---som บอกขัดๆ ตอนลมรู้เรื่องว่าแอนเดรียน่าเป็นน้องสาว ไม่ทราบข้อไหน
ถ้าเรื่อง timing ทั้งวงเล่น 2-3 เพลง ลมร่วมแจมเฉพาะเพลงที่เป็นเปียโนคอนแชร์โต้-เพลงเดียว
ไม่ต้องอยู่ซ้อมกับวงตลอดเวลา จึงมีเวลาปลีกตัวเอาเอกสารเรื่องทุนไปส่งธุรการได้
ที่บอกแอบเห็นเหยี่ยวคุยมือถืออยู่ กลับมารู้ความจริงแล้วก็โกรธ เสียงแข็งว่า 'ทำไมไม่กอด นอนเฝ้าไว้ล่ะ' ทำนองนั้น
สำนึกตัวเองได้ ...ในห้องก็ไปทำต้มยำกุ้งกับแอนเดรียน่าก่อนเนียนหายตัวไป
ที่จริงหลอกถามให้เหยี่ยวอธิบายแล้ว แต่มันก็ดันคิดกังวลจะพาไปบ้านท่าเดียว เลยพลาดซะ
ถ้าเรื่องเนื้อคำ อ่า...เขียนกระชากจริงๆ จะพยายามและพยายามอธิบายความให้มาก
ยอมรับว่าเป็นจุดอ่อนเรื่องพรรณาโวหาร นึกอยู่ว่าที่ด้อยมาม่าเพราะหาคำมาใส่ไม่เจอ
เพราะมีคนอ่านมาเม้นท์เลยรู้ความเป็นไปตอบกลับ ---ขอบคุณมาก
***********************************************************************
ลมเหนือที่รัก
ตอน142 kreet (ของเหยี่ยว)
------------------------------
yeaw’s
ผมกริ้วจัด แต่ทำอะไรไม่ได้
...เพราะอะไร
...เพราะอะไรนะเหรอ
...เพราะตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านป้ามารีน่าที่เกาะครีต กรีก น่ะซิ
ห้องนั่งเล่นชั้นสอง มองผ่านผนังกระจกทั้งผืนลงไปบริเวณงาน
ลานกว้างข้างล่างกำลังมีปาร์ตี้รวมญาติ สนุกสนาน ยิ่งใหญ่อลังการ
ไม่ต้องเรื่องเสียงดังรบกวน เพราะนี่คือเกาะส่วนตัว อาณาเขตกว้างขวางสุดลูกหูลูกตา
สระน้ำขนาดใหญ่ น้ำสีฟ้าสดใสมีสาวนางแบบหุ่มสะบึมสวมบิกินี่ที่จ้างมาในงานกำลังดีดดิ้น
วาดลวดลาย ยั่วยวนบรรดาญาติตัณหากลับทั้งหลายแหล่
ถ้าเป็นปี สองปีก่อนเห็นภาพว่าคงดื่มเหล้าเคล้านารี คลุกอกภูเขาไฟ
นอนเมาเขลงที่เก้าอี้ข้างสระ ให้พวกเจ้าหล่อนรุมทึ้งเล่น
---แต่ตอนนี้ ผมโกรธสุดๆ
ถ้าทุบวิลล่าขนาดใหญ่ทั้งหลังให้ล้มครืนไปจมงานทั้งงานหายวับได้
กูจะไม่รีรอแม้แต่วินาทีเดียว
เหตุเพราะต้องนอนค้างที่นี่อีกคืนนึงน่ะซิ !!!
ไอ้ทนายเฮงซวยประจำตระกูลเจือกลาพักร้อน กลับมาวันมะรืน ---วันจันทร์ที่ 15
วันแสดงดนตรีของคนที่ผมรอคอย อยากให้มันจบๆ ลง จะได้มีเวลาอยู่กับผมแบบเต็มเม็ด
---เมิงตายยยย ไอ้ทนายเฮงซวย
มาถึงเอเธนส์ตามเวลาท้องถิ่น 7 โมงเช้า ถึงบ้านป้าราว 9-10 โมง นอนพักเอาแรง
ตื่นเที่ยงแล้วแต่งตัวเข้าดื่มน้ำชากับป้าและญาติผู้ใหญ่ช่วงบ่ายเลย
คุยแลกเปลี่ยนได้น้ำได้เนื้อ ก่อนมีปาร์ตี้เฮฮาเอาใจหนุ่มๆ กลัดมัน
แต่ผมขอตัว บอกไม่สบายเพิ่งลงจากเครื่อง ส่งสัญญาณชัด---ไม่ต้องมายุ่งกะกู
พรุ่งนี้ว่าจะกลับไฟท์บ่าย ยิงตรงถึงโน่น 6 โมงเช้า (เวลาท้องถิ่นกรุงเทพ)
แต่กลับไม่สามารถ ห่านเฮ้ย ไอ้ทนายความเรื่องเอกสารเงินกองกลางทำกันได้
แอนเดรียน่าก็ดันไม่มาด้วย บอกอยู่ 2 เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว
พอแด๊ดผมมา น้องสาวอ้อนแม่จ๋าขอไปเที่ยวเมืองไทยหนีปาร์ตี้นรกทันที
ญาติเยอะครับ โดยเฉพาะจากฝั่งเมกัน เวลาว่างไม่ตรงกัน
จัดงานทีกินเวลาร่วมเดือน มีงานสุดสัปดาห์มา 2 ครั้งก่อนหน้า
ครั้งนี้ที่ 3 สุดท้ายก็จริง แต่พวกผู้ใหญ่มากันตั้งแต่ครั้งแรกๆ แล้ว
มีบ้างอยู่ต่อยาวข้ามมาสุดสัปดาห์นี้ เป็นการพักร้อนประจำตระกูลก็ว่าได้
นี่ขนาดปาร์ตี้จัดแค่คืนวันเสาร์วันเดียว แต่ที่จริงมันก็เหมือนกินเลี้ยงกันแทบทุกวัน
---ต้องทำใจมีแต่พวกห่าเหวทั้งนั้น (อะไรๆ ก็พาลเค้าหมดเลยน่อ)
มองนาฬิกาหน้าปัดสองหน้า ที่นี่ 4 โมงเย็น กรุงเทพก็ 3 ทุ่ม เวลาต่างกัน 5 ชั่วโมง
โทรเช็คเจฟฟรี่ที่ให้ไปรอรับหน้าห้องซ้อม บอกยังไม่ออกมา
ไอ้เตี้ยพลูเดิ้ลทักษ์ จะใช้งานคนของกูหนักไปหน่อยละมั้ง
กลับไปพ่อจะเฉ่งยับ---สับแหลกกันไปข้าง
ถอนหายใจ ต่อสายโทรศัพท์ถึงกรุงเทพ...อีกทีน่า
“เฮ้---” ลิ้นไก่ผมยังไม่อ้า โดนสวนกลับมาทันที
“ยาง-ม่าย-ออก-มา ...เชรี่ยเหยี่ยว ถ้ามึงโทรทุก 5 นาทีแบบนี้ กูจะปิดมือถือ อีกครึ่งชั่วโมงค่อยโทรมา understand?”
(‘ครีตนะมึง ไม่ใช่เชียงใหม่เจ๊า’) เสียงโจ๊กแว่วเข้ามา พ่อหนุ่มสารถีผมยาวกดทิ้งปิ๊ด หนีกู!
ไอ้ๆๆๆๆๆ ห่านเจฟฟรี่
...ไอ้หมานอกคอก
...ไอ้ขนสังกะตัง
...ไอ้สัตว์หน้าข๊นนน---
เขวี้ยงโทรศัพท์ลงเบาะหนังสีเบจ สีโปรดของป้ามารีน่า
มึงลองมาเป็นกูดิ๊---สราาาาาาาดดดดดดดดดดด!
เสยผมเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ กูเครียดจนหนังหัวจะหลุดติดมืออยู่แล้วเนี่ย
แค่คิดว่าตัวนุ่มนิ่มจะมีใครกอดกล่อม ตกดึกแอร์เย็นเฉียบจะซุกอกอุ่นที่ไหน
เวลารุ่งสางอีกล่ะ ...ใครจะป้อนน้ำเปล่าแก้วใหญ่ให้---โว๊ย
แค่นี้ผมเจ็บจนคว้าง ขยับตัวไม่ได้ บ้าเอ๊ย
อยู่บ้านพ่อแค่วันอาทิตย์ เย็นกลับนอนคอนโดเพราะจันทร์ต้องซ้อมเช้า
อังคารไล่ต้อน ออดอ้อนให้ผมมานี่ ได้แต่อิดออดรอจนวันเสาร์ถึงกระเสือกกระสนมาเพราะต้องตามใจเด็กหรอก
นึกย้อนถึงตอนนั้น... ไม่น่า ๆๆๆๆ เลยจริงๆ
ไม่น่าหลงกลตกหลุม แต่ตอนนั้นใครมันจะนึกรู้ชะตาชีวิตตัวเองฟะ
------------------
ในห้องคอนโดของเรา ...ยืนบนบันไดขั้นที่ 2 อ้าแขนชูสองข้างรอให้ผมเดินไปรับ
"พี่เหยี่ยว..."
"หืม..."
"พี่เหยี่ยวว่า ญาติ...สำคัญมั้ย" เริ่มแล้วไง
"อีกแล้วนะ ม่ายอาว ม่ายอยากฟัง" รู้ล่ะเรื่องอะไร
"ฟังหน่อยน่า พูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ตรงเป๊ะๆ...ไปงานรวมญาตินะครับ" นั่นไง ไม่ต้องเดา
"จะให้พี่ไปได้ไง ใครจะอยู่ดูแลลมของพี่ล่ะ"
"ก็ลมของพี่เองนี่ไง มอ.ใกล้แค่นี้"
"อืม"
"ดูนะ...กลางคืนพี่ไปใช้มั้ย ลมตื่นเช้าไปซ้อมเสร็จโน่นบ่าย 4 กินข้าวร้านพี่ฟ้าหรือซ้อจิ๋วข้างหน้า เล่นโยคะตอนค่ำ เสร็จ 1 ทุ่มครึ่ง ขึ้นมาห้องแหล่ะ---จบวัน"
"นอนคนเดียวอ่ะ" แกล้งซบวางคางเกย
"คืนเดียวเอง...ตื่นเช้ามาพี่ก็มาเคาะประตูหน้าห้องแล้ว อ้อ แถมพี่โจ๊กพี่เจฟฟรี่ผู้คุมชั้นยอดก็อยู่" ร่ายเป็นฉากๆ
นึกไม่ชอบใจที่ทำเลที่ตั้งคอนโดมันใกล้มหาลัยก็คราวนี้เอง ไม่น่าเลยตู
ปล่อยอีกฝ่ายที่ยืนสูงกว่าโน้มศีรษะผมไปซบอกตัวเอง ...
เห็นหลายทีแล้ว ชอบยืนข้างบนให้สูงกว่านิดหน่อย บันไดนี่โปรดสุด
มีผมยืนพื้นต่ำกว่า แล้วดึงตัวเข้าซุกซบกอดกับบ่าคนนี้ ...ชอบจัง ไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อน
ทุกทีผมตัวสูง เป็นฝ่ายให้คนอื่นเกาะเป็นหลัก เพิ่งมีลมเหนือที่ทำแบบนี้
อบอุ่นชะมัด...นิ่งฟังเสียงหัวใจเต้นแรงอีกดวง
"หึ---ม่ายอ่ะ ไม่ไปหรอก งานก็งั้นๆ ไปทุกปี ขาดพี่ซักคนไม่ตายหรอก" จูบเหนือหัวใจที่กำลังเต้นเร่าในอกของเด็ก โอบเอวบางไว้หลวมๆ
"แด๊ดบอกป้ามารีน่าของพี่รออยู่นะครับ หลานชายสุดหล่อคนสำมะคัญ ญาติคนอื่นไม่เท่า Alexander คนนี้นา"
"หึ" แกล้งถูไถคางกับผิวเนื้อใต้เสื้อสะอาด
"น่า~นะ"
"กล่อมพี่กี่ครั้งต่อวันแล้วเนี่ย" เขย่งเงยหอมแก้มนุ่มเล่น...อยู่ต่ำกว่าอ้อนสนุกมือดีแฮะ
"วันนี้จะ 3 ล่ะ เมื่อเช้า พักเที่ยง แล้วก็ตอนนี้ ฮิ" แลบลิ้นเล็กๆ ยิ้มตาปิดเป็นแพ ลูบท้ายทอย เส้นผมหลังคอของผมเล่น...อ๊างงง~รู้สึกดีชะมัด
"ไม่สำเร็จหรอก" แกล้งปล่อยมือจากกอดเอวมายืนล้วงกระเป๋า-เท่ห์ เอียงหน้าเชิดไม่สนใจ
"จริ๊งง่ะ"
"จริง"
"ไม่มีวี่แววเล๊ย"
"ไม่" ผมเบนหน้าหนีซ่อนรอยยิ้ม กลั้นหัวร่อสุดฤทธิ์
"เฮ้อ เสียชื่อสาลิกาลิ้นทองอย่างลมเหนือชะมัด รู้ถึงไหนอายถึงนั่น" หลบตาหน้าม่อย ลูบลาดบ่าผมไปมา
"555 มีงี้ด้วย ไม่ค่อยชมตัวเองเลยนะเนี่ย"
"ช่าย ถ้าไม้เก่าใช้ไม่ได้แล้ว ...งั้น ต้องอันใหม่ " หรี่ตาร้ายๆ แพขนตายาวเป็นเส้นหนา น่ามองมิคลาย
"ยังไง ว่ามะ" จุ๊บคางมนที่โน้มลงมาหา เตรียมตั้งรับสถานการณ์
อ้อล้อกับเด็กดีกว่า ดูซิจะมาไม้ไหน อะครึ~อะครึ
ปลดจี้เหยี่ยวน้อยจากคอตัวเอง แกว่งไปมาซ้ายขวาล่อระดับสายตาผม
"ต่อไปนี้เป็นการสะกดจิต โอม...จงฟังและทำตามสั่ง ไปงานรวมญาติๆๆๆ" ตั้งใจแกว่งอย่างมาก
"อืม..." นี่กูอยู่กับเด็กศิลป์สาด เอกดนตรีคสาสสิค ปี 1 ใช่มั้ยวะ
"เหยี่ยวขาววว จงอยู่ในอำนาจของเรา ลมเหนือสั่ง ...รวมญาติที่ครีตๆๆ" ย้ำคำ 'ที่ครีต' ช้าๆ แผ่วๆ ยานคาง ได้แต่กัดปากจนเจ็บ
"หึหึ" กอดเอวนักสะกดจิตแน่นเข้า เอากะเค้าหน่อยวะ
จะอย่างไหนก็ได้ ที่รัก...เหยี่ยวรับได้หมด
อมพะนำนิ่งไว้ไม่เปิดเผยที่ให้เลขาของพ่อจองไฟท์ไว้คืนวันศุกร์ที่จะถึงแล้ว
ออกเดินทาง 0.30 น. ถึงเอเธนส์ 7.00 น. วันเสาร์ (เวลาท้องถิ่นที่โน่น) ร่วมงานน้ำชาภาคบ่าย
วันอาทิตย์ดิ่งกลับมาถึงสุวรรณภูมิตอนเช้า เข้าซุกตัวนอนกอดเค้า
รอวันจันทร์ก็งานคลาสสิคพอดี...วางแผนเป๊ะๆ
ไม่น่ารับปากแด๊ดเล๊ย---บ้าชะมัด
ยิ่งประสานรอยร้าว คืนดีกันกลายๆ ยิ่งปฏิเสธอะไรต่อมิอะไรยากเข้า
เอาน่า---โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี
......................
..........................
นั่นมันตอนนั้น...กูไม่น่า เพราะตอนนี้มัน---
Shit!
Shit!
Shit!
Damn shit! (ผิดแผนเพราะไอ้ทนายนรกสร้างงงงง)

ป้ามารีน่า เลดี้ผู้แสนดีสุดประเสริฐของผมเดินขึ้นมา... ยิ้มพิมพ์ใจไม่เคยเปลี่ยน
“ไม่สนุกเหรอหลานรัก” (เราคุยกันเป็นภาษาอิตาลี แต่เพื่อความเข้าใจนะครับ)
“ยังเพลียๆ นิดหน่อยครับ” อ้างเจทแลคเลยไม่ค่อยมีใครมายุ่ง สมใจล่ะ
“ยายแอนเดรียน่าไม่ยอมมาด้วย โทรมาเล่าจากฮ่องกงเสียงใสเชียว บอกชอปปิ้งเสร็จจะกลับบ้านน้าพรุ่งนี้” น้า---น้องแม่ ก็พ่อผมน่ะซิ
“ผมนึกว่าน้องจะบินต่อมานี่เลยด้วยซ้ำ” มีอะไรถึงย้อนกลับไป ปาร์ตี้มีวันนี้คืนนี้สุดท้าย นี่เป็นเหตุผลเดียวที่ผมมายืนอยู่ที่นี่-ตอนนี้-เวลานี้
“น้องติดใจคนที่โน่น จะอยู่เชียร์ดนตรีก่อน บอกจะหัดทำต้มยำกุ้งให้คล่องๆ กะให้แม่ชิม แถมเซอร์ไพรสอะไรรูเล็ตๆ ก็ไม่รู้” หัวเราะเบา เล่ายาว
ผมทรุดฮวบ คิดถึงคนต้นเรื่องสุดขั้วหัวใจ
“-------” ได้แต่เงียบ แม่ทูนเอนหลัง จิบแชมเปญสบายอารมณ์
“อเล็กซ์---”
“ครับ”
“คนของลูกใช่มั้ย โรมมี่ของแอนเดรียน่าน่ะ” เวร ชื่อนี้กระฉ่อนไกลถึงหูไวขนาดนี้ เรียกซะสนิทด้วย 'โรมมี่'
“มีข่าวไหนหลุดรอดสายตาป้าผู้แสนวิเศษของผมได้มั่งครับ” เนียนกลับไป
“ไม่ต้องมาอ้อนนะเรา” โผเข้าใกล้ ซุกหน้าลงกับต้นแขน กลิ่นชาแนลนัมเบอร์ไฟน์ คุ้ยเคยไม่เปลี่ยน รักยิ่งกว่าแม่ คือแม่พระที่มีชีวิตของผม
เพราะแม่ทูนหัวของผมคนนี้ เหยี่ยวขาวถึงเป็นผู้เป็นคน
ผ่านพ้นช่วงวิกฤตอันตราย หัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตได้ด้วยดี
(เรื่องชื่อโรมมี่...มารู้ภายหลังงานดนตรีเสร็จอีกทีว่า
ยายน้องสาวปั่นทวิตและอัพเฟสกระหน่ำ สร้างชื่อโรมมี่ดังกระฉ่อนกว่าที่ผมคาดไว้มาก..
เจฟฟรี่ให้ดูจำนวนผู้เข้าชม ไอ้เหยี่ยวแทบทุบไอแพดเพื่อนทิ้งแล้วตามไปบีบคอหงษ์ขาวเกือบขาดไปแล้ว)
“อยู่ต่ออีกวันนนะ ส่งพวกญาติกลับๆ ป้าอยากไปเที่ยวกรุงเทพ ฟังคอนเสริต์นักศึกษาเสร็จจะได้ลากแม่ตัวดีกลับบ้านด้วย” น้ำเสียงปราณี ลูบต้นแขนผม
“เฮ้อ---ใครจะกล้าขัดบัญชาสวรรค์” ตีแขนผมดังเพี๊ยะ หัวเราะขำ
“ไม่ต้องเลย ป้าให้เซบาสเตียนเลื่อนตั๋วให้เราแล้ว” ซวยล่ะซิ ตั๋วจะกลับพรุ่งนี้บ่าย ไม่น่าบอกท่านเลขาใหญ่ของราชินีนี่เล๊ย
“ป้ารู้ทัน ผมก็แย่ซิครับ”
“คิดถึงเค้ามากล่ะซิ” โดนค้อน คนแก่งอนน่ารักดีไม่หยอก
“อะไรกันครับ” เหงื่อซึมแต่หน้ายังใสกิ๊งหลอกตา
“น้องบอกป้าหมดแล้ว"
"อ่า---"
"เราก็ด้วย...ใครจะคิดล่ะว่า เพลย์บอยบ้าปาร์ตี้ปีก่อนๆ จะมาแค่จิบน้ำชาแล้วก็กลับ ไม่ยอมเฉียดใกล้สระซักแอะ แวะแต่คุยโทรศัพท์ตลอดเวลา”
โหย---ดักได้หมด แม่มดเทพธิดาพยากรณ์ ไม่รักก็บ้าแล้ว รู้จักหลานชายคนนี้ไปหมด
“ยายแอนเดรียน่าเผาอะไรผมเนี่ย เจอหน้าผมจะจับตัดผมสั้นจู๋ คอยดู” น้องนกหงส์หยก รักเส้นผมเป็นชีวิตจิตใจ ตอนเด็กเคยแกล้งตัดผมปอยเล็กๆ โกรธ---ไม่พูดกับผมเป็นเดือน
“จะรังแกกันอีก โกรธมา ป้าไม่ช่วยนะ”
“คร้าบ~ไม่แม้แต่จะคิด” หอมต้นแขนซุกใบหน้าลงอีก รู้สึกอบอุ่นแบบนี้เอง มิน่าลูกเค้าชอบทำกับแม่เค้า
“แน่นะ ช่างเถอะ ว่าแต่...ป้าอยากเห็นโรมมี่ นี่จัง”
“หื๊อ ใครเหรอครับ---อูยยย/เพี๊ยะ!” ไขสือหน้าตาย โดนตีแขนอีกรอบ
“อเล็กซานเดอร์ เดี๋ยวเหอะ ทางโน้นเค้ารายงานป้าหมดแล้ว” เจ้าแม่มาเฟียในคราบแม่มดพร้อมลูกสมุนโยงใย ไม่รวมเครือข่ายลับใต้ดินอีกโขยง
“อ่า---ทุกทีไม่เคยเห็นสนใจนี่ครับ” ลูบแขนป้อย เหยี่ยวโดนเรียกชื่อซะเต็มยศ
“สนแต่ไม่ใส่ใจ แต่คนนี้ทำหลานป้าเลี้ยงต้อยได้ ต้องไปเห็นตัวจริงหน่อยล่ะ”
สวยล่ะ---เรื่องทรัพย์สินส่วนตัวของผมยังถูกตีแผ่รึนี่ เจ้าแม่วอลสตรีทช่างร้ายกาจนัก
สอนผมเล่นหุ้น สอนเทคนิคธุรกิจ ให้ผมทำ 100 ล้านบาทใน 3 ปี
แล้วสั่งเก็บไม่ให้แตะ ห้ามใช้เด็ดขาด อยากได้อะไรให้หาเพิ่มเอาเอง
ก่อนจะสอนชั้นเชิงอสังหาริมทรัพย์ (รู้ทีหลังว่าพ่อหนุนหลัง)
ไม่ให้หลงระเริงเงินร้อนให้เล่นเงินเย็น จะได้ไม่โลภมาก
(สามารถครับ ถ้าเข้าตลาดเมืองนอกโดยเฉพาะของสหรัฐ ตัวป้าเองทำได้มากกว่านั้น แต่เพราะต้องสอนทางหนีทีไล่ผม เลยตั้งเป้าแค่นี้...การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ตัดสินใจลงทุนโปรด บราๆๆๆ อ้อ อยากรู้อะไรกรุณาถามป้า อย่าถามผม)
ตอนนี้กำลังจะทำอีกก้อน กะมอบเป็นของขวัญให้คนของผม
อย่างน้อย...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันเวลาข้างหน้า
จะได้มั่นใจว่าตัวเค้ากับคนข้างหลังจะไม่ลำบาก
นี่ล่ะ...ต้นเหตุที่ต้องผละจากกอดทุกค่ำคืนที่ผ่านมา
“วันมะรืนผมออกแต่เช้านะครับ ป้าตามไปทีหลังก็ได้” เจอทนายเสร็จ พ่อจะเผ่นป่าราบไม่ทิ้งแม้เงา
“ไม่ล่ะ ทางนี้เซบาสเตียนดูแลต่อเอง คิดจะหนีล่ะก็---ไม่มีทาง อเล็กซานเดอร์”
เฮือก (="=) ป้ามหาภัยชัดๆ
รู้สึกตัวเองเหมือนนกเหยี่ยวอยู่ในมือสัตวแพทย์มือฉมัง---ให้ตายเหอะโรบิ้น

************************************************TBC by puppyluv