ขอให้มาต่อยาวๆ เราก็จัดให้
ขออะไรก็ให้ขนาดนี้ ทำไมยังไม่มีแฟนฟ่ะ ชิส์
***************************************************************
รอยยิ้มจางหายไปจากใบหน้ารณวีย์เมื่อได้ยินคนตรงหน้าแนะนำตัว
เหมือนทุกอย่างหยุดหมุนไปชั่วขณะ เพียงฝน แปลกใจ ที่เห็นอาการแปลกไปของคนตรงหน้า เพราะจากรอยยิ้มเมื่อครู่ที่เห็น กลายเป็นแววตาฉงนแทน
“ เมื่อกี้คุณฝนบอกมาตามหาเพื่อนเหรอครับ “
รณวีย์ถามอย่างแผ่วเบา แต่ก็ดังพอที่ เพียงฝนจะได้ยิน
“ ค่ะ เพื่อนชายน่ะค่ะ ชื่อ การินทร์ “
หญิงสาวตอบ ทำเอาคนถามถึงกับเซไปวูบนึง นี่มันอะไรกัน นี่มันนิยายหรือชีวิตจริง ทำไมทุกอย่างมันถึงได้จังหวะกันแบบนี้
“ กานต์ “
ชายหนุ่มเผลอครางชื่อที่เขาเคยเรียกอย่างคุ้นเคย เพียงฝน เลยเอะใจ
“ รู้จัก การินทร์ เหรอคะ “
เธอถาม
“ ปะ เปล่าครับ “
“ ก็เมื่อกี้ คุณวีเอ่ยชื่อ กานต์ ชื่อเล่นของการินทร์น่ะค่ะ “
“ อ๋อ พอดี ผมพอจะรู้จักเจ้าของภู ก็เลยพอที่จะทราบชื่อแขกบ้างน่ะครับ “
“ แสดงว่า กานต์อยู่ที่นี่จริงๆ “
เพียงฝน มีแววตาเปี่ยมล้นด้วยความดีใจอย่างเห็นได้ชัด
ผู้ชายคนนี้จะยังรักเธออยู่หรือเปล่านะ ขออย่าให้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเลย
“คุณฝนมาเหนื่อยๆ ผมว่าไปหาที่พักกันก่อนดีมั๊ยครับ “
รณวีย์ยังไม่กล้าบอกว่าการินทร์อยู่ที่นี่จริงๆ ถ้าเฟื่องฟ้า ยังไม่เข้ามาแทรกความสัมพันธ์สองคนนี้ เขาคงกล้าที่จะบอก ถึงแม้ว่าในใจจะเกิดอาการหวิวๆที่เห็นคนรักเขาเจอกันก็ตาม
….แต่มันก็คือสิ่งที่ควรจะเป็นตามเส้นทางที่ธรรมชาติขีดเอาไว้…..
เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองมีสิทธิใน การินทร์
ปลายภู มองพินิจ หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าที่รณวีย์เป็นพามา
เธอสวยหวานจนแทบจะไม่มีที่ติ ใบหน้าเนียนใสไร้เครื่องประทิน บ่งบอกว่าเจ้าตัวสวยด้วยธรรมชาติอย่างถ่องแท้
สวยขนาดนี้ นายการินทร์ ยังทิ้งลงหรือนี่ หนุ่มใหญ่อดคิดไม่ได้
“ ตามสบายนะครับ เดี๋ยวจะให้ เฟื่องฟ้าเป็นธุระเรื่องที่พักให้ “
ปลายภูเอ่ยเมื่อใช้สายตาสำรวจสาวชาวกรุงจนทั่ว
“ งั้นก็รบกวนด้วยนะคะ “
เพียงฝนยิ้มรับ ปลายภูเลย เรียกอ่องบอกให้ไปตามเฟื่องฟ้าให้หน่อย แต่พอเห็นอ่องชักสีหน้า เขาเลยต้องถามถึงสาเหตุ
“ เอ็ง เป็นอะไรไอ้เตี้ย “
“ ก็พักนี้สาวใช้ นายปลาย ตามตัวได้ง่ายซะที่ไหนล่ะครับ นี่ถ้าผมเดานะ ป่านนี้คงกำลังไปหนุงหนิงกะ หนุ่มชาวกรุง แล้วแน่ๆ “
ปลายภูหรี่ตาฉงน หนุ่มชาวกรุงใครกันที่เฟื่องฟ้าจะไปหนุงหนิงด้วย
“ เอ็งหมายถึงใครไอ้เตี้ย “
“ ก็ คนของคุณวีไงครับ “
รณวีย์สบตาปลายภูอย่างตั้งใจ ต่างคนต่างคิดตรงกัน เพราะต่างก็รู้ว่า หญิงสาวที่มาใหม่ กำลังตามหาการินทร์ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเธอรู้ว่าหนุ่มชาวกรุงที่ไอ้อ่องเอ่ยถึงคือผู้ชายคนนั้น
“ ถ้าไม่คิดว่าก้าวก่ายให้ผมช่วยได้นะครับ “
รณวีย์ออกความเห็น อ่องแปลกใจ แต่ปลายภู รับรู้ความต้องการนั่น เขาจึงไม่ปฎิเสธ ดีซะอีกเขาอยากให้รณวีย์เข้ามาเป็นน้องชายอยู่แล้วถ้ารณวีย์ได้เรียนรู้ระบบงานแล้วชอบ มันก็อาจจะทำให้รณวีย์รักและก็อยากอยู่กับเขาต่อไปก็ได้
“ อย่างนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมสอนให้ “
เพียงฝนเริ่มมองสองหนุ่มแปลกๆ แต่ก็ไม่ใส่ใจมากนัก ชีวิตใครก็ชีวิตใคร เธอไม่ต้องการมาที่นี่เพื่อก้าวก่ายใครอยู่แล้ว นอกจาก การินทร์ ผู้ชายที่อาจทำให้เธอหลุดพ้นจาก ความเลวร้ายที่เธอกำลังพบเจอ
เธอเผลอตัวเผลอใจไปกับผู้ชายที่คิดว่าเขารักเธอ ผู้ชายที่เพรียบพร้อมมากกว่าการินทร์ แต่แล้วสิ่งที่เห็นมันก็แค่เปลือกนอก เธอท้องได้สามเดือน ความรักที่คิดว่าสวยงามกลับพังทลายเพราะ ฝ่ายชายไม่รับผิดชอบ ผู้หญิงที่ถือว่าเกิดมาในครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างเธอจะบอกใครได้ยังไงว่าเผลอให้ตัวเองท้องแล้วไร้คนรับผิดชอบ จะให้ฆ่าเด็กตาดำๆที่ไม่รู้เรื่องอะไรเพื่อปกปิดเรื่องฉาวเธอก็ไม่อาจที่จะทำได้ การินทร์ เคยรู้จักมักคุ้นกับเธอ ใครๆก็รู้ จะแปลกอะไรถ้า การินทร์จะเป็นพ่อเด็ก
…กานต์ คุณต้องช่วยฉัน…..
เฟื่องฟ้า กำลังอยู่กับการินทร์ หล่อนดูมีความสุขจนลืมหน้าที่การงาน ทั้งๆที่ตอนนี้การินทร์ดูเหม่อๆ
“ เหม่อ อะไรคะคุณกานต์ “
หญิงสาวเอ่ยถามในที่สุด เมื่อทนไม่ได้ที่เห็นการินทร์พูดน้อยและไม่ร่าเริงหยอกเหย้าหล่อนเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา
“ เปล่านี่ “
การินทร์ปฎิเสธ จะให้บอกไปได้ยังไงล่ะว่าเขากำลังคิดถึง รณวีย์ ป่านนี้คงโกรธเขาน่าดู
“ วันนี้คุณกานต์ดูแปลกนะคะ “
เฟื่องฟ้ากระเง้า การินทร์ลอบถอนหายใจ เขาไม่ชอบอาการอย่างนี้ของสาวภูเลย แต่ทำไงได้ เขาพลาดเองที่คิดว่าเฟื่องฟ้าเป็นสาวชาวป่าที่น่าจะใสซื่อ
“ ฟ้าหายมานานแล้วนะ ไม่มีงานเหรอวันนี้ “
ชายหนุ่มบอก สาวภูได้ทีทำแกล้งน้อยใจเพื่อดูปฏิกิริยาคนพูด
“ เบื่อฟ้าแล้วเหรอคะ “
“ เปล่าครับเห็นเราคุยกันนานแล้ว เดี๋ยวคุณภูจะหาว่าผมพาฟ้ามาอู้งาน “
“ ช่างเถอะค่ะ ฟ้าไม่สนหรอก เพราะฟ้ามีคุณกานต์แล้ว ถึงโดนไล่ออก คุณกานต์ก็คงดูแลฟ้าได้ ใช่มั๊ยคะ “
ความอึดอัดเพิ่มไปสองเท่าที่สาวภูคิดอะไรไปไกลขนาดนั้น ตายแน่ นายการินทร์
“ ผมยังตกงานอยู่เลยจะดูแลฟ้าได้ไง ตั้งใจทำงานให้เจ้านายรักน่ะดีแล้วนะครับ “
“ ไม่จริงหรอกค่ะ ดูก็รู้ว่าคุณกานต์มีอันจะกิน คนตกงานที่ไหนจะมาเช่ารีสอร์ท แพงๆบนภูนี้ได้ล่ะคะ “
“ อย่าตัดสินอะไรด้วยสายตาสิครับ “
“ ไม่รู้ล่ะค่ะ คุณกานต์ทำให้ฟ้ามีความสุขทุกครั้งที่อยู่ใกล้ คุณกานต์ก็ต้องรับผิดชอบจิตใจฟ้าซิคะ หรือคิดว่าฟ้าเป็นเพียงดอกไม้ป่าข้างทางที่นึกจะเด็ดดมเมื่อไหร่ก็ได้ พอเฉาแล้วก็คิดที่จะโยนทิ้ง ฟ้าไม่ยอมนะคะ “
“ ไปกันใหญ่แล้วฟ้า เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันนะ ผมให้เกียรติผู้หญิงผมไม่ได้เห็นแก่ตัวแบบนั้น “
“ พูดไว้ก่อนไงคะ ถึงขั้นนี้แล้วคุณกานต์ไม่มีสิทธิเปลี่ยนใจไปจากฟ้าแล้วล่ะค่ะ “
เหมือนน้ำท่วมปาก การินทร์ตอบโต้อะไรไม่ออกเมื่อเฟื่องฟ้าแสดงความเป็นเจ้าของด้วยการโอบเอวเขาไว้หลวมๆ
“ ปล่อยเถอะฟ้า ใครเห็นจะเอาไปนินทาได้นะ “
ชายหนุ่มพยายามแกะมือหญิงสาวออกแต่ไม่เป็นผล
“ บอกแล้วไงคะว่าฟ้าไม่สนใครแล้ว แม้กระทั่งผู้หญิงของคุณกานต์ “
การินทร์ชะงัก ผู้หญิงของเขา ใครกัน?
“ ตอนที่ฟ้าเข้าไปเสิร์ฟน้ำแขกของนายปลาย ฟ้าได้ยินนายปลายเอ่ยถึงผู้หญิงของคุณกานต์ “
เฟื่องฟ้าเอ่ยต่อ โดยไม่รอให้คนสงสัยถาม แต่การินทร์ก็ยัง งงอยู่ดี
“ ผู้หญิง ของผม หมายถึงใครเหรอฟ้า “
“ ฟ้า ไม่ทราบหรอกคะ แต่เขาคงเป็นอดีตใช่มั๊ยคะ ฟ้าจำได้ว่าคุณกานต์บอกว่าคุณกานต์ยังไม่มีแฟน “
เอาล่ะสิ สาวน้อยคนนี้จดจำทุกคำพูดของเขาไว้ ดิ้นให้ตายก็ไม่หลุดแน่ๆ นายการินร์
ชายหนุ่มเหงื่อซึมทั้งๆที่อากาศไม่ร้อน มันเป็นเหงื่อของความอึดอัด แต่ก่อนที่เขาจะโดนไล่ต้อนไปมากกว่านี้ก็ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเมื่อมีเสียงคุ้นเคยดังแทรกขึ้นมา
“ ขอขัดจังหวะหน่อยนะ “
รณวีย์เองที่เป็นคนพูด ชายหนุ่มยืนหน้าขรึม มองสบตาเฟื่องฟ้าที่มองสบเขาอย่างท้าทาย แววตาใสซื่อของสาวภูคนนี้หายไปไหนนะ
“ วี มาพอดีเลย “
การินทร์หลุดปากออกมาอย่างดีใจทั้งๆที่ตอนไล่ กลับไม่คิด เขาแกะมือเฟื่องฟ้าออกเมื่อสาวเจ้าคลายความแน่น คงจะตกใจที่มีคนเห็น
“ มาทำไม “
เฟื่องฟ้าถามเสียงแข็ง รณวีย์สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคนที่เคยเป็นมิตร
“ วีอยากคุยกับกานต์ “
ชายหนุ่มบอก
“ เรื่องอะไร คุณกานต์ ไม่มีเรื่องจะคุย ใช่มั๊ยคะคุณกานต์ “
เฟื่องฟ้าบอกปัดพลางหันไปหาความเห็นจากคนกลาง การินทร์อึกอัก พูดไม่ออก
“ ไม่นานหรอก ขอเวลาเดี๋ยว “
รณวีย์รุกต่อ เขาต้องคุยสิ เพราะเขาเพิ่งรู้จากปากปลายภูว่า เพียงฝนอุ้มท้องมาที่นี่เพื่อตามหาการินทร์ ที่เธอบอกว่าเป็นพ่อเด็ก
“ คุณวีฟังไม่รู้เรื่องเหรอคะ คุณกานต์เขาไม่อยากคุย “
เฟื่องฟ้ายืนยัน อะไรไม่รู้ที่ทำให้หล่อนเกิดหึงขึ้นมา หรือความรักมันเริ่มที่จะทำให้หล่อนตาบอดขึ้นมาแล้ว
“ นายการินทร์เป็นคนของ วี วีมีสิทธิ์ ที่จะเรียกเขาคุยได้เมื่อไหร่ก็ได้นะเฟื่องฟ้า “
คนโดนกันท่างัดไม้สุดท้ายออกมาต้าน เขาก็กำลังอารมณ์พุ่งปรี๊ดมาเหมือนกัน จากเรื่องที่ได้ยินมา ถ้ามันเป็นเรื่องจริง ก็เท่ากับว่าการินทร์โกหกเขาเรื่องโดนเพียงฝนทิ้ง เพื่ออะไร ผู้ชายคนนี้สร้างสถานการณ์ขึ้นมาเพื่อคั่วสาวภูงั้นเหรอ มันเกินไปหน่อยมั้ง
“ พูดอะไร คุณกานต์เป็นคนของคุณวี ตลกล่ะค่ะ อย่ามั่วค่ะคุณ “
สาวภูเยาะ มองข้ามมิตรภาพที่เคยมี รณวีย์ฉุนเมื่อเห็นว่าเฟื่องฟ้าหลงคารมคนร้ายกาจคนนี้มากจนคิดที่จะเป็นศัรตรูกับเขา ตาบอดหรือยังไง
“ ตลกหรือไม่ตลก ก็ลองไปถามเจ้านายฟ้าเองแล้วกันว่านายนี่เป็นอะไรกับวี ว่าไง นายแมสแซนเจอร์ “
รณวีย์เสี่ยงที่จะเอาข้อนี้มาอ้าง การินทร์เอะใจ ท่าทางรณวีย์คงมีเรื่องที่จะคุยกับเขาจริงๆถึงได้ ไม่ยอมอะไรง่ายๆเหมือนอย่างที่เคยยอม
“ ขอเวลาเดี๋ยวนะฟ้า “
การินทร์บอก เฟื่องฟ้าขัดใจ
“ อะไรกัน ไหนเคยบอกว่า คุณวี เป็นคนไม่น่าคบไม่น่าคุยไง อะไรก็ไม่รู้วิปริตผิดเพศ คุณกานต์พูดเองลืมแล้วหรือไง ฟ้าไม่ได้โง่นะคะ เอาเถอะค่ะถ้าอยากที่จะคุยกันหรืออยากที่จะทำอะไรกันให้ผีสางท่านเอือมระอา ก็เชิญ “
เฟื่องฟ้าใส่ไฟสุดขีดของความโกรธ การินทร์จะอยู่บนภูนี้นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ทำไมใครๆจะต้องมาพรากเวลาที่หล่อนจะได้อยู่กับผู้ชายคนนี้สองต่องสองด้วย
สาวภูสะบัดหน้าเดินหนีไปแล้วคงเหลือแต่แววตาของเพื่อนเก่าที่จ้องมองกันเหมือนกับจะให้มันสื่อความหมายอะไรแทนคำพูด
รณวีย์โกรธในสิ่งที่เฟื่องฟ้าใส่ไฟเมื่อครู่ เพราะการกระทำของการินทร์ที่ผ่านมามันสนับสนุนคำพูดนั้นเต็มเหยียด
“ ไร้สาระ อย่าไปฟังเขาเลยนะ “
การินทร์เป็นฝ่ายบอกก่อน เขากลัวว่ารณวีย์จะโกรธจริงๆ ไม่รู้ทำไม แต่มันก็ไม่ทำให้ความรู้สึกของฝ่ายนั้นมันดีขึ้นมาได้เมื่อเขาได้ยินคำพูดนี้จากปากเจ้าตัว
“ ทุกอย่างถ้ามันไม่มีมูลใครเขาจะกล้าพูด “
“ ถ้าจะคิดอย่างนั้นก็ตามใจ “
การินทร์เอ่ยออกไป เขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะตามง้อรณวีย์ ถึงนายนี่งอนให้ตาย เขาก็ไม่แสดงออกว่ารู้สึกผิดหรอก เรื่องอะไร…
“ ว่าไง มีอะไรจะคุย “
เขากระชากเสียงถาม หมดอารมณ์จะพูดดี รณวีย์ทำหน้าที่กันท่าให้เขาหลุดจากเฟื่องฟ้าจบแล้วนิ เขาก็ต้องกลับมาถือไพ่เหนือกว่าเป็นเรื่องธรมดา
“ เรื่องคนรักของนาย “
รณวีย์ปัดอารมณ์น้อยใจทิ้งไป แล้วเกริ่นนำเข้าเรื่อง
“ คนรัก ใครกัน“
การินทร์สงสัย
“ เพียงฝน “
รณวีย์บอกเสียงเย็น ด้วยความที่ไม่รู้อะไรการินทร์จึงบอกเสียงเครียด
“ สองครั้งแล้วนะที่พูดถึง ฝน นายต้องการอะไรวี “
“ ต้องการบอกนายไง ว่าเพียงฝนมาที่นี่ “
แววตาฉงน สาดจ้องไปที่คนพูดทันทีที่เจ้าตัวเอ่ยจบ รณวีย์ไม่ใช่คนขี้เล่น การินทร์โผเข้าเขย่าร่าง เจ้าของข่าวอย่างตื่นเต้น
“ นายเจอฝนเหรอ “
“ ดีใจหรือเสียใจล่ะ “
“ บอกมาก่อนสิว่านายเจอฝน “
“ ใช่ เขามาตามหานาย “
“ แล้วฝนอยู่ไหน “
“ อยู่นี่ค่ะ กานต์ “
เป็นเสียงผู้หญิงที่ตอบกลับมา คงเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เจ้าตัวที่กำลังโดนเอ่ยถึง
สายลมพัดปลิว หอบเอาความยินดี มาสู่ชายหนุ่มถึงขนาดผละออกจากคนที่อยู่ในอุ้งมือ จนฝ่ายนั้นเซเล็กน้อยเพราะยังไม่ทันตั้งตัว
รณวีย์ ยันตัวเองให้ยืนนิ่งได้ ก็มองเห็นการินทร์โผเข้าไปกอดเพียงฝนไว้ในอ้อมกอดแล้ว ชายหนุ่มถึงกับเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองภาพที่มันเสียดแทงความรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า
การแสดงออกของการินทร์ที่เจอเขา กับเจอเพียงฝนมันต่างกันสิ้นเชิง
การินทร์กอดเพียงฝนเอาไว้แน่น พลางพร่ำเพ้อในสิ่งที่รณวีย์ไม่อยากได้ยิน
“ ฝนมาหาผมใช่มั๊ย เราจะเริ่มกันใหม่ ใช่มั๊ย ผมคิดถึงฝนนะ “
“ ไม่เอา กานต์ อายคุณ วี “
เพียงฝน ยันกายออก หญิงสาวรู้สึกยินดีที่ทุกอย่างมันดูจะเข้าทางที่วางเอาไว้ การินทร์ยังคงหลงไหลเธอขนาดนี้ เด็กที่ไม่ตั้งใจให้เกิดคงมีพ่อได้ไม่ยาก
การินทร์ รู้สึกตัว หันกลับไปมองคนที่ยืนนิ่ง ไร้เรี่ยวแรงขยับ
รณวีย์ฝืนยิ้มให้แบบเหงาๆ ไม่รู้สิ เห็นสองคนเขายังรักกันดี จากที่คิดว่าจะจัดการกับคนร้ายกาจ กลับกลายเป็น ว่าชายหนุ่มพูดอะไรไม่ออกแม้ซักคำ ทุกอย่างมันตื้อในหัวไปหมด
การินทร์เมินหน้าหนี รอยยิ้มเหงาๆของรณวีย์ ทำให้ใจเขาหวิวได้อย่างประหลาด เลยตัดสินใจไม่มอง แต่นั่นมันกลับทำให้ฝ่ายยิ้มให้เสียใจ จนต้องถอยหลังเดินจากไปอย่างหมดแรง
คนใจแข็งเงยหน้ามองตามหลัง แววตาที่วูบไหว……เพียงฝนสังเกตเห็น…….