนเคว้งอยู่พักหนึ่งเชียวล่ะ งานการในไร่นี้แทบจะไม่ได้ดูแล ดีหน่อยที่จิตราคอยเป็นคนจัดการให้ กระทั่งหล่อนได้พบรักกับพ่อเกริกตอนเดินทางมาเที่ยวงานเชียงใหม่แล้วแวะมาที่ไร่นี้ ฉันจึงคิดว่าควรจะให้เวลาน้องสาวมีความสุขเสียบ้างหลังจากที่เหนื่อยดูแลฉันมานาน จิตราแต่งงานกับพ่อเกริกอยู่กินกันแบบเทียวไปมาหาสู่กันอยู่แบบนั้นระหว่างเมืองกรุงกับที่นี่ เพราะต่างคนต่างก็ไม่มีใครยอมทิ้งหน้าที่การงาน ฉันล่ะกลัวใจว่าสองคนจะอยู่กันไม่รอด แต่สุดท้ายก็ได้หลานชายเป็นตาอาทิตย์มาให้ฉันพอมีกำลังใจบ้าง ที่ได้เห็นทายาทสำหรับสืบทอดไร่ส้มแห่งนี้ไม่ให้ตกไปเป็นของนายทุนคนไหน ฉันกับนายชัดสร้างมันมากับมือ รวมถึงจิตราด้วย ตอนนี้นายชัดไม่อยู่ จะเหลือก็เพียงฉันกับจิตราที่เป็นแค่ผู้หญิงทั้งสองคน จะมีปัญญาดูแลไร่นี้ได้นานแค่ไหนกัน”
“ฟังดูแล้วคุณจันทน์ก็โชคดีกว่าดิฉันมากมายนักที่คุณชัดท่านรักและดูแลคุณจันทน์อย่างน่าชื่นชม” นางอดเอ่ยเปรียบเปรยขึ้นมาไม่ได้เมื่อฟังเรื่องราวจบ
“เธอก็อย่าคิดอะไรมากเลย มาอยู่กับฉันแล้ว ฉันไม่ใจไม้ไส้ระกำกับเธอหรอก ฉันเข้าใจเธอในฐานะหัวอกลูกผู้หญิงที่หนีออกจากบ้านเหมือนกัน”
“เป็นพระคุณอย่างสูงค่ะคุณจันทร์ บุญคุณครั้งนี้ดิฉันจะไม่มีวันลืมเลย มีลูกดิฉันก็จะบอกลูก มีหลานดิฉันก็จะบอกหลานให้รู้สำนึกบุญคุณของคุณจันทร์ค่ะ”
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ว่าแต่ลูกในท้องเธอล่ะจะคลอดเมื่อไหร่กัน”
“จวนแล้วล่ะค่ะ อีกไม่กี่เดือนนักหรอก”
“คงพร้อมกับจิตราสินะ ระหว่างนี้เธอก็ทำงานเบาๆ ไปก่อนก็ได้ หากไม่ไหวก็หยุดพักก่อน”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันคงไม่กล้ากินแรงคนงานอื่นๆ”
“กินรงกินแรงอะไรกัน คนท้องคนไส้ก็ต้องรักษาตัวสิถึงจะถูก ใครมันจะมาว่าอะไรถ้าเป็นคำสั่งของฉัน”
“เดี๋ยวคุณจันทร์จะโดนติฉินเอานะคะ อย่าใส่ใจดิฉันเลยคะ ดิฉันไม่อยากให้ใครมองคุณจันทร์ในแง่ไม่ดี”
“คำนินทามันเป็นสิ่งที่อยู่คู่ปากมนุษย์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉันไม่ได้ถือมันมาเป็นเรื่องหนักใจอะไรหรอก เธออย่าห่วงเลย”
คำพูดครั้งนั้นมันช่างแสดงออกถึงความมีเมตตาของจันทร์จวงนัก หญิงผู้นั้นสานต่อความมีพระคุณล้นหัวต่อนางด้วยการส่งความเมตตามาถึงลูกชายนางที่คลอดออกมาอีกด้วย ชื่ออิทธิ เป็นชื่อที่จันทร์จวงตั้งให้ลูกชายนางเองเมื่อคราวลืมตาออกมาดูโลก พอโตมาก็รับภาระส่งเสียในเรื่องการเรียนอีกต่างหาก นางเคยถามหาเหตุผล เพราะไม่สบายใจ หญิงผู้นั้นให้คำตอบเพียงว่ารู้สึกถูกชะตากับลูกชายตนเหลือเกิน ดูลักษณะความมุมานะของเด็กชายคนนี้แล้วทำให้นึกเอ็นดูอย่างเสียไม่ได้ ซึ่งนี่คือเหตุผลที่นางอบรมสั่งสอนอิทธิให้รู้จักกตัญญูรู้คุณ เพราะได้รับความเมตตาที่ยากจะหาได้ แม้ในภาคหนึ่งจะต้องเผชิญกับความร้ายกาจของจิตราหน่อยก็ตาม แต่สิ่งที่หญิงผู้นั้นกระทำกับตนมันมีที่มาที่ไปอย่างที่ได้ทราบเรื่องราวจากปากจันทร์จวง  หากหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าได้ หรือเรื่องราวมันไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะทน นางก็จะทนให้ถึงที่สุด เพื่อเอาชนะใจหญิงผู้นั้นอย่างที่คุณชัดเคยเอาชนะมาได้แล้วนั่นเอง
แม่นางสลัดความคิดทั้งหมดทิ้งเมื่อเห็นตะวันสายโด่งจวนจะถึงเวลาเข้าทำงานในไร่ ป่านนี้อิทธิคงถึงโรงเรียนแล้วมั้ง นางคิดถึงลูกชายขึ้นมา ซึ่งได้แยกตัวเดินทางไปโรงเรียนก่อนหน้าที่นางจะมานั่งนึกถึงเรื่องราวในอดีตเช่นนี้

*****************************************************************************************

ที่โรงเรียนในตอนพักเที่ยง อาทีพยายามเดินตามร่างอิทธิที่เดินดุ่มๆ ไปยังโรงอาหารอย่างไม่สนใจตน อาการเฉยชาของฝ่ายนั้นเป็นมาตั้งแต่เช้าตอนเจอกันที่โรงเรียนแล้ว โดยปกติคนรถที่บ้านจะขับรถมาส่งตน แต่อิทธิจะปั่นจักรยานมาเอง
“เฮ้ย! ไอ้อิท มึงเป็นห่าอะไรของมึงวะ ตั้งแต่เจอกันมึงยังไม่ทักกูสักคำเลยนะโว้ย” หนุ่มน้อยวิ่งเข้าไปขวางทางเมื่อเห็นอิทธิกำลังจะเดินไปถึงโรงอาหาร ซึ่งเมื่อเข้าไปในที่จอแจแบบนั้นคงไม่มีโอกาสได้รับรู้ถึงสาเหตุที่อิทธิเมินใส่ตนได้
อิทธิมองหน้าคนยืนขวางร่าง อันที่จริงไม่ได้โกรธเคืองอะไรเจ้าตัว แต่เพื่อความเป็นอยู่ที่รอดพ้นจากการโดนกลั่นแกล้งจากจิตรา จึงไม่อาจข้องแวะกับลูกชายของหล่อนได้ต่อไปอีก
“ถอยไปอาทีกูจะไปกินข้าว” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่อีกคนยังดื้อด้านที่จะยืนขวางทาง พร้อมเอ่ย
“มึงบอกูมาก่อนว่ามึงเป็นอะไรถึงไม่ยอมคุยกับกู”
“มึงจะมาใส่ใจอะไรกะกู อยู่ห่างกูสักพักมึงจะตายให้ได้เลยใช่มั้ยตามกูทุกวันกูรำคาญนะโว้ย” อิทธิฝืนใจบอกด้วยถ้อยคำแรงๆ เสียใจหน่อยๆ ที่เห็นคนฟังหน้าเสียขึ้นมา
“ทำไมมึงพูดกับกูแบบนี้วะอิท” อาทียกมือขึ้นผลักอกเพื่อนสนิทที่คิดไม่ถึงว่าเจ้าตัวจะมีความรู้สึกรำคาญตน อิทธิร่างเซหน่อยๆ พอตั้งหลักได้จึงผลักสวนกลับบ้าง แต่น้ำหนักที่ผลักออกไปมากมายกว่าที่ตนโดนผลักนัก ผลคือร่างของอาทีล้มลงกับพื้นทันที
อิทธิตกใจที่เห็นร่างเพื่อนล้มลงไม่เป็นท่าแบบนั้น ตอนแรกคิดจะนั่งลงไปดูอาการเจ้าตัว แต่ภาพเหตุการณ์เมื่อเช้ากลับแวบเข้ามาในสมอง จึงแข็งใจเดินหนีไปด้วยท่าทีเฉยชา
อาทีเอี้ยวตัวมองตามหลัง เกิดความน้อยใจจนไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนขึ้น จึงนั่งจมอยู่กับพื้นแบบนั้นอย่างไม่สนใจสายตาใคร เด็กหนุ่มหันกลับมานั่งชันเข่าคิดสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ อิทธิถึงเมินเฉยใส่ตนได้ขนาดนี้ ส่วนอิทธิที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มนักเรียนที่กำลังจอแจวุ่นวายอยู่ในโรงอาหาร เด็กหนุ่มแอบบมองมายังร่างที่ยังไม่ลุกไปจากที่เดิม รู้สึกผิดที่ทำกับเจ้าตัวแบบนั้นจึงคิดจะกลับไปฉุดให้ลุกมาทานข้าวด้วยกัน สองขาก้าวเดินออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมองไปที่จุดเดิมแล้วเห็นเด็กสาวคนหนึ่งกำลังยื่นมือเพื่อฉุดร่างของคนที่นั่งอยู่ให้ลุกขึ้น จู่ๆ ก็เกิดใจหวิวอย่างประหลาดเมื่อเห็นคนที่นั่งยอมยื่นมือให้เด็กสาวผู้นั้นจับ แล้วยอมลุกขึ้นตามแรงฉุด คนเดินมาฉุดร่างอาทีให้ลุกขึ้นคือยัยส้มนั่นเอง

โปรดติดตามตอนต่อไป


ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :เฮ้อ:รันทดเหลือเกิน

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

ว้าย แม่นางสะบัดบ๊อบใส่ป๋ายุทธจริงๆด้วย
/กิต. มอบช่อดอกไม้ให้แม่นาง,
ฟิโน่(มีดั้ง)ให้อิทขี่ไปโรงเรียน,
และคะแนนโหวทให้คุณพี่ บีบอยซิหรี่ส์ ค่ะ
 :z7:
๑๗ + ๑ = ๑๘
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries


ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ง่า ลำบากใจกันจริงๆแบบนี้
จะไปไงต่อไปล่ะเนี่ย
มาเร็วๆนะคะคุณบอย

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อาทิตย์ยังไม่มา  ชีวิตยังทุกข์ได้ขนาดนี้
ถ้าอาทิตย์มารวมหัวกันได้  จะทุกข์ขนาดไหนกันนะ

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
มาม่าแล้วสะใจ :man1:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
ยัยส้มคือใครหละเนี้ยย

NaTTo

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่มาอีกรึ  รออยู่นะ

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
น่าสงสารอ่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด