ประชุมเส็ดล่ะ เร่งกรูจัง ประชุมจิ๋งเดียว ชิส์
***************************************************************
เอ็มรู้สึกตัวขึ้นก่อนเขามองหน้าต่อที่อยู่ห่างเขาแค่ไม่ถึงคืบ
“เก่งแต่ปากนะมึงหนาวอ่ะดิเบียดกูแน่นเชียว” เอ็มยันกายลุกขึ้นจัดที่ทางให้ต่อมันนอนสบาย ก่อนจะทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วลงไปข้างล่าง พ่อเขาคงไปทำงานในสวนผลไม้อีกตามเคย เขาเองก็อยากที่จะเรียนจบเร็วๆจะได้มาช่วยแบ่งเบาภาระพ่อได้บ้าง
“ตื่นแล้วเหรอเอ็มแล้วเพื่อนล่ะ” เสียงแม่ทักเขาขณะที่เดินกลับเข้าบ้าน
“ยังหลับอยู่เลยครับแม่ มันคงจะเจ็บแผล แล้วนี่แม่ใส่บาตรเสร็จแล้วเหรอครับ”
“จ๊ะกำลังจะเอาของไปเก็บ”
“ว้าผมอดอีกแล้วให้ผมช่วยถือครับ”
เอ็มยื่นมือไปช่วยที่ของให้แม่ เขาตั้งใจจะตื่นมาใส่บาตรแต่ก็อดจนได้ ที่กรุงเทพเขาเองคงไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนี้ ทุกอย่างมันดูเร่งรีบวุ่นวายสำหรับเขาไปหมด เขาเลือกที่จะเช่าหออยุ่คนเดียวเพื่อความเป็นส่วนตัวนิสัยจริงๆ เขาก็ไม่ค่อยจะสุงสิงกะใครอยู่แล้วแต่คนส่วนมากชอบที่จะเข้ามาหาเขาเอง เขาก็แค่คุยๆไปไม่ได้คิดจริงจังอะไรกะใคร เขามีความมุ่งมั่นเช่นเดียวกับต่อคือต้องการที่จะเรียนจบเร็วๆเพื่อที่จะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวเสียที
จะว่าไปชีวิตเขาสองคนก็สวนทางกัน อีกคนเกิดกรุงเทพแต่ต้องจากบ้านมาเรียนที่อื่นซึ่งเป็นๆที่อีกคนเกิด
“ก็ตื่นเช้าๆสิเราน่ะ” แม่เขาติงเมื่อทั้งคู่เดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว
“ก็มันติดมาจากกรุงเทพนี่ครับ นี่ถือว่าผมตื่นเช้าสุดแล้วนะ อยู่โน่นนะวันหยุดผมผมไม่ลุกจากที่นอนง่ายๆหรอกครับ แล้วนี่ยัยอิมไปเรียนแล้วเหรอครับ”
“ออกไปพร้อมพ่อแล้วแล้วเอ็มหิวยังแม่เตรียมกับข้าวไว้แล้ว”
“แม่ทานยังอ่ะครับ”
“แม่ยังไม่หิวน่ะ”
“ผมก็ยังไม่หิวเท่าใหร่คุยกะแม่ก่อนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมก็กลับกรุงเทพแล้วกว่าจะสอบเสร็จปิดเทอมก็อีกนาน ผมคงคิดถึงบ้านแน่เลย”
“โตเป็นหนุ่มแล้วยังอ้อนนะเรา เอแล้วเพื่อนเราชื่ออะไรนะไม่เห็นเคยเล่าให้แม่ฟังเลย”
“ต่อครับมันเป็นเพื่อนไอ้พีอีกที พวกมันเรียนที่เดียวกันน่ะครับแต่ไอ้ต่อมันเป็นเด็กกรุงเทพครับ”
“อืมท่าทางก็นิสัยดีนะ ยังไงเอ็มไม่อยู่ก็บอกเขาแวะมาเเล่นที่บ้านเราได้นะ”
“ครับแต่มันคงมาหรอกไอ้นี่ เออเดี๋ยวผมไปดูมันก่อนละกันเผื่อมันตื่นแล้ว”
เอ็มย้อนกลับมาที่ห้องตัวเองอีกครั้ง เห็นต่อมันแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจนเขานึกแปลกใจจึงเอ่ยถาม
“มีเรียนเหรอมึงไอ้ต่อ”
“เปล่า”
“เปล่าแล้วมึงจะรีบแต่งตัวไปไหนแม่กูอยากคุยกะมึง”
เอ็มเอาแม่ขึ้นมาอ้างไม่รู้สิเขายังไม่อยากให้ต่อมันกลับ ไอ้ครั้นจะบอกออกไปอย่างนั้นก้อกลัวไอ้ต่อมันจะขำ
“กูเข้าผู้ใหญ่ไม่เก่ง”
“แม่กูไม่ดุหรอกน่า ไหนๆกูก็จะกลับกรุงเทพแล้วคงอีกนานกว่าจะได้เจอกะมึงอีก”
ต่อหันมามองเอ็มทันทีเผลอสบตามันเข้าจนต่างฝ่ายต่างหลบกันแทบไม่ทัน เมื่อแววตาที่ส่งให้กันมันดูแปลกๆไป จนต่อเอ่ยถาม
“มึงจะกลับเมื่อไหร่”
“พรุ่งนี้ คงเป็นปิดเทอมหน้ากว่ากูจะได้มาก็คงไม่เจอมึงอยู่ดีเพราะมึงก็คงจะกลับบ้านเหมือนกัน”
มันก็คงจริง ต่อเริ่มคิดตามแต่มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องคิดตามคำของเอ็ม ในเมื่อเขาสองคนก้อเพิ่งที่จะรู้จักกันได้ไม่นานมันไม่น่าจะผูกพันธ์อะไรกัน
“เอออยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน มันก็คงจะเจอกันได้สักวันแหละว่าแต่เมื่อวานมึงไม่โกรธกูเหรอ”
“เรื่องไร” เอ็มทำหน้างง
“ก็ที่กูแกล้งมึงอ่ะ”
“กูจะไม่โกรธถ้ามึงสัญญากะกู”
“สัญญาอะไร”
“ว่ามึงจะไม่ทำแบบนี้กะใครอีก”
“แล้วทำไมกูต้องเชื่อมึงด้วยล่ะ”
“ก็กูหึงมึงไงไอ้ตี๋” เอ็มทำท่ายักคิ้วเมื่อเห็นต่อมันทำหน้าเอ๋อ
“เงียบไปเลยมึงเจอหน้าเป็นอำกูตลอดสิ เดี๋ยวกูก็รักมึงจริงๆซะหรอก”
“กูว่าแล้วกูจีบใครไม่มีพลาด มึงหลงกลกูแล้วไอ้ตี๋”
ต่อไม่ตอบโต้ว่าอะไรเมื่อเจอมุกนี้ของเอ็มเข้าไป เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกันคนขี้เล่นยังไงมันก้อขี้เล่นเป็นธรรมดาแล้วเรื่องที่เขาแกล้งมันเมื่อวานต่อคิดว่าเอ็มก็คงจะโดนใครต่อใครทำบ่อยเพราะเห็นเอ็มมันไม่รู้สึกอะไรเลย
“เป็นไรวะเงียบไป” เอ็มทักเมื่อเริ่มผิดสังเกตแต่ต่อก็ปฎิเสธ
“เปล่ากูแค่ไม่อยากคุยกะมึง”
“ทำเป็นปากแข็งไปเหอะมึงลงไปข้างล่างได้แล้ว กูหิวแม่กูก็รอมึงอยู่”
เอ็มเดินนำไปก่อนแล้วต่อเอาแต่มองตาม เขารู้สึกหวั่นไหวไปกับผู้ชายอย่างเอ็มไปได้ตั้งแต่ตอนไหน
มึงกำลังจะรักไอ้เอ็มหรือวะต่อ………………เขาถามตัวเองขึ้นมาในใจ……….