..
..
“ที่รัก เอสอยู่ห้องแล้วจ้ะ ไฟมันดับน่ะ ฝนตกหนักเลย....” ครั้งนี้เอสคุยนานมากครับ เกือบครึ่งชั่วโมง ผมเองก็ต้องเงียบ ไม่อยากให้ปลายสายได้ยินเสียงว่ามีคนอยู่ด้วย ผมอึดอัดมากเลยครับ สับสน รู้สึกผิดด้วย ระดับศีลธรรมกลับมาอยู่เท่าเดิม
อยากจะหายไปจากตรงนั้นเลยในทันที
เอสวางสายจากแฟนแล้ว เค้าเอื้อมมือมาจับที่หัวและลูบเบาๆ เหมือนจะแทนคำปลอบใจและขอโทษ
ผมได้แต่เงียบ ผมชอบเอสมากๆ แต่ทุกข์ใจก็มากเช่นกัน ซ้ำยังละอายกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป ที่เผลอใจฝืนกฎของตัวเอง ทำผิดศีลธรรม กับคนที่เพิ่งจะพบกันได้เมื่อ 5 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ตัวเองกลับมีความผูกพันให้เขามากมายนัก
แล้วไฟก็สว่างอีกครั้ง
คืนนั้นผมรีบขอตัวกลับ ทั้งเอสและผมต่างก็เงียบ ผมอยากบอกเขาไปว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเขา แต่ก็คงจะไม่ดีแน่ๆครับ ส่วนเอสผมเดาไม่ถูกจริงๆครับว่าเขาคิดอย่างไร เขาอาจจะเป็นเหมือนเกย์ทั่วไปที่นัดผมมาเจอเพื่อหวังแค่จะมีเซ็กส์ด้วยเท่านั้นก็เป็นได้
ผมเลือกที่จะปล่อยความสงสัยวันนั้นไม่มีคำตอบดีกว่าครับ
ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ช่วงแรกๆผมกับเอสยังคุยกันบ้าง ส่วนใหญ่เขาจะเป็นฝ่ายโทรมาหาผมครับ ผมปฏิเสธคำชวนของเอสทุกครั้ง ผมพยายามทิ้งระยะห่างออกมาให้มากที่สุด แต่ก็คุยกับเขาอย่างที่คุยกับเพื่อนทุกคน บางครั้งถ้าเขาโทรเข้ามาผมก็จะไม่รับสาย ต้องแสดงให้เขารู้ว่าผมคิดกับเขาแค่เพื่อนเท่านั้นนะ แต่ก็หักใจหันหลังให้เลยไม่ได้เสียที
มันเจ็บมากๆถ้าจะทำอย่างนั้น เพราะว่าผมรู้ใจตัวเองดี
เพราะว่าผมรักเขา
ผมขอแค่ได้คุยกับเขา ได้รับรู้ข่าวสาร ก็ดีใจแล้ว ทั้งที่ใจจริงอยากทำให้ได้มากกว่านั้น ผมอยากคุยกับเขาให้นานๆ อยากไปกินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน อยากกอดเขา อยากหอมแก้ม อยากจูบ ...
แต่เท่าที่ผมสังเกตก็ไม่ใช่ว่าเอสจะหมดรักต่อแฟนเขาเลยสักนิด เขายังเสมอต้นเสมอปลาย สิ่งนี้ทำให้ผมชื่นชมเขา แอบอิจฉาแฟนเขา และรู้สึกผิดนัก ผิดที่รู้ว่าเขามีคนรัก แต่ผมก็ยังมีใจให้
จนวันเวลาเหมือนจะพาเขาออกไปจากชีวิต ช่วงหลังๆเขาก็เงียบๆไปเหมือนกัน เขาคงคิดว่าผมไม่อยากคุยกับเขาแล้ว
ให้เขาคิดแบบนั้นน่ะดีแล้ว
*********