(ต่อครับ)
ตอนที่ 10เกือบ 6 โมงเย็นแล้วตอนที่ชุนยืนมองหน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่หน้าปากซอยบ้านเพื่อน ข้างๆ คือเพื่อนรักที่เดินตามออกมาส่ง
“น่าจะให้พี่เขาไปรับที่บ้านกู ไมต้องออกมารอข้างนอกวะ”
ชุนหันมามองเพื่อน “ไม่ต้องมามารยาทดี กูรู้ว่ามึงตามมามองสาว” ยังไม่ทันได้ด่าต่อ รถหรูก็เข้ามาจอดเทียบ เพื่อนรักรีบทำความเคารพแล้วหันมาไล่ไอ้ตัวเล็กให้รีบกลับเร็วๆ
“กูเจอเป้าหมายแล้ว จะชวนไปกินไอติมต่อละ”
“โห...ที่แท้ก็นัดคนไว้จริงๆ” ชุนบ่นไม่จริงจังแล้วก้าวขึ้นรถ
รถเย็นฉ่ำ คนขับรถ...หล่อคงทน..
“รอนานมั้ย”
ชุนส่ายหน้า
“หิวมั้ย”
ชุนพยักหน้า
“กินเสร็จไปห้องพี่มั้ย”
“ว๊าก! ไม่ๆๆ!” ชุนร้องลั่น คนแกล้งเลยเอื้อมมือมาขยี้ผมสีอ่อน
“คิดว่าจะพยักหน้าซะอีก”
“ฮึ่ย! ผมก็ต้องอัพเลเวล มั่งสิ”
“เออใช่พักนี้ด่าน้อยลงแล้วนี่” ทอมถามทั้งที่ยังมองไปข้างหน้า
“ก็พอด่าแล้ว...” ชุนทำแก้มพองๆ แล้วหันไปมองนอกรถ “เปลี่ยนเรื่องเหอะ วันนี้กินบะหมี่ได้มั้ย”
พี่พยักหน้า แล้วมองหาร้านอาหาร
อีกวันหนึ่งกำลังจะผ่านไป ช่วงสุดท้ายของวันที่มันเคยเป็นช่วงเวลาของการรีดพลังสมอง และคั้นหัวใจเพื่อทำงานของวันนี้ให้เสร็จ แล้วกลับเข้าบ้านไปอย่างหมดแรง
ตื่นมาวันใหม่ ปลุกกำลังใจตัวเองเพื่อรับกับปัญหา
แต่หลายวันมานี้ช่วงสุดท้ายของวัน กลายเป็นช่วงเวลาที่รอคอย ต่อให้งานยุ่งขนาดไหน มีเรื่องเร่งด่วนเข้ามาจ่อ ทอมก็กลับบอกกับคนที่กำลังเจรจากันให้เลื่อนการเจรจาไปเป็นวันพรุ่งนี้ได้
จากที่คิดวางหมากกลอยู่ในใจตลอดเวลาเพื่อเป็นผู้ชนะ ก็กลับคิดว่า วินวินก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
มนุษย์บ้างานกำลังเปลี่ยนไปกลายเป็นคนละคน
ทอมคงหันมามองคนนั่งข้างๆ บ่อยเกินไป จนคนถูกมองชักรำคาญ
“เป็นไรน่ะ”
“เป็นทอมแสนดี”
“แหวะ! ทอมเจ้าเล่ห์อ่ะดิ”
“เออใช่” จู่ๆ ทอมแสนดีก็ร้องขึ้นเมื่อนึกขึ้นมาได้ “ยังไม่ได้บอกชาร์ลเลยนี่หว่า”
“แผนนะ บอกก่อนเลย พี่ชาร์ลไม่ไปผมก็ไม่ไป เพราะผมจะไปกับรถพี่ชาร์ล”
“ได้ไง” ทอมพลอยเสียงดังตามไปด้วย “ไปรถพี่สิ”
“ทำไมผมต้องไปรถพี่ในเมื่อพี่ชาร์ลไปด้วย”
“ก็....” ทอมเงียบไปเฉยๆ ขณะที่อีกคนนิ่งอึ้งแล้วหันไปมองนอกหน้าต่าง
“เราไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย พี่จูบผมวันละครั้ง แล้วก็ช่วยกันลินดาออกไปจากผมเท่านั้นเอง”
....ไม่ได้เป็นแฟนกัน....
....ทำไมคำนี้มันเจ็บได้ขนาดนี้วะ....
....เจ็บโคตร เจ็บจนหาคำบรรยายไม่ถูก!...
…..มึงได้ยินมั้ยทอม มึงก็แค่ไอ้คนเจ้าเล่ห์ หาเรื่องจูบเขา ทั้งที่เขาไม่ได้เป็นแฟนมึง
....มึงได้ยินมั้ยไอ้โง่!..
คนรูปหล่อกัดฟันแน่นจนกรามเป็นสันนูน แล้วเลี้ยวรถไปอีกทาง ชุนหันมามองหน้าคนขับรถหน้าตาตื่น
“พี่ไปไหน บ้านผมไปอีกทาง”
ทอมไม่ตอบคำถาม แต่เลี้ยวรถเข้าไปที่สวนสาธารณะเล็กๆ ทันทีที่จอดรถก็ปลดเข็มขัดนิรภัย ชุนมองไปรอบๆ รถ แต่พอจะปลดล็อคเข็มขัดของตัวเอง มือแข็งแรงก็กอบกุมไว้ทั้งใบหน้า ริมฝีปากสวยเจือบุหรี่บดขยี้
มือขาวๆ ทั้งทุบทั้งผลักไหล่กว้าง
“อื้อ..อื้อ”
ริมฝีปากที่บดขยี้เปลี่ยนเป็นเม้มขบที่ริมฝีปากบาง เจ็บ..จนต้องจิกนิ้วมือลงที่แขนแข็งแรง
พี่เม้มแล้วดูดรอบริมฝีปากบางแล้วถอนปากออก ทิ้งน้ำหนักลงหาพร้อมกับปรับเบาะนั่งเอนลงจนสุด
ชุนสะบัดหน้าหนี “ไม่ๆๆๆๆแบบนี้ไม่เอา” ชุนใช้มือดันใบหน้าหล่อๆ ออกไป แต่พี่ดึงข้อมือออก
“ชุน” คำเรียกชื่อมาพร้อมกับสายตาแปลกๆ
“ไม่ๆ ไหนบอกว่าไม่ทำอย่างนี้ไง”
ทอมกดริมฝีปากลงที่บางปากแต่ชุนเบี่ยงหน้าหนีทันที ทำให้ริมฝีปากที่ติดที่แก้มใส แล้วเลื่อนลงมาที่คอ
“หยุด...ไม่เอา”
“ทำไมพี่ต้องหยุด” ทอมถามทั้งที่ริมฝีปากยังจูบไซ้อยู่ที่คอขาว
“ผม...ผม....”
ทอมจูบไล่กลับมาที่ริมฝีปากบาง มือแข็งแรงประคองใบหน้าไว้
“พี่เป็นอะไรของชุน”
นิ้วหัวแม่มือของพี่เกลี่ยอยู่ที่แก้ม ริมฝีปากสวยอยู่แนบชิด ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความเสียใจ......
“พี่ฮะ ผม...”
“ตอบพี่ได้มั้ย”
“ผม...”
“ทุกอย่างอาจเริ่มต้นเพราะความคิดชั่ววูบของพี่ว่าแค่แก้เบื่อ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ที่พี่แสดงออกทั้งหมด ยังไม่พออีกหรือ”
“มัน..เร็วไป....”
รอยยิ้มจางๆ ปรากฏอยู่ที่มุมปากสวย ดวงตาคมเข้มปวดร้าว
.....เร็วเกินไปจริงๆ.....
พี่จะกดจูบอีกครั้งแต่ชุนรีบพูดขึ้นก่อน
"วันนี้จูบไปแล้ว พอแล้ว”
…..เพราะโยนลูกเต๋าผิด ทำให้เหยียบหางงู ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่หรือไง....
....ไม่ละ ขอสักครึ่งทางก็ยังดี.....
“รู้แล้ว แต่อยากจูบอีก”
น้ำเสียงของทอมหวาน....จนคนฟังมือไม้อ่อนยวบ
......พี่รู้ว่าหัวใจของผมกำลังคิดอะไรอยู่ใช่มั้ย ถึงได้เล่นแผนนี้กับผมน่ะ...
เมื่อริมฝีปากสวยกดลงมาเบาๆ แตะปลายลิ้นเล็มริมฝีปากน้อง มือขาวๆ ที่ผลักไหล่กว้างอยู่ก็เปลี่ยนเป็นขยุ้มเสื้อสูทไว้
“อื้อ..อื้อ อื้อ” ชุนหดคอหนีจนเกร็ง แต่เมื่อปลายลิ้นสอดเข้ามาไล้ที่แนวฟัน ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างสะบัดหน้าหนี
“ไม่เอา พอแล้ว”
“ชุนครับ”
“ไม่ชุนครับ พอแล้วกลับบ้านเหอะ ไม่งั้นพรุ่งนี้ผมไม่ไปหาพี่ ไม่เรียกให้มารับ ให้โดนลินดาจับขึงไปเลย”
ทอมถึงกับหลุดหัวเราะจนหน้าแดง
....คำขู่อะไรของไอ้ดื้อเนี่ย...
คนขู่พอรู้ตัว ก็กลายเป็นเขินทำอะไรไม่ถูก
“พอ หยุดหัวเราะได้แล้ว”
“อะไรกันจูบก็ไม่ได้ หัวเราะก็ไม่ได้” ทอมทำท่าออดอ้อน แต่นิ้วมือเล็กๆ รีบชี้
“ขับรถได้เร็วๆเลย”
“ครับเจ้านาย” ทอมขยับเบาะขึ้นมาใหม่ แต่พอจะหันกลับไป มือแข็งแรงก็ดึงใบหน้างอๆ เข้ามาจูบอีกที
ชุนทุบๆๆๆ ที่ไหล่หนา
ปากที่อยากร้องด่ากลายเป็นเปิดโอกาสให้ลิ้นสอดเข้ามาหาอีกครั้ง
........หัวใจ.....มัน...แปลกๆ....
ชุนหลับตาลง
........หัวใจ.....มัน.....ยังไงไม่รู้......
ไม่อยากยอมรับเลย....
ตอนที่ลงจากรถทอมจะเดินเข้าบ้าน ชุนก็ยังรู้สึกถึงอาการแปลกๆ ที่มันยังไม่ยอมหายไปไหน จนเมื่อเดินเข้าบ้านมาด้วยกัน
“พี่ฮะ พรุ่งนี้ผมไปทำรายงานบ้านเพื่อนนะ”
“อ้าว....”
“พอดี...ผมเพิ่งนึกได้น่ะ”
วิธีการพูดแบบก้มหน้าก้มตา ท่าทางยุกยิกแบบนี้ ร้อยทั้งร้อย
...โกหก...
“พี่เสร็จงานแล้วไปรับที่บ้านเพื่อนมั้ย”
“ไม่เป็นไร ผมกลับเอง”
“ก็..เหมือนวันนี้ไง”
“อย่าวุ่นวายไง!” ชุนเสียงดัง แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นดวงตาสีเข้มคู่นั้นก็ต้องหลบตาไปทางอื่น “เสร็จแล้วผมจะโทรหา”
หลายสิ่งหลายอย่างยังค้างคาใจ ทอดลูกเต๋าผิดจนร่วงตกบันได ยังไม่รู้ผลว่าลงไปครึ่งกระดาน หรือว่าแค่ 10 ก้าว เมื่อเดินเข้ามาเขตรั้วบ้าน มองเห็นลินดาเดินออกมายืนโดดเด่นอยู่บนระเบียงหน้าประตูใหญ่
คนตัวเล็กข้างๆ ทำเสียงฟึดฟัดขัดใจได้ทันที
“ตรงเข้าห้องไปเลยนะ ทางนี้พี่จัดการเอง”
ใบหน้าใสๆที่หันมามองพี่ ดวงตากลมโตที่กะพริบถี่ ๆ กับยิ้มกว้างที่ค่อยคลี่ออก....
สู้ตายไอ้ทอม!
อย่างมากก็แค่ครึ่งกระดานวะ
จมูกโด่งๆ กดที่แก้มนิ่มสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ เต็มปอด
ชุนไม่ได้เบี่ยงหน้าหนี
ตรงข้าม
แก้มน่ะ....แก้มน่ะ....แก้มน่ะ...แดง....
ชุนวิ่งเลยแม่เลี้ยง ขึ้นบ้านเข้าห้องนอนตามคำสั่งเป๊ะ ขณะที่คนตัวโตกระแอมเรียกสติกลับมา เหลืออีกสัก 10 ช่องเท่านั้นแหละกูก็จะกลับมาอยู่ในที่เดิม
หาเรื่องขู่คุณแม่เลี้ยงสร้างความมั่นใจกันหน่อยเถอะทอมแสนดี
--*--*--
สุดท้ายเมื่อวานนี้ ไอ้ดื้อก็ไม่โทรมา!
ไอ้ดื้อไม่โทรมาไม่แปลก เพราะนั่นคือไอ้ดื้อชุน
แต่ทำไมไอ้ทอมแสนดีต้องหมดแรงขนาดนี้ด้วยวะ!
นอนไม่หลับ หงุดหงิด อยากพาล อยากอาละวาด...แต่ว่า...มันไม่ใช่นิสัย เพราะบังเอิญว่าเป็นทอมแสนดีไง ไอ้อารมณ์ความรู้สึกต่างๆ เลยต้องเก็บไว้ลึก...ลึก....ลึก....
แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่า มีคนเพียงคนเดียวที่ทำให้ทอมแสนดีหมดท่า กลายเป็นทอมเจ้าเล่ห์ ทอมบ้าบอคอแตก ทอมคนที่แสดงความรู้สึกรุนแรงเพียงเพราะน้องย้อนให้ว่า เราไม่ได้เป็นอะไรกัน
กลายเป็นทอมคิดบ้าอะไรไม่รู้ ทั้งวันจมอยู่กับความคิดที่ว่า สิ่งที่ควรรอให้เติบโตขึ้นมาอย่างสวยงาม กำลังถูกทำลายลงไปต่อหน้า
....ทอมนายมันบ้า!...
....คิดบ้าอะไร มันอาจไม่มีอะไรเลยก็ได้...
เช้ามาทำงานด้วยความขุ่นมัวการเจรจาต่อรองอะไรก็สักแต่ว่าให้มันผ่านๆไป
สมองไม่ได้แล่นปรู๊ดปร๊าดเหมือนเคย
ธุรกิจพันล้านมันจะพังก็เพราะว่าเด็กไม่โทรหารึไงเนี่ยทอมแสนดี
“เฮ้ยไอ้เสือ เป็นอะไรนักหนาเนี่ย ลูกน้องจะเข้าหน้าไม่ติดแล้ว!” พี่ไทค์รูปหล่อเดินขยับเนคไทเข้ามาในห้องทำงาน
“ใครฟ้องอะไร” ห้วน ดุ จริงจัง อย่ามาทำเล่นแถวนี้ขอบอก
“ไม่ต้องฟ้อง ชั้นแค่มาถามนายเรื่องประกันเครื่องบินใหม่ไปถึงไหน แล้วเดี๋ยวกลับมาจากทะเลต้องคุยกับสหภาพแรงงานอีก แต่เห็นไอ้พวกหน้าห้องนายที่มันเคยส่งยิ้มหวาน วันนี้เงียบอย่างกะป่าช้า”
“แล้วไม่ดีหรือไง” ยังคงห้วน ดุ และจริงจังต่อไป
พี่ไทค์หรี่ตามอง ล้วงกระเป๋ากางเกง แล้วนั่งบนโต๊ะทำงาน
“ทะเลาะกับน้อง?”
ทอมเหมือนได้ยินเสียงแก้วแตกใกล้ๆ หู
“ทะเลาะกันเรื่องอะไร”
“ไม่รู้”
พี่ใหญ่ยิ้มสุดหล่อ “ไม่รู้ก็โทรไปถาม”
“เกิดเค้าตอบว่า ไม่เอาผมแล้ว ต่างคนต่างเดินทำไง”
พี่ไทค์หัวเราะคึคึคึอยู่ในคอแล้วเปลี่ยนเป็นหัวเราะลั่น
“โทรศัพท์ โว๊ย! โทรศัพท์! ไอ้เสือจ๋อย ต้องรีบโทรศัพท์”
ทอมรีบวิ่งมาแย่งโทรศัพท์ไปจากมือพี่ชาย “ไอ้พี่ไทค์อย่าโทรๆๆ”
พี่ไทค์เปลี่ยนมาล็อคคอน้องชายอันดับ 4 ไว้แน่น
“ทีเรื่องเงินร้อยล้านพันล้านทอมคุยได้ ปัญหาสหภาพแรงงานล้านแปดทอมจัดการไหว แต่พอเรื่องเด็กตัวกะเปี๊ยกกลับเหวี่ยงซะลูกน้องกลายเป็นซอมบี้”
พี่ชายปล่อยน้องชายออกจากแขนแล้ว แต่น้องชายกลับเดินไปทิ้งตัวที่โซฟายาวเอามือกุมขมับ
“ไม่อยากเชื่อเลย ว่าผมจะเป็นไปได้ขนาดนี้”
“ชั้นก็เหมือนกัน”
พี่ชายเท้าเอวเดินเข้ามายืนมองอยู่ข้างหน้า แต่ทอมยังคงหลับตานวดขมับอยู่
“ผมเจอเค้าตั้งแต่ยังตัวเปี๊ยกเดียว แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย จู่ๆก็มาเจอกันอีก คุยกันแค่ไม่กี่คำก็...ไม่เข้าใจตัวเองเลย ทำไมรักคนได้ง่ายๆขนาดนี้”
“ชั้นเจอกับเมียในงานเลี้ยง ก็ไม่เห็นต้องใช้เวลานานนี่หว่า ต่างคนต่างหันมามองตากัน ชั้นเดินเข้าไปคุยกับเขาคุยๆไปก็ยิ่งคลิ๊ก วันถัดมาเราก็นัดเดท ผ่านมาตอนนี้ชั้นก็มีหลานให้แกเลี้ยงแล้ว”
ทอมทิ้งมือลงข้างตัว เหมือนหมดแรง ถอนหายใจอีกที
“แล้วจะไปงานเลี้ยงคืนนี้ไหวมั้ย”
“ก็มันต้องไป”
“โทรไปบอกน้องสิ ว่าวันนี้พี่ไปงานเลี้ยง”
“ก็บอกว่าเค้าไม่ชอบคนวุ่นวาย”
พี่ไทค์เบ้ปากทำหน้าล้อเลียนเดินเข้ามาหยิบโทรศัพท์ “เออตามใจ อายุป่านนี้แล้ว ต้องให้พี่ชายมาเป็นพี่เลี้ยงความรักอยู่อีก อย่าไปบอกใครเขานะ อายเขาว่ะ”
พี่ชายออกจากห้องทำงานไปแล้ว เลขานุการคนสวยก็เคาะประตูเบาๆ แล้วโผล่แต่ใบหน้าเข้ามา
“เจ้านายคะ จดหมายที่ให้แก้ เสร็จแล้วค่ะ”
ทอมพยักหน้า ชี้บอกให้เอาเข้ามาวางบนโต๊ะ ขณะที่อีกมือหนึ่งกดโทรศัพท์
**-**
ทำรายงานกับเพื่อนเมื่อวานไม่ได้ใช้เวลานานนักหนาอะไรหรอก ก็แค่ยกแก๊งค์ไปซื้อของแล้วกลับมาประกอบใส่ตู้ปลา จัดเป็นฉากหนึ่งในวรรณคดีที่เรียน คนที่จัดตู้ก็ทำไป คนที่พิมพ์บท ปริ๊นท์แล้วเอามาใส่กรอบวางข้างๆ เตรียมส่งก็ทำไป
แป๊บเดียวจริงๆ
แต่ว่า.....
พอทำๆอยู่ แฟนเพื่อนก็ตามมาถึงบ้านแล้วก็เริ่มวุ่นวาย ทำไมไม่ทำอย่างนั้นล่ะ ทำไมทำอย่างนี้ล่ะ วางตัวนี้ไว้ตรงนี้ไม่ดีกว่าเหรอ~~
ดวงตากลมๆ เริ่มออกแนวขวาง คิ้วเข้มกลายเป็นเส้นตรงแล้วก็ชนกันเปรี้ยง!
“กูจะกลับแล้ว พวกมึงทำไปเหอะ!”
ชุนคว้ากระเป๋านักเรียนเดินออกมาจากบ้านเพื่อนซะดื้อๆ เลยไปเข้าโรงหนัง กลับออกมาก็ตรงดิ่งกลับบ้านด้วยความเคยชิน
เหมือนลืมอะไรไปอย่าง
ช่างแมร่ง! อะไรไม่รู้ขี้เกียจคิด อารมณ์ไม่ดีโว๊ย!
จนกระทั่งตอนเช้าที่จะลงมากินข้าวเช้าไปโรงเรียนแล้วคว้าโทรศัพท์น่ะแหละ ถึงได้นึกออกว่า บอกกับคนเจ้าเล่ห์ไว้นี่หว่า ว่าเสร็จแล้วจะโทรหา
....หยั่งกะเขาจะคอยตัวเองงั้นแหละ....
....คอยสิ...
....คอยทำไม...
....งั้น...ถ้ามีอะไรก็คงโทรมาเองแหละ หมาเจ้าเล่ห์...
ปัญหาก็คือโทรศัพท์ที่เกิดสั่นเตือนขึ้นมาในห้องเรียนคือเบอร์โทรของหมาเจ้าเล่ห์
ชุนกดทิ้งแล้วรีบพิมพ์ข้อความกลับไป ว่ายังเรียนอยู่ พักเที่ยงจะโทรกลับ
ตอนที่โทรกลับไปไม่ต้องเห็นหน้า ก็พอจะนึกออกว่าอีกคนที่รับสายพยายามทำหน้าเคร่งขนาดไหน
ตอนที่โทรศัพท์ดังขึ้นตอนเที่ยง ให้ตายเหอะ! ไอ้ที่อารมณ์ไม่ดีมาครึ่งวัน...หายวับ!
“เมื่อกี้ผมเรียนอยู่มีไร”
“จะบอกว่าเย็นนี้พี่มีงานเลี้ยง”
“แล้ว....”
“วันนี้กลับเองนะ”
“อือ”
ตอบรับง่ายไปหรือเปล่าน่ะ ไม่อยากรู้เลยหรือว่า งานอะไรยังไงน่ะ
“ชุน”
“ฮะ”
“เลิกเรียนกลับบ้านนะ อย่าไถล”
“อือ”
~~~ชุน ชุ่น ชุ้น ชุ๊น ชุ๋น~~~
เสียงอ่อนเสียงหวานแทรกเข้ามา แบบเจตนายิ่งกว่าเจตนา
...เฮ่ย! อะไร อะไร อะไร...
*-*-*จบตอนที่ 10-*-*-
ยาวหน่อยนะครับ ผมไม่อยากตัดครึ่งๆ กลางๆ ให้มันกลายเป็นมาม่า เพราะบอกแล้วว่าคนเขียนอารมณ์ดี เรื่องนี้ไม่มีมาม่า

ขอบคุณทุกความเห็นและการติดตามครับ
ไจฟ์