ลมเหนือที่รัก
ตอน80 get's call-2
-------------
lom's
เพื่อนในสายยังสารธยายใส่รูหู
"พี่เหยี่ยวบอกต้องง้อวิธีนี้ถึงจะได้ผล" ชัดล่ะออกชื่อพี่ไอดอลของมันอย่างชัด-ไอ้นกลามก+^+
"วิธีไหน?" ผมเหม่อ รีบหลบสายตานกเพลิงที่จ้องเขม็งจะทะลุกระจกในร้ายออกมา-ทันใด
"บนเตียง กูบอกเพราะมึงเป็นเพื่อนกูนะเนี่ย หึๆ" สัดเก็ท
"ซาบซึ้งมากกกก" ผมอ่อนใจ
"มึงไม่รู้อะไรพี่เหยี่ยวบอกต้องวิธีนี้เท่านั้นถึงจะสื่อใจถึงใจ ล้างขุ่นเคืองหมดเกลี้ยง"
"เหอๆ" รู้สึกหนาววูบยังไงไม่รู้
"แล้วตั้งแต่เปิดเทอมมา พี่เหยี่ยวขนซีดี-หนังสือ อะไรต่อมิอะไร ประมาณภาคปฏิบัติมาให้กูเพียบ เต็มกล่องกันดั้ม 10 กล่องได้"
"โอ๋ยยยย กล่องกันดั้ม!?" ผมวูบลงเหวอีกรอบ รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนวูบวาบ
ไม่ได้ห่วงเพื่อนว่าจะโดนไอ้นกหื่นล้างสมอง แต่มันคือความลับที่เพิ่งรู้ต่างหาก
ก็ทั้งผนังกระจก บิวด์อินหมดแผง 1 ใน 4 ส่วนเป็นกล่องวางซ้อนชั้นตั้งแต่พื้นยันเพดานชั้นบน เคยลองแงะๆ ตู้วางตัวหุ่นโมเดลกระจกเปิดได้ไม่ล็อค แต่นึกงงว่าตู้กระจกข้างๆ ส่วนที่วางกล่องทำไมล็อค อ้อ-เพิ่งประจักษ์แจ้งแก่ใจวันนี้เอง...ไอ้นกชั่ว!!!
"จริงๆ กูก็ยังรีๆ รอๆ อยู่หรอก มึงก็รู้กูรับปากเค้าไว้ ก็กูอ่ะ-คนดีที่หนึ่ง" เรื่องมันโดนสั่งเคอร์ฟิวส์ 3 เดือน
"อ่ะ-จ้ะ" ไม่มีแรงเหลือจะต่อความ ข่าวเพิ่งได้ทำผมทรุด
"พี่ไอดอลบอกกู แค่ที่กูทำอยู่นะ จิ๊บๆ ต้องทำขั้นกว่าถึงจะเก่งขั้นเทพ"
"ห๊ะๆๆๆ เมิงบอก เมิงทำอะไรนะ!?"
"ฮ๊าาาา นี่กระพ๊มพูดอา-ราย ออกไป เก็ทม่ายยู้-เยื่อง 555" เสียงเก็ทสะใจมาก ถ้าอยู่ใกล้ผมเตะเจาะยางมันไปแล้ว
"อ้าย-เก็ท!" กูเหลืออดกะมึงสุดๆ เมื่อเที่ยงก็ทีนึง ปล่อยกันทุบประตูปังๆ กว่าจะง้างปากอธิบายแต่ละคำช่างยากเย็น โน่น-พี่เจฟฟรี่มาปุ๊บมันพ่นรายงานปั้บ ซึ้งใจเชรี่ยๆ
"555 ไหนๆ ก็ไหนๆ คืองี้...ขอสารภาพ กูได้เค้าตั้งกะปิดเทอมมาแล้ว"
"ห๊าาาาา!" o0o!!!
"ตอนเค้าไปตามกูที่สนามบิน กะลังจะขึ้นเครื่องไปออสเตรเลียน่ะแหล่ะ กลับมาบ้านกูปิดห้องอยู่ด้วยกันสามวันสามคืน"
"มึงๆๆ ..."
"ตอนนั้นก็คิดว่าใช่ล่ะ แต่พี่เหยี่ยวบอกแค่ข้างนอก แค่ใช้มือ...มันไม่ใช่" มีขยาย
"มึงไม่เคยบอกกูเลย-สาด!" ผมอัดอั้น หน้าไหม้คึ่ก
"อย่ามา-กูโทรหามึงแทบบ้า ตอนนั้นมึงไปกูดติดต่อได้ซะที่ไหน แล้วกูกับบีก็งานเข้าพอดี ยุ่งเรื่องพ่อบีล้มหัวฟาดต้องผ่าตัดไง-จำได้มั๊ย!?"
"อ้อ..." ช่วงนั้นนั่นเอง
"เจอมึงอีกทีจะเข้ารับน้องที่มอ.กูกะเซอร์ไพรซ์-ดันเจอมึงนอนโรงบาลเซอร์ไพรซพวกกูซะก่อน แล้วกูก็ดันโดนเคอร์ฟิวส์ 3 เดือนหงายเก๋งอีก พอชัดมะ!"
"ช๊าดดดด-เป๊ะ!" ตอนนั้นผมโคม่าครึ่งวัน นอนให้น้ำเกลือเพราะรุ่นพี่ให้กินข้าวเกรียบมีส่วนผสมผงชูรส สลบจนไม่ต้องร่วมกิจกรรมรับน้องใดๆ สบายแฮ
นี่คนอย่างลมเหนือตกข่าว รึดูเพื่อนไม่ออกกันแน่วะ
ขนาดไอ้นกยักษ์ยังหอบวีดีทัศน์ไปสอนเพื่อนตี๋ได้เฉยอ่ะ-งงมาก!?
------------------
"เอาง่ายๆ สรุป-มึงได้เด็กน้อยเป็นเมียตั้งนานแล้ว" ผมกู้สติตัวเองสรุปรีพอร์ท
"เออ ถ้าตามเทคกะนิคอ่ะนะ-แล้วมันก็ผ่านไปตั้งเดือนครึ่ง...ไม่ซิ 39 วันแล้ว ชัดมะจ๊ะ"
"จ๊ะ" ผมปาดหน้าผากตัวเอง กลุ้ม! ...เด็กน้อยโดนเปิดซิงเรียบร้อย
มิน่า ที่ผ่านมา บียอมความเก็ทอย่างหาที่ไหนมิได้ ว่านอนสอนง่ายทั้งที่ปกติไม่มี ต้องวีนแตก ขัดใจเล็กๆ น้อยเพื่อนหมวยเคยยอมที่ไหน...ผมแปลกใจแต่คิดว่าเพราะโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
แล้วฝั่งตี๋เก็ทก็ตามรับ-ส่งออกนอกหน้า พาอยู่คอนโดเดียวกัน ยังงง บียอมเก็ทเฉย...
ที่สำคัญ ไม่ถามไถ่ผมซักคำ อยู่ยังไง-กินยังไง ไม่มีห่วง วิดวะอยู่ใกล้ศิลปศาสตร์แค่นี้ แต่โน่น-เพื่อนตี๋วิ่งข้ามมหาลัยไปรับ-ส่งเด็กน้อยต้อยๆ
ลืมเพื่อนแสนดีอย่างผม...งื๊ดดด มันน่าน้อยใจยา
"ไหนๆ ก็เล่าแล้ว เพราะพี่เหยี่ยวโทรหากูเมื่อวันก่อน กูเลยคิดได้ว่าต้องรุกฆาตเท่านั้น"
"แค่โทร!?" ผมล่ะเหลือเชื่อ เห็นพี่ดีกว่าเพื่อน
"พี่เค้าโทรหากูคืนวันก่อน-วันอังคารที่คัดตัวลีดน่ะล่ะ บอกมีเรื่องจะถามบี แต่มันเกือบ 6 ทุ่ม บีหลับ กูรับแทน-เลยได้คุยกัน" อะช๊า-อย่าบอกนะว่า...!!!
"เกือบ 6 ทุ่ม!?" ผมทวนคำ หัวสมองกรอภาพกลับ งั้นที่เสียบกูเสร็จคาอ่าง จากนั้นมันมีแรงเหลือโทรหาเพื่อนตี๋อีกเร๊อ!???
"พี่เหยี่ยวซักกูเรื่องตอนบ่ายวันนั้นว่ามีไรเกิดขึ้นมั่ง กูบอกไม่รู้เพราะกูอยู่บนเวที แค่กันท่าไอ้ปีเตอร์กับพยุงหนุงหนิง หัดท่าลีดอีก จะมีเวลาสนอะไรได้"
"เออ ก็นะ" ผมนึกย้อนเรื่องราว
"แต่ตอนเช้า พี่เหยี่ยวโทรมาถามบีอีกรอบ กูนั่งกินข้าวต้มอยู่ข้างๆ เลยรู้"
"รู้ไรวะ!?" ผมวัวสันหลังหวะ
"สงสัยมึงจะโดนพวกพี่กระเทยไล่ล่าหมายหัวว่ะ"
"ไม่ใช่ล่ะ เค้าเข้าใจผิดน่ะ มีเรื่องกะใครก็ไม่รู้...ว่าแต่ บีว่าไงมั่ง กูอยากรู้" ผมวูบ เสียวสันหลังวาบ
"บีไม่ว่าไง บอกจำอะไรไม่ค่อยได้ รู้แต่มึงชวนย้ายที่นั่งจากใกล้ประตูมานั่งตรงกลางๆ แล้วชวนคุยเรื่องพี่พอล-แค่นั้น"
ผมถอนหายใจเฮือก เรื่องเม็ดกรวดที่ไม่สบายใจตามมาก่อกวนให้ระคายเล็กๆ ...ก็ดี-อย่างน้อยบีไม่ได้ติดใจใคร่รู้เรื่องราวอันใด
พวกแก๊งค์หญิงเทียมเดินมาว่ากระแทกแดกดันครับ
'หน้าตาก็งั้นๆ คงไม่มีปัญญาหาผัวเอง เลยต้องแย่งของๆ คนอื่น-หน้าด้านเน๊อะเธอ' ตอนนั้นมีนักศึกษาหญิง-ชายนั่งอยู่ใกล้ทางออกหลายคน มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ซุบซิบ 'เค้าว่าใครวะ?'
ผมยังไม่ทันติดใจแต่แปลกๆ ที่ฝ่ายนั้นมองจ้องหน้าผมอยู่คนเดียว เลยชวนบีย้ายที่นั่งไปดูใกล้ๆ
ปรากฎพี่กระเทยตามไปนั่งแถวหลัง ว่าให้ได้ยิน 'คนเค้าเป็นแฟนของน้องพอลมาก่อน ไม่น่าเป็นมือที่สามเลยนะ หน้าไม่อาย'
ชัดล่ะ! ตรงนั้นมีแค่ผมกับบี แต่หมวยน้อยกำลังร่าเริง ไม่มีท่าทีสนใจใคร จะให้รู้เรื่องไม่ได้ ...-^-
เข้าใจล่ะ...เพราะเรื่อง 'ไอ้น้องพอล' คนนี้ ผมฟังเลคเชอร์จากพี่โจ๊กมาอื้อ
'อดีตเด็กเก่ามัน เคยควงกันพักนึง น่าจะนานที่สุดเท่าที่พี่รู้จักมันมา แต่แค่ 3 อาทิตย์มั้ง ทำเรื่องงามหน้าแอบมีซัมธิงกับคนอื่น เหยี่ยวเลยไม่สน' พี่ตาคมเล่าท้าวความ
ตอนนั้น...ผมแสร้งชวนคุย ถามบีเรื่อง'พอล' กระเทยหน้าสวยด้วยแพทย์ ร่างเล็กกระทัดรัดคนนั้น
เอ่ยเชิงสงสัย 'ผู้หญิงใช่มั้ย สวยขนาดนั้นทำไมถึงแต่งชายผูกเนคไท'
บีหันมาว่า 'นั่นพี่พอล-เป็นผู้ชายนะยะ' คุยต่อประมาณชมเชย ทำนองสวยเด่นเกินใคร...ได้ผล-กระเทยควายปากแดงหน้าเชิดยิ้มระรื่น มีท่าทีอ่อนโอน-ไม่ต่อความใดๆ ให้เคืองรูหูอีก
กลับห้องคืนนั้นผมนอยด์ แล้วก็โดนไอ้นกเหยี่ยวสอยคาอ่างจากุชชี่แบบไม่รู้ตัว ซวยฟาดเคราะห์แบบมึนๆ เอ๋อๆ ไป 3 ยก (2 ในอ่าง อีก1 ตอนมันทำความสะอาดให้ นกลามกชั่วมากครับ เช้ามาผมนั่งอานกิ๊กลมไม่ได้ ต้องเป็นตุ๊กตาหน้ารถแบดแบ๊ดของมันอีกวัน-แค้นๆๆๆๆ)
....................
........................
"ไมมึงยอมให้พี่ไอดอลมึงเป่าหูได้วะ" ผมละเมอ พยายามเปลี่ยนเรื่อง เหลือบมองนกกระตั้วที่รวบช้อน หันมองตรงมาที่ผมอย่างเดียวแล้วตอนนี้
"กูแค่อยากลองตามใจตัวเองดู" เก็ทเด็ดเดี่ยว
"แล้วเป็นไงล่ะ"
"555 สุโค่ย" เก็ทหัวเราะก้อง
"กูเกลียดคนมีฟามสุขว่ะ หึๆ" ผมล้อ ภายในดีใจกับเพื่อนมากมาย
"ต่อไปนี้นะ กูจะกอดเค้า จะหอมเค้าให้สมอยาก ไม่เก็บกด ไม่เป็นคนดีอีกต่อไปแล้วว่ะ"
"เหร๊อ แม่จ้าววว นี่สัดเก็ท-ซี้ปึ๊กกูป่าวเนี่ย" ผมล้อ
"เอาน่า-มึงรู้มั้ย ที่ผ่านมากูนึกว่าลำบาก-ทนอดกลั้นไว้คนเดียว ที่ไหนได้ กลายเป็นเค้าเองก็อดทน แอบคิดเล็กคิดน้อย ระแวงกูอยู่เหมือนกัน"
"อ้อ เพิ่งรู้ หึๆ" ผมรู้สึกท้องฟ้ายามค่ำนี้ช่างปลอดโปร่ง
"ได้ระบายออกอย่างงี้ โห๊ยยย-สุดยอดว่ะลม ลุยๆๆๆๆ" ท่าท่าเก็ทจะกระโดดเหย็งๆ อยู่แน่
"เฮ้ๆ มึงอย่าล้นมาก"
"อ่ะน่า-ลม กูกะลังมีความสุข"
"เก็ท มึงอยากรัก อยากหวาน อยากทำอะไรดีๆ กับเค้า มึงทำเลยกูหนับหนุนเต็มที่" ผม
"555 อยู่แล้ว"
"แต่มึงต้องดูเค้าด้วย เค้าเต็มใจมั้ย อีกอย่างต้องออกจากใจ เป็นตัวของตัวเองนะเว๊ย" พยายามปรามเพื่อน
"มึงบอกกูเป็นรอบที่แสนสองแล้วว่ะลม" เก็ทกระหยิ่ม
"งั้นบอกอีกเป็นรอบที่แสนสองกับหนึ่ง"
"ที่บอกกู...วันเวลาไม่เคยคอยใคร แต่ต้องทำใจให้มั่นคง พร้อมตั้งรับสถานะการณ์ ใช่มั้ย" เก็ทจำคำผมแม่นมั่น
"ใช่ ...มีสติ" ผมอมยิ้ม
ที่ผมหยอกเล่นกับนกเหยี่ยวตัวใหญ่ทุกวันก็ด้วยความรู้สึกนี้ อยากใช้วันเวลา ทุกวินาทีให้คุ้มค่าที่สุด
หากมีเหตุให้เปลี่ยนผันผ่าน อาจต้องจากกันด้วยเหตุดี-ไม่ดี ผมจะจำวันเวลาที่มีค่าเหล่านี้ไว้..ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็จะประทับในใจเสมอ
มีวันเวลาที่ผมได้กอด ได้อ้อน ได้ทำดีกับคนที่รัก...อย่างที่ใจอยาก เอาอะไรแลก-ก็ไม่ยอม
-------------
แล้วเก็ทก็ซีซั่นเชนจ์...
"ลม-มึงจะอยู่กะกู เป็นเพื่อนกูไปตลอดชีวิตใช่มั้ย" เก็ทดึงความคิดผมจากภวังค์ ...ผมว่า ผมได้ยินเส้นเสียงความสุขในประโยคนี้ของเก็ทนะ
"เป็นเพื่อนแน่ๆ แต่อยู่ด้วยแบบชิดติดตัว ขอคิดก่อนว่ะ 555"
"ห้ามทิ้งกูนะเว๊ย" จู่ๆ ก็โวย
"น่า กูยังติดหนี้มึงอยู่ จำไม่ได้รึไง"
"จริงด้วย ว่าแต่-มึงได้ตั้งหมื่นจากแม่บี โอนให้กูแค่ 500 เนี่ยนะ"
"500 นี่เยอะนะขอรับท่านเจ้าหนี้ ที่เหลือกูส่งให้แม่หมด บอกแล้วไงจะทยอยคืนมึง 4 ปี เรียนจบพอดี เท่าที่มึงดูแลกูมาไง" ผมวาดโครงการในหัว
"ม่าย-อาวววว สี่หมื่น 40 ปีได้มั้ยวะ!?" เก็ทเข้าโหมดอ้อน
"โหยยย นานไปมั้ยมึง!" ผมโอด ไหงมาเงื่อนไขนี้ได้ พูดกันบ่อยครับ มันยกหนี้ให้ตลอดล่ะ แต่ผมยืดเวลาขอคืนช้าๆ แทน เพื่อความสบายใจกันทั้งสองฝ่าย
"กูกลัวไง หมดพันธะแล้วมึงจะหนีกูไป" เก็ทกลับเป็นเก็ทขี้กลัว-เพื่อนผมคนเดิม
"ไอ้เด็กไม่รู้จักโต-เก็ท มึงคิดงั้นได้ไงวะ"
"ไม่รู้ล่ะ กูอยากเขียนด่ามึงในสมุดบัญชีของมึงอ่ะ นะ-เราอายุซัก 40 นะ" ไอ้ตี๋น้อยเอ๊ย เงื่อนไขนี้มันรบเร้าผมบ่อยครับ
"เออๆ ขอคิดก่อน" ผมขำ ตลกความคิดแบบเด็กๆ ของเพื่อน...รู้ซึ้งถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อน ช่างอบอุ่นและชุ่มชื่นภายในใจ
เหมือนเก็ทรู้ ที่ผมคืนเงินให้มันทีละน้อย เพราะอยากมีเรื่องสุมหัวกับมันนี่ล่ะ
สมุดท็อปซีเครทเล่มเล็กเท่าฝ่ามือครับ หนี้ผมเคยยืมเพื่อนคนนี้ เซ็นต์รับ-ส่งเหมือนเขียนด่ากัน เกทับกัน
เรื่องลับๆ ที่ไม่ลับของเราสองคน ...ความผูกพันที่ไม่เหมือนใคร
--------------------
"มึงจะให้กูไปดูบีให้มั้ย" ผมเปลี่ยนเรื่อง...คิดสภาพ ครั้งแรกต้องไข้ขึ้นแน่ๆ เล่นล่อตั้งกี่ชั่วโมง
"ไม่ต้อง-ห้ามเลยลม เดี๋ยวมึงจับกดเด็กน้อยกู"
"ห่าน คิดได้ไง-กูเพื่อนมึง"
"555 กูล้อเล่น รู้อยู่แต่เด็กเค้ากลัวมึงเป็นที่สุดว่ะ สั่งห้ามกูบอกมึงเด็ดๆ กูเลยพามาบ้านเนี่ย สั่งแม่บ้านดูทุกฝีก้าวแล้ว ไม่ต้องห่วง"
"โหยยยย หวงว่ะ แล้วนี่มึงบอกกูทำไม"
"อ้าว เค้าบอกแค่ไหน นี่กูไม่ได้เล่าละเอียดแบบช็อตต่อช็อตซะหน่อย"
"เหอๆ กูว่ามึงกลับไปเป็นเด็กดี เก็ท-ไนซ์บอยอย่างเก่าดีกว่าว่ะ หัดร้ายลดเลี้ยวแบบนี้ บีตายไม่พอกูก็พลอยเวียนเฮดกะมึงด้วย"
"555 เอาน่า กูกำลังสุขโคตรๆ ปล่อยซักวัน-ห้ามขัด!"
"อะ-จ้า พ่อคนดีแห่งกรุงศรี หึหึ...กูดีใจกะมึงด้วยว่ะ"
"วู๊ ต้องงี้ซิวะ ลมเพื่อนรัก!" เก็ทแทบตะโกนใส่โทรศัทพ์
"เอ้อ ไอ้เพื่อนเก็ท 555" ผมฟูฟ่อง
..................
.....................
แล้วโลกทั้งก็หมุนเปลี่ยนวงโคจรด้วยบทสนทนาต่อไปนี้...
"ลม!" เก็ทเริ่ม
"หือ?"
"วันนี้กูสุขสุดๆ เลยว่ะ"
"อืม..."
"กูถามไรอย่างได้มั้ยวะ มึงต้องห้ามโกรธเด็ดขาด" เก็ทว่าชัด
"หึๆ ห้ามโกรธด้วย งั้นกูไม่อยากตอบว่ะ"
"ไม่ตอบไม่เป็นไร กูจะถาม เพราะกู'รมณ์ดีค่อดๆ" ไม่ค่อยจะเข้า แต่ฟังมันหน่อยล่ะกันครับ
"อ่ะ-ว่า"
"รูปในมือถือมึง เด็กชายคิ้วแหว่งคนนั้น -พี่เหยี่ยวใช่มั้ยวะ!?" ฟ้าผ่าเปรี้ยง o0o!!!
"....." โทรศัพท์หล่นปุ๊ลงตัก โชคดีที่ไม่ตกถึงพื้น ได้แตกเป็นเสี่ยงๆ
"ลมๆๆ ไอ้ลม" เสียงเก็ทตะโกนตามสาย
"ดะ-ได้ยิน" รีบควานหามือถือสีขาวมาอยู่ในมือ
"พี่เหยี่ยว-เหยี่ยวขาว ไอดอลของกูใช่มั้ย" เสียงไกลโพ้นแต่กระชากใจหลุดจากขั้ว
"เหอๆ ไมคิดงั้น" ผมไปไม่เป็น ชาดิกทุกชีพจร
"บีเขียนใส่มือกู"
"ห๊ะ!?" ฟ้าร้องตามหลังฟ้าผ่า ช่างกกึกก้อง กัมปนาทในความรู้สึก...ผมเหงื่อซึมหลัง พยายามกำเครื่องมือสื่อสารแรงสุดชีวิต
"ตัวอักษรสองตัว กลางฝ่ามือกู" ชิบๆๆๆๆ ...ลมเหนือ ชิบๆๆๆ แล้ว!!!
"โหยยยย-บีของมึงอ๊ะ!" ผมโอด เรื่องความลับที่ผมไม่เคยบอกใคร สั่งบีห้ามปริปากแล้วด้วย นี่เพื่อนหมวยผิดคำพูดเพราะเป็นเมียไอ้เชรี่ยเก็ทงั้นเหรอ
"อ๊ะๆ มึงเอาผิดพวกกูสองคน-ม่าย-ด้าย หึหึ"
"ทำไมจะไม่ได้!?" ผมฉิว อายก็อาย โกรธก็โกรธ
"ตอนนั้นมึงบอกกูห้ามพูดใช่มั้ย"
"ใช่"
"นี่กูถาม ถอถุง-สระอา-มอม้า...ถาม ไม่ใช่พูด"
"เข้าใจล่ะ มึงจะบอกกูว่า บีเขียน-ไม่ได้บอกใช่มั้ย!?" ตอนนั้นผมสั่ง 'ห้ามบอกใคร' เช๊ดดดดด ไม่นึกว่าพวกสองศรีจะรวมหัวเป็นศรีธนญชัยเล่นงานผม
"ใช่ เค้าเขียน วาย-เอ กลางมือกู แล้วเงียบกริ๊บ ไม่เออ-ไม่แอ ไม่ส่งเสียงซักคำเดียว 555"
"....." ผมโรยแรง ตัวอ่อนละลายติดกับเก้าอี้ เหลือบตามองภายในร้าน
กระแสเสียงในสายยังตามย้ำ
"กูลองดูแล้ว ทั้งอ่าน-ยะ อ่านยา-ย่า-ย้า แย-แย่-แย้ แต่บีเขียนให้กูดูชื่อเดียว-โป้งงงง!"
ไม่ได้ฟังต่อเพราะ...
"อ๊ะ---(ผม)/กลับ!" เหวย นกเหยี่ยวโฉบมาจับต้นแขนผมหมับ ตกใจวูบ ใจเด้งกระเด็นกระดอน
"สะๆ สายเก็ท ...เก็ทอยู่ในสาย คะ-ครับ" กูติดอ่างทันใด ใบหน้านกฮิตเล่อร์โหมดมาคุลุกเป็นไฟบรรลัยกัลป์อยู่ห่างแค่คืบ ...มือใหญ่ฉวยโทรศัพท์ผมแนบหูตัวเองเฉย
ได้ยินแว่วๆ
("เหยี่ยวขาว อาทิตย์ชิงดวง ใช่มั้ยวะ") เสียงเก็ทแแผ่วๆ ผมกัดปาก รู้สึกตัวเองหน้าซีดไม่เหลือสี
ไอ้นกดุเงียบ แล้วก็เงียบ ...ผมน่ะเหรอ รีบเสมองเข้าไปในร้านกลบอาการ
พี่เจฟฟรี่กับพี่โจ๊กลุกจากเก้าอี้ กำลังจะเดินออกมาสมทบ
"เก็ท พี่เอง!" กรอกเสียงตัวเองลงโทรศัพท์ผ๊ม
("พี่ไหน...ห๊ะ พะ-พี่เหยี่ยวเหรอครับ") เสียงเก็ทลอดให้ได้ยิน
"เอ้อ ก็ชื่อนามสกุลเต็ม-เมื่อกี้นี้ล่ะ"
("อ่า...พะ-พี่เหยี่ยว")
"คุยเรื่องไรกัน ตั้งนานแล้ว!"
("มะ ไม่มี ...ไม่มีอะไรครับ")
"งั้น-พี่ว่าเก็ทรีบเก็บของให้เสร็จดีกว่า เจฟฟรี่บอกแค่กระเป๋าติดใบตัวเดียว-อย่ามาก จะได้ไม่ต้องรอสัมภาระ ถึงโน่นตี 1 ทางโรงแรมจะมารับ-เช็คอิน เข้านอนเลย" สั่งความทรงอำนาจเป๊ะๆ
("อ่า ครับๆ") เก็ทยังอึ้งๆ
"เช้าตื่นทำงานตีห้า อย่าลืม!"
("ครับ")
"ดี อีก 3 ชั่วโมงเจอกัน"/ติ๊ดดดด!!!! กดวางสายแทบพัง ส่งโทรศัพท์คืนคนจ๋อยแดรก ยืนอึ้ง-ทึ่ง-เสียวอย่างผม หนีบต้นแขนลากลิ่วตรงไปที่ลานจอดรถ
"สองทุ่มครึ่งนะ เหยี่ยว!" พี่เจฟฟรี่ร้องตามหลัง เรื่องทวงให้ไปส่งที่สนามบิน
"รู้น่า!" เสียงสะบัดตอบเพื่อน หนีบผมขึ้นรถ ใบหน้าหงุดหงิดสุดๆ
ฟู่ ---เกือบโดนไอ้ตี๋อินเตอร์แฉความลับซะแล้วผม!!!
แฉกับใครไม่แฉ บ้าเอ๊ย!!!
***********************************TBC by puppyluv