ลมเหนือที่รัก
ตอน106 concert 4K-3: special guest!
------------------------------
yeaw's
ผมถูกกดติดกำแพงทางเดิน สามคนรุมสกรัมยึดตัวไว้
“มึ๊งงงงง---!” ไอ้กายบีบคอ เงื้อหมัดจะชกแต่ยังไม่ชก-ค้างเติ่ง
“เฮ้ เพลงใกล้จะจบแล้ว นักดนตรีสแตนด์บาย นักดนตรี๊รรร---!” ผู้กำกับเวทีหรือสตาฟหรือใครซักคนตะโกนสั่ง
ทุกคนคลายมือ ผมกระชับขอบปกเสื้อ เสยผมยุ่ง หมวกหายไปตอนไหนไม่รู้---ไอ้กายชี้หน้า มีเหรอจะไม่สน
ไอ้เด็กแว่นเสี่ยวเอ้อรีบสอดเข้ามา พยักหน้าเร่งยิกๆ พลางยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กให้เช็ด
ต้องรีบกลับขึ้นเวทีทันที แม่ม เพลงจบเร็วชิบ!!!
“พี่ครับ เร็วครับ!”ออกวิ่ง กวดเร็วจี๋ย้อนกลับทางเดิม---เพลงสุดท้ายในหน้าที่มือกลองของผม 'miracle' ของเจฟฟรี่
นึกหงุดหงิดเพื่อนฝรั่งก็ตอนนี้ ทำไมไม่ให้ไอ้โมวงโน้นมายกยอดเล่นให้เลย หรือไอ้ซีมันเก่งเพอร์คัสชั่นอยู่แล้ว เพิ่มเคาะจังหวะกลองนิดๆ หน่อยๆ ก็น่าจะไหว
(เพลง love will keep us alive ของ the eagle เมื่อกี้เจฟฟรี่อยากเบรคอารมณ์เป็นอันปลั๊ก เลยให้ไอ้น้องซียกกลองลูกเดี่ยวๆ มาตี เคาะผสมกับอย่างอื่น ให้ผมพัก 1 เพลง)
เสียดายชิบ แต่ก็นะให้อภัย คนเป็นหาบ ท่องไว้เหยี่ยว-ต้องไม่เป็นข่าว ต้องไม่ให้เสียแผน ต้องอดทน ทนอด---รอคืนนี้ยังไม่สาย อีกไม่กี่ชั่วโมง-เหยี่ยวสู้ๆ
.........................
..............................
“แด่คนพิเศษ ในวันพิเศษ...คุณคือ miracle ของผมครับ” เจฟฟรี่เข้าเพลง ผายมือกราดไปทั่ว ---หยุดที่โจ๊กอีกแล้ว
เจฟฟรี่ลีดกีตาร์เมโลดี้แรก อินโทร-ผมทันหวดกลอง 'ตรึ๊งงงง!' เส้นยาแดงผ่าแปด คนกรี๊ดสนั่น ได้ยินเสียงเรียกชื่อเสียดอากาศ
(“...เหยี่ยวนี่!")
("นั่น-ๆๆๆๆ เหยี่ยวจริงด้วย)
(---พี่เหยี่ยวเหรอ")
("ไหนๆๆๆ ต๊ายยยย ว๊ายยยยยย กรี๊ดดดดดด ---เหยี่ยวจริงด้วย”)
เช๊ดดดดเข้! ไม่มีหมวก ไม่มีแว่นดำ ช่างแม่ม... เจฟฟรี่ยกกีต้าร์สูง ชี้มือมาที่ผม
[Miracle: bon jovi]
http://www.youtube.com/v/wnM9WEha5E0 A penny for your thoughts now baby
Looks like the weight of the world's on your shoulders now
I know you think you're going crazy
Just when it seems everything's gonna work itself out
They drive you right back down
(“เหยี่ยว-ขาว")
("เหยี่ยว-ขาวๆๆๆ”) คนกรี๊ดสนั่น เรียกชื่อผมจนในวงเสียขบวน เริ่มหยุดเล่นทีละคนสองคน
ต้า คีย์บอร์ด-หยุดก่อนใครเพื่อน
จั๊มพ์ มือเบส-หยุด
ต้า เพอร์คัสชั่น-หยุด
สุดท้าย...เหลือเจฟฟรี่คนเดียวที่ยอมรามือ ชูสองมือจากกีต้าร์เชิงยอมแพ้ ยิ้มกว้างชี้เป้าที่ผม ก่อนพยักหน้าให้จั๊มพ์ที่ได้สติก่อน ขึ้นโซโล่ ตีเบสทันทีเกือบนาที
จากนั้นก็คิวต้า คีย์บอร์ด...แล้วก็ผมหวดกลองเปลี่ยนฟีลขึ้นโซโล่เดี่ยวเกือบสองนาที ละลายสัตว์ป่าบ้าคลั่งในตัวออก
คนดูเงียบกริบทั้งสนามก่อนกรี๊ดโลกแตก...เจฟฟรี่เข้าลีดกีตาร์โชว์ ค่อยต่อเพลงได้อีกครั้ง
Gonna take a miracle top save you this time (ooh...)
And your savior has just left town
Gonna need a miracle 'cause your heart's doing time
And your conscience is calling you out (conscience's calling, ooh...)
It ain't all for nothing
Life ain't written in the sand
I know the tide is coming
But it's time we made a stand with a miracle
Gonna take a miracle, I need a miracle
I need a miracle, I need a miracle
Na, miracle oh (miracle ฟ้า น้องศรีอ้วน หมวยเพ็ญ:คอรัส)
*****
เพลงจบ ผมทิ้งไม้กลองเคร๊งคร๊างร่วงหล่นไปตามยถากรรม เผ่นเป็นแมวหนีคดี ...เพลงสุดท้ายก่อนปรากฏตัวอีกครั้ง
ตามสคริปต์ ผมต้องอยู่หน้าเวทีตำแหน่งเดียวกับโจ๊กยืนอยู่ รอเวลาเป็นเกสรับเชิญ ...แขกคนพิเศษร้องเพลงคู่ ...เพลงสุดท้าย
ไอ้โม มือกลองวงโน้นจะเข้าเสียบแทน
ไม่อยากบอกเลยว่าเป็นหนึ่งในแผนการณ์ยุติข่าวคาวเรื่องที่จะให้ลมเหนือจีบผม
เห็นกันจะแจ้งทั้งงาน เต็มๆ ตา คราวนี้จะได้ไม่มีปากหอยปากปูให้คนของผมเครียดรำคาญอีกต่อไป
("อ๊าาาาา โอ๊ววว กรี๊ดดดด")
"มารู้จักเพื่อนๆ ในวงกันหน่อยมั๊ยยย!" หัวหน้าวงยกมือโบก
"วู้ซซซซ---" จั๊พม์ ต้า กู่ก้องเข้าไมค์ปลุกกระแส
"เริ่มจาก ต้า-ภราดร ปี 3 คีย์บอร์ดเทพ" ต้าพริ้มนิ้วพรมเร็วโซโล่ยาว กระหึ่ม
"ซี-พิทยา นิเทศปี 2 เพอร์คัสชั่น" ซียิ้มกว้าง เคาะรัวกลองบองโก้กับกระดิ่งระฆังท่อออร์แกนเล็กจิ๋วเป็นพวง ส่งเสียงกังวานหวาน ตริ๊งงงงๆๆ
"จั๊มพ์-ประพันธ์ มิสเตอร์รถถัง มือเบสของเรา 555" เจฟฟรี่แนะนำเพื่อนอ้วนที่สนุกจัด เคาะทึ้งสายเบส ดึ๋งๆๆ เกือบนาที
"ที่ลืมไม่ได้ เพื่อนๆ จากดนตรีคสาสสิคทุกๆ คน คร๊าบบบบ" ฟ้า น้องศรีอ้วน หมวยเพ็ญ พี่ตั้มและทักษ์ เดินออกมาจากทางออกข้างเวที โบกมือ-โค้งตอบรับเสียงกรี๊ด เสียงปรบมือจากผู้ชม
เพื่อนคลาสสิคหายเข้าฉาก ยกเว้นทักษ์ที่เข้าคีย์บอร์ดอีกตัว เข้ามุมกับต้า
จั๊มพ์ยังดีดเส้นเบส ดึ๋ง ดึ่ง รอ พอๆ กับซีที่เคาะกลองเล็กประกอบ
"เราจะลืมคนสำคัญไปไม่ได้ ขอเสียงให้---the great เจฟฟฟฟฟฟฟรี่!" ต้าผายมือให้หัวหน้าวงที่โซโล่กีต้าร์ ก้าวมาเหยียบแท่นลำโพงชิดขอบเวที เพื่อนกูเท่ห์ค่อดดดดด
("ตริ๊งงงงงง"/ กรี๊ดดดดด)
"เหลือใครอีกมั้ย!?" ต้าเชิงถามหัวหน้าวงที่เพิ่งกรีดนิ้วสุดท้ายกับสายเครื่องดนตรีตัวเอง
"มือกลองไง!" จั๊มพ์ปากดี โยกตัว โยกหัวตามจังหวะเบสหนักหน่วง
("อร๊ายยยย กรี๊ดดด---มือกลองๆๆๆๆ") ผู้ชมกู่ก้องหาดนตรีคนสุดท้าย
"อ้อ มือกลอง หึหึ" เจฟฟรี่หัวร่อ
"ต้องแนะนำด้วยเหรอ" ต้า
"ขโมยซีน ทำวงเกือบล่มอีก ไม่ต้องแนะนำก็ได้มั้ง" เจฟฟรี่กลั้วขำ
("อ๊าาาา มือกลองๆๆๆ เหยี่ยวขาวๆๆๆๆ") ผู้ชมตะโกนชื่อผมเสียเอง
"ใช่เหรอ!" จั๊มพ์ชายตากลับหลัง มันรู้แล้วครับว่าผมเปลี่ยนตัวกับอีกคนแล้ว
"ใครนะ!?" ต้าเอียงหูหาเรื่อง ได้รับเสียงกรี๊ดพร้อมเสียงฮาป่าไล่กลับ
"มือกลอง stop---" เจฟฟรี่กวักมือเชิงให้ลุกขึ้นจากแท่นกลองชุดหลักด้านหลัง
"555 ใครวะ" จั๊พม์อารมณ์ดี
"drum มือกลอง ณ เวลานี้ ตอนนี้---โม สมภพ บริหารปี 3 คร๊าบบบบ" เจฟฟรี่ผายมือ ไอ้โมคงนั่งลงคืนที่เดิมเพราะเสียงหวดกลองโซโล่ตัวเดียวเข้าจังหวะแน่นๆ ไม่ถึง 10 วินาที
("กรี๊ดดด อ๊ายยยยยยย พี่โมๆๆ")
ผมหนาววูบ กลัวเด็กได้ยิน หวังว่าน้องฝ้ายกับสตาฟเวทีคงเอาลมเหนืออยู่ภายในห้องปิดประตู ให้ได้ยินเสียงบนเวทีน้อยที่สุด
(นัดกันไว้ครับ ความลับระดับชาติอยากให้พวกไอ้แทนอกแตกตาย เพราะแย่งกันหนักคือมือกลองอย่างอื่นไม่เป็นปัญหา
โจ๊กกับบีตัวดี 'หยอกเล่นกับพวกไอ้แทนไม่พอ อำไอ้ลมด้วย กูอยากเห็นหน้าไอ้น้องตอนมันโดน' แล้วก็หัวร่อดัง)
คราวนี้รู้ยังว่าทำไมเพื่อนปากสว่างถึงรูดซิปเงียบ เพราะหวยออกที่ไอ้เหยี่ยวเองคร๊าบ T^T
“เวลาแห่งความสุขช่างสั้น" เจฟฟรี่
"และตอนนี้ ...เวลานี้ love and share ธีมหลักของงาน... ผมจะยืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ถ้าไม่มีเพื่อนคนสนิทที่สุด-ของผม---” เจฟฟรีต่อเสียงทุ้มนุ่มบนเวที
("โว๊ววววว เจฟฟฟฟฟฟฟรี่ๆๆๆๆๆ)
(กรี๊ดดดดดดด ว๊ายยยยยยยย อร๊ายยยยยย")
ตอนนี้ผมอยู่ข้างเวที ใกล้ทางออกฝั่งโน้น รีบเร่งตาเหลือก
‘ห่าน-เจฟเฟอร์สัน กูแต่งตัวไม่ทันว๊อย!’ ด่ามันในใจ
เร่งถอดเสื้อชุ่มเหงื่อพ้นศรีษะ สตาฟ 2-3 คนรีบเข้าเช็ดเนื้อตัวให้ รีบสวมเชิ้ตสีฟ้าครามอมม่วง ถอดกางเกงจะเปลี่ยน
ไอ้เสี่ยวเอ้อยืนจิ้มแว่น กลืนน้ำลายอยู่เอื๊อกๆ ยิ่งสตาฟหญิงแท้-ชายไม่แท้อีกหลายคนรุมตอมด้วยแล้ว
---แม่ม ดูกูเปลี่ยนเสื้อผ้า เชรี่ย!!!
“เพลงนี้ แด่เพื่อนของผมครับ---” บนเวทียังจ้อไม่มีรอซักน้อย
ไอ้หมาบ้า-กูรีบจะตายห่าน ตายไก่อยู่แล้ว! รีบโกยอ้าวตามหลังสตาฟคุมเวที พาฝ่าฝูงคนไปยืนจุดมาร์ค
“มาจนได้...” โจ๊กทักเอื่อย กอดอกรอเรื่อยๆ ไม่เดือดร้อน พยักหน้าทักอย่างนิ่ง ผิดกับกู---หอบตัวโยน ยัดชายเสื้อเข้าในกางเกง ติดกระดุมกางเกงยีนส์สีอ่อน รีบแต่งตัวด่วนจี๋
บนเวทียังเม้าท์ต่อ
“1 พฤศจิกา วันเกิดเพื่อนผมครับ" เจฟฟรี่เฉลย ผมชะงักกึก ผิดแผนอะไรอีกวะ จะออกเดินแต่โจ๊กดึงแขนไว้ก่อน
("อร๊ายยยย วันที่ 1 !") ในใจคิด...นั่นมันวันเกิดกูนี่หว่า!?
"วันที่ชายเลี้ยงวัวจากทางช้างเผือกจะมาเจอกับสาวๆ แสนสวย-มอ.K..ที่ไหนคร้าบบบ!?" เจฟฟรี่ดังตอนท้ายก่อนชูไมค์ให้คนดู
("วิด-วะๆๆๆๆๆ") เสียงตอบกลับเป็นหนึ่งเดียวจากเพื่อนพ้องมหาลัย K
"มีไอติมกะลูกชิ้นเลี้ยงฟรี ไม่อั้นครับ วู๊ว อร่อย!" จั๊มพ์อ้วนขาประจำกล่าวเสริม เด็กศิลป์แต่เนียนข้ามถิ่นมาตลอด
"happy birthday ล่วงหน้าว่ะ เพื่อนรัก” เจฟฟรี่ตบท้าย ละลายทุกสายตา ทุกความประทับใจ
ใช่ 1 พฤศจิกายน วันคล้ายวันเกิดผม มักจะตรงกับวันเปิดเทอมวันแรกของเทอม 2 ทุกครั้ง รวมถึงครั้งหน้าที่จะถึงนี่ด้วย
ผมเหมาร้านน้ำ ร้านไอติมและร้านลูกชิ้นขึ้นชื่อในโรงอาหารวิดวะเลี้ยงทั้งมหาลัย ใครไปใครมาแจกจ่ายฟรีตั้งแต่เช้าถึงบ่าย 2 คนขายหน้าบานเพราะปีแรกขายได้ถึง 3 เท่าของวันปกติ ปีที่แล้วคนรู้มากขึ้น ขายได้ถึง 5 เท่า
เลยเป็นที่รู้กันภายในมหาลัยว่า วิดวะจะแต่งตัวหล่อสุดวันนั้น สาวๆ ฝั่งนิเทศกับบริหาร วิทยาศาสตร์กล้าข้ามถิ่นไปหาหนุ่มๆ
เป็นกึ่งงานพบปะ กึ่งงานกามเทพกลายๆ คล้ายวันนัดพบแรงงาน เฮ้ยไม่ใช่ วันพบรักแห่งทางช้างเผือก...ประมาณนั้น
อินโทรเพลง ทักษ์เข้ามาเล่นคีย์บอร์ดอีกตัว ยืนเข้ามุมกับต้า (โทนเปียโน) ฟ้า น้องศรีอ้วน หมวยเพ็ญมายืนตำแหน่งคอรัสพร้อม...
[รักไม่ต้องการเวลา : KLEAR]
http://www.youtube.com/v/YFOQOuyjU5Q (แค่เสียง นักร้องยังไม่มาปรากฏตัว)
ฉันคิดว่ารักมันคือความผูกพัน
คิดว่ารักแท้ต้องเดินผ่านวันและเวลา
ยิ่งเนิ่นนาน นานไปเท่าไร ความรักยิ่งมีค่า
ที่ฉันรู้ที่เคยฝัน รักที่ฉันเคยเข้าใจ
(ลมเหนือค่อยก้าวย่างออกมา---คนกรี๊ดเป็นบ้า)
แต่งชุดแบบเดียวกับผม ยีนส์ซีดจนเกือบขาว เสื้อยืดคอกว้างสีฟ้าอ่อนข้างใน มีผ้าพันคอเส้นเล็กคล้ายผ้ายืดนุ่มๆ คล้องคอ บีเพิ่มหางแมวขนฟูขาวเหมือนขนกระต่ายยาวเป็นฟุตเกี่ยวหูกางเกงยีน์ด้านหลัง คลอเคลียสะโพกนิดๆ ยามก้าวเดินยิ่งหวาน น่าหม่ำเข้าไปใหญ่
สูทสีขาวเหมือนกัน แต่ของลมเหนือแขนสามส่วน ของผมกำลังม้วนพับถึงข้อศอกให้เห็นเชิ้ตสีฟ้าครามข้างใน นาฬิกาสีขาวเรือนใหญ่ที่ข้อมือ และล้อแสงไฟวิบวับจับตา เส้นทองคำขาวยาวเหนือลิ้นปี่เล็กน้อย
เด็กกูสวมจี้สร้อยไว้ด้านหน้า ‘จี้รูปเหยี่ยวตัวน้อยกางกรงเล็บขยุ้มหัวใจ’---ผมหัวเราะร่า ทิ้งเนคไทค์ ปลดกระดุมเสื้อออก โชว์เหยี่ยวตัวใหญ่ที่แผ่นอกแกร่งให้ชัดเจน
ต้องรบกันหน่อยแล้ว!
ยิ้มกว้าง สบตานักร้องบนเวทีที่มองมาทางผม---เช่นเดียวกัน
--------------------------------
ไม่คิดไม่ฝันเมื่อเธอผ่านเข้ามา
เหมือนว่าสายตาฉันเองมองไม่เห็นใครๆ
หยุดที่เธอแค่เพียงสบตา และวินาทีนั้น
โลกทั้งโลกหยุดเคลื่อนไหว ท้องฟ้ากลับสดใส
...
ลมหายใจ เหมือนหยุดไปในห้วงนาทีนี้
เช่นหัวใจ ลอยหลุดไปทันทีที่สบตา
เธอหยุดยั้งวันเวลา แค่เราได้พบกันในวันนี้
แค่พบเจอกับเธอ ก็รักเธอ.. ฉันรักเธอ
*****
---------------------------------------
“และเพลงสุดท้ายของค่ำคืนนี้ จาก Jeffry and friends ...ขอต้อนรับ special guest ของเราครับ!” เจฟฟรี่ประกาศ คอรัสจากชมรมดนตรีคลาสิกปรากฎตัวอยู่ข้างหลัง 10 กว่าคน ยืนเรียงแถว มีน้องศรีอ้วนกับหมวยเพ็ญเป็นต้นเสียง ยืนใกล้ไมค์ที่สุด
[Swear : babyface and his brother kevon]
http://www.youtube.com/v/CHTSbYxXCHY ลมเหนือเอื้อนลูกคอแว่วหวาน คลอกับคอรัสของดนตรีสากล
(ลมเหนือ) ummmm....I swear...
(คอรัส) I swear by the moon and the stars in the sky
And I swear like the shadow that's by your side
ผมล่องลอยตามสตาฟที่ช่วยแหวกทาง คนกรี๊ดเรียกชื่อผมดังลั่น ทว่าหูกลับไม่ได้ยิน มีเพียงใบหน้าและเสียงขับขานจากคนบนเวทีเท่านั้นที่อยู่ในห้วงสายตา...ก้าวขึ้นเวที หยุดยืนเคียงข้าง ไหล่ชนไหล่ หันหน้าเข้าหาผู้ชมที่ไม่เหลือความสงบแล้วตอนนี้
(มือกุมกระชับ ผสานนิ้วต่อนิ้วแนบสนิท ยืนเคียงข้างผมหน้าแดงถึงใบหู หากยังร้องคลอท่วงทำนอง –เสียงกรี๊ดแทบไม่ได้ยินเสียงเพลง)
(ลม) I see the questions in your eyes
I know what's waiting on your mind
You can be sure I know my part
(เหยี่ยว ขอบอกว่าคนกรี๊ดแทบไม่ได้ยินเสียงผมเลย พับผ่า!) 'Cause I stand beside you through the years
You'll only cry those happy tears
And though I make mistakes
I'll never break your heart
(ผมดึงพาออกเดินไปด้านข้าง เหลือไมค์ที่ผมเพียงตัวเดียว แกล้งแนบไมค์ติดตัว ต้องซุกมาร้องที่อกผม กรี๊ดจนเกือบจะล่มอีกเพลง
ดีหรือไม่ดีไม่รู้ที่เจฟฟรี่ตามมาเบรค พร้อมปลดไมค์จากเสายื่นให้คนของผม ยักคิ้วเล่นกีต้าร์ต่อ คนร้องว๊ายหมดโลก)
.....
(ลม) And I swear
(เหยี่ยว) I swear by the moon and the stars in the sky, I'll be there
(ลม) I swear like the shadow that's by your side, I'll be there
For better or worse till death do us part
I'll love you with every beat of my heart and I swear
(เหยี่ยว) I'll give you every thing I can
I'll build your dreams with these two hands
We'll hang some memories on the wall
(เหยี่ยวและลม) And when just the two of us are there
You won't have to ask if I still care
'Cause as the time changes the page
My love won't ever age at all
----------
“I swear---ummm” ลมเหนือฮัมเนื้อเพลงสุดท้าย...เราหันมายิ้มให้กัน
เพลงจบ ผมยืนสอดประสานนิ้วมือ เอียงใบหน้าจ้องมองคนของผม เรายืนประจันหน้ากับคนดู เราสบตากัน
ผมยิ้มกว้างขณะคนของผมอมยิ้มกริ่มตอบกลับ
เงียบ-คล้ายเกิดช่องว่างระหว่างอากาศช่วงขณะ แล้วก็....
(“เหยี่ยว-ขาวๆๆๆๆ/...ลม-เหนือๆๆๆๆ”) กึกก้องก่อนจะเปลี่ยนเป็นชื่อคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ผม-เพียงคนเดียว
(“ลม-เหนือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...” )
เจฟฟรี่กับคนในวงออกมายืนเรียงแถวหน้ากระดานด้านหน้าเวที เราจับมือกันโค้งคำนับ
ขอบคุณ---ครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงกรี๊ด เสียงปรบมือยังดังก้องไม่หยุดหย่อนและไม่จางหายในความรู้สึก
***********************************TBC by puppyluv