Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม  (อ่าน 45313 ครั้ง)

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม
« เมื่อ24-11-2010 19:47:08 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2011 08:22:52 โดย บีบีจัง »

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม 1
«ตอบ #1 เมื่อ24-11-2010 19:48:09 »

------ 1 ------

“เยี่ยมมากฮิสึกายะคุง” เสียงชื่นชมจากอาจารย์และเสียงปรบมือจากเพื่อนในชั้นเรียนไม่ได้ทำให้รอยยิ้มปรากฎบนหน้านิ่งๆนั้นแม้แต่น้อย
“ขอบคุณครับ” ร่างสูงโปร่งก้มหน้าเล็กน้อยและเดินกลับไปนั่งที่ของตนเอง เด็กหนุ่มที่เป็นหัวกะทิของสายวิทย์ผู้ไม่เคยยี่หระต่อสิ่งใด เขามักจะทำหน้าเรียบๆไม่แสดงอารมณ์ ทำให้ยากต่อการคาดเดา
“เอาละ งั้นก็ไปพักกลางวันได้แล้ว แต่อย่าลืมทำการบ้านมานะ” พอสิ้นเสียงอาจารย์ ทุกคนก็เฮโลกันไปพักกลางวันกันทันที
“ฮิสึกายะ นายจะไปกับพวกฉันเลยมั้ย” คางามิ โชจิ เพื่อนของฮิสึกายะเดินเข้ามาถาม แต่ก็ได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้า
“ฉันจะไปซื้อแซนวิช อยากอ่านหนังสือที่ค้างอยู่ให้จบไวๆ” แล้วก็เดินออกมาโดยไม่สนใจวว่าเพื่อนจะพูดอะไรต่อ
“มันจะอิ่มเหรอ แค่แซนวิชเนี่ย” คางามิเกาหัวแกรก รู้จักกันมาตั้งแต่ม.ต้น แต่ฮิสึกายะก็ยังเข้าถึงยากเหมือนเดิม นี่ถ้ารู้ว่าฉายาของตัวเองที่เพื่อนในกลุ่มแอบเรียกขานขึ้นมาคงจะยิ่งห่างเหินเข้าไปอีกแน่นอน
“นายต้องไม่ชอบแน่ๆเลย ไอ้ฉายา ‘ราชินีน้ำแข็ง’ เนี่ย”


ร่างสูงบอบบางเดินฝ่าไอแดดในฤดูร้อนเข้าไปในสวนริมสนามฟุตบอล ดวงตาคมตวัดมองพวกปีหนึ่งที่เล่นฟุตบอลกันอย่างบ้าคลั่งไม่กลัวแสงแดดก็รู้สึกสงสัยว่าไม่ร้อนกันหรืออย่างไร ตัวเขาเองนั้นตั้งแต่จำความได้ก็ไม่ชอบทำอะไรที่ต้องใช้แรง ในขณะที่เพื่อนมักจะเล่นกีฬากัน แต่เขาจะเลือกอ่านหนังสือที่เขาชอบยังดีกว่า
‘วันนี้ร้อนจัง’ มือขาวละเอียดปาดเหงื่อที่ไหลตามไรผมสีน้ำตาลก่อนจะนั่งลงที่ใต้ต้นซากุระต้นประจำของเขา แซนวิชใส้ผักและนมรสหวานถูกวางลงข้างตัว มืออีกข้างเปิดหนังสือเล่มที่ติดตัวมาและเริ่มอ่านอย่างตั้งใจ
“เห...มีคนชอบอ่านหนังสือเรื่องนี้ด้วยแฮะ” เสียงทุ้มดังขึ้นขัดจังหวะฮิสึกายะ แต่คนอย่างเขาไม่มีทางใส่ใจกับคนไร้สาระพวกนี้หรอก
“เฮ้ นายน่ะ ชอบนักเขียนคนนี้ด้วยเหรอ ชอบเหมือนฉันเลยนะ นี่นาย ฉันเรียกได้ยินมั้ย เฮ้” ความอดทนที่ฮิสึกายะขาดผึงต่อเสียงปริศนา เขาหันหน้าไปทางด้านหลังหวังจะเห็นหน้าคนไร้มารายาทสักหน่อย
“โอ๊ะ นึกว่าใคร ที่แท้เด็กอัจฉริยะปีสองนั่นเอง” เจ้าของเรือนผมสีดำสนิท จมูกโด่ง นัยตาสีฟ้าสดใสทำให้ฮิสึกายะอึ้งไปชั่วขณะ
“มีอะไร” มีเพียงน้ำเสียงราบเรียบที่ตอบกลับไป นี่ละ ฮิสึกายะ
“นี่นายพูดกับรุ่นพี่แบบนี้ได้ยังไง ฉันอายุมากกว่านายนะ”
“มีอะไรครับรุ่นพี่” คำเรียกขานใหม่ แต่น้ำเสียงยังห้วนและเย็นชาเหมือนเดิม
“ฉันแค่สนใจที่นายอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะฉันก็ชอบเหมือนกัน”
“ครับ” รุ่นพี่ทำหน้างง ทำไมรุ่นน้องคนนี้จึงไร้อารมณ์ขนาดนี้ แถมยังมีมนุษย์สัมพันธ์อันห่วยแตกอีกต่างหาก
“?” ฮิสึกายะมองรุ่นพี่ตรงหน้าอย่างงงๆที่เขายังไม่ยอมขยับไปไหน แล้วยังขยับมายืนค้ำตรงหน้าอีก
“ขอนั่งด้วย เถิบไปหน่อยสิ” รุ่นพี่คนนั้นลงมานั่งข้างฮิสึกายะโดยไม่สนใจต่อสายตาเย็นเยียบ และยังผิวปากอย่างสบายอารมณ์
‘หน้าด้าน..’ คิดในใจคนเดียว แล้วก็เลิกสนใจคนข้างๆ แต่พอจะเริ่มอ่านหนังสือต่อ เสียงทำนองผิวปากก็ดังรบกวนโสตประสาทขึ้นมาอีกครั้ง อยากจะด่า แต่ก็ข่มใจไว้ ว่าแต่เอ..นี่มันเพลงอะไรนะ เหมือนเคยได้ยินมาก่อนเลย
“เพราะมั้ย?” เหมือนรู้ว่าเขากำลังฟัง รุ่นพี่คนนั้นหันมาถาม ฮิสึกายะรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ในใจคิดว่าถ้าหันไปมองคงต้องเจอกับสายตาล้อเลียนแน่ๆเลย
“นายคิดว่ามันเพราะมั้ย เพลงที่ฉันผิวปากน่ะ” ฮิสึกายะเงยหน้ามองเมื่อถูกถามซ้ำ แต่แววตาของคนถามนั้นไม่ได้มีแววล้อเลียน มันเป็นเพียงแววตาสงสัยอย่างแท้จริง
“อ..อืม..” ได้แต่พยักหน้าเบาๆ หวังงว่าเขาคงไม่รู้ว่าเราหน้าแดง
“All the love in the world”
“ของ The Corrs สินะครับ”
“นายรู้จักจริงๆด้วย” รอยยิ้มเจิดจ้าและฟันขาวเรียงเป็นระเบียบนั้นช่างดูสดใสเหลือเกิน..
“เงียบอีกละ” รุ่นพี่บ่นเมื่อเห็นว่าฮิสึกายะคงเงียบต่อ พอจะชวนคุยอีกเสียงออดเข้าเรียนก็ดังพอดี ฮิสึกายะรีบลุกขึ้นแต่ก็ถูกรั้งแขนเอาไว้
“ฉันชื่อโอโตนาชิ โค จำไว้ด้วยนะ” ฮิสึกายะไม่เข้าใจว่าทำไมรุ่นพี่คนนี้ต้องบอกชื่อกับเขา ไม่ใช่ว่าจะได้คุยกันอีกเสียเมื่อไร ทั้งที่นึกแบบนั้นแต่สมองกลับจำชื่อได้แม่นยำ พอรู้ตัวว่าตัวเองยืนอึ้งจึงรีบสะบัดมือออกและเดินจากมา
‘โอโตนาชิ โค..’


บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม 2
«ตอบ #2 เมื่อ24-11-2010 19:57:10 »

------ 2 ------
‘ไปร้านหนังสือก่อนกลับดีกว่า..’ หยิบหนังสือใส่กระเป๋าแล้วก็ตั้งท่าจะเดินออกจากห้องเรียน แต่ก็ถูกเพื่อนเรียกไว้ก่อน
“ฮิสึกายะ นายจะไปร้านหนังสือหรือเปล่า” ฮิสึกายะพยักหน้าตอบคางามิ
“งั้นฉันไปด้วยสิ มีแม็กกาซีนออกใหม่พอดี” คางามืรีบคว้ากระเป๋าแล้วเดินตามฮิสึกายะออกมา
“นั่นเขามีอะไรกัน ?” คางามิชะโงกมองกลุ่มคนจำนวนมากที่กำลังมุงดูอะไรบางอย่างระหว่างทางไปร้านหนังสือ
“ไม่รู้สิ” คนอย่างฮิสึกายะไม่เคยสนอะไรอยู่แล้ว แต่ดูท่าว่าคางามิคงสนใจจริงเพราะเดินเข้าไปดูและทิ้งให้ฮิสึกายะยืนอยู่คนเดียว
‘น่าเบื่อจริงๆ ไปก่อนละกัน’ แล้วก็เดินต่อไปที่ร้านหนังสือคนเดียว
‘อืม...บรรยากาศนี้ กลิ่นหมึกในหนังสือ ชอบจังเลย..’ ฮิสึกายะสูดกลิ่นในร้านหนังสือ กลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของร้านหนังสือ กลิ่นหมึก กลิ่นกระดาษ กลิ่นที่เขาโปรดปราน ขายาวๆก้าวนำร่างไปยังมุมโปรดที่มีป้ายบอกประเภทหนังสือชัดเจน
นิยายรัก
ใครจะคิด!! ว่าคนอย่างฮิสึกายะจะชอบอ่านนิยายรัก แต่นั่นก็เป็นเรื่องจริง เขาชอบอ่านนิยายรัก ชอบอ่านมากๆ และมักจะซื้อติดมือกลับไปทุกครั้ง
‘เล่มนั้นสะดุดตาดีแฮะ อึ๊บ’ ฮิสึกายะเขย่งร่างเพื่อจะหยิบนิยายที่มีสีสันสะดุดตา แต่ทว่ากลับอยู่ชั้นบนสุด แม้เขาจะสูงแล้ว แต่ไอ้ชั้นนี้ดันสูงกว่าเขาเสียอีก ยืดแขนจนสุดก็หยิบไม่ถึง จึงกะว่าจะเอาที่บันไดมาปีน
“โอ๊ะ” ฮิสึกายะถอยหลังและไปชนเข้ากับบางอย่าง
“อยากได้เล่มไหนหรือ?” เสียงนี้...โอโตนาชิ โค
“ไม่ต้อง ผมหยิบเองได้” ฮิสึกายะหันไปมองรุ่นพี่โอโตนาชิในชุดไปรเวทแปลกตา
‘แต่งซะเต็มยศ จะไปถ่ายแบบที่ไหนล่ะ’ ฮิสึกายะแอบเหน้บในใจ เพราะชายหนุ่มตรงหน้าแต่งตัวเต็มยศ ดูดีจนไม่เข้ากับสถานที่แห่งนี้ เอ๊ะ นี่สูงกว่าเขาอีกรึเนี่ย ฮึ้ย ไม่ปลื้มเลย
“เล่มนี้สินะ” หนังสือที่ฮิสึกายะหยิบไม่ถึงถูกรุ่นพี่ที่สูงกว่าหยิบได้อย่างง่ายดาย นี่เขาไม่ใช่ผู้หญิงนะ เขาดูแลตัวเองได้
“ขอบใจ” รีบสาวเท้าไปจ่ายเงินและออกจากร้านอย่างเร็วที่สุด
“นี่ อ่านนิยายแบบนี้ด้วยเหรอ หึหึ ไม่น่าเชื่อนะ” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน ฮิสึกายะรู้สึก่าสติขาดผึงทันที
“รุ่นพี่จะมายุ่งอะไรกับผมนักหนา ผมไม่ต้องการเพื่อนหรอกนะ ผมชอบอยู่คนเดียว!” เป็นประโยคยาวที่สุดในรอบเดือนของฮิสึกายะ เจ้าตัวตะโกนเสียงดังและหอบแฮ่กๆ
“ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนนายนี่” รุ่นพี่ตอบกลับหน้าตาเฉย
“ก็ดี งั้นอย่ามาเซ้าซี้กับผมอีก!” คอนโดของเขาอยู่ใกล้ๆ ฮิสึกายะรีบจ้ำไปจนถึงตึกสร้างใหม่เอี่ยมดูหรูหราเบื้องหน้า
“เฮ้ อย่าตามผมมาสิ” ฮิสึกายะโวยเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่เดินตามเขามาจนถึงหน้าลิฟต์ นี่ผ่านแสกนม่านตาเข้ามาถึงนี่ได้ยังไงกันนะ
“ฉันไม่ได้ตามนาย ฉันก็พักที่นี่” รุ่นพี่แย้งและหันไปโบกมือให้กับผู้จัดการคอนโด เขาอยู่ที่นี่จริงรึเนี่ย....
“ฮึ่ย” ฮิสึกายะพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด ทำไมถึงน่ารำคาญแบบนี้ แล้วยังต้องมาอยู่ในลิฟต์สองต่อสองแบบนี้อีก
“หึหึ ฉันทำให้ราชินีน้ำแข็งเดือดปุดได้หรือนี่” ฮิสึกายะหันควับ สายตาวาวโรจน์
“ใครกัน ไอ้ราชินีน้ำแข็งนั่นน่ะ”
“ก็นายไง ฉายาของนายไง ไม่รู้ตัวเหรอ”
“ผมเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง เป็นราชินีไม่ได้!” รุ่นพี่อมยิ้มกริ่ม ยิ่งทำใหฮิสึกายะโมโหมากขึ้น
ติ๊ง
“ประสาท” ฮิสึกายะด่าแล้วเดินออกมา แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีคนเดินตามมาอีก
“นี่ตามผมมาใช่มั้ย”
“No ฉันก็อยู่ชั้นนี้เหมือนกันนะ” รุ่นพี่ยักไหล่ท่าทางกวนประสาท ฮิสึกายหยุดยืนเพื่อรอให้อีกฝ่ายเดินนำไป
“ห้องฉันอยู่ริมสุด ไว้วันหลังจะเชิญมาเยี่ยนเยียนนะ ราชินี” แววตายั่วเย้าเป็นประกาย ก่อนจะจับมือของฮิสึกายะขึ้นมาและจูบลงไปที่หลังมือเนียน สัมผัสแผ่วเบาราวขนนกกลับทำให้หัวใจของคนถูกจูบเต้นโครมคราม
“!!” ทำอะไรไม่ถูก ฮิสึกายะไม่สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ เขาตกใจมากเกินไป
“มือหอมจริงนะพระองค์ หึหึ” ลิ้นอุ่นเลียทับไปที่รอยจูบ
“รสชาติก็หวาน ไว้วันหลังจะมาชิมตรงอื่นนะพะยะค่ะ” รุ่นพี่โค้งคำนับให้และเดินจากไป ทิ้งให้ฮิสึกายะยืนอึ้งเป็นตอไม้อยู่กับที่
“อะ ไอ้บ้า...” เรียกสติกลับมาแล้วก็เช็ดหลังมือกับกางเกง ทำไมหัวใจต้องเต้นตึกตักแบบนั้นด้วยนะ ฮิสึกายะตบแก้มตัวเองเพื่อเรียกสติ ก่อนจะเดินไปที่ห้องตัวเองและทาบนิ้วลงไป
‘ยินดีต้อนรับกลับบ้าน คุณฮิสึกายะ ซัตสึคิ’ ข้อความปรากฎขึ้นบนจอ ประตูปลดล็อกดังกริ๊ก เขารีบเดินเข้าไปและล็อกประตูทันที คอนโดที่นี่มีระบบความปลอดภัยแน่นหนา หวังว่านายนั่นคงไม่บุกเข้ามาในห้องของเขาหรอกนะ
‘ราชินีน้ำแข็งบ้าอะไร ฉันเป็นผู้ชายต่างหาก’ ฮิสึกายะนึกถึงฉายาที่ตนเองเพิ่งได้ยิน เขาหันไปมองเงาที่สะท้อนมาจากกระจกตรงทางเดิน ร่างสูงโปร่ง ผิวขาวเนียน ใบหน้าคม ดูตรงไหนก็ผู้ชายชัดๆ

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ราชินีน้ำแข็งจะละลายไหมนะ

 :L2: :L2:

ติดตามต่อจ้า 

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม 3
«ตอบ #4 เมื่อ26-11-2010 12:13:10 »

------ 3 ------

ติ๊งต่อง~
เสียงออดในเวลาเช้าตรู่ของวันหยุดทำให้คนที่กำลังทำอาหารเช้าของตัวเองรีบผละไปที่ประตูหน้า ตาคมจ้องมองผ่านตาแมวแล้วก็ตกใจ
‘เปิดก็โง่สิ’ ฮิสึกายะพึมพำ แต่ดูเหมือนคนด้านนอกจะรู้เท่าทันความคิด เพราะเสียงออดเริ่มดังรัวอย่างบ้าคลั่ง
ติ๊งต่องๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“หนวกหู” คนหน้าประตูยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าฮิสึกายะยอมเปิดประตูให้ ร่างสูงในชุดลำลองรีบก้าวเข้ามา เสื้อสเว็ตเตอร์สีครีมตัวโตและกางเกงสแล็คสีขาวทำให้รุ่นพี่ดูแปลกตา
 “หอมจัง ทำอะไรกินน่ะ” รุ่นพี่ทำจมูกฟุดฟิดและสูดกลิ่น เฮอะ ฝันไปเถอะว่าเขาจะทำอาหารเผื่อ
จ๊อกกก ~
“เอ่อ...ทานอาหารเช้าด้วยกันมั้ยครับ” พูดออกไปแล้วก็อยากจะตบปากตัวเอง แต่ทำไงได้ เขาทอดทิ้งคนที่หิวจนท้องร้องไม่ลงนี่นา
“จริงเหรอ งั้นขอรบกวนหน่อยนะ” รุ่นพี่เดินตามเข้ามาในครัวเหมือนลูกหมาของของกิน
“หยิบแก้วในตู้กับน้ำส้มในตู้เย็นไปตั้งที่โต๊ะด้วยครับ” อยากกินก็ต้องช่วยกันสินะ เขาคิดแล้วก็สั่ง
“เอ่อ นายอยากได้โกโก้ กาแฟ หรือชามั้ย” รุ่นพี่มายืนถามข้างๆ ฮิสึกายะนิ่งคิดแล้วตอบไป
“ไม่” สั้นๆ เรียบง่าย เขาหันไปทอดเบคอน ไส้กรอกในกระทะต่อ บางทีก็แอบเหลือบไปมองรุ่นพี่ที่สาละวนกับการหยิบขนมปังปิ้งออกจากเครื่องปิ้ง
“เอาแยมมั้ย” รุ่นพี่ถามและผมก็ส่ายหัว แต่เขาก็ยังหยิบไปวาง สงสัยจะชอบกินแยมละมั้ง และพอเขาเห็นว่าผมถือจานไข่ดาวและเบคอนมาเต็มไม้เต็มมือก็รีบเข้ามาช่วยยกไปวางที่โต๊ะ
“ทำไมทำเยอะจัง หรือว่าทำเผื่อฉัน” รุ่นพี่ถามกรุ้มกริ่ม แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด ผมรีบตอบไปทันที
“ผมกินเยอะ” นั่งลงบนเก้าอี้และหยิบผ้าเช็ดปากมาวางบนตัก ผมตักไข่ดาวสองใบ เบคอนสี่แผ่น ไส้กรอกอีกห้าอันมาไว้บนจานตัวเอง
“นาย..กินจุนะ”  รุ่นพี่มองอึ้งๆ คงไม่เชื่อละสิว่าผมผอมแบบนี้จะกินเยอะ
“อืม เมตาบอลิซึ่มผมไม่ดี”
“เมตา..อะไรนะ”
“เมตาบอลิซึ่ม เป็นระบบเผาผลาญน่ะ” รุ่นพี่ยังทำหน้างง ผมไม่สนใจและกินต่อ คนตรงหน้าตักอาหารใส่จานตัวเองในปริมาณที่มากกว่าผมเสียอีก กินขนาดนี้ถึงได้ตัวโตอย่างกับยักษ์
“แยมนี่อร่อยจัง” เขาชมหลังจากกัดขนมปังที่ป้ายแยมไปหนาเป็นนิ้ว
“ขอบคุณ”
“?? นายเป็นคนทำเหรอ ?”
“ใช่”
“นายนี่สุดยอดจริง ทำอาหารเก่งสุดยอดเลย แล้วนี่มันแยมอะไรล่ะ” เขาถามไปมือก็ทาแยมไปหนาปึ้ด
“ราสพ์เบอร์รี่”
“สุดยอด~” ผมไม่เข้าใจคนที่กินแยมหวานๆกับอาหารเช้าเลยสักนิด มันไม่เข้ากันเลย ยิ่งคนตัวโตๆมานั่งกินอะไรหวานๆยิ่งดูพิลึก
“เอาชามั้ย?” ผมถามขณะนั่งเท้าคางมองรุ่นพี่ล้างจาน นายคนนี้ก็นิสัยใช้ได้เหมือนกันนะ
“เอาๆ ขอขนมด้วยนะ” ผมกรอกตา คนอะไรกินจุกว่าผม แล้วยังมีหน้ามาหาว่าผมกินจุอีก
“นี่ครับ”  ผมวางแก้วชาฝรั่งลงบนโต๊ะพร้อมด้วยพายแอปเปิ้ลที่ผมเพิ่งทำเมื่อวานเย็น
“เอาแยมมาทำอะไร” ผมเงยหน้ามองรุ่นพี่ที่ทำหน้างงเมื่อเห็นผมเปิดฝากระปุกแยม ผมยิ้มเรียบๆและใช้ช้อนตักแยมราสพ์เบอร์รี่ระดับเทพของผมขึ้นมา ผมใส่แยมลงไปในแก้วทั้งสองใบและคน
“เชิญ” ผมผายมือให้ชิม รุ่นพี่ลังเลแต่ก็ยกขึ้นมาจิบ
“อะ อร่อยมาก! มันเข้ากันดีมากๆเลยซัตสึคิ” ผมยืด นี่ละประโยชน์ที่แท้จริงของแยมที่ผมทำ แต่เอ๊ะ เมื่อกี้เขาเรียกผมว่าอะไรนะ
“เรียกผมว่าอะไรนะ”
“ซัตสึคิไง ชื่อนายไม่ใช่เหรอ”
“ห้ามเรียกนะ!” บ้าจริง รู้ชื่อผมได้ยังไงกัน ชื่อของผมห้ามเรียกมั่วซั่วนะ
“พายนี้อร่อยจัง นุ่มละมุนมากเลย”
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ห้ามเรียกชื่อผมนะ”
“ทำไมละ?” ผมอ้ำอึ้ง ตอบไม่ถูก ใครจะกล้าตอบละ...
“อายใช่มั้ย?” ผมไม่ได้อาย จะอายทำไม้
“ก็ชื่อมันเหมือนผู้หญิงนี่นะ” ยกชาขึ้นมาจิบด้วยท่าทางสบายอารมณ์ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ
“เรื่องของผม” ในที่สุดฮิสึกายะก็สงบลงได้ และลงมือจิบชากับกินพายแอปเปิ้ล
“นายทำอาหารอร่อยมากเลยนะ ฉันรู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์เลย” วันหลังจะใส่ยาพิษให้กิน
“นายชอบทำอาหารงั้นเหรอ” ถามโง่ๆ ไม่ชอบจะทำซะขนาดนี้เรอะ
“ทำไมถึงชอบทำอาหารล่ะ” ก็เพราะ..
“นี่ ตอบในใจน่ะฉันไม่รู้หรอกนะ พูดออกมาสิ” อ้าว โทษที ลืมตัวไปหน่อย อยู่คนเดียวจนชิน
“การทำอาหารก็เหมือนการทดลองทางวิทยาศาสตร์นั่นละครับ”
“ตรงไหนกัน พิลึกคน”
“อ้าว ก็การทำอาหารมีสัดส่วนที่พอเหมาะ เหมือนเวลาตักสารใส่หลอดทดลอง แค่ใส่ผิดปริมาณการทดลองก็เปลี่ยน เหมือนการทำหาร ถ้าเราใส่เยอะเกินรสชาติก็เปลี่ยนไปเลย และเวลาที่เราลองทำอาหารสูตรใหม่ๆสำเร็จมันก็เหมือนกับพบสูตรเคมีสูตรใหม่นั่นละครับ” ฮิสึกายะคงไม่รู้ตัวว่าคนตรงหน้ากำลังนั่งมองเขาด้วยแววตาอบอุ่น และคงไม่รู้ตัวว่าเวลาอยู่กับคนตรงหน้านี้ เขาจะมีท่าทีแสดงออกที่แปลกไปจากปรกติ
“นายพูดเก่งขึ้นนะ” ฮิสึกายะนิ่งอึ้ง ตายละ นี่เขาพูดมากขนาดนั้นได้ยังไงกัน
“ฉันอยากอยู่กับนายต่อนะ แต่ต้องไปทำงานก่อน อ้อ ตอนบ่ายโมงให้เปิดโทรทัศน์ไว้ด้วยนะ ช่อง M Channel นะ” รุ่นพี่เดินออกไปที่ประตูและหันมาสั่งฮิสึกายะ
‘?? M Channel ช่องบันเทิงนี่นา มีอะไรนะ และเขาไปทำงานอะไรกัน เป็นนักเรียนไม่ใช่เหรอ?’

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
ราชินีน้ำแข็งใจละลายยยยย น่ารักจังน๊าาา รุ่นพี่
คิดว่าราชินีน้ำแข็งคงมีใจให้บ้างหล่ะ อุตส่าห์
ชวนทานข้าว  :o8: :o8: น่ารักจังเลยน๊าาาา
รอตอนต่อไปจ้า  :mc4: :mc4:

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม 4
«ตอบ #6 เมื่อ27-11-2010 00:08:51 »

------ 4 ------

ร่างสูงเก็บแก้วและจานไปไว้ในอ่าง ก่อนจะเดินมาที่โซฟาในห้องนั่งเล่น มือหยิบรีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ที่นานๆจะเปิดสักที และจะเปิดแค่เพราะอยากให้มีเสียงในห้องเท่านั้น ไม่เคยใส่ใจดูเลยสักครั้ง เขานั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยเปื่อยจนถึงเวลาที่รุ่นพี่บอก
‘สวัสดีค่ะ วันนี้รายการของเราจะพาทุกท่านไปพบกับนักร้องหน้าใหม่ที่หลายคนต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะนายแบบสุดฮ็อตนะคะ เชิญพบกับคุณโอโตนาชิ โคได้เลยค่ะ’ เสียงพิธีกรสาวดังเจื้อยแจ้วพร้อมกับการปรากฎตัวของแขกรับเชิญที่ทำให้ฮิสึกายะตกใจ
‘สวัสดีค่ะโอโตนาชิซัง’ ฮิสึกายะคิดว่าแค่ชื่อคล้าย แต่นั่นมันตัวจริงนี่นา รุ่นพี่เป็นดาราหรือนี่!!
‘สวัสดีครับ เรียกโคก็ได้ครับ’ รอยยิ้มพิมพ์ในนั้นใช่รุ่นพี่ที่เขารู้จักจริงๆ
‘แหม คุณโคนี่อัธยาศัยดีจังเลยนะคะ’
‘ขอบคุณครับ เรียวโกะซังก็พูดเก่งเหมือนกันครับ’
‘อ๊า หัวใจชั้นจะละลายเวลามีคนหล่อมาเรียกชื่อเสมอเลยค่ะท่านผู้ชม เอาละค่ะ เราจะเข้าเรื่องเลยนะคะ’ พิธีกรสาวทำเสียงกรี๊ดกร๊าดก่อนจะเปลี่ยนมาดมาเป็นมืออาชีพ และยิงคำถามใส่รุ่นพี่
‘หลายๆคนก็คงทราบดีนะคะ ว่าคุณโคนั้นเป็นนายแบบ แต่ทำไม นายแบบถึงอยากร้องเพลงขึ้นมาละคะ
‘อืม เรื่องมันยาวนะครับ คือว่าผมเองอยากจะเป็นนักร้องมาแต่แรกแล้ว แต่ว่าตอนนั้นผมยังไม่มีชื่อเสียง และพอดีกับที่มีแมวมองมาชวนผมไปเป็นนายแบบ ผมเลยคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะหาลู่ทางน่ะครับ’
‘โอ้โห นอกจากจะหล่อเท่แล้ว ยังมีความคิดที่ชาญฉลาดด้วยนะคะ’
‘ขอบคุณครับ’ แววตายิ้มกริ่มแบบบนั้นคือแบบเดียวกับที่มองฮิสึกายะไม่มีผิด วกคนในวงการบันเทิงก็แบบนี้สินะ
‘พูดถึงเรื่องหน้าตา ดวงตาของคุณโคเป็นสีนี้มาแต่เกิดเลยหรอคะ’
‘ครับ พ่อผมเป็นชาวแคนาดาครับ ผมเลยได้สีตาและส่วนสูงมาจากพ่อ แม่ชอบบอกว่าผมเหมือนพ่อเป๊ะเสมอๆ’
‘แหมๆ แบบนี้แสดงว่าคุณพ่อก็ต้องหล่อมากสินะคะ’
‘ฮ่าๆ ใช่ครับ ผมหล่อสู้พ่อไม่ได้จริงๆ’ ฮิสึกายะจ้องมองใบหน้าของรุ่นพี่ในโทรทัศน์อยู่เนิ่นนาน และตั้งคำถามในใจว่าทำไมคนๆนี้ถึงดูร่าเริงสดใสได้เสมอเลยนะ
‘แล้วเวลาไปโรงเรียน มีพวกสาวๆมากรี๊ดเยอะมั้ยคะ’
‘ก็มีบ้างครับ พวกคนที่เป็นแฟนผลงานก็ให้กำลังใจเสมอ อ๊ะ แต่ว่าก็มีคนที่ไม่รู้จักผมด้วยนะครับ แล้วยังทำหน้าประมาณว่า นายเป็นใคร ด้วย’
‘มีคนที่ไม่รู้จักคุณโคด้วยหรอคะเนี่ย แสดงว่าคนๆนั้นคงไม่เคยดูโทรทัศน์แน่ๆเลย’
‘ก็นั่นสิครับ ฮ่าๆ’ ทำไมฮิสึกายะรู้สึกเหมือนถูกนินทานะ
‘แหม ซักถามมาก็เยอะแล้วนะคะ งั้นก่อนที่เวลาจะหมดก็อยากจะให้คุณโคร้องซิงเกิ้ลแรกที่เพิ่งปล่อยออกมาให้ฟังสดๆได้มั้ยคะ’
‘ได้สิครับ’ ฮิสึกายะนั่งมองรุ่นพี่ที่กำลังเคาะนิ้วบนขาตัวเองเพื่อหาจังหวะ ไม่นานเสียงทุ้มนุ่มที่แสนจับใจคนฟังก็ดังขึ้น

ในวันนั้นที่ได้พบคุณ
ผมรู้สึกเหมือนฤดูหนาวได้มาเยือน
ความเฉยชาของคุณทำให้ผมรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนน้ำแข็ง ที่ไม่รู้ว่ามันจะแตกเมื่อไร
แต่นั่นกลับทำให้ผมรักคุณ อยากชิดใกล้ อยากทำให้คุณอบอุ่นในคืนอันเหน็บหนาว..

เสียงเพลงอันไพเราะของรุ่นพี่ทำให้ฮิสึกายะสนใจฟัง เพราะไม่น่าเชื่อว่าคนๆนี้จะร้องเพลงได้ไพเราะขนาดนี้ สิ่งที่ฮิสึกายะรับรู้มีแต่เพียงว่าเพลงมันเพราะ แต่หากพูดถึงความหมาย เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจมันเลย...


ติ๊งต่อง~
ฮิสึกายะละจากหนังสือที่อ่านและเดินไปเปิดประตู คนด้านนอกชูถุงจากซูเปอร์มาเก็ตขึ้นมาและยิ้มร่า
“ทำสุกี้กินกันเถอะ” คนๆนี้ คิดว่านี่เป็นห้องตัวเองหรือไงนะ....
“ทำไมไม่ซื้อต้นหอมมาด้วย” ฮิสึกายะรับถุงมาเปิดดู
“ฉัน..ไม่ชอบ..” คนตัวโตทำเสียงอุบอิบ ฮิสึกายะส่ายหน้าและเดินเข้าครัวไป
“ทานละนะครับ!!” เสียงแจ่มใสของคนที่ทำตาวาวเมื่อเห็นสุกี้หม้อโตทำให้ฮิสึกายะรู้สึกเจริญอาหารมากกว่าปรกติ ทั้งที่ปรกติเขาไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ แต่วันนี้กลับรู้สึกว่ากินอะไรก็อร่อย
“นายได้ดูโทรทัศน์หรือเปล่าซัตสึคิ” รุ่นพี่เงยหน้าถามขณะเคี้ยวเนื้อชิ้นโต
“ครับ”
“...เอาละ ฉันจะถามใหม่ นายได้ดูรายการที่ฉันไปออกหรือเปล่า”
“ครับ”
“นายนี่นะ เออ ช่างมันเถอะ ว่าแต่เพลงของฉันเพราะมั้ย ฟังเป็นยังไงบ้าง”
“เพราะดีครับ”
“งั้นเหรอ นายชอบมั้ย” รุ่นพี่วางตะเกียบและถามพลางจ้องหน้าฮิสึกายะนิ่ง พาให้ฮิสึกายะรู้สึกว่าขนลุกเกรียว
“ก็..ชอบครับ” ฮิสึกายะรู้สึกเหมือนมีรังสีแผ่ออกมา ให้เขาพูดคำว่าชอบเท่านั้น
“อืม ดี” แล้วรุ่นพี่ก็หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อกินต่อ
“รุ่นพี่ครับ ทำไม....” ฮิสึกายะเงยหน้ามองรุ่นพี่
“อะไรหรือ ?” พอคิดว่าฮิสึกายะกำลังจะถามอะไรบางอย่าง จึงตั้งใจฟังทันที
“...”
“.....”
“........”
“............ ทำไมไม่กินผักครับ....”

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะ นึกว่าจะถามว่า ทำไมน่ารัก ไรงี้
ถามทำไมไม่กินผักนี่ เค้าตกใจหมด
+1 ให้สำหรับความขยันจ้าา น่ารักจริง
มาต่อไวๆนะจ๊า :L2: :L2:

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
ฮือ...หาแฟลชไดรฟ์ไม่เจออะค่ะ TwT

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
 :o :o หาเจอไวๆนะค๊าาาาาา  :o12: :o12:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม 5
«ตอบ #10 เมื่อ28-11-2010 17:33:08 »

------ 5 ------

“ซัตสึคิ ฉันอยากกินพายแอปเปิ้ลอีก”
“เมื่อเช้ารุ่นพี่ก็กินเข้าไปจนหมดถาดแล้วนี่ครับ” ฮิสึกายะถามเสียงเย็น คนๆนี้กินพายที่เขาตั้งใจจะเก็บไว้กินให้ถึงวันอาทิตย์หมดภายในมื้อเดียว
“เหรอ แต่ฉันอยากกินขนมอะ”
“...เอาแอปเปิ้ลไปกินก่อนละกันครับ” ฮิสึกายะถอนหายใจและเดินไปหยิบแอปเปิ้ลออกมาโยนให้รุ่นพี่ ส่วนตัวเขาเดินไปนั่งที่โซฟาและหยิบหนังสือมาอ่านต่อ เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทุกวัน รุ่นพี่มักจะมาที่ห้องของเขาและรอกินอาหารที่เขาทำ แม้ว่าวันไหนจะทำงานและอัดเสียงจนดึก แต่รุ่นพี่ก็ยังแวะมา บางครั้งถึงกับเผลอหลับไปก็มี วันเวลาผ่านไปโดยที่ฮิสึกายะไม่รู้สึกรำคาญ และไม่ได้รู้สึกว่าถูกรบกวน เขาก็อยู่ของเขาเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง...
จนกระทั่งวันหนึ่ง....
“ซัตสึคิ...” ฮิสึกายะเงยหน้ามองคนตรงหน้าแล้วเลิกคิ้วเป็นทำนองถามว่ามีอะไร
“ทำไม นายถึงอยู่คนเดียวละ”
“.....สะดวก”
“สะดวกตรงไหน ต้องดูแลตัวเองทุกเรื่องนี่นะ?”
“หึหึ สะดวกตรงที่ไม่ต้องวุ่นวายกับใครต่างหาก” ฮิสึกายะยิ้มเยาะตัวเอง อยู่คนเดียวนี่ละดี จะได้ไม่ต้องวุ่นวายกับคนอื่น
“นายเหงามั้ย” รุ่นพี่กระเถิบมานั่งข้างๆ
“ไม่”
“เป็นไปไม่ได้หรอก” เอ๊ะ คนๆนี้ เขาบอกว่าเขาไม่เหงาไงล่ะ จะมารู้ดีอะไรอีก
“!!” จู่ๆก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบ จูบ จูบแรก จูบแรกที่มีกับผู้ชาย ฮิสึกายะจะผลักออกก็ถูกรั้งเอาไว้แน่น ตัวก็โต แรงก็เยอะ รุ่นพี่พยายามจะสอดลิ้นเข้าไปแต่ฮิสึกายะก็ปิดปากแน่น
“โอ๊ะ!” สียงร้องดังลอดจากปากเมื่อฮิสึกายะถูกมือใหญ่ๆนั่นเอื้อมไปบีบที่ก้นสุดแรง ทั้งแรงบีบและแรงขยำทำให้ต้องร้องออกมาเพราะความเจ็บ แต่พอเปิดปากเท่านั้น ลิ้นก็สอดเข้ามาทันที
“อย่ากัดนะ ถ้ากัดจะโดนมากกว่านี้” จูบไป เลียไป ปากก็ขู่ไปเหมือนรู้ใจ ทำไมรุ่นพี่ถึงทำแบบนี้กัน
“ฉันชอบนายนะ ซัตสึคิ” รุ่นพี่ผละออกเมื่อเห็นว่าฮิสึกายะหน้าแดงก่ำ
“....ออกไป...”
“อะไรนะ?”
“บอกให้ออกไป!” เสียงดังที่สุดเท่าที่ฮิสึกายะจะตะโกนได้ดังลั่น ใบหน้าขาวแดงก่ำเพราะความโมโห
“เดี๋ยวสิซัตสึคิ พูดกันก่อน”
“ไม่พูด!” ดูท่าว่าน้ำแข็งจะกลายเป็นไฟบรรลัยกัลป์ไปแล้ว
“ทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย”
“หึ ยังจะถามอีกเรอะ ผมเป็นผู้ชาย รุ่นพี่จะมาจูบผมแบบนี้ไม่ได้ ขยะแขยง ผมเป็นผู้ชาย รู้เอาไว้!”
“ฉันก็เป็นผู้ชายนะ”
“ผู้ชายโรคจิตน่ะสิ”
“ไม่ใช่ ฉันก็ชอบผู้หญิงเหมือนกันนะ”
“แต่ยังไงผมก็เป็นผู้ชาย ผมไม่มีหน้าอก” ฮิสึกายะตะโกนด้วยโทสะ มือหนึ่งถอดเสื้อโปโลของตัวเองออกเผยให้เห็นผิวขาวราวน้ำน้ำและยอดอกสีชมพูอ่อนกับหน้าท้องอันเรียบเนียน
“และก็มีไอ้นั่นเหมือนพี่ด้วย” อีกมือหนึ่งก็คว้ามือรุ่นพี่มากุมหมับเข้าที่เป้ากางเกงของตัวเองเพื่อจะให้รู้ว่าเขาก็มีไอ้น้องชายเหมือนกันนะ
“ไงละ ผมเป็นผู้ชายใช่มั้ย เฮ้ ปล่อยได้แล้ว” ทั้งที่อธิบายให้ฟังจนจบ แต่มือของรุ่นพี่ก็ยังกุมอยู่ที่เดิม ดวงตาก็จ้องมองแต่หน้าอกของฮิสึกายะ เจ้าตัวที่โมโหตอนนี้เริ่มรู้สึกแล้วว่าตัวเองพลาด พลาดมหันต์...

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม 6
«ตอบ #11 เมื่อ28-11-2010 17:33:54 »

------ 6 ------

“ซัตสึคิ...” ใบหน้าหล่อเหลา น้ำเสียงเซ็กซี่ ที่อาจทำให้ผู้หญิงหลอมละลาย แต่ไม่ใช่!! เขาไม่ใช่ผู้ชาย ฮิสึกายะจะขยับหนี ก็ถูกมือเหนียวเหมือนปลาหมึกนั่นเกาะกุมที่เป้าของเขาแน่น แถมตอนนี้ยังไม่จับเฉยๆ แต่กลับเริ่มคลึงเคล้นอีกด้วย
“อะ อย่า ปล่อยผม..”
“ซัตสึคิ นายสวยอย่างที่ฉันคิดไม่มีผิด” จู่ๆฮิสึกายะก็ถูกกระชากลงมานอนบนโซฟา รุ่นพี่ก้าวขึ้นมาคล่อมร่างเขาไว้จนมิด มือทั้งสองสาละวนกับการปลดกางเกงเขาออก ส่วนเสื้อนั้นไม่ต้องเพราะเขาถอดไปเองแล้ว...
“อย่า อึก..” จูบเร่าร้อนและรุนแรงถูกปรนเปรอมาให้ไม่ขาด ฮิสึกายะคิดว่าตัวเองกำลังจะตายเพราะขาดอากาศ พลันมือของเขาก็คว้าได้เล่มหนังสือของเขา
พลั่ก!!!
สัมผัสทุกอย่างหยุดลงชั่วขณะ ฮิสึกายะฉวยโอกาสนี้ผลักรุ่นพี่ออกและรีบวิ่งไปที่ห้องนอน พอเปิดประตูก็รีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว แต่พอจะปิดประตูก็มีมือมากั้นไว้
“ซัตสึคิ อย่าดื้อสิ” ใบหน้ารุ่นพี่มีเลือดไหลมาเป็นทาง ฮิสึกายะตกใจไปชั่วครู่ ทำให้รุ่นพี่ดันตัวเองเข้ามาในห้อง มือใหญ่กดล็อกประตูดังแกร็ก
“ยะ อย่ามายุ่งกับผมนะ” ฮิสึกายะถอยหลังเหมือนถูกต้อน เขาถอยไปเรื่อยจนไปชนขอบเตียงโดยไม่ตั้งตัวจึงหงายหลังลงไปบนเตียง
“ซัตสึคิ ฉันชอบนาย” รุ่นพี่โถมตัวมาทับซัตสึคิ แขนแกร่งสองข้างล็อกแน่นเหมือนเป็นเครื่องพันธนาการอันแน่นหนา
“อ๊ะ ไม่!!” กางเกงของฮิสึกายะถูกกระชากครั้งเดียวจนหลุดไปหมด ฮิสึกายะอยากจะเอามือมาปิดแต่ก็ถูกจับไว้แน่นหนา
“จะทำอะไรน่ะ” ฮิสึกายะตกใจเมื่อเห็นรุ่นพี่ดึงเข็มขัดของตัวเองออกมา เข็มขัดเส้นโตพันรอบแขนทั้งสองข้างของเขาแน่นหนา แบบนี้ก็สู้อะไรไม่ได้เลยน่ะสิ !!
“ตัวนายหอมชะมัด อืม..” ขนทั้งร่างลุกชันเมื่อถูกซุกไซร้ ไหนจะริมฝีปากที่คอยขบเม้มไปทั่วนั่นอีก
“ชอบความเจ็บปวดเหรอ ซัตสึคิ”
“มะ ไม่”
“แล้วเอาหนังสือฟาดหัวฉันทำไม”
“ป้องกันตัว”
“หึ ป้องกันตัวทำไม ฉันไม่ได้จะฆ่านาย แต่จะพานายไปสวรรค์นะ” ยิ้มที่ดูแล้วแสนจะโรคจิตปรากฎบนใบหน้าของรุ่นพี่
“อ๊ะ!” ฮิสึกายะสะดุ้งเมื่อถูกสัมผัสที่จุดนั้นด้วยปาก ปากของรุ่นพี่ที่ปรนเปรอทั้งดูดทั้งเลยให้เขาทำเอาฮิสึกายะเสียวจนตัวโก่ง
“อร่อยจริงๆ” รุ่นพี่พึมพำขณะขบแม้มตรงส่วนปลาย พอเห็นว่าฮิสึกายะกำลังตื่นตัวถึงขีดสุดก็ใช้นิ้ชี้ปาดเอาน้ำที่เยิ้มตรงหัวมาป้ายที่ด้านหลัง
“อ๊า เจ็บ!” นิ้วแรกถูกสอดเข้าไปช้าๆ และชักเข้าออก
“เดี๋ยวก็ชอบ หึหึ” ไม่น่าเชื่อว่ารุ่นพี่ที่ดูร่าเริงและมีรอยยิ้มสดใส พอถึงเวลาแบบนี้จะกลายเป็นพวกโรคจิตไปได้
“โอ๊ย” ยอดอกสีสวยถูกกัดลงมาเต็มแรง ฟันขาวๆขบเม้มอย่างหมั่นเขี้ยวเต็มที่
“เดี๋ยวฉันไปหาอุปกรณ์ก่อนนะ” รุ่นพี่ผละออกและทิ้งให้ฮิสึกายะนอนอยู่บนเตียง ส่วนตัวเขาเดินออกจากห้องไป ฮิสึกายะพยายามแกะเข็มขัดออก แต่มันก็แน่นเหลือเกิน เวลาผ่านไปไม่ถึงห้านาทีรุ่นพี่ก็กลับมาพร้อมด้วย...
“ไม่เอ๊า!!!!” นั่นไม่ใช่คำที่จะหยุดรุ่นพี่ได้ ของเล่นรูปร่างกลมรีถูกสอดเข้าไปภายในช่องทางด้านหลังของฮิสึกายะทันที
“อ๊า เจ็บ!”
“ฉันอยากจะรู้ ว่ามันจะใส่ได้กี่อันกันนะ” ฮิสึกายะตาโตเมื่อได้ยินคำนั้น เขาพยายามบิดตัวหนีแต่ก็ไม่สำเร็จ
“อันที่หนึ่งเข้าไปแล้ววว ต่อไปอันที่สองละนะ หึหึ” ของเล่นอันที่สองรุกคืบเข้าไปช้าๆ ฮิสึกายะบิดตัวอย่างเสียวซ่านระคนเจ็บปวด ความแน่นตึงภายในร่างกายทำให้เขาทรมานเหลือเกิน
“อันที่สามละนะ” อันที่สามถูกสอดเข้าไป ฮิสึกายะเหมือนจะขาดใจ
“หึหึ พอแค่นี่ละ ต่อไปก็..” การสั่นสะเทือนภายในบอกให้รู้ว่าที่รุ่นพี่พูดคาไว้คืออะไร แรงสั่นสะเทือนปลุกเร้าอารมณ์ให้ตื่นตัว ฮิสึกายะหอบหน้าแดง ดวงตาหวานเยิ้มเพราะความต้องการ ขาเรียวเริ่มอ้ากว้างเพื่อให้ผ่อนคลายโดยอัตโนมัติ
“ชอบสินะซัตสึคิ ฉันก็ชอบ ดูแบบนี้แล้นายสวยชะมัดยาด” รุ่นพี่ปลดเสื้อผ้าของตัวเองและก้มลงมาจูบฮิสึกายะ ยามนี้ฮิสึกายะมัวเมาจนพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ทำตามความต้องการของรุ่นพี่ทุกอย่าง...
“น้ำเยอะเลยแฮะ” นิ้วยาวๆปาดน้ำหล่อลื่นที่ไหลเยิ้มออกจากช่องทางมาชโลมที่อาวุธของตัวเอง มือใหญ่รูดเข้าออกเพื่อเร่งอารมณ์ สายตาก็มองร่างที่นอนระทดระทวยเพราะความเสียวซ่านอย่างหมั่นเขี้ยว
“มานี่มา ฉันจะพานายไปสวรรค์” มือใหญ่ดึงขาทั้งสองข้างให้มาพาดบนไหล่ รุ่นพี่ดึงของเล่นออกและจ่ออาวุธให้ตรงช่องทาง “อื๊อ...” ทั้งที่มีน้ำชโลมจนลื่นไปหมดก็ยังใส่ไม่เข้าเลย รุ่นพี่จิ๊ปากเบาๆก่อนจะแยกขาของฮิสึกายะให้กว้างขึ้น
“อื้อ!” ฮิสึกายะส่ายศีรษะถี่ ๆ พยายามจะร้องให้หยุด แต่รุ่นพี่ก็ยังคงดันมันเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผ่านไปได้เพียงครึ่งลำฮิสึกายะก็แทบจะระเบิดตายอยู่แล้ว
“เจ๊บ อึ๊ก” น้ำตาใสๆไหลริน รุ่นพี่ก้มลงไปประทับจูบที่หางตาเรื่อยไปจนริมฝีปากหวานชุ่ม พอฮิสึกายะเริ่มผ่อนคลายก็ดันมันเข้าไปทีเดียวจนสุด
“อ๊าก!” รุ่นพี่คาแช่เอาไว้ภายในไม่ขยับ สีหน้าบ่งบอกว่าเสียวลึกล้ำยากจะบรรยาย
“มันแน่นดีเหลือเกินซัตสึคิ อืม..” ถึงจะไม่ขยับเข้าออก แต่กลับขยับหมุนวนเหมือนจะขยายช่องทาง ฮิสึกายะรู้สึกแน่นจนจุก ส่วนด้านหน้าห่อเหี่ยวลงอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันจะทำให้นะ” รุ่นพี่ยื่นมือมารูดปลุกอารมณ์ให้จนมันเริ่มตื่นตัวอีกครั้ง ความรัญจวนเริ่มก่อตัวอีกครั้ง
‘อา...น้ำแข็งกำลังละลาย’ ใบหน้าเรียบเฉยถูกแทนที่ด้วยฝบหน้าแสนเซ็กซี่ ราชินีน้ำแข็งกำลังละลาย
“โอ...ซัตสึคิ ดีจริง ” รุ่นพี่ขยับสะโพกรุนแรงขึ้นตามลำดับ ฮิสึกายะนั้นทั้งเจ็บระคนวาบหวาม ความรู้สึกแบบนี้..เขาไม่เคยพบเจอ
“ระ รุ่นพี่ ช้าๆ อึ๊ก..”
“เรียกชื่อฉัน ซัตสึคิ เรียกชื่อสิ” ฮิสึกายะไม่ยอมเรียก ซ้ำยังปิดกลั้นเสียงตัวเองไม่ให้เล็ดลอด รุ่นพี่จึงงับลงไปที่หัวไหล่มนเต็มแรง
“โอ๊ย! ผมเจ็บนะ ฮึก..” ไหล่ขาวเนียนเป็นรอยฟันแดงๆ ใบหน้านิ่งเจือหยาดน้ำตาดูน่าสงสาร
‘อา...งดงามเหลือเกินราชินี’ รุ่นพี่อยากจะทำให้ราชินีคลุ้มคลั่งกว่านี้อีก
“นายจะเรียกชื่อฉันมั้ยซัตสึคิ ถ้านายไม่เรียก...” รุ่นพี่กวาดตามองไปทั้งตัว ฮิสึกายะขนลุก นี่เขาจะทำอะไรกันนะ
“ฉันจะใส่ไอ้นี่เข้าไปอีกอันหนึ่ง” รุ่นพี่ชูของเล่นขึ้นมาขู่
“จะเรียกมั้ย เรียกสิ” รุ่นพี่กระแทกและบดเบียดรุนแรงด้วยหวังจะทำให้ฮิสึกายะครวญครางมากยิ่งขึ้น
“คะ โค โค อือ อ๊ะ!” ชื่อของรุ่นพี่ที่ออกมาจากปากของฮิสึกายะทำให้คนด้านบนยิ้มพอใจ แต่อย่างว่า สัจจะไม่มีในหมู่โจร...
“อ๊า เจ็บ อย่านะ อื๊อออ” รุ่นพี่ดันของเล่นเข้าไปด้านใน ช่องทางที่คับแน่นยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่
“ก็เรียกชื่อแล้วไง อ๊า..”
“นายเรียกช้านี่นะ หึหึ” มือใหญ่กดเปิดสวิตช์ของเล่น แรงสั่นภายในทำให้ฮิสึกายะแทบหน้ามืด
“ดีจริงอะไรจริง หึหึ” ใบหน้าหื่นกระหายแสนซาดิสม์แลบลิ้นเลียปากเพราะพอใจเป็นที่สุด
“ไอ้โรคจิต ฮึก..”
“ใช่ ฉันโรคจิต ไอ้โรคจิตคนนี้ละ ที่จะพานายไปสวรรค์ ซัตสึคิ” รุ่นพี่เร่งความเร็วมากขึ้น เสียงเนื้อกระทบเนื้อ เสียงหอบหายใจ บรรยากาศรัญจวนภายในห้อง ทุกตัวแปรล้วนส่งผลต่ออารมณ์ของฮิสึกายะ ไม่นานก็รู้สึกได้ถึงความเจิดจ้าในหัวสมอง สายตาพล่าเลือน น้ำรักที่ฉีดพุ่งเปรอเต็มหน้าท้องเนียน พร้อมกับเจ้าตัวที่สลบไปในทันที รุ่นพี่รีบเร่งเพื่อตามไปให้ทัน
“ซัตสึคิ อึก อา!” เสียงทุ้มครางดังๆ ร่างกายฟุบลงไปทับบนตัวฮิสึกายะ สะโพกหนาค่อยๆถอนแก่นกายออก
“ตายละ นายสลบเลยหรือเนี่ย” มือใหญ่เช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาของฮิสึกายะ ก่อนจะสลบไสลตามไป

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
โหยยยย รุ่นพี่ใจร้ายอ่ะ ไปข่มขืนได้ไงเนี่ยะ ราชินีน้ำแข็งของช๊านนน  :angry2: :angry2:

 :m25: :m25: :m25:

เลือดท่วมจอไปแล้วค๊าาาา มาต่ออีกน๊าาา อยากรู้ว่าตื่นมาแล้วจะเป็นยังไง  :L2: :L2:

+1 ให้คนเขียนจ้า

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
 :o12: โคโรคจิตอ่ะ
คนอ่านก็จิตตามมมมม  :laugh:
น้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำเลย ก๊ากกก
 :L2:

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
ขอรีไรท์ตอนต่อไปนิดนึงนะคะ
จอนนี้ขอไปทำงานก่อน
เจอกันตอนมืดๆค่ะ ^^

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
รุ่นพี่โค โรคจิต กึกกึก ชอบคำว่า ไม่มีสัจจะในหมู่โจร  :laugh:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
รุ่นพี่ค่ะ
แร๊ง มากเลย
 :oo1: :oo1:

ระวังจะโดนเกลียดนะ

 :L2: :L2:

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม 7
«ตอบ #17 เมื่อ29-11-2010 22:15:09 »

------ 7 ------

ร่างใหญ่โตภายใต้ผ้าห่มผืนหนาบิดตัวอย่างเกียจคร้านเมื่อรับรู้ถึงแสงแดดที่ส่องเข้ามา มือดึงรั้งผ้าห่มให้ปิดมิดทั้งตัวแล้วจึงควานหาคนข้างๆ ทว่ากลับพบแต่เพียงไออุ่นที่ติดค้างอยู่บนที่นอน
“ซัตสึคิ?” รุ่นพี่ลืมตามองที่ว่างเปล่าข้างๆแล้วหันไปมองนาฬิกาปลุก นี่มันเพิ่งเจ็ดโมงเองนี่นา แล้วซัตสึคิของเขาหายไปไหน
“ซัตสึคิ” เปิดประตูออกไปนอกห้องนอนแล้วตะโกนเรียก เสียงก๊อกแก๊กที่ดังจากในครัวและกลิ่นหอมๆของเนยดึงดูดให้เดินไปทางนั้น
“ซัตสึคิ..” ราชินีของเขากำลังง่วนอยู่หน้ากระทะที่มีแพนเค้กสีสวยทอดอยู่ โต๊ะอาหารมีแยมสีสันนานาชนิด ใบหน้าขาวแดงระเรื่อเพราะความร้อน
“ตื่นนานแล้วเหรอ” รุ่นพี่เดินเข้าไปสวมกอดจากด้านหลัง  กลิ่นกายหอมๆของฮิสึกายะปะปนกับกลิ่นของแพนเค้ก ทำให้รู้สึก...อยากกิน...
“อย่าสิครับ” ฮิสึกายะดันตัวรุ่นพี่ออก คนก่อกวนจึงต้องไปนั่งเงียบๆที่โต๊ะ สายตาจับจ้องฮิสึกายะที่สาละวนกับการเทแป้ง ทอด กลับแพนเค้กอย่างเพลิดเพลิน นี่สินะ อารมณ์ของคู่แต่งงานใหม่
“ผมไม่ใช่เมียรุ่นพี่” ฮิสึกายะพูดเสียงแข็งเหมือนรู้ความคิดของรุ่นพี่
“หึหึ แล้วเมื่อคืนละ แบบนั้นยังไม่ใช่เมียฉันอีกเหรอ” รุ่นพี่พูดกลั้วหัวเราะ
“จะกินมั้ย” ฮิสึกายะเท้าสะเอว มือถือจานแพนเค้กสีทองอร่ามเอียงๆเหมือนจะเททิ้ง
“ครับๆ กินครับ ไม่พูดแล้วครับ”
“นู่น น้ำร้อน อยากดื่มอะไรไปชงเองนะครับ” ฮิสึกายะชี้ไปที่โต๊ะกาแฟ รุ่นพี่เดินไปชงกาแฟดำเข้มข้นมาหนึ่งแก้ว ก่อนจะยืคิดว่าฮิสึกายะชอบดื่มอะไร ?
“โกโก้ หวานมัน” เสียงห้วนๆจากหน้าเตาสั่งการ รุ่นพี่อมยิ้มแล้วจัดแจงชงโกโก้สุดฝีมือ

“เก็บจานด้วยนะครับ ผมจะไปอาบน้ำ” รุ่นพี่เงยหน้ามองฮิสึกายะที่กินเสร็จแล้ว
“อือ” ตอบได้ไม่เต็มคำ เพราะแพนเค้กที่โหมยัดเข้าไปในปากจนแทบล้น สักวันเขาคงอ้วนเป็นหมูเพราะฝีมือทำอาหารของฮิสึกายะ
“อะไรกัน ยังกินไม่เสร็จอีก” ฮิสึกายะที่อาบน้ำเสร็จแล้วมายืนมองรุ่นพี่ที่กำลังกินอยู่
“ไม่ไปทำงานหรือครับ”
“ไม่ไป วันนี้หยุด จะอยู่กับนายทั้งวันเลย แต่ตอนนี้ขอกินเอาแรงก่อนนะ” รุ่นพี่หันมายิ้ม สายตาพราวระยับ ฮิสึกายะด่าเบาๆและสะบัดหน้าเดินกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่น

“อื๊อ อย่า” ฮิสึกายะปัดมือที่นัวเนียอยู่ตามบนตัวเขา
“ซัตสึคิ มาออกกำลังกายกันเถอะ นะนะ” น้ำเสียงเว้าวอนและปากที่ขบเล็มไปตามต้นคอทำให้ฮิสึกายะขนลุก แต่ว่าความอยากอ่านหนังสือมีมากกว่าและความกลัวว่ารุ่นพี่จะเข้าโหมดซาดิสม์อีกจึงพยายามปัดป้อง
“ไม่เอาครับ”
“หอมจัง” คนหน้าด้านยังคงไม่ยี่หระ ทั้งหอมและคลอเคลียไม่เลิกรา
“ทำไมหอมแบบนี้ละซัตสึคิ” จมูกโด่งซุกแนบแน่นอยู่ที่ซอกคออุ่น สูดดมกลิ่นกายของฮิสึกายะไม่เลิกรา
“ชื่อนายแปลว่าอะไรเหรอ ซัตสึคิ” ฮิสึกายะหันไปมองหน้าอย่างงงๆ มาไม้ไหนละเนี่ย
“หมายถึงดวงจันทร์ที่ส่องสว่างครับ...” ดวงจันทร์ ดวงเดียวที่อยู่ท่ามกลางความมืด ไม่มีแม้แต่กำลังที่จะส่องแสงด้วยตัวเอง...
“ความหมายดีจัง แสดงว่านายเกิดคืนที่จันทร์เต็มดวงสินะ ฉันชอบมองจันทร์ในคืนเดือนมืด มันทำให้รู้สึกเหมือนว่าไม่ได้อยู่คนเดียว” รุ่นพี่ยิ้มกว้าง แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนตัวของฮิสึกายะ รุ่นพี่ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่า...ไม่ได้อยู่คนเดียว
 “...” ฮิสึกายะพยักหน้าน้อยๆ  แก้มเนียนมีสีแดงระเรื่อ คนบ้าอะไรพูดเรื่องน้ำเน่าได้หน้าตาเฉย
“ฮื้มมม ชื่นใจ” รุ่นพี่ฉวยโอกาสที่ฮิสึกายะเผลอ แล้วขโมยหอมแก้มไปฟอดใหญ่
“ไม่เอานะครับ ผมจะอ่านหนังสือ” ฮิสึกายะพูดเสียงเข้มเมื่อรุ่นพี่เริ่มรุกหนัก
“ก็ได้ๆ งั้นขอนอนกอดนายเฉยๆละกันนะ” รุ่นพี่ขยับมาซุกข้างตัวฮิสึกายะ ใบหน้าแนบกับสีข้างและหลับไป ฮิสึกายะส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ตัวโตยังกับยักษ์ มานอนกอดเป็นเด็กตัวน้อยๆไปได้ พอดึงหมอนมาและพยายามดันหัวให้ไปหนุนหมอนก็ทำท่างอแง จึงต้องปล่อยเลยตามเลยจนได้

เพล้ง!
“!?!” ฮิสึกายะสะดุ้งเฮือก เขาเผลอหลับไปเมื่อไรกันนะ ตาคมเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง เพิ่งจะเป็นเวลาบ่ายโมงเองนี่
‘เสียงอะไรกัน แล้วรุ่นพี่ไปไหน?’ หันไปมองคนข้างๆก็ไม่มีวี่แวว แล้วยังจะเสียงของแตกอีก ฮิสึกายะลุกเดินไปยังที่ๆน่าจะเป็นต้นกำเนิดเสียง
“อ้าว ซัตสึคิ ตื่นเลยเหรอ ขอโทษทีนะ”
“ทำอะไรน่ะครับ”
“ก็ ฉันหิวน่ะ เลยจะมาต้มบะหมี่ แต่พอหยิบชาม มันก็หล่นจากมือ..” เสียงงุบงิบเหมือนเด็กกลัวผู้ใหญ่ตี ฮิสึกายะแอบยิ้ม คงเป็นเพราะเขานอนเพลิน แล้วรุ่นพี่ไม่กล้าปลุก เลยมาหาอะไรกินเองสินะ
“จะกินอะไรล่ะ เดี๋ยวผมทำให้”
“ข้าวผัด!” รุ่นพี่ตาโตและรีเควสเมนูทันที
 ติ๊งต่อง~
“ไปเปิดประตูให้ที เดี๋ยวผมทำข้าวผัดให้” ฮิสึกายะโบกมือไล่ให้รุ่นพี่ไปดูว่าใครมา เพราะถ้าให้อยู่ใกล้ๆก็ไม่รู้จะทำอะไรแตกอีก ฮิสึกายะเปิดดูข้าวในหม้อข้าวว่าพอหรือไม่ และหยิบเครื่องที่จะผัดกับข้าวผัดออกมาจัดเตรียม
“ฮิสึกายะ..” ฮิสึกายะหันไปทางเสียงเรียก คางามิยืนอยู่ตรงประตูห้องครัว สีหน้าดูแปลกใจ
“อ้าว คางามิ มีอะไรหรือ”
“ฉันจะมาให้นายช่วยสอนวิชาเลขน่ะ... แล้ว คนๆนั้น มาอยู่ห้องนายได้ยังไง” ฮิสึกายะขมวดคิ้ว ทำไมคางามิต้องถามเหมือนจุกจิกด้วย
“เขาอยู่ที่นี่เหมือนกันน่ะ” ฮิสึกายะตอบสั้นๆและหันไปทำอาหารต่อ
“แล้วสนิทกันถึงขึ้นชวนมาที่ห้องตั้งแต่เมื่อไร”
“.......” ฮิสึกายะไม่ตอบ คางามิจึงเดินมาใกล้ๆและดึงแขนฮิสึกายะ มีดหั่นผักหล่นกระแทกกับพื้น แต่ไม่มีใครสนใจจะเก็บ
“ทำไมไม่ตอบล่ะ สนิทกับเขาตั้งแต่เมื่อไร รุ่นพี่คนนั้นน่ะ”
“มันไม่ใช่เรื่องของนายนะ” ฮิสึกายะเริ่มฉุน คางามิล้ำเส้นมากไปแล้ว
“เกิดอะไรขึ้นซัตสึคิ?” รุ่นพี่เดินเข้ามาดู สายตาเอาเรื่องเมื่อเห็นคางามิกระชากแขนฮิสึกายะ
“ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“ไม่มีอะไรได้ยังไงฮิสึกายะ ไอ้นั่นมันเป็นใคร ทำไมให้มันเรียกชื่อนายได้!” คางามิเริ่มคุมอารมณ์ไม่อยู่ ทำไมกัน เขาคอยเฝ้าดูแลมาตั้งนาน แต่ยังข้ามเส้นคำว่าเพื่อนไปไม่ได้เลย แล้วไอ้นั่น ไอ้นักร้อง ไอ้รุ่นพี่คนนั้น มันมีสิทธ์อะไร
“นายหมายความว่ายังไง นายมีสิทธิ์อะไรมากราดเกรี้ยวใส่ซัตสึคิ” รุ่นพี่เดินเข้ามาดึงแขนของคางามิออก แต่ก็ถูกสะบัด คางามิเงื้อแขนจะชกหน้ารุ่นพี่
หมับ!
“คางามิ นายลืมไปหรือเปล่าว่าตอนมัธยมต้นฉันอยู่ชมรมอะไร?” ฮิสึกายะถามเสียงเย็น
“นายถึงกับจะลงมือกับฉันงั้นเหรอ? ฉันเป็นเพื่อนนายมาตั้งนานนะ ฮิสึกายะ” คางามิมีแววตาปวดร้าว ฮิสึกายะถึงกับจะใช้วิชายูโดกับเขาเลยงั้นหรือ
“นายไม่มีเหตุผลเองคางามิ นายเป็นบ้าอะไร กลับไปได้แล้ว ไว้อารมณ์เย็นค่อยมาคุยกัน” ฮิสึกายะหันกลับไปทำอาหารต่อและไม่ได้หันมาสนใจอีก คางามิมิงหน้ารุ่นพี่ด้วยสายตาเอาเรื่อง แต่รุ่นพี่ก็มองกลับไปด้วยสายตากร้าวไม่แพ้กัน
”แล้วฉันจะมาถามนายอีก ฮิสึกายะ“ คางามิกัดฟันพูดแล้วเดินออกไป
“....”
“นั่นใครเหรอซัตสึคิ” รุ่นพี่นั่ลงบนเก้าอี้กินข้าว มองฮิสึกายะที่ดูอารมณ์เสียแล้วจึงรวบรวมความกล้าถามดู
“เพื่อนตั้งแต่ม.ต้นครับ”
“ไม่ค่อยสนิทกันเหรอ”
“ผมไม่เคยมีเพื่อนสนิทหรอกครับ” อยากถามต่อ แต่ก็ดูท่าว่าตอนนี้ราชินีจะเร่งความเย็นยะเยือกจนติดลบ 30 องศา ทำเอาไม่กล้าพูดอะไร
“เชิญครับ” ฮิสึกายะวางจานข้าวผัดตรงหน้ารุ่นพี่ และวางจานของตัวเองที่อีกฝั่ง มื้อกลางวันที่เงียบเชียบดำเนินไปอย่างน่าอึดอัด
“บ้านฉันน่ะ อบอุ่นมาก พ่อ แม่ น้องสาวอยู่กันพร้อมหน้าเลยนะ” ฮิสึกายะนั่งฟังโดยไม่พูดอะไร
“น้องสาวฉันน่ะ น่ารักมาก เรียนอยู่โรงเรียนสตรี M”
“พ่อฉันเป็นนักธุรกิจ และแม่เป็นแม่บ้าน พ่อรักแม่มาก แม้จะต้องไปทำงานต่างประเทศบ่อยๆ แต่พอมีเวลาก็จะรีบกลับมาหาแม่ที่ญี่ปุ่นเสมอ”
“เพราะฉะนั้น ฉันจะขอแบ่งความสุขที่ฉันพบเจอมาตั้งแต่เด็กให้นายรับไว้บ้าง จะได้ไหม” รุ่นพี่วางช้อน ขยับมือมากุมที่มือของฮิสึกายะ สายตาจ้องมองใบหน้าของฮิสึกายะนิ่ง
“...ตอนนี้ ผมมาคิดดู ผมคิดว่าการนิยามตัวผมเป็นน้ำแข็งก็เหมาะสมเหมือนกันนะ” ฮิสึกายะยิ้มขมขื่น
“ซัตสึคิ...”
“น้ำแข็งในใจผมน่ะ มันไม่สามารถละลายได้หรอกนะ ต่อให้รุ่นพี่เอาดวงอาทิตย์มาเป็นพันดวง ก็คงละลายไม่ได้” ฮิสึกายะลุกพรวดแล้วเดินออกไป
“ซัตสึคิ เดี๋ยวสิ”
ปัง!
“ซัตสึคิ เปิดก่อน” รุ่นพี่เคาะประตูห้องนอนดังลั่น เปิดเข้าไปก็ไม่ได้ เพราะฮิสึกายะล็อกประตูเอาไว้
“ผมขออยู่คนเดียว..” เสียงตอบกลับมาจากภายใน รุ่นพี่รู้โดยอัตโนมัติว่าเปล่าประโยชน์ที่จะตะโกนเรียก คงต้องรอให้ฮิสึกายะออกมาเองเท่านั้น แต่เจ้าตัวก็เดินวนเวียนเหมือนหนูติดจั่นเพราะเป็นห่วงราชินีที่อยู่ในห้อง
“ฮึ่ย...จะทำยังไงดีนะ” รุ่นพี่ครุ่นคิด
“อ๊ะ...ต้องไปถามเอริซัง!!” นึกได้ก็วิ่งพรวดพราดออกไปทันที

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม 8
«ตอบ #18 เมื่อ29-11-2010 22:16:04 »

------ 8 ------

“เอริซัง!” ร่างสูงเดินตึงตังเข้ามาในบ้านหลังโต ปากก็ร้องเรียกหาหญิงสาวผู้หนึ่ง
“พี่โค กลับมาแล้วหรือคะ!” เสียงหวานใสวี้ดว้ายเมื่อเห็นรุ่นพี่
“อื้ม เอริซังอยู่ที่ไหนเหรออาเรีย” รุ่นพี่ถามเด็กสาวใบหน้าสะสวยผมสีน้ำตาลทองตรงหน้า
“แม่อยู่ในสวนค่ะ มีอะไรเหรอคะ” อาเรีย หรือน้องสาวแท้ๆเกาะแขนพี่ชายหนึบหนับสมกับที่เป็นน้องติดพี่
“พี่มีเรื่องจะปรึกษาน่ะ”
“เอริซัง” รุ่นพี่ตะโกนเรียกหญิงสาวที่อยู่ในชุดว่ายน้ำทูพีซสีแดงสดนอนอาบแดดเหยียดยาวอยู่บนเก้าอี้ชายหาดริมสระว่ายน้ำ
“ต๊ายยย ว่าไงจ๊ะ กลับบ้านถูกด้วยงั้นเหรอ” เรียวปากเคลือบสีแดงสดโน้มคอลูกชายลงไปจูบแก้ม รุ่นพี่เช็ดรอยลิปสติกออกด้วยความเคยชิน
“ผมมีเรื่องจะขอปรึกษา” รุ่นพี่ลงนั่งเก้าอี้ข้างกัน โดยมีอาเรียเกาะที่หลังแน่นหนึบ
“หืม ? อะไรจ๊ะ” คุณแม่แสนสวยหันมาตั้งใจฟัง เพราะลูกชายของเธอทำแววตาที่จริงจังมาก
“คนๆหนึ่งเนี่ย จะมีเรื่องอะไรที่ทำให้ฝังใจและปิดกั้นตัวเองจากคนรอบข้างได้ทั้งชีวิตบ้างครับ” รุ่นพี่คิดคำนิยามบุคลิกลักษณะของฮิสึกายะออกมาอย่างชัดเจนที่สุด
“ลูกหมายถึงว่า เพราะอดีตที่เจ็บปวด ทำให้ปิดกั้นตัวเองน่ะเหรอจ๊ะ”
“ใช่ครับ อะไรทำให้คนๆหนึ่งกลายเป็นคนเย็นชา ไม่รับรู้ความรู้สึกของคนอื่นได้บ้าง”
“เรื่องนั้น แม่ไม่สามารถระบุได้นะจ๊ะ มีขอบเขตในการรับมือกับเรื่องต่างๆได้ไม่เท่ากัน การแสดงออกต่อเรื่องร้ายๆก็ต่างกัน”
“เหรอครับ...แล้วผมจะช่วยอะไรได้บ้าง..” รุ่นพี่หน้าหงอยทันที
“ลูกอยากรู้เรื่องของเขาเพราะอะไร เพราะแค่อยากรู้ แค่สนใจ?”
“ไม่ใช่ครับ ผมอยากช่วยให้เขาร่าเริงและเปิดใจขึ้นมาบ้าง”
“งั้นไม่จำเป็นที่ลูกจะต้องรู้สาเหตุของมันหรอกจ้ะ แค่ลูกหมั่นให้ความรัก ดูแล และเอาใจใส่เขาอย่างสม่ำเสมอ ก็พอแล้วจ้ะ”
“มันจะพอหรือครับ”
“เพียงแค่ลูกมั่นคงจ้ะ เอ..ว่าแต่’เขา’เนี่ย เป็นใครกันละจ๊ะ” คุณแม่ยิ้มกริ่ม
“นั่นสิคะ เป็นยังไงคะ” อาเรียถามซ้ำ
“เอ่อ ก็ เหมือนราชินีน่ะครับ เหมือนราชินีน้ำแข็ง..” รุ่นพี่นึกใบหน้าเยือกเย็นของฮิสึกายะแล้วก็หน้าแดง คุณแม่และอาเรียมองหน้ากันแล้วยิ้มกริ่ม
“พี่ชายก็พาราชินีมาที่บ้านเราสิคะ เผื่อจะทำให้เขาร่าเริงได้” อาเรียเสนอ
“จะดีเหรอครับ..” คุณแม่ก็พยักหน้าเห็นด้วย
“งั้นผมจะพามาเย็นนี้เลย” รุ่นพี่พูดอย่างร่าเริงและรีบออกไป


ฮิสึกายะเดินออกจากห้องนอนมาด้วยสีหน้าอิดโรย สายตาสอดส่ายหารุ่นพี่ แต่ก็ไม่พพ ฮิสึกายะรู้สึกโหวงๆในใจ เมื่อรู้ว่าอยู่เพียงคนเดียวในห้อง
“ซัตสึคิ!!” รุ่นพี่ที่เดินเข้ามาพอดีร้องเรียกเสียงดัง ฮิสึกายะหันไปเห็นรุ่นพี่ก็รู้สึกดีใจบอกไม่ถูก
‘เขาอยู่ เขาอยู่ที่นี่!’ ในใจของฮิสึกายะร่ำร้อง
“ซัตสึคิ ฉันจะพานายไปที่แห่งหนึ่งนะ” รุ่นพี่เดินเข้ามาจับมือฮิสึกายะ สายตาก้มมองใบหน้านิ่งที่ดูอิดโรย มีร่องรอยของการร้องไห้คงเหลืออยู่
“ที่ไหน...”
“ไปเถอะนะ นะ” ฮิสึกายะพยักหน้า ถ้าเป็นคนๆนี้ จะเป็นที่ไหน เขาก็จะไป...


“มาแล้วเหรอคะ” ฮิสึกายะมองรุ่นพี่เวอร์ชั่นผู้หญิงอย่างสนใจ สายตาคมที่จ้องมองทำให้อาเรียรู้สึกถึงแขกที่มาเยือน
“นี่เหรอคะ ราชินีของพี่ ?” เด็กสาวผมสีน้ำตาลทองดูนุ่มสลวยมายืนจ้องใบหน้าของฮิสึกายะ พอรู้ตัว มือของฮิสึกายะก็ลูบอยู่ที่ผมของเด็กสาวเสียแล้ว
“อุ๊ย!”
“อ๊ะ ขอโทษครับ ผมเห็นว่ามันนุ่มดี” ฮิสึกายะรีบขอโทษเมื่อรู้ตัวว่าถือวิสาสะไปจับผมของเด็กสาว
“พี่คะ หนูขอได้มั้ย” อาเรียเอื้อมไปจับมือของฮิสึกายะไม่ยอมปล่อย จ้องหน้าฮิสึกายะนิ่ง แล้วจึงหันไปบอกพี่ชายตัวเอง
“อาเรีย คนนี้ของพี่!” รุ่นพี่เดินเข้ามาจะแกะมือของอาเรียออก แต่อาเรียกลับโผเข้าไปกอดแน่น
“ไม่ หนูขอนะคะ!” ฮิสึกายะนิ่งงันเมื่อเห็นพี่น้องกำลังทะเลาะกันเพื่อแย่งเขา...
“พี่เจอก่อนนะ!”
“โค อาเรีย หยุดทะเลาะกันเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงทรงอำนาจดังกังวานไปทั้งห้อง ทำให้สองพี่น้องเงียบได้
“อาเรีย ปล่อยตัวเขาเดี๋ยวนี้” เด็กสาวผละออกทันที ฮิสึกายะหันไปมองทางหญิงสาวคนนั้น ใครกันนะ พี่สาวคนโต ?
“เอริซัง ก็อาเรี-”
“โค โตแล้วนะ ทำไมทำตัวเป็นเด็กๆไปได้”
“อาเรีย หยุดนะ นั่นมันคนของพี่เขา เรามาทีหลังจะแย่งได้ยังไง” หญิงสาวคนนั้นหันไปเอ็ดอาเรียที่แลบลิ้นใส่พี่ชาย
“ขอโทษนะจ๊ะ บ้านเราวุ่นวายไปหน่อย ชั้นเป็นแม่ของสองคนนี้จ้ะ” คำแนะนำตัวที่ธรรมดา แต่ฮิสึกายะก็อึ้งไป ไม่น่าเชื่อว่าผัหญิงที่ดูเหมือนอายุ 20 จะมีลูกชายตัวโตอายุ 18 ได้ด้วย
“เรียกชั้นว่าเอริก็ได้นะจ๊ะ” เอริซัง แม่ของรุ่นพี่ยื่นหน้ามาแตะจูบที่ริมฝีปากของเขาเบาๆ
“แม่!/เอริซัง!” สองพี่น้องประสานเสียงดังสนั่นเมื่อเห็นแม่ตัวเองตัดหน้า ฮิสึกายะรู้สึกเหนื่อยใจ คนบ้านนี้...เป็นแบบนี้กันหมดเลยหรือนี่...

“ชื่อซัตสึคิเหรอจ๊ะ ความหมายงดงามมากเลยนะ” ดวงตาเป็นประกายแวววาวสำรวจฮิสึกายะที่นั่งเรียบร้อยอยู่บนโซฟา ขนาบซ้ายขวาด้วยอาเรียและโค
“ขอบคุณครับ...” นี่ละ ฮิสึกายะ พูดเป็นอยู่แค่นี้
“อยู่ทานข้าวด้วยกันนะคะ ซัตสึคิคุง” น้องสาวของรุ่นพี่เกาะแขนเขาและอ้อนวอน เด็กคนนี้น่ารักจนฮิสึกายะมักจะยกมือไปขยี้หัวบ่อยๆ และมันก็จะทำให้เธอยิ้มแก้มปริ แต่รุ่นพี่ก็จะงอแงแทน
“ครับ” ฮิสึกายะยิ้ม ยิ้มตามแบบของเขา แต่สำหรับคนบ้านนี้ รอยยิ้มเย็นแบบนี้ช่างลึกลับ น่าค้นหา..
“เห็นพี่บอกว่าซัตสึคิคุงเรียนเก่งมากเลยเหรอคะ สอนวิชาเลขให้หนูได้มั้ยคะ” ฮิสึกายะพยักหน้า จึงโดนลากไปที่โต๊ะเตี้ยข้างๆ
“โค ซัตสึคิคุงเขาเงียบจริงๆนะ” คุณแม่กระซิบ
“ครับ เป็นแบบนี้ตั้งแต่ผมเห็นครั้งแรก และก็ไม่มีเพื่อนสนิทเลยด้วย ขนาดเพื่อนที่รู้จักมาตั้งแต่ม.ต้น ก็ไม่สนิทด้วย”
“อืม เขาคงมีสาเหตุของเขานะจ๊ะ เราก็ต้องให้เวลาด้วย” คุณแม่ดึงลูกชายมากอดให้กำลังใจ
“ครับ ผมจะพยายาม”

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
นั่นแหนะ โค เริ่มหาวิธีละลายน้ำแข็งซะแล้ว
พยายามเข้านะ  สักวันก็ต้องละลาย สู้ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อคืนอัพดึก นั่งดูสามก๊กเพลินไปหน่อย
รับรองคืนนี้ไม่ดึกแน่นอนค่ะ

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
สนุกดีขอรับ :man1:

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม 9
«ตอบ #22 เมื่อ30-11-2010 21:32:10 »

------ 9 ------

“รุ่นพี่ ทำไมถึงเรียกแม่ตัวเองแบบนั้นละครั-” ถามไม่ทันจบคำก็โดนประกบจูบเสียแล้ว ไหนจะลิ้นอุ่นที่รุกล้ำเข้ามาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว ไหนจะมือที่ลูบไล้ไปทั่วร่าง ทำเอาฮิสึกายะเกือบลืมไปแล้วว่าตัวเองจะพูดอะไร
“อย่าสิครับ!” ฮิสึกายะผลักรุ่นพี่ออก ร่างสูงเลียปากด้วยความเสียดาย เพราะเกือบจะสำเร็จแล้วเชียว
“ผมถามน่ะ ได้ยินมั้ย” ฮิสึกายะเบี่ยงกายออกจากวงแขนแกร่ง
“ก็เอริซังสอนให้เรียกแบบนั้น เพราะเอริซังเคยบอกว่าฉันน่ะ ตัวโตเกินกว่าจะเป็นลูกชาย เหมาะจะเป็นแฟนเด็กมากกว่า ส่วนพ่อก็เป็นแฟนแก่ หึหึ” รุ่นพี่นึกถึงที่แม่พร่ำสอนแล้วก็ขำ แม่ที่ไหนสอนลูกแบบนี้นะ
“หึหึ เอริซังตลกจังนะครับ” รุ่นพี่หันมามองริมฝีปากบางที่เผยรอยยิ้มนิดๆอย่างตะลึง รอยยิ้มที่หาค่าไม่ได้!
แชะ!
“อ๊ะ ทำอะไรน่ะ” ฮิสึกายะตกใจ จู่ๆรุ่นพี่ก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปหน้าเขาเอาไว้ พยายามจะแย่งมาแต่ก็เอื้อมไม่ถึงเมื่อรุ้นพี่ยกแขนขึ้นสูง
“รูปหายาก จะเอาไปประมูล หึหึ” รุ่นพี่ก้มลงมาจูบปากฮิสึกายะแทน
“เฮอะ” เมื่อเห็นว่าแย่งมาไม่ได้ แถมยังถูกจูบ เลยเดินหนีแทน
“ซัตสึคิ ฉันอยากดื่มนมร้อนอะ” รุ่นพี่เดินตามพัวพัน
“รุ่นพี่ก็ทำเองสิครับ” ฮิสึกายะหยิบจัดของในห้องให้เรียบร้อย สายตาเหล่ไปมองร่างสูงที่นอนเหยียดยาวบนโซฟาอย่างอ่อนใจ
“อยากได้ที่นายทำให้” ฮิสึกายะถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็เดินเข้าครัวไป
“อย่าสิครับ อันตราย” เป็นอย่างที่คิด พอฮิสึกายะเข้าครัว รุ่นพี่ก็จะเดินมากอดพัวพันนัวเนียไม่ห่าง ดูท่าที่บอกว่าอยากินโน่นนี่คงเป็นข้ออ้างมากกว่า...
“หอมทีนึง” หอมฟอดใหญ่สมใจ แก้มขาวๆเป็นรอยแดงจ้ำ รุ่นพี่ยิ้มอย่างพอใจและสวมกอดจากด้านหลังไม่ยอมไปไหน
‘หืม?’ ขณะที่กำลังรอนมในหม้อเดือด ฮิสึกายะก็รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่ง ที่ไม่ปรกติกำลังดุนดันจากทางด้านหลัง...
“อย่า!!” ไม่ทันเสียแล้ว มือใหญ่เอื้อมมาปิดเตาแก็สดังกริ๊ก และลากฮิสึกายะออกมาห่างจากเตาร้อนๆ มือจากด้านหลังล้วงมาในเสื้อของเขาและหยิกที่ยอดอกอย่างมันส์มือ
“อ๊ะ อย่- อื๊อ..” ฟันขาวๆที่ขบเม้มใบหู บวกกับลิ้นที่ไล้เลียยั่วเย้าทำให้ฮิสึกายะอ่อนแรงง่ายดาย
“ฮืมม ตัวหอมจังนะ” รุ่นพี่เลิกเสื้อของฮิสึกายะขึ้นและฝังจมูกลงไปบนแผ่นหลังเนียนนุ่ม สูดกลิ่นหอมสะอาดจากด้านหลัง ไปยังบั้นเอว มือใหญ่ปลดซิปกางเกงที่ด้านหน้าและลากลง อันเดอร์แวร์สีขาวหมิ่นเหม่จะหลุดมิหลุดแหล่ ปากอุ่นๆทาบทับตรงสะโพกเนียน มือลูบไล้บนบั้นท้ายภายใต้อันเดอร์แวร์ รุ่นพี่ซุกใบหน้าไปที่บั้นท้ายงอนงามอย่างหลงไหล
“โรคจิต...อ๊ะ” เสียงด่าจากคนที่ถูกปรนเปรอจนเคลิ้มดังเล็ดลอดออกมา พร้อมกับเสียงครางเบาๆเพราะถูกฟันคมงับที่ก้น เสียงหัวเราะทุ้มๆดังขึ้นเพราะอารมณ์รื่นเริงที่แกล้งฮิสึกายะได้
“พูดไม่ดี เดี๋ยวจะโดน” รุ่นพี่เริ่มเข้าสูโหมดโรคจิตอีกครั้ง ทำไมนะ คนๆหนึ่งถึงมีได้หลากหลายอารมณ์เหลือเกิน
“ผมเคยกลัวเหรอ” เสียงท้าทายจากคนที่อยู่ในสภาพเสี่ยงทำให้รุ่นพี่เลิกคิ้วข้างหนึ่งด้วยความประหลาดใจ กว่าฮิสึกายะจะรู้ตัวว่าท้าทายเสือหลับก็สายเสียแล้ว
“โอ๊ะ ปล่อยนะ” ฮิสึกายะถูกรวบขึ้นไปเกาะบนตัวรุ่นพี่เป็นลูกลิง คนๆนี้มีพละกำลังที่เหลือเฟือเพื่อมาปราบพยศราชินีโดยเฉพาะ
“นิ่งๆ” เสียงทุ้มกำราบเมื่อฮิสึกายะดิ้นแรง ร่างสูงอุ้มฮิสึกายะไปเปิดตู้เย็นและหยิบบางสิ่งที่ฮิสึกายะไม่เห็นมา พอโยนฮิสึกายะลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นได้ก็หยิบสิ่งนั้นขึ้นมาทันที
“เอาแยมช็อกโกแล็ตมาทำไม?” ฮิสึกายะถามงงๆ
“ทำขนม” มื่อแข็งแกร่งรวบแขนฮิสึกายะเข้าด้วยกันอย่างว่องไว ขวดแยมที่บิดเกลียวไว้แล้วถูกเปิดออก นิ้วยาวๆปาดแยมขึ้นมาและโปะลงไปบนหน้าท้องเนียน
“เย็น!” ฮิสึกายะผวาเฮือกเมื่อถูกแยมเย็นเจี๊ยบโปะลงบนหน้าท้อง
“กินละนะ” รุ่นพี่โน้มตัวมาเลียและละเลงแยมไปจนทั่วหน้าท้อง ฮิสึกายะคิดว่าตัวเองคงโดนกินจริงๆเป็นแน่แท้ สัมผัสที่เหมือนจะกลืนกินเขาทั้งตัวทำให้ราชินีเคลิ้มจนไม่รับรู้ว่าตัวเองไม่ได้ถูกพันธนาการไว้นานแล้ว รุ่นพี่ยิ้มกริ่ม ราชินีช่างล่อหลอกได้ง่ายเหลือเกิน
“อือ..” หลังจากถูกลิ้มรสไปทั้งตัว ฮิสึกายะก็มึนเมากับสัมผัสนั้น พลันสายตาก็เหลือบเห็นรุ่นพี่ปลดกางเกงออกและทาแยมลงไปบน....สิ่งนั้น..
“ทำอะไรน่ะครับ!” สิ่งนั้น..ใหญ่ยักษ์ ถูกชะโลมไปด้วยช็อกโกแล็ตจนเป็นสีดำมะเมื่อม รอยยิ้มอันสุดแสนจะทำให้คนมองหนาวสะท้านปรากฎบนใบหน้าของรุ่นพี่
“ทำกล้วยเคลือบช็อกโกแล็ตให้นายกิน” ไม่รอให้ปฏิเสธ รุ่นพี่ป้อนกล้วยเคลือบช็อกโกแล็ตเข้าปากของฮิสึกายะจนหมดแท่ง รุ่นพี่กัดฟันระงับความเสียวซ่านที่เกิดขึ้น  มือใหญ่รังศีรษะของฮิสึกายะไม่ให้เบี่ยงออก
“กินให้หมด” ฮิสึกายะทำตามคำสั่งจากรุ่นพี่ มาถึงขั้นนี้แล้วนี่นะ แม้จะไม่เคยทำมาก่อน แต่นี่มันก็เป็นเหมือนแท่งเคลือบช็อกโกแล็ต ฮิสึกายะเลียช็อกโกแล็ตอย่างตั้งอกตั้งใจ เลียจากด้านหนึ่งไปด้านหนึ่ง เลียจากด้านบนลงด้านล่าง  จวบจนจังหวะที่ช็อกโกแล็ตใกล้จะหมด
“อ๊ะ ซัตสึคิ!” แรงจับแน่นหนาดันศรษะของฮิสึกายะเข้ามาจนสุด เขารับรู้ได้ถึงบางสิ่งที่พุ่งเข้ามาในลำคอ ฮิสึกายะพยายามขืนตัวออก แต่รุ่นพี่ใช้สองมือดันให้ฮิสึกายะกลืนเข้าไปจนหมด
“แค่กๆ” .ใบหน้าขาวแดงก่ำนั่งสำลักตัวโยน พอจะเงยหน้ามาด่าคนโรคจิตก็ถูกจับพลิกคว่ำ...
“เก่งจริงๆนะซัตสึคิ หึหึ” ไหงไอ้นั่นมันแข็งอีกแล้ว ไม่เอานะ!! ฮิสึกายะตะกายหนีแต่ก็ถูกล็อกบั้นเอวไว้แน่น
“เมื่อฉันจะเอา ฉันต้องได้ หึหึ” อันเดอร์แวร์ของฮิสึกายะถูกดึงลง น้ำรักเย็นๆของรุ่นพี่ป้ายลงบนช่องทางของเขา อาวุธแข็งปั๋งถูกนำมาจ่อที่ปากทาง
“เดี๋ยว อ๊-” ฮิสึกายะกัดฟันแน่น เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นเขาคงจะร้องโหยหวนเป็นแน่ เมื่อสิ่งนั้นถูกดันเข้ามาทีละนิด
“โอ๊ะ” เสียหวานอุทาน เมื่อถูกขบที่ลำคอเนียนด้านหลัง รุ่นพี่ดูดเม้มจนเป็นรอยแดง ช่องทางยิ่งบีบรัดแน่น รุ่นพี่ยิ่งงับแรง เมื่อเห็นว่าห้ามไม่ได้แล้ว ฮิสึกายะจึงต้องขยับขาให้กว้างขึ้นเพื่อที่เขาจะได้ไม่เจ็บ
“เด็กดี...” สะโพกของรุ่นพี่ดันเข้าช้าๆ มือและปากช่วยกันทำให้ฮิสึกายะผ่อนคลาย ก่อนจะดุนดันเข้าไปจนสุด ฮิสึกายะแอ่นกายจนสุดเพราะความเสียวซ่านที่ได้รับ ทั้งเจ็บ ทั้งดี สงสัยเขาคงโรคจิตไม่แพ้รุ่นพี่
“มันอึดอัด..”
“เดี๋ยวก็หายอึดอัดนะ” รุ่นพี่ จูบที่ขมับของฮิสึกายะเรื่อยไปทั้งใบหน้า มือใหญ่รั้งสะโพกของฮิสึกายะให้แนบแน่นและขยับรูดที่แก่นกายของฮิสึกายะไม่หยุด
“อือ..” ราชินีเริ่มบิดกายเร่งเร้า เพราะรุ่นพี่ไม่ยอมขยับเสียที จะขยับเองก็ไม่ได้เพราะถูกรั้งไว้แน่น ฮิสึกานะครางกระเส่า อยากไปให้ถึงจุดหมายแต่ก็ไม่สมหวัง แถมยังยั่วเย้ารูดของเขาขึ้นลงอีกต่างหาก
“รุ่นพี่ ขยับสิ อือ..” รุ่นพี่มองราชินิที่หันมาทำหน้าโอดครวญแล้วหัวเราะเบาๆในลำคอ
“นายต้องการสินะ ซัตสึคิ” ฮิสึกายะพยักหน้าเบาๆ เขาจะอกแตกตายอยู่แล้ว จะแช่คาไว้ทำไมนะ มือใหญ่ลูบไล้ที่แก่นกายของฮิสึกายะเรียบเรื่อย สีหน้ารุ่นพี่ดูสนุกสนานเหลือเกิน...แกล้งเขาสินะ
“โค...อื้อ...อาาา” ฮิสึกายะอ้อนวอน ร่างกายถูกเร้าจนเกือบถึงขีดสุดอยู่แล้ว แต่รุ่นพี่กลับยึดสะโพกเอาไว้ทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้
ใบหน้าแดงซ่านสะบัดไปมาอย่างทรมาน แต่พอรุ่นพี่เห็นว่าฮิสึกายะพูดคำที่ต้องการออกมาแล้วจึงขยับถอยออกจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับเข้าไปอย่างรุนแรง ฮิสึกายะหวีดสุดเสียงร่างกายเกร็งสะท้าน ช่องทางแคบบีบรัดรุนแรง ทำให้รุ่นพี่ต้องขยับเบียดแทรกหนักหน่วงพร้อมกับเหนี่ยวสะโพกของฮิสึกายะเข้าหาตัว ราชินีจิกโซฟาแน่นเพื่อระบายความเสียวซ่าน แรงกระแทกจากด้านหลังทำเอาเกือบขาดใจ
“แค่เรียกชื่อนี่มันยากนักนะ หืม ? ซัตสึคิ” รุ่นพี่ชะโงกมาถามข้างหู
“ผะ ผมจะไปรู้เหรอ วะ ว่าต้องการ อ๊ะ.. บะ แบบ นั้น..” แต่ละคำถูกพูดออกมาอย่างยากเย็น แรงกระแทกเร่งเร้าจากด้านหลังทำให้ฮิสึกายะประคองตัวเองแทบไม่อยู่ ฝ่ามือของรุ่นพี่ลูบไล้ปลุกอารมณ์ให้ฮิสึกายะอย่างรู้หน้าที่ สัมผัสร้อนแรงที่ปรนเปรอให้และแรงกระแทกที่แน่นหนักทำให้ฮิสึกายะเห็นปลายทางรอมร่อ
“อ๊ะ!” ร้องอย่างผิดหวังเมื่อรุ่นพี่ถอนกายออกหมด มือใหญ่จับให้ฮิสึกายะนอนหงาย ขาเรียวยาวถูกจบไปพาดบนไหล่ ช่องทางแดงก่ำปรากฎแก่สายตาร้อนแรง ฮิสึกายะพยายามปิดบังแต่ก็ถูกปัดมือออก รุ่นพี่ใช้นิ้วลูบไปที่ช่องทางนั้นและสอดนิ้วเข้าไปช้าๆ และเพิ่มทีละนิ้วๆ จนเมื่อถึงนิ้วที่สี่...
“พะ พอแล้วครับ อ๊า..” ฮิสึกายะร้องห้ามหน้าแดงเมื่อนิ้วที่ถูกสอดเข้าไปในร่างของเขาเริ่มคว้านวน
“ชอบมั้ย หืม?”
“อ๊า อย่า อ๊ะ..” ฮิสึกายะร้องห้ามเมื่อรับรู้ว่ามีบางสิ่งที่แข็งและเย็นสอดเข้ามาแทนที่นิ้ว
“ไม่นะครับ นะ นั่น อะไร..อะ อา..” ฮิสึกายะชะเง้อหน้ามองสิ่งที่อยู่ในร่างเขา ซึ่งเป็นแท่งแก้วสีใส..
“หยิบมาจากห้องนอนที่บ้านน่ะ ชอบรึเปล่า” รุ่นพี่ยิ้มยะเยือก มือใหญ่ชักแท่งแก้วนั้นเข้าออกช้าๆ ก่อนจะดันข้าไปจนสุดเหลือไว้แต่ฐานใสๆที่ค้ำอยู่ด้านนอก
“ลุกขึ้น” รุ่นพี่อุ้มฮิสึกายะขึ้มาเกาะเขาไว้ สัมผัสของสิ่งที่สอดแทรกไว้ในตัวทำให้ฮิสึกายะไม่มีแรงแม้จะลุก รุ่นพี่อุ้มเขาไปยืนพิงที่กระจกหน้าต่างบานโต มือใหญ่รูดม่านออกทั้งหมด
“อะ อย่า เดี๋ยวคนเห็น อ๊ะ”
“ไม่เห็นหรอก เราปิดไฟในห้อง แล้วสูงขนาดนี้ด้วย” รุ่นพี่ลูบไล้ตรงฐานของเล่นที่โผล่ออกมา บรรยากาศแสงสีเบื้องล่างช่างสวยงามเหลือเกิน
“อื๊อ..อา อย่าครับ อ๊ะ” ลิ้นอุ่นๆไล้เลียตรงช่องทาง รุ่นพี่จับร่างฮิสึกายะให้พิงที่กระจก ส่วนตัวเองก้มลงมาหยอกเย้ากับช่องทางที่เบื้องล่างแทน
“โค..ได้โปรด” ราชินีขอร้องหน้าแดงก่ำ เพราะความรัญจวนที่ทำเอาเขาสติกระเจิง คำอ้อนวอนที่แสนหวานทำให้รุ่นพี่ดึงของเล่นออกและดันแก่นกายตัวเองเข้าไปพรวดเดียว ความลื่นช่วยให้ความเจ็บหายไปเหลือแต่ความเสียว ฮิสึกายะแยกขาออกกว้าง แรงเสียดสีกันทั้งร้อนและเสียวมากขึ้นเรื่อยๆ จนต้องเกร็งรับโดยไม่รู้ตัว รุ่นพี่กัดฟันแน่น ยิ่งร่างกายของฮิสึกายะเกร็งก็ยิ่งบีบรัดแรงขึ้น รุ่นพี่กระแทกสะโพกสุดแรง เสียงเนื้อกระทบกันระรัว เขากระชากเอวบางเข้ามาหนักหน่วง ขณะดันตัวเข้าไปลึกขึ้นแรงขึ้นจนถึงขีดสุด อารมณ์เขาระเบิดออก เลือดในกายเดือดพล่าน แรงกระแทกสะโพกเข้าหาความคับแน่นที่บีบรัด ปลดปล่อยหยาดรักทั้งหมดเข้าสู่ตัวฮิสึกายะ น้ำรักจากภายในเอ่อล้นออกมาภายนอกและไหลมาตามเรียวขาเนียน รุ่นพี่ดึงร่างฮิสึกายะให้ลงมานั่งบนตักเขา ร่างสองร่างกอดก่ายกันอย่างเหนื่อยอ่อน มือใหญ่ลูบผมนุ่มอย่างเบามือจนรู้สึกว่าฮิสึกายะคงผล็อยหลับไปแล้ว
“เป็นพวกเสร็จแล้วหลับสินะ หึหึ” รุ่นพี่ยิ้มอย่างเอ็นดู ก่อนจะลุกและอุ้มฮิสึกายะเข้าไปในห้องนอน


---------------------------------------------------------
ปล.อยากได้จบแบบดราม่ามั้ยคะ ?  :o8:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-11-2010 21:34:54 โดย บีบีจัง »

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เอานะคะ ไม่เอาดราม่าเด็ดขาดอ่ะ ขอหวานแบบนี้ดีแล้ว
จบแบบหวานๆน๊าาา กรี๊ดๆๆ อย่าใจร้ายนะตัวเอง เค้าไม่ชอบดราม่า
 :z3: :z3: :z3: แต่ว่า โคไม่บอกรักราชินีเลยนะ ที่จริง
ราชินีน่าจะสั่งได้อ่ะ แต่นี่เหมือนว่าขัดใจไม่ได้ ซะงั้น

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
+1 จ้าาา ยังอ่านไปได้แค่สองตอนเองแต่มาเม้นก่อน ^^
น่ารักดีค่ะ อัพถี่ด้วยชอบบบบบบมากๆ 555
เอ๋??? เห็นรีบนบอกจะมีมาม่าเหรอคะ? ไม่เอาน้าาาาา  :monkeysad:
เด๋วไปอ่านต่อก่อนนะคะ  เป็นกำลังใจให้ค่ัะ

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
ไม่ เอา าา าา     :angry2:

เอา จบ แบบ หวานๆๆ    :L2:

อุส่า  หวาน มา ทั้ง เรื่อง แล้ว   

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: Bitter Sweet รักนี้หวานปนขม 10
«ตอบ #26 เมื่อ01-12-2010 19:21:35 »

------ 10 ------

“จะไปทำงานเหรอครับ” ฮิสึกายะที่กำลังล้างแก้วกาแฟทวนคำพูดที่รุ่นพี่บอก
“อื้ม” รุ่นพี่พยักหน้าและดื่มน้ำอึกใหญ่
“ครับ” ฮิสึกายะไม่ได้ว่าอะไรและหันไปล้างแก้วต่อ
“อะไรกัน นายจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ” ฮิสึกายะหันไปมองรุ่นพี่อย่างงงๆ ก็จะไปทำงาน แล้วจะให้เขาพูดอะไรล่ะ ?
“ไม่นี่ครับ” รุ่นพี่ทำสายตารวดร้าวกับคำตอบนั้น ร่างสูงเคลื่อนตัวจากหน้าตู้เย็นมากอดเขาจากด้านหลัง
“ใจดำจัง จะไม่บอกสักหน่อยเหรอว่า คิดถึงนะ รีบกลับนะ”
“ก็แค่ไปทำงานนี่ครับ”
“อะไรกันๆ ใจร้ายจริงๆ”
“รุ่นพี่แค่ไปทำงาน ไม่ได้ไปรบเสียหน่อย”
“นั่นไง ไอ้สรรพนามนั้นอีก ฉันไม่ชอบ บอกให้เรียกชื่อไง” รุ่นพี่ดึงฮิสึกายะให้หันมาประจัญหน้า
“...” เงียบ ฮิสึกายะไม่พูดอะไร รุ่นพี่เองพอได้จ้องหน้ากันแบบนี้ก็อดใจไม่ไหว
“อื้ม..” ประทับจูบแนบแน่น จูบรสกาแฟขมปนหวาน เหมือนกับตัวของรุ่นพี่เอง
“เรียกชื่อสิ...”
“...โค...” ใบหน้าขาวเนียนก้มหน้างุด สีแดงเริ่มแผ่ซ่านที่แก้มทั้งสอง
“หึหึ เดี๋ยวจะรีบกลับนะ” รุ่นพี่กดจูบที่แก้มนวลเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ใจอยากจะอยู่คลอเคลียด้วยตลอดเวลา แต่เขาก็มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ

กริ๊ง กริ๊ง~
“ครับ” ฮิสึกายะรับโทรศัพท์สั้นๆตามแบบฉบับของเขา เสียงนุ่มสดใสที่ดังมาตามสายทำให้หัวใจเขาเต้นแรง
“ทำอะไรอยู่ รับช้าจัง”
“ทำรายงานปิดเทอมครับ”
“งั้นเหรอ กินข้าวหรือยัง”
“ครับ”
“ฉันคงจะกลับช่วงดึกๆหน่อยนะ ถ้ารอไม่ไหวก็นอนเลยนะ”
“จะไม่กลับห้องตัวเองเหรอครับ” ฮิสึกายะถาม
“...อยากให้ฉันไปเหรอ ?” คำตอบที่เป็นเหมือนคำถาม ฮิสึกายะนิ่งคิด แล้วตอบออกไป
“...ไม่ครับ..” ต้งแต่วันแรกที่รุ่นพี่มาที่ห้อของเขา ก็ไม่เคยกลับไปนอนห้องตัวเองอีกเลย (เว้นแต่ว่าเขาจะไปด้วย) นอกจากนั้นก็ดูเหมือนว่ารุ่นพี่จะมาอยู่กับเขาเป็นการถาวร
“หึหึ คิดถึงนะ..”
“ครับ..” ฮิสึกายะวางโทรศัพท์แล้วถอนหายใจ ทำไมแค่คุยโทรศัพท์แต่กลับทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ตรงหน้าเลยนะ
 กริ๊ง กริ๊ง~
“อะไรอีกครับ” เสียงโทรศัพท์ดังอีกครั้ง ฮิสึกายะรับเพราะคิดว่าคงเป็นรุ่นพี่โทรมาอีก
“ฉันเอง” เสียงตอบกลับมาทำให้ฮิสึกายะนิ่งอึ้ง เสียงที่คุ้นเคย เสียงที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก
“มีธุระอะไรครับ” ฮิสึกายะถามกลับไป ถ้าไม่มีธุระจริงๆเขาคงไม่โทรมาหรอก
“เย็นนี้มาที่บริษัทหน่อยได้มั้ย มีเรื่องจะคุยด้วย”
“ครับ” ไม่ต้องรอพูดต่อ ฮิสึกายะรับรู้ และวางโทรศัพท์ เขาเดินเข้าไปในห้องนอน เปิดตู้เสื้อผ้า แหวกราวเสื้อและหยิบเสื้อเชิ้ตออกมา ด้านในตู้มีรูปของผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาอ่อนหวาน ผู้หญิงที่แสนอ่อนหวาน จนตกเป็นทาสของความรักและถอนตัวไม่ขึ้น ยอมทุกอย่างแม้กระทั่งการเป็นเมียน้อย
เสื้อเชิ้ตสีเทาอ่อนสวมลงบนร่างกายผอมแต่ดูแข็งแกร่ง ฮิสึกายะนิ่งคิดถึงตั้งแต่วันที่รุ่นพี่มา เขาต้องเคยเห็นรูปนั้นในตู้แน่นอน แต่เขาเลือกที่จะไม่ถาม ใครเห็นก็รู้ หน้าเหมือนเขาเสียขนาดนั้น ฮิสึกายะจ้องมองใบหน้าที่ตอบกลับมาจากในกระจก เสื้อเชิ้ตสีเทา กางเกงสแล็กสีครีมดูมียี่ห้อ และเงินที่โอนเข้าบัญชีธนาคารจำนวนมหาศาลทุกเดือน ที่อยู่อาศัยแสนหรูหรา สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้หัวใจของเขาละลายได้แน่นอน
ฮิสึกายะหยิบโน้ตมาเขียนแปะไว้หน้าตู้เย็น เพราะรู้ว่ารุ่นพี่ต้องมองเห็น มือเรียวหยิบกุญแจรถยนต์ที่นานๆจะใช้เสียทีจากในลิ้นชักห้องครัวแล้วเดินออกจากห้องไป

“เชิญครับคุณหนู” ฮิสึกายะมองเลขาหน้านิ่งของเขาที่โทรมาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเดินตามไปขึ้นลิฟต์ด้านใน พนักงานที่ไม่เคยเห็นเขาก็ให้ความสนใจว่าฮิสึกายะนั้นเป็นใคร เพราะคนที่เลขาของท่านประธานมารับด้วยตนเองย่อมต้องเป็นคนพิเศษแน่นอน
ลิฟต์หรูหราเคลื่อนตัวอย่างเงียบเชียบตรงดิ่งขึ้นสู่ชั้นบนสุด ชั้นสำหรับคนที่อยู่จุดสูงสุด แต่หัวใจกลับต่ำยิ่งกว่าเศษผง ฮิสึกายะยิ้มเหยียดเมื่อนึกถึงใบหน้าหยิ่งทะนงของคนพวกนั้น
“มานั่งที่นี่สิ” ใบหน้าเรียบเฉย แววตาที่เหมือนกับมองตัวเองในกระจกจับจ้องที่ฮิสึกายะนิ่งเมื่อเปิดประตูเข้ามา ฮิสึกายะเดินไปนั่ง ชาเขียวแบบที่เขาเกลียดถูกนำมาเสิร์ฟ
ฮิสึกายะพินิจชายตรงหน้า ใบหน้าเรียบเฉยแต่ดูท่าว่าตอนหนุ่มคงแฝงเค้าหล่อเหลา แววตาคมปราบเหมือนเหยี่ยวนักล่า ท่าทางที่ดูสูงส่งกว่าคนอื่นๆ และหัวใจที่ดำมืด...
“มีธุระอะไรก็รีบคุยสิครับ” ฮิสึกายะถามเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ายังคงจิบชาอย่างสบายใจ
“ไม่ชอบชาเขียวเหรอ” ชายที่ดูยิ่งใหญ่นั้นถามฮิสึกายะกลับ แต่มันไม่ใช่คำตอบที่เขาต้องการ
“...ไม่ชอบครับ” ป่วยการจะต่อปากต่อคำ เพราะฮิสึกายะไม่ใช่คนแบบนั้น ความเยือกเย็นคือนิยามของฮิสึกายะ
“งั้นจะดื่มอะไรดี”
“กาแฟครับ”
“กาแฟดำ ?”
“ไม่ครับ ผมชอบมอคค่า” ชายคนนั้นหันไปกดโฟนและสั่งเลขาให้ยกกาแฟมอคค่ามาเสิร์ฟ
“เทอมนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง” พอได้ยินคำถาม ฮิสึกายะล้วงสำเนาผลการเรียนจากกระเป๋ากางเกงส่งให้ ชายคนนั้นดูอย่างตั้งใจ
“อืม เก่งมาก” ชมเสร็จก็จิบชาต่อ  บทสนทนาไร้สาระดำเนินต่อไปเรื่อยๆจนเป็นเวลาเกือบสามชั่วโมง ฮิสึกายะเหลือบมองนาฬิกาพบว่าเป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว ไม่ต้องรีบ เพราะคงอีกนานกว่ารุ่นพี่จะกลับ
“คิดหรือยัง ว่าอยากจะเรียนมหาวิทยาลัยที่ไหน” ไม่มีคำถามว่าอยากเรียนอะไร เพราะคนๆนี้รู้อยู่แล้วว่าเขาอยากเรียนแพทย์
“มหาวิทยาลัยโตเกียวครับ” ฮิสึกายะบอกจุดมุ่งหมายของเขาออกไป
“ทำไมไม่ไปเรียนที่เยอรมันเลยล่ะ ?” ฮิสึกายะนิ่งเงียบ เขาไม่ตอบ เขาไม่อยากพึ่งพาคนๆนี้มากไปกว่านี้ เพราะเท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ถูกกระแนะกระแหนเหยียดหยามอยู่บ่อยๆ
“ไม่ต้องเกรงใจ เธอมีสิทธิ์ มันเป็นสิทธิ์ของเธอ” ชายตรงหน้าหันมาสบตาฮิสึกายะนิ่ง แววตาจริงจังทำให้ฮิสึกายะปฏิเสธไม่ลง นี่สินะ จุดอ่อนของฮิสึกายะ...
“ครับ” พอได้ยินคำตอบที่ต้องการ ชายตรงหน้าก็นั่งพิงโซฟาอย่างสบายใจ
“ปีนี้ จะไปคนเดียวสินะ..” เป็นครั้งแรกในวันนี้ตั้งแต่นั่งคุยกันมา ที่สายตาของชายคนนี้หันไปมองท้องฟ้า มองสิ่งที่ไม่ใช่ใบหน้าของฮิสึกายะ
“บางที..อาจะไม่ครับ” ฮิสึกายะนึกถึงรุ่นพี่ คนๆนั้นคงไม่ยอมให้เขาไปคนเดียวแน่นอน
“อืม ก็ดี”
“ครับ”
“นี่ก็เย็นแล้วล่ะ เธอกลับได้แล้ว” ชายตรงหน้าลุกขึ้นยืน
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ” ฮิสึกายะตั้งท่าจะเดินออกไปแต่ก็ถูกเรียกไว้ก่อน
“ซัตสึคิ เธอไม่ต้องห่วงเรื่องมหาวิทยาลัยนะ เดี๋ยวฉันจะจัดการให้เอง” ฮิสึกายะพยักหน้ารับและเดินออกมา
“ให้รถไปสั่งมั้ยครับคุณหนู” เลขาหน้าห้องรีบลุกมาเมื่อเห็นฮิสึกายะเดินออกมา
“ไม่ต้องครับ ผมขับรถมา” ฮิสึกายะเดินแกว่งกุญแจไปยังรถยนต์คันหรูที่เขาขับมา รถสปอร์ตรุ่นที่นักสะสมเห็นแล้วต้องร้องไห้ด้วยความเสียดาย เพราะฮิสึกายะขับมันปีหนึ่งนับครั้งได้
‘ไปซื้อเนื้อทำสุกี้ดีกว่า’ ฮิสึกายะคิดเมนูอาหารเย็นและแวะเข้าไปที่ซูเปอร์ก่อนจะกลับบ้าน


“กลับมาแล้วเหรอ” เสียงรุ่นพี่ทักจากในห้องทำเอาฮิสึกายะสะดุ้งเฮือก
“ไหนว่ามาดึกไงครับ” รุ่นพี่เดินเข้ามาหาฮิสึกายะที่ยกของมาพะรุงพะรัง
“รีบมาน่ะ เหาะมา” รุ่นพี่พูดอมยิ้ม รีบมาเพราะความคิดถึง แต่ก็หน้ามุ่ยเพราะมาแล้วฮิสึกายะดันไม่อยู่
“นายไปไหนมา” รุ่นพี่วางของในครัวแล้วหันมาถาม
“ไปธุระครับ” ฮิสึกายะตอบตามที่เขียนในโน้ตเป๊ะ รุ่นพี่ถอนหายใจเพราะรู้ว่าคงไม่เล่าแน่ๆ
“ผมไปเจอพ่อผมมา” คำตอบถัดมาทำเอาคนที่กำลังจะเดินออกจากห้องครัวต้องหันควับ
“ไปหาพ่อเหรอ ??” รุ่นพี่ทวนคำถามแบบงงๆ
“เอ่อ ขอโทษนะ นาย...มีพ่อด้วยเหรอ” พูดไปแล้วรุ่นพี่ก็อยากจะตบกบาลตัวเองนัก โทษฐานถามโง่ๆ
“มีสิครับ แม่ผมไม่ใช่อมีบานะ จะได้แบ่งเซลล์เองได้น่ะ”
“ก็เป็นไปได้นะ เพราะหน้าเหมือนกันเสียขนาดนั้น อุ๊บ!” รุ่นพี่รีบปิดปากตัวเอง
“หึหึ ผมไม่ว่าหรอกครับ ไม่เห็นก็บ้าแล้วละ” คิดแล้วว่ารุ่นพี่ต้องเห็นรูปแม่ของเขาในตู้เสื้อผ้า
“ทำไมเอาไปแปะไว้ในนั้นละ” รุ่นพี่สวมกอดเอวจากด้านหลังและพาดคางบนไหล่เนียน
“..ทั้งรักทั้งเกลียดไงครับ...” ฮิสึกายะหั่นเนื้อด้วยท่าทางน่าหวาดเสียว ไม่เหมาะที่จะถามเรื่องนี้ รุ่นพี่จับมือให้ฮิสึกายะปล่อยมีดและพาไปนั่งที่เก้าอี้ก่อนจะลงมือหั่นเนื้อเอง
ผมน่ะ รักแม่ และก็เกลียดแม่ไปในคราวเดียวกัน ผู้หญิงที่เวลายึดมั่น ก็มากเกินเสียน่ากลัว แต่พออ่อนแอ ก็ไม่สมควรที่จะอยู่บนโลก“ ฮิสึกายะพูดแล้วแสยะยิ้ม รุ่นพี่หั่นเนื้อไป แต่จิตใจกลับจดจ่อกับเรื่องของฮิสึกายะ
“แล้วพ่อของนาย เป็นยังไงเหรอ” รุ่นพี่ถาม ฮิสึกายะนึกถึงพ่อ ชายคนนั้น ที่มักจะเรียกเขาไปหาและอ้างเหตุผลว่าเพื่อคุยธุระ
“เป็นคนเย็นชามั้งครับ” รุ่นพี่เลิกคิ้ว มีคนเย็นชาถึงขนาดที่ถูกคนเย็นชาอย่างฮิสึกายะว่าเข้าให้ด้วยเหรอ
“แม่ผมเป็นเมียน้อยน่ะ” รุ่นพี่วางมีดเมื่อได้ยินประโยคนี้ และหันมานั่งคุยกับฮิสึกายะ
“แถมยังโชคร้าย ที่บ้านใหญ่เขาร้ายกาจ ร้ายกาจมาก” นึกถึงอดีตตอนที่เข้าโรงเรียน ลูกคนอื่นของพ่อมักจะกลั่นแกล้งเขา ซ้อมเขาทุกวันๆ และด่าทอหยาบคายให้เสียเกียรติ แม่ของเขาที่รู้ว่าลูกเป็นอะไรกลับไม่เคยบอกพ่อ ไม่เคยบอกเลย วันไหนที่พ่อจะมาหาแม่ ก็มักจะถูกบ้านใหญ่รั้งไว้ด้วยสาเหตุนานา โทรศัพท์ข่มขู่ จดหมาย ฯลฯ แต่ทุกสิ่งเหล่านี้หยุดลงเมื่อแม่เลิกกับพ่อ มีเพียงเงินจำนวนมากที่ส่งมาให้ทุกเดือน แม่ล้มป่วย อ่อนแอ ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะดำรงชีวิต ใบหน้าสวยหวานในความทรงจำของเขาเปลี่ยนไปเป็นสีหน้าอิดโรย เขาไม่เคยพบพ่ออีกเลย จนกระทั่งวันที่แม่ตาย...
“ซัตสึคิ! เป็นอะไร” เสียงเรียกของรุ่นพี่ดึงฮิสึกายะออกจากภวังค์
“เปล่าครับ ไม่เป็นอะไร ผมแค่นึกถึงแม่” รุ่นพี่สวมกอดฮิสึกายะแน่น ใบหน้าของฮิสึกายะที่เหม่อลอยเมื่อกี้ทำให้เขาเจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมกัน เด็กหนุ่มอายุเพียง 16 ปีจึงมีสีหน้าแบบนั้นได้
“ซัตสึคิ..” ไออุ่นจากรุ่นพี่ดึงให้ฮิสึกายะออกจากมุมมืดทีละนิด เขาได้แต่หวังว่าความรู้สึกนี้จะไม่จากเขาเร็วเกินไป
“เอาละ ผมทำกับข้าวก่อนดีกว่า หิวแล้วใช่มั้ยละ” ฮิสึกายะลุกไปทำกับข้าวต่อ ปล่อยให้รุ่นพี่นั่งทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่คนเดียว



ปล.วันนี้ทำงานเครียดเกิ๊น เขียนไม่ได้ซักกะบท

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
ทำไม...คนเขียนไม่เห็นว่ามันขึ้นหน้าใหม่ซักที
คนอื่นเห็นเป็นยังไงบ้างคะ ?

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
ต้องรอรีพลาย 30 จ้าถึงจะขึ้นหน้าใหม่ อิอิ

มีอดีตแบบนี้เองถึงเป็นราชินีน้ำแข็ง น่าสงสารนะ
ปิดกั้นตัวเองมากมาย โคก็อย่าทำให้ฮิสึกายะเสียใจน๊าาา

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
ขอบคุณนะคะ สงสัยมานานแว้วววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด