หลังจากใช้ความพยายามที่จะลงอยู่นานมาก (ตั้งแต่เมื่อคืน)
ในที่สุดก็ลงได้สักที

คนนี้แหละใช่เลย 1 โดย ขนมชั้น“ก็อยากจะมีใคร ใครสักคนที่เป็นของเรา ก็อยากจะมีใคร ใครสักคนนะ.......” เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเป็นเพลงฮิตที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้
เจ้าของเครื่องป่ายมือเปะปะหาโทรศัพท์ เมื่อปลายนิ้วสัมผัสกับเครื่องที่กำลังสั่นจึงหยิบขึ้นมาแล้วปรือตาขึ้นดู เมื่อเห็นชื่อคนโทรเข้าก็โยนกลับไปไว้ที่เดิม ก่อนจะตวัดผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง แต่เสียงโทรศัพท์ก็ยังลอดเข้ามากระทบโสตประสาทอยู่
เสียงโทรศัพท์ดังอยู่อีกพักใหญ่แล้วจึงเงียบไป ร่างในโปงผ้าห่มจึงยิ้มนิดๆก่อนจะเตรียมงีบหลับลงอีกครั้ง แต่เสียงโทรศัพท์ภายในก็ดังเสียก่อน คนขี้เกียจตวัดผ้าห่มออก นิ้วเรียวเอื้อมไปกดปุ่มสปีคโฟนด้วยความเคยชิน
“ ฮัลโหล”
“ไม่ต้องมาฮัลโหลเลยนะยะ ไอ้ก๋วยจั๊บ ทำไมไม่รับโทรศัพท์ของเจ๊หะ” เสียงแหลมปรี๊ดดังมาตามสายด้วยความโมโห
ก๋วยจั๊บหัวเราะเบาๆก่อนจะตอบว่า “โอยเจ๊วุ้น เบาๆหน่อยก็ได้ หูจั๊บไม่ได้หนวกนา ต้องตะโกนขนาดนั้น ว่าแต่เจ๊มีอะไรล่ะโทรมาแต่เช้าเชียวรบกวนเวลานอนของจั๊บมากเลยนะเนี่ย”
คราวนี้เสียงที่ตอบกลับมาแหลมขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว “แกยังมีหน้ามาถามอีกเหรอไอ้จั๊บ เมื่อวานเจ๊บอกแกว่าไง เจ๊บอกว่าวันนี้ให้แกเอาขนมมาส่งให้หน่อย แกลืมแล้วใช่ไหม”
“เปล่า จั๊บสั่งป้าอิ่มไปแล้วนา ขนมยังไม่ไปส่งอีกเหรอ”
“เออสิยะ เจ๊ให้เวลาแก 20 นาที เอาขนมมาส่งให้เจ๊ที่บริษัท ถ้าไม่ทันล่ะก็......แกตายแน่ไอ้จั๊บ!!....โครม!!” หญิงสาวพูดขู่ก่อนจะกระแทกหูโทรศัพท์ใส่ดังโครมใหญ่
ก๋วยจั๊บเด้งตัวขึ้นจากเตียงทันที เพราะรู้ซึ้งถึงคำว่า
“ตายแน่” ของญาติสาวว่ามันแย่ขนาดไหน
ชายหนุ่มล้างหน้าแปรงฟันลวกๆก่อนเดินออกมานอกห้องผ่านชานหน้าบ้านซึ่งดูโล่งโปร่ง ด้วยมีเพียงตั่งไม้สักตั้งไว้ตรงยกพื้น ตรงมุมชานมีอ่างบัวใบใหญ่น้อยจัดวางลดหลั่นกันอย่างสวยงาม ดอกบัวคลี่บานอวดโฉมสะพรั่ง
ก๋วยจั๊บเดินลงบันไดแล้วหยุดอยู่ที่ลานใต้ถุนบ้านซึ่งเทคอนกรีตยาวไปจนสุดที่บริเวณห้องครัวซึ่งแม่ใช้เป็นที่ผลิตและสอนการทำขนมชาววัง กลิ่นหอมของขนมฟุ้งอบอวลไปทั่ว ปะปนกับเสียงหญิงวัยกลางคนที่กำลังยืนดุพวกสาวๆอยู่
“โอย โอย ฉันจะเป็นลม นี่พวกหล่อนทำดอกกุหลาบกันแน่หรือ ทำไมดอกมันใหญ่เทอะทะ กลีบมันหนาเป็นปื้นๆปานนั้น ดอกกุหลาบน่ะเขาต้องทำกลีบให้บางทำดอกให้มันเล็กดูสวย นี่พวกหล่อนทำดอกอุตพิษกันกระมัง”
“โธ่ป้า ป้าที่เชยมากๆเลยนะ เนี่ยมันดอกกุหลาบจีเอ็มโอ มันก็ต้องต่างจากดอกกุหลาบธรรมดาสิป้า” แป้นหลานสาวของป้าอิ่มเถียง สีหน้าระรื่น
“อีเอ็นโอ เอ็นเอ อะไรของแกฉันไม่สนหรอกนะไอ้แป้น ยังไงก็ต้องทำใหม่ อย่างนี้ขืนขายออกไปขายขี้หน้าเขาตาย”
พวกสาวๆจึงหัวเราะคิกคัก แล้วก้มหน้าทำขนมกันต่อ ป้าอิ่มส่ายหน้าแล้วจึงทำท่าจะเดินไปทางอื่น ก๋วยจั๊บจึงเรียกเอาไว้
“ป้าอิ่ม”
“อ้าวคุณก๋วยจั๊บ ตื่นแล้วหรือคะ หิวหรือยังเดี๋ยวป้าจะให้เด็กยกสำรับไปจัดให้”
“ยังหรอกครับป้าอิ่ม ว่าแต่ลุงชมเอาขนมไปส่งให้เจ๊วุ้นหรือยังครับ เจ๊แกโทรมาโวยวายว่าขนมยังไม่ถึงเลย”
ป้าอิ่มตบอกผาง อุทานออกมา “ตายจริง ป้าว่าจะขึ้นไปบอกคุณอยู่พอดี มัวแต่เอ็ดพวกสาวๆอยู่เลยลืมเสียสนิท ตาชมเอาขนมออกไปส่งที่รังสิตแล้วรถเสียอยู่ค่า ”
“อะไรนะครับ แล้วเกี๊ยวยังอยู่ไหม”
“คุณเกี๊ยวออกไปแต่เช้าแล้วค่ะ เธอว่าจะไปธุระที่มหาวิทยาลัย”
สมองของก๋วยจั๊บกำลังคำนวณการเดินทางอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ถึงขับรถหรือนั่งแท็กซี่ออกไปก็คงจะไม่ทันแน่ๆ ทางที่ดีน่าจะต้องนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างเสียแล้ว
“ป้าให้คนไปเรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้างให้จั๊บหน่อยเดี๋ยวจั๊บขึ้นไปเอากระเป๋าสตางค์ก่อน”
“ถ้ามอเตอร์ไซด์ก็ไอ้ปานนั่งกินข้าวอยู่ในครัวแหละค่ะ ไม่ต้องไปเรียกไกล”
ชายหนุ่มจึงคว้าตะกร้าขนมหวานที่จัดแต่งอย่างสวยงามแล้ววิ่งเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่นั่งกินข้าวอยู่จึงตะโกนเสียงดัง
“ปาน เลิกกินข้าวก่อน ไปส่งหน่อย.”
คนกินข้าวอยู่สะดุ้งโหยงจนสำลัก ไอค่อกๆแค่กๆ ต้องรีบคว้าขันน้ำมากินโดยด่วน “โธ่คุณจั๊บ พูดเบาๆก็ได้ ตกใจหมด คุณจั๊บจะให้ไปส่งที่ไหน?”
“ตึกเจ๊วุ้น เจ๊แกให้เวลา 20 นาที ถ้าไม่ทันก็รับผิดชอบร่วมกัน”
“หา!!_ ตึกคุณวุ้นให้แค่ 20 นาทีเนี่ยนะ งั้นไปกันเลย” คนกินข้าวพาลอิ่มเอาดื้อๆ เมื่อได้ยินชื่อและคำว่ารับผิดชอบร่วมกัน ด้วยเจ้าตัวยังจำได้ดีถึงฤทธิ์เดชของหญิงสาวเมื่อครั้งยังเยาว์ มีอย่างที่ไหนจับรังมดแดงมาโยนใส่ นึกแล้วก็ยังรู้สึกคันยุบๆยิบอยู่เลย
“ขอขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนได้ไหม” ก๋วยจั๊บถามเมื่อมองเห็นว่าชุดเสื้อยืดคอกลมตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นจู๋สีขาว ไม่ได้เหมาะกับการออกนอกบ้านเลยสักนิด
“ไม่ทันแล้วคุณจั๊บ ไปกันเถอะ”
ปานตอบก่อนจะวิ่งไปที่มอเตอร์ไซด์ที่จอดแอบๆไว้กับพุ่มไม้ข้างห้องครัว เมื่อใส่หมวกกันน็อคเรียบร้อยและคนซ้อนขึ้นนั่งแล้วเจ้าตัวจึงสตาร์ทรถแล้วบิดออกไป กว่าจะฟันฝ่าการจราจรมาที่ตึก 12 ชั้นที่ทำงานของคุณเจ๊ก็ใช้เวลาไป 20 นาที จริงๆ
ก๋วยจั๊บรีบลงจากรถแล้วบอกว่า “ขอบใจมากปาน เดี๋ยวปานกลับไปก่อนแล้วค่อยไปเอาเงินที่บ้านนะ”
“โอ๊ยไม่ต้องหรอกคุณจั๊บ ว่าแต่คุณจั๊บจะกลับยังไง”
“เดี๋ยวให้เจ๊แกไปส่ง ขอบใจมาก”
ชายหนุ่มยิ้มให้กับรปภ.ของตึกที่เปิดประตูให้ คงจำได้เพราะเขามาส่งขนมที่นี่บ่อยๆ ก๋ยวจั๊บเดินตรงไปที่ลิฟต์ สังเกตว่ามีคนมองเขาอยู่ประปราย คงเพราะชุดที่ใส่ตอนนี้
เมื่อขึ้นลิฟต์แล้วจึงกดไปที่ชั้นสิบ ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาและสตูดิโอถ่ายภาพของญาติสาว เมื่อถึงชั้นสิบชายหนุ่มก็ก้าวยาวๆเข้าไปในบริษัท ตรงเข้าไปที่โต๊ะเลขา
“สวัสดีครับพี่เจี๊ยบ เจ๊วุ้นแกอยู่ไหนหรือครับ”
“คุณวุ้นอยู่ที่สตูดิโอค่ะ คุณจั๊บรอที่ห้องประธานก่อนก็ได้นะคะ”
“อืม เดี๋ยวผมฝากขนมไว้ด้วยแล้วกันนะครับ ผมจะไปหาเจ๊แกหน่อย”
ชายหนุ่มวางตะกร้าขนมหวานไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินออกมาจากบริษัทแล้วเลี้ยวขวาเดินตรงไปจนสุดทางเดินจึงเปิดประตูเข้าไป แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นบรรยากาศที่ดูเคร่งเครียดผิดปกติ
ฉากในสตูดิโอถูกเซ็ทเป็นห้องนอนที่มีเตียงขนาดคิงไซส์ ตั้งอยู่ ดูหรูหราด้วยผ้าคลุมเตียงซาตินสีดำสนิท ก๋วยจั๊บมองหาญาติสาวก็พบว่าหญิงสาวกำลังยืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาจึงเตร่เข้าไปถามตากล้องที่กำลังยืนเช็คอุปกรณ์อยู่
“พี่ก้อง สวัสดีครับ”
“อ้าว!! ว่าไงจั๊บ ไปไงมาไงเนี่ย” ก้องทักตอบอย่างอารมณ์ดี ชายหนุ่มเป็นตากล้องฝีมือดีที่ร่วมงานกับทางบริษัทมาหลายปีแล้ว
“เอาขนมมาส่งเจ๊ครับ ว่าแต่มีอะไรกันเหรอ ทำไมดูเครียดๆ”
“ก็พอดีนางแบบที่นัดไว้ ยังไม่มาน่ะสิ ทางผู้จัดการนายแบบเขาก็เลยมาโวย เพราะเขายังต้องไปทำงานอื่นอีก เจ๊แกเลยต้องไปรับหน้า”
ก๋วยจั๊บพยักหน้ารับก่อนจะหันไปดูต่อ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินหายลับไปในห้องแต่งตัวแล้วจึงเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ยืนหน้าบูดอยู่
“เจ๊ หน้าบูดเชียว เดี๋ยวตีนกาก็ขึ้นหรอก” ก๋วยจั๊บแซวเพื่อให้หญิงสาวอารมณ์ดีขึ้น แต่วุ้นกลับหันมาตวาดแว๊ดใส่
“ช่างมัน ว่าแต่แกมานานแล้วเหรอจั๊บ”
“พึ่งมาเมื่อกี้ แล้วเค้าว่าไง”
“เดี๋ยวจะถ่ายเลย ไม่รงไม่รอมันแล้ว”
“โดย ไม่มีนางแบบเนี่ยนะ”
“ใช่ อันที่จริงทางเจ้าของเค้าก็ต้องการแค่นายแบบคนเดียวอยู่แล้ว ส่วนนางแบบเอามาแค่ตัวประกอบ” วุ้นตอบก่อนจะมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า “นี่ใครเข้าฝันให้แกแต่งตัวอย่างนี้มาหะไอ้จั๊บ อย่าบอกใครนะว่าเป็นญาติกับเจ๊ เจ๊อายว่ะ”
“ถึงไม่บอกเค้าก็รู้กันหมดแล้ว ก็ใครล่ะโทรมาปลุกตั้งแต่เช้า น้ำก็ยังไม่ได้อาบเลยเนี่ย” ก๋วยจั๊บพูดอย่างอารมณ์ดี
“นี่แกเอ๊ย นายแบบงวดเนี้ย โคตรหล่อเลยจะบอกให้ สุดยอด ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ร่วมงานกับนายแบบคนนี้” วุ้นทำหน้าปลื้มสุดๆ ทำให้ชายหนุ่มมองอย่างงง
“เจ๊นี่เป็นเอามากแฮะ ถ้ามันหล่อขนาดนั้นทำไมเจ๊ไม่เสียบเป็นนางแบบซะเองหล่ะ จะได้แนบชิดสุดๆ”
“ถ้าเป็นไปได้ก็เป็นไปแล้วย่ะ แต่ชั้นเตี้ยเกินไป เอ...จริงๆแล้วแกก็สูงพอๆกับนางแบบคนนั้นเลยนา อยากถ่ายไหมละ เจ๊จัดให้”
วุ้นมองญาติชายด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ ทำให้ชายหนุ่มรีบปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด
“โนเวย์เจ๊ ไม่มีทาง ไม่ต้องมามองเลย”
“โธ่ เจ๊ล้อเล่นหรอก เอาไว้แกเปลี่ยนใจอยากถ่ายแล้วค่อยมาบอกเจ๊ เจ๊จะปั้นให้ดังระเบิดเลย ว่าแต่แกไปหานั่งตรงที่ไม่เกะกะก่อนไป เสร็จงานแล้วค่อยไปหาข้าวกินกัน” พูดจบหญิงสาวก็ผละไป ก๋วยจั๊บจึงลากเก้าอี้ไปนั่งตรงด้านหลังเพื่อไม่ให้เกะกะคนอื่น
สักพักเสียงพูดคุยก็พลันเงียบลงเมื่อชายหนุ่มร่างสูงก้าวออกมาจากห้องแต่งตัวในชุดทักซิโด้สีดำสนิท ขับให้เรือนร่างดูสง่ามากยิ่งขึ้น ผมสีน้ำตาลอ่อนถุกหวีเสยเรียบกริบ ใบหน้าคมสันหน้าผากกว้างรับกับจมูกโด่งคม คิ้วเข้มพาดขวางเหนือดวงตาสีเทา ริมฝีปากหนาได้รูป
ให้ตายเหอะถ้ามันมีประกวดชายงามจักรวาลล่ะก็ เขามั่นใจว่าหมอนี่ต้องได้ชัวร์ๆ ยิ่งดูก็ยิ่งต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้เป็นนายแบบที่มีเสน่ห์มากๆ ก๋วยจั๊บรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีพลังในการดึงดูดสายตาทุกคนให้ไปรวมอยู่ที่นั่น ดวงตาสีเทาคู่นั้น
"ไอ้จั๊บ ตะลึงเชียวนะแก อย่างที่เจ๊บอกไหมล่ะ” วุ้นเอ่ยแซวเมื่อเห็นอาการตะลึงงันของชายหนุ่ม
“เจ๊ จั๊บขอไปอาบน้ำหน่อยนะ เหนียวตัวมากเลยห้องนี้ร้อนชะมัด
“เออ ไปเถอะ ส่วนชุดแกก็ดูๆในห้องแต่งตัวแล้วกัน เจ๊จำได้ว่ามันมีเสื้อผ้าของแกตอนที่มาค้างที่นี่อยู่ รีบอาบล่ะเพื่อเจมินี่เขาจะใช้ห้องน้ำ”
“ใคร เจมินี่”
“ก็สุดหล่อนั่นไงล่ะ แกนี่รีบๆไปอาบเลยไป”
ก๋วยจั๊บจึงเดินลัดเลาะไปทางด้านข้างแล้วเข้าไปในห้องแต่งตัว ซึ่งภายในมีห้องน้ำขนาดกะทัดรัดอยู่ ชายหนุ่มคว้าผ้าเช็ดตัวที่พับไว้ แล้วจึงหลบเข้าหลังฉากกั้น เปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา
ชายหนุ่มเข้าไปในห้องน้ำ ล็อคประตูดีแล้วก็ปลดผ้าเช็ดตัวออก เปิดฝักบัวให้สายน้ำเย็นฉ่ำกระทบกับผิวกาย ความสดชื่นจึงทำให้เผลอฮัมเพลงออกมาเบาๆ ชายหนุ่มเพลิดเพลินกับการอาบน้ำจนเมื่อชำระล้างดีแล้วจึงนุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วเปิดประตูออกมาพอดีกับที่มีแรงดึงจากด้านนอก ก๋วยจั๊บเสียหลักล้มคว่ำไปด้านหน้าปะทะกับอะไรบางอย่างแข็งๆที่ล้มคว่ำไปด้วยกัน
“โอ๊ะ!!” “อ๊ะ” เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นพร้อมกัน เบื้องหน้าของก๊วยจั๊บคือแผ่นอกสีแทนที่มีกล้ามเนื้อดูแข็งแรง ไรขนสีทองขึ้นเป็นแนว ชายหนุ่มตกใจรีบยันกายลุกขึ้นทันที สังหรณ์ของเขาไม่ผิด แง้!! เขาล้มทับพ่อยอดขมองอิ่มของเจ๊วุ้นเข้าเต็มรัก
“ขอ ....ขอโทษครับ คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ก๋วยจั๊บละล่ำละลักรีบฉุดอีกฝ่ายขึ้นมา อย่างน้อยเขาพอจะรู้ว่าการทำให้นายแบบบาดเจ็บนั้นมันแย่ขนาดไหน ยิ่งหมอนี่เป็นซุปเปอร์โมเดล อาจจะฟ้องร้องเขาจนล้มละลายก็ได้
“ไม่เป็นไร” ภาษาไทยแปร่งๆที่ดังลอดมาจากริมฝีปากได้รูปทำให้ก๋วยจั๊บชะงัก
“คุณพูดไทยได้นี่” ชายหนุ่มมองอย่างนึกฉงน แต่ประโยคถัดมาทำให้เขาหน้าร้อนวาบขึ้นมาทันที
“เอ่อ คุณจะยืนเปลือยอีกนานไหม”
ก๋วยจั๊บยืนอึ้งมองหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะก้มมองตัวเอง ผ้าเช็ดตัวมันไปไหนนนนนน
“ว้ากกกกกกกก” 
เจมินี่สะดุ้งด้วยความตกใจกับเสียงแปดหลอดของอีกฝ่ายที่แหกปากออกมาพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันไว้อย่างหมิ่นเหม่ ใบหน้าขาวแดงก่ำ ชายหนุ่มจึงโดดเข้าไปใช้มือใหญ่ปิดปากคนคนตรงหน้า เสียงก๋วยจั๊บอู้อี้ๆ สักพักก็คนวิ่งกรูกันเข้ามาในห้อง นำหน้าโดยวุ้นนั่นเอง
“อะไร เกิดอะไรขึ้น กรี๊ดดดดดด ไอ้บ้าทำอะไรน้องชั้นยะ” หญิงสาวกรี๊ดออกมา เมื่อเห็นสภาพที่นายแบบหนุ่มกำลังใช้มือปิดปากน้องชาย แถมผ้าเช็ดตัวของก๋วยจั๊บที่พันไว้อย่างหมิ่นเหม่ทำให้คิดไปถึงไหนต่อไหน
หญิงสาวเข้าไปคว้าตัวชายหนุ่มมาไว้ข้างหลัง มองอีกฝ่ายอย่างเคืองๆ ผู้จัดการสาวของเจมินี่ปราดเข้าไปพูดกับนายแบบหนุ่มทันที วุ้นจึงหันถามก๋วยจั๊บ
“ไอ้จั๊บ แกโดนทำมิดีมิร้ายหรือเปล่า บอกเจ๊มาเลยไม่ต้องกลัว เดี๋ยวเจ๊ลุยเอง”
“เอ่อ ......เปล่าหรอกเจ๊”
“เฮ้ย เห็นขนาดนี้แล้วยังว่าเปล่าอีก ไหนบอกมาสิว่าเกิดอะไร”
ชายหนุ่มอึกอัก ก่อนที่จะก้มกระซิบที่ข้างหูหญิงสาวเบาๆ “ไม่มีอะไรเจ๊ พอดีชนกัน แล้ว...แล้ว..ผ้าหลุด”
“หา!!” วุ้นอุทานเสียงดัง ก่อนจะลดเสียงลงมาเป็นกระซิบ
“แล้วแกเห็นอะไรของเขาหรือเปล่า”
“เปล่า”
ชายหนุ่มตอบปฏิเสธ วุ้นจึงตีก๋วยจั๊บดังเผียะ
กระซิบต่อ “โธ่ ไอ้จั๊บ แกนี่ไม่ได้ดังใจเจ๊เลยนะ ประเทศไทยขาดดุลก็พราะแกนี่แหละ” ก่อนจะหันไปยิ้มให้อีกฝ่าย “ต้องขอโทษจริงๆนะคะ มิสเตอร์เจมินี่ ที่ดิฉันเข้าใจผิดไป เพื่อเป็นการขอโทษดิฉันและน้องชายขอเลี้ยงอาหารกลางวันพวกคุณนะคะ”
“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกครับ มันเป็นการเข้าใจผิด”
“ไม่ได้หรอกค่ะ ถือเป็นมารยาทเจ้าของบ้าน อย่าปฏิเสธเลยนะคะ”
เมื่อเจมินี่พยักหน้ารับ หญิงสาวจึงหันมาทางชายหนุ่มซึ่งยืนทำหน้าบูดอยู่
“เอาน่า แกก็ถือว่าทำบุญไปแล้วกัน ให้ท็อปโมเดลเห็นร่างเปลือยนี่ไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆนะไอ้จั๊บ”
ก๋วยจั๊บคิดในใจ เจ๊ก็พูดได้นี่ ไม่ได้มาเปลือยเองสักหน่อย ทำไมวันนี้มันซวยอย่างนี้โว๊ยยยยยยยย

คนโป๊ด...เปื่อยแต่บ้าพลัง
