บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บาป...หวาน ♥ แจ้งข่าวดีด่วนสุดดดด หน้า 31 จ้า [16/1/16 :D]  (อ่าน 325620 ครั้ง)

Jomkan

  • บุคคลทั่วไป
อยากได้อะ ...จองไม่ทันนนนนนนน  ยังเหลืออยู่ป่าวครับ

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
อั๊ยๆๆๆ รออย่างใจจดใจจ่อ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
Re: บาป...หวาน ตอนที่1
«ตอบ #752 เมื่อ14-05-2011 17:38:45 »

ได้รับหนังสือแล้วค่าาาาา

อยากบอกว่าหนังสือ รูปเล่มสวยอ่ะ สวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
ตัวหนังสือในเล่มก็อ่านง่าย เรียบร้อยดีค่ะ (แต่คำผิดยังไม่รู้เน้อ ยังไม่ได้อ่านจ้ะ)
ภาพประกอบตอน+ที่คั่น ก็น่ารักดีค่ะ
คุ้มกับเงินที่จ่ายไปมากเลย

ถ้านี่เป็นการทำหนังสือครั้งแรกของคนแต่ง ต้องชมว่าทำออกมาได้ดีมากๆค่ะ

โดยส่วนตัวชอบมากค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ยังไม่ได้ค่ะ  เพราะยังไม่ได้เดินไปบ้านเพื่อน 5555+

เด๋วรอเปิดเทอม ให้มันหิ้วมาให้  หุหุ

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
อ๊ายยยยย มาอ่านรวดเดียวเลย
อ่านตอนท้ายๆแล้วอยากร้องไห้อ่า

Alen

  • บุคคลทั่วไป
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกก

อยากได้หนังสือจังเลยยย ไม่ทราบว่ายังมีเหลืออยู่บ้างไหมค้าาาาาา ชอบๆๆๆจังเยย

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
ปกสวยมากคะ แต่ยังไม่ได้หนักสือนั่งรอต่อไป :bye2:

ออฟไลน์ n2

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +113/-4
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ
เมื่อวานนี้เอง :กอด1:

ออฟไลน์ eiizes

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-0
    • facebook
Re: บาป...หวาน ตอนที่1
«ตอบ #758 เมื่อ15-05-2011 23:29:01 »

ได้รับหนังสือแล้วค่าาาาา

อยากบอกว่าหนังสือ รูปเล่มสวยอ่ะ สวยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
ตัวหนังสือในเล่มก็อ่านง่าย เรียบร้อยดีค่ะ (แต่คำผิดยังไม่รู้เน้อ ยังไม่ได้อ่านจ้ะ)
ภาพประกอบตอน+ที่คั่น ก็น่ารักดีค่ะ
คุ้มกับเงินที่จ่ายไปมากเลย

ถ้านี่เป็นการทำหนังสือครั้งแรกของคนแต่ง ต้องชมว่าทำออกมาได้ดีมากๆค่ะ

โดยส่วนตัวชอบมากค่ะ :กอด1:



 :กอด1: :กอด1: :กอด1: ได้ยินแบบนี้ก็ดีใจมากๆ ค่ะ
ยังกลัวอยู่ว่าจะออกมาดีมั้ยน้า แต่ถ้าคนอ่านเห็นรูปเล่มแล้วบอกว่ามันโอเค เราก็โล่งมากๆ แล้ว ดีใจจจจจจจ


ปล. เพื่อนๆที่ยังไม่ได้หนังสือ อดใจรอกันหน่อยน้า ช่วงนี้หยุดติดกันหลายวัน คุณไปรษณีย์อาจต้องการพักผ่อน 555 ใจเย็นๆนะฮัฟฟฟฟฟ

ได้หนังสือ+อ่านตอนพิเศษแล้วอย่าลืมมาคอมเม้นท์กันนะคะ บ๊วบๆ

intel

  • บุคคลทั่วไป
ได้หนังสือแล้วนะค่ะ  :mc4:
เย็นนี้จิได้อ่านให้หนำใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
 :z2: เข้ามาบอกว่าได้รับหนังสือแล้วคะเมื่อกี้นี้เอง
เปิดดูคราว ๆ แล้วสวยมากอะมืออาชีพเลยนะคะ สวยคะปกหน้ารัก
เดี๋ยวรอเย็นนี้กลับบ้านแล้วจะเริ่มอ่านใหม่ตั่งแต่ต้นเลยคะ
 :bye2:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
Re: บาป...หวาน ตอนที่1
«ตอบ #761 เมื่อ18-05-2011 17:14:03 »

เข้ามาบอกว่า ยังไม่ได้อ่านตอนพิเศษเลย
มัวแต่เวิ่นเว้อลั่นล้ากับเพื่อนอยู่ :laugh:

เดี๋ยวถ้าอ่านแล้วจะมาคอมเมนท์เน้อ

nongmint31

  • บุคคลทั่วไป
ได้ของแล้วนะคะ

ปกสวยดีคะ

แวปไปอ่านก่อน อิอิ

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
เมื่อวานได้รับหนังสือแล้วนะคะ
ปก+ที่คั่นหนังสือน่ารักค่ะ

ออฟไลน์ YYY

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ได้รับหนังสือแล้วค่ะ(เมื่อวานนี้) รูปเล่มสวยถูกใจดูสดใสดีค่ะ

gear

  • บุคคลทั่วไป
ยังไม่ได้รับหนังสือเลยจ้า
ตกหล่นหรือเปล่าเอ่ย
รออยู่นะคะ อยากได้มากมาย

genieposh

  • บุคคลทั่วไป
ได้รับเมื่อวานแล้วจ้า

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เพิ่งได้มาแจ้ง เพื่อนบอกมาเมื่อวานว่า หนังสือมาแล้ว   :mc4:

ขอบคุณจ้า  :impress2: ยังไม่ได้อ่านคงต้องรอสิ้นปี  :z10:

ออฟไลน์ ChiiCaLorz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
รบกวนนิดส์คับ คือตอนจบต้องติดตามอ่านหนังสือเอาใช่ไหมคับ
พอดีเห็นว่ามันนานมากแล้ว ก็ค้างด้วย  :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






gear

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มอ่านเรื่องนี้ครั้งแรกก็ในหนังสือที่สั่งซื้อไปนั่นแหละค่ะ
ขอบอกว่าสนุกมากกกกกกกกกกกตั้งแต่เริ่มเรื่องยันจบเรื่องเลย
อ่านทุกบรรทัดไม่ข้ามเลย
ยิ่งอ่านตอนที่น้องฝุ่นโดนแม่ตัวเองทำร้าย
และได้ยินแม่กับน้ำอิ่มคุยกันเรื่องของน้องฝุ่น
น้ำตาไหลไม่รู้ตัวเลย คนเขียนบรรยายดีมากเลยอินไปหน่อย
จะติดตามผลงานของน้องทุกเรื่องนะคะ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดี ๆ ให้อ่านค่ะ

ออฟไลน์ eiizes

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-0
    • facebook
ตอบค่า

ขอโทษจริงๆ ที่ตอบช้ามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คอมเราไม่สามารถเข้าอินเตอร์เน็ตมาได้ซักพักแล้ว(อันนี้ใช้ที่ม.อยู่อ่า)

เดี๋ยวจะเอาตอนจบมาลงให้นะคะ ขอโทษจริงๆ น้า  TT

ขอบคุณทุกๆ ความเห็นนะคะ เร็วๆ นี้จะเอาเรื่องใหม่มาลงให้อ่านกันน้า กำลังเขียนอยู่ค่า จุ๊บๆ

eiizes

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
ขอบคุณค่ะที่จะลงมาตอนจบ แต่ถ้าจะถามว่าหนังสือพอมีเหลือไหมค่ะ
อยากได้อะ พอดีวันมาดูในบอดแล้ว มันปิดโอนแล้วอะ

Zadao

  • บุคคลทั่วไป
*เก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋า*

ป่ะ! ไปตามหาน้องฝุ่นกัน! TTOTT

...
..
.

ให้ตายเหอะลุงสิน !!!!!!
เกิดเป็นนักดีไซน์ทั้งทีอย่าหัวโบราณเด๊!!! ดูน้าอิ่มเป็นตัวอย่าง สาววายอ่ะ รู้จักม๊ายยย!! (คลั่ง)

ไม่ไหวจะเคลียร์ อยากอ่านตอนจบค่า T_T ฮือออออออออออออ

อยากได้หนังสือด้วย T_T ฮือออออออออออ


*เขย่าไรท์เตอร์*
เค้าไม่ไหวจะเคลียร์!
สงสารน้องงงงงงงงงงงงง

ิฟ้าสาง

  • บุคคลทั่วไป
ตอนจบเป็นอย่างไงเนี่ย  ใครรู้บา้ง!!!!!! :m15:

ออฟไลน์ eiizes

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-0
    • facebook


ในขณะที่หัวใจผมอ่อนล้ามาตลอดหลายเดือน ไม่ว่าจะตามหาด้วยวิธีไหน ฝุ่นก็ยังคงหลบอยู่ในเงามืดเสมอมา หลายครั้งที่แลดูคล้ายกับว่าเรากำลังจะตามหาน้องเจอ แต่พอจะเอื้อมมือคว้าก็กลับกลายเป็นว่าฝุ่นหลุดไปอีกครั้งจนผมนึกท้อ แต่เมื่อหลับตาลงและเห็นภาพน้องกำลังร้องไห้ หัวใจผมก็ร้อนรนต้องการจะหาตัวฝุ่นให้เจอ

ผมย้ายของใช้ที่จำเป็นส่วนใหญ่มาที่คอนโดไกด์และใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาพักนึงแล้ว หลายครั้งที่พ่อพยายามจะรั้งให้ผมกลับบ้าน แต่ก็เป็นได้แค่ความปรารถนาของเขา เพราะผมยังคงดื้อแพ่งจะตามหาฝุ่นอยู่เช่นเคย   

นาฬิกาชีวิตผมไม่ได้หยุดลงเมื่อฝุ่นเดินออกไป แต่มันเพียงแค่เดินช้าลงอย่างไร้ชีวิตจิตใจ ทรมานผมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ผมยังต้องทำโปรเจคและยังต้องเรียนเพื่อให้จบๆ ไปซะ จากนั้นผมจะได้หาเลี้ยงตัวเองและเอาฝุ่นกลับมาอยู่ด้วยโดยไม่ต้องสนใจเสียงใครอีก

Rrrr Rrrr

“เชี่ยไกด์..โทรศัพท์” ผมหันไปตะโกนเรียกไอ้เพื่อนสนิทที่เข้าไปต้มมาม่าคัพในห้องครัวให้กลับมารับโทรศัพท์ก่อน

“เฮ้ย น้ำกำลังจะล้น มึงรับให้กูก่อน” มันตะโกนกลับออกมา แล้วโวยวายกับตัวเองครู่หนึ่ง คาดว่าน้ำน่าจะลวกมัน ผมละความสนใจจากคนบ้าในห้องครัวกลับมาที่โทรศัพท์เครื่องจ้อยบนโต๊ะเขียนแบบใกล้ๆ ชื่อที่ปรากฏขึ้นบนจอทำเอาผมหลุดขำออกมานิดหน่อย ...แฟนเพื่อน...

มึงจะเล่นแฟนใครวะเนี่ย เอิ้ก

((พี่ไกด์...))

“......”  ผมนิ่งค้างไปกับเสียงนั้น หัวใจเต้นระรัวกับปลายสาย ไม่อาจพูดอะไรออกไปได้ราวกับคนบ้าใบ้จน “เขา” ถามกลับมา

((พี่ไกด์ได้ยินรึเปล่า))

“ฝุ่น...” ผมเรียกกลับไปด้วยความมั่นใจ ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เสียงนี้ยังคงติดอยู่ในหูผมราวกับมันถูกเปิดเทปซ้ำๆ ให้ฟังอยู่ตลอดเวลาจนไม่อาจลืมเลือน

((ทีม......ตื๊ด ตื๊ด)) น้องกดวางสายไปทันที ผมรีบกดโทรศัพท์โทรกลับไปด้วยใจที่ร้อนรน ไม่รู้ว่าทำไมฝุ่นถึงจงใจหลบหน้าผม แค่ในโทรศัพท์ก็ยังไม่อยากคุยเชียวหรือ..?

“เหี้ยทีม ใครโทรมาวะ”

ผมหันกลับไปที่ต้นเสียงที่เพิ่งโผล่หน้างงๆ ออกมาจากห้องครัวด้วยความไม่อยากเชื่อ แปลว่าไอ้ไกด์มันอาจจะรู้เรื่องนี้มานานแล้ว...แต่ก็ไม่เคยคิดจะปริปากบอก ปล่อยให้ผมเป็นไอ้โง่พลิกแผ่นดินค้นหาคนรักอยู่อย่างนั้น

“แฟนเพื่อน” ผมบอกมันด้วยน้ำเสียงที่พยายามข่มความโกรธเอาไว้ มันทำหน้าตกใจแล้วรีบวิ่งเข้ามาคว้าโทรศัพท์ออกจากมือผมทันที แต่ผมก็ยังกำเอาไว้แน่นจนแทบจะแหลกคามือ แล้วเงื้อหมัดขึ้นทำท่าจะชกมัน ไอ้เชี่ยไกด์เลยรีบถอยออกไปตั้งหลักให้ห่างจากมือและเท้าของผม

“กูอธิบายได้”

“อธิบายเหี้ยอะไร จะอธิบายว่ากูเป็นสัตว์สปีชี่ไหนงั้นเหรอไอ้เหี้ย มึงรู้วิธีติดต่อฝุ่นแต่ก็ไม่เคยคิดจะบอกกู!” ผมพ่นยาว ไกด์มันทำสีหน้าสำนึกผิดแล้วบอกเสียงอ่อย

“มึงเห็นแก่ความเป็นเพื่อน ฟังกูก่อนนะ”

“ถ้าอธิบายไม่ดี มึงเจ็บตัวแน่”

“คือ..กูเจอน้องฝุ่นโดยบังเอิญเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะใช่หรอกมึง เห็นเด็กผอมๆ เดินไม่มองรถ กูก็ขับเกือบชน...โอ๊ย” ผมยกเท้าถีบมันไปทีนึงด้วยความหมั่นไส้ แม่ง เจอแฟนกูตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่ไม่ปริปากเลยนะไอ้หอกนี่ เห็นผมโกรธมากๆ เข้าไอ้ไกด์ที่ทำท่าจะด่าเลยรูดซิปปากแล้วถอยออกไปนั่งเล่าเรื่องให้ห่างจากผม “กูกะว่าจะบอกแล้ว แต่น้องฝุ่นขอเอาไว้ เค้าไม่อยากให้มึงเจอเค้า”

“ทำไมวะ กูเป็นแฟนที่แย่มากเหรอ ทำไมน้องถึงไม่อยากเจอกู” ผมถาม ในหัวใจเจ็บจี๊ดเหมือนโดนไม้จิ้มฟันแทงเป็นร้อยๆ รอบแล้วทิ้งเสี้ยนเอาไว้ให้เจ็บซ้ำ

“ไม่ใช่แบบนั้น...กูก็ไม่รู้ว่าพ่อมึงพูดอะไรไว้ แต่ดูน้องหงอยมากเลยมึง โคตรผอมอะ พอกูถามมากๆ เข้าน้องก็เลยยอมพาไปที่คอนโด..” มันเสียงอ่อยลงอีก เมื่อเห็นว่าผมทำท่าจะลุกขึ้นไปซ้ำ อะไรวะ แม่งรู้ถึงขั้นที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง แต่ไม่ปริปากซักคำ

“น้องก็ไม่ค่อยสบาย ช่วงนี้ที่บางทีกูบอกมึงว่าออกไปหาเพื่อนสมัยมัธยม...ก็ เอ้อ...ออกไปหาน้องนั่นแหละ บางทีก็ซื้อข้าวไปให้ด้วย” ไกด์บอกแล้วตั้งท่าจะถอยหลังกรูดเมื่อเห็นผมลุกขึ้น “เฮ้ยๆ แต่กูไม่ได้คิดอะไรเกินน้องนะเว้ย กูยังชอบผู้หญิงปกติอยู่”

“สำหรับความผิดของมึง กูไม่ให้อภัยถ้ามึงไม่พากูไปเจอฝุ่นเดี๋ยวนี้” ผมบอก

“ไม่...ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด...กูโดนน้องเอาเรื่องแน่ถ้ามึงโผล่ไป ดีไม่ดี พ่อมึงอาจจะเผาคอนโดกูเลยก็ได้” มันรีบปฏิเสธทันควัน ผมไม่ได้มีเจตนาจะไปอาละวาดที่คอนโดฝุ่น หรือว่าพาน้องกลับไปเย้ยหน้าพ่อหรอกครับ ผมแค่อยากรู้ความเป็นไปของฝุ่น อย่างน้อยก็ให้รู้ชัดด้วยตาตัวเองว่าน้องยังอยู่ใต้ฟ้าเดียวกัน...ผมจะไม่โกรธเลยถ้าจะมีคนอื่นที่ดีกว่าผมดูแลฝุ่น ถึงแม้ในใจจะไม่อยากให้มีก็เถอะนะ...

“แต่กูอยากเจอฝุ่น” ผมบอกเหี้ยมๆ

“เพราะแบบนี้ไง กูเลยไม่อยากบอกมึง” มันยังจะย้อนผมอีก

“ไอ้เหี้ย กูตามหาฝุ่นมาตั้งแต่กรกฏาปีที่แล้ว พอกูได้เบาะแส มึงกลับจะไม่ให้กูไปเจอเค้าได้ยังไง ทำไมมึงเป็นคนส้นตีนแบบนี้”

“เอ๊า ด่ากูอีก เออ หน้ากูหนา ไม่รู้สึกหรอก” มันทำเหรอหราไม่สนใจ ผมเลยเดินเข้าครัวไปคว้าเอามาม่าคัพของมัน แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะเขียนแบบ ทำท่าจะเทราดด้วยความโกรธ

“หน้ามึงหนาอันนั้นกูรู้ แต่งานเขียนแบบของมึงหนารึเปล่า มาลองดูกันดีกว่า..”

“เฮ้ยๆๆๆ อย่าาาา!!! เออๆ กูจะพามึงไปเจอฝุ่น! ไอ้เหี้ย อย่าทำงานกู!!!!” ผมกระหยิ่มยิ้มย่องกับท่าทีลนลานพนมมือไหว้ปลกๆ ของมัน แม่ง ต้องให้กูทำรุนแรง

“ก็แค่เนี้ย”

“แต่..แต่มึงต้องสัญญากับกูนะว่าจะไม่ออกมาแสดงตัว อยู่แต่ในรถ...โอเคมั้ย” นี่มึงมีสิทธิ์ทำข้อตกลงกับกูตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย

“เออ กูจะพยายาม”



หลังจากแวะโลตัสเพื่อซื้ออาหารสด นมอีกสองแพ็คใหญ่ และอาหารกระป๋องจำนวนหนึ่งแล้ว ไกด์ก็เลี้ยวรถไปซื้อข้าวต้มก่อนจะขับรถของมันเองมาเข้าไปที่คอนโดสไตล์โมเดิร์นขนาดค่อนข้างใหญ่แห่งหนึ่ง มองจากภายนอกแลดูสวยมากทีเดียวครับ สไตล์การออกแบบก็แลดูคุ้นตายังไงไม่รู้ ทันทีที่ไกด์ดับเครื่องลงที่ลานจอดรถด้านหน้าตึกซึ่งเฉพาะสำหรับบุคคลภายนอก มันก็หันขวับมาสั่งผมทันที

“มึงอยู่ที่รถนะ กูจะโทรเรียกให้ฝุ่นลงมาเปิดประตูคอนโดให้กู มึงก็นั่งส่องน้องจากตรงนี้เอาก็แล้วกัน...อ่อ ไม่ต้องทำตัวเป็นนักสืบตามมานะ เดี๋ยวคอนโดกูโดนพ่อมึงระเบิดเอา”

ผมพยักหน้ารับงึกงัก..ใช่สิ กูจะไปเลือกอะไรได้ล่ะ เอาวะ ตอนนี้ขอแค่ให้ได้เห็นฝุ่นไกลๆ ให้มั่นใจว่าน้องไม่เป็นไรผมก็ดีใจมากแล้ว

ไกด์ลงไปเปิดกระโปรงหลังรถเพื่อหยิบของสดที่เพิ่งซื้อมาเป็นเสบียงให้น้อง ก่อนจะเดินโทรศัพท์ตรงไปที่หน้าประตูคอนโดที่คาดว่าต้องใช้การ์ดเปิดถึงจะเข้าได้ เป็นเวลาแค่ชั่วอึดใจแต่เนิ่นนานสำหรับผมเมื่อคนที่เฝ้าหามาตลอดหลายเดือนกำลังจะเดินลงมาให้ได้เห็นหน้าแล้ว

ประตูคอนโดกระจกใสถูกเปิดออกช้าๆ ท่ามกลางเสียงหัวใจที่เต้นระรัวของผม เด็กผู้ชายรูปร่างผอมกระหร่องเดินออกมายิ้มให้ไอ้ไกด์ มันหันมามองสบตากับผมแวบหนึ่ง ทำให้ยิ่งมั่นใจว่าคือน้องแน่นอน...ฝุ่นไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลย นอกจากหน้าตาและความสูง...

ผิวน้องแลดูขาวซีดจนคล้ายคนขี้โรค ร่างกายก็ผอมแห้งจนเห็นเป็นกระดูก โหนกแก้มโผล่เห็นชัดเจนแม้ระยะไกล ซ้ำใต้ตายังดูบวมและคล้ำจนเหมือนคนที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก...ทุกอย่างมันบอกให้ผมรู้ ว่าน้องยังทำใจไม่ได้...

สิ่งนั้นยิ่งสมเหตุสมผลมากขึ้นว่าทำไมไกด์ถึงไม่ค่อยอยากให้ผมเจอกับน้องในตอนนี้ รวมถึงฝุ่นเองที่ไม่แม้แต่จะยอมหยุดรอคุยกับผมในโทรศัพท์...

ผมนั่งกระวนกระวายใจอยู่ในรถครู่ใหญ่ จะหาว่าเป็นคนได้คืบเอาศอกก็ยอมเพราะตอนนี้ใจผมทั้งอยากเห็นหน้า ทั้งอยากคุยกับน้องเต็มทน แต่ไอ้เทพบุตรไกด์ก็ยังไม่ลงมา เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงก็แล้วมันก็ยังทำตัวกวนประสาทให้ผมนั่งรอชะเง้อคอยาวอยู่ที่รถ จนตอนนี้ผมเริ่มทนไม่ไหว คว้าโทรศัพท์ได้ก็กดโทรออกหามันทันที

ไอ้ไกด์ปล่อยให้ผมรออยู่นานจนด่ามันได้เกือบครบทั้งตระกูลถึงจะยอมรับแล้วกรอกเสียงลงมา

((อะไรของมึงวะ))

“กูอยากเจอฝุ่น...ในระยะประชิด” ผมตอบความต้องการออกไปโดยเน้นหนักที่ว่าต้องได้เจอในระยะตัวต่อตัว เสียงไกด์ถอนหายใจออกมาแรงๆ บ่นพึมพำ

((ห่าน กูนึกแล้วเชียว))

“มานึกแล้วอะไรของมึง บอกมาห้องฝุ่นอยู่ชั้นอะไร กูจะขึ้นไปเดี๋ยวนี้” ผมบอกแล้วทำท่าจะเปิดประตูรถลงไป เสียงไอ้ไกด์รีบร้องออกมาทันที

((หยุดความคิดมึงไว้ตรงปลายสมองเลย)) มันด่าเสียงดัง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกระซิบบอก ((เดี๋ยวกูลงไปหา))


ให้มันได้แบบนี้สิวะถึงจะเป็นยอดคน!

ผมรออยู่ในรถราวสิบห้านาที ไอ้ไกด์ก็เดินหน้ายุ่งตรงมาที่รถ พอเข้ามาในระยะเห็นชัด มันก็โบกมือเรียกให้ผมออกมา

“กูนึกแล้วเชียวว่าถ้าพามึงมา จะต้องมีปัญหาแบบนี้” มันบ่นทันทีที่ผมเดินออกมา และจัดการล็อครถเสร็จ

“น่า บุญกุศลวันนี้ทำให้มึงไม่ต้องบวชก็ขึ้นสวรรค์ได้เลยนะไกด์”

“ห่าน กูบวชไปแล้ว!!” มันกระแทกเสียงใส่หน้าอย่างรำคาญใจ แล้วเดินฉับๆ นำเข้าไปในคอนโดทันที



ระหว่างที่ลิฟท์กำลังขึ้นไปอย่างช้าๆ นั้นผมกลับรู้สึกตื่นเต้นและร้อนรนมากกว่าปกติจนไกด์มันสังเกตเห็นและทักเอา

“มึงเป็นอะไร มีเห็บเหรอ กูยังไม่เห็นมึงอยู่เฉยเลยนะ”

“ห่าน กู...ไม่รู้ว่ะ ตื่นเต้นยังไงไม่รู้” ผมสารภาพ ไอ้ไกด์หัวเราะออกมาเสียงดังพลางบอก

“ก็เงี้ยแหละ มึงไม่ได้เจอน้องมาตั้งนานก็ต้องตื่นเต้นดีใจเป็นธรรมดา”

“เออ...ว่าแต่มึงบอกฝุ่นว่าอะไร ถึงเอาคีย์การ์ดของน้องมาด้วยได้” ผมถาม ไกด์มันก้มลงมองคีย์การ์ดในมือแล้วหัวเราะออกมา

“มุขละครๆ น่ะ ลืมของ” ผมพยักหน้ารับรู้แล้วแบมือไปต่อหน้า ไอ้คุณเพื่อนสนิทมองงงๆ ผมเลยจ้องไปที่คีย์การ์ดสลับกับหน้ามัน ไกด์เลยถึงบางอ้อ รีบเก็บคีย์การ์ดลงกระเป๋ากางเกงทันที “กูไม่ให้ ถ้าอยากได้ไปขอฝุ่นเอง”

“เหี้ย ทำไมมึงทำแบบนี้กับกูวะ ไหนมึงบอกจะให้กูเจอน้องไง”

“กูบอกจะให้มึงเจอน้อง ไม่ใช่ให้กุญแจห้องเค้า”

“โหย แม่งกลับกลอก” ผมบ่น พอดีกับที่ประตูลิฟท์เปิดออก ไกด์มันจึงเดินเลี้ยวนำไปเปิดประตูอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจนัก ด้วยความที่เป็นคอนโดใหญ่ ทำให้ชั้นนึงมีอยู่แค่ไม่กี่ห้องเท่านั้น ผมว่ามันดีสำหรับคนที่ค่อนข้างชอบความเป็นส่วนตัวนะ

ผมเดินตามไปหยุดอยู่ที่ข้างหลังมันช้าๆ ด้วยหัวใจที่เต้นรัวเร็วอย่างไม่อาจห้าม เสียงมันดังเสียงจนผมยังนึกหวั่นว่าไอ้เป็ดเบื้องหน้าจะได้ยินเสียงของมันมั้ย ประตูห้องถูกมันรูดการ์ดและเปิดออก เสียงของฝุ่นลอดออกมาพร้อมแสงสว่างภายใน

“พี่ไกด์ลืมอะไรเหรอ”

“พี่ลืมคนไว้น่ะ” เสียงไอ้ไกด์มันตอบอย่างอารมณ์ดี แล้วหันกลับมามองหน้าผมที่ยังยืนนิ่งค้างราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง “มึงจะเข้ามามั้ยเนี่ย”

“ใคร..น่ะ...” ผมได้ยินเสียงน้องถามออกมาอย่างสงสัย ก่อนจะได้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจด้วยตาตนเอง

“ฝุ่น..” ผมเรียกเขาออกไปแล้วมองฝุ่นเต็มตา จานข้าวใบเขื่องที่มือผอมนั้นถืออยู่ค่อยๆ เลื่อนหลุดและหล่นกระแทกพื้นดังเพล้งใหญ่ เล่นเอาเศษกระเบื้องแตกอยู่เต็มพื้น “อย่าขยับนะฝุ่น เดี๋ยวพี่เก็บให้” 

ผมร้องบอกแล้วรีบผลักไกด์ให้มันถอยไปให้พ้นทางเพื่อตรงเข้าไปดึงน้องออกมาให้พ้นระยะที่จะโดนบาด

“แหม เจอน้องแล้วผลักกูเลยนะไอ้ห่าน” ได้ยินเสียงมันก่นด่ามาลอยๆ แต่นาทีนี้ผมขอสนใจแค่คนตรงหน้า ฝุ่นมองหน้าผมผ่านม่านน้ำตาที่เอ่อคลอและไหลริน ขาน้องเหมือนจะไม่มีแรงค่อยๆ ทรุดลงนั่งกับพื้นแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลนองหน้า “คุยกันดีๆ ล่ะ กูไปแล้วนะ...ไอ้เหี้ยทีม มึงอย่าลืมไปเอารถที่คอนโดกูด้วยนะ”

“อืม แต๊งมากๆ เลยมึง” ผมหันไปตอบมันในขณะที่โอบกอดร่างผอมบางที่สะอื้นจนไหล่สั่นมาไว้ในอ้อมแขน เสียงปิดประตูดังขึ้นเบาๆ บอกให้รู้ว่าตอนนี้มันเป็นโลกส่วนตัวของเราสองคนเท่านั้น ผมกอดฝุ่นเอาไว้ พลางกระซิบปลอบ

“ทำไม...ฮึก ทำไมทีมถึงมาอยู่ที่นี่ได้...ทำไม...”

“ไม่ดีใจเหรอที่พี่มา” ผมกอดน้องไว้แน่นแล้วกระซิบถามกับซอกหูเล็ก ฝุ่นยิ่งสะอื้นมากขึ้น มือที่ผอมจนแทบจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกยกขึ้นกำเสื้อตรงต้นแขนผมแน่น “ทำไมหนีพี่มาแบบนี้ พี่เป็นห่วงเรามากนะฝุ่น...พี่อยากเจอเรา ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เจอ ถ้าไกด์มันไม่บังเอิญเจอเรา ชาตินี้พี่จะได้เจอเราอีกมั้ย หืม..”

ผมบอกด้วยเสียงที่พยายามทำให้ดูนุ่มหูที่สุด เอาเข้าจริงผมก็แอบโกรธที่น้องไม่เชื่อใจและทิ้งผมไว้อย่างนั้น แต่ในนาทีนี้ผมไม่ควรจะใส่ความแอบเคืองของตัวเองเข้าไปในน้ำเสียงแม้แต่นิด ผมควรจะพูดจาให้นุ่มนวลและปลอบใจให้น้องเลิกร้องไห้มากกว่า

“ฮึก...ฝุ่น...ฝุ่น...” น้องพูดได้แค่นั้นแล้วเช็ดหน้าตัวเองกับไหล่เสื้อผมแรงๆ จนมันเปียกชื้นไปหมด
“ทำไมเราผอมแบบนี้หืม...กินข้าวบ้างรึเปล่า” ผมถามเสียงอ่อน พลางลูบเรือนผมทุยๆ นั้นอย่างรักใคร่...ไม่เป็นไร ถึงน้องจะเคยเสียใจมามากแค่ไหน แต่จากนี้ไปผมจะดูแลให้ดีที่สุดชนิดยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลยทีเดียว

“ฝุ่นไม่ชอบกินข้าวคนเดียว” เสียงอู้อี้นั้นตอบ ผมมองไปรอบๆ ห้องที่น้องอยู่..เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นแลดูเหมือนของใหม่และยังไม่ผ่านการใช้งาน ทั้งที่น้องอยู่ไกลจากผมมาหลายเดือนแล้ว...สายตาผมกลับสะดุดอยู่กับกรอบรูปคู่ของเราสองคนที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างดี...หัวใจผมพองโตอย่างบอกไม่ถูก น้องไม่ได้มีใครมาช่วยปลอบใจทั้งนั้น มีแค่ผมคนเดียว...เสมอมา

“งั้นพี่มาทานข้าว มานอนด้วย อยู่ด้วยกันดีมั้ย” ผมเสนอแล้วก้มลงจูบข้างขมับอุ่นเบาๆ หลายเดือนที่ผ่านมาน้องต้องนอนคนเดียว กินข้าวคนเดียว บ่อยเข้าก็คงเริ่มไม่อยากกิน ไม่อยากทำอะไรได้แต่นอนร้องไห้ ตาถึงได้ปูดโปนทั้งที่ร่างกายก็ยังผอมแห้งไม่มีแรงขนาดนี้

“แล้วลุงสินล่ะ...ลุงสิน ฮึก เค้าจะว่าอะไรฝุ่นอีกมั้ย...” น้องยังสะอื้นตอนที่ถาม ผมได้แต่เจ็บหัวใจจี๊ด แล้วตอบเขา

“พี่เคยบอกแล้วไง ไม่ว่าพ่อจะว่ายังไง พี่ก็จะไม่สนใจอีก พี่ทำอย่างที่พ่ออยากให้ทำมามากพอแล้ว พี่ขอแค่เรื่องเราเท่านั้นที่จะทำตามใจตัวเอง”

น้องกอดผมแน่นขึ้น ก่อนเสียงครางเบาๆ จะดังขึ้นราวกับฝุ่นกำลังเจ็บปวด ผมรีบคลายอ้อมแขนออกถามเขา

“ฝุ่นเป็นอะไร” สีหน้าน้องแลดูเหยเกอย่างน่ากังวล มือผอมเลื่อนจากต้นแขนผมลงไปกุมไว้ที่ท้องตัวเอง ร่างกายที่ผอมเกร็งนั้นค่อยๆ ล้มลงนอนคุดคู้กับพื้นด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าเล็กซีดเซียวจนผมใจเสีย “ฝุ่น เป็นอะไร..ปวดท้องเหรอ”

“ฮือ...ทีม...ทีม...” น้องยังครางได้แค่นั้น ดวงตาเล็กที่ฉ่ำน้ำตาหยีลงจนปิดมิดด้วยความเจ็บปวด ผมใจหายวาบ ตรงเข้าช้อนร่างกายเขาขึ้นกับอกแล้วรีบลุกขึ้นเพื่อจะพาไปโรงพยาบาล

ลิฟท์ที่เรียกได้ว่าเร็วก็ยังช้าไปสำหรับนาทีนั้น กว่าจะมา กว่าจะถึงชั้นล่าง น้องก็หน้าซีด ปวดท้องจนหมดสติไป ผมได้แต่เขย่าเขาเบาๆ ให้อยู่กับผมก่อน

“พี่ครับ เรียกแท็กซี่ที เรียกแท็กซี่!! มีคนป่วย!” ทันทีที่โผล่หน้าออกไปให้รปภ.เห็นได้ ผมก็แหกปากดังลั่น พี่รปภ.ทำหน้าเลิกลั่กด้วยความตกใจก่อนจะรีบวิ่งออกไปเรียกแท็กซี่ให้ผม

โชคยังดีที่รถไม่ติด ทำให้เราถึงที่หมายด้วยความรวดเร็ว เมื่อส่งฝุ่นถึงมือหมอได้ ผมก็กดโทรศัพท์ออกหาไอ้ไกด์ทันที

((อะไรวะ มีความสุขแล้วโทรมาเย้ยกูเหรอ)) มันกรอกเสียงกวนๆ มาก่อน

“มึง ที่มึงเคยบอกกูว่าฝุ่นป่วย น้องเป็นอะไรวะ!!”

((ทำไมวะ เกิดอะไรขึ้น...น้องปวดท้องเหรอ)) เสียงไกด์ค่อนข้างตกใจอย่างมาก เสียงกุกกักคล้ายมันทำของตกดังขึ้นที่ปลายสาย ก่อนมันจะสบถคำหยาบออกมาแล้วบอกผม ((ฝุ่นเป็นโรคกระเพาะขั้นรุนแรงน่ะมึง..นี่อยู่ที่ไหน เดี๋ยวกูไปหา))

“กูอยู่โรงพยาบาล xx” ผมตอบมันด้วยใจที่ร้อนรน โรคกระเพาะ...แค่เป็น ไม่ต้องขั้นรุนแรง ก็ทรมานมากพอดูอยู่แล้ว ถ้าฝุ่นยิ่งเป็นขั้นรุนแรงจนเกิดแผลในกระเพาะ ผมยิ่งไม่ต้องการคำอธิบายเลยว่าทำไมน้องถึงได้ผอม และดูทรมานมากขนาดนั้น..ใจผมเจ็บร้าวยิ่งคิดได้ว่าผมเองก็มีส่วนทำให้ฝุ่นต้องเป็นแบบนี้...

ในระหว่างที่รอให้ไกด์มาถึงที่โรงพยาบาล ฝุ่นก็ถูกย้ายห้องพักผู้ป่วยพิเศษเป็นที่เรียบร้อย สายน้ำเกลือเจาะที่แขนผอมแห้งของน้องแล้วโยงขึ้นไปจนดูเกะกะตา ใบหน้าซีดเซียวที่หลับสนิทแลดูอ่อนแรงกว่าที่ผมเคยคุ้นตามากนัก ครึ่งชั่วโมงถัดมาประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกใครบางคนกระแทกเปิดเข้ามา ผมหันกลับไปมองทันที ไกด์ยังมีสีหน้าตกใจตอนที่ถาม

“เป็นไงบ้างวะ”

“ก็อย่างที่มึงบอก...น้องเป็นแผลในกระเพาะ นี่คงไม่ได้กินยาต่อเนื่องเลยปวดท้องจนสลบไป” ผมตอบ ไกด์ส่ายหน้าเซ็งๆ แล้วเดินไปลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ ผม

“เท่าที่กูถาม น้องปวดท้องหนักๆ แบบนี้มาตั้งแต่ก่อนพฤศจิกาอีก แต่ก็ไม่ได้หาหมออะไร จนกูเจอเค้าเมื่อเดือนก่อนก็บังคับให้ไปหาหมอ กินยา...แต่มึงก็รู้ กูก็ไม่ได้มาดูน้องทุกวัน น้องจะกินยาหรือไม่กินนี่กูไม่มีทางแน่ใจได้เลย”

“โชคยังดีที่กระเพาะยังไม่ทะลุ” ผมบ่นออกมา ไกด์มันถอนหายใจออกมาแรงๆ เหลือบสายตามองคนป่วยทีหนึ่ง แล้วหันกลับมาถาม

“แล้วมึงจะเอายังไงเรื่องฝุ่น”

“ตอนนี้ถ้าจะเอาน้องกลับไปอยู่ที่บ้านก็คงไม่ได้ กูไม่อยากให้เกิดเรื่องซ้ำรอยเดิมอีก...ระหว่างนี้กูอาจไปนอนที่คอนโดน้องก่อน หลังเรียนจบค่อยว่ากันอีกที” ผมตอบ

“แล้วโปรเจ็คมึงล่ะ งานที่ทำกับกูอีก” มันถาม ก่อนจะแนะนำเสริมขึ้นมา “มึงจะพาน้องมาอยู่ที่คอนโดกูก็ได้นะ ก็ให้นอนห้องเดียวกับมึงไป ถึงเวลาจะได้ดูแลได้ง่ายๆ มึงจะได้ไม่ต้องไปๆ มาๆ ระหว่างคอนโดกูกับฝุ่นด้วย”

“ไม่ลำบากมึงเหรอ”

ออฟไลน์ eiizes

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-0
    • facebook
 “ไม่ลำบากมึงเหรอ”

“แหม...คำนี้น่าจะถามตอนลูกกูจบปริญญาแล้วนะ” หึหึ แม่งกวนประสาทจริงๆ “น่ะ แค่นี้ เพื่อนกันกูให้ได้อยู่แล้ว”

นี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ผมสงสัยว่าทำไมไอ้ไกด์ถึงไม่มีแฟน? ทั้งที่มันก็ออกจะนิสัยดี หน้าตาก็...เอ้อ ดีนะ แต่น้อยกว่าผม(กร๊าก) สงสัยมากๆ เข้าก็ถามออกไปสักหน่อยดีกว่า

“กูสงสัยว่ะ..”

“ว่าทำไมกูไม่มีแฟนใช่มั้ย” ดักคอกูจริงๆ

“เออ ทำไมวะ ผู้หญิงน่าจะชอบคนแบบมึงนะ”

“ตอนปีหนึ่งกูก็อยากมีแฟนนะ แต่ไปๆ มาๆ เห็นเรื่องของมึงด้วย พี่อ๋องด้วย กูเลยรู้สึกว่าการอยู่คนเดียวเนี่ย เป็นความสุขสุดประเสริฐของชีวิตเลย” ไกด์มันตอบขำๆ แล้วเสริมต่อ “ถ้ามี ก็มีได้ แต่กูขอมีหลังทำโปรเจ็คเสร็จนะ ขี้เกียจแบ่งเวลาทำงานไปให้แฟน”

อ้าว ไอ้หอก เค้าต้องพูดว่าขี้เกียจแบ่งเวลาของแฟนไปทำงานไม่ใช่เหรอวะ

“อือ...” เสียงครางจากคนป่วยบนเตียง ทำให้ผมกับไกด์หยุดคุยกันแล้วหันไปให้ความสนใจกับฝุ่นแทน น้องเริ่มขยับตัวไปมา ลืมตาขึ้นมองผมโรยๆ

“ฝุ่น...เป็นยังไงบ้าง หายปวดท้องรึยัง” ผมรี่เข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง ฝุ่นค่อยๆ คลี่ยิ้มที่เลือนรางในสายตาทว่าตราตรึงในความรู้สึกออกมาให้ได้เห็นจนหัวใจผมเต้นแรงขึ้นอย่างไร้เหตุผล

“ฝุ่นฝันว่าทีมมาหาที่คอนโด” เสียงน้องพูดอย่างแหบโหย ผมถึงกับน้ำตาคลอเพราะประโยคนั้น “ไม่คิดว่าฝันจะกลายเป็นจริงขึ้นมาจริงๆ..”

“เราไม่ได้ฝันหรอก พี่อยู่ที่นี่ และจะไม่ปล่อยมือจากเราไปไหนเด็ดขาด” ผมให้ความมั่นใจด้วยการกระชับมือเข้าที่มือผอมบางข้างที่วางอยู่ใกล้ๆ น้องยิ้มออกมาอีกครั้ง

“น้องฝุ่น ไม่ได้กินยาเหรอ” ไกด์ทำเสียงดุชะโงกถาม

“ก็กินตอนก่อนกินข้าว” ฝุ่นทำเสียงอ่อย เมื่อเห็นว่าผมเองก็จ้องไม่วางตาเช่นกัน

“แล้วข้าวนี่กินครบทุกมื้อรึเปล่า” ผมถามบ้าง

“.......เกือบ” ไม่อยากจะบอกว่าผมอยากงับปากซีดๆ นั่นมาก อยากตีน้องที่ไม่ดูแลตัวเองเลย แต่ไม่เอานะ ทำแบบนั้นทุกคนต้องหาว่าผมใจร้ายมากแน่ๆ ที่ตีคนเจ็บแบบนี้

“ถ้าเป็นน้องแท้ๆ พี่จะตีให้ก้นลายเลย ไม่ดูแลตัวเองเลยนะเรา” ไม่ใช่ผมหรอกครับ แต่ไกด์มันบ่นเอาๆ ตามนิสัยของคนมีน้องชาย จนฝุ่นแทบจะมุดลงไปใต้ผ้าห่มเพราะไม่อยากฟัง “พี่จะยกโทษให้ครั้งนี้นะ ครั้งต่อไป ถ้าฝุ่นไม่กินข้าวจนปวดท้องเข้าโรงพยาบาลอีก พี่จะถีบไอ้ทีมแทน”

“อ้าว ทำไมกูซวยวะ” ผมหันไปถามมันงงๆ

“หรือมึงจะไม่ดูแลน้อง?”

“กูตามหาฝุ่นมาตั้งแต่วันที่น้องหายไป กูจะไม่ดูแลได้ไง” ผมบ่นใส่มัน ไกด์ไหวไหล่ให้แทนคำตอบ ก่อนจะบอกลาแล้วเดินออกจากห้องไป ก่อนที่ประตูจะปิดนั้น ผมก็ทันได้เรียกมันไว้ก่อน

“อะไร” มันหันกลับมา

“กู..ขอบคุณมึงมาก”

“ก็เพื่อนกัน” มันยิ้มกว้างแล้วโบกมือหยอยๆ ให้ก่อนจะปิดประตูห้อง ทิ้งให้ผมได้อยู่กับน้องแค่สองคนหลังจากเราต้องแยกจากกันมานานหลายเดือน

“ทีม...แล้วลุงสินจะไม่ว่าอะไรเหรอที่ทีมออกมาเจอฝุ่นแบบนี้” น้องดึงผมออกจากภวังค์พลางถามเสียงหงอยๆ

“พี่ไม่ได้กลับบ้านมาตั้งนานแล้ว” ผมตอบ ฝุ่นดูตกใจไม่น้อยเลยกับคำตอบนั้น “มีเข้าไปเอาของใช้ที่จำเป็นสำหรับโปรเจ็คบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ห้องไอ้ไกด์นั่นแหละ”

ผมทิ้งบทสนทนาไว้เพียงแค่นั้น แล้วหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสตางค์...แหวนเงินของฝุ่นที่ผมเก็บใส่ซองเอาไว้อย่างดี...เมื่อน้องเห็นว่าสิ่งที่หยิบออกมาคืออะไร ผมก็ทันได้เห็นหยาดน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลออีกครั้ง

“พี่ไม่พอใจเราเลยนะ ที่ทิ้งแหวนวงนี้ไว้แบบนั้น”

“แล้วจะให้ฝุ่นทำยังไง”

“แค่ฝุ่นติดต่อมา..พี่พร้อมจะทำทุกอย่างให้เราได้อยู่ด้วยกัน” ผมตอบอย่างมั่นคง แต่น้องกลับส่ายหน้าเบาๆ

“เพราะฝุ่นรู้ว่าพี่จะทำแบบนั้น ถึงได้ออกมาโดยไม่บอกอะไรเลย”


ผมถึงกับสะอึกไปเพราะดวงตาคู่ที่แสดงถึงความจริงจังในคำพูดนั้น น้องห่วงว่าผมจะทำเรื่องบ้าๆ เลยยอมเป็นคนเดินออกมา แต่ผมกลับห่วงว่าน้องจะไปจึงยอมทำเรื่องบ้าๆ....เฮ้อ...แบบนี้ไม่รู้จะโทษใครเลยจริงๆ

“ที่ออกมา ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจนะ” ฝุ่นเห็นผมนิ่งไป ถึงได้พูดเสริมขึ้นมา น้องบีบมือผมเบาๆ แล้วยิ้มให้...ครับ ผมเข้าใจดีว่าเพราะน้องเชื่อใจและไม่ต้องการให้ผมลำบาก...

“งั้นใส่แหวนวงนี้กลับคืนที่ๆ มันควรจะอยู่ได้มั้ย” ผมถามด้วยรอยยิ้ม ฝุ่นหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วยื่นมือขวาที่โดนเข็มเจาะเป็นทางผ่านของน้ำเกลือมาให้

“อยู่ให้น้ำเกลือสักสามสี่วัน กลับไปตัวบวมแน่ๆ” ฝุ่นบ่นหงุงหงิง

“คงจะบวมหรอกนะ เหลือแต่กระดูกแบบนี้” ผมแอบจิกกัด แล้วค่อยๆ สวมแหวนกลับคืนที่ๆ มันควรจะอยู่มาตั้งนานแล้ว ประกายสีเงินวิบวับจับอยู่บนนิ้วของน้อง ก่อนที่ผมจะเอามือขวาของตัวเองที่มีแหวนแบบเดียวกันไปทาบทับเอาไว้ “อยู่กับพี่นะ...อย่าไปไหนอีก”

“อืม อย่าไล่ก็แล้วกัน” น้องยิ้มกว้างเช่นเดียวกับผม แต่เสียงแกร๊กที่ดังจากประตูห้องก็ทำให้รอยยิ้มหวานนั้นแอบชะงักไปวูบหนึ่ง

“ฝุ่น” น้าอิ่มถลาเข้ามาในห้องผู้ป่วยด้วยความเป็นห่วง ดูน้องหน้าซีดลงไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าใครที่เดินตามน้าเข้ามา...พ่อผมเอง

“สะใจพ่อรึยังครับ” ผมถามดักคอด้วยเสียงเรียบๆ พ่อหันกลับมามองหน้าผมวูบหนึ่ง ก่อนจะเดินไปยืนอยู่ข้างๆ น้าอิ่มโดยไม่พูดอะไร ฝุ่นพยายามจะดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมของผม แต่มีหรือที่ผมจะยอม ยิ่งกำไว้แน่นขึ้น จะหาว่าประเจิดประเจ้อก็ไม่สนใจหรอกครับ ไม่ได้นั่งจูบปากโชว์สักหน่อย

“ฝุ่นเป็นยังไงบ้าง น้าเป็นห่วงเรามากนะ น้าพยายามติดต่อเราก็ติดต่อไม่ได้เลย แล้วทำไมเป็นแบบนี้” น้าอิ่มลูบแก้วเซียวๆ ของน้องด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า สุดท้ายแล้วก็เป็นอย่างที่ผมคาด...นอกจากพ่อแล้ว ก็ไม่มีใครรู้วิธีติดต่อน้องได้ จนถึงเดือนที่แล้ว ที่ไอ้ไกด์มันบังเอิญเจอ

“ฝุ่นเป็นแผลในกระเพาะอาหาร โชคยังดีที่มันยังไม่ทะลุ...ถ้าผมเจอน้องช้ากว่านี้สักสองเดือน เราคงได้เจอฝ่นอีกทีก็ในโลงเย็นแหละครับ” ผมจงใจพูดจิกกัด พ่อหันหน้ากลับมามองผมแล้วถาม

“แกจะเอายังไง”

“ผมควรจะถามพ่อมากกว่า”

“ทีม..อย่า” เสียงฝุ่นหันกลับมาห้ามผมไว้ไม่ให้ทำก้าวร้าว

“พ่อทำร้ายเด็กคนนี้มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา...ตอนนี้ผมเจอฝุ่นแล้ว พ่อไม่มีวันจะเอาน้องไปจากผมได้อีก”

“ทีม...” น้าอิ่มหันมาครางเบาๆ กับความดื้อด้านของผม พ่อมองผมนิ่งด้วยความเหนื่อยหน่ายใจแล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้นในระดับไหล่

“ก็ได้....ฉันยอมแพ้ในความดื้อด้านของแก” พ่อพูดเซ็งๆ แล้วกลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยใจ “แกพูดถูก ถ้าแม่ของแกยังอยู่ เค้าคงจะไม่มีวันโกรธเรื่องนี้”

ผมแอบประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อพ่อยอมง่ายกว่าที่คิดไว้ ตอนแรกผมนึกว่าถ้าเจอหน้ากัน ผมอาจจะโดนชกและเตะซ้ำ แต่นี่....ทำไมได้ง่ายจังวะ

“ฉันควรจะคำนึงถึงความสุขของแกมากกว่า ฉันสมควรให้แกได้เป็นอย่างที่แกอยากเป็นมากกว่าที่ฉันอยากให้เป็น...” พ่อบอกเรียบๆ “อิ่มพูดถูก คนเราเกิดมาแค่ครั้งเดียว อยากทำอะไรก็ควรจะได้ทำ”

“พ่อต้องการอะไรตอบแทนครับ” ผมแอบน้ำตาซึม แต่ยังไม่วางใจเลยถามออกไปด้วยเสียงที่อ่อนลงนิดหน่อย

“จนกว่าฝุ่นจะเรียนจบ แกต้องกลับมาอยู่ที่บ้าน แต่ฝุ่นต้องอยู่คอนโดที่ลุงซื้อไว้ให้” ประโยคหลังพ่อหันไปเอาความกับน้องที่ยังนอนหงอยอยู่บนเตียง


แต่เฮ้ย กว่าฝุ่นจะเรียนจบ... อย่างน้อยก็เกือบสี่ปีเลยเนี่ยนะ โอ้ก พระเอกน้ำตาจะไหล


“ฉันยอมให้แกไปๆ มาๆ ได้ แต่แกต้องกลับมาอยู่ที่บ้าน..แล้วพอน้องเรียนจบ แกจะไปซื้อบ้านสร้างบ้านอยู่มุมไหนก็ไป”

“สี่ปีเลยนะพ่อ!” ผมโวยวาย

“หรือแกจะให้ฉันส่งฝุ่นกลับอเมริกา?” พ่อเลิกคิ้วอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า

“เออ สี่ปีสั้นนิดเดียวเอง!! ใช่มั้ยฝุ่น!” ผมกระแทกเสียงใส่อย่างเซ็งๆ

“แกต้องมาช่วยฉันทำงานด้วย เพราะตอนนี้อิ่มเองก็ต้องดูแลลูก” ห๊ะ? ลูก? ลูกไหนวะ?

“ลูกไหนเหรอครับน้าอิ่ม” ผมถามงงๆ น้าอิ่มดูเหวอเล็กน้อยที่โดนพาดพิง ก่อนจะตั้งสติได้แล้วหันกลับมาตอบผม

“น้าคลอดน้องตั้งแต่เดือนมกราที่ผ่านมาแล้วจ้ะ” อ้าวเหรอ กลับบ้านบ่อย ผมโคตรรู้เรื่องเลย กร๊าก

“จริงเหรอครับ ดีใจด้วยนะฮะ” ฝุ่นหันไปยิ้มกว้างให้คุณแม่มือใหม่

“ยิ้มแบบนี้ อยากมีลูกบ้างเหรอฝุ่น” ผมแอบกระซิบถามตอนที่น้าอิ่มหันไปคุยกับพ่อ แล้วทิ้งให้เราสองคนนั่งคุยกันตามลำพัง ด้วยความที่มือผมยังจับน้องไว้ฝุ่นเลยแอบพลิกกลับมาหยิกผมแรงๆ

“จะบ้ารึไง”

“หึหึ ก็นึกว่าอยากมี” ผมบอกด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้มลงไปฟัดแก้มซูบๆ (ที่คาดว่าจะกลับมาป่องในเร็วๆ นี้) แรงๆ ทีนึงด้วยความหมั่นเขี้ยว

“เอ้า เอ้า สองคนนั้นน่ะ ทำอะไรอายฟ้าอายดินบ้าง พ่อกับน้าก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ตั้งสองคนนะ” เชอะ เสียงตัวอิจฉา

“อิจฉาก็พูดมาเถอะพ่อ”

“อิจฉาอะไรวะ ฉันก็มีคนรักของฉันนะโว้ย” พ่อบอกเสียงดังแล้วรวบน้าอิ่มเข้ามากอด ก่อนจะกดหอมแก้มเข้าไปฟอดใหญ่ท่ามกลางเสียงโห่ฮิ้วของผม....เสียงดังขนาดนี้ ดีนะ นางพยาบาลไม่เข้ามาด่าเอา


แต่คนมันหน้าตาดี ทำอะไรก็ไม่ผิด~~ จริงเมะ!!!



ปล. ถึงพ่อจะบอกให้ผมกลับไปอยู่บ้านจนกว่าน้องจะเรียนจบ แต่สุดท้าย ผมก็แอบสร้างบ้านหลังเล็กๆ ไว้ แล้วหอบฝุ่นหนีมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่น้องยังเรียนไม่ทันจบปีสองเลยครับ กลัวอยู่ว่าอาจจะท้องก่อนเรียบจบ กร๊ากกกก


   


จบเหอะ!!!!

Eiizes’s talk
มาลงตอนจบให้ตามสัญญานะคะ

ขอโทษจริงๆ ที่หายตัวไปเลย 5555 คอมเน่ามว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

เอาเถอะ ยกผลประโยชน์ให้ไปเนาะ

แล้วก็เห็นมีหลายท่านเลย ติดต่อมาว่าอยากได้หนังสือ แต่เราไม่มีเหลือแล้วอ้ะ เราทำมาตามจำนวนเด๊ะเรยยย
แต่...เราจะพิมพ์ใหม่อีกรอบนึงค่ะ เปิดโอกาสให้ทุกท่านที่ยังไม่ได้หนังสือ และต้องการ(มีใช่มั้ย5555)

หนังสือราคาเดิมค่ะ เล่มละ 300 บาท หนา 370 หน้า(รายละเอียดยิบๆ ดูที่หน้าแรกเนาะ)
ค่าส่ง 30 บาทจ้า รวมเป็น 330 บาท/เล่ม

แต่ถ้าสั่งสองเล่มขึ้นไป บวกค่าส่งอีกเล่มละสิบบาทค่ะ

จองเข้ามาทางอีเมล only.eiizes(at)hotmail.com

ได้ถึง 20 สิงหาคม 2554 นะคะ หมดรอบนี้ไม่มีแล้วน้า จองกันเข้ามาจ้า เย้~~~

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ

eiizes

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
เพิ่งจะได้เข้ามาอ่าน
อ่านไปได้ไม่กี่ตอนก็.....

 :-[
หลงรักน้องฝุ่นเข้าแล้วค่า
ซึนมากเด็กคนนี้
เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะจองหนังสือด้วยคนนะคะ
 :pig4:

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
ขอบคุณที่มาต่อตอนจบให้น๊า

นึกว่าจะไม่ต่อซะแล้ว กระซิกๆๆ

ในที่สุด... ก็สมหวัง ซะที แถมแอบมีบ้านเล็กบ้านน้อยไว้สวีตกันด้วย ท้องก่อนแต่งแน่ๆแบบนี้ 555555

ปล. สงสัยว่าทำไมพี่ไกด์ไม่มีแฟน !!

fffx

  • บุคคลทั่วไป
ว้าว ในที่สุดก็ได้อ่านตอนจบ
ยังสงสารน้องฝุ่นอยู่ดีอ่าาา
ช่วงที่ไม่เจอทีมคงลำบากมาก
น้องผอมหมดเลย ทีมต้องขุนดีๆล่ะต่อไปนี้ ฮ่าๆๆ
รอเรื่องต่อไปของคนเขียนนะคะ
สนุกมากๆเลยค่ะ ^_^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด