ลมเหนือที่รัก
ตอน50 ร้องไกด์
------------------

audi gt ของเจฟฟรี่
yeaw's
บ้านเจฟฟรี่ตอนเกือบจะหกโมงเย็น
เจ้าของบ้านเตรียมพร้อมจะออกไปข้างนอก วางกระเป๋า กวักมือ ส่งสัญญาณให้ผมออกไปคุยกันข้างนอก
ผมเลื่อนหมอนซ้อนศรีษะคนหลับสนิทหนุนแทนตักเบามือ
พ้นประตูมันลากผมลิ่วไปไกลเกือบถึงประตูหน้าบ้าน
โยนกระเป๋าเข้า AUDI GT สีส้มของมัน ปิดประตูดัง ปึ๊งงงงง!!!
“Never and ever -อย่าให้กูเห็นอีกนะเหยี่ยว!” ตะคอกเสียงเครียด ลิ่วมาขยุ้มคอเสื้อผมแน่นเข้า (โปรดทราบว่าผมกะมันคุยภาษาประกิตกัน)
“What?” ยังงงๆ เหวี่ยงอะไรกูวะ
“That's kisses !!!”
อ๋อ ...รอยที่คอนั่น-ความผิดบาปยังตามไม่เลิกรา
ตั้งแต่เช้าแล้ว เจอแม่เค้านึกว่ารอยยุงกัด หรือรู้แต่แกล้งแซวเล่นก็ไม่ทราบได้ ทว่ากับเจฟฟรี่รู้ไส้รู้พุงกันมา ...โกหกสายตามันไม่ได้
ตั้งแต่บ่ายสอง นั่งง่วนทำเพลงกับเจฟฟรี่ ผมอยู่วงนอก เห็นเด็กนั่นใส่เสื้อแขนยาวที่ให้คลุมไว้ตลอด พอเสร็จงาน เพลียๆ ของีบหลับที่โซฟายาวหน้าห้องอัด ต้องถอดเสื้อนอกเหลือแค่เสื้อยืดตัวเล็กข้างใน
อุตส่าห์ห่มผ้าให้ถึงคอ ให้นอนหนุนตักอีก ไม่ได้ห่างไปไหน---เจฟฟรี่มันตาดีเห็นได้ไง!?
"so, what're you pit me off!?” นั่นคนของกู รอยพวกนั้นก็ฝีมือกูเอง---อยากโวยกลับแต่เห็นแววตาจริงจังจะชกหน้าให้ได้
“........” ได้ความเงียบแทนคำตอบ
“ya---!” ผมสบถ แงะกำปั้นที่ขยุ้มคอเสื้อออก เดินกลับเข้าไปข้างในขณะที่เพื่อนก้าวเร็วเข้ารถ-ปิดประตูปั๊งงง พุ่งสวนทางออกไปข้างนอก
..................................
.........................................
หยุดที่ประตู มองลอดช่องกระจกเข้าไป คนข้างในยังหลับไม่ขยับตัว
เห็นตั้งแต่ร้องไกด์ในห้องอัดเสร็จก็เดินวนขยี้ตา...เป็นผมที่จับข้อมือไว้
“ไม่เอา ...ไม่ขยี้ตานะ” ตาปรือช้ำ ฉ่ำคลอน้ำตา ถ้าถูมากๆ ขนตาจะหลุดบ่นงุบงิบว่าเจ็บตาบ่อยๆ เลยต้องปราม-ห้ามไว้แทบทุกครั้ง
“อื้อ---” เหมือนถูกขัดใจ สูดจมูกซุกตัวลงกับอกผม ถูแก้มกับหัวไหล่ผมไปมาจะหลับให้ได้
“นอนพักนี่ก่อน เดี๋ยวค่อยกลับ ---นะครับ” อ้อนเบาๆให้โอนอ่อน กดศรีษะเล็กๆ ลงกับซอกคอ
ลมเหนือตัวสูงแต่บอบบางระหง แค่ซุกหน้ามาหา แพขนตายาวนั่นก็ไกล่เรี่ยกับผิวลำคอผมพอดี
...คล้ายผีเสื้อกระพือปีกเบาๆ ทุกครา ...กิริยาที่ผมหวงแหนหนักหนา
“อือ ---อีกครึ่งชั่วโมงค่อยปลุกลมนะครับ ฮ๊าววว” เสียงสะบัดเล็กๆ ขึ้นจมูกนิดๆ ใช่เลย-ง่วงงุนสุดๆ ได้ยินมากี่ค่ำคืนแล้ว ทำไมจะไม่รู้
“ไปนอนข้างบนดีๆ” เจฟฟรี่เดินเข้ามาใกล้เห็นสภาพ
“จะนอนนี่ๆ ไม่เอา ไม่ไปไหนแล้ว!” อู้อี้ขึ้นเสียงกับเนื้อตัวผม
ผู้ชายสองคนพยักเพยิดส่งภาษาใบ้ คนนึงตามใจ-อีกคนจะให้ไปนอนห้องข้างบน คนตรงกลางเริ่มตัวอ่อนเข้าสู่นิทราไม่รู้เรื่องรู้ราว
--------------------------------------------------------------
ยังไม่อยากเดินเข้าไป กลัวเสียงดังปลุกให้ตื่น
โจ๊กสะพายเป้ออกมาพอดี
“อ้าว โจ๊ก จะออกไปเลยเหรอ?”
“เออว่ะ อาจารย์ให้เอาดร๊าฟไปให้ดูก่อน” โจ๊กมีทริปไปถ่ายรูปกับชมรมของมหา'ลัย จุดหมายที่ภูชี้ฟ้า ไปกัน 5-6 คน มีอาจารย์ไปด้วย
“ไปส่งมั้ย?”
“ไม่ต้อง เอามอไซค์ไปจอดทิ้งไว้บ้านอาจารย์เลย เจอกันวันพุธเว้ย”
“อืม โชคดี...” ถ้าอยู่ด้วยกันสองคน น้อยครั้งที่มันจะกวนแต่ถ้ามีบุคคลที่สามเมื่อไร เจอโจ๊กจัดให้เมื่อนั้น
“อ้อ เกือบลืม...วันศุกร์บ่ายมึงไปกะลมเองใช่มั้ย จะได้ไปเซ็ทฉากกับถ่ายน้องนางแบบที่ร้านก่อน" งานถ่ายรูปลงโบร์ชัวร์ร้านสปา MONA ของแม่เมี่ยงคำครับ ติดใจคนของผมอีกคน...ไม่น่าให้ไปเจอกันที่เกาะกูดเลยให้ตาย!!!
"ตามนั้นแหล่ะ ศุกร์กูเรียนเช้าอย่างเดียว ลมเสร็จบ่าย2 กูพาไปเลย"
"ดีมาก ใจ-ว่ะ" ยอมเพราะมึงเพื่อนกูหรอกโจ๊ก เป็นคนอื่นโดนฆ่าหักคอ-หมกป่าพร้าวตั้งแต่อยู่เกาะโน่นแล้ว
"อืม-"
“เออนี่ ...เสียงลมแม่มโคตรเจ๋ง ได้ยินครั้งแรกนึกว่าเสียงผู้หญิง ดูห้าว ๆ เท่ห์ๆ สวยๆ ไม่รวมเทคนิคสุดยอด เชี่ยวมาก ลมมันร้องอาชีพมาเปล่าวะ?”
“ไม่รู้จริงๆ ว่ะ ไว้ถามให้” เคยได้ยินแต่คอรัส ไม่เคยได้ยินน้ำเสียงเต็มเมโลดี้อย่างนี้ เท่าที่ฟังดูก็มีแต่งานกลางวัน งานคนรู้จักต่างหาก
“แต่มึงน่าจะให้น้องมันออกกำลังกายมั่งก็ดีนะ ตอนร้องไกด์ในห้องอัดทำเอากูใจจะขาด” เพลงมันเศร้า ก็ต้องใจจะขาดดิ
"......" ผมพยักหน้า ...นี่ก็ห่วงคนของผมอีกคน
“เอ้านี่-กูอัดวีดีโอไว้ เผื่ออยากดู” ยื่นทัมฟ์ไดรฟ์ให้
“ใจ-ว่ะ”
"ดูน้องกูดีๆ นะมึง...ค่อยเจอกัน” ยังไม่วาย
บ้านเงียบ...พวกหมาๆ ถูกต้อนอยู่หลังบ้านไม่มากวนกัน
ผมเซฟไฟล์ลงโน๊ตบุค กดเปิด
[เพลงขอระยะทำใจ :กันต์ the star]
http://www.youtube.com/v/9gGnNT8mPQI เจ็บและจริงๆก็พร้อมจะไป แต่วันนี้เธอเป็นคนที่ขอให้รอ
อีกครั้งที่จะยอมเธอแม้ใจมันจะท้อ
กับการต้องรอให้เธอนั้นเคลียร์เรื่องเขา
หลบอยู่ลำพังเพ้อหวังลมๆ กับเหตุผลเธอเป็นคนพูดให้ดีใจ
กับเขาที่คบทุกวันมันเหมือนทนกันไป อยู่ในระยะทำใจในการเลิกรา
อีกนานไหมเธอจะทำใจได้หรือเปล่า
หากว่ามันยืดยาว แล้วฉันต้องทำเช่นไร
ที่มันท้อไม่ใช่ต้องรอเท่าไหร่ แต่กลัวเธอไม่ตัดใจ
สุดท้ายคนรอไม่เหลืออะไร ยิ่งซ้ำเติมความเสียใจให้ คนที่มันรักเธอ
เสี่ยงอยู่กับรักที่ต้องทนรอ แต่เธอขอก็พร้อมจะรอแม้นานเพียงใด
ก็รู้ลึกๆ แล้วเธอยังรักเขาเต็มใจ
ความหวังที่รอในใจมันอาจไม่มี
แน่ใจไหมเธอจะทำใจได้ รึเปล่า หากว่ามันยืดยาว แล้วฉันต้องทำเช่นไร
ที่มันท้อไม่ใช่ต้องรอถึง เมื่อไร แต่กลัวเธอไม่ตัดใจ สุดท้ายคนรอไม่เหลืออะไร
ยิ่งซ้ำเติมความ เสียใจให้คนที่มันรักเธอ
------------------------------------------
เด็กนี่ทำผมทึ่ง เรื่องง่ายๆ ขี้ประติ๋วของคนอื่น อย่างอาหารการกิน-กลับเป็นเรื่องยากสำหรับมัน แต่ร้องเพลงได้สื่อถึงอารมณ์ขนาดนี้ กลับทำได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ...ช่างง่ายดายจนนึกไม่ถึง
.................................
............................................
เมื่อชั่วโมงก่อนหน้า ผมนั่งเล่นเพลินๆ เห็นคุยทางดนตรีกับเจฟฟรี่ แป๊บเดียวเดินเข้าห้องอัดเฉย
แค่เปล่งเสียงร้อง ผมขนลุกซู่ ...เจฟฟรี่ก็อ้าปากค้าง-พลาดขนาดลืมกดสวิทซ์อะไรของมันก็ไม่รู้
เสียงหวานนุ่มละมุนเหมือนเสียงผู้หญิงเท่ห์ๆ ทุ้มลึกแบบที่โจ๊กบอก แต่ท่วงทำนองจังหวะการร้อง-การเปล่งคำแข็งแรงเหมือนเด็กผู้ชาย แค่หลับตาไม่เห็นหน้าจะฟังไม่ออกเลยว่าเสียงผู้ชายหรือผู้หญิง
โจ๊กที่กอดอกอยู่ข้างๆ ยังเพ้อบอก 'เพชรน้ำงาม ซักร้อยปีคงจะมีซักคน ...ดีใจชิบหายที่ได้ยินเสียงมัน'
...มีเสน่ห์ น่าหลงไหลอย่างไม่น่าเชื่อ
...ถ้าบอกว่าพระเจ้าลำเอียงสร้างเค้าขึ้นมา
ผมว่าไม่เกินความจริง
ใบหน้าหวาน ภาพมุมเฉียงแบบนี้ยิ่งสวยดังต้องมนต์เข้าไปใหญ่ แสงพร่าผ่านกระจกดูเลือนนิดๆ ไม่คมชัด---เหมือนในฝัน
ผมอมยิ้ม กดดูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่อาจละสายตาไปได้จริงๆ
...ลมเหนือ สัตว์แสนสวยของผม
****************************************************TBC by puppyluv

(อิมเมจเสียงของลมเหนือ คือ sin : ทศพร อาชวานันทกุล วง Singular ...1ใน4 แรงบันดาลใจสำคัญที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา)