...
........................
...............................
ตอนที่๒๘ ความเจ็บปวด
“.....ดอว์น...คนดีของพี่” ฝ่ามือร้อนรุมที่เฝ้าเวียนลูบไล้อยู่บนแผ่นหลังก่อให้เกิดความรู้สึกร้อนผ่าวไม่ต่างจากถูกนาบด้วยเปลวไฟ ร่างที่อ่อนแรงด้วยเพิ่งปลดปล่อยไปเมื่อครู่พยายามชันตัวขึ้นอย่างยากลำบาก และแค่ขยับตัวเพียงน้อยหน้าขานวลเนียนที่อาบเคลือบไปด้วยหยาดเหงื่อก็รับรู้ถึงความต้องการที่ยังไม่ได้ปลดปล่อยของคนที่นอนหงายอุทิศทั้งตัวให้ซุกซบ
อรุณรุ่งเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าที่ถูกแพรสีดำสนิทปกปิดอยู่เกือบครึ่งแล้วยิ้มทั้งน้ำตา โหย่งตัวขึ้นโดยทาบฝ่ามือหนึ่งไว้บนแผ่นอกตึงแน่น แล้วใช้ปลายลิ้นเก็บกลืนหยาดหยดของตนที่ยังทิ้งคราบเปรอะเปื้อนอยู่ที่ปลายคางและข้างแก้มของคนที่หายใจแรงขึ้นทุกทีทั้งที่ยังนอนอยู่เฉยๆ
เครื่องรางแห่งความรักที่ทิ้งตัวลงแนบอยู่กับแผ่นอกหนาของเจ้าของเก่าเลื่อนไปมาตามแรงสะท้อนจากการหายใจถี่กระชั้น เอวบางขยับโยกขึ้นลงอย่างจงใจให้ส่วนสำคัญเสียดสีกันด้วยรู้ดีว่าจะยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของคนเบื้องล่าง
“เพชร.....อือ...”
“ดอว์น.....อะ...ดอว์นครับ..อื้อ”
วัชระขยับสะโพกเคลื่อนไหวตามจังหวะที่ถูกส่งมา และต้องบิดตัวสะท้านไม่ต่างกันเมื่อปลายลิ้นที่ไล้เล่นอยู่แถวปลายคางกลับลากเลียลงต่ำแล้วมาหยุดเย้าอยู่ตรงแผงอกกว้าง พอขยับจะลุกขึ้นก็ถูกอีกฝ่ายใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งกดไหล่ไว้ แถมด้วยส่วนที่น่าจะเป็นเข่าแทรกเข้าตรงกลางหว่างขาบังคับให้ท่อนขาแข็งแรงที่เริ่มเกร็งจนกล้ามเนื้อขึ้นเป็นลูกยิ่งแยกกว้างออก
กำลังเคลิ้มกับการโลมไล้แผ่วหวาน สัมผัสจากปลายนิ้วที่สั่นระริกซึ่งแทรกขอบอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายเข้าไปแตะต้องตรงจุดที่ไวสัมผัสก็ทำให้ชายหนุ่มครางเครือออกมาอย่างสุดกลั้น ฝ่ามือหนาละจากแผ่นหลังบางคว้าจับเข้าที่ข้อมือข้างที่กำลังรุกล้ำพื้นที่อ่อนไหว เลื่อนเข้ากุมทับโน้มนำให้กอบกุมความต้องการที่ขยายใหญ่จนล้นมือแล้วขยับนำให้ฝ่ามือนุ่มรูดรั้งขึ้นลงเร็วขึ้น.....แรงขึ้น ทุกขณะ
มือใหญ่อีกข้างเริ่มรุกล้ำแทรกเข้าถูไถกับร่องหลืบเบื้องหลังระหว่างก้อนเนื้ออวบหยุ่น ของเหลวที่ยังติดค้างอยู่ตามง่ามนิ้วถูกปาดป้ายลงตรงปากทาง
“อ๊ะ.....อือ...เจ็บ.....”
“ดอว์น.......ดอว์น อืม......ไม่เจ็บนะครับ.......อย่าเกร็งนะ......อือ....ดี....ดอว์น.....”
เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสจากปลายนิ้วที่พยายามล่วงล้ำเข้าสู่ภายใน ร่างเบื้องบนก็ชะงักการเคลื่อนไหวอยู่อึดใจ หากเสียงครางเร่งเร้าเรียกแต่ชื่อของตนซ้ำๆ และยังถ้อยคำปลอบประโลมสั่นพร่าก็ทำให้อรุณรุ่งเลือกที่จะอ้อมมือข้างหนึ่งไปด้านหลังช่วยเปิดทางให้นิ้วยาวใหญ่แทรกเข้าได้สะดวกขึ้น
“โอ๊ย.....ฮึก...เพชร...พี่เพชร อือ....เรียกอีก....อะ เรียกดอว์นอีก”
“ดอว์น....ดอว์น.....”
ความร้อนที่โอบแน่นบีบกระชับราวต้องการขับไล่สิ่งแปลกปลอมให้ออกไปจากร่างกาย หากยามนี้วัชระไม่ใจเย็นพอจะถอนตัวออกไปอีกแล้ว ยิ่งช่องทางนุ่มนิ่มบีบรัดความรู้สึกอยากครอบครองเป็นเจ้าของยิ่งพุ่งขึ้นสูง ชายหนุ่มกระซิบปลอบโยนหวังให้เด็กน้อยที่สั่นสะท้านไปทั้งตัวผ่อนคลายและยอมรับการล่วงล้ำโดยเต็มใจ นิ้วที่สอดแทรกเริ่มขยับหมุนอยู่ภายในจนแรงบีบรัดเริ่มลดลงก็เปลี่ยนเป็นขยับเข้าออกทีละน้อยสลับโยกคลึงไปโดยรอบ เมื่อชายหนุ่มรู้สึกว่าอีกฝ่ายเริ่มขยับสะโพกตามการเคลื่อนไหวที่ถูกชักนำก็เป็นเวลาเดียวกับเสียงครางเครือแผ่วหวานดังลอดเข้าสู่โสตประสาท
มือใหญ่ที่ทำหน้าที่ชักนำการรูดรั้งร่างกายของตนผละออก ปล่อยให้อรุณรุ่งเคลื่อนไหวเองตามจังหวะที่ตนเป็นคนเริ่มไว้แล้วดึงทึ้งชั้นในสีเทาออกอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ส่วนที่อึดอัดอยู่นานดีดตัวออกมาตั้งชัน ก่อนจะลูบลามไปที่ช่องทางเบื้องหลังที่มีอีกนิ้วแทรกอยู่ก่อน คลำเปะปะคลึงเคล้นรอบจีบพับที่เริ่มขยายออกรอรับการรุกราน
“ดอว์น...เปิดตาให้พี่....” เสียงร้องขอดังขึ้นขณะที่สองนิ้วในร่างยังขยับเข้าออกไม่ยอมหยุด ในขณะที่เสียงครางสลับเสียงหอบกระเส่าก็ยิ่งถี่ระรัว
“หะ....ไม่! อือ...ไม่เพชร..ไม่เอา.......”
“พี่ต้องหยิบเจล......นะครับ”
มือทั้งสองของนายแพทย์หนุ่มหยุดการเคลื่อนไหว ผละออกยันกับพื้นเตรียมจะยกตัวขึ้นนั่ง หากฝ่ามือร้อนจัดและชื้นแฉะของอรุณรุ่งก็ตามมากดไหล่ทั้งสองข้างจนต้องลงไปนอนราบอีกรอบ พร้อมเสียงปฏิเสธปนสะอื้น
“ไม่....ไม่เอาเจล...ฮึก...อือ...ไม่เอาเจลนะเพชร...”
“อื้อ....พี่ไม่อยาก.......ให้เจ็บ นะครับ แป๊บเดียว.......อือ....พี่ไม่ไหวแล้ว....”
ฉับพลัน วัชระรู้สึกว่าร่างที่โอนอ่อนผ่อนตามมาตลอดผละออกห่าง ก่อนความนุ่มหยุ่นที่อุ่นจัดจะหุ้มห่อตัวตน รัดแน่นราวจะบีบคั้นให้แตกทำลาย
“อึ.......อึ้ก...”
ชายหนุ่มยันตัวขึ้นนั่งพลางดึงสิ่งที่ปิดกั้นการมองเห็นออกเหวี่ยงไปไม่รู้ทิศทาง ภาพคนรักที่สั่นระริกไปทั้งตัว ขบฟันกัดริมฝีปากล่างจนแน่นและหยดน้ำใสที่ไหลจากเปลือกตาปิดสนิทราวกำลังได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้วัชระรีบยื่นสองมือจับประคองบริเวณที่ร่างกายกำลังเชื่อมถึงกันเอาไว้ ควบคุมให้คนด้านบนถ่ายเทน้ำหนักบางส่วนมาที่ฝ่ามือแทนที่จะทิ้งตัวลงไปอีก
แต่อรุณรุ่งที่ลืมตามาเห็นกลับยิ่งโถมกายเข้าหา สองมือที่เมื่อแรกเท้าอยู่ที่หน้าท้องแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเกร็งเขม็งยกขึ้นเกาะเกี่ยวรอบลำคอหนา ทำให้น้ำหนักตัวทั้งหมดยิ่งเทไปยังจุดที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดจุกแน่น
“พี่เพชร...อือ.....อือ....ดอว์นเจ็บ”
“พี่รู้......โอ๋....อือ.....ค่อยๆนะ อย่าใจร้อน.......โอย.....ดอว์น.....อูว.......”
“ไม่เอา....อย่ามอง......อ๊า....เจ็บ.....อะ....ดอว์นเจ็บ”
มือข้างหนึ่งของวัชระเลื่อนขึ้นลูบเบาๆไปตามแผ่นหลังของเด็กน้อยที่ตอนนี้เกร็งไปทั้งตัว จมูกปากก็ทำหน้าที่จุมพิตปลอบโยนอยู่แถวข้างแก้ม จนแขนที่ช่วยรองรับน้ำหนักของอรุณรุ่งเริ่มชาคุณหมอจึงผ่อนร่างด้านบนทีละน้อย อดทนรับคมเขี้ยวที่ฝังลงบนไหล่ขวาที่ตัวคนฝังลงมาก็ราวจะไม่มีสติรู้ถึงการกระทำ จนในที่สุดก็สามารถเข้าไปได้จนสุดทาง
“ดอว์น หายใจเข้าออกลึกๆ...อ้ะ.....คนเก่ง.....ดีครับ......อื้อ...ไม่เกร็งนะ จะได้หายเจ็บ...นะครับ........”
“ไม่.....ดอว์นจะ....ดอว์นจะไม่หายเจ็บ อะ.....อ้า...อือ......พี่เพชร เรียกอีก...เรียกชื่อ..อึก...เรียกสิ!!”
สิ้นเสียงร้องสั่ง วัชระพลิกตัวคนด้านบนลงแผ่บนที่นอนแล้วตัวเองขึ้นไปคร่อมทับแทน ชายหนุ่มเริ่มขยับสะโพกช้าๆก่อนจะเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ร้อนเร่าที่โหมกระพือ เสียงพร่ำเรียกชื่อดอว์นดังขึ้นเป็นจังหวะทุกครั้งที่โถมกายเข้าใส่เรือนร่างขาวจัดที่ตอนนี้ทั้งร่างราวถูกย้อมด้วยน้ำคั้นกลีบกุหลาบตอบสนองด้วยการขยับสะโพกและครางรับกับทุกจังหวะกระแทกกระทั้นที่กระหน่ำยาวนาน
อรุณรุ่งปิดเปลือกตาสนิท จดจำทุกความรู้สึกและทุกสัมผัสด้วยเรือนกาย หากไม่ยินยอมที่จะรับรู้ถึงสายตาบรรจุความเสน่หาของคนที่ชักพาให้เพริดตาม ปล่อยให้หยาดน้ำใสไหลจากหางตาลงเป็นทาง ดำดิ่งสู่ความหม่นหมองในฐานะของตน.....อรุณรุ่งผู้เป็นได้เพียงรูปเงา
แดดเช้าลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านสีกรมท่ากระทบกับเปลือกตาของคนที่ยังหลับสนิท ขดตัวจนเป็นกุ้งต้มอยู่ใต้ผ้าห่มนวมสีน้ำเงินเข้ม นายแพทย์วัชระที่อาบน้ำแต่งตัวจนอยู่ในชุดทำงานพร้อมไปโรงพยาบาลแล้วทรุดตัวลงนั่งริมเตียงอย่างเบากริบ กุหลาบขาวดอกใหญ่ก้านตรงถูกไล้กลีบไปตามกรอบหน้าเรียว คุณหมอหนุ่มเผยยิ้มที่ส่งให้ห้องนอนสว่างไสวไม่แพ้แสงแดดยามเช้าเมื่อเห็นแพขนตางอนหนาขยับยุกยิกเหมือนเจ้าตัวกำลังรำคาญสิ่งรบกวนการหลับสบาย อยากจะฟัดแก้มใสนั่นแรงๆให้สมรัก แต่ชายหนุ่มรู้ตัวดี ถ้าหลวมตัวทำอย่างใจคิดกับคนน่ารักตรงหน้า วันนี้มีหวังไม่ได้ไปทำงานแน่
“แล้วพี่จะรีบกลับนะครับ....คนเก่งของพี่”
กุหลาบไร้หนามดอกงามถูกวางไว้ให้บนหมอนหนุนที่เจ้าของผละจากไปแล้ว ในตำแหน่งที่มั่นใจว่าถ้าอรุณรุ่งลืมตาตื่นขึ้นมาจะได้เห็นของกำนัลนี้เป็นสิ่งแรก ก่อนจะออกจากห้องวัชระยังอุตส่าห์หาไม้หนีบในตู้เสื้อผ้ามาเหน็บให้ผ้าม่านสองด้านทบกันสนิท ไม่ยอมให้แสงแดดตัวร้ายทำงายนิทรารมย์อันแสนสุขของคนที่ยังหลับสนิทไม่รู้ตัวได้
เกือบสิบโมงแล้วตอนที่อรุณรุ่งค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นจากการหลับสนิทรวดเดียวเกือบสิบชั่วโมง กุหลาบขาวที่วางอยู่ห่างแค่เอื้อมมือส่งกลิ่นหอมอ่อนๆแตะจมูก ปลายนิ้วขาวอมชมพูด้วยเลือดฝาดยื่นไปหาแล้วไล้ลงกับปลายกลีบที่สวยสมบูรณ์ไม่มีที่ติหรือแม้แต่รอยช้ำเพียงน้อย พลันสายตาก็สะดุดกับกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่วางซ้อนอยู่ด้านใต้ พอหยิบมาดูก็อดยิ้มไม่ได้กับตัวอักษรเป็นระเบียบที่ถูกบีบจนแคบแต่ก็ยังต้องใช้พื้นที่จนเต็มกระดาษ
‘อรุณสวัสดิ์ครับคุณอรุณรุ่ง...นายวัชระเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมด๊าธรรมดาเลยต้องไปทำงานแต่เช้า
ทั้งที่อยากเกงานใจแทบขาด(พี่อยากทำทั้ง morning kiss ทั้ง noon kiss ทั้ง afternoon kiss เลยนี่ครับ)
ถ้าตื่นแล้วคนดีของพี่หิวก็ใช้โทรศัพท์ที่โต๊ะหัวเตียงนั่นกดเบอร์ ‘02’ นะ มันจะต่อเข้าครัวด้านล่าง.....
kiss kiss แล้วพี่จะกลับมาหม่ำข้าวเย็นด้วยนะครับ’ “เพชรบ้า.....นี่ถ้าผมหน้าไม่เหมือนน้องรุ่งคุณคงไม่มองผมเลยสินะ......ทำไมผมต้องรักคุณขนาดนี้ด้วยนะเพชร.....”
อรุณรุ่งกระพริบตาถี่ๆไล่น้ำในตาที่เอ่อคลอจนเกือบล้นให้ย้อนกลับเข้าไปแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะถัดตัวอย่างยากลำบากมาถึงริมเตียงที่พอมีแสงสว่างในตอนกลางวันกลับให้ความรู้สึกกว้างกว่าที่คิด จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนช้าๆ ด้วยขาของตัวเอง
‘ห่านี่ แค่จะอวดว่าน้องเค้ากลับมาแล้วเนี่ยนะ? กูบอกว่าจะทำคลอดจะทำคลอด เด็กจะโผล่หัวออกมาแล้วเนี่ย’ “อ้าว......ก็ที่รักของกูน่ารักนี่หว่า แล้วอย่ามาอำ อย่างมึงถ้าเข้าห้องคลอดไปก็ไม่รับโทรศัพท์แล้ว ทำไม อิจฉากูอะดิ ฮ่าๆๆๆๆ”
วัชระที่วันนี้ไปทำงานอย่างอารมณ์ดีตั้งแต่เช้ากำลังขับรถกลับคอนโดไปคุยโทรศัพท์กับที่ปรึกษาเจ้าประจำไป
‘มึงอย่าๆ แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว ระริกระรี้ขนาดนี้มึงได้น้องเขาแล้วล่ะสิ แม่ง ไวนักนะมึง.....อย่าบอกนะว่ามึงปล้ำน้องดอว์นอ้ะ?’
“เปล่าเว้ย! ที่รักเต็มใจตะหาก หึๆๆ ไม่เหมือนมึงหรอกไอ้กิมเอ๋ย...ขืนรออยู่อย่างนี้ไอ้ใหญ่มันเสร็จคนอื่นแน่ หึๆๆๆ”
‘ห่า ปากหมา! วางหูไปเลยไอ้เพชร กูจะไปแดกข้าว มึงนะมึง มาทำให้กูคิด....เอ๊ะ หรือกูจะรวบหัวรวบหางไอ้ใหญ่ซะเลยดีมั้ยวะ?’
“เอาดิ กูจะคอยดู ว่าตกลงมึงจะได้ศรีภรรยาจริงอย่างที่พูดรึเปล่า ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
วัชระตัดสายโดยไม่รอฟังคำสบถที่กลายเป็นคำพูดติดปากของเพื่อนสนิทไปแล้วอีก ชายหนุ่มหอบหิ้วทั้งของสดของแห้งรวมถึงเครื่องดื่มที่กวาดซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ตเยอะจนแทบหิ้วไม่หมดไปยืนเคาะประตูอยู่หน้าห้อง คีย์การ์ดก็มีอยู่หรอก แต่ใจมันอยากให้มีคนที่คอยอยู่เปิดประตูให้แล้วพอก้าวเข้าไปก็ได้จุ๊บเบาๆต้อนรับกลับบ้านนี่นา
ยืนรอไม่ถึงอึดใจราวกับคนที่อยู่ด้านในมานั่งคอยท่าอยู่ตรงโถงหน้า ประตูไม้บานหนาก็แง้มออก ใบหน้าที่คิดถึงมาทั้งวันประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ ไม่มีคำพูดต้อนรับกลับบ้าน แต่ฝ่ามือขาวสะอ้านกระตุกข้อมือดึงคุณหมอตัวโตเข้าไปในห้อง ก่อนจะปลดข้าวของที่ชายหนุ่มหอบหิ้วมาเต็มสองแขนลงวางกองกับพื้นแล้วเขย่งตัวเพียงนิดเดียวชะโงกหน้าเข้ามาแตะปากลงบนริมฝีปากของคุณหมอพร้อมกับกระซิบเบาๆ
“คิดถึง......”
“พี่ก็คิดถึงดอว์น” ดวงตาพราวหวานปรายมองก่อนจะยิ่งกระชับอ้อมกอดจนแนบแน่น อรุณรุ่งซุกหน้าเข้ากับซอกคอของคุณหมอตัวโต สูดกลิ่นอุ่นๆประจำตัวเอาไว้จนเต็มปอด หากพอผละออกมาก็ต้องปล่อยเสียงหัวเราะพรืดกับปริมาณข้าวของที่อีกฝ่ายกวาดมาราวกับไม่เคยต้องไปเลือกซื้อของสดเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“คงไม่ต้องถามแล้วมั้ง ว่าทำกับข้าวเป็นรึเปล่า”
“ดูถูก......พี่ทำเป็นนะ”
“เหรอ?.......ไปอาบน้ำดีกว่ามั้ง เดี๋ยวตรงนี้ผมจัดการเอง”
อรุณรุ่งออกแรงดันหลังคุณหมอให้ก้าวไปทางประตูห้องนอน ในขณะที่อีกฝ่ายก็แกล้งฝืนตัวเองทิ้งน้ำหนักตัวมาทางคนดันเต็มที่ จนเห็นน้องดอว์นของพี่เริ่มหายใจทางปากนั่นแหละคนที่ยืนยันว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่แล้วถึงได้ยอมก้าวเดินดีดี
“พี่ทำเป็นจริงๆ”
“แล้ว....ไอ้ที่ว่าทำเป็น มันอาหารประเภทไหนเหรอ ว่าไงครับ คุณหมอ?”
“ประเภทผัด....ข้าวผัดไข่ฝีมือพี่เพชรอร่อยสุดยอด”
“ฮะๆๆๆ งั้นดีเลย พรุ่งนี้เช้าก่อนไปทำงานทำไว้ให้ผมด้วยนะ กล้าป้ะ? เพราะถ้าไม่อร่อยจริงล่ะก็...พรุ่งนี้จะมีบทลงโทษ”
วัชระไม่ทันสังเกตว่าสีหน้าของคนรักแปลกไปเมื่อเอ่ยถึงบทลงโทษ เพราะชายหนุ่มมัวจดจ่ออยู่กับน้ำเสียงยั่วเย้าที่เพิ่งจะได้ยินอรุณรุ่งใช้แค่วันสองวันนี้ แต่ได้ยินกี่ครั้ง...ก็เหมือนกับว่า ‘ของ’ มันจะขึ้นเสียทุกที
“รับคำท้าครับผม!”
วัชระไม่รู้ว่าตัวเองยิ้มได้มากขนาดนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆแม้ชีวิตนี้จะกินอาหารมานับร้านไม่ถ้วนแต่ชายหนุ่มก็ตัดสินใจได้แล้วว่า อาหารที่อร่อยที่สุดมาจากฝีมือพ่อครัวชื่ออรุณรุ่งคนนี้ที่ทำกับข้าวง่ายๆแค่สามอย่าง อย่างผัดผักรวมมิตร
.....เพราะคุณแหละ ซื้ออะไรไม่รู้เปะปะขนาดนี้ ทั้งคะน้า แครอท ข้าวโพดอ่อน ถั่วลันเตา กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ มะเขือม่วง มะเขือเทศ ซื้อมาขนาดนี้ถ้าไม่กินสลัดก็ต้องผัดผักรวมมิตรนี่แหละ หรือคุณจะให้ผมต้มจับฉ่าย?
ต้มซุปปีกไก่
.....ปีกไก่นี่อย่าทอดเลยเนอะ คุณแก่แล้ว กินของทอดไม่ดีหรอก มะเขือเทศกับหอมใหญ่เหลือตั้งเยอะ เอามาใช้ดีกว่า ถ้าเหลือพรุ่งนี้ก็ยังซดน้ำแกงได้อีก มีประโยชน์ด้วย
แล้วก็ไข่ตุ๋นนิ่มๆ
.....เนี่ยเผื่อไว้ เผื่อกับข้าวฝีมือผมไม่ถูกปากคุณ ยังไงไข่ตุ๋นนี่คุณก็ยังกินได้แน่ๆ ผมใส่เนื้อกุ้งด้วยนะ คุณตักให้ถึงก้นถ้วยสิ มาผมตักให้เอง.....
วัชระเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักจะมีความคิดแปลกๆขึ้นทุกทีเมื่อจับตามองคนน่ารักที่หลับตาพริ้มซุกตัวเข้ากับอ้อมอกของตนตอนนี้.....
......ถ้าคนเราไม่ต้องนอนหลับก็คงดี จะได้มองน้องดอว์นของพี่ได้ตลอดเวลา เช้าวันพุธอรุณรุ่งลุกจากที่นอนแล้วเดินตามกลิ่นหอมยั่วน้ำลายเข้าไปถึงครัวทั้งยังสะลึมสะลือ ภาพของผู้ชายตัวโตในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงแสล็คสวมถุงเท้าเรียบร้อย ขาดอยู่ก็แต่เนคไทสีเข้มที่เจ้าของวางพาดไว้บนพนักเก้าอี้ข้างๆ ทำให้อดไม่ไหวจนต้องเข้าไปขโมยหอมแก้มที่มีกลิ่นอาฟเตอร์เชฟอ่อนๆติดอยู่ทั้งสองข้าง
คนที่ถึงขโมยหอมแก้มคุณหมอตัวโตไปตั้งสองฟอดแล้วยังไม่ตื่นเต็มตาเดินเอียงๆไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาเทดื่มอั้กๆให้คนจับตามองต้องอมยิ้ม ท่าทางที่เอื้อมมือหยิบแก้วน้ำพลาดเพราะเดินออกมาจากเตียงทั้งที่ยังไม่ได้ใส่แว่นทั้งน่ารักทั้งน่าขันในสายตาของคุณหมอ
“เอ๋.....ทำไมใส่แว่นล่ะ?”
คนสายตาสั้นมากแต่สะลึมสะลือจนลืมหยิบแว่นชะโงกหน้าเข้าไปหาพ่อครัวจนห่างไม่ถึงคืบ เลยถูกคนรอโอกาสอยู่แล้วงับหมับเข้าที่จมูกแหลมๆเสียหนึ่งที
“งื้อออออ”
“ก็พี่ต้องมาทำข้าวผัดให้เด็กแถวนี้ เลยต้องรีบน่ะสิ อุตส่าห์สละเวลาใส่คอนแทคเลนส์มาเพิ่มให้เวลาตอกไข่เลยนะ”
“โอ๋....ซึ้งจัง รอแป๊บนะ”
หมอเพชรได้แต่ยิ้มขำเมื่อมองตามหลังคนที่อยู่ๆก็เข้ามากอดเองแล้วผละออกเองอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งอ้าวกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง
ข้าวผัดไข่จริงๆเพราะไม่ใส่อะไรเลยนอกจากข้าว ไข่ และเครื่องปรุงรสอย่างซีอิ๊วขาว ซอสถั่วเหลือง และน้ำมันหอยอีกเล็กน้อยที่คนทำมั่นใจอย่างยิ่งว่าอร่อยสุดยอดถูกตักใส่จานกระเบื้องใบใหญ่ และคนสวมบทพ่อครัวทั้งชุดทำงานก็นั่งลงจิบกาแฟเข้มๆขมจัดคอยคนที่หายเข้าไปในห้องเกือบห้านาที
ไม่ถึงอึดใจอรุณรุ่งก็วิ่งกลับออกมาในชุดเดิม แต่หน้าตาสดชื่นพร้อมกับแว่นสายตาบนดั้งจมูก พอเข้ามาถึงตัวก็แทรกตัวเข้ามานั่งคร่อมอยู่บนตักแล้วมอบจูบให้คุณหมอยาวนานจนแทบลืมหายใจ
“พี่พูดจริงนะ ที่บอกว่าดอว์นไม่ต้องไปสมัครงานที่ไหนน่ะ...แค่มาอ้อนอย่างนี้ ไม่ใช่แค่หมื่นห้าด้วย ห้าหมื่นเลย....จะเอาเป็นโอนเข้าบัญชีหรือเอาเป็นบัตรเครดิตรูดปื๊ดๆก็ได้”
อรุณรุ่งไม่ตอบโต้ แต่ลุกขึ้นยืนแล้วหยิบเนคไทที่วางพาดอยู่มาจัดการผูกให้คุณหมอด้วยตัวเองก่อนจะดึงให้ลุกขึ้นยืนแล้วจูงไปส่งถึงหน้าประตู
“Kiss me goodbye, please….” อรุณรุ่งที่ยังอยู่ในชุดนอนกางเกงเลสีฟ้ากับเสื้อยืดบางๆสีขาวเท้ามือกับบ่าทั้งสองข้างของคุณหมอตัวโตแล้วยื่นหน้าเข้าไปจูบเบาๆก่อนจะผละออกอย่างอ้อยอิ่งตามคำขอ
“Goodbye….my love.”.................................................................
..โปรดติดตามตอนต่อไป..
แหะๆ เลิฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ยูวววววววว เจ้าค่ะ งุงิ