ลมเหนือที่รัก
ตอน8/1
-----------------
lom's
เสียงเพลงบรรเลงแบบนิวเอจของคีตาโร่ดังกระหึ่ม จะกรีฑาทัพไปรบที่ไหน ...มีงานกาชาดรึไงครับพี่น้อง!
(Matsuri: kitaro)
http://www.youtube.com/v/GGtKxbu7vLI ยันตัวลุกขึ้น ปวดหัวว๊อย! อาการแจ็บแสบที่ช่องทางฉีกขาดลดน้อยลง ความร้อนจากพิษไข้เหลือแค่อุ่น ๆ ...ไหวว่ะ!
ไม่ใช่ห้องผม ความทรงจำคุ้น ๆวิ่งเข้ามาชน
ชัดเลยห้องประหารกูเอง!!!
ใจตื้อแต่ตอนนี้แค้นจนคลั่ง อยากเป็นชอร์ บราเดอร์ อารมณ์ระเบิดภูเขา เผากระท่อม..ม..ม
แต่ตอนนี้-ใครก็ด้าย...ย ช่วยปิดเพลงนี่ที...
แล้วนี่มันห้องอะไรกัน!? บรรดาเก็จเกจ ของใช้สุดไฮเทค หรูระยำเดิ้นโคตร ทำไมถึงมากองกันที่นี่ หน้าตาไม่เป็นสัปรดซักตัว น่าจะให้พวกนักออกแบบมือทองทั้งหลายคิดอะไรแบบบ้านๆ มั่ง เห็นปุ๊ปไม่ต้องเดาปั๊บน่ะมีปัญญาทำมั้ย
ไม่ไหวๆ ประดาของในนี้ ยานเอ็นเธอไพรซ์ในสต์เทร็คยังดูง่ายกว่าเยอะ
เดินเคว้างเป็นซอมบี้กลางห้อง ...กูจะรู้มั้ยเสียงมันดังมาจากตัวไหน?
กลองกระแทกหน้าอกตึ่ง ตึง ...ฟิวส์ขาด ปึ๊ด!
กูจะชักปลั๊กพวกมึงทุกตัว แสรดดดด!
----------------
กำลังจะออกจากห้อง ชะงักหน้าประตู กระดาษA4 สองแผ่น ลายมือหนัก ๆ บ้าอำนาจเหมือนเจ้าของหรา ปากกาเส้นใหญ่เบิ้ง รู้สึกเหมือนคำพูดมันลอยปะทะหน้าผากพอกัน เต็ม ๆ เน้น ๆ!
‘กินข้าวแล้วกินยา เที่ยงกลับ รออยู่แต่ในห้อง ห้ามออกไปไหน’ แผ่นบน
‘ข้าวต้มกับเงินอยู่ที่โต๊ะอาหารข้างล่าง ทานให้หมดแล้วกินยา เที่ยงกลับ’ แผ่นล่าง
...เจริญล่ะ เผด็จการทั้งต่อหน้าและลับหลัง!!!
มุมขวาล่างท้ายกระดาษ ชื่อ เอ วาย ตัวโตพอกัน ...เขียนตัวอังกฤษแบบเขียนใหญ่ ม้วนหัวกับหางสวยได้จังหวะ นึกถึงกุญแจซอลในบรรทัดห้าเส้น
นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว หันมองรอบห้องไม่มีนาฬิกาซักเรือน
ปลากระโห้ในตู้ปลาที่สูงยาวเป็นผนังห้องน้ำกั้นแบ่งส่วนทำงานด้านโน้นยังว่ายวน เห็นปลาสีเงินเหลือบรุ้งวิบวับ อยู่ไกล ๆ เป็นสิ่งมีชีวิตที่คงเหลืออยู่ นอกนั้นจัดการอยู่หมัด ...ทุกอย่างเงียบฉี่ ฝีมือลมเหนือซะอย่าง
(ขอเล่าห้องน้ำหน่อยเถอะ จะขาดใจตาย...เห็นตอนแรกอึ้งสุด ๆ ประตูกระจกฝ้านั่นแค่ด่านแรก เข้ามาเจอผนังตู้ปลา มองออกไปทะลุเห็นโน๊ตบุ๊ต โต๊ะทำงาน ชั้นวางหนังสือ โอ้แม่เจ้า... แบบหนังโรมิโอกับจูเลียตตอนเจอกันปิ๊งๆ นั่นเลย!...ข้างในสุดโน่น ชาวเวอร์อาบน้ำ ฝักบัวขนาดใหญ่ ไม่มีหลังคา อารมณ์อาบน้ำเย้ยจันทร์ ใครขับฮ. ผ่านได้เจอชีเปลือยโบกมือทักทาย!
โชว์ขนาดนี้น่าจะทุบผนังออกให้เกลี้ยง มาวับ ๆ แวมๆ ให้โรคจิตแอบมองทำไม ...คิดอีกทีหมอนี่น่าจะเหงาจัด ขนาดยืนเยี่ยวยังต้องมีปลาลอยว่ายวนเป็นเพื่อนตรงหน้า ....เฮ้อ ประสาทแหลก)
.............
................
ลงมาข้างล่าง ห้องน้ำก็ใช้ได้ ยังไม่มีกระเบื้องกับชั้นวางแค่นั้น
มองหานาฬิกาพลางหาน้ำดื่ม บนโต๊ะกินข้าวฝาชีสแตนเลสวาววับสะท้อนใบหน้า ท่าจะขโมยโรงแรมที่ไหนซักแห่งมาชัวร์
กระดาษโน๊ตสีเหลืองแปะอยู่
‘ข้าวต้ม ยา เงิน ไม่ชอบให้โทรร้านข้าวข้างล่าง ไม่ต้องลงไป เที่ยงกลับ’
เออ... ย้ำไรนักหนา เห็นถุงยาวางทับแบงค์ห้าร้อย
ฟาย... จากห้าหมื่นเหลือห้าร้อย! หัวการค้าหน้าเลือด ก็ดีตอนคืนจะได้ง่ายหน่อย หยิบใส่กระป๋ากางเกงวอร์ม
แถบไฟสีฟ้ากระพริบจากกล่องขาวขอบดำข้างผนัง
ห่านเอ๊ย... นั่นนาฬิกาเลขฐานแปดฐานเก้าอะไรของมัน เก็ทบ้าของพวกนี้ ขนแมกกาซีนมาให้ดูเกือบทุกอาทิตย์ อยากจะกัดลิ้นตาย (พอ ๆ กับบีบ้าแต่งบ้าน ชอบงานอินทีเรีย แนวไหนชื่อไร สองคนรุมเลคเชอร์ผม)
ถ้าหาอะไรที่มันบ้านๆ พื้น ๆ ฟอร์ ๆ มาใช้ ไอ้นกช่างสั่งนี่คงเสียเซลฟ์น่าดู!
...แล้วตอนเวลาเท่าไหร่แล้วจ๊ะ แม่ซินเดอร์เรล่า +^+
มองหานาฬิกาตัวเองได้แต่ตัดใจ มาคืนก่อนโทรศัพท์กับสมุดบัญชีหาย มาคราวนี้ นาฬิกาคู่ชีพน้อยใจหายหัวตามกันไปอีก ขอตายดาบหน้าดีกว่า
.................
....................
เวร...เจอโน๊ตตัวเบิ้งที่หน้าประตูอีก
ช่าง! ...หัวยังเบาโหวง ไข้ยังกึ่ม ๆ จะสร่างมิสร่างแหล่ ตัวเย็น ๆ ร้อน ๆ สลับกันวูบวาบ
ผลักประตูไม้บานหนาออกอย่างยากลำบาก เดินไปที่ลิฟต์ แตะกระเบื้องพื้นเย็นเฉียบ ...นึกได้ไม่มีรองเท้า มิน่าเย็นจี๊ดถึงก้านสมองแบบไม่ต้องดูดสเลอปี้!
ไม่สน ---ขอออกจากตึกอัลคาทราสนี่ก่อน
------------------------------
“น้องคะ?” ...เสียงใคร เรียกผมเหรอ ว่าจะเดินผ่านเลยไป แต่โถงต้อนรับมีแค่ตูยืนหัวโด่อยู่ผู้คนเดียว
อ้อ.. ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ พี่ผู้หญิงหุ่นอวบตัวเตี้ย ชุดรัดติ้วแหนมป้าย่นยืนยิ้มให้ เสื้อโปโลสีชมพูมีป้ายชื่อสีทองที่อก คงเป็นเจ้าหน้าที่ของที่นี่
“น้องคะ รอก่อนค่ะ ยังออกไปไม่ได้นะคะ---” ออกจากเคาน์เตอร์ ตรงมาหาผม
“รอแป๊บนึง พี่โทรบอกแล้ว” โทรบอกใคร ---อ๋อ คงเป็นบริการเรียกแท็กซี่ให้ ดีเหมือนกันกำลังจะแย่พอดี ...
โดนลากตัวไปนั่งแหมะที่โซฟาใกล้ๆ ขัดใจตัวเอง ไม่หายซักที เอาน่าถึงหุ่นไม่ให้แต่ใจพี่เค้าก็รักงานบริการล่ะวะ
“ตัวยังอุ่น ๆ อยู่เลย ถ้าจะทานข้าวโทรสั่งลงมาก็ได้ค่ะ เบอร์โทรอยู่ที่ผนังข้างประตูห้องพักทุกห้อง”
ชิ.. พี่เคยขึ้นไปทัศนาห้องนั้นมั้ยขอรับ... มันไฮและหรูเรียบกริบ ขนาดผมยังหาตู้รองเท้าไม่เจอ ขอบอก!
หัวปวดจี๊ดเป็นระรอก ๆ นึกไม่ออกว่าลืมอะไร โดนทักจนขวัญบิน
“รองเท้า มีที่ซุปเปอร์อยู่ทางโน้นค่ะเข้าทางด้านข้าง ออกไปเลี้ยวซ้ายเจอป้ายสีเหลือง ๆ” เสนอการขายเจื้อยแจ้ว ดัดเสียงใสคิกคขุสมกับตาบิ๊กอายสีเชสนัทใหญ่เบิ้ง
มองเพลิน ๆ นาฬิกาวงกลมเรือนใหญ่หลังเคาน์เตอร์ เข็มสั้นชี้ใกล้เลข 12 เข็มยาวเลข 10 เป๊ะๆ บอกเวลา 11.50
...ชิชะ อีก สิบนาทีเที่ยง เที่ยง ---เที่ยงกลับ...เฮ้ยยยยยย !
ลุกพรวดพราด ...รู้แล้วว่าลืมอะไร เหงื่อเย็นซึมข้างขมับแต่กลางหลังไหลโชกเป็นน้ำตก บ้านผมไล่ตั้งแต่ยาย แม่ยันลูกชายอย่างผมไม่มีเหงื่อที่ใบหน้า คนอื่นออกเหงื่อเม็ดเป้งหน้าผาก จมูกคิ้วคาง แต่บ้านผมมีแค่ไรผม แล้วลงร่องกลางหลังไปเลย
เสื้อเปียกแต่หน้าใสกิ๊ง เรียนพละทีโดนแซวไอ้คนประหลาด ...ประหลาดเชี่ย มิวแตนซ์ฝังในดีเอ็นเอโว๊ย เอ็กซ์เมนอ่ะ มึงรู้เปล่า ---ฮากันไป!
อันนั้นช่างมันก่อน...
“เดี๋ยวคุณน้องเหยี่ยวก็เข้ามาแล้วค่ะ” อันนี้ตะหากงานเข้าของจริง...
---พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา
“ติ๊ด..ด.ดดด” ประตูอิเลคโทรนิกส์เสียดรูหู ใจผมเอียงหกวูบ เหมือนลืมหายใจไปด้วย
รูดตัวไหลลงกับเบาะโซฟา มองคนตัวสูงที่ก้าวยาวเข้ามาแบบสโลวโมชั่น นักศึกษาหุ่นโคตรเทพ ผมยาวระต้นคอ รวบผมไว้ครึ่งหัวนั่นอีก ใบหน้าหล่อเหลาดังรูปปั้นกรีกยิ่งดูเลิศลอยเข้าไปใหญ่ คำว่าฟ้าสรรสวรรค์สร้างยังน้อยไปสำหรับนาทีนี้...
ผมหลับตา โอกาสบินหนีหายวับ กรงเล็บเหยี่ยวกางจิกรัดผมแน่นหนึบ เสียงพี่ผู้หญิงยังเจื้อยแจ้ว ทำนองว่าต้องรั้งตัวผมไว้อย่างยากเย็นแสนเข็ญ ...เหรอครับ คุณพี่! ถ้าไม่ป่วยจะโบกให้
เสียงทุ้มนุ่มขยี้ใจละลายเอ่ยขอบคุณ แก้ตัวให้ผมว่า ‘น้องไม่สบาย ขอตัวก่อน’
...เออ ให้ไว กูจะเป็นลมสมชื่ออยู่แล้วเฟ้ย
************
ตอน8/2
--------------
yeaw's
“ออกจากห้องมาแล้วค่ะ” ข้อความตอน 11.35 ไม่ได้การ กลุ่มสุดท้ายกำลังพรีเซนต์ผลเทสต์แลบหน้าห้อง กลุ่มผมกับกายจัดการเรียบร้อยตั้งแต่กลุ่มแรกแล้ว ผมขอลัดคิวเอง
รีบโกยอ้าว กายนั่งข้างอ้าปากค้างอ้างเอ่ยอะไรไม่ทัน
ยกมือไหว้ลาอาจารย์ ชูมือถือให้เห็น ทำปากให้อ่าน ‘ที่บ้านครับ จากที่บ้าน’ ---อาจารย์พยักหน้าอนุญาต ผมเผ่นแผล็ว
ลูกชายผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ ส่งทุนให้เด็กที่นี่เรียนเกือบสิบห้าทุนต่อปีในนามอาทิตย์กรุ๊ป ไม่เกรงใจก็ให้มันรู้ไป ...แต่ผมไม่เคยใช้อำนาจในทางที่ผิดนะ
เรื่องจัดการกับคนให้อยู่ใต้อาณัติผมถนัด คนไหนใช้วิธียังไง เหยี่ยวขาวสามารถ...
แต่ไอ้เด็กนอนป่วยปางตายที่ห้องตัวเองกลับไม่ ...แย่ว่ะ!
ตาถั่วรึไง! โน๊ตข้อความแปะหน้าประตูห้องที่มันนอน ลงมาข้างล่างที่ประตูทางเข้าห้องนั่นอีก ใหญ่เต็มบานขนาดนั้น
รู้งี้แปะติดหน้าผากมนสวย ๆ นั่นไว้ซะก็สิ้นเรื่อง...
-----------------------
...มันอยู่นั่น ดูสภาพหมดแรงนั่งตาโรย ขอบตาคล้ำป็นหมีแพนด้า ใบหน้าขาวซีดเซียวไม่มีแรงทรงตัว จะหล่น ไหลไปกับโซฟารอมร่อ ...ยังอวดเก่ง
ไม่รอช้า ช้อนตัวอุ้มแนบอก กดหัวทุยเล็กๆ ลงกับบ่าไม่เปิดโอกาสให้พูด ตัวอุ่นๆ ยังไม่หายดีด้วยซ้ำ
พี่ผู้หญิงประชาสัมพันธ์ประจำคอนโดที่ให้ดูต้นทางเจื้อยแจ้วไม่หยุด
“เนี่ย ดีนะคะที่พี่คอยมองกล้องไว้ตลอด พี่ทำตามที่คุณน้องเหยี่ยวบอกทุกอย่างเลยค่ะ รอโทรศัพท์นึกว่าน้อง เอ่อ ...น้องชายคุณน้องเหยี่ยวจะโทรลงมาซะอีก” ร่ายยาวพลางจ้องมองหน้าเด็กนี่อึ้ง ทึ่ง ปนชื่นชมปิดไม่มิด
“ครับ ขอบคุณพี่หญิงมากครับ”
“น้องชายคุณน้องเหยี่ยว-สะ สวย ...เอ่อ หน้าตาดีมากเลยนะคะ หน้าตาดีทั้งบ้านเลย ไม่ให้พี่เรียกรถพยาบาลแน่เหรอคะ?”
“ขอบคุณที่เป็นห่วง ไม่รบกวนดีกว่าครับ ผมจัดการต่อเอง ขอตัวนะครับ”
“เพราะคุณน้องเหยี่ยวขอร้องนะคะเนี่ย กว่าจะรั้งน้องเค้าไว้ได้พี่ตะล่อมตั้งนานแนะ ลำบากแย่”
“ครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ” กดลิฟต์ยังตามมาเจาะแจ๊อีก ว่างมากแบบนี้บอกบริษัทของพ่อส่งคนใหม่มาดีกว่า คอนโดผมจริงแต่โอนนิติกรรมเข้าอาทิตย์กรุ๊ปของพ่อเลี่ยงภาระซ้ำซ้อน ชอบอยู่หลังฉากอิสระกว่า ร้ายกาจมั้ยผม
............
...............
วางคนอ่อนแอลงเก้าอี้โต๊ะทานข้าว กดตัวมันไว้ อยากวางที่โซฟานั่งเล่นอยู่หรอกแต่เสียงท้องร้องจ๊อก ๆในลิฟท์ต้องกลั้นขำแทบตาย 2-3 คนในลิฟท์เดียวกันยังหัวเราะหึๆ ไม่เกรงใจ
ผมได้กำไรเต็ม ๆ ซุกหน้ากับอกผมงุด ...อายจนหูแดง ไม่ติดว่าป่วยจะกอดฟัดให้น่วม 555
อยู่กับมัน ทำเอาหายเบื่อไปเลย
“...น้ำ” คำแรก... ผมวางแก้วปึ๊ก รีบยกดื่มอั๊ก ๆ จนต้องรีบคว้าแย่ง
“บอกให้รอไง ไม่เห็นโน๊ตที่ประตูเหรอ”
“นี่ด้วย!” ผมเคาะแก๊งๆ ฝาชีสแตนเลส มีกระดาษโน๊ตสีเหลืองเล็ก ๆ แปะอยู่ ข้อความเดียวกันหรา ซ้อมเขียนขยำทิ้งหลายรอบ ต้องซ่อนขยะอีก---เวร
“หิวซกขนาดนี้ ทำไมไม่กินข้าวท้องร้องจ๊อก ๆ อายเค้ามั้ย” ต้องประจานให้เข็ด
...ยังเหม่อ ฟังกูมั่งมั้ยนั่น!
“มันเย็นก็อุ่นได้ ไมโครเวฟก็เสียบไว้พร้อมใช้” สั่งข้าวต้มกุ้งร้านข้างล่างมารอก่อนผมยังไม่ออกไปเรียน จัดการเทใส่ชามปึงปังยัดเข้าเครื่อง กดกระแทกปุ่มทำงาน ‘ติ๊ด’
“---ให้มันรู้เรื่องมั่ง เขียนภาษาไทย ไม่ใช่ดาวอังคารจะได้อ่านไม่ออก”
“บอกไว้แล้วไง เที่ยงก็กลับ จะพาไปส่งบ้านให้ ดูดิ๊ ต้องเลิกคลาสมาก่อน!” ลำบากลำบน บ่นเป็นยายแก่
...เงียบ เหม่อตาลอย มองเคลิ้มจุด ๆ เดียว หยุดเดินวนรอบตัวมัน สังเกตุชัด ๆ
“โทรบอกที่บ้านให้แล้ว ไม่ต้อง..” ...ไม่ต้องเป็นห่วง กลืนหายไม่จบประโยค มองตามสายตาฝัน ๆ
โต๊ะทำครัวสีฟ้าอมเขียวจาง ๆ เหมือนน้ำทะเล ตัวท็อปของผม
ชิ โต๊ะตัวนั้นมีอะไรดีกว่าหนังหน้ากูฟะ!?
อมยิ้มจนเยิ้ม เมายารึเปล่า ...หยิบถุงยาข้าง ๆ มาดู ยังเต็มแผง ไม่มีพร่อง ไม่แตะเลยด้วยซ้ำ
“...ยิ้มไร?” ถามเน้นคำเบา ๆ ข้างหู
รอยยิ้มกว้างขึ้น ตาปิดเหลือเส้นเดียวไม่เหลือลูกกะตา มือซ้ายยกนิ้วชี้ปัดป่ายใกล้แถวคาง ริมฝีปากเอื้อนเอ่ย
”...น่า..รักจังเลย.ย” เพ้อเบาหวิว ขนตายาวเป็นแพกระพริบน้อย ๆ
“ผมต้องตกหลุมรัก ..ไอร์แลนด์ ตัวนั้นแน่ ๆ” พูดยานคาง รู้ได้ไง ‘ไอร์แลนด์’ อ๋อ ...เด็กทำครัว โต๊ะตรงกลางสำหรับทำครัวเรียกแบบนี้ คงสนิทกับเชฟซิท่า ...ฉิววูบ
ก้มเกือบชนปากขนาดนี้ยังไม่รู้ตัว ท่าจะอาการหนักจริง
“สีน้ำทะเล อืม..ม..ม” นั่นหินจากอิตาลี หอบขึ้นเรือมาเป็นแรมเดือน
“รัก ..รักที่สุดเล..ย ” ว่าไงนะ คำไม่เต็มประโยคแต่สะกดผมนะจังงัง หัวใจเต้นกระเด็นกระดอนเหมือนใครปลิดจากขั้วไปเตะทำลูกฟุตบอล ---รู้สึกหน้าตัวเองร้อนฉ่า
ปากจิ้มลิ้มนั่น
ตาหวานเยิ้มปรือปรอยนั่น
ท่าทางหลงไหลได้ปลื้มจนเคลิ้ม
---ของผมต่างหาก อยากได้ อยากครองครองทั้งหมด
---ที่สำคัญ ตอนนี้ มันพูดถึงอย่างอื่น บอกรักอย่างอื่นที่ไม่ใช่ผ๊ม..ม ยอมได้ที่ไหน
ประคองใบหน้า ...กดประทับจูบ ลิ้นเล็กร้อนระอุ ผิวแก้มอุ่น ๆ รสชาดหวานละมุน นุ่มเหมือนซอฟท์เค้กกระจายทั่วโพรงปาก
ไม่ไหว ผมคงติดไข้จากปิศาจร้ายในคราบเด็กแสบนี่แน่
**************TBC by puppyluv

-ขอบคุณคนอ่านทั้งที่โพสต์และไม่ทั้งหลาย พอเจอว่ามีคนเข้ามาจิ้มจะรู้สึกพองงงงมาก ทำให้อยากอัพบ่อยๆ
(และตามจิกมาอ่านได้ถูกตัว 555) เพราะเท่าที่คิดค่า view/reply ประมาณ 15 คน ถึงจะมีคนโพสต์กลับมาคนนึง
-อ้อ เรื่องนี้ลงที่นี่ที่เดียว ไม่มีที่อื่น ...เข้ามาอ่านบ่อยๆ นะ คนเขียนจะรอออออออออ