Fs-i-H-O ...ญาติพี่เหยี่ยวกับน้องลม น่าจะ 'ตอน 1' หน้าแรกเล่าเรื่องลุงหมอชัยพฤกษ์ เป็นคนให้ทุนส่งลมเหนือเรียนมัธยม เพราะเจอพ่อของลมล้มหัวฟาดพื้น มานอนโคม่าเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ รพ. ของลุงหมอ (ลุงเป็นลูกบุญธรรมของตา-ยายเหยี่ยว) 'ตอน18 แม่', 'ตอนเพราะคนนี้' เล่าความสัมพันธ์เชื่อมโยงละเอียดพอควร
แล้วลุงหมอคนนี้ก็ใกล้ชิดกับครอบครัวมาเรื่อย ชอบพอกันกับคุณแม่รมย์ฤดีแต่ความสัมพันธ์ออกเชิงเพื่อนสนิทกันมากกว่า -ทำนองนั้น
ส่วนป้ามารีน่าของเหยี่ยว เป็นคนบริจาคเลือดให้ลมเหนือตอนเด็ก อ่าน'ตอนรับน้อง' ลมโคม่าเพราะเผลอกินผงชูรสเข้าไป ไม่ชัวร์ว่าหน้า 60 จะถึงยัง
เจอกันวันอังคาร...อรุณสวัสดิ์ตอนสายโด่ง!!!
******************************************************
ลมเหนือที่รัก
ตอน67 มอร์นิ่งของเหยี่ยว
------------------------
yeaw's
555 อากาศยามเช้าๆ ช่างสดชื่นบรมสุข (นาฬิกาในรถบอกเวลาแปดโมงกว่า ...เช้าวันจันทร์)
เสียดาย คอนโดอยู่ใกล้มหา'ลัยไปนิด ขับช้าเป็นเต่าคลานแค่ไหนก็ยังถึงเร็วไปอยู่ดี
ตุ๊กตาหน้ารถของผมหน้าหงิกไปหน่อย แต่ก็ให้อภัยครับ
แค่นี้รับได้สบายมากเพราะเกือบ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมาแจ๊ตพอตแตกไปหลายรอบ เล่นเอาอิ่มค้างงงง โฮะๆๆ ^o^^^
ไม่ต้องจารึกลงสมุดบันทึกประวัติศาสตร์เล่มไหนหรอก แค่เมมไว้ในมือถือก็พอ เตกีล่าผสมน้ำผลไม้ สุดยอดมากครับน้องบี ถึงไม่บอกพี่ก็ลิ้มชิมที่อมไว้ในปาก หลอกล่อแมวยั่วสวาทให้จูบล้วงลิ้นเรียบร้อย มีใบเสร็จเมนูที่จ่ายในผับมากำกับยิ่งชัดแจ้ง ขอบคุณนะครับ
อ้อ...พี่พงศ์กับลูกน้องในผับ ผลงานระดับทองคำฝังเพชร
ส่งภาพจิ้งจกและลิ่วล้อ 2-3 ตัวในฝูงสลบเหมือดข้างล้อรถ ...รวมถึงไฟล์วีดีโอเด็กวันเดอร์บอยชุดขาวสองคนนั่นอีก
หากเทียบไม่ได้กับที่ผมเจอกับตัวเองหรอก
อาร์... รู้งี้น่าติดกล้องวงจรเปิดแม่ม จะได้กรอกดูหลายๆ รอบ มัวแต่นัวเนียแมวยั่วสวาทโงหัวไม่ขึ้นของแท้
ไม่เคยสนุกตื่นเต้นกับเซ็กส์เท่านี้มาก่อน...บอกได้คำเดียว-มันส์มากกกกกก!!!
เมคเลิฟกับลมเหนือคนนี้ให้อารมณ์แตกต่างกับผมแทบทุกๆ ครั้งไป ...สวรรค์
แถมพ่วงอาฟเตอร์ช็อคตอนบ่ายแก่ๆ ที่ฟื้นมาอีก อาร์ ริมฝีปากสวยอิ่ม-ลิ้นเร่าร้อน ทำผมคลั่ง
...ไม่ได้ๆ ขับรถอยู่ จะระเบิดตอนนี้ไม่ได้!!!
อยากเล่านะ...แต่เปลี่ยนใจไม่เล่าดีกว่า อุบไว้ปลื้มเต็มๆ ห้วงอารมณ์คนเดียวก่อน 555
................................
............................................
เอ้า...นิดหน่อยก็ได้!
ตอนบ่ายเมื่อวาน เกอิชาชุดขาวเพลินสำรวจผิวกายตัวเองจุดไฟข้างในจนเหยี่ยวน้อยขยับปีกแปลงร่าง
เผลอเข้าใกล้ตอนไหนไม่รู้---รู้แต่ว่าห้ามใจไม่ไหว แค่ขอให้ใช้ปาก
ผมเสร็จ! รู้สึกดีโคตร กลับกลายเป็นว่าเด็กปากดีของผมกลับตั้งโด่ เลยสั่งให้เสร็จด้วยมือ(ของผมเอง) สลบเหมือดทั้งคู่ นอนเพลียพับกับพรมหน้าโซฟานั่นแหละ
ตื่นมาเย็นย่ำ ผมแปลงร่างเป็นพ่อครัวหัวป่าห์ ทำแกงจืดหมูห่อสาหร่ายกับไข่เจียวเอาใจคนเก่งแถมกับข้าวจากร้านข้างล่างอีกพะเรอ
เด็กดีมีแรงกระแทกกระทั้นแป้นเปียโนสุดที่รักเต็งหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก็ได้เวลากล่อมโอละเห่เข้านอน แค่นั้นเจรงๆ
5555555555555
----------------------------
"เฮ้-มาแต่เช้า!" โจ๊กทักทันทีที่เห็นผมเปิดประตูรถ มันเตร่แถวอยู่แถวนั้นพอดี
ผมเดินอ้อมไปเปิดประตูรถ ผายมือให้...เจ้าหญิง

!!!
"อ้อ...ว่าจะถามถึงอยู่พอดี ว่าไงน้องรัก ได้ข่าวว่าคืนก่อนเปรี้ยววว มากเหรอ"
"พี่โจ๊ก..." คนสวยคลี่ยิ้ม คนพี่เดินมารับถึงประตูรถ
"เฮ้ย-ทำไมคอแดงๆ ยังแพ้อยู่เหรอ เป็นไรมากรึเปล่า?"
ตาคมจะตะกุยเสื้อตาหวาน
ผมผละจากสัมภาระรีบหันไปหาควับ
"โอ๊ะ...ไอ้ เหยี่ยว!” เพื่อนเตี้ยเซครับ
“โทษทีว่ะโจ๊ก!"
"เอ้อ-หวงนะมึง!" แค่นเสียงเบาให้ได้ยินเฉพาะสองคน ผมยักคิ้วให้ พาร่างบางนั่งเก้าอี้ม้าหินที่มีประดาอาวุธของเพื่อนตากล้องอยู่เต็ม
"ทำไมยังแพ้อยู่วะ ไหนอาหมวยบอกเชื่อได้ 1000 เปอร์เซ็นต์?" ตาถั่วใช้ได้เพื่อน นึกชอบใจเรื่องรอยผื่นแดงแพ้แอลกอฮอล์วันนี้เอง
"บีว่าไงเหรอครับ?" เสียงใสถาม ผมชักร้อนๆ หนาวๆ
"...ก็ไม่ว่าไง หาเรื่องหักจิตพิสัยมันหน่อย" โจ๊กเริ่มรู้สึกตัว เหลือเสียงอ้อมแอ้ม
"ไม-มาแต่เช้าวะ?" ผมถามเบี่ยงเบนประเด็น
"โปรแกรมเมอร์ตื่นสาย เลยใช้บริการวินมอไซค์อย่างกู"
"มันไม่มีเรียนเช้านี่!?" วันจันทร์ พวกผมไม่มีเรียนเช้า เรียนบ่ายกันหมด
จริงๆ มี แต่ยกเว้นปี 3 เรื่องงานมหกรรมฟุตบอลระหว่างมหาวิทยาลัย เลยเปลี่ยนเป็นบ่ายหมด ขนาดลีดมหา-ลัยยังรีบคัดตัวพุธนี้ทั้งที่เปิดเรียนไม่ถึง 3 สัปดาห์
งานกีฬาคณะยังต้องเลื่อนไปก่อนไฟนอล หรือไม่แน่อาจเป็นเทอม 2 เลยด้วยซ้ำ การเตรียมงานต้อนรับฟุตบอลระหว่างมหา-ลัยเริ่มคึกคัก กระตือรือล้นทั่วถ้วนครอบคลุมบรรยากาศทั้งมหา-ลัย
"เรื่องชมรมดนตรีของมัน อาจารย์เรียกประชุมด่วนทำกูเดือดร้อนไปด้วย"
"ปกติมึงตื่นเช้า ไม-เดือดร้อน" โจ๊กมันตื่นถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นทุกวัน ตอนแรกว่าแปลก ตอนนี้เฉยๆ ปนทึ่งนิดๆ เพราะคนข้างๆ ก็นิสัยเหมือนกัน
ตื่นก่อนตี 5 เข้าห้องน้ำทำธุระ ซ้อมเปียโน หยุดดูพระอาทิตย์ขึ้นอาจซ้อมต่อหรือทำอะไรก็อกแก็กของเค้าตามเรื่อง...แล้วมาซุกเบียด-ปลุกผม
เฮ้อ...เค้าจะรู้มั้ย คนใช้ชีวิตกลางคืนอย่างผม ต้องเตือนตัวเองให้เข้านอนก่อนวันใหม่ หรือช้าสุดคือก่อนตีหนึ่ง เพื่อจะได้มีแรงตื่นมาแอบดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมคนๆ นี้(เฉพาะวันหยุดที่ผมมีแรงจริงๆ ทำเป็นคุยน้อ T^TT) ก่อนจะเผ่นแผล๊วแอบเนียนหลับอีกรอบ รอให้มาปลุก ---จะได้อ้อนกอดเค้าทั้งตัว(กำไรเห็นๆ)
......................
.............................
"...ก็ไม่เดือดร้อนหรอก ถ้ามันตื่นเองได้ แม่งหลับตาย นาฬิกาปลุกดังท่วมบ้านต้องถีบจนตกเตียง"
"555 กล้าเหรอวะ/ถีบจริงง่ะ!?" ผม/คนของผมที่กลั้นขำสุดเดชถาม
"เออดิ ถีบจริง เจ็บจริง แล้วคิดดูกว่าจะจรลีมาถึงนี่ได้ พลังชีวิตกูติดลบมากกก ขอบอก" ค้อนประหลับประเหลือก
"555" ผมหัวเราะก้อง คนของผมคิกคักกลั้นขำย่ำแย่พอกัน
"นักดนตรีที่ผมรู้จัก ส่วนใหญ่ก็ชอบทำงานกลางคืนกันนะ บอกเงียบไอเดียแล่น มีสมาธิดี" น้องแก้แทนพี่ไอดอลอีกคน
"แล้วทำไมเราถึงไม่อยู่ดึกดื่นข้ามคืนมั่ง?" นิสัยของลมเหนือเป็นที่ลือเลื่องครับ โจ๊กจำขึ้นใจ
"ก็ผมชอบนอนก่อน ตื่นมาตี 4 ตี5 ยังถือว่าเป็นกลางคืนเหมือนกันนะพี่โจ๊ก" ทำสิ่งที่ชอบก่อน กินลูกชิ้นก่อน นอนก่อน นั่นล่ะ...ลมเหนือ
"พอกันทั้งคู่นั่นแหล่ะ ...พวกจินตนาการสูงส่ง"
"555" ผมขำไม่เลิก ร่างบางส่ายหน้าให้คนพี่ยิ้มๆ
"...ต่อไปถ้าปลุกไม่ตื่นอีกนะ จะจุดไฟเผาบ้าน-ปึ๊ก/---โอ๊ย!"
เจฟฟรี่เดินมาจากข้างหลัง เบิ๊ดศรีษะสองขวัญของเพื่อนผมด้วยแฟ้มดำหนาปึก
ผมนั่งฝั่งนี้เห็นตั้งแต่ลงบันไดมาแล้ว แต่ตีเฉยไม่ให้โจ๊กรู้ตัว
"ใคร...เผาบ้านใคร!?"
"บ้านพ่องงงง! ตีมาได้ -เจ็บนะ!" คลำหัวป้อย ทรุดนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามผม...เงียบไป ท่าทางเจ็บจริง
"เจ็บเหรอ ขอโทษๆ" ท่าเจฟฟรี่เพิ่งจะรู้สึก เอื้อมมือจับหัวดำสำรวจ
"หื๊อ-ไม่ต้อง" น้ำตาคลอเลยครับ ปัดมือดังเพี๊ยะ !!!
"...ขอโทษ"
"แล้วมันหายเจ็บมั้ย ทีหลัง..." ไม่ต่อเงียบไป หันหน้าหนี -เจฟฟรี่งานเข้าของจริง เข้าไปโอ๋โจ๊กยังไม่ยอมง่ายๆ บรรยากาศชักจะไม่ค่อยดี
--------------
"ไง ทำไรกันอยู่?" ไอ้กายช่วยชีวิต ยิ้มสว่างมาแทรก
"มาไง?" ผมพยายามชวนคุย เลี่ยงออร่ามาคุ
"เทสต์แลปบ่าย อยากมาเตรียมของก่อน---"
"นั่นมันบ่าย 3 !?" กูเรียนคณะเดียวกับมึงไม่พอยังกลุ่มเดียวกัน ทำไมจะไม่รู้
"อืมม ก็...อยากเจอใครบางคน เค้าเรียนเช้า"
บรรยากาศชมพูแหว๋วๆ โจ๊กหันมาหาแหล่งข่าวใหม่ทันที
"ผิดที่แล้วมั้ง นิเทศอยู่ฝั่งโน้น ข้ามลานกว้างๆ โน่น" ชี้อีกฟากของมหา'ลัย ใครจะไม่รู้ มันคบกับเมี่ยงคำดาวคณะนิเทศปีเดียวกัน
"ไม่หรอก ต้องจอดรถอยู่นี่ก่อน ...หวัดดีครับน้องลม"
"ครับ พี่กาย?"
"พี่มีของมาฝาก" ถุงร้านขายเฉพาะชอคโกแลตล้วนชื่อดัง ในห้างหรู
"ไรวะ?" โจ๊กเจือก
"ไม่รู้ลมชอบแบบไหน ซื้อมาเยอะเลย" ดูกายประหม่า ยิ้มไม่หุบในถุงเยอะจัดเกือบล้น
"โอ้โห กินไงไหว กาย-มึงซื้อมาอาบป่าววะ?"
"เปล่า ...ซื้อมาฝากคน" กายหน้าแดงหน่อย เหงื่อซึมนิดๆ
"หลายคน-ว่างั้น!?" โจ๊กยังหยอดไม่หยุด
"อื้อ...ว่ะ!" กายพยักหน้ายอมๆ เจฟฟรี่ส่งสายตามาที่ผมนิ่ง
"พี่กายรู้ใจพี่เมี่ยงคำมากเลยนะครับ วันก่อนตอนทำท่านวดสปาชอคโกแลตให้นางแบบ พี่เมี่ยงคำยังว่าอยากกินเพราะประชุมเรื่องลีดหนักมาก" เมี่ยงคำเป็นหัวหน้าลีดหญิงของมหา-ลัย ตั้งฉุกละหุกรับงานฟุตบอลที่ว่าเหมือนกัน
"อ๋อ มิสเตอร์ไนซ์กายเลยหามาเสริฟ์เจ้าหญิงแสนสวย ไอ้เรานึกว่าจะหลงลมปากเด็กขี้เมาแถวนี้ซะอีก" โจ๊กซัด กายหลบตาหน้าสีเข้มถึงใบหู
"คนไหนเมา พี่โจ๊ก?" เสียงใสถาม คราวนี้ผมรู้ล่ะทำไมเจฟฟรี่จ้องหน้าผมเขม็ง
"อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้?" โจ๊กตาโต
"อะไรเหรอครับ?" เอ๋อกลับคืน
"ไม่มีไร พูดมาก--- เดี๋ยวหมวยมันคิดค่าต๋งเพิ่ม"
สองคนนั่นโทรมาโอดครวญ ขอไม่ให้พูดถึงเรื่องมอมเหล้าคนของผม เล่าว่าคราวก่อนโดนเมิน-โกรธเงียบ ไม่พูดด้วยเป็นเดือน เลยกำชับทุกคนยิ่งโจ๊กปากสว่างยิ่งกำชับหนัก อ้อนวอนสารพัด
วางหูจากเก็ทสายโจ๊กก็เข้ามา โอ่ว่าเสียค่าไอติมจาก 20 วัน เหลือแค่ 15 วันแทน
........................................
...................................................
"ที่คอนั่นเพราะแพ้เหล้าวันก่อนรึเปล่า แบบนี้ต้องระวังให้มากนะครับ" กายทัก ผมชักหายใจติดขัด
"ครับพี่กาย ทีหลังผมจะระวังให้มากกว่านี้"
"แล้วทีหลัง ถ้าเจอคนไม่ดีแบบในห้องน้ำ ต้องรีบบอกพี่นะครับ" กายร้อนรน เป็นเจฟฟรี่สบตากับผมอีกรอบ
"คนเมาน่ะเหรอครับ" ปล่อยคุยกันสองคน...พวกผมยังเงียบๆ กันอยู่
"จะเมารึไม่เมาก็ต้องระวังครับ ยิ่งมีรอยที่คอนั่นทำพี่ไม่สบายใจเลย เอาผ้าพันคอมั้ย-ในรถพี่มี"กายกุลีกุจอ
"ไม่เป็นไรนี่ครับพี่กาย ผมแพ้เหล้า!" ผมกับเจฟรี่เบือนหน้าหนี ซ่อนพิรุธโจ๊กรู้แล้วค้อนคนใกล้ตัวมันอยู่
"ผู้ชายคนอื่น...พี่ไม่อยากให้ที่ไม่รู้เรื่องคิดไม่ดีกับลมครับ นะครับพี่ไปหยิบมาให้” กายพยายามเต็มที่
คนของผมสวมเสื้อยืดข้างในก่อนเสื้อนักศึกษาอยู่แล้ว หากยังโผล่มาให้เห็นอีก 2-3 รอย
“ไม่ต้องหรอกาย เสื้อกูก็ได้” โจ๊กหยิบเสื้อหนังสีดำที่พาดคลุมกระเป๋ากล้องยื่นมาให้
“ไม่เป็นไรครับ พี่โจ๊ก”
“ใส่เหอะ จะได้ไม่ต้องตอบคำถามคนอื่น ส่วนผ้าพันคอไอ้กาย ของแฟนมันรึเปล่าก็ไม่รู้...เดี๋ยวเมี่ยงคำคิดมากอีก” โจ๊กว่าตรงไม่มีอ้อม
“จริงด้วยลม คนคิดไม่ซื่อ มันไม่เลือกสถานที่และเวลาหรอก อย่าเป็นเป้าดีที่สุด” เจฟฟรี่สรุป ปรายตามาที่ผม พูดพอให้ได้ยินกันแค่สองคน
“Know that!?“ รู้ยัง...ชัดเลยครับ ผมใจเสียแต่ปั้นหน้านิ่ง นึกถึงที่มันฟิวส์ขาดตอนเห็นรอยเมื่อวันก่อนตอนที่ร้องไกด์ให้
----อันตรายอยู่กับคนของผม
อุตส่าห์ทำรอยเป็นเจ้าของไม่ให้ใครมายุ่ง กลับเรียกเรื่องยุ่งซะเอง
แบบนี้ต้องควบคุมสัตว์ร้ายในตัวให้ได้จริงๆ ซะที!!!
****************************************TBC by puppyluv