ลมเหนือที่รัก
ตอน153 come back
------------------------------
yeaw’s
นาฬิกาข้อมมือบอกเวลา 14.00 บ่ายสองตรง กดโทรออกอีกรอบ ครั้งที่ 15 ได้
"ฮัลโหล บ้าน.../ตื่นยัง?" น้าแดงหัวหน้าแม่บ้านหญิง/ผมรีบดัก
"ตื่นแล้วเจ้าค่ะ"
"ทำไมไม่รีบโทรบอก!?" ผมฉุนกึก
"คุณลมเธออยู่ในห้องน้ำค่ะ ให้เด็กไปเคาะดูมั้ยค่ะ" ยังจะล้อเล่นนะคุณน้าแดง ไม่ติดว่าอยู่ด้วยกันมานานและรับใช้ใกล้ชิดล่ะก็ ฮึ่ม!
น้าแดง สาวอีสาณ ดูแลผมตั้งแต่มาอยู่ไทย รู้ใจไปหมด ไม่ใช่ญาติแต่สำคัญยิ่งกว่า
ผมทานส้มตำกับอาหารพื้นเมือง ฟังอีสานออกก็คนนี้
โทรศัพท์บ้านอยู่ข้างหัวเตียงกับห้องนั่งเล่นติดกันแต่ไม่โทรเข้า
ไม่อยากกวน รู้ดี ตัวรุมๆ คล้ายไม่สบายเพราะผมโหมหักบทรักบนเตียงมากไป
(>0<) ก็คนมันคิดถึงๆๆๆ ทำไงได้
เมื่อไรป้าจะเสร็จธุระวะ มัวแต่คุยธุรกิจพันล้านอยู่นั่น
หลานชายจะลงแดงอยู่แล้วคร้าบ T^T
----------------------------
เกือบ 5 โมงเย็น เผ่นกลับมาถึงบ้านคนเดียว
ทิ้งป้ามารีน่า แอนเดรียน่า ผมทองเฟอดริเอโด้และโรมิโอเลขากระเทยเฒ่า
อยู่เลี้ยงรับรองกึ่งประชุมบอร์ดบริหารของบริษัทกลายๆ
ไม่เกี่ยวกับลูกชายท่านประธานกรรมการผู้บริหารอย่างผม
แค่ลงจากรถ แปลกใจ ...เสียงเปียโนมาจากไหน ทำไมมีเสียงเพลง
แกรนด์เปียโนหลังใหญ่ตัวแรกตัวเดียวที่บ้านหลังนี้เคยมีมา ได้ย้ายนิวาศไปอยู่คอนโดเดียวกันแล้วนี่นา
เพลงนี้มาจากไหน ผมจำลายเส้นเสียงนี้ได้ โซโล่เดี่ยวเพียงคนเดียว...ลมเหนือ
รีบพุ่งไปหาต้นตอ...
"ลิฟวิ่งกลางครับ" สมชายพ่อบ้านใหญ่รีบบอก คงเห็นผมหน้าตื่น รู้หมดบ้านนายน้อยต้องการอะไร
รึว่าเหยี่ยวดูออกง่ายขนาดนั้นวะ!?
ห้องกระจกโล่งโถงขนาดใหญ่ ตรงกลางเยื้องชุดโซฟาสีขาวครีมนุ่มนวลนั่น
เสื้อยืดสีดำกับแกรนด์เปียโนสีขาว ดวงหน้าหวานละมุนอมยิ้มกับตัวเองนิดๆ
ดื่มด่ำรสดนตรี กำลังอยู่ในภวังค์ของตัวเอง
โหย...แกรนด์เปียโนสีขาวหลังใหม่เอี่ยม
แด๊ดทำคะแนนตัดหน้าผม มิน่า ปั้นหน้ายิ้มมีเลศนัย
บทเพลงพลันชะงัก ตัวโน๊ตก้องกังวาน 'ติ๊งงง~' แล้วเงียบเสียงลง
ดวงหน้านั้นเงยขึ้นมอง ตรงมาที่ผม...ที่รักของผม
...ตาสบตา
...คลี่ยิ้มหวาน มือตบข้างเบาะเบาๆ เชิญชวน
...ผมก้าวเข้าหาดั่งต้องมนต์สะกด
...ทรุดนั่งทางซ้ายมือ เคียงข้างกัน
นิ้วเรียวสวยกดแป้นคีย์ 'ตึง ตึ่ง ตึ๊ง ตึง'
"Comp tine d'un autre"
"หึหึ"
เหยี่ยวรู้จักและจำได้ดี ไม่อยากบอกว่าเพลงนี้แอบซ้อมมาด้วย
บทเพลงที่เกาะกูด เล่นด้วยกันคราวนั้นหวนกลับมาอีกครา
ผมใช้มือซ้าย ลมเหนือเล่นด้วยมือขวา...ข้างที่ไม่ถนัดทั้งคู่
คนหนึ่งกุมจังหวะทำนอง อีกคนสอดคล้องเล่นเมโลดี้
เรายิ้มให้กัน นั่งเบียดไหล่ชนไหล่
บทเพลงของเราสอดประสาน ไร้ซึ่งคำจำนรรจา
มีเพียงลมหายใจและหัวใจเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน
หลอมหัวใจของเราเข้าเป็นดวงเดียว ทีละน้อยๆ ...ผมรู้สึกเช่นนั้น
[Comp tine d'un autre]
http://www.youtube.com/v/rblk4FNsUdg......................
............................
6 โมงเย็น ชั่วโมงกว่าๆ ต่อมา เจฟฟรี่ บี เก็ท โจ๊กย้อนกลับมาทานดินเนอร์
หอบสัมภาระมาพร้อมสรรพ โจ๊กให้เหตุผลง่ายๆ ...
"มึงดูเลย ค้างคาวอย่างมันตื่นไม่ได้แน่ ต้องแบกขึ้นรถไปฟื้นที่อยุธยาท่าเดียว กูเลยเอาวะกลับมานอนกะมึงนี่ล่ะชัวร์" เพื่อนเตี้ยร่าย
"มึงคิดถูกแล้ว" ผมเห็นด้วย เรื่องตื่นเช้าก่อน 8-9 โมงสำหรับเจฟฟรี่ยากยิ่งกว่าเข็นครกหินลูกใหญ่ยักษ์ขึ้นภูเขาคองโก
"แต่ที่จริงไม่ใช่แค่นั้นว่ะ" โจ๊กยืนกระแซะชิด
"ไรวะ?" ผมสำเหนียกผิดปกติ
"มึงดูเองล่ะกัน มันไม่อยู่บ้าน แค่เมื่อวานวันเดียว โดนน้าจีน่าล้วงลูกซะแล้ว"
"น้าจีน่า ญาติหน้าบ้านพวกมึงน่ะนะ" น้องสาวแม่เจฟฟรี่ เป็นสัตวแพทย์หญิงคุมคลีนิคอยู่เพ็ทชอปโซนหน้าบ้านเพื่อนผมยาว
"เอ้อ ล้วงลูกของจริง มึงดูอาการมันหน่อย กูไม่ไหวว่ะจะนอยด์แดรกตาม" โจ๊กส่ายหัวดิก
หันไปเอาเหตุผลแท้จริงกับเพื่อนผม...
เจฟฟรี่หมาหงอยผิดรูป เล่าอ่อยๆ ต้องขายลูกเจสเตอร์ไปหมดครอก
พ่อหนุ่มนักดนตรีอารมณ์ติสต์ทำใจไม่ได้จะร้องไห้ ไม่อยากอยู่บ้าน บ่นอุบไม่หยุด
“มึงคิดดู...กูอุตส่าห์แยกตัวโปรดจากเพ็ทชอป มาไว้บ้านข้างหลังไม่ยุ่งด้วยแล้ว” น้าญาติที่ดูแลร้านยังตามมารังควาน
"น่า เจฟฟรี่" ลูบหลังตบบ่า
"ยัง...ยังตามมาอีก" เจฟฟรี่ตาแดงก่ำรอบใหม่
"น่านะ" ได้แต่โอบไหล่เพื่อนหมีควาย โยกหนักๆ
ฝรั่งยักษ์ใจรักสุนัขประกาศเป็นรอบที่พันสอง
“กูจะไม่ทำธุรกิจกับหมา ฮือ...ที่บอกมึงจะช่วยทำค่ายเพลง ทำห้องอัดกะกู ห้ามเบี้ยวนะเว๊ย!”
"ชัวร์!" ผม
"ชัวร์แน่นะ!?" เพื่อนสูดจมูกฟืดฟาดตาแดงๆ
"แน่ดิ เดี๋ยวกูเอาบัญชีให้มึงดู" ย้อนเรื่องร่วมมือกันหาเงินจากการเล่นหุ้น ร่วมแรงสองประสาน
"งั้นกูว่า เราทำห้องอัดกันก่อนเลยดีมั้ย" เอาล่ะซิ คนมันเพ้อครับ ต้องทำใจ
"หื๊อ!?"
"คุยเดี๋ยวนี้เลยป่ะ แบบร่างมึงอยู่ไหน?"
"เอิ่ม ท้องอิ่มก่อนนะกูว่า" ผมปัดเพราะเรื่องท่าจะขยายยาว
"งั้นเหรอวะ"
"เอาน่าอย่าเพิ่ง ยังมีเวลาค่อยๆ คิด ป่ะกินข้าวๆ" ป๋าดันอย่างผมได้แต่ตบบ่าพาไปทานข้าวเคล้าน้ำตา
งี้แหละครับ เพื่อนผมยาวอ่อนแอ อ่อนไหวเป็นขี้ผึ้งลนไฟมีอยู่ไม่กี่เรื่อง
แรกสุดคือโจ๊กตาคมของมัน รองลงมาคือสุนัขดีเจ 4 ตัวนั่น จากนั้นก็ดนตรีกับรถยนต์ส่วนตัว
เห็นข้างนอกเป็นชูวี่ผมยาวตัวบิ๊กเบิ้ม ทว่าซ่อนข้างในใจด้วยนีโม่ตัวน้อย...เดอะเกรท เจฟฟอร์สัน เพื่อนรักของผม
ส่วนเรื่องหีบสมบัติไข่ห่านทองคำ เจฟฟรี่พ่อมดเรื่องเจาะข้อมูลแต่การตัดสินใจลงซื้อขายหุ้น
เซ้นส์ไม่ดีเท่าเลยแยกกันทำงาน มันแฮกเกอร์อยู่เบื้องหลัง ผมพ่อมดสั่งซื้ออยู่เบื้องหน้า
หาเงินวางโครงการวาดอนาคต ...เพราะโจ๊กคนเดียว (เวลานั้นพาดยาวมาถึงเวลานี้)
แล้วโจ๊กมันจะรู้มั้ยเพราะตัวมันเองที่เคยประกาศก้อง...
'กูไม่อยากจากบ้านเกิดเมืองนอน ตา เฮียน้าจอมกับเจ๊โหดของกูอยู่นี่...ถึงไปเรียนต่อทำงานเมืองนอก แต่จะกลับมาอยู่ไทย จังหวัดไหนที่ไหนก็ได้ ยังไงก็จะตายเมืองไทย'
เจฟฟรี่ทิ้งความคิดจะกลับอังกฤษทันควัน เดือดร้อนเพื่อนสนิทอย่างผมเข้าจังเบอร์
ยังจำได้ช่วงใกล้จะจบ ม.6 ถามกันว่าเรียนต่อที่ไหนดี
เพื่อนในแก๊งค์ทุกคนไปเมืองนอกหมด เจฟฟรี่เงียบกริบแล้วมาบอกผมภายหลังคนเดียวเดี่ยวๆ ที่แสตนด์เชียร์ข้างสนามบาสเกตบอล
'เหยี่ยว กูจะต่อยูที่นี่ อยู่กับเด็กกู'
'ห๊ะ เด็กมึงคนไหนวะ!?' ผมงงเป็นไก่ตาแตก (ถึงจะมีเค้าให้จับได้บ้างก็เถอะ)
เรียนด้วยกันมามันคั่วเด็กตลอด ช่วงฮอทๆ ม.4 มีปอร์เช่เป็นตัวตน
คบนานที่สุดยืนระยะ 2 เดือน เกือบครบเทอม จากนั้นมาเปลี่ยนอาทิตย์ละคนเป็นอย่างต่ำ
ขึ้น ม.5 มา เจฟฟรี่มีแต่เลิกกับเลิก ยังงง...อะไรทำให้เปลี่ยนไป
เพื่อนบอกแค่ว่าอยากเล่นบาส ผมก็เข้าใจแต่ทำไมต้องอดกินเด็ก คิดว่าคงเบื่อเลยไม่ติดใจเอาความกับเพื่อน
ยิ่งตอน ม. 6 มีช่วงหนึ่งเจฟฟรี่ให้ผมโกหกบ้านของมันเอง
ว่ามันย้ายมาอยู่กับผม กินนอนบ้านผม ส่วนตัวตนของมันจริงๆ หายหัวไปนอนไหนก็ไม่รู้ ถามก็ไม่บอกแต่เห็นมันเข้าเรียนตามปกติเลยได้แต่ช่วยเพื่อนปิดความลับ
(มารู้ทีหลังว่ามันไปกินนอนอยู่บ้านโจ๊ก พักอยู่ใต้จมูก ณ อู่ซ่อมมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยก็โน่น...เพื่อนซี้ทำท่าจะซี้จริงๆ หมดอาลัยจะตายมิตายช่วงปิดเทอมจบ ม. 6 เจฟฟรี่กลับลำ ลังเลจะกลับอังกฤษหรือไม่ต่อ ม.k กับผม ---ฮ่วยยยย!!!)
โจ๊กมันจะรู้รึเปล่า ตัวมันเองเป็นเหตุผลอ้อมๆ (แบบไม่รู้ตัว)
ให้ผมเรียนต่อที่นี่ ในเมืองไทยก็ว่าได้
........................
............................
ที่โต๊ะทานข้าว เก็ทเล่าข่าวแจ้งเรื่องที่เมี่ยงคำเปลี่ยนใจไปด้วย
จะมาพร้อมกายพรุ่งนี้เช้าตรู่ขึ้นรถที่นี่
"พี่เมี่ยงคำฝากมาบอกว่าจะมาพร้อมพี่กายพรุ่งนี้แต่เช้าครับ" ตี๋น้อยรายงานตรง
"อ้อ" ผมรับทราบ
"เหรอ พี่กายด้วยเหรอ" คนของผมถามย้ำเพื่อนตัวเอง
"อื้อ เห็นว่าไปกลับวันเดียว เลยเปลี่ยนใจไปด้วย" เก็ท
"นี่เพราะพี่กายหรอก" บีท้วง
"ทำไมเหรอบี" เด็กผม
"วันนี้พี่กายจะมาพร้อมกันแล้ว แต่พอพี่เมี่ยงคำจะไปด้วยเลยต้องอยู่รอก่อน" บีเฉลย
"ก็ดีแล้วนี่ครับ คนเป็นแฟนกันต้องดูแลกันซิ...เป็นแฟนกันนะ~" เก็ทล้อหมวยน้อยของมัน
"บ้าดิ" บีอายม้วน ทำท่าจะจิ้มแขนเก็ทด้วยส้อม
"งั้นต้องเปลี่ยนรถล่ะ" ผมคำนวณกำลังพล
"เอารถบ้านกูเพิ่มมั้ย" เจฟฟรี่นั่งข้างผมจิ้มน่องไก่ทอดใส่จาน บริการโจ๊กที่นั่งถัดออกไป
"ไม่ต้อง ไว้ให้แด๊ดจัดการ" ผม
"พี่เหยี่ยวอย่าลืมน้องที่บ้านกับแม่ด้วยนะ" ลูกใครวะ สั่งจริง
"คร้าบ เดี๋ยวพี่โทรถามชัวร์ๆ น้องไปกี่คนกันแน่ ไม่ต้องห่วงนะ"
“ฮิ~” แค่นี้เด็กเปียโนก็ยิ้มกว้าง ตาปิดเป็นแพทันที
ท่าจะอยากเจอคุณหญิงแม่ตัวเองมาก...กูชักไม่อยากให้เจอกันแล้วซิ (Y^Y)
ฝั่งแอนเดรียน่า พอรู้ข่าวแก๊งค์คณิตศาสตร์โอลิมปิคโลกมานอนด้วย
รีบชิ่งหนีพาหัวทองกลับบ้าน ...มาถึง 3 ทุ่มวิ่งเข้ามาตะโกนลั่น 'เลนพ่ายๆ~~~'
คุณเธอไม่เปลี่ยนชุดตั้งวงกันเลย
ผมขำ...งานนี้ไม่รู้ใครหมู่หรือจ่า บ้าเข้าเส้นจริงๆ
.............................
..................................
ห้องนั่งเล่นกลาง โถงกว้างห้องเดียวกัน ตั้ง 2 วง 2 อารมณ์
ฝั่งหนึ่งรำพัดอีกฝั่งเล่นดนตรี มีโจ๊กเป็นนินจาสลับไปมาถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ
"พี่โจ๊กไม่เล่นด้วย?" คนน้องนักดนตรีเงยหน้าจากคีย์เปียโนถามคนพี่
"ปล่อยเด็กๆ มันก่อน แบรด์ พริตจะได้คืนมั่ง" ตากล้องกดแช๊ะ
"Hey it's me, me yeah~"
ไม่ทันขาดคำ เฟอดริเอโก้เฮลั่น จูบแบงค์ 20 ในมือก่อนโผกอดไหล่ เทคมือกับเก็ท
ทิ้งให้บีกับน้องสาวผมหน้าหงิก ซุบซิบจะเอาคืน
"นั่นไง ขาดคำซะเมื่อไหร่ล่ะ" โจ๊กปรายตามองขำ ๆ
"555" ผมกับเจฟฟรี่หัวเราะ
(แต๊ง แต่ง แต้งงงง~) เจฟฟรี่ตีกีตาร์โปร่ง คนของผมยิ้มกว้างดีดนิ้วเล่นเพลงช่วงขึ้นรับรางวัล
"เช๊ดดดดดด เข้!" แอนเดรียน่าสบถจนคล่อง
"แค่นี้ทำเป็น ตาต่อไปเห๊อ"
"ม่ายดี มดๆๆๆ" แอนเดรียน่าบอกหมด พลางทิ้งไพ่ในมือลงกองกลาง
"นี่ๆ แอนเดรียน่า---" บีค้อนวงใหญ่ หันป้องปากเพื่อนสาวคนใหม่
"อาราย little Bee" โน้มคอซุบซิบใกล้ชิดกันสองคน เจอกันไม่กี่ครั้งจะถึงกึ๋นกันมากซะ
"5555 เฟอดิเอโก้" เก็ทเทคมือเย้ๆ กับเพื่อนฝรั่งที่ซี้ย่ำปึ๊กอีกคน
"วู๊ๆๆ Thank you ขอบคุ่นคร้าบ!" หัวทองใสซื่อส่งเสียงข้ามมา ไม่รู้เรื่องรู้ราว
ยืนโค้งเป็นปริ้นซ์ชามมิ่งกลางวง หัวเราะท้องแข็งทั่วหน้า
เฮฮากันเข้าไปพวก ^0^
******************************************************************TBC by puppyluv