--- แดดร่มลมตกก็ได้เวลาตื่น รู้เฉลยภาคต่ออ่า
--- LoveAholic อีกคน เหวยๆๆๆๆๆ
---NOO~KUNG บีซ้อมท่าไว้แล้ว
---mur@s@ki

...อรุณสวัสดิ์^^
**************************************************
ลมเหนือที่รัก
ตอน123 โกรธา
------------------------------
lom's
วันนี้ทั้งวันถือว่าเป็นวันแห่งความวินาศสันตะโรภายในใจผม ย้ำว่าข้างในแต่มันดันรั่วไหลออกมาข้างนอกบ้างเป็นพักๆ
เริ่มตั้งแต่ผมจำไม่ได้ว่าขึ้นรับรางวัลป็อปปูล่าร์โหวตด้วยสภาพใบหน้าโหมดไหน เพราะมันยืนชิด ตัวติดเป็นตังเมไม่อายใครหน้าไหน วางตัวชนิดไม่แคร์สื่อใดๆ ...ไอ้ลมอายครับ
ตอนยืนถายรูปหมู่จึงพยายามหลบมายืนข้างเพื่อนเก็ทไม่ก็ใช้ตัวใหญ่ยักษ์พี่เจฟฟรี่ยืนบัง ไม่ยอมให้มันเข้าใกล้ เพราะไฟบรรลัยกัลป์แห่งความโกรธาในอกผมจะเผานกจอมโกหก ปลิ้นปล้อนไม่เหลือซาก
ส่วนมันนน่ะเหรอจะมีมาใส่ใจ ไม่สำนึกรู้เรื่องราวใดๆ ให้ความร่วมมือกับฝ่ายจัดงานอย่างดียิ่งยวด ยิ้มแย้มแจ่มใส โพสต์ท่าหล่อเทพ กระตือรือล้นให้สัมภาษณ์ออกสื่อทุกแขนงอย่างสุขุม นุ่มละลาย มืออาชีพยังอาย
ผู้จัดการสาขาในประเทศไทยที่มาให้รางวัลในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ของบริษัท GES เสื้อผ้ายีนส์และเครื่องประดับ แทบจะผูกขาดบทสนทนากับมันและพี่เจฟฟรี่ ชนิดตามต้อยตัวติดไม่รวมคณาจารย์ทั้งหลายแหล่
สรรเสริญเยินยอกันเข้าไป ให้อยู่ตามลำพังก่อนเหอะ พ่อจะซัดไม่เลี้ยง
จบงานมอบรางวัลภาพถ่ายงาน 4K เสร็จไปเปลาะ บรรดาพวกพี่ช่างภาพที่ได้รับรางวัล พี่โจ๊กรวมถึงพี่เจฟฟรี่และนกหงส์หยกถูกต้อนให้เข้าประชุมนอกรอบ
ฟังบรีฟเรื่องอะไรไม่รู้ผมไม่สน ไม่ยอมเข้าด้วย ไม่มีหัวสมองคิดตามทันเพราะควันโมโหจะพวยพุ่ง รีบผละหาทางหนีกลับคณะทันที
มันโทรตามแต่กูไม่รับเว๊ย กดตัดสายแม่ม ส่ง SMS ข้อความบอกเพื่อนเก็ทกับพี่โจ๊ก 'นัดหมายอาจารย์ปู่ด่วนจี๋ ขอโทษฟังมาเผื่อด้วย'
.......................
...........................
แล้วก็พักเที่ยง...
คีย์เปียโนลุกเป็นไฟเกือบ 15 นาที จนเพลงจบ 'แตร๊งงงงงง' โน๊ตสุดท้าย อาจารย์ปู่ถึงได้มาปรากฏตัวที่หน้าห้องซ้อม
"Nutcracker ปี้ป่นเป็นผงหมดแล้ว" อาจารย์ปู่สูงวัยไว้ผมขาวฟูฟ่อง อมยิ้มเหนือหนวดขาว ประมาณไอน์สไตล์ภาคดนตรี เคาะกระจกห้องก๊อกๆ
"อ่า...ครับ" ตกใจซิ กำลังทิ้งดิ่งระบายก้อนเพลิงโมโหอยู่ มายืนดูตั้งแต่เมื่อไร
ห้องซ้อมอยู่ชั้น 5 เข้ามุมอีกปีกหนึ่งติดกับห้องพักอาจารย์ภาควิชา ห้องเล็กเก็บเสียงเรียงเป็นแถว เกือบ 10-12 ห้องได้ เปียโนอยู่ใกล้ห้องพักอาจารย์ปู่ที่สุด ไม่ได้ยินเสียงผมกระแทกมือคงหูหนวกแน่
"หนีงานเลี้ยงข้าวเที่ยงมาเหรอ" ผู้สูงวัยถาม เปิดประตูห้องเล็กเข้ามา
"ครับ" ผมถอนหายใจ
"คณบดีโทรมาตามเหมือนกันแต่ปฏิเสธไป เราแก่แล้ว ไม่ชอบหรอกคนเยอะ วุ่นวายนะ"
"...." รับฟังเงียบงัน
เรื่องงานเลี้ยงข้าวเที่ยง มหาลัยจัดเลี้ยงฉลอง GES และเป็นรางวัลให้บรรดาพี่นักศึกษาที่เกี่ยวข้อง ตอบแทนที่เหนื่อยกันมา
พี่โจ๊กกับพี่เจฟฟรี่ กระทั่งเก็ทก็โทรตามอีกครั้งตอนพักเที่ยง แต่บอก 'ผมมีซ้อมเปียโนด่วน จารย์ปู่จะรีบเดินทางอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า จำเป็นจริงๆ' ชิ่งหลบมาเลย ดีที่เจอบอยกับแก๊งค์ไบซิเคิล
นั่งทานข้าวด้วยกันเสร็จผมก็โกยอ้าวมาที่นี่ ฟาดฟันอารมณ์คั่งค้าง ร้อนไหม้ภายในอย่างดุดันกับสุดที่รัก (ของคณะ)...จารย์ปู่จะดุกูมั้ยวะ!???
"คนเรามันเครียดกันได้ แต่ไม่ควรจะผิดมารยาทกับเครื่องดนตรีนะ" ว่าแล้ว
"อ่า... ผมขอโทษครับ"
เป่าปาก นิ่วหน้า สำนึกผิดเต็มบาน กูทำหมดทุกอย่าง กระแทกแป้นคีย์ทั้ง 10 นิ้ว ไล่กวดปาดไล่เสียงสุดรางขึ้น-ลงเร็วพรวด ไม่รวมซ้ำโน๊ต วนท่อน...มารยาทดนตรีคลาสสิคหายวับ เมโลดี้แผลงเป็นแจ๊สขั้นพิเรนทร์ ดุดันมาคุ-ภาคมาร
"เราน่ะชื่อลม อย่าลมเพลมพัดมากนัก เล่นดนตรีตามใจตัวเองบ่อยมันจะเคยตัว"
"ขอโทษอีกครั้งครับ"
"ไปโกรธใครมา ทุกทีไม่เคย เห็นใจเย็นตลอด" อ่า จะบอกไงดี
"จารย์ปู่ทราบ" ผมเสียงอ่อย จับได้ด้วย ตรงเผง มิเสียแรงที่อาบน้ำร้อนมาก่อน
"ก็โน๊ตมันบอก"
"...ครับ" ถอนหายใจ ความโมโหลดลงไปกว่าครึ่งค่อน เหลือความละอายแก่ใจติดก้นตะกอนนี่ล่ะ
"โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า"
"...." พูดเหมือนแม่ ว่าเหมือนยาย 2 สุภาพสตรีผู้นั่งอยู่ในใจผม
"แต่รู้แล้วเหยียบไว้นะ" ผู้สูงวัยแกล้งก้มศรีษะใกล้ทำท่าเผยความลับตัวเอง
"หือ?" ผม
"ตอนผมโกรธอะไรใครก็มาลงกับเครื่องเหมือนกันแหล่ะ 555"
"จารย์ปู่!?"
"วู๊ แกล้งลูกศิษย์นี่มันส์ดีเหมือนกันนะ!" คนแก่ทำท่าเหวี่ยงแขนเป็นวงออกกำลังกายเล่น หัวเราะเสียงดังซะงั้น
"ง่า---จารย์คร้าบ!"
ปล่อยให้ผมสำนึกผิดจมน้ำตาตกในตายก่อนก็ได้
โกรธคนแก่อีกคนจะผิดมากมั้ยเนี่ย
ผมพอรู้ว่าตัวเองเป็นคนโกรธเงียบ ระอุคุกรุ่นอยู่ข้างในไม่แสดงออก (กับคน) สีหน้าไม่มีอาการ จับไม่ได้แน่นอน แต่กับเรื่องที่ตัวเองกระทำได้ โดยเฉพาะเรื่องดนตรี-เปียโน มันเป็นทุกอย่างของผม
ยิ่งกว่าเพื่อน
ยิ่งกว่าลมหายใจ
ยิ่งกว่าหลายๆ อย่าง
'โทษทีว่ะสหาย' ได้แต่นึกในใจ
นึกย้อนอีกที เราต้องโกรธนกเจ้าเล่ห์ตัวนี้มั้ย แน่ล่ะผมเกลียดที่สุดเรื่องโกหกหลอกลวง ท่าทางคนในวงอาจฮั๊วะกัน โดยเฉพาะพี่เจฟฟรี่หัวหน้าวงต้องรู้แจ้งแก่ใจ
แล้วทำไมไม่บอกผมให้รู้ ซ้อมกันตั้งกว่า 3 สัปดาห์ อย่างน้อยพี่โจ๊กต้องปากสว่างมั่งล่ะ แต่นี่ไม่มีซักแอ๊ะ ยิ่งตอนดูภาพชนะเลิศขาว-ดำนั่นอีก ไม่มีทีท่าตกใจหรือตื่นเต้นใดๆ เลย
มันยังไงกันแน่ สุมหัวแกล้งผมรึก็ไม่น่าใช่ อะไรจะว่างมาอำน้องชายอย่างไอ้ลม เล่นได้
เอาน่า เก็บโมโหโกรธาไปถามมันตรงๆ ดูดิ๊คืนนี้จะแก้ตัวว่ายังไง
แต่ตอนนี้ กูแค้นเฟ๊ย แค้นมากกกกก

-------------
ผู้สูงวัยเคราขาวเข้ามาใกล้ ผมลุกให้นั่งแทนที่ สำแดงฝีมือ
"เชิญครับ"ผม
"ตอนโกรธมากๆ ไม่ควรจะพูดจากันทันทีหรอกนะ" จารย์ปู่นั่งประจำที่ยังไม่ลงมือสอน วางมือหน้าขา ก้มมองคีย์สีขาวดำนิ่ง
"ยังไงครับ" ผมนั่งลงเก้าอี้อีกตัว
"ตอนผมหนุ่มๆ ผมโมโหมาก เรื่องอะไรไม่รู้ ดุ่มๆ ซัดกันเลย เราอีโก้สูงไง ทะเลาะขึ้นเสียง ด่าทอภรรยาผม...ภรรยาคนแรกน่ะ" นิ้วคนแก่ลูบคีย์สีขาวเบาๆ
เท่าที่ทราบ อาจารย์ปู่แต่งงาน 2 ครั้ง ครั้งแรกพ่อแม่คลุมถุงชน เลิกกันเมื่ออายุ 25 แล้วก็ไปเรียนต่อเมืองนอก แต่งงานกับฝรั่งตอนอายุเกือบ 40 อีกครั้ง ภรรยาฝรั่งเสียชีวิตเมื่อ 5 ปีก่อนจึงตัดสินใจกลับมาสอนที่นี่ ในกรุงเทพ
"ครับ..." ผมได้แต่รับฟัง
"คำสุดท้ายที่ออกจากปากตัวผมเอง คืออะไรรู้มั้ย"
"คืออะไรครับ?"
"ไปตายซะไป หึหึ น่าฟังมั้ยล่ะ กับผู้หญิงด้วยนะ"
"...." เอ่อ ถ้าโพล่งไม่คิดก็น่าจะประมาณนั้น
"อีก 2 ปีต่อมา ภรรยาผมก็เสียจริงๆ อุบัติเหตุน่ะ"
"ครับ" เรื่องนี้พอได้ยินมาบ้าง
"ถึงแม้จะหย่ากันก่อนอุบัติเหตุนั่นตั้งปีครึ่ง แต่คำพูดสุดท้ายที่บอกให้เค้าไปตายซะยังอยู่ในหัวผมอยู่เลยนะ"
"....."
"ผ่านมาตั้ง 34 จะ 35 ปีแล้วยังไม่ลืม คนแก่ก็งี้ เรื่องอยากจำกลับลืม เรื่องอยากลืมกลับจำแม่นซะ"คล้ายอาจารย์ตรงหน้าผมอ่อนแอลง เป็นตาแก่เศร้าสร้อยอยู่ในบ้านเหงาๆ ยังไงยังงั้น
"ยายกับพ่อก็ไม่ให้ผมพูดเวลาผมโกรธหรือโมโหเหมือนกันครับ" นึกถึงบุพการีที่แสนอ่อนโยนและอบอุ่น
"งั้นก็พูดกันตอนมีสติดีๆ นะ อย่ามีบทเรียนแย่ๆ อย่างผมล่ะ 555"
"ครับ" คล้ายตัวเองถูกสายลมสะอาดพัดจิตใจให้เยือกเย็น
"มะ มาดูกัน The Nutcracker ชั้นครูต้องอย่างนี้!" ติวเตอร์โซโล่ลิสต์ของผมวางนิ้วบนคีย์ เริ่มสอน ...จบบทสนทนา
http://www.youtube.com/v/QQ3jrhkc52A ................
..........................
ในห้องคอนโด เพิ่งกลับมาถึง เกือบทุ่มได้
"หิวมั้ย เอาอะไรมั้ย?" นกน้อยร่าเริง ไม่รู้เงาหัวตัวเองจะโดนเด็ดรอมร่อ
"...." ผมเดินหนีหาน้ำดื่ม
"เป็นไร สีหน้าไม่ค่อยดีตั้งแต่เช้าแล้ว" ยังตามวอแว
'อึ่กๆๆ' ยกน้ำเข้าปากอีกแก้ว เลี่ยงคำตอบ
"ลมเป็นไร บอกพี่เหยี่ยวได้มั้ยครับ?" เดินเข้าใกล้ กลิ่นน้ำหอม กลิ่นกายเคยคุ้นอาจจะปะทุประตูอารมณ์คลั่งผมให้ระเบิดออก
"เหนื่อยนิดหน่อย..." รีบสะกดกลั้นตัวเอง เฉไฉ
"จริงด้วยนะ เมื่อเช้าเจอคนเยอะ แล้วเที่ยงยังมีนัดจารย์ปู่อีกเลยไม่ได้ฟังบรีฟ พี่เล่าให้ฟังคร่าวๆ มั้ย" นกร่าเริงกระตือรือล้นเต็มที่
"ยังก่อน"
"เหนื่อยมากเหรอ" จะรุดเข้าหาพร้อมวงกอด-ไม่เอาตอนนี้ (-///-)
"พี่เหยี่ยว ตอนนี้ลมเหนื่อยและก็อารมณ์ไม่ดีนิดหน่อย ปล่อยให้ลมจัดการตัวเองก่อนได้มั้ย" มองหน้าฉงนแต่พยักหน้ายินยอม
"จัดการตัวเอง?"
"อาบน้ำ ทำการบ้าน ไรทำนองนั้น" พูดกับเด็ก 3 ขวบยังรู้เรื่องกว่านี้เล๊ย-ไอ้นกเอี้ยง
"ได้...พี่อยู่ตรงนี้นะ" ประโยคที่ทำให้ผมละลายหมดใจ แต่เวลานี้ มันบ่ใช่ล่ะ
ผมพยักหน้ารับ หลบวงแขนรอกอด พาตัวเองลิ่วเข้าห้องน้ำทันที
ไม่ไหว อยู่กับมันปวดขมองอิ่ม รู้อีกว่าผมระอุจะเป็นภูเขาไฟฟูจิใกล้ระเบิด
ยังดีที่ยอมฟัง ปล่อยให้ผมเพิ่มเวลาเคลียร์อารมณ์ซักพัก
แน่ล่ะ ผมไม่ชอบการทะเลาะ แค่คุยกันเสียงดัง ส่อแววว่าโกรธกันก็ไม่ชอบแล้ว
อยู่กับแม่กับยาย กับผู้หญิงจนติดนิสัย 'ลมควรบอกออกมานะลูก ลูกเป็นผู้ชาย แม่ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ลูกเป็นยังไง ไม่เฉพาะแม่ คนอื่นรอบข้างจะได้ทำตัวถูก'
ทุกครั้งเวลาของขึ้นจะรีบบอกก่อน เวลานี้โมโห เวลานี้ยุ่ง อย่าเพิ่งเข้ามายุ่มย่ามพื้นที่ส่วนตัว
ทั้งที่จริงพายุโมโหหายไปมากในระลอกแรกตั้งแต่เจออาจารย์ปู่เตือน ได้เล่นระบายกับเปียโน คิดว่าน่าเผชิญหน้าได้ แต่พอเจอกันตรงๆ ผมแทบกระโจนไปบีบคอหอย ตะลุมบอนฟ้อนเล็บใส่ ไม่ไหวๆ จะเสียใจภายหลังเพราะเรื่องขาดสติ งี่เง่า ระเบิดอารมณ์ใส่กันไม่ใช่วิสัย
แบบนี้เหมือนไม่ใช่ผม เหมือนไม่ใช่ลมเหนือที่เยือกเย็น อยู่กับมันแต่ละวันแต่ละนาที ผมเป็นพายุหมุนปัดป่ายไปทั่ว ...ทว่า กลับอยากอยู่ใกล้ มากขึ้นๆ ถลำลึกไม่รู้ตัว บ้าไปแล้ว-ไอ้ลมเอ๊ย T.T
ไอ้นกเถื่อนตัวนี้ช่างมีอิทธิพลกับผมมากมายจนคาดไม่ถึงจริงแฮะ
เอาน่า ...ทีละอย่าง ทีละอัน ผมเตือนตัวเองขณะหมุนเปิดน้ำจากฝักบัว
..............
....................
สามทุ่มจะครึ่ง ...ชั้นบน
‘ก๊อกๆ’ ผมเคาะวงกบกรอบไม้เตือนคนนั่งหน้าจอคอมให้รู้ตัว คนตัวสูงชุดพักผ่อนอยู่บ้านทั้งชุดหันมามอง เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงผ้ายืดเนื้อบางเบาสีดำเทา ชุดนอนเห็นประจำ
"หือ?" หันมามอง คลิกเปลี่ยนหน้าจอเป็นโปรแกรมเขียนแบบสีดำวูบ ซ่อนบางอย่างไว้ข้างหลัง
ไม่สนหรอก คนนี้ความลับเยอะ ไม่ใส่ใจจำ เรื่องให้ตามจับผิดไม่ใช่วิสัยผม แต่อย่าให้รู้ทีหลัง---เมิงไม่ตายดีแน่
จะทรมานช้าๆ ผ่าหัวใจ มัดแขนขาล่ามโซ่ขึงนอนหงายไว้ โรยอาหารเม็ดหมาลงไปให้พวกไอ้บิ๊กเลียกิน ทรมานซัก 10 ปีกว่าจะสิ้นลม ไม่งั้นไม่สมใจคนอย่างลมเหนือหรอกเฟ๊ย
ทว่า ตอนนี้จะเริ่มยังไงดี นี่ขนาดกลั้นสะกดจิตไม่ให้ผิดสำแดงอาการ ระบายอารมณ์กับอย่างโน้นอย่างนี้มาทั้งวันแล้ว
เอาวะ---สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ได้เวลากันล่ะ
ผมยืนพิงกรอบผนัง ไม่ก้าวเข้าไปในเขตทำงานส่วนตัว
"ลมมีไรครับ?" รูปหล่อ ท่าทางชิลจนอยากหยิกเนื้อให้เขียว
"พี่เหยี่ยวมีรูปที่พวกปุ๊กลิ๊กกับเพื่อนลมเค้าให้มามั้ย?" ผมหาเหตุเข้าประเด็นคาใจ
"รูป?"
"รูปงาน 4K ที่อัดขายน่ะ"
"อ๋อ ที่ฝากซื้อน่ะเหรอ อยู่นี่ครับ" ค้นลิ้นชักกุกกัก หยิบถุงวางบนโต๊ะ
"ขอดูหน่อย" ไม่ยอมส่งให้แต่เลื่อนเก้าอี้ หมุนโคมไฟมาฉายรอ
"นั่งนี่ พี่อยากดูด้วย" อ้าว น่าจะได้ตั้งอาทิตย์ที่แล้ว ยังไม่ได้ดูเหรอ จำใจก้าวเข้าไปนั่ง ในถุงมีตั้ง 4 อัลบั้ม ทำไมเยอะนัก
(รู้ทีหลังว่าความจริงมีอีก 3 รวมเป็น 7 อัลบั้ม ที่เหลือเป็นรูปคู่ล่อแหลมชวนจิ้น กับรูปเดี่ยวของนกสุดหล่อเอง และรูปมือกลองที่ผมกำลังจะปะ-ฉะ-ดะ มันอยู่ตอนนี้ เก็บไว้อีกลิ้นชักล็อคกุญแจแน่นหนา)
"พี่เหยี่ยวยังไม่ได้ดู?" ผม
"รอดูพร้อมลมอีกที"
"น่าจะดูตั้งนานแล้ว"
"น่า ดูด้วยกัน มาเร๊ว"
เลื่อนเก้าอี้ตัวเองมานั่งซ้อนหลังวางคางเกยไหล่ ขืนตัวยังไงยังตามมาวางจนจำยอม
ได้แต่ถอนหายใจ เปิดอัลบั้ม...
มีแต่รูปถ่ายผมกับคนเผด็จการที่นั่งชิด ตั้งแต่ช่วงเช้าชุดนักศึกษา มือถือวอวิทยุคุมงาน เกลี่ยเส้นผมระแก้มทัดข้างหูให้ผมที่ยืนยกแก้วน้ำดื่ม แถวข้างอัฒจรรย์
ตาดีเห็นตอนไหนฟะ!?
อีกรูป นั่งล้อมวง ข้างผมคือบี มือใหญ่ยื่นขวดน้ำส้มคั้นให้ ผมยื่นมือรับ
เราสบตากัน ผมกำลังนั่งทานข้าวกล่องกับพวกลีด เก็ทในชุดราชปะแตนแฟนซีกำลังก้มลงกระซิบข้างหูบี หมิ่นเหม่ชวนจิ้นถึงไหน
จังหวะอะไรจะดีปานนี้ สองคู่ชูชื่นชวนกันเดท T.T
รูปผมนั่งกับบี ดูแข่งฟุตบอล บางรูปบีกอดเอวผมจังหวะ ทีม ม.k ของเรายิงประตูตีเสมอ
รูปมารับผมกลับออกจากสนาม ไม่จับมือตรงๆ แต่คว้าข้อมือเต็มเหนี่ยว ลากลิ่วเห็นผมเป็นเด็กหลงทาง
รูปโอบเอวผมให้โดดจากบันไดขั้นสุดท้ายของอัฒจรรย์ตรงทางออกสตาฟ สูงเกือบ 2 ฟุตแค่นั้น ผมลูกผู้ชายนะ
หากมันกลับเกี่ยวเอวเหวี่ยงอุ้มลงมาเหมือนเด็กเพิ่งโต ใบหน้าหล่อนั่นยิ้มกว้างกับเรย์แบนสไตล์เมย์ฟลาวเวอร์ที่ซื้อให้ผม
แล้วรูปยกเสื้อชอปวิดวะของตัวเองบังแดดบ่ายให้ผม พาเดินตัดลานกว้าง กำลังจะกลับตึกคณะแน่ ท่าทางกลับมาซ้อมรอบสุดท้ายก่อนขึ้นเวทีจริง
แลกกันสวมแว่นกันแดด ผมใส่แว่นเรย์แบนกรอบทองของคนนี้ นกตัวสูงหล่อเท่ห์สวมแว่นสไตล์สปอร์ตของผม (ก็อันที่มันซื้อให้เมื่อกี้นั่นล่ะ) เราอยู่ในเสื้อชอปคลุมศรีษะกันสองคน
ออร่าแหว๋วๆ---เหมือนงาน WEDDING ยังไงยังงั้น
2 เล่มเต็มๆ จอ พวกพี่ตากล้องมันว่างงานจัดรึไง ถึงตามสตอลเกอร์ตรูเนี่ย (>///<)
แงๆๆๆ เพื่อน-พี่-น้อง ชมรมพี่โจ๊กทั้งนั้น ถึงไม่สนิทด้วยแต่ก็พอรู้จักหน้าค่าตา
ทำไมถึงทำกับไอ้ลม-ด้ายยยยT^T
ส่วนอีก 2 อัลบั้ม เป็นบรรยากาศบนเวที แบบเต็มสตรีม ต่อภาพพวกนี้คงเป็นวีดีโอย่อยๆ อีกเรื่อง เพราะมันทุกเฟรม ทุกช็อต ไม่พลาด
ทำไมกูไม่รู้ตัว ปล่อยให้เค้าส่องได้เยอะขนาดนี้วะ!???
รีบเปิดเร็ว ๆ ปิดฉับ!
"เร็วจัง พี่ดูไม่ทัน"
"พี่เหยี่ยวดูเองก็ได้"
"ไม่ดูด้วยกันแล้วเหรอ"
"ไม่แล้ว!" ผมหงุดหงิดเป็นรอบที่ร้อย
"งั้น~ดู วีดีโอมั้ย" กดรีโมทในมือ ยิงเข้าไปในห้อง จอภาพสีน้ำเงินสดเริ่มเล่นเพลงแรก
บ้าเอ๊ย...อยู่ในเครื่องเตรียมพร้อมตลอดเวลารึไง!???
ถูกลากเข้าห้องโฮมเธียร์เตอร์แบบคนเซ็งจัด หมดแรงจะทำอะไร T^T
อั๊ยยะ---นั่นมันวีดีโออารายกันนี่ !
****************************TBC by puppyluv