(ต่อครับ)
~~~ไปทะเลกัน~~~
ตอนที่ 12ชุนลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กลงมาจากบ้านในตอนเย็น กะให้พอดีกับที่พี่ชาร์ลจอดรถเทียบหน้าบันไดบ้าน แต่ก็ยังพอดีกับที่ลินดารีบออกมาดักรออยู่ที่เชิงบันไดเหมือนกัน
“ชุน ถึงแล้วโทรกลับมาด้วยนะ”
เด็กหนุ่มสีหน้าเฉยเมยเหมือนไม่ได้ยินคำสั่ง เบี่ยงตัวไปอีกทาง ลินดาก็รีบเข้ามาจะแย่งถือกระเป๋าให้
“ชั้นถือให้นะ”
เสียงกระแอมดังขึ้นจากหน้าประตูใหญ่ ทำให้ลินดาหันไปมองแล้วรีบทำสีหน้าเป็นคุณแม่แสนดี
“กระเป๋าใบใหญ่ชั้นจะช่วยถือให้น่ะ”
พี่ชาร์ลยิ้มที่มุมปาก แล้วพยักหน้าเรียกน้องชายเอาของไปใส่ในรถ ลินดาเดินตามมาย้ำความเป็นห่วงอีก 2-3 คำ แต่เหมือนคนที่กำลังจะออกเดินทางไม่ได้สนใจรับฟัง พอเก็บของใส่รถเสร็จก็ขับออกไปเฉยๆ
พอขึ้นรถได้พี่ชาร์ล ก็บอกให้หลับไปเลยก็ได้ เพราะต้องไปอีกหลายชั่วโมง กว่าจะถึงบ้านพักริมทะเลของตระกูล “ท”
“ทำไมคราวนี้หยุดงานไปเที่ยวกันได้ล่ะ” คนตัวเล็กที่จองที่นั่งเบาะหลังเพียงคนเดียว ถามพี่ชายตั้งแต่รถยังไม่พ้นปากซอยบ้าน
“พี่ไม่อยากให้ชุนไปคนเดียวน่ะ” พี่โรสที่เป็นพี่สะใภ้คนสวยหันมาบอก “ถึงทางนั้นจะมากันฟูลทีมก็เหอะ”
“ถ้าพี่ไม่ไปผมก็ไม่ไปหรอก ตั้งแต่รู้ว่าคนเยอะผมก็ไม่ค่อยอยากขยับตัวแล้ว”
“งั้นเอาไงล่ะ” พี่สะใภ้หันไปหาพี่ชาร์ล “บ้านพักชายทะเลของเรามันก็อยู่อีกที่ หรือเราจะไปพักบ้านเรา เสียมารยาทแย่เลย” พี่สาวใจดีพูดเองเออเอง
“ไม่เป็นไรหรอกฮะ พี่ชาร์ลก็ยังต้องทำธุรกิจกับพวกเขาอยู่ ถ้าผมอารมณ์ไม่ดี ผมเดินหนีขึ้นห้องนอนไปเลยก็ได้”
ทั้งพี่ชายและพี่สะใภ้ต่างก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่มันดูแปลกๆ ปะปนอยู่ในคำพูดของชุน
“ชุน” พี่ชาร์ลพูดเสียงเคร่งๆ
“ฮะ”
“สหภาพพนักงานการบินมีปัญหาอยู่ เห็นว่าอาทิตย์หน้า พวกทอมก็ต้องไปคุยกับสหภาพพวกนี้ด้วย ถ้าไม่พอใจอะไรก็เก็บไว้ในใจ แล้วยังมีเรื่องเครื่องบินใหม่ที่มีปัญหาเรื่องประกันด้วย”
ประโยคจริงจังของพี่ชาย ทำให้พี่สะใภ้หันมาหาชุน “ทอมไม่เคยเล่าเรื่องงานให้ฟังเหรอ”
ชุนส่ายหน้า ขณะที่คิดถึงเรื่องความเครียด ความเหน็ดเหนื่อยที่คนเจ้าเล่ห์คนนั้นเผชิญอยู่
และ
ตระหนักถึงหน้าที่ของตัวเอง
คนหนึ่งไม่เคยเล่า รู้แต่ว่าเครียด
คนหนึ่งไม่เคยถามเพราะ.....
จุดนัดพบคือปั๊มน้ำมันใหญ่ เมื่อรถของพี่ชาร์ลมาถึงก็พบว่ารถตู้ของกลุ่มพี่ไทค์ที่มีอยู่ 6 คนรวมแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็กมาจอดรออยู่ก่อนแล้ว ตามมาติดๆ ในอีกไม่ถึง 5 นาทีถัดมาคือ รถหรูและรถตู้อีก 1 คันของกลุ่มพี่เท็ดที่มีลูก 3 คน
พี่ชาร์ลและพี่โรส เข้าไปทักทายพูดคุยอย่างคุ้นเคย และตอบคำถามเกี่ยวกับอีกคน
“หลับอยู่ครับพี่”
“เอองั้นก็ปล่อยให้นอนไป” พี่ไทค์บอก แต่ว่าคนตัวโตอีกคนหนึ่งสงสัยจะติดเชื้อดื้อมาถึงได้เดินไปเปิดประตูรถ ก้มลงมองหนุ่มหน้าใสที่ขดตัวหลับอยู่ที่เบาะหลัง
เสื้อยืดคอกลมกับกางเกงขาสั้น อย่างกับเด็กม.ต้น
“ชุนครับ”
“อือ” หนุ่มน้อยลืมตาขึ้นมามอง “พี่ ถึงแล้วเหรอ”
“ยังหรอก ชุนเข้าห้องน้ำก่อนมั้ย”
ชุนพยักหน้า ก้าวตามลงมาแล้วกลายเป็นอึ้งๆ คิดอะไรไม่ออก เพราะจำนวนสมาชิกที่มากมายเหนือความคาดหมาย
คือรู้ว่าทีมใหญ่
แต่ว่า.....นี่มัน....เยอะไปทั้งผู้ใหญ่ และเด็กเล็กอีก 5 คนวิ่งเข้ามาทักทาย
“พี่ชุน”
“อาชุนต่างหาก” พี่เมลที่เดินตามกลุ่มเด็กๆมาด้วยช่วยแก้ให้ถูกต้อง แต่เด็กๆ ก็ยังจะเรียกพี่ชุนอยู่เหมือนเดิม
เสียงโต้เถียงวุ่นวาย ทอมเลยเปลี่ยนความสนใจ ดึงมือน้องให้เดินต่อ “ของพี่ไทค์ 2 พี่เท็ด 3 น่ะ”
“โห...15 คนเลยเหรอ” ชุนทำหน้าเบี้ยวๆ น้ำเสียงเหน็ดเหนื่อย แต่ทอมหันมามองด้วยความเป็นห่วง
“ชุนครับ”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร” ชุนรีบโบกมือ “แค่...บวกเลขเฉยๆ”
บอกไปน่ะ ตัวเองยังไม่ค่อยอยากเชื่อเลยว่า จะสามารถควบคุมความหงุดหงิดได้มั้ย
....ต้องทำได้สิวะ...
เมื่อกลับออกมารถตู้ของพี่ไทค์ กับพี่เท็ดก็ชิ่งล่วงหน้าไปก่อน เพราะต้องไปเตรียมอาหารค่ำ ขณะที่พี่ทิลกำลังคุยอยู่กับพี่ชาร์ล และทำหน้าตาสงสัยเมื่อชุนเดินเลยรถของทอม กลับมาที่รถพี่ชาร์ลแล้วชวนพี่ชายให้เดินทางต่อ
“อ้าว...” พี่ทิลกับพี่ท็องค์พากันทำหน้าตาสงสัย ขณะที่พี่ชาร์ลพลอยเลิกคิ้วสงสัยไปด้วยอีกคน
ทอมรู้ตัวรีบกะตุกมือชุนกลับไปที่รถหรูที่มาจอดทีหลังก่อน แต่อีกคนยังไม่ค่อยเข้าใจ
“ผมไปรถพี่ชาร์ล” เจ้าตัวยังไม่รู้ว่าเริ่มถูกจับตามอง ทอมเลยต้องทำเป็นดุ
“ไปรถเราสิ”
“เอ่อ...ก็..”
ทอมไม่รอให้น้องพูดก็รีบดึงมือน้องไปที่รถ ขณะที่คนอื่นๆ ทยอยขึ้นรถของตัวเองแล้วขับตามกันมา
บ้านพักชายทะเลของตระกูล “ท” เป็นบ้านพักหลังใหญ่ สองหลัง ปลูกแยกกันภายในรั้วเดียว และใช้ครัวกลาง กับมีสระว่ายน้ำแบบวิวทะเลค่อนไปทางบ้านหลังเล็ก ส่วนสนามหญ้าค่อนมาทางบ้านหลังใหญ่ และมีประตูเล็กๆ ที่เปิดลงไปชายหาด
เนื่องจากบ้านนี้มีลูกชายห้าคนที่มักมีจะมีเพื่อนฝูงมาพักอยู่เรื่อยๆ บ้านนี้จึงใช้เป็นที่พักผ่อนของครอบครัวและใช้รับรองแขกอยู่เสมอ
บ้านแต่ละหลังมี 3 ห้องนอนใหญ่ แน่นอนว่าห้องพักของพ่อแม่คือห้องที่ไม่ได้เปิดให้ใครมาพัก เว้นแต่ในครั้งนี้ที่พิเศษเพราะพี่ชาร์ลกับพี่โรสมาด้วย แต่ทั้งคู่ปฏิเสธที่จะนอนห้องนี้
“ไม่เหมาะสมอย่างแรง” พี่ชาร์ลยืนยันตั้งแต่ตอนที่คุยกันที่ปั๊มน้ำมัน
พี่ไทค์กับพี่เมลสะใภ้ใหญ่เลยพักที่ห้องของพ่อแม่ ส่วนอีก 3 ห้องของบ้านแรกคือห้องพักของเด็ก 5 คนรวมในห้องหนึ่ง ห้องของพี่เท็ดกับพี่นีน่าสะใภ้รองอีกห้องหนึ่ง ส่วนอีกบ้านคือห้องของพี่ชาร์ลกับพี่โรสห้องหนึ่ง อีกห้องหนึ่งสามัคคีนอน 3 คน คือพี่ทิล พี่ทอม และพี่ท็องค์ ห้องสุดท้ายคือห้องของชุน
“แบ่งเด็กมานอนกับผมได้นะฮะ” ชุนบอกอย่างเกรงใจเพราะกลายเป็นเขานอนคนเดียว แต่พี่เท็ดรีบบอกว่าเด็กๆ นอนรวมกันอย่างนี้มาตลอด ส่วนสามหนุ่มนั่นไม่ต้องห่วงเพราะไม่ได้นอนในห้องอยู่แล้ว
“ไม่ที่เก้าอี้ชายหาด ก็หลับอยู่หน้าทีวีน่ะแหละ
เมื่อทุกคนแยกย้ายกันเข้าไปในห้องพักของตัวเอง และเตรียมตัวลงมารับประทานข้าวต้มมื้อดึก พี่ชาร์ลก็พยักหน้าเรียกทอมออกไปคุยที่หน้าบ้าน
ทะเลกลางคืนมองเห็นไฟจากเรือหาปลาอยู่ลิบๆ เสียงคลื่นทะเลแผ่วๆ กับลมเบาๆ ชวนให้หายใจเข้าปอดลึกๆ ผิดที่คนหนึ่งทำหน้าตาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
“มีอะไรวะ” ทอมหยิบบุหรี่จากซองมาจุดสูบ
ชาร์ลเหลียวมองไปรอบๆตัว จนแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ แล้วถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“มึงโกหกกูว่าเป็นแฟนกับน้องกูอยู่หรือเปล่า”
“เชี่ย! กูจะโกหกมึงไปทำไม”
บุหรี่ในมือทำไมมันขมๆอย่างนี้นะ ทอมอัดบุหรี่เต็มปอดเพียงครั้งเดียวก็ขยี้ทิ้ง
“กูจะไปรู้เหรอว่ามึงทำทำไม กูรู้แต่ว่า พวกมึงดูแปลกๆ”
“ยังมีอะไรแปลก กูออกจะเฝ้าน้องมึงขนาดนี้ ค่ำลงต้องพบต้องตะกายไปหาให้ได้ แล้วมึงจะเอาไงกับกูอีก”
ชาร์ลหรี่ตามอง
“เพราะที่ผ่านมามีแต่มึงคนเดียวที่พูด น้องกูไม่เคยพูดเรื่องเกี่ยวกับมึง ยิ่งเวลาที่มึงอยู่ด้วยกันชุนมันก็ปล่อยให้มึงพูดเป็นหลัก ทั้งที่มึงไม่ใช่คนพูดมากสักหน่อย”
ทอมทำสีหน้าทึ่งจัด “เก็บทุกเม็ดเชียวนะมึง”
“ขอโทษที่กูเป็นนักการธนาคารกูเก็บทุกบาททุกสตางค์อยู่แล้ว”
“มึงคิดเยอะว่ะ”
“แล้วที่สำคัญน้องกูไม่รู้เรื่องเชี่ยอะไรของมึงสักอย่าง”
“เรื่องอะไร”
“น้องกูไม่รู้แม้กระทั่งว่ามึงจบมหาลัยอะไร”
“เหรอ เออกูก็เพิ่งรู้ว่าเขาไม่รู้” ทอมพยักหน้าเออออตามไปด้วย ทั้งที่มั่นใจว่า ไอ้ดื้อชุนรู้แต่ไม่พูด
“ที่มันไม่รู้ก็เพราะว่ามึงไม่ได้เป็นอะไรกันใช่มั้ย” พี่ชายยังคงพยายามเจาะประเด็นที่สงสัยอยู่ต่อไป
“ไม่ได้เป็นไรกันแล้วกูจะชวนน้องมึงมาเที่ยวด้วยทำไม” หนุ่มรูปหล่อชักขำเพื่อนรักที่กำลังจะพ่วงตำแหน่งพี่เขยด้วยอีกตำแหน่ง
“มึงอย่าไถล กูหมายถึงมุมของไอ้ชุนที่มันไม่เคยรู้เรื่องของมึง ไม่ใช่มุมของมึงที่มีต่อน้องกู”
ชาร์ลเห็นทอมนั่งมองทะเลเงียบๆ ก็พูดต่อ “ทอม มึงกะกูคบกันมานาน สันดานเราๆ น่ะรู้กันดี ถ้าเราคบกับใครสักคน เราไม่ได้อยากได้แค่ตัว เพราะถ้าแค่นั้น มันก็..ครั้งสองครั้งก็จบ แต่อันนี้ น้องกูแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมึงเลย”
“กูว่า อันนี้มึงต้องกลับไปถามไอ้ดื้อ ว่าที่ไม่ตอบมึงน่ะเพราะเขาไม่รู้ หรือเพราะว่ารำคาญมึงกันแน่ ถ้าถามแล้วตอบตรงคำถามดีๆ ทำตามคำสั่งเป๊ะ ละก็ไม่ใช่ไอ้ดื้อแล้ว”
ชาร์ลอึ้งไป เพราะนี่คือนิสัยที่แท้จริงของไอ้ชุนดื้อ
“หรือกูคิดมากไปวะ”
“คิดมากมายมหาศาล แล้วน้องมึงนอกจากจะเป็นไอ้ดื้อชุน เขายังเพิ่ง 18 อารมณ์ก็ออกแนวนี้แหละ”
“อันนั้นมันก็จริง แต่กูก็เป็นห่วงมึง 2 คนอยู่ดี คนหนึ่งก็เพื่อนคนหนึ่งก็น้อง บอกตามตรงกูไม่อยากให้มึงเสียเวลา”
“ไม่หรอก” ทอมส่ายหน้า “กูเองตอนที่กูรู้สึกตัวว่ากูเป็นอะไรกูยังโคตรเครียด เดี๋ยวเก็บตัว เดี๋ยวประชดตัวเองพยายามที่จะบอกตัวเองว่าไม่ใช่ แต่พอกูยอมรับได้ว่าเออ..ก็แค่เรื่องในห้องนอนกูนี่หว่า มันก็แค่นั้นปล่อยให้มันเป็นเรื่องรองของชีวิต แล้วจะว่าไปอาการที่ชุนแสดงออกยังออกแนวไม่กดดันตัวเอง ชุนแข็งแกร่งกว่ากูด้วยซ้ำ”
ชาร์ลยกมือยอมแพ้ “มึงไม่ต้องโน้มน้าวมาก กูรู้คารมมึงดีพูดให้หมาออกลูกเป็นไข่ยังได้ พ่อกูเจอมึงไม่เท่าไหร่ยังใจอ่อนให้มึงเลย”
“กูก็แค่พยายามบอกว่า ให้เวลาน้องมึงค่อยๆคิดก็แค่นั้น”
“โห..คารม กูว่าจะไม่หลงกลมึงนะ แต่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงว่ะ”
“คนที่จะปฏิเสธหรือยอมรับกูคือน้องมึง” ทอมทำเป็นหรี่ตา “หรือมึงอยากได้แม่เลี้ยงมากกว่า”
“เชี่ยทอม พูดถึงทำไมให้คะแนนเอียงมาหามึงวะ”
“ตามนั้นเพื่อน ขึ้นอยู่กับชุนว่าจะเลือกกูเมื่อไหร่ก็แค่นั้น”
ชุนเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว และเดินมาที่โต๊ะอาหารที่บ้านใหญ่เพื่อกินข้าวต้ม พร้อมกับทุกคน ตอนที่เดินออกมาเห็นพี่ชาร์ลคุยกับทอมอยู่ที่สนามหญ้า เด็กหนุ่มแค่มองๆ แล้วเดินมาที่บ้าน แต่พอมาถึงก็โดนพี่เมลบอกให้กลับไปเรียกทั้ง 2 คนมากินข้าวต้มด้วย แล้วจะได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน
ชุนเดินกลับออกมาใหม่ เมื่อเข้าไปใกล้ได้ยินบางคำพูด
“พี่กินข้าวกัน”
คนที่คุยกันอยู่หันมามอง พี่ชาร์ลเดินนำมาก่อน แล้วกอดคอน้องชายกลับเข้ามาที่บ้านพักหลังใหญ่ ข้าวต้มมื้อดึกผ่านไปด้วยเสียงหัวเราะ จนถึงเวลาแยกย้าย
สามหนุ่มโสดของบ้านตระกูล “ท” ยกแพคกระป๋องเบียร์กลับมายึดพื้นที่หน้าจอโทรทัศน์ตามที่พี่เมลสะใภ้ใหญ่บอกไว้ทุกอย่าง
กับแกล้มไม่ต้องเพราะมันเปลือง
พี่ชาร์ลกับพี่ไทค์ และพี่เท็ดมาร่วมแจมได้สักพักก็ขอตัว ส่วนชุนได้สี่ทุ่มกว่าๆ ก็ปิดปากหาวกลับขึ้นมาบนห้อง
ในตอนที่ใกล้หลับ มีเสียงเคาะประตูเบาๆ
“ฮะ” ชุนขานรับแล้วลุกขึ้นมาเปิดประตู
“รับกู๊ดไนท์คิสก่อนนอนมั้ยครับ”
-*-*-จบตอนที่12-*-*-

อะคึคึคึ ~~~
ไจฟ์ครับ
(ในฐานะคนโพสต์ตอนนี้ ขอเม้าท์คนเขียนได้มั้ยเนี่ย แบบ...รูปเนี่ยนะ =="
+1 ขอบคุณย้อนหลังทุกรีครับ
tea)