(ต่อครัีบ)
ตอนที่ 13
ชุนคิดว่าวันนี้ตื่นสายกว่าทุกวันที่ผ่านมา แต่เมื่อลงมาจากห้องนอนก็พบว่า ที่หน้าโทรทัศน์ชั้นล่างมีคนตัวโต 3 คน นอนเหยียดยาว ทั้งยังเปิดประตูรับลมทะเลเต็มที่อยู่ก่อนแล้ว
...ไม่ใช่ ดูจากสภาพแล้วน่าจะอยู่อย่างนี้ตั้งแต่เมื่อคืน...
เพราะเป็นบ้านพักริมทะเล ทำให้บ้านพักหลังนี้ไม่มีโซฟา มีแต่เพียงเบาะที่นั่งกับหมอนพิงใบเล็กๆ วางเรียง แต่ตอนนี้พวกมันกลายเป็นทั้งหมอนหนุน และหมอนข้าง
คงนอนอย่างนี้กันจนเป็นเรื่องธรรมดา และสำหรับมนุษย์สายพันธุ์บ้างานอย่าง 3 คนนี้อาจนอนคุยงานกันจนหลับไปก็ได้
เมื่อมองออกไปที่บ้านพักอีกหลัง พี่เมลสะใภ้ใหญ่กับพี่นีน่าสะใภ้คนรองกำลังรวบรวมเด็กๆ 5 คนไปเล่นน้ำทะเลได้ยินเสียงต่อรองว่าขอเล่นกันกี่นาที เล่นแล้วจะไปไหนกันต่อ ท่าทางจะวุ่นวายกันมิใช่น้อย
ส่วนพี่โรสพอหันมาเห็นว่าชุนตื่นแล้วก็เดินแยกมาหา
“ทำไมรีบตื่นนักล่ะ ไปทานอาหารเช้าเลยมั้ย”
“เดี๋ยวผมไปกินที่ครัวเองก็ได้ พี่จะไปเล่นน้ำทะเลกับเด็กๆ ก็ไปเถอะฮะ”
พี่โรสส่งยิ้มหวานสมชื่อ ขณะที่มองเลยไปที่อีก 3 คนที่นอนเกลื่อน ชุนมองตามแต่กลับถามถึงพี่ชายตัวเอง
“พี่ชาร์ลไปตีกอล์ฟกับพวกที่ไทค์พี่เท็ดแล้วหรือฮะ”
“อือ..ไปแล้ว”
พี่โรสตอบแล้วแยกกลับออกไปใหม่ ขณะที่ชุนเดินไปนั่งยองๆ อยู่ข้างคนตัวโตในชุดเสื้อกล้ามสีขาว กับกางเกงสีน้ำตาล
“ตายยังเนี่ย” ชุนเอานิ้วจิ้มๆ ที่กล้ามเนื้อต้นแขนแน่นๆ “โห...เอาเวลาที่ไหนไปออกกำลังกายเพาะกล้ามวะ” คนขี้บ่นวิจารณ์ไปเรื่อย ได้ยินเสียงโวยวายเกี่ยวกับการจะลงทะเลไม่ลงทะเลมาจากชายหาด ก็หันไปมอง รู้ตัวอีกทีก็คือโดนคว้ากอดลงมานอนอยู่ใต้คนตัวโตแล้ว
“โว๊ย! เฮ้ย!”
“คนจะนอนมานั่งบ่นอยู่ได้” เสียงบ่นงึมงัมอยู่ข้างหู ท่าทางเหมือนยังไม่อยากตื่นจริงๆ แต่....ไม่รู้ดิ น้ำหนักมันค่อนไปทางเจ้าเล่ห์มากกว่า
“เฮ้ยปล่อย คนเต็มบ้าน ไอ้หมาบ้านี่” ชุนทุบๆที่สีข้าง พยายามมองพี่อีก 2 คนที่หันมามองแล้วก็กลับนอนหันหลังให้เฉยๆ
.....อะไรมันจะขนาดนี้ว๊า.....
“ตื่นมาก็ด่าแต่เช้า” น้ำเสียงยังคงงึมงัม ง๊วงง่วงอยู่ดีแต่ว่าบางอย่างที่กดเบียดอยู่้น่ะมัน......
“อะ.....”
จมูกโด่งๆกดแน่นอยู่ที่แก้มใส แต่ชุนตอนนี้นอนนิ่ง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง
ทอมหอมแก้มใสซ้ำอีกที แล้วขยับตัวลุกขึ้นนั่ง มือเสยผมลวกๆ “รอแป๊บเดียว ไปกินข้าวพร้อมกัน”
คนตัวเล็กที่กำลังใบหน้าแดงจัดเหลือบตามองคนที่นอนหันหลังให้ แล้วต้องลุกไปนั่งห้อยเท้ามองทะเลอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน
แป๊บเดียวจริงๆ อีกคนก็กลับลงมา หล่อเนี๊ยบทันใจยิ่งกว่าบะหมี่ซอง
ตอนที่กำลังกินข้าวเช้า พี่อีก 2 คนก็ตามมาสมทบ
“ขี่จักรยานไปวัดใกล้ๆนี่มั้ย” ทอมชวน แต่พอคนอื่นๆ รู้เข้าคนที่จะไปวัดก็กลายเป็นขบวนใหญ่ เพราะว่าเด็กๆ ก็พากันเลิกเล่นน้ำจะไปวัดด้วย ทำให้รถจักรยานที่มีอยู่ไม่พอ พี่เมลเลยจัดการให้เด็กๆ กับคุณแม่ไปรถ เหลือแต่คุณอาที่ตอนนี้กลายเป็นคุณอาทั้ง 4 ล่วงหน้าไปก่อนด้วยรถจักรยาน
วัดเล็กๆอยู่ไม่ไกลจากบ้านพัก แลดูสงบเงียบ ชายหนุ่มทั้ง 3 ท่าทางคุ้นเคยจอดรถจักรยานไว้ที่หน้าโบสถ์แล้วเดินเข้าไปภายใน จนไหว้พระเสร็จรถของกลุ่มเด็กๆ ก็ยังไม่มา บรรดาคุณอาทั้งหลายก็แยกย้ายกันไปช่วยพระกวาดลานวัดกับช่วยเด็กวัดซ่อมรถมอเตอร์ไซค์
ส่วนชุนก็แค่ช่วยส่งอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆให้
พอรถของเด็กๆมา ไหว้พระเสร็จก็พากันไปเคาะระฆัง โยนเหรียญอธิษฐานที่บ่อน้ำเล็กๆ หน้าวัด
แล้วออกมาตลาดซื้อของ
แน่นอนว่ามันต้องเต็มไปด้วยคำถาม คำสั่ง และความวุ่นวายสารพัด ไม่ถึง 5 นาทีก็แยกกลุ่มกัน เพราะว่าเด็กๆ จะเน้นไปที่ขนมกับของเล่น
ทอมคอยหันมามองคนข้างๆ เป็นระยะ ว่าจะแสดงอาการหงุดหงิดออกมาเมื่อไหร่ แต่ที่เห็นก็คือ หนุ่มหน้าใสมองโน่นมองนี่ ตามไปกับกลุ่มคุณอาที่ทำท่าเหมือนกับเป็นพระเอกละครกำลังถ่ายฉากเดินตลาด
“ชุนจะซื้ออะไรไปฝากพ่อหรือเปล่า” ทอมหันมาถาม
“ไม่อ่ะ ไว้ให้พี่โรสซื้อดีกว่า” ชุนตอบพลางยักคิ้ว ปล่อยให้อีกคนเอาแขนล่ำๆพาดคอเดินตลาด แล้วพากันเข้าไปรวมกลุ่มอยู่ในร้านเครื่องดื่ม
พี่ทิลสั่งของแล้วจ่ายเงินเลย ให้ที่ร้านเอาของไปส่งให้ที่บ้าน
ขากลับอากาศเริ่มร้อนขึ้น พี่ทิลกับพี่ท็องค์ขี่รถนำหน้า ส่วนคันหลังที่ชุนซ้อนท้ายอยู่เนี่ย ยิ่งใกล้บ้านคนขับยิ่งกวนประสาทแกล้งทำเป็นขี่จักรยานไม่แข็งทำยึกๆยักๆ แล้วก็กดเบรคเป็นระยะ
“ขี่งี้ จอดรถมาชกกันเลยดีกว่า!” ชุนฮึดฮัดกระโดดลงจากรถทำเป็นถกแขนเสื้อเข้าหา
พี่สองคนพากันหัวเราะ แต่คนโดนท้าชกกลับหัวเราะเสียงดังกว่า
“เดี๋ยวเบรคเดี๋ยวเบรค เดี๋ยวก็เจออ้วกใส่หรอก” ไอ้ตัวเล็กไม่เลิกขู่
“เออไม่แกล้งแล้ว กลับมาซ้อนได้แล้ว”
“แมร่ง ไรไม่รู้ ชอบให้เหวี่ยง”
ชุนบ่นแต่ก็ยอมกลับมาซ้อนท้ายเหมือนเดิม ทอมดึงมือเล็กๆ มากอดเอวไว้แน่น
“คนมันชอบเหวี่ยงอยู่แล้ว มาโทษคนอื่น”
ชุนทุบที่เอวหนาๆ “อยู่เฉยๆ ไม่กวนประสาทจะโดนเหวี่ยงมั้ยล่ะ”
คำตอบคือเสียงหัวเราะ กับมือแข็งแรงที่รวบแขนของคนที่กอดเอวไว้แน่นขึ้น ชุนเงยหน้าขึ้นมองคนที่หันมาหา
“มองข้างหน้าดิ” เสียงพึมพัมงึมงัมจากคนที่นั่งข้างหลัง
พอรถจักรยานเลี้ยวเข้าบ้านเลยโดนแซวกันไม่เลิก เพราะรถตู้กลับมาถึงก่อนตั้งนานแล้ว แต่รถจักรยานเพิ่งมาถึง
“ไปแวะนอนที่ไหนหรือเปล่าเนี่ยแก๊งค์กระต่าย” พี่เมลแซว แต่พี่ทิลรีบชิงตอบก่อน
“มีเด็กจอดรถทะเลาะกันน่ะสิ”
“ดีที่กลับมาถึงบ้าน คิดว่าต้องเรียกรถพยาบาลมารับคนเจ็บไปโรงพยาบาลซะก่อนแล้ว” พี่ท็องค์ช่วยเสริม
ทันทีที่ความรู้สึกไม่ชอบเป็นตัวตลกเกิดขึ้นในใจ คิ้วเข้มก็ชนกันทันที แขนแข็งแรงตามมาพาดโอบไหล่ไว้โดยอัตโนมัติ ชุนเงยหน้าขึ้นมอง
....จะรู้ใจเกินไปหรือเปล่าเนี่ย...
รอยยิ้มเล็กๆ จากคนตัวเล็ก กับรอยยิ้มกว้างเครื่องหมายการค้าจากคนตัวโต ทำเอาพี่ทิลเก็บปากไม่ไหว
“ทะเลหวานโว๊ยงานนี้”
แต่ยังมีอีกคนที่รู้ใจน้องชาย
พี่โรสรีบบอกให้ 2 คนไปสวีทกันที่อื่นทันที
พอคล้อยหลังออกมา ชุนก็ทำปากยื่น แก้มพอง “ผมไม่ได้กำลังจะเหวี่ยงสักหน่อย”
“แต่ก็เกือบแล้วใช่มั้ยละ ถ้าอีกสักประโยค 2 ประโยคละก็มีเฮแน่” ทอมพูดขณะที่เดินมาข้างๆ กลับไปที่บ้านพัก
ชุนเหมือนเดินมาด้วยกัน แต่พอใกล้ถึงบ้านก็กลับเดินไปสระว่ายน้ำ แล้วเลื่อนเก้าอี้นอนจากที่หันเข้าหาสระว่ายน้ำให้หันไปทางทะเล
“โลกนี้สันติเมื่อไม่มีคำถาม” ชุนเอนตัวลงนอน ขณะที่คนตัวโตนั่งลงข้างๆ บนเตียงเดียวกัน
“ไรเนี่ย” ตาขวางๆ หวนกลับมาใหม่เมื่อคนตัวโตเอนตัวลงนอนข้างๆ ทั้งยังจับให้นอนหนุนแขน “เฮ่ย ไม่เอาไปนอนที่อื่น”
“โรสบอกให้มาสวีทกัน จะไปนอนที่อื่นได้ยังไง” ทอมเถียงข้างๆคูๆ ทั้งพยายามดึงคนหน้างอกลับเข้ามานอนหนุนแขน
“ไม่เอาลุกไป!”
“ดิ้นมากๆ เดี๋ยวเค้าก็คิดว่ามาปล้ำกันแถวนี้หรอก” ทอมทำเป็นดุไม่จริงจัง ทำให้ชุนหันไปมองที่บ้านหลังใหญ่ แน่นอนสายตาทุกคู่รวมอยู่ที่นี่จริงๆ
ชุนกัดมุมปาก หรี่ตามอง พลิกตัว แล้ว....ทั้งผลักทั้งถีบคนตัวโตจนตก! ขณะที่ตัวเอง....วิ่งหนีลงไปทางชายหาด
“วู๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หมาตกเตียงๆๆๆๆๆ”
ทอมลุกขึ้นได้แต่ไม่มีเวลาให้แสดงบทบาทบาดเจ็บสาหัสมากนัก ก็ต้องวิ่งตามไอ้ดื้อไปที่ชายหาด พอตามทันก็ช้อนขาขึ้นแล้วอุ้มลงทะเลสมใจ
“ว๊าก........................ก ปล่อยก๊อน..............น”
คนตัวโตไม่ฟังเสียง พอลงไปถึงระดับเอวก็เหวี่ยงลงทะเล แต่เพราะชุนรั้งคอทอมไว้ ในจังหวะที่ขาเรียวทิ้งลงน้ำ ก็รั้งน้ำหนักตัวลงมาด้วย พร้อมกันกับที่ชุนก้มหน้ามองน้ำทะเล จมูกดื้อรั้นกดลงแน่นที่คอพี่แล้วลากลงมา
“เชี่ย!”
เสียงร้องด่าลั่นทะเล ตามมาด้วยเสียงตูม ทั้งคู่พากันเสียหลักจมลงใต้น้ำ พอตั้งหลักลุกขึ้นยืนขึ้นมาได้ ทอมก็กลับว่ายหนีออกไปอีก
“ไอ้หมาบ้า ไอ้บ้าๆๆๆ” ชุนร้องด่าแล้วว่ายน้ำตามออกไป
บรรดาพี่สะใภ้ทั้ง 3 คนเดินตามออกมาดูด้วยความสงสัย ขณะที่พี่ทิลกับท็องค์ดูไม่ค่อยแปลกใจ
“เล่นกันไปทะเลาะกันไปอย่างนี้น่ะเหรอ” พี่เมลหันมาถาม
“นี่แหละ” พี่ทิลตอบพลางพยักหน้า “วันที่ผมเจอชุนวันแรก ไอ้ทอมมันจับน้องหมุนหัวทิ่มพื้นเลย”
บรรดาสะใภ้ทำเสียงแปลกๆ ยิ่งพี่โรสยิ่งทำหน้าไม่เชื่อ “ไม่อยากเชื่อเลย แล้วทอมไม่โดนอาละวาดหรือคะ”
“โดนสิ แต่พี่ทอมก็อึดอย่างไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนกัน” ท็องค์หันไปพยักเพยิดกับพี่ทิล
“เข้าไปนอนดูทีวีก่อนดีกว่า เย็นค่อยย้ายที่มากินเบียร์ริมทะเลกัน”
แผงผู้สังเกตการณ์ 5 คนท่าริมทะเลกลับเข้าไปในบ้าน แต่ที่กลางทะเลการต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป จนสุดท้ายชุนก็ต้องใช้ไม้ตายกระโดดกอดคอไว้แน่น ส่วนขาก็ยังตีน้ำเพื่อพยุงตัว
“อิ่มแล้วพอก่อน” คนที่กอดคอเขาอยู่บอกหอบๆ
“โห ไม่ใจเล๊ย”
“ไม่ใจไม่เจยไรล่ะ โอยเหนื่อยโคตร ทะเลาะกับหมายังไม่ได้เสี้ยวของความเหนื่อยเลย” ชุนคลายมือที่เกาะคอ จะเปลี่ยนเป็นเกาะที่ไหล่ด้านหลัง แต่ทอมกลับเหวี่ยงแขนดึงเอวบางให้หมุนเข้ามาหา จัดท่าทางให้เสร็จ
“เฮ้ย ทั้งเด็กทั้งพี่ๆ” ก็ตอนนี้มือหนึ่งของทอมเลื่อนมายกต้นขาของชุนให้อยู่บนเอว
ท่านี้ส่อเจตนากันเห็นๆ ถ้ายังมีใครอยู่บนฝั่งมองลงมาก็จะเห็นแต่แขนของชุนที่โอบรอบคอทอม ใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบ แล้วก็ลดระดับลงกลายเป็นชุนเอาคางพาดไหล่กว้างไว้
“ก็เหนื่อยไม่ใช่เหรอ”
“อิ่มน้ำทะเลต่างหาก ปล่อยเหอะ กลับไปอาบน้ำดีกว่า”
ทอมหมุนตัวขึ้นฝั่งทันที ทำให้ลูกลิงที่เกาะอยู่ร้องลั่นอีกครั้ง
“เฮ้ย ปล่อยลงก่อน ขึ้นไปทั้งท่านี้ได้เปลี่ยนนามสกุลแน่”
“เปลี่ยนมั้ยล่ะ”
ชุนอ้าปากเตรียมด่า แล้วเปลี่ยนเป็นเม้มปาก หน้างอ
“ปล่อยก็ได้” ทอมปล่อยคนลงอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
แต่พอเท้าก้าวขึ้นฝั่ง ชุนเริ่มนับถอยหลังในใจ ล้างตัวล้างเท้าก่อนเข้าบ้านเสร็จปุ๊บ
“ไอ้เกลือเน่า!”
“โห....” คำว่าโหของคนตัวโตยังไม่ทันจบคำ คนเตรียมพร้อมจะด่ามาตั้งแต่ระยะ 100 เมตรที่แล้วก็วิ่งหนีหายขึ้นบ้านไปซะก่อน
ทิ้งไว้แต่เสียงหัวเราะจาก 2 หนุ่มหน้าทีวี
-*-*จบตอนที่ 13-*-*-*
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ไจฟ์ครับ