บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]  (อ่าน 325569 ครั้ง)

ออฟไลน์ ~MeiMeiZ@~

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ฝุ่นอ่ะ ดีใจออกนอกหน้าไปนิดนึงนะ ที่ยูลมาอ่ะ

 :z1: แล้วเฮียจะกลับไปปลอบยังไงเนี่ย

 :serius2: โอ๊ยค้าง

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
 :-[ง่า...มาขอติดตามผลงานด้วยคน เพิ่งมาอ่านรวดเดียวจบ ติดใจซะแร้ว

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
3วันแล้วน้าาาาาาาาา

มาต่อซักทีเหอะนะๆๆๆ
  :call: :call: :m15: :m15:

mamaUM

  • บุคคลทั่วไป
โหย พี่ทีม น่ารักอ่ะคะ ^^

อยากอ่านตอนต่อไปมากกกกกกกกก

(วิบัติเพื่อเสียงเท่านั้น)

ออฟไลน์ aphanite

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 487
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
+1
ว่า ไม่ เชื่อ เ็ด็ด ขาด
อิอิ

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12

ออฟไลน์ eiizes

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-0
    • facebook

   ผมไม่เคยทะเลาะกับทีมด้วยปัญหางี่เง่าแบบนี้ มันไม่เคยทำตัวเหมือนพระเอกโง่ๆ ในละคร และผมก็ไม่เคยคิดด้วยว่าทีมจะหนีปัญหาด้วยการหายตัวออกไปจากบ้านทั้งที่เรายังไม่ได้เคลียร์อะไรกันสักปากเลยด้วยซ้ำ เมื่อคืนผมยอมรับว่านอนอยู่บนเตียงแล้วยูลดันพิเรนทร์ขึ้นมาคร่อม แต่ถ้าทีมเข้ามาในห้องเร็วกว่านั้นสักสองนาทีก็จะทันได้เห็นผมพยายามผลักยูลออก...

   เกือบทุกอย่างที่ทีมเห็นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช้แสตนท์อิน แต่สิ่งที่เป็นแค่เรื่องโกหกก็คือจินตนาการของแฟนผม เอาแต่ระแวงว่ายูลเคยเป็นคนรักเก่าของผมทั้งที่จริงแล้วมันไม่ใช่ ยูลไม่ได้ต่างอะไรกับน้าอิ่ม ทั้งสองคนเป็นคนที่พยุงผมในวันที่ล้ม และจูงผมมาส่งให้ไอ้บ้าทีม แต่มันกลับไม่เคยสนใจที่จะรับรู้เลยสักครั้งเดียว

   “ฝุ่น ไม่ทานข้าวหน่อยเหรอ เขี่ยมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ” ยูลหันมาเกลี่ยเส้นผมออกจากหน้าผากผมพลางถามอย่างใจดีเหมือนทุกทีที่เราเคยอยู่ด้วยกัน แต่วันนี้...หัวใจผมไม่เหมือนเดิม ปฏิกิริยาที่เผลอแสดงออกไปคือการเบี่ยงหน้าหนีสัมผัสนั้น ยูลชะงักมือแล้วถอยออกไปช้าๆ

   “ขอโทษนะ เพราะฉันอีกแล้ว” ยูลบอกเรียบๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาช้าๆ ภาพที่เห็นมันพร่ามัวกว่าที่คิดไว้เพราะน้ำตาที่เริ่มเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง ผมจำไม่ได้ว่าตัวเองเริ่มกลายเป็นคนขี้แยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที ผมก็เจ็บทุกครั้งที่ทีมโกรธ แต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรถึงจะดี ตอนเด็กพ่อเคยสอนผมท่องก.ไก่ โตมาน้าอิ่มสอนบวกลบเลข พอเข้าโรงเรียนคุณครูก็สอนให้เป็นคนดี ยูลสอนให้ผมเข้มแข็ง

   แต่ไม่เคยมีใครสอนผมเลย ว่าอาการเจ็บร้าวที่เกิดขึ้นโดยง่ายดายแบบนี้ต้องทำอย่างไรกับมัน..?

   “ทีมไม่รับสายฉันเลย” ผมได้ยินตัวเองพูดออกไปแบบนั้น ยูลหน้าเสียลงไปนิดหน่อย

   “ถ้าเป็นฉันไม่รับสายนายบ้าง นายจะกังวลแบบนี้มั้ย” ผมไม่รู้ว่ายูลต้องการคำตอบแบบไหน แต่สิ่งที่ใจผมคิดก็คือคำตอบที่พูดออกไป

   “แต่นายก็ไม่เคยตัดสายฉันทิ้ง...ถ้านายไม่รับ ก็แปลว่ากำลังยุ่ง แต่อีกเดี๋ยวนายก็จะโทรกลับมา” ผมบอกหงอยๆ พลางปาดน้ำตาให้พ้นไปจากแก้ม โชคดีที่วันนี้น้าอิ่มกับลุงสินออกไปทำงานแล้ว ผมจึงไม่ต้องเพิ่มปัญหาให้กับตัวเองด้วยการมานั่งหาข้ออ้างว่าทำไมถึงได้ตาปูดโปนแบบนี้

   “นั่นสินะ...” เขานิ่งไปนิดหน่อยราวกับใช้ความคิด “แล้วเพื่อนของหมอนั่นล่ะ โทรหาบ้างรึยัง”

   “โทรถามพี่ไกด์แล้ว แต่ก็..ไม่อยู่”

   ผมวางช้อนลงบนจานทั้งที่เล็มข้าวไปแค่ไม่กี่เม็ด ได้ยินเสียงยูลถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะบอก

   “ไปเที่ยวกันดีกว่า ไม่ว่ายังไงบ้านหลังนี้ก็เป็นของหมอนั่น เดี๋ยวเขาก็กลับมา” ยูลเดินมาดึงผมให้ลุกขึ้นตาม เขาก้มลงมาจูบซับน้ำตาให้เบาๆ ทั้งที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว

   “อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะยูล ฉันขอร้อง” ผมบอกแล้วผลักออก ยูลยักไหล่แล้วยกจานกับข้าวไปเก็บในตู้โดยไม่ได้พูดอะไรอีก



   สรุปว่าวันนั้นยูลก็ลากผมออกไปเที่ยวจนได้ ทั้งที่ในอกยังอัดแน่นไปด้วยความไม่สบายใจ ทั้งหมดไม่ได้เป็นเพราะยูล แต่ตัวต้นเหตุคือผมเองที่ไม่รู้จักวิธีจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง ก็แอบสงสารเพื่อนที่แสนดีคนนี้อยู่มากพอสมควร เพราะเขาเองก็อยากให้ผมยิ้มและสบายใจ แต่ก็ได้แค่ในช่วงนั้นเท่านั้นเอง กลับมาอยู่คนเดียวก็นั่งหงอยเหมือนเดิม

   ...ขออภัยค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...

   ถ้าบอกว่าโคตรเกลียดผู้หญิงคนนี้ผมจะผิดมากน้อยแค่ไหน ชอบพูดขึ้นมาทุกทีที่มีเรื่องสำคัญ...ทีมไม่รับสายผมมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พอตอนเช้าโทรหาใหม่ก็ได้เรื่องว่ามันปิดโทรศัพท์หนีหายไปจากโลกเป็นที่เรียบร้อย ผมไม่ชอบเลยที่มันทำแบบนี้ มีปัญหาอะไรทำไมไม่คุยกันให้เรียบร้อย ทั้งที่เรื่องมันไม่มีอะไรเลยแท้ๆ

   โทรไม่ติดหลายๆ รอบเข้าผมก็เริ่มท้อ เลยเปลี่ยนเป็นส่งข้อความหาแทน พิมไปสารพัดรูปแบบด้วยหวังว่าไอ้แฟนบ้าจะเห็นใจและโทรกลับมาฟังผมอธิบาย แต่นั่นก็เป็นได้แค่ความหวังเล็กๆ ที่กำลังจะดับมอดในไม่ช้า เพราะนอกจากทีมจะไม่เห็นใจแล้ว มันยังทำเมินไม่แม้แต่จะตื๊ดกลับมาด้วยซ้ำ

   ผมตัดสินใจนั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นทั้งที่ยูลลงมาตามให้ขึ้นไปนอนมากกว่าสิบรอบแล้ว โทรทัศน์ถูกผมเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ อย่างเบื่อหน่าย

   สามทุ่มครึ่งก็แล้ว ห้าทุ่มยี่สิบก็แล้ว ตีหนึ่งกว่าก็แล้ว...ผมก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนนิสัยไม่ดี จากตอนแรกที่หัวใจมันแห้งเหี่ยวเหมือนต้นไม้ขาดน้ำ ก็เริ่มแสดงอาการหงุดหงิดมากขึ้น โทรศัพท์ถูกผมคว้ามากดโทรออกอย่างไม่สนใจแม้กระทั่งว่าตอนนี้เป็นเวลาเท่าไหร่แล้ว แต่สิ่งที่ได้รับก็เหมือนเดิม

   ...ขออภัยค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...

   โอ้ก นี่มึงจะโกรธกูเอาโล่เลยรึเปล่าวะ

   แล้วผมจะทำอะไรได้นอกจากกดพิมข้อความส่งหาไอ้แฟนบ้าอีกรอบ หักลบความโกรธเติมความอ้อนอีกหน่อยมันอาจจะเห็นใจก็ได้มั้ง

   ...ทีม ไม่อยากคุยกับฝุ่นเหรอ โทรหาหน่อยสิ คิดถึงนะ...

   สาบานได้ว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำตัวแต๋วขนาดนี้เลย แม่ง ไม่รักกูไม่ทำนะ ฮึ่ย!


   อยากพูดให้เต็มปากว่าผมตื่นรอทีมทั้งคืน แต่ก็ดันมาเสียทีตกม้าตายตอนจบทนความง่วงไม่ไหวคอพับคออ่อนอยู่ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น แรงเขย่าที่แตะลงบนต้นแขนแผ่วเบาทำให้ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

   “ทีม!” ได้ยินตัวเองร้องไปแบบนั้น แต่หัวใจที่พองโตเพราะคิดว่าทีมกลับมาก็ต้องแห้งเหี่ยวไปทันตาเพราะคนที่อยู่ตรงหน้าผมคือน้าอิ่มกับสีหน้าเป็นกังวล “น้าอิ่มเองเหรอครับ”

   “ทำไมไม่ขึ้นไปนอนบนห้องล่ะฝุ่น มานอนอะไรตรงนี้”

   “เอ่อ..ผมรอทีมอยู่ เราทะเลาะกันนิดหน่อย” ผมพึมพำตอบไปตามความจริง...แต่ไม่หมด น้าอิ่มไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น

    “อ้าว แต่ทีมเพิ่งออกจากบ้านไปก่อนหน้าฝุ่นตื่นนี่เองนะ” ได้ยินแบบนั้นก็แทบน้ำตาร่วง ทั้งๆ ที่เห็นว่าผมนอนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นแท้ๆ แต่กลับไม่คิดจะปลุกหรือเรียกมาคุยกันแม้แต่น้อย ผมยอมรับว่าตัวเองก็ไม่ดีที่ปล่อยให้ยูลถึงเนื้อถึงตัวมากขนาดนั้นแต่ทีมก็น่าจะเชื่อใจและฟังผมอธิบายบ้าง

   “น้าอิ่ม...น้าอิ่มโทรหาทีมให้ฝุ่นหน่อยได้มั้ย” เสียงผมสั่นจนคิ้วของน้าอิ่มเริ่มขมวดเข้าหากันมากขึ้น

   “ฝุ่น ใจเย็นๆ นี่เป็นอะไรกันแน่” น้าอิ่มถามด้วยสีหน้าสงสัยปนเป็นกังวลอย่างมาก

   “เรามีปัญหากัน แล้วทีมไม่รับโทรศัพท์ฝุ่นเลย น้าอิ่มโทรหาทีมให้หน่อยนะ” ผมพยายามขอร้อง น้าอิ่มจึงยอมหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกทั้งๆ ที่ยังไม่คลายความสงสัย ภาพที่ผมเห็นเริ่มพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตามากขึ้นเมื่อน้าอิ่มโทรออกได้แค่อึดใจเดียวปลายสายก็กดรับ

   “ทีม น้าเองนะ” น้าอิ่มพูดพลางมองหน้าผม “ตอนนี้อยู่ไหนเหรอจ๊ะ...อ่อ เปล่าหรอก คือฝุ่นบอกว่าเราสองคนทะเลาะกันเหรอ”

   ผมนั่งเฝ้ารอคำตอบด้วยใจระทึก พักเดียวน้าอิ่มก็กรอกเสียงใส่โทรศัพท์อีก

   “เปล่า...น้องไม่ได้ฟ้อง แต่น้าถามเอง..จ้ะ เอางั้นเหรอ จ้ะ ได้ ขับรถดีๆ ก็แล้วกัน แค่นี้นะ”

   แล้วน้าอิ่มก็วางสายไป...ทีมไม่แม้แต่จะขอพูดกับผมสักคำ...

   “ทีมว่าไงบ้างครับน้าอิ่ม” ผมถาม

   “เอ่อ..ไม่ได้ว่าอะไรจ้ะ ทีมบอกว่าตอนนี้กำลังจะออกจากกรุงเทพฯ แล้วอีกสองสามวันจะกลับมา”

   “เหรอครับ...” ผมพึมพำตอบเสียงเบา ตั้งใจว่าจะไปอาบน้ำแล้วลองโทรหาทีมอีกรอบ แต่น้าอิ่มกลับคว้าข้อมือผมเอาไว้เสียก่อน “มีอะไรรึเปล่าครับ”

   “ฝุ่น..คือ น้าไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเราสองคน แต่เท่าที่น้าดูเรามาตลอดหลายเดือน บอกน้าได้มั้ยว่าความสัมพันธ์ระหว่างฝุ่นกับทีม...เรียกว่าอะไร” ผมรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน พระอาทิตย์หยุดส่องแสง มืดดับไปชั่วขณะ สมองไม่รับรู้คำถามของน้าอิ่มและไม่คิดจะประมวลผลใดๆ ออกมาทั้งนั้น ได้แต่ยืนนิ่งมองหน้าน้าอิ่มราวกับคนบ้าใบ้อยู่เกือบสามนาที

   “ตอบน้าไม่ได้เหรอฝุ่น เรากลายเป็นคนที่ไม่ไว้ใจกันตั้งแต่เมื่อไหร่” น้าอิ่มถามผมเบาๆ

   “ฝุ่น...”

   “They are dating.” ไม่ใช่ผมหรือทีมที่ให้คำตอบนั้นกับน้าอิ่ม กลับเป็นคนที่ผมไม่ต้องการจะให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากที่สุดอย่างยูลเป็นคนยื่นคำจำกัดใจความนั้นออกมา ผมหันกลับไปมองเพื่อนที่รักที่สุดในชีวิตกำลังเดินลงมาจากบันไดด้วยสีหน้าโกรธเคือง ผมไม่รู้ว่ายูลโกรธเรื่องอะไร ทั้งที่จริงแล้วควรจะเป็นผมไม่ใช่หรือ..?

   “ยูลพูดอะไร” ผมพยายามกลบเกลื่อนแล้วหันกลับไปมองน้าอิ่มที่นิ่งค้างไปเสียแล้ว

   “ผมพูดจริง ลูกชายของสามีน้ากำลังคบกับฝุ่นอยู่” ยูลยืนยันคำเดิม น้าอิ่มหันกลับมามองหน้าผมอย่างไม่อยากเชื่อ “และทั้งสองคนกำลังมีปัญหากันเพราะผม...หมอนั่นคิดว่าผมมาที่นี่เพื่อเอาฝุ่นกลับไป หึ น่าสมเพชที่มันมีส่วนจริง”

   “เดี๋ยว...เดี๋ยวนะ น้างงไปหมดแล้ว นี่มันเรื่องอะไรกัน”

   “น้าอิ่ม...” ผมเรียกด้วยเสียงที่แผ่วเบา ความรู้สึกกลัวความผิดแบบตอนที่ยังอยู่อเมริกาตามลำพังกับแม่กลับมาตามหลอกหลอนผมอีกครั้ง น้ำตาเริ่มเอ่อคลอตอนที่ยูลยื่นกระดาษใบหนึ่งมาให้ ผมรับมันมาเปิดดูด้วยมือที่สั่นเทาจนยากจะห้าม

   ตั๋วเครื่องบินกลับอเมริกา...

   “คงไม่คิดจริงๆ หรอกใช่มั้ยว่าฉันมาที่นี่เพื่อมาเยี่ยมนายกับน้าอิ่มเท่านั้น” ยูลพูดก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาใกล้ๆ ดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องมองมายังผมราวกับต้องการจะอ่านให้ทะลุ

   “ยูลหยุดก่อน! ฝุ่น เล่าเรื่องให้น้าฟัง...ทั้งหมด!”

   “นายจะโกหกคนที่ดีและจริงใจกับนายมาทั้งชีวิตได้ลงคอเชียวหรือ ทำไมไม่บอกน้าอิ่มไปว่าระหว่างนายกับทีมไปถึงไหนกันแล้ว” ...ไม่ใช่ นี่มันไม่ใช่ยูลที่ผมรู้จักอีกแล้ว ผู้ชายคนนี้ทั้งอวดดี ทั้งใจร้ายและจ้องจะจับผิดผมเพื่อเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมพยายามรักษาไว้ไปให้คนที่ดีกับผมมาทุกนาทีของชีวิต..รู้ทั้งรู้ว่าผมจะโกหกน้าอิ่มไม่ลง

   ทีมอยู่ที่ไหน ผมอยากเจอทีม!



   สุดท้ายก็เป็นผมที่นอนอยู่บนเตียงเพียงลำพัง น้ำตาไหลอาบแก้ม ไม่มีเสียงสะอื้นแม้แต่อึกเดียว หัวใจเจ็บร้าวจนไม่รู้จะหาทางไหนเยียวยาให้หายดี ทีมเดินจากไปด้วยความโกรธเพราะผมทำตัวไม่ดี เพื่อนที่ผมรักและไว้ใจที่สุดก็หักหลังด้วยการบอกญาติสนิทถึงเรื่องความสัมพันธ์เกินพี่น้องของผมกับทีม และน้าอิ่มเองก็ดูจะช็อคกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่มากก็น้อย

   น้าอิ่มรับปากว่าจะไม่บอกอะไรลุงสินแม้แต่คำเดียว แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ภูเขาลูกใหญ่บนอกผมถูกยกออกไปได้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมยูลต้องทำแบบนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา ฝ่ามืออุ่นคู่นั้นคอยประคองผมเสมอ แต่ทำไมคราวนี้ถึงได้ผลักผมให้ล้มลงอย่างไม่ไยดี

   “ไม่หิวข้าวหรือ” ยูลนั่งลงที่ข้างเตียงแล้วเอื้อมแขนมาคร่อม พลางชะโงกหน้าถามผมที่นอนหันหน้าเข้าหาผนัง

   “ไม่คิดว่าฉันหยุดหายใจไปแล้วบ้างเหรอ” ผมถาม เสียงที่ออกไปกลับแหบจนน่าเกลียด ทั้งยังขึ้นจมูกจนแทบหายใจไม่ออก

   “ไม่เคยมีใครตายเพราะความรัก” เสียงทุ้มห้าวกระซิบตอบ ก่อนที่ยูลจะก้มลงจูบเบาๆ ตรงข้างแก้ม “ความรักไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่เราที่ทำร้ายตัวเองเท่านั้น”

   ทั้งที่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะไม่มีวันไหนเลยที่ผมจะตะคอกใส่เพื่อนผู้แสนดี ทว่าคำพูดนั้นกลับทำให้ผมอดรนทนไม่ได้ ลุกพรวดขึ้นนั่งจนยูลเองยังตกใจและผงะออกไป

   “ความรักไม่ได้ทำร้ายฉัน...นายต่างหากที่หักหลังและฆ่าฉันด้วยมือของนายเอง!!” ผมตะคอกเสียงดัง แล้วจ้องหน้าเพื่อนที่ผมรักมากที่สุดผ่านม่านน้ำตาด้วยความโกรธเคือง ยูลขมวดคิ้วแน่นยกมือขึ้นบีบคางผมอย่างแรงพลางกัดฟันบอกเสียงขุ่น

   “คิดจริงๆ หรือว่าฉันอยากยกนายให้ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้น่ะ ทั้งที่ฉันเป็นคนแรกของนาย เป็นทุกอย่างของนาย จำได้มั้ยฝุ่น” ได้ยินยูลถามแบบนั้นผมก็ยิ่งโกรธ พยายามสะบัดใบหน้าออกจากการจับของปลายนิ้วแข็งแรงที่ไม่ปรานีแม้แต่น้อย

   “นายแค่เคยเป็น!!” ผมตะคอกกลับ

   “หรือว่าฉันต้องเรียกความทรงจำของนายกลับมาถึงจะดี หืม” เสียงทุ้มห้าวกระซิบอีกครั้ง ยูลยิ้มเหี้ยมก้มลงมาจูบโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ได้แต่พยายามดิ้นแต่ก็โดนกัดเสียจนเลือดซิบ ยูลใช้ความได้เปรียบด้านสรีระที่ใหญ่โตและพละกำลังที่มากกว่าเหวี่ยงผมลงนอนกับเตียงอีกครั้ง สองมือที่โดนจับเอาไว้แน่นทำให้ไม่สามารถแม้แต่จะดิ้นรนเรียกอิสรภาพของตนเอง

   “นายบอกว่าฉันเป็นน้องที่นายรัก จำได้มั้ย อย่าทำแบบนี้นะยูล” ผมพยายามเตือนสติยูลที่บ้าไปแล้ว อะไรที่คิดออกก็พยายามพูดออกมา เสียงยูลหัวเราะในลำคอก่อนจะถอนจูบออก

   “You are not my bros…never ever”

   เพียงเท่านั้นน้ำตาผมก็ไหลอีกครั้ง ร่างกายพาลหมดแรงไปเสียดื้อๆ ปากที่เคยพยายามพูดเตือนสติให้เขาเลิกบ้าก็ได้แต่พยายามอ้าเพื่อโกยอากาศเข้าปอดเมื่อจมูกผมมันอู้อี้จนหายใจไม่ออกอีกต่อไป หัวใจเจ็บร้าวและไม่รับรู้อะไรแต่ได้เต้นอย่างไร้ชีวิตจนเสื้อยืดที่ผมใส่เอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานนั้นถูกถอดออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้ตัว กระทั่งแรงจูบที่รุนแรงเริ่มอ่อนลงจนกลายเป็นสัมผัสที่อบอุ่นอย่างที่ผมคุ้นเคย

   “ทั้งที่ฉันมาก่อน...ทั้งที่ฉันทำทุกอย่างเพื่อให้นายยิ้ม ดีใจ...แต่ทำไมนายถึงเลือกหมอนั่น” เสียงเขาสั่นอย่างที่ผมไม่เคยได้ยิน “ทั้งที่ฉันคิดกับนายแบบนี้ แต่ก็ต้องทนบอกว่านายคือน้องชายที่ฉันรักที่สุด...เคยถามตัวเองบ้างมั้ยว่าพี่ชายคนไหนอยากจูบ และร่วมหลับนอนกับน้องชายตัวเองแบบนี้...รับรู้ความรู้สึกฉันบ้างเถอะฝุ่น”

   ยูลที่บ้าจนสติแตกเอาไม่อยู่นั้นหายไป กลับกลายเป็นเพื่อนที่แสนดีคนเดิมอีกครั้ง แรงกอดกระชับที่ตัวผมแน่นขึ้นพร้อมกับศีรษะที่ก้มลงมาซบตรงซอกไหล่ ก่อนเสียงทุ้มห้าวนั้นจะกระซิบบอกแผ่วเบาทว่าสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่เอ่อล้น

   “ฉันรักนาย...รักด้วยทุกลมหายใจที่มีอยู่”

   “ขอโทษนะยูล แต่ฉันคงรับความรักของนายไว้ไม่ได้” ผมกระซิบตอบกลับไป เรื่องความรู้สึกของยูลเรียกว่าผมไม่รู้ก็คงไม่ได้...ร่างกายและหัวใจไม่มีอาการช็อคหรือตกใจใดๆ ทั้งนั้น ยิ่งยูลพูดก็ราวกับกำลังตอกย้ำสิ่งที่ผมรู้ดีอยู่แล้วเพียงแต่ไม่เคยยอมรับมันเท่านั้นเอง

   ทุกรอยยิ้มที่ยูลมี คือความเห็นแก่ตัวที่ผมอยากเก็บไว้คนเดียว ทุกแรงกอดที่ยูลกระชับเข้าหา คือความเห็นแก่ตัวที่ผมไม่อยากให้ใคร ทุกความรักที่ยูลมอบให้ คือความเห็นแก่ตัวที่ผมไม่เคยแบ่งปันให้ใคร...

   และผมก็รู้ดีว่ายูลเต็มใจที่จะให้ผมเห็นแก่ตัวเช่นนั้น ทั้งที่ยูลรู้ดีว่าผมไม่เคยยอมให้ยูลก้าวเกินคำว่าเพื่อนหรือพี่น้อง แต่เขาก็ยังยินดีอยู่ตรงนี้ข้างๆ ผมเสมอมา....เพื่อนแบบเขา ผมจะหาได้จากที่ไหนอีก...

   “ฉันไม่อยากได้ยินคำนั้น” เขากระซิบ

   “ฉันรักนาย พี่ชายที่แสนดีเพียงคนเดียวของฉัน” ผมตอบ ยูลถอนใบหน้าออกจากซอกคอแล้วจ้องมองผมนิ่งด้วยดวงตาที่แดงก่ำคล้ายคนกำลังจะร้องไห้

   “ลืมมันไปได้มั้ย เรื่องวันนี้” เสียงทุ้มนั้นกระซิบถาม ผมหยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

   “ฉันลืมความรักที่แสนดีของนายไม่ได้หรอก ขอโทษนะยูล...ให้ฉันเก็บมันเอาไว้ที่ตรงนี้ในฐานะความทรงจำที่ดีที่สุดอีกอย่างหนึ่งแทนได้มั้ย” ผมเอื้อมมือไปแตะที่ตรงหัวใจของยูล หมอนั่นนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ

   “แล้วฉันจะขัดใจนายได้ยังไง”

   ยูลกอดกระชับผมเอาไว้แผ่วเบา เรียกกำลังใจที่หดหายไปคืนมาได้จำนวนหนึ่ง แต่เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในระยะเวลาใกล้กันทำให้ผมยังไม่อาจวางใจ น้าอิ่มรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเรา ในขณะที่ทีมยังไม่แม้แต่ยอมรับโทรศัพท์ ผมรู้สึกคล้ายๆ ว่ากำลังเดินอยู่บนเส้นเชือกไม่อาจเดินต่อหรือถอยกลับได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อการร่วงหล่นลงในเหวลึกอย่างมาก

   บางครั้งผมก็สงสัยว่าถ้าวันนึงเราถูกบีบบังคับให้แยกทางเดิน ทีมจะทำยังไง..? ดิ้นรนยึดยื้อสถานะของเราเอาไว้อย่างนี้ หรือจะยิ้มออกมาบางๆ อย่างที่ชอบทำแล้วเดินจากไปโดยไม่เจ็บกันนะ..?

   ผมตัดสินใจผละออกจากยูล ลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์จากบนโต๊ะมากดโทรหาทีมอีกครั้ง คราวนี้แฟนของผมเปิดเครื่องแล้ว แต่รออยู่นานจนผมเกือบจะกดวางแล้ว กว่าที่ทีมจะยอมรับสาย

   ((.......)) เมื่อเขาไม่ยอมพูด ก็คงต้องเป็นผมที่เริ่มทุกอย่างบ้าง

   “ทีม..ฝุ่นเองนะ พี่อยู่ที่ไหน” ผมได้ยินเสียงตัวเองกำลังสั่น ปลายสายเงียบไปพักใหญ่กว่าจะยอมตอบ

   ((อยู่ข้างนอก ฝุ่นมีอะไรรึเปล่า)) น้ำเสียงเย็นชาไม่เหมือนทุกทียิ่งทำให้ผมใจแป้ว

   “วันนี้จะรออยู่ที่ห้อง กลับมาคุยกันนะ” อยู่ๆ ผมก็พูดออกไปแบบนั้น ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าถ้าเข้าไปรอโดยที่ไม่ได้พูดอะไรน่าจะมีโอกาสได้เจอมากกว่า แต่อะไรบางอย่างกลับบอกให้ผมพูดไปอย่างนั้น เสี้ยวหนึ่งในใจของผมยังคงเชื่อว่าทีมจะกลับมาเพื่อคุยเรื่องนี้ และเราจะต้องดีต่อกันเหมือนเดิม

   ((มีอะไรอีกมั้ย))

   “ขับรถดีๆ แล้วกัน..อย่าลืมนะ จะรอ” แล้วทีมก็วางสายไปโดยไม่พูดอะไรอีก ผมลดระดับโทรศัพท์ลงจากหู หันกลับไปมองยูลที่จ้องกลับมาด้วยความเป็นห่วง คิ้วเข้มคู่นั้นเลิกขึ้นแทนคำถาม “ทีมยังโกรธอยู่เลย”

   “อยากให้ฉันอธิบายให้ไอ้เวรนั่นฟังมั้ย”

   “ไอ้เวรนั่นน่ะแฟนฉันนะยูล” ผมเตือนแล้วถอนหายใจแรงๆ ไม่อยากนึกภาพเลยว่าถ้าคืนนี้ผมต้องรอจนเช้าโดยไร้เงาของทีมอีก พรุ่งนี้ผมจะตื่นมาด้วยสภาพไหน หรือน้ำ(ตา)จะท่วมโลกกันนะ...? เฮ้อ


   ผมทิ้งให้ยูลนั่งเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ที่ห้อง ส่วนตัวเองก็เดินย้อนกลับมาที่ห้องของทีม ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมถึงเปิดประตูเชื่อมเข้ามันไม่ได้ วันก่อนที่เข้ามาเพื่อจะอธิบายก็ไม่ทันสังเกตถึงสิ่งผิดปกติแต่วันนี้น่ะชัดเลยว่าแฟนของผมมันเป็นคนร้ายกาจขั้นสุด นอกจากจะงี่เง่าไม่ยอมพูดยอมจาอะไรแล้ว ยังจะเอาโต๊ะหัวเตียงมาปิดเอาไว้ไม่ยอมผ่านประตูเชื่อมบานนั้นเข้าไป

   ผมเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้นุ่ม ซุกลงไปกับกองหมอนและผ้าห่มหน้าโทรทัศน์เครื่องใหญ่ที่ใช้นั่งดูหนังกับทีมเมื่อหลายคืนก่อนด้วยความหดหู่ใจ กลิ่นอายอุ่นๆ ของคนนิสัยไม่ดีที่ผมรักยังรายล้อมทำให้รู้สึกปลอดภัยอย่างไร้เหตุผล

   ผมให้เวลากับตัวเองในความเงียบของห้องนั้นเพื่อคิดให้ออกว่าควรจะเริ่มพูดกับทีมยังไงถึงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่ผมจะทำได้ ท้องฟ้านอกหน้าต่างจากเดิมที่เป็นสีเหลืองอมส้มก็เริ่มกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มจนตอนนี้มืดสนิทมีเพียงแสงจันทร์ที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นเวลาเท่าไหร่จนได้ยินเสียงลูกบิดประตูที่ขยับเบาๆ และมือที่คุ้นเคยเอื้อมกดสวิตซ์ไฟอย่างคุ้นเคย ผมเงยหน้ามองเขาพลางหรี่ตาลงเล็กน้อยเพราะแสงจากหลอดไฟที่ถูกเปิดอย่างกระทันหัน

   “ฝุ่น...” เจ้าของเสียงดูประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นผมนั่งอยู่อย่างนั้น แต่ทีมก็ทำเป็นไม่สนใจอะไร เดินไปวางกุญแจรถ กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะหนังสือเงียบๆ ผมรีบลุกขึ้นจากกองหมอนเพื่อตรงเข้าไปหาคนที่อุตส่าห์นั่งรอมาตลอดวัน

   “ทีม..คือ ฟังฝุ่นก่อนนะ เรื่องมัน....” ผมพยายามอธิบาย แต่ดวงตาคมดุกลับตวัดมองมาพร้อมเสียงเย็นชาพูดขึ้น

   “จะอธิบายก็หาเรื่องโกหกให้สมเหตุสมผลด้วยนะ จะฟังแค่ครั้งเดียว”

   ผมสะอึกกับประโยคนั้นแต่ก็หาคำพูดอื่นมาแก้ตัวไม่ได้ สิ่งที่ดีที่สุดที่ผมทำได้ในตอนนั้นก็คือการพยักหน้าแล้วเริ่มเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นจริงๆ ให้ทีมฟังอีกครั้ง แฟนที่ผมรักยืนฟังโดยไม่ซักถามใดๆ ทั้งสิ้นจนสิ่งที่ผมพยายามจะบอกมาตลอดก็ถูกถ่ายทอดไปจนหมด ความเงียบหลายชั่วโมงที่ผมอดทนมาบอกให้ผมรู้ว่าถ้าผมกล้าพอที่จะพูดความจริงทั้งหมดให้แฟนฟังแล้วทีมยอมให้โอกาสอีกสักครั้งก็ถือว่าจบไป แต่ถ้าทีมเลือกที่จะริดรอนโอกาสนั้น ผมก็ต้องทำใจรับกับมันให้ได้เช่นกัน

   “แค่นี้ใช่มั้ยที่จะพูด” ทีมถามเรียบๆ ผมได้แต่ก้มหน้าปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มท่ามกลางความอึดอัดนั้น พยักหน้าเบาๆ แทนคำตอบ

   “ให้อภัยฝุ่นไม่ได้เหรอ...เรายังรักกันไม่ใช่เหรอทีม” ผมได้ยินเสียงตัวเองสั่นระริกตอนที่อ้าปากถามไปอย่างนั้น แขนสองข้างยกขึ้นรั้งทีมที่ยังยืนนิ่งไม่ไหวติงเอาไว้ ภาพที่ผมเห็นต่างพร่าเลือนไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด มือข้างหนึ่งของทีมยกขึ้นจับที่ปลายคางผมแผ่วเบา ก่อนก้มลงสั่งชิดริมฝีปาก

   “ใช้ปากให้หน่อย”

   มันอาจเป็นบทลงโทษที่ไม่ดีเท่าที่ควรนัก แต่ตัวผมในตอนนี้คงไม่มีตัวเลือกใดๆ ที่ดีไปกว่าการยอมทำตามที่ทีมสั่งเท่านั้น

   ผมโดนผลักให้ถอยไปจนเกือบชิดผนัง ก่อนคิ้วเข้มนั่นจะเลิกขึ้นคล้ายกำลังเย้ยอยู่ในที ร่างกายผมค่อยๆ ทรุดตัวลงคุกเข่าลงตรงเบื้องหน้า มือที่พยายามแกะเข็มขัดของทีมออกสั่นจนรู้สึกได้

   ส่วนร้อนยังอ่อนตัวอยู่ในมือผม มันมีกลิ่นคาวเล็กน้อยจากเหงื่อ ทั้งยังไม่ได้อาบน้ำแต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะให้ความสำคัญ...ลิ้นค่อยๆ แลบเลียยังส่วนปลายเพื่อปลุกเร้าให้แข็งตัวท่ามกลางเสียงครางในลำคอเจ้าของมัน พยายามรูดรั้งให้ทีมถึงปลายทางเร็วที่สุด...แต่ดูเหมือนแค่ภายนอกคงยังไม่ถึงใจ ผมถึงได้ถูกรั้งขึ้นไปรับจูบร้อนแรง

   “อือ...ทีม...นี่..” ผมพยายามเรียกเพื่อจะถามว่าจะไม่ให้ผมทำต่อแล้วรึไง รีบๆ ทำให้เสร็จไปคงจะดีกว่า ทว่าอีกฝ่ายกลับทำเสียงจิ๊ปากแล้วพูด

   “อย่าใจร้อนสิ”

   กูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ! T.T

   ทีมจูบผมรุนแรงกว่าทุกครั้ง อาจเป็นเพราะยังโกรธและต้องการจะลงโทษให้สาสมกับสิ่งที่ผมทำ ปลายลิ้นที่สอดเข้ามาพัวพันนั้นร้อนแรงและปลุกเร้าไปในตัว เสื้อผ้ากลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นอีกต่อไป เปลือกที่ห่อตัวถูกปอกออกไปช้าๆ อย่างไม่ต้องการให้จังหวะนี้สะดุด สัมผัสร้อนเป็นตัวการทำให้ผมทิ้งตัวลงนอนหอบอยู่บนกองหมอนอย่างไม่มีทางเลือก

   กระทั่งความร้อนเร่าที่เพียรพยายามสอดใส่เข้ามาทั้งๆ ที่ไม่มีสิ่งป้องกันและเจลหล่อลื่นเหมือนทุกครั้ง แต่สองสิ่งนั้นกลับไม่อยู่ในตัวเลือกที่ผมจะต่อรองมาได้เหมือนทุกที ทีมเบามือกับผมแล้วก็จริง แต่เพราะเราห่างเหินกันทำให้ผมค่อนข้างอึดอัดกับการสอดใส่ครั้งนี้เป็นอย่างมาก

   “ทีม ฮึก...อะ ทีม”

   “เจ็บเหรอ” เสียงทุ้มหวานที่อ่อนโยนกระซิบถามอยู่ข้างหู แรงขยับจากเบื้องล่างยังทำให้ผมนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ไม่กล้าตอบอะไรออกไป “บอกพี่สิ พี่ทำให้เราเจ็บรึเปล่า”

   “ฮึก...เจ็บ ฝุ่นเจ็บ” ผมสะอื้นเบาๆ รู้สึกได้ถึงแรงกระตุ้นที่มากขึ้นจนคล้ายสติกำลังจะหลุดลอย ผมไม่รู้ตัวอีกต่อไปว่าเราทำกันไปแบบไหนบ้างหรือเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนในความรู้สึกตอนนั้นก็คือ...



   ทีมบอกว่ารักและอ่อนโยนกับผมมากเหลือเกิน...



เจอกันตอน 18 จ้ะ


eiizes’s talk

อนุญาตให้ตียูลได้คนละทีค่ะ 555

คุณหรั่งเค้าร้ายนะคะ อย่าไว้ใจค่ะ(ฮา)

สรุปว่าพี่ทีมยกโทษให้น้องมั้ย? หรือทำแล้วชิ่ง?..เจอกันตอนต่อไปค่ะ 5555

แล้วก็ใครที่อยากได้นิยายเรื่องนี้ไปนอนกอดพร้อมตอนพิเศษที่ไม่เคยลงที่ไหนก็อย่าลืมเก็บเงินไว้จองพี่ทีมน้องฝุ่นน้าาาาาาาา~~ ใกล้จะลงรายละเอียดและเปิดจองแว้ววววว~

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ ด๊วบๆ

eiizes


ออฟไลน์ nutjung19

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
อ๊ายยยยยยย ตอน 18

ดีกันแล้วใช่ม้ายยยยยยย

ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
แต่เราโกรธพี่ทีมอ่ะ  :fire:


ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Killua

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ aphanite

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 487
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
จะโดนถีบจะได้มั้ยค่ะไรเตอร์ไอพี่ยูลเนี่ย
แอบตีทีมด้วย
ร้ายจังเชียว เช๊อะ

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
มาโกรธทีมด้วยคน

 :fire: :fire:

hahn

  • บุคคลทั่วไป
ทีมจะปล้ำแล้วชิ่งหนีหรือเปล่าเนี่ย

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
แล้วทำไม ทีมต้องให้น้องทำแบบนั้นด้วยอ่ะ??? ไม่เข้าใจ...

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
ถ้าชิ่งมีตบอ่ะพี่ทีม !!!!
งื้อออ สงสารฝุ่นนะ
ยูล มาแบบนี้จริงๆด้วย
แล้วน้าอิ่มว่าไงเนี่ยย โฮๆๆๆ
ดราม่า

kokoky

  • บุคคลทั่วไป
ทีม ทำไมแกล้งน้องอย่างนั้นล่ะ
น้องน่าสงสารมากเลยรู้ไหม
น้ำตาซึมตามน้องฝุ่นเลยอ่ะ :monkeysad:
ตายูลนี่มันน่านัก น้องยังไม่พร้อมให้น้าอิ่มรู้นะ
ทำไมทำแบบนี้ล่ะ :m16:


ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ยูล นายร้ายลึกนะ^^
นายทีมแกล้งทำเป็นโกรธหรือเปล่านิ

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ engrish

  • "LolliPoP"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 823
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-1
ทีมใจร้าย ยูลก็ด้วย
สรุปสงสารฝุ่นจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26

ออฟไลน์ zabzebra

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1043
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1
เข้าข้างไกด์เต็มที่ ได้เวลาสั่งสอนเมียแว้ววว วุ้วววววววววววววววว :z2: :z2: :z2:

BF-e

  • บุคคลทั่วไป
 ทรมานเเทนฝุ่น

 โอ๊ย โอ๊ย 

ออฟไลน์ eyerabbit

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-10
ทำไมอยู่ดีๆยูลเปลี่ยนไปอย่างนี้หล่ะ

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
เข้ามาเก็บสามตอนรวดค๊า  :L2: :L2:
ชอบคู่น้องตังค์กะพี่อ๋อง  :L2: :L2:
อ่านแล้วซึ้งที่สุดในสามโลก T^T
+1  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
ช่ายโกรธทีมอ่ะ ใจร้ายกับน้องจริง ๆ

จะมีใครแคร์ความรู้สึกน้องบ้างไม ทั้งยูล ทั้งทีม ทำอะไรเผื่อตัวเองทั้งนั้น -*-

mamaUM

  • บุคคลทั่วไป
รอ รอ รอ รวมเล่ม !!!!

ซื้อแน่นอน บาป......หว๊าน..หวาน ><

lazewcielo

  • บุคคลทั่วไป
นี่คือพี่มีมกำลังทดสอบน้องฝุ่นอยู่ใช่มั้ย?
โกรธธธธธธธธธธธะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
อิพี่ทีมทำเอาใจหายแวบ ตกลงว่ายกโทษให้น้องแล้วใช่มั้ย สงสารฝุ่นจะแย่แล้วนะ :angry2:
โอ๋ๆ ฝุ่นน้อย อย่าร้องไห้ เดี๋ยวตาบวมไม่น่ารักน้า :กอด1:
ส่วนยูลขอ :beat: 2 ทีได้มั้ยคะ ทีเดียวไม่สะใจ
+1 ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าา :man1:

fffx

  • บุคคลทั่วไป
อั่กก สงสารน้องฝุ่นนน โดนลงโทษกันแบบนี้เลยทีเดียว
ฝุ่นไม่ได้เล่นด้วยกับยูลซะหน่อยยย นะว้อย  :monkeysad:
แล้วน้าอิ่มก็รู้เรื่องแล้วด้วย ศึกเข้าสองทางเลย แล้วจะทำยังไงกันต่อไปล่ะนี่
แล้วต้องหห่างกันเหมือนที่หมอดูบอกใช่ม๊ายยยย รอต่อต่อไปค่ะ รอรวมเล่มด้วย  :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด